ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {YAOI} เสื้อกาวน์หมอไม่อุ่นเท่าเสื้อช็อปวิศวะ

    ลำดับตอนที่ #11 : Take #11 {re-write} + fanart หมอต่าย & บาส

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 57


    #11


    “ว่าที่เขยแพทย์คนแรกของคณะมาแล้วเว้ย

     

    เสียงโห่ร้องระงมไปทั่วลาน เกียร์เมื่อเจ้าของร่างสูงผิวแทนผู้ที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นว่าที่เขยตามที่ถูกแซวเหยียบย่างเข้าเขตคณะ เรื่องนี้มันแดงแจ๊ดแจ๋ไปทั่วเพราะไอ้พี่รหัสตัวดีและสมาชิกสามแยกปากหมาอีกสองตัวที่ขยันโม้เรื่องของเขาไปทั่ว บาสแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนปากโป้ง เล่าเรื่องทุกเรื่องแต่แค่พวกมันมีพรรคพวกที่เป็นสายให้อย่างดีเยี่ยมอย่างพี่ไบค์เท่านั้นความลับที่เขาตั้งใจจะปกปิดทุกเรื่องมันก็ไม่มีทางเป็นความลับได้อีกต่อไป บาสกระตุกยิ้มตอบกวนๆเมื่อเดินผ่านเพื่อนต่างกลุ่มที่เงยหน้ามามองเขาล้อๆ พร้อมกับตบไหล่เบาๆ จริงๆเขาก็ไม่ใช่ไม่ชอบอะไร โดยส่วนตัวลึกๆแล้วอย่าหาว่าเป็นคนขี้อวดเลย เขาชอบด้วยซ้ำ พี่ต่ายน่ารักน้อยเมื่อไร ถ้าได้เป็นแฟนจะไปหาวันละสามเวลาเลยเอ้า แต่อย่างไรเขาก็ค่อนข้างกังวลถึงชื่อเสียงของอีกฝ่ายพอสมควร หากรู้ว่าทั้งคณะวิศวะรู้จักพี่ต่ายในฐานะว่าที่สะใภ้วิศวะเหมือนที่พวกมัน เรียกเขาว่าว่าที่เขยแพทย์แล้ว ไม่รู้คนน่ารักนั่นจะทำหน้ายังไง ยิ่งเป็นประเภทที่ชอบอยู่เงียบๆ ไม่พอใจแน่ๆที่มีคนเอาเรื่องของตัวเองมาล้อเล่นแบบนี้ ใบหน้าเรียวนั่นคงจะบึ้งตึง ริมฝีปากบางแดงนั่นจะต้องเม้มแน่น ขมวดคิ้วตลอดเวลาแถมความซวยอาจจะตกมาอยู่ที่เขาก็ได้

     

    คิดถึงอีกแล้ว นี่เพิ่งห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเองนะเว้ยไอ้บาส

     

    ขายาวก้าวเข้าที่โต๊ะม้าหินประจำกลุ่มที่ถูกจับจองด้วยเพื่อนอีกสองคนที่มา เช้าผิดปกติ แถมตัวแถมมาอีกสามคน พอห้าคนนั้นเห็นเขาทรุดลงนั่งตรงที่ว่างก็แค่เงยหน้ามามองครู่เดียวก็ก้ม หน้างุดๆ นพกำลังเปิดสมุดโน้ตคู่กับตำราเล่มหนาที่ยืมมาจากห้องสมุด สุมหัวอยู่กับไอ้โต เพื่อนอีกกลุ่มที่สนิทกันดีเนื่องจากไปกินเหล้าด้วยกันบ่อย อันที่จริงกลุ่มเขากับไอ้โตมาสนิทกันได้เพราะมีเรื่องกันมาก่อน พอรับรู้ว่าปัญหามันขี้ปะติ๋วไม่รู้จะชกกันไปทำซากอะไร เลยหันหน้ามาคุยกันจนคล้ายๆจะกลายเป็นกลุ่มเดียวกันไป บาสเหลือบมองหัวกระดาษที่บรรจงเขียนชื่อวิชา RC Design หรือวิชาออกแบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแล้วก็ต้องถอนใจ ดีว่าทำจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเลยไม่ต้องมานั่งปั่นมือหงิกเหมือนพวกมัน นพเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมขมวดคิ้วหนาๆนั่น มือเอื้อมหยิบกาแฟปั่นที่ละลายจนน้ำนองโต๊ะไปแล้วเกินครึ่ง

     

    ทำไมวันนี้มึงมาไว การบ้านอะ เสร็จแล้วเหรอวะ

     

    บาสยักไหล่ ระดับนี้แล้ว มึงสุมหัวลอกกันขนาดนั้นจารย์นิดเล่นทั้งเซคแน่

     

    ไม่มีทาง พวกกูดัดแปลงคำตอบเรียบร้อยแล้ว เมื่อกี๊กูเจอพี่โก้ ตาโหลแบกโปรเจคมาแต่เช้า เรียกให้แม่งช่วยหน่อยก็ไม่ยอม ไร้น้ำใจจริง

     

    ของมึงตอบอะไร เอามาดู เผื่อกูแถๆไถๆเอา

     

    บาสเปิดเป้เน่าๆที่สะพายอยู่ รื้อๆสมุดฉีกขนาด A4 ที่มีตรามหาวิทยาลัยส่งให้พวกมัน ห้าหัวสุมกันอ่านคำตอบของเขาอย่างกับแร้งทึ้งเศษอาหาร เห็นแล้วสมเพชเป็นบ้าเลย

     

    ช่วงนี้มึงทำตัวดีนะ การบ้านเสร็จไว กลับบ้านเร็ว เหล้าไม่แดกไอ้โตเงยหัวมาแซวคนแรก เปิดกระดาษคำตอบของตัวเองเทียบ เมื่อวานกูไปกินเหล้ากับไอ้นพไอ้ปัน กูบอกให้โทรชวนมึงมา พวกมันสองตัวบอกชวนยังไงมึงก็แม่งไม่มา รสหมอเป็นไงมึง เด็ดไหม

     

    มึงตกไปคำนึงไอ้โต รสตีนหมอเว้ยพูดจบก็ฮาครืน บาสเอื้อมตบหัวไอ้ปันที่พูดได้แม้มือจะปั่นเขียนจนแทบจะเป็นเหน็บ บาสเห็นกระดาษคำตอบมันขาวกว่าใครเพื่อน สงสัยไอ้นี่ไม่ได้เริ่มเลยสักตัวก่อนมาลอก ส่วนคนอื่นคงร่างๆมากันบ้างแล้วถึงเสร็จไวกว่า

     

    เฮ้ยๆ อะไรวะ โหดขนาดนั้นหนุ่มผมยาวประบ่าทีรวบผมครึ่งหัว ไว้เคราบางๆที่ปลายคาง ดูท่าทางเซอร์ๆนั่งข้างโตแซวขำๆ

     

    ช่วยไมได้ว่ะไม้ มันอยากเล่นของสูง แหม รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง... ลองมีดหมอน่ะสิ

     

    พี่ ไบค์เล่าให้กูฟังว่ามึงขับรถไปรับไปส่งพี่เค้าทุกวัน จริงเหรอวะ ไอ้คนที่มีใบขับขี่ไว้เข้าผับแบบมึงเนี่ยนะนพถามบ้าง ก็แหม นานๆทีไอ้เพื่อนตัวดีมันจะอยู่ให้ซักฟอก โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เดี๋ยวนี้พอมีเวลามันก็เผ่นไปตึกแพทย์ เย็นก็ไปรอส่งพี่หมอเข้าเวร เรียกได้ว่าทำดีได้โล่ในช่วงโปรโมชั่นแจกขนมจีบ

     

    รถพี่พีคด้วย มินิคูเปอร์คันทรีแมน แมนเชี่ยๆ

     

    พี่พีคเมียพี่ไบค์อ่ะนะ

     

    เออ มึงอย่าพูดคำว่าเมียให้พี่พีคแกได้ยินนะเว้ยไม่งั้นมึงอาจถึงฆาตได้บาสพูดปนหัวเราะ คิดถึงใบหน้าคมที่ติดจะบึ้งตึงของแฟนพี่ชายแล้วก็ต้องแอบขำ รายนั้นเคยยิ้มที่ไหน ยิ้มทีเสียวสันหลังวูบ

     

    มึงสองคนพี่น้องกะตก บ่อเงินบ่อทองเหรอวะ พี่ไบค์แม่งมีหน้าตาเป็นอาวุธ ไม่รวยมากแต่คารมกินขาด พอเปิดเผยว่าคบกับเพื่อนสนิทที่เรียนศิลปกรรมทีสาวแทบหัวใจสลายทั้งม. พอรู้ว่าเป็นพี่พีคแม่งมีแต่คนถอย จะหญิงจะชายไม่กล้าแหยมเฮียแกหรอก แต่พี่มึงอะมีดี มึงมีอะไรวะบาส พี่หมอแม่งรวยพอๆกับพี่พีคเลยมั้ง

     

    เผลอๆจะรวยกว่า...นพพูดแทรกขึ้นมา

     

    นี่ มึงเห็นพี่กูกับกูเป็นคนยังไง ไอ้เพื่อนเชี่ย กูจะรู้ได้ไงว่าใครรวยไม่รวย ไม่ได้เจอกันหน้าโชว์รูมรถนี่ไอ้เพื่อนเลว เห็นก็ชอบ ก็จีบ แค่นั้นเว้ย

     

    แต่สิ่งที่มึงจีบน่ะมันเครื่องบินเว้ยไอ้หมาโตที่ตัวโตสมชื่อตบไหล่บาสเบาๆ กูรอฟังข่าวดีแล้วกัน

     

    เออ ใจ แล้วเมียมึงอะเป็นไง น้องเปิ้ลน่ารักคนนั้นบาสเอาศอกกระแทกเพื่อนต่างกลุ่มกลับ โตที่กำลังแย่งกาแฟของนพมาดูดถึงขั้นวางแก้วลง

     

    เลิกแล้ว

     

    เฮ้ย ทำไมวะ กูขอโทษที่พูดถึงแล้วกัน

     

    เออ ช่างแม่งเหอะ กูไม่ได้ติดใจอะไร ถามได้

     

    น้องเปิ้ลน่ารักของมันเป็นเด็กเสี่ยเว้ย เห็นหงิมๆที่ไหนได้ มาหาแดกกับเพื่อนกูแล้วก็ไปไม้พูดขำๆ บาสเห็นโตเองก็หัวเราะขำไปกับเพี่อนด้วยจึงพอเข้าใจว่าโตมันไม่ได้คิดมาก เรื่องนี้จริงๆ มือใหญ่ตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนบ้าง

     

    คนดีๆมีอีกเยอะมึง

     

    คนดีๆมีเยอะ แต่คนดีๆที่ยอมอยู่กับคนเลวๆแถมจนอย่างกูเนี่ยมีน้อยไงเชี่ยบาสเพื่อนตัวใหญ่กว่าพูดติดตลก ละจากแก้วกาแฟปั่นของนพมาได้ก็มาคว้าแก้วกาแฟยี่ห้อดังสีเขียวที่มีกาแฟจน เกือบเต็มมาดูดปรื้ดเดียวหมด เจ้าของแก้วเลยเงยหน้ามามองนิ่งๆพร้อมโบกหนังสือเล่มหนาเข้ากะบาลให้อย่างแรง

     

    ตัวเล็กแรงเยอะจังวะ

     

    มึงเดินกลับไปซื้อมาให้กูใหม่ เลยนะไอ้โต กูดูดไปสองอึก มึงดูดหมดแก้ว เหี้ยจริงโวยวายเสียงดังลั่น แต่มันเป็นเรื่องปกติของลานเกียร์อยู่แล้ว คนรอบข้างเลยไม่ได้สนใจอะไรกันมาก

     

    โตหัวเราะในลำคอ กาแฟกระป๋องร้านตรงป้อมได้ไหมละมึงเขารู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนตัวดีไม่กินก็ยังชอบแกล้งมันเล่น

     

    มึงไม่ต้องลอกงั้นไปกับกูหน่อยบาสโตสะกิดเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ สองหนุ่มตัวโตลุกขึ้นเดินออกไปจากลานเกียร์

     

    ตอนแรกบาสไม่รู้หรอกว่าโตจะพาเขาไปไหน แต่พอมันเดินออกไปนอกรั้วมหาวิทยาลัยเพื่อข้ามไปตึกใหม่ที่มีร้านกาแฟแบรนด์นอกแล้วก็นึกอ๋ออยู่ในใจ

     

    ตามใจระวังแม่งเคยตัวบาสพูดขึ้นดักทาง ได้ยินเสียงหัวเราะหึหึมาจากเพื่อนตัวใหญ่ อันที่จริงโตไม่ได้สูงกว่าบาสมากเท่าไรนัก แต่เพราะทั้งคู่ก็สูงเกิน 180 ซม.ทั้งคู่อยู่แล้ว เมื่อมาเดินด้วยกันจึงเป็นจุดเด่นทั้งสองคน แถมเสื้อช๊อปที่สวมใส่ยิ่งเพิ่มความดิบเข้าไปอีก

     

    ไอ้นพเล่าให้กูฟังว่าแรกๆมึงก็พยายามจะเอาใจพี่หมอด้วยไอ้นี่แต่เค้าโยนของมึงทิ้งทุกรอบ

     

    เออ ไม่เคยแตะ น้ำตากูแทบร่วง ชาเขียวห่าอะไรแดกข้าวได้ทั้งวันบาสพูดกลั้วหัวเราะ คิดถึงช่วงเวลานั้นแล้วยิ้มบางๆ

     

    ดู มึงก็ยังมีความสุขนะโตเห็นเพื่อนต่างกลุ่มที่แม้ไม่ได้ตัวติดกันเหมือนกับเพื่อนอีกสองคนแต่เขา กับมันก็ค่อนข้างจะสนิทกันพอสมควรเลยทีเดียว

     

    แล้วมึงล่ะ มีความสุขมั้ยบาสมองเพื่อนตัวโตที่หยิบแบงค์สีแดงสองใบออกมาจากปึกแบงค์ที่เต็มไปด้วยสี ม่วงบ้าง แดงบ้าง โตไม่เคยใช้กระเป๋าตังค์เลยตั้งแต่ที่เขารู้จักมันมา มันบอกมีก็หายมันเลยพกแต่เงินสดกับบัตรเอทีเอ็มและบัตรนักศึกษาในกระเป๋า เสื้อช๊อปตลอด คนท่าทางเซอร์ๆที่ท่าทางไม่ได้เข้าร้านกาแฟแบรนด์นอกบ่อยแต่เขากลับเห็นมัน สั่งกาแฟอย่างเคยชิน

     

    โตยักไหล่ ยื่นเงินส่งให้พนักงานแคชเชียร์ที่ทวนรายการที่เขาสั่งพร้อมแนะนำโปรโมชั่น ที่ตัวเองได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ รับเงินทอนแล้วก้าวไปรอกาแฟที่ปลายบาร์ ยืนล้วงกระเป๋าตากแอร์เย็นๆ มองไปรอบๆร้านๆ อันที่จริงโตเองก็ไม่ได้หน้าตาแย่ จัดได้ว่าดีคนหนึ่ง ตอนปีหนึ่งมันยังวิ่งหนีรุ่นพี่ที่จะจับประกวดเดือนกับเขาด้วยซ้ำ ก็เหม็นขี้หน้ากันตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา แต่พอเคลียร์กันแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องแม่งไร้สาระ เป็นเพื่อนกันมันส์กว่าเยอะ บาสเห็นสายตาบรรดานักศึกษาผู้หญิงไม่รู้รุ่นพี่หรือรุ่นน้องที่เดินเข้าร้าน กาแฟมองมันเหลียวหลัง หน้ามันคม ดิบๆ ตามแบบฉบับคนไทยแท้ภาคใต้ ตาหวานเสียจนหลายคนอิจฉา

     

    กูไม่เจอพวกมึงนานกูพลาดอะไรไปหรือเปล่า วะบาสถามขึ้นเบาๆ เขามองกาแฟแบบเดิมกับที่โตมันดูดจนหมดเมื่อครู่แถมเพิ่มขนาดเป็นไซส์ใหญ่สุด เสียด้วย

     

    จะพลาดอะไร กูก็เหมือนเดิม ส่วนเรื่องของมึงอะไม่มีใครพลาด พี่โก้กับพี่ไบค์แม่งเหมือนเป็นโทรโข่งของมหาลัยแบบนั้น

     

    ไม่ ใช่แบบนั้น คือมึงเถอะเรื่องน้องเปิ้ลนี่เป็นไงมาไงวะบาสถอนใจ ไม่รู้จะต้อนมันไปทางไหน อันที่จริงเขาก็ไม่ถนัดไล่ต้อนคนอื่นอยู่แล้ว อยากเล่าก็เล่า ไม่อยากก็ไม่รู้จะง้างปากยังไงเหมือนกัน เลยเปลี่ยนเรื่องไปถามเรื่องอื่นแทน

     

    ไม้มันว่าไงก็ตามนั้น

     

    มึงไม่เสียใจ เห็นตัวติดกับน้องเค้ายังกับอะไร

     

    ก็เด็กมันน่ารัก ช่างเถอะมึง

     

    บาสเหล่มองเพื่อนที่เอากระดาษทิชชู่สีน้ำตาลห่อแก้วกาแฟอย่างดี ช่วงขายาวก้าวไม่กี่ก้าวก็เดินไปถึงบานประตูกระจกแล้ว เขาเป็นว่ามันมีมือเดียวส่วนตัวเขาว่าง เลยเปิดประตูให้มันเดินออกไปก่อน

     

    มึงดูชิวไปว่ะกูว่าบาสส่ายหน้า รู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง

     

    กูว่าแทนที่มึงจะมาสงสัยกูที่ตอนนี้ก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร มึงสนใจนี่ดีกว่าโตชี้ไปข้างตัวทิศเก้านาฬิกา บาสที่ยืนอยู่ฝั่งขวาเลยต้องชะโงกตัวไปด้านหน้าเพื่อมองสิ่งที่เพื่อนชี้ให้ดู คนตัวใหญ่สองคนมาเดินข้างๆกัน จะทำอะไรก็ดูขัดกันไปหมด

     

    อยู่หลังกูล่ะมึงโตหัวเราะขำ เพราะบาสชะโงกมาด้านหน้าในขณะเดียวกับที่บุคคลที่เขาชึ้ชวนให้มันสังเกตก้าว เท้าไปด้านหลังเขาพอดีราวกับเล่นซ่อนแอบ

     

    มาเล่นหนังอินเดียอะไร ผ่านตัวกูวะเนี่ยพูดเหมือนเคืองแต่เจ้าตัวก็แอบตลกอยู่เล็กๆ บาสใช้ความเร็วหันหลังกลับพอดีกับที่อีกคนกำลังเล็ดรอดเข้าประตูร้านไป

     

    พี่ต่าย”  

     

    ว่าที่นายแพทย์จิระภัทรหรือพี่หมอต่ายในชุดนักศึกษาชายถูกระเบียบเรียบร้อยไม่ เคยคิดว่าตัวเองจะถูกลากถูลู่ถูกังมาจนถึงลานเกียร์วิศวะอันน่าอัปยศแห่งนี้ อีกครั้ง แถมคราวนี้ดูจะเด่นกว่าครั้งก่อนเสียอีก ต่ายไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนตัวเล็ก แต่พอได้อยู่ท่ามกลามรุ่นน้องคณะวิศวะสองคนนี้กลับรู้สึกว่าตัวเองผอมบางนัก แม้เขาจะสูงแต่กับโปร่งบาง ในขณะที่ทั้งบาสและโตตัวสูงใหญ่มีกล้ามเล็กน้อยแบบคนที่ออกกำลังกายเป็น ประจำ นายบาสว่าสูงใหญ่แล้ว นายโตนี่ตัวโตสมชื่อยิ่งกว่า ต้องบริโภคสารอาหารมากเกินความต้องการของคนปกติแน่ๆ แล้วสองคนนี้ก็เหมือนจงใจเดินประกบข้างคุณหมอทั้งสองข้างเสียด้วย

     

    ทำอย่างกับเขาเป็นนักโทษที่ถูกคุมตัวอย่างไรอย่างนั้นนั่นแหละ!

     

    บาสเห็นคนตัวเล็กกว่าทำปากขมุบขมิบแล้วนึกขำ ทำไมพี่ต่ายทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมด มือใหญ่ยกขึ้นแตะท่อนแขนขาวเบาๆให้เดินเลี้ยวไปตามทางเบื้องหน้า โตลอบยิ้ม อย่าว่างั้นงี้เลย ก็เห็นยอมตามกันดีออก ขายาวก้าวนำไปด้านหน้าก่อนเมื่อคิดว่าตัวเองชักจะเป็นก้างขวางคอมากเกินไป เสียแล้ว

     

    "เอาแล้วกลับเลยนะ"

     

    "ห๊ะ อะไรนะ เอากันแล้วกลับเลย!" หนุ่มรุ่นน้องหันมากระซิบกระซาบเสียงดังทำเอาคนมือไวสะบัดมือตบท่อนแขนแข็งๆดังป้าบ บาสลูบแขนตัวเองป้อยๆ "โอย เจ็บ นี่ถ้าแขนหักอีกรอบทำไงเนี่ยพี่"

     

    "เอาพาวเวอร์แบงค์ แล้วจะกลับเลย อย่าเล่นลิ้น" ดวงตากลมที่ถูดบดบังด้วยแว่นกรอบดำถลึงมองด้วยความโมโห แต่สำหรับคนที่ความรักบังตาอย่างนายบุรินทร์แล้ว หมอต่ายจะทำอะไรก็น่ารักไปหมดนั่นแหละ

     

    "ยังไม่เคยเล่นเลยนะ ลิ้นอ่ะ..." บาสบ่นอุบอิบ แต่พอเห็นสายตาถมึงทึงนั่นแล้วก็ต้องหุบปากสนิท

     

    ต่ายรู้สึกว่าตัวเองพลาดมาก พลาดตั้งแต่เมื่อคืนที่ลืมชาร์ตแบตออกมาแล้ว เมื่อเช้าก็มัวแต่วุ่นวายอยู่กับใครอีกคนที่โผล่มาทำชีวิตเขารวนแต่เช้ามืด เขาลืมชาร์ตแบตโทรศัพท์จนมาเห็นเมื่อกี๊ว่าเหลือไม่ถึง 20% เลยว่าจะเดินไปกินกาแฟรีเฟรชสมองที่อ่อนล้าให้ตื่นขึ้นมาหน่อยและใช้สถานที่ ชาร์ตแบตให้ขึ้นมาสักนิดก็ยังดี อย่างน้อยน่าจะอยู่ได้เกินครึ่งวัน ตอนเย็นยังไงก็ต้องขึ้นวอร์ด ไม่ค่อยได้ใช้งานอยู่แล้ว ไม่รู้อะไรบันดาลให้บังเอิญเจอคนที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อเช้าอีก

     

    หมอนี่พระเจ้าเข้าข้างจริงๆ ให้ตายเถอะ

     

    ต่าย ฮึดฮัด จริงๆเขาน่าจะเชื่อที่ตัวเองคิดแต่แรก ไม่คล้อยตามไอ้เด็กวิศวะจนเดินมาถึงถิ่นนี่ หนุ่มรุ่นน้องที่ตามเทียวไล้เทียวขื่อเสนอให้เขาเดินกลับมาเอาพาวเวอร์แบงค์ ของตัวเองไปใช้ก่อน เวลาแค่แป๊บเดียวไม่มีทางชาร์ตแบตได้เต็มแน่นอน จะถึงครึ่งไหมก็ไม่รู้ อีกอย่างคือ ...

     

    "ถ้าผมติดต่อพี่ต่ายไม่ได้ แล้วพี่เลิกเวรผมจะทำไง จะรอตรงไหน พี่ต่ายเลิกกี่โมง จะกลับกี่โมง จะให้ผมไปรับตอนไหน แล้ว..."

     

    "พอ!"

     

    มือเล็กดันแว่นอย่างอารมณ์เสีย ให้ตายสิ หลงกลทุกที ผลคือเดินตามมาถึงคณะวิศวกรรมนี่อีกแล้ว ตัดบทไปเพราะความรำคาญใจทีเดียวเลยจริงๆ ร่างโปร่งมองไปรอบๆลานเกียร์ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ คิดในใจว่าทำไมถึงเรียกลานเกียร์แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จะให้ถามเจ้าพวกนี้สู้กลับไปเปิด Wikipedia อ่านเอาเองดีกว่า ต่ายรู้สึกว่าตัวเองเป็นจุดสนใจ แต่เพราะเป็นคนที่ไม่ได้สนใจสายตาคนรอบข้างมากเท่าไรนักเขาจึงไม่รู้สึกขัด เขินอะไร อันที่จริงเขากลับคิดว่าหลายคนหันมามองเด็กวิศวะสองคนที่เดินมาพร้อมเขา มากกว่า

     

    ตาเรียวเหลือบมองคนที่เดินอยู่ด้านข้าง หลังจากโดนทำร้ายร่างกายไปก็เงียบสนิท เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเขาเหลือบมอง ใบหน้าคมนั้นจึงหันกลับมามองพร้อมกับรอยยิ้มกว้างเช่นทุกครั้ง ต่ายสะดุ้งวาบรู้สึกเหมือนโดนจับได้เมื่อทำความผิด ขาเรียวผงะก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ พันแข้งพันขาตัวเองจนเซไปอีกด้าน

     

    เฮ้ย พี่ต่ายเสียงทุ้มตะโกนเรียกลั่น มือใหญ่คว้าเข้าที่แขนเรียวที่เซไปด้านข้างอย่างไม่ได้ตั้งตัว มืออีกข้างโอบไหล่บางด้วยความตกใจ พออีกคนทรงตัวได้ตามปกติจึงค่อยเย็นลงบ้าง

     

    พี่ต่ายเป็นอะไร ทำไมเซ เป็นลมเหรอ นอนไม่พอ? หรือสะดุดอะไรตรงไหนบาสถามเสียงลั่น มือจับไหล่เล็กกว่าไว้แน่น สำรวจร่างกายอีกคนอย่างละลาบละล้วง ต่ายไม่ทันได้ห้ามอะไรเพราะตัวเองก็ยังตกใจที่วูบไปเมื่อครู่เช่นกัน ได้แต่ยืนนิ่งให้อีกคนจับแตะไปทั่ว

     

    มะ ไม่มีอะไร สะดุดนิดหน่อยต่ายพูดเมื่อตั้งสติได้ ใจหายวาบนึกว่าจะล้มลงไปเสียแล้ว ใจเต้นตึกตักด้วยความตกใจ

    สาบานว่าตกใจ ไม่ใช่เพราะเจ้าเด็กนี่กระชากเข้าไปกอดโดยไม่ทันตั้งตัวเสียหน่อย...

     

    บาสถอนใจ วูบนึงเขาคิดว่าคนข้างๆนี่จะล้มลงไปต่อหน้าเสียแล้ว เมื่อโล่งใจแล้วก็ค่อยคลายแขนออก

     

    ฮ่าๆๆๆ

     

    เสียงหัวเราะดังลั่นมาจากทั่วทั้งลานเกียร์เรียกสติของหมอต่ายให้กลับมาเข้าที่ ร่างโปร่งสะดุ้งโหยง ผลักคนตัวโตกว่าให้ถอยห่าง เสียงหัวเราะที่ดังที่สุดมาจากเด็กที่ชื่อว่าโตที่เดินนำหน้าเขาไปไม่กี่ ก้าว ร่างใหญ่หัวเราะเสียจนกาแฟในแก้วเกือบตกลงจากมือ

     

    หัวเราะอะไร!ต่ายเอ็ดเสียงเบา หันไปมองรอบทิศ แม้ผู้คนจะเบาบางกว่าครั้งก่อนๆที่มาเพราะนี่ยังคงเป็นช่วงเช้ากว่าเวลาเข้า เรียนปกติแต่ใบหน้าเนียนก็ขึ้นสีแดงพาดไปทั้งแก้มใสของว่าที่คุณหมอหน้าเด็ก

     

    พี่รู้มั้ยครับโตพูดสลับหัวเราะขำเสียงลั่น จนต่ายชักรำคาญ

     

    รู้อะไร สะดุดนี่มันน่าขำนักหรือไง ชีวิตนี้ไม่เคยสะดุดบ้างเหรอ อย่าให้รู้บ้างแล้วกัน

     

    ไม่ใช่พี่ ไม่ใช่ ฮ่าๆๆๆโตพูดปนหัวเราะ เผลอมองหน้ารุ่นพี่ต่างคณะด้วยความเอ็นดูขึ้นมา ชักเข้าใจแล้วว่าทำไมบาสมันถึงชอบนัก พี่สะดุดไม่ผิดครับ ประเด็นคือพี่มาสะดุดที่นี่นั่นแหละ

     

    บาสร่วมหัวเราะขำด้วย เมื่อถึงบางอ้อ ชายหนุ่มกลั้นยิ้มเต็มแก้ม เมื่อเห็นคนน่ารักหันมามองเขาด้วยความเจ็บใจปนอายแต่สายตากลับเอาเรื่องยิ่ง รู้สึกว่ามันน่ารักเสียจนอยากจับมาฟัดให้ชื่นใจ พอไล่เบี้ยกับไอ้โตไม่ได้เลยหันกลับมาไล่เอาคำตอบกับคนที่ยอมอยู่แล้วทั้ง ขึ้นทั้งล่องแบบเขา

     

    พี่ต่ายรู้มั้ย? พี่ลานเกียร์นี่มันมีตำนานนะพอตั้งสติได้บาสถึงค่อยปรับลมหายใจ พูดเป็นเสียงปกติให้อีกคนที่ทำหน้าบึ้งตึง

     

    ลานเกียร์ที่นี่มีตำนานว่าถ้าคนต่างคณะหรือคนนอกมาสะดุดที่นี่... คนนั้นจะได้แฟนเป็นเด็กวิศวะครับ

     

    พูดจบเสียงโห่ร้องที่ดังมาทุกทิศทุกทางทำเอาต่ายหน้าขึ้นสี ไม่รู้จะซีดหรือจะแดงดี เขาไม่รู้ว้าตอนนี้ตัวเองโกรธ โมโห ไม่พอใจหรือเขินกันแน่ แต่ที่รู้ๆเลยคือ ความผิดนี้มีต้นเหตุมาจากไอ้เด็กบ้านี่คนเดียว !!!

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    Fanart :: หมอต่าย & บาส
    credit to Narutan ♥



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×