คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนจบ
“ อื้อ...จ๊วบ...” เสียงครางหวานดังขึ้นตลอดทาง.. มิยูใช้ความพยายามไม่น้อยในการขับรถมือเดียวเมื่อฮารุกะไม่ยอมปล่อยให้มือข้างที่เข้าไปสำรวจร่างกายเล็กได้จับพวงมาลัยเลย
ลิ้นเล็กเล็มเลียนิ้วทั้งสองอย่างต้องการ.. เหมือนกำลังทานไอศกรีมรสโปรดที่ยังหลงเหลือรสชาติของเธอเองอย่างเอร็ดอร่อย
เป็นมิยูเสียอีกที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหว... รีบขับรถอยากถึงที่หมายโดยไว
พลั่ก !!
อื้อ... มิยู...
เสียงหวานครางหวานหู.. แผ่นหลังที่แนบไปกับประตูร้อนวูบวาบ มือหนาที่กำลังก้มลงถอดรองเท้าให้ร่างบางก็ดูจะชักช้าไม่ทันใจ
คุณหนูฮารุกะเลยทรุดตัวลงกับพื้น.. ก่อนจะเงยหน้าขึ้นขโมยจูบจากอีกคนอย่างกระหาย
“ ใจเย็นนะคนดี.. ใจเย็นนะ” ริมฝีปากหนาที่ไม่ได้ห่างหายจากกลีบปากบางไปไกล เอ่ยกระซิบเสียงแหบพร่า แม้ความต้องการจะพุ่งขึ้นสูงไม่ต่างกัน.. แต่เค้าก็ยังมีสติอยู่ มือหนาก็ลูบไล้ไปทั่วตัวใช้เท้าดันประตูให้ปิดลงแล้วล็อกโดยอัตโนมัติ
แก็ก !!
“ มิยู.. อึก...” ฮารุกะผวากอดตามมิยูไปติดๆเมื่อร่างสูงถอนจูบออก กระเป๋าสะพาย กุญแจรถทุกอย่างถูกกองไว้กับพื้นไร้คนสนใจ
“ มิยูจะพาไปอาบน้ำนะคะ” มิยูพยายามห้ามตัวเอง มือหนาช้อนตัวร่างบางขึ้นแนบอก ก่อนจะยกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำ.. ทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันใต้ฝักบัวที่มิยูเปิดให้เย็นจัด คนตัวสูงไม่แม้แต่จะถอดเสื้อผ้าให้อีกคนเพื่อคลายความรุ่มร้อน
“ อื้อ.. เย็น.. มันเย็นมิยู..” ฮารุกะผวาเข้ากอดมิยูแน่น.. เมื่อน้ำที่ตกกระทบเย็นเสียจนเรียกได้ว่าหนาว มือเล็กเกาะเกี่ยวร่างของอีกคนแน่น เบียดตัวเข้าไปใกล้ก่อนมือน้อยนั่นจะพยายามชอนไชเข้าไปสำรวจผิวเนื้อของอีกคน
“ อดทนนะคนดี.. อดทนนะคะ” มิยูกระซิบบอก.. แต่ดูเหมือนฮารุกะจะทนไม่ไหว เนื้อตัวขาวเริ่มซีดลง สั่นระริกเพราะความหนาว ทำให้มิยูจำต้องพาร่างบางลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่างที่เค้าเปิดรองไว้ตั้งแต่เข้ามา
“ อื้อ.. มิยู.. ฮารุกะต้องการ ต้องการมิยูนะ” เสียงหวานดังขึ้นแหบพร่า ร่างที่นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำบนตัวของมิยูพลิกกลับลงมาทาบทับก่อนจะเอื้อมมือมากอดคอร่างสูงแน่น แนบลำตัวราบไปกับเนื้อตัวของคนใต้ร่าง.. นิ้วเรียวยาวเกลี่ยแก้มนิ่ม
เรียวปากเล็กประทับบดคลึงบ่งบอกความร้อนรุ่มในกายเป็นอย่างดี
มือเล็กจับมือหนาเลื่อนมาสัมผัสกับเนื้อตัวจนมิยูเองก็ไม่อาจกลั้นความต้องการได้อีกต่อไป..
จากแรกๆที่สัมผัสตามการชักนำของฮารุกะ ก็กลายเป็นมิยูเริ่มเป็นฝ่ายคุมเกมครั้งนี้เสียเอง...
มือร้อนๆสัมผัสวกวนไปทั่ว.. ให้ฮารุกะสั่นระริกด้วยความต้องการทั้งจากฤทธิ์ยาและการสัมผัส
ลิ้นร้อนๆที่เกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันอย่างไม่มีใครยอมใครทำให้ฮารุกะที่เป็นฝ่ายยอมแพ้ต้องระทวยคาอ้อมแขนคนตัวสูง.. เสื้อผ้าที่ปกปิดอยู่ได้รับการดูแลอย่างดีจากมือหนา..
มิยูลากนิ้วสัมผัสตามเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าของอีกคน.. เร่งเร้าตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของทั้งคู่ ปลดปล่อยความต้องการที่ล้นทะลักออกมาจนฮารุกะเหนื่อยอ่อนแล้วสลบไป
“ คนดี... อย่าทำอย่างนี้อีกนะ..” มิยูวางฮารุกะลงกับเตียงหลังจากแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วทั้งฮารุกะและตัวเอง ร่างบางที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียงทำให้มิยูหวั่นในใจลึกๆไม่ได้ว่า หากเค้าไม่อยู่กับฮารุกะหรือมาไม่ทันล่ะจะเป็นอย่างไร
ความจริงเค้าเองก็ผิดที่พูดแรงเกินไป.. แต่จะทำอย่างไรได้เล่า
ความหึงหวงของเค้ากลายเป็นเรื่องผิดหรืออย่างไร
“ อื้อ.. มิยุ... อะ..” เหมือนฤทธิ์ยาจะยังไม่หมดไป แม้จะอยู่ในห้วงของการหลับใหลความต้องการของใครอีกคนก็ไม่อาจหยุดได้..
มือเล็กไขว่คว้ากลางอากาศก่อนเปลือกตาบางจะปรือขึ้นมองหาใครไม่เจอ
เนื้อตัวที่ร้อนรุ่ม.. ไม่เท่าขอบตาร้อนที่กำลังเอ่อคลอด้วยความน้อยใจที่ตีตื้นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอใครอีกคนที่จะต้องเข้ามานอนเคลียคลอข้างกายไม่เว้นวัน
แต่ตอนนี้.. กลับไม่มีแม้แต่เงา
“ ชั้นไม่รู้ว่ามันคือใคร.. แต่รู้แค่ว่าพรุ่งนี้ชั้นจะไม่ต้องเห็นมันอีกก็พอ เข้าใจใช่มั้ย” เสียงทุ้มบอกเสียงเครียดไปตามสาย
เค้าไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่เอาน้ำแก้วนั้นให้ฮารุกะดื่มคือใคร.. แต่ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องฮารุกะทั้งนั้น
“ ครับนายน้อย..” เสียงตอบรับจากปลายสายทำให้มิยูยกยิ้มอย่างพอใจ รอยยิ้มเจ้าเลห์ที่ฮารุกะไม่เคยมีโอกาสได้เห็น และเค้าเองก็ไม่คิดว่าจะให้เห็นด้วยซ้ำ
“ แล้วก็ไปจัดการไอ้คนที่มันปากดีกับชั้นวันนี้ด้วย.. ไม่สนใจว่ามันจะใหญ่มาจากไหน แต่ไปบอกให้มันรู้ซะว่าผู้หญิงที่มันคิดจะแตะวันนี้น่ะ ของใคร... เข้าใจที่ชั้นสั่งใช่มั้ย” มิยูบอกความต้องการอย่างไม่รอคำปฏิเสธ
ฮึก... ฮือ...
เสียงสะอื้นที่ดังจากด้านในทำให้มิยูต้องรีบกดวางสาย.. ถ้าหากเดาไม่ผิดแล้ว ก็ไม่ยากเลยที่จะบอกว่าเสียงร้องที่ดังขึ้นนั้นเป็นของใคร
“ ฮารุกะ !!” เสียงเข้มดังขึ้นจากอีกฝั่งของเตียง ทำให้ฮารุกะเงยหน้าขึ้นรีบปาดน้ำตาก่อนจะโผเข้าไปกอดมิยูแน่นอย่างกลัวว่าจะหายไปไหน
“ ขอโทษ... ฮารุกะขอโทษ พี่มิยูอย่าหายไปนะ..ฮึก..” เสียงหวานระร่ำระลักบอก ไม่เปิดโอกาสให้มิยูได้พูด
“ ฮาร..”
“ พี่จะมองว่าฮารุกะง่ายก็ได้.. ฮารุกะไม่โกรธแล้ว ฮึก..ฮึก แต่พี่มิยูอย่าหายไปนะ.. อย่าเพิ่งเบื่อฮารุกะนะ.. ฮารุกะขอร้อง.ฮึก..” เสียงสะอื้นที่ดังเจือเข้ามาทำให้มิยูอดไม่ได้ที่จะรวบร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด
“ ฮารุกะ.. ฮารุกะ”
“ ฮือ.. ฮารุกะขอโทษ ฮารุกะจะไม่ดื้อ จะไม่เถียง.. ฮึก.. แต่พี่มิยูอย่าไปไหนนะ...ฮือ...”
“ พี่ไม่ได้ไปไหนคนดี.. หยุดร้องเถอะนะ” มิยูก้มกระซิบ ลูบหัวแผ่วเบาอย่างปลอบโยน..
“ ฮึก...จริงนะ..” ดวงตาหวานที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตาเงยขึ้นมองใบหน้าคม.. วอนขอคำรับรองความจริงใจ
“ อื้อ.. พี่แค่ออกไปคุยโทรศัพท์หน่อยเดียวเอง เชื่อพี่นะ” มิยูยืนยัน..พร้อมชูโทรศัพท์ขึ้นให้ดู
“ ฮึก...!!”
“ แล้วพี่ก็บอกแล้วไงคะว่าฮารุกะไม่ง่ายนะ.. พี่มันปากไม่ดีเองที่ไปพูดอะไรแบบนั้น... ฮารุกะอย่าเก็บคำพูดพี่มาคิดมากเลยนะคะ” มิยูอธิบายอย่างใจเย็น
“ มันก็จริงนี่คะ..” ฮารุกะหมายถึงอย่างที่พูดทุกอย่าง เพราะหากมิยูจะหาว่าเธอง่ายก็คงไม่ผิดนักในเมื่อทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นเพราะเธอเป็นฝ่ายเข้าหาเค้าก่อนทั้งนั้น
แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา.. คำๆนั้นมันก็ไม่เคยหลุดออกมาจากปากพี่เค้าเลยด้วยซ้ำ
คำที่บอกว่า... รัก
“ อย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ.. ว่าแต่พี่คุยกับใครคะ ผู้หญิงอื่นหรอ..” เสียงใสแกล้งทำเป็นดุเกลื่อนความน้อยใจที่พุ่งขึ้นเต็มอก นัยน์ตาเศร้าถูกกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มกว้าง..
“ เอ.. นั่นสิ คุยกับใครน๊า..” มิยูแกล้งยียวนไม่ตอบคำถามให้ใบหน้าหวานยู่ใส่น้อยๆไม่พอใจ โดยไม่ได้รับรู้เลยว่าความจริงข้างในแล้วฮารุกะรู้สึกอย่างไร
“ ใครหรอคะ.. ผู้หญิงหรอ
... คนนั้นเค้าน่ารักกว่าชั้นหรอ” ฮารุกะแกล้งถามอย่างเอาเรื่อง
“ เอ.. นั่นสิ..น่ารักกว่ามั้ยน๊า..” มิยูแกล้งเกาแก้มอย่างครุ่นคิด
“ แล้วเค้า.. สวยกว่าชั้นรึเปล่า” ฮารุกะถามอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ
“ สวยกว่ารึเปล่านะ.. อืม..” มิยูยังคงแกล้งต่อไป
“ แล้วเค้า.. เก่งเท่าชั้นมั้ยคะ..” ฮารุกะเอื้อมแขนคล้องคอร่างสูงให้โน้มลงมา ก่อนจะกดริมฝีปากบางแนบชิดแล้วแทรกลิ้นร้อนเข้าหาอย่างยั่วยวนน
“ อืม.. ก็ไม่รู้สิคะ... ต้องพิสูจน์ก่อน” มิยูยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเผยยิ้มกว้างเต็มใบหน้าเมื่อร่างเล็กเชื้อเชิญให้เค้ามอบสัมผัสอย่างเต็มใจ
... ให้ตายเหอะ ฮารุกะทำให้เค้าหลงมากขึ้นทุกวันๆ...
“ ไม่มีทางหรอก.. ถะ.. ถึงชั้นจะไม่ค่อยเก่ง แต่ชั้นก็มั่นใจว่าชั้นทำให้พี่มีความสุขนะ..” ฮารุกะตอบอย่างเอาแต่ใจตัวเอง ก่อนกลีบปากบางจะปิดกลั้นไม่ให้เสียงของอีกฝ่ายได้เล็ดลอดออกมา
มือเล็กเลื่อนสาบเสื้อหลุดออกจากบ่าเล็กอีกครั้งด้วยตัวเอง... ก่อนกายเกือบเปลือยเปล่าจะใจกล้าขึ้นไปนั่งเผชิญหน้าอีกฝ่ายที่ดันตัวขึ้นพิงหัวเตียง
“ อื้ม..” มิยูถอนริมฝีปากออก.. มือเล็กดึงมือหนามาลูบไล้เรือนร่างจนมิยูแทบลืมหายใจ..
... อะ...อาห์...
เสียงครางดังขึ้นอีกครั้งอย่างไม่มีใครยอมใคร.. ยิ่งมือหนาเน้นย้ำสัมผัสหนักขึ้น.. รุนแรงขึ้น.. เสียงหวานๆก็ยิ่งดังขึ้นราวกับไม่อาจกลั้นไว้ได้..
แม้เนื้อตัวจะบอบช้ำเพราะอารมณ์รักของอีกคน.. แต่ก็ดูเหมือนคนตัวเล็กจะยังคงยินยอมพร้อมที่จะมอบความสุขให้กับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ จวบจนแตะขอบสวรรค์อีกครั้ง.. มิยูจึงยอมปล่อยให้ฮารุกะพลิกตัวลงนอนเคียงข้าง แต่มือก็ยังไม่วายคว้ามานอนเบียดกับตัวเองอย่างหวงแหนอีกด้วย
“ รัก.. ชั้นรักพี่นะคะ” หลังจากเสียงหายใจอย่างสม่ำเสมอของใครข้างกายดังขึ้นเหมือนทุกคืน.. เสียงหวานๆก็จะกระซิบเข้าที่ข้างหูบ่งบอกความรู้สึกที่อยู่ข้างในแต่ไม่เคยเปิดเผยให้เค้าได้รับรู้
มือเล็กไล้ไปตามโครงหน้าของคนที่หลับสนิทอย่างรักใคร่...
... ต่อให้มิยูจะเจ้าชู้ และมีคนอื่นมากมายสักกี่สิบคน เธอก็ยังอยากจะเป็นที่หนึ่งในใจเค้าอยู่เรื่อยไป... แต่เธอจะทำอย่างไรดีเล่า ถึงจะยื้อเอาหัวใจเค้ามาเป็นของเธอได้...
หรือหัวใจของมิยู... จะเป็นได้เพียงแต่ของสาธารณะ ที่มันมีค่ามากเกินกว่าที่เธอจะเก็บไว้...
“ รักชั้นบ้างได้มั้ยคะ... พี่มิยู ซักนิดก็ยังดี...”
“ พี่มิยู.. เป็นไรรึเปล่าคะ” ฮารุกะเอ่ยทักเมื่อเช้านี้ดูเหมือนมิยูจะมีเรื่องให้กังวลใจ ถึงได้นั่งเหม่อไม่พูดจาเหมือนทุกวัน
“ ฮารุกะ.. ไปหาพ่อกันมั้ย” มิยูเอ่ยชวน จู่ๆเค้าก็รู้สึกอยากบอกร่างบางเสียอย่างงั้นว่าที่เค้ามาเป็นผจก.ให้ร่างบางก็เพราะความเป็นห่วงของคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อ
“ ไม่เอาค่ะ” ฮารุกะมั่นคงในคำตอบเสียเหลือเกิน
“ แต่วันนี้วันดีนะ..” มิยูหมายถึง วันคล้ายวันเกิดของฮารุกะย่อมเป็นวันดีอยู่แล้วถูกมั้ย.. แล้วลูกก็ควรได้รับพรจากผู้เป็นพ่อแม่สิ ถึงจะโชคดีตลอดปีน่ะ
“ ไม่ไปค่ะ.. ถ้าไปเจอคนๆนั้นมันอาจจะกลายเป็นวันซวยก็ได้นะคะ” ฮารุกะไม่ว่าง่ายเหมือนทุกที.. ครั้งนี้ร่างบางดูจะยึดมั่นกับความคิดของตัวเองเสียเหลือเกิน
“ เชื่อพี่นะ.. พี่จะอยู่ข้างฮารุกะเอง” มิยูเองก็ไม่ยอมเช่นกัน.. เค้าอยากจะให้ฮารุกะกับพ่อเข้าใจกันเสียที ทั้งๆที่คนนึงก็รัก อีกคนก็ต้องการความรัก..
“ แต่ว่า..”
“ เชื่อพี่นะ... ฮารุกะเชื่อพี่มาตลอดไม่ใช่หรอ..” มิยูย้อนถามในสิ่งที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจดี
“ก็ได้ค่ะ..” ฮารุกะรับอย่างไม่เต็มใจนัก ใบหน้าหวานดูมุ่ยอย่างเด็กที่ถูกขัดใจ..
“ สวัสดีค่ะคุณพ่อ...” มิยูเอ่ยทักให้ฮารุกะต้องทักตาม โดยฮารุกะนั้นไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าทำไมมิยูถึงเรียกพ่อตัวเองว่าพ่อ
“ แกเป็นไงบ้างล่ะ.. เก่งแล้วนี่เดี๋ยวนี้ อวดดีไม่ต้องง้อเงินชั้นแล้ว” คุณมิยาชิตะก็ยังคงเป็นพ่อคนเดิมที่ปากไม่ตรงกับใจ สายตาห่วงหาอาทรที่มองมาขัดกับคำพูดและท่าทางที่ดูเหมือนฮารุกะเข้ามารบกวนเวลาทำงาน ทำให้ฮารุกะไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นสบตา
“ ค่ะ.. ก็ตามมีตามเกิด”
“ เอ๊ะ..”
“ เอ่อ.. คุณพ่อสบายดีนะคะ” มิยูเห็นท่าไม่ดีก็เอ่ยเลี่ยง
“ อืม..ขอบใจมิยูมากนะที่คอยดูแลลูกไม่รักดีนี่ให้..” คำพูดของคนเป็นพ่อทำให้ฮารุกะชักตงิดในใจ
“ ไม่เป็นไรค่ะ.. เป็นหน้าที่หนูอยู่แล้ว..” เพราะรู้สึกว่า.. หนูจะหลงรักลูกคุณพ่อไปเต็มเปาเลยนี่นา
“แล้วเงิน..”
“ ไม่ต้องค่ะ.. หนูเต็มใจ” มิยูตอบ ไม่ได้หันไปมองคนข้างๆเลยว่ากำลังฉายแววผิดหวังอยู่ในตา
“ แต่ว่า...”
“ จริงๆค่ะคุณพ่อ.. แค่คุณพ่อยอมรับเรื่องนั้นก็ดีที่สุดแล้วค่ะ...”
“เฮ้อ.. เอาจริงหรอเราน่ะ..”
“ ค่ะ..”
“ แต่ว..”
“ ขอตัวนะคะ..” ฮารุกะพูดเสียงเรียบขัดจังหวะการคุยของทั้งคู่.. คว้ากระเป๋าก้าวดุ่มๆเดินออกไปไม่หันมองคนที่กำลังก้มหัวปะงกๆก่อนจะรีบวิ่งตามออกมาแม้แต่น้อย
แฮ่ก ๆ
“ ด..เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนฮารุกะ..” มิยูรีบวิ่งตามแผ่นหลังเล็กๆของอีกคนที่ก้าวเดินฝ่าอากาศหนาวๆออกมาจากตึกในตอนนี้
“ มีอะไรจะบอกชั้นรึเปล่าคะ..” ฮารุกะถามเสียงเรียบ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะผิดหวังมากขนาดนี้ เธอไม่รู้ว่าพี่มิยูกับพ่อไปรู้จักกันได้ยังไง ไหนจะเงิน ไหนจะขอบคุณ แล้วเรื่องนั้น.. มันอะไรกัน
“ มีค่ะ..” มิยูที่พยายามหายใจเข้าเต็มปอดยืดตัวเต็มความสูง.. เอื้อมมือคว้าข้อมือเล็กมากุมไว้ก่อนจะลากเบาๆให้เดินตามช้าๆ
“ตกลง.. พี่จะพูดอะไรคะ..” ฮารุกะถาม.. ปลายเท้าหยุดชะงักเมื่อไม่มีทีท่าว่าคนตรงหน้าจะพูดหรือทำอะไรซักอย่าง..
จนมาหยุดอยู่กลางย่านการค้าที่คนพลุกพล่าน.. หลายคนเหลือบมองมา อาจเพราะเธอ หรือเค้า.. แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบมากนัก
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าพี่เป็นใคร..” มิยูถาม นัยน์ตาคมทอดมองมาอย่างอ่อนโยนจนฮารุกะแทบไม่กล้าสบตา แต่ความผิดหวังมันมีมากกว่านั้น
“ ค่ะ.. พี่เป็นลูกสาวของนากาโอกะกรุ๊ป พี่คือนากาโอกะ มิยู พี่ค..”
“แล้วรู้ใช่มั้ยว่าตัวเองเป็นใคร...”
“ ค่ะ..ชั้นคือ..มิยาชิตะ ฮารุกะ เด็กใจแ..”
“ รู้ใช่มั้ยว่าพี่เคยเป็นช่างภาพ..”
“ ค่ะ..”
“ แล้วรู้มั้ยว่านางแบบคนแรกที่พี่กดชัตเตอร์คือใคร..”
“ ....!?!....”
“ เมื่อ 3 ปีก่อน.. พี่เดินถือกล้องถ่ายรูปไปทั่วทวีป.. คิดแค่ว่ามันเป็นงานอดิเรกไม่ได้จริงจังอะไรมากมายนัก.. จนมีอยู่วันนึงพี่เดินไปเจอนางฟ้า นางฟ้าที่กำลังนั่งเล่นกับเด็กอยู่ที่สวนสาธารณะกลางเมือง
พี่ยกชัตเตอร์ขึ้นกดรูปเค้าโดยไม่รู้ตัว.. แต่ซักพักพอเค้าเห็นพี่เค้าก็รีบวิ่งหนีไป.. วันต่อมา พี่ไปนั่งรอเค้าอยู่ที่เดิม.. เค้าก็ไม่มา พี่เลยเดาเอาว่าเค้าคงเกลียดขี้หน้าพี่ไปแล้ว
แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 ปี นางฟ้าคนนั้นกลับกลายเป็นนักแสดงชื่อดัง เป็นดาราสาวสวยที่มีหลายบริษัทติดต่อให้เค้าเป็นพรีเซนเตอร์ เค้ากลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ออกจากบ้าน วีน เหวี่ยง และไม่สนใจใคร
เค้าเดินผ่านหน้าพี่ไปช้าๆ.. เค้าคงจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคนที่แอบถ่ายเค้าเมื่อปีก่อนนั้นเป็นใคร.. มันจึงทำให้พี่รู้ รู้ว่าพี่ในตอนนั้นยังไม่คู่ควร.. ไม่คู่ควรที่จะฉุดนางฟ้าให้ตกลงมาจากสวรรค์
พี่ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง.. เรียกร้องให้นางฟ้าหันมาสนใจ.. พี่เองก็เคยสงสัยว่าทำไมจะต้องเป็นนางฟ้า เป็นแค่คนเดินดินธรรมดาไม่ได้หรอ.. แต่คำตอบที่พี่ได้มาเธอรู้มั้ยว่ามันคืออะไร..”
“ ...”
“ ไม่ได้.. หากไม่ใช่นางฟ้า.. ไม่สิ หากไม่ใช่มิยาชิตะ ฮารุกะ ก็ไม่มีใครอีกแล้วในชีวิตนี้ที่จะหยุดพี่ให้อยู่กับที่ได้ พี่รู้ว่าคนธรรมดาๆเดินดินคนนี้อาจไม่ใช่คนที่ดีมากนัก ทำให้เธอเสียใจก็มาก ผิดหวังก็เยอะ
แต่จะเป็นไรมั้ย ถ้าวันนี้.. พี่จะดึงเธอตกลงมาจากสวรรค์..”
พรึ่บ !!
จู่ๆร่างสูงก็ทรุดลงคุกเข่ากับพื้น.. มือหนาเอื้อมมาดึงมือเล็กไปครอบครอง ก่อนจะหยิบแหวนเงินวงเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม
จอภาพโฆษณาต่างๆในย่านนั้นกลายเป็นภาพแอบถ่ายของใครคนหนึ่ง ใบหน้าหวานๆที่กำลังเล่นกับเด็กน้อย บ้างซับน้ำตาให้เด็กน้อย รอยยิ้มหวานๆ กลีบปากน้อยๆสีชมพูกับนัยน์ตาโตพราวระยับ ราวกับกำลังมีปีกติดอยู่กลางหลัง เหมือนกับนางฟ้าเดินดิน
หลายคนหยุดมอง.. เมื่อสังเกตว่าคนใจภาพดูคุ้นหน้าอย่างแปลกประหลาด บ้างชี้ไม้ชี้มือมาที่คนตรงน้ำพุกลางลานห้องใหญ่ บ้างหยุดยืนดูเพราะจำได้ดีว่าเป็นรูปก่อนเข้าวงการของดาวร้ายชื่อดัง บ้างก็จำได้ว่าเป็นคนที่เคยขึ้นปกนิตยสารอยู่บ่อยๆ บ้างก็กรี๊ดเบาๆกับทั้งคู่
ราวกับทุกอย่างหยุดหมุน.. เวลาหยุดทำงาน.. ร่างกายหยุดเคลื่อนไหว.. ลมหายใจถูกกลืนหายไปกับทุกอย่างรอบตัว
“ จะเป็นไรมั้ย.. ถ้านากาโอกะ มิยูคนนี้จะขอมิยาชิตะ ฮารุกะคนนี้เป็นแฟน”
“ .....”
“ พร้อมจะตกสวรรค์รึยังคะ...” เสียงทุ้มถามย้ำหวั่นใจกับความเงียบที่เป็นผลตอบรับ ทั้งๆที่เกินกว่ามั่นใจว่าคนตัวเล็กก็คงรักเค้าบ้างซักนิดก็ยังดี
“ .. พี่คะ...” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา มิยูลุกขึ้นยืนเพราะฟังไม่ถนัด มือไม่ยอมปล่อยให้อีกคนได้คลายออก
“ เป็นแฟนกันนะ..ฮารุกะ..” มิยูเกาแก้มแก้เก้อ เอ่ยถามคนตัวเล็กอีกครั้งอย่างขลาดเขิน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทุ่มทุนให้ใครมากมายขนาดนี้ สายตามากมายมองมาอย่างจับจ้องกึ่งลุ้น
“ ค่ะ..”
“ เยส..” สิ้นเสียงตอบรับ เท้าของฮารุกะก็ลอยขึ้นจากพื้นเพราะการอุ้มของใครอีกคน ร่างบางโดนเหวี่ยงหมุนวนไปรอบๆท่ามกลางสายตายินดีจากหลายคนรอบข้างทำให้ฮารุกะก้มหน้างุดกับบ่ากว้างของอีกคน
“ พี่ทำชั้นอายนะคะ..” หลังจากเดินเลี่ยงออกมาจากย่านนั้นได้.. มือที่กำกันแน่นก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลายออกแต่อย่างใด ฮารุกะลอบยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่มิยูเองก็หุบยิ้มไม่ลงเลยทีเดียว
“ แต่พี่รักเธอนะ..”
ฉ่า
>/////<
“ รักพี่เหมือนกันค่ะ..” ฮารุกะตอบเสียงในลำคอ แต่มิยูก็ยังคงได้ยินอยู่ดี ใจข้างในที่เต้นระรัวยินดีอย่างบ้าคลั่งทำให้เค้ากลั้นยิ้มไม่ได้แม้แต่ชั่ววินาที
“ แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ.. คุณแฟน..” มิยูคลึงนิ้วที่เค้าเพิ่งสวมแหวนจับจองเล่น.. จรดริมฝีปากหนาที่หลังมือนุ่มก่อนจะทอดสายตาหวานเชื่อมให้คนตัวเล็กอย่างแสนรัก
“ ขอบคุณนะคะ..”
“ พี่ก็ขอบคุณเหมือนกัน.. ที่ฮารุกะอดทนพี่มาตลอด..” สายตาคมเต็มไปด้วยรักจนฮารุกะสะท้านอายไม่กล้าสบตา..
กริ๊ก !!
“ ฮารุกะ..” มิยูคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อนที่อีกคนจะเดินเลยเข้าห้องไป
“ คะ..” ฮารุกะรับคำอย่างสงสัย มือที่กำลังจะเปิดประตูห้องนอนชะงัก
“ พี่นอนด้วยนะ..” มิยูบอก ถือวิสาสะเดินเลยอีกคนเข้าไปก่อนที่ฮารุกะจะทันได้ตอบอะไรด้วยซ้ำ
“ อ๊ะ..พี่คะ..” ฮารุกะที่เพิ่งเดินมาจากห้องน้ำถึงกับชะงัก เมื่อสัมผัสกับแอร์เย็นเฉียบในห้องและตกใจกับมือหนาของอีกฝ่ายที่ดึงเธอเข้าไปประชิดตัวแนบแน่น
“ พี่รักเธอนะ..” ริมฝีปากหนาฉกวูบลงมาฉวยเอาลมหายใจอุ่นจากคนตัวเล็ก มือหนาดึงสาบเสื้อคลุมให้แยกออกก่อนที่ร่างบางจะเปลือยเปล่าเผยให้เห็นผิวขาวเนียน
ลิ้นร้อนลากลงดูดดึงต้นคอขาวให้อีกคนอ่อนระทวย มือเล็กแทรกไปตามไรผมหอมที่เจ้าตัวเพิ่งสระตอนอาบน้ำ อกอิ่มเบียดชิดกับอีกฝ่าย แต่เรียวแรงที่มีกลับหดหายพิงหลังกับกำแพงห้องที่เพิ่งเดินออกมา
..อาห์...
เสียงหวานครางข้างหู.. เรียวขาขาวที่แทรกตัวเข้ามากลางหว่างขา มือหนาลากสัมผัสปะป่านไปทั่วตัวแสดงความเป็นเจ้าของอย่างสมใจ
ลมหายใจร้อนปะทะแก้มนวล.. ให้ฮารุกะเผยอปากรับลิ้นร้อนเข้ามาดูดดึงอีกครั้งอย่างกระหาย
พรึ่บ!!
มิยูรู้ดีว่าแฟนสาวคงทนไม่ไหว.. จึงช้อนตัวของอีกฝ่ายขึ้นอุ้มเดินไปวางกลางเตียงใหญ่ก่อนจะตามแนบคร่อมลงไม่ไปห่างกาย
มือหนาลากสัมผัสไปทุกส่วนราวกับสำรวจ นัยน์ตาคมวาวระยับชอบใจกับสิ่งที่เห็น ร่างกายขาวอ่อนระทวยเบียดกันไปมาราวกับกำลังอดกลั้น
ความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้มิยูเองก็ไม่รอช้าที่จะปรนเปรอให้อีกคนได้สัมผัส
อ๊ะ..อา อาห์..
.. อึก...
“ ทูนหัว.. อาห์ ด..ดี.. ดีมั้ย..” เสียงแหบพร่าของคนที่กำลังจะทนไม่ไหวเอ่ยถาม ให้อีกคนที่เป็นฝ่ายรับหยุดชะงักปรือตามองนัยน์ตาคมที่มองมาอย่างเว้าวอน
“.. อื้อ..” กลีบปากบางชะโงกขึ้นบดคลึงกับอีกคนแทนคำตอบ.. มือเล็กเลื่อนดึงต้นคอขออีกฝ่ายให้กดลงต่ำ บ่าแกร่งกลายเป็นที่ระบายสำหรับเล็บสีสวย แต่ก็ไม่มีใครสนใจอีกแล้วในเวลานั้น
ความต้องการที่ทะยานจนแตะจุดสูงสุด.. ทำให้อ้อมแขนของทั้งคู่รัดแน่นราวกับกำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
แฮ่ก..แฮ่ก..
“ มันเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ..” เสียงหวานหอบปนหายใจตอบแผ่วๆ เคลื่อนตัวขึ้นสูงคร่อมอีกฝ่ายไว้กระซิบที่ริมหูผุดรอยยิ้มน้อยๆ เหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมของมิยูถูกมือเล็กปัดซับให้แผ่วเบา
อกอิ่มที่ล่อตาอยู่ตรงหน้า.. ทำให้อดใจไม่ได้ที่จะไม่เข้าไปบดคลึงแสดงความเป็นเจ้าของ
อาห์..
“ อีกรอบนะที่รัก..” มิยูบอกเสียงแหบพร่าก่อนจะพลิกร่างของอีกฝ่ายให้เป็นคนอยู่ด้านล่าง.. แผ่นหลังที่สัมผัสกับเตียงนุ่มผวากอดต้นคอแกร่งแน่น
บทรักดำเนินต่ออย่างเร่าร้อน.. สัมผัสรักที่ฮารุกะเคยวอนขอในวันนี้มิยูจะทำให้เต็มรัก
จะทำให้รู้.. ว่าที่เป็นอยู่.. มันมากกว่าที่จะอธิบายด้วยคำพูด
_______________ >////< ____________________
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามนะคะ ^^
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า.. จะได้รับการสนับสนุนและกำลังใจในเรื่องอื่นๆต่อไปค่ะ
ความคิดเห็น