ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infatuation MimI

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 57


                “ ฮารุกะ.. เป็นไรรึเปล่า 4-5วันมานี่.. ดูไม่ค่อยดีเลยนะ” ริสะเอ่ยทักเพื่อนสนิท ที่ดูไม่ค่อยเปล่งปลั่งเหมือนอย่างเคย..

     

                “ เปล่าหรอก.. แค่ไม่ค่อยได้นอนน่ะ” ฮารุกะตอบ แต่ความจริงแล้วใครว่าเธอไม่เป็นไรล่ะ รอยที่พี่มิยูทำไว้ในวันนั้นทำให้เธอต้องโทรไปยกเลิกงานเกือบทั้งอาทิตย์

     

                “ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว.. ว่าแต่ใกล้สอบแล้ว แกดูแลตัวเองบ้างก็ดีนะ”

     

                “ อืม.. ชั้นรู้ ยังไงตลอดเดือนนี้ชั้นก็คงว่างแล้วล่ะ.. ขอพี่เค้าพักน่ะ” ความจริงตารางงานเธอมันเว้นช่วงสอบไปอยู่แล้ว.. แถมหลังจากสอบพี่มิยูก็ยังไม่ได้จัดตารางงานให้ใหม่

                สงสัยก็คงไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วล่ะ...

     

                “ ดีแล้วแก.. บอกพี่มิยูให้แกพักผ่อนบ้าง จะได้ไม่โทรม”

     

                “ อืม.. ขอบใจนะแก” ฮารุกะพูดก่อนจะขอตัวแยกออกมา... ตั้งแต่วันนั้นหากใครจะคิดว่าเธอกับพี่มิยูจะมองหน้ากันไม่ติดล่ะก็ คงคิดผิดถนัดเพราะพี่เค้าก็ยังเป็นผจก.ให้ชั้นอยู่ ก็เลยต้องตามติดชั้นไปไหนต่อไหนตามเดิม..

                แต่ดูเหมือนว่า... มันอาจเป็นชั้นที่โรคจิตก็ได้นะ

                เพราะโดนเค้าทำแบบนั้น.. มากกว่าอารมณ์โกรธ ก็คือ.. เหมือนชั้นจะพอใจที่เค้าไม่ได้หายไปไหนเหมือนที่คิดไว้

     

     

     

                “ อ่ะ.. กินข้าวซะ” ใช่.. เป็นเค้าที่ดูเหมือนจะทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ รึเปล่านะ..

                พี่มิยูลงทุนถึงขนาดมาทำอาหารให้ชั้นกินทุกวัน.. แถมยังยอมนั่งนิ่งๆดูชั้นนอนด้วย ตอนเย็นก็ไม่ได้ออกไปไหนเหมือนแต่ก่อน.. ประกอบกับที่ชั้นไม่สามารถไปทำงานได้

                ก็ทำให้ชั้นรู้เลยว่า.. เวลาเกือบจะตลอด 24 ชั่วโมงของเค้ากลายเป็นของชั้นไปซะแล้ว

     

     

                “ แหวะ.. ทำไรมาเนี่ย” ชั้นเขี่ยๆอาหารในจานก่อนจะผลักออกห่าง ความจริงพี่เค้าก็ทำอาหารอร่อยนะ.. เพียงแต่ว่าชั้นแค่อยากแกล้งเค้า ก็แค่นั้นเอง

                แต่ดูเหมือนเค้าจะไม่โมโหอย่างที่ชั้นคิดไว้แหะ หน้าหงอยๆตอนยกจานข้าวไปเก็บแล้วเตรียมหยิบอย่างอื่นขึ้นมาดูว่าจะทำอะไรให้ชั้นทานดีนั่นกลับดูน่าสงสารอย่างน่าประหลาด

     

                อ้อ.. เดี๋ยวนี้พี่เค้าไม่ค่อยดื่มแล้วด้วยนะ.. เห็นพี่ริกะบอกว่า.. เค้าว่ามันทำให้เค้าทำร้ายใครบางคนไปโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งชั้นก็เดาว่าน่าจะเป็นชั้น.. แต่ช่างเหอะ นั่นมันเรื่องของพี่เค้า

     

     

                “ ช่วยกินหน่อยนะ.. ในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือแล้ว..” เค้าพูดเสียงอ่อยราวกับกลัวอะไรอย่างงั้นแหละ.. ให้ตายสิ พี่มิยูคนเดิมหายไปไหนกันนะ..

                                                                                                            

     

                “ พี่ก็กินด้วยกันสิ.. ชั้นไม่ชอบกินคนเดียว” ชั้นพูดลอยๆไม่อยากจะให้เค้าได้ใจจนเลิกเป็นแบบนี้หรอกนะ

                พูดก็พูดเถอะ.. การที่เค้าเป็นแบบนี้มันกำลังทำให้ชั้นรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนสำคัญยังไงก็ไม่รู้แฮะ.. จะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่านะ ถ้าชั้นจะอยากให้เค้าคอยดูแลชั้นต่อไปเรื่อยๆแบบนี้

     

     

     

     

                “ ส่งแค่นี้แหละ.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก..” ชั้นบอกเค้าก่อนจะเดินเข้าไปในกองถ่าย ซึ่งดูเหมือนวันนี้ยัยโอมิคู่ขาคนเก่าของเค้าก็จะมาเข้าฉากด้วยเหมือนกัน

                ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าจะสปาร์คกันเหมือนเดิมมั้ย.. แล้วทำไมใจชั้นมันต้องรู้สึกหวิวๆอย่างบอกไม่ถูกด้วยก็ไม่รู้

     

                “ อืม.. เสร็จแล้วโทรมานะ” เค้าบอกก่อนจะเดินเลยเข้าไปในลิฟต์ ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากว่าเค้าคงขึ้นไปรอที่ห้องเค้านั่นแหละ.. เหมือนกับทุกๆครั้งที่เค้าต้องมานั่งรอชั้นถ่ายละครในตึกนี้

     

               

     

                “ มิยู.. เสร็จแล้ว..” ชั้นกรอกเสียงลงไปตามสายโดยไม่ทันได้ฟังหรือรอให้เค้าพูดอะไรก่อนอย่างทุกที

     

                “ อื้อ..อาห์...มิยุคะ..โทรศัพท์..” แต่ดูเหมือนความตั้งใจของชั้นจะโดนทรยศโดยไม่ทันรู้ตัว เสียงครางที่ดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์ไม่อาจหยุดยั้งน้ำตาที่กำลังไหลลงมาโดยไม่ทันรู้ตัวได้

                สุดท้าย... ความเอาใจใส่ที่เค้ามีให้ชั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย...

     

                ชั้นกดตัดสายก่อนจะทันได้รู้ว่าเค้ามีความสุขกันมากขนาดไหน.. นั่งรอจนเค้าเป็นฝ่ายโทรมานั่นแหละ.. ถึงได้ย้ายตัวเองลงไปรอเค้าที่รถเหมือนเคย

     

     

     

                ปึก!!

                “ ทำไมเงียบจัง..” เค้าถามชั้นเสียงดูปกปิดความอิ่มใจไม่อยู่ เค้าคงมีความสุขกับคนนั้นมากใช่มั้ย.. ถึงได้เผื่อแผ่มาให้ชั้นเจ็บช้ำได้ขนาดนี้...

     

                “ ฮารุกะ...” เค้าเรียกชั้นอีกครั้งเมื่อไร้ซึ่งเสียงตอบรับ

     

                “ เหนื่อยหรอคะ..” เค้าวางมือแนบกับหน้าผากชั้นอย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนวันนี้มันจะทำให้ชั้นยิ้มไม่ได้เหมือนที่เคย.. มือนี้ของเค้าที่เข้าไปในตัวผู้หญิงคนนั้น มันดูสกปรก เหมือนกับว่ามันไม่ใช่มือเดียวกันกับที่เคยแตะต้องชั้น..

     

                “ ขอนอนนะ..” ชั้นบอกเค้าเพียงแค่นั้น ก่อนจะหันหน้าหลบไม่ให้เค้าเห็นว่าชั้นไม่ได้หลับจริงๆ

     

     

     

     

                “ มิยู..” เสียงหวานเรียกไว้ก่อนที่มิยูจะเดินกลับห้องพัก.. มือเล็กคว้าที่ข้อมือหนาของอีกฝ่ายแน่น

               

                “ คะ..” มิยูเลิกคิ้วถาม

     

                “ เข้ามาในห้องก่อนมั้ย..” ฮารุกะเม้มปากแน่นก่อนตัดสินใจเอ่ยปากบอกความต้องการออกไป..

     

                “ ทำไมคะ.. ฮารุกะเป็นไรรึเปล่า” มิยูถามอย่างแปลกใจเค้าคงแปลกใจมั้งว่าชั้นชวนเค้าเข้าห้องหลังจากที่ผ่านมาหลายวัน

     

     

                “ ปละ.. เปล่าค่ะ” ฮารุกะส่ายหน้าปฏิเสธพัลวันจนผมกระจาย

     

                “ แล้วทำไม...”

     

                “ นะ.. เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนฮารุกะหน่อย” ฮารุกะตัดสินใจอยู่นาน ก่อนจะรั้งแขนมิยูเข้ามาในห้องได้สำเร็จ..เธอจะสามารถเดิมพันครั้งสุดท้ายได้รึเปล่านะ

                จะเป็นไรมั้ย.. ที่ทั้งๆที่เจ็บ รู้ว่าต้องเจ็บ...

                แต่ก็ยังจะยื้อเค้าไว้.. แม้จะแค่ร่างกายก็ยินดี

     

     

     

                “ มิยูเคยดูเรื่องนี้ยัง..” เมื่อความเงียบเข้าครอบงำ.. ฮารุกะก็ต้องเอ่ยทำลายบรรยายกาศชั้นไปความหาซีดีหนังจากชั้นเพื่อเข้ามาชวนคนที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์เล่นไม่สนใจชั้นเลยในตอนนี้ ก่อนจะเรียกร้องความสนใจ

     

                “ ยังค่ะ.. ก็น่าดูดีนะ” เค้าตอบเพียงแค่นั้น แต่ดูเหมือนในโทรศัพท์นั่นอาจมีอะไรน่าสนใจมากกว่าชั้นรึเปล่านะ..

     

                “ งั้นหรอ.. ดูด้วยกันมั้ย” ชั้นเอ่ยชวนเค้าด้วยน้ำเสียงที่สุดแทนจะมั่นใจว่ามันน่าจะดูดี และร่าเริงที่สุดแล้ว

     

                “ ฮารุกะอยากดูหรอ.. ก็เอาสิ” เค้าเงยหน้าขึ้นมาบอกชั้นแค่นั้น แล้วก็ก้มลงไปสนใจโทรศัพท์ต่อ ปล่อยให้ชั้นนั่งดูอยู่คนเดียว...

                บางที.. ชั้นอาจจะแกล้งเค้ามากไป หรือเรียกร้องมากเกินไปสินะ.. เค้าถึงได้เบื่อ แล้วก็ไม่สนใจชั้นเหมือนเคย

     

               

                “ มิยู.. กินนมมั้ย” ชั้นที่ขอให้เค้านั่งดูบทเป็นเพื่อนเอ่ยถาม หลังจากที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จชั้นก็เดินมารินนมใส่แก้วไปให้เค้าเหมือนเคย ความจริงชั้นก็ไม่ได้ทำนักหรอกพักหลังๆเนี่ย.. เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเค้ามากกว่าที่ทำ

     

                “ ไม่อ่ะ..ฮารุกะกินเถอะ” เค้าเงยหน้าขึ้นมาบอกเพียงแค่นั้น ก่อนจะก้มหน้าไปสนใจกระดาษบทที่วางอยู่บนโต๊ะจนชั้นเริ่มจะอิจฉามันนิดๆซะแล้วสิทั้งๆที่เค้าไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่ชั้นหยิบยื่นให้เลยซักครั้ง

     

                “ แต่ฮารุกะรินมาแล้ว.. มิยูกินหน่อยนะ” ชั้นไม่ยอมแพ้หรอก.. เค้ากินข้าวเย็นไปนิดเดียวเองนี่นา ถ้าหิวตอนกลางคืนล่ะ..จะทำไง

                ชั้นยกแก้วขึ้นไปจ่อที่ริมฝีปากเค้า เค้าก็เลยไม่อาจเลี่ยงได้จำใจต้องปล่อยให้น้ำนมสีขาวๆนั่นไหลลงคอไปแต่โดยดี

     

                “ ไม่อ่ะ.. เสร็จแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วมิยูกลับนะ” เค้าเก็บกระดาษกองแยกเป็นชุดๆ ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมที่วางพาดอยู่ตรงโซฟาขึ้นมาเตรียมจะกลับ

     

                “ ไม่กลับได้มั้ย..” ชั้นโพล่งถามออกไป ทั้งๆที่ก็คงรู้คำตอบดี

     

                “ ทำไมล่ะฮารุกะ.. มิยูมีเรื่องต้องทำนะ” เค้าบอกอย่างงั้น.. แต่ชั้นเดาว่าคงไม่ใช่หรอก เค้าอาจจะนัดใครซักคนไว้ที่ห้อง หรือเตรียมที่จะไปห้องใครซักคนก็ได้นี่นาจริงมั้ย

                จริงอย่างที่ใครๆเค้าว่านะ.. พี่มิยูไม่เคยขาดเรื่องพวกนี้เลยนี่นา

     

                “ อะไรล่ะ.. มิยูต้องทำอะไร” ชั้นถามเค้าอย่างไม่พอใจนัก ทั้งๆที่เค้าไม่ควรจะปฏิเสธชั้นเลยแท้ๆแล้วความจริงชั้นก็ไม่ควรจะไปพาลใส่เค้าด้วยซ้ำ

     

                “ ไม่เกี่ยวกับฮารุกะหรอก.. ไม่ต้องห่วงนะ” เค้าบอกชั้นอย่างนั้นแต่เค้าไม่รู้ใช่มั้ยว่ายิ่งห้าม.. มันก็เหมือนยิ่งยุ

     

                “ มิยูจะไปข้างนอกใช่มั้ย..” สุดท้ายชั้นก็หยุดปากตัวเองไม่อยู่ ถามออกไปอย่างที่ใจอยากรู้แต่ก็กลัวคำตอบ

     

                “ อืม..” เค้าตอบเสียงเรียบ เค้าตอบทั้งๆที่ไม่หันกลับมามองหน้าชั้นเลยซักนิด

     

                “ อยู่กับฮารุกะไม่ได้หรอ..” ชั้นเดินเข้าไปหาเค้าก่อนจะกอดแขนเค้าไว้อ้อนๆเหมือนกับทุกครั้งที่เคยได้ผลซบหน้าถูไปมากับต้นแขนแกร่งเหมือนทุกครั้งที่เคยได้ผล

     

                “ แต่ม..”เค้าแกะมือชั้นออก.. แต่คงยากแล้วล่ะ

     

                “ นะคะ..” ชั้นอ้อนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงเสียงเท่านั้น... ชั้นยังใจกล้ายืดตัวขึ้นไปกดจูบกับริมปากหนาของเค้าด้วย

     

                “ !!”เหมือนเค้าจะอึ้งๆอยู่เหมือนกันตาที่เบิกกว้างของเค้านั่นยืนยันได้เป็นอย่างดี

     

                “ คืนนี้อยู่กับฮารุกะนะ..” แต่เค้าก็คงไม่ทำให้ชั้นอายอีกรอบด้วยการปฏิเสธแน่ๆ มือหนาของเค้าคว้าเอวชั้นเข้าหาตัวก่อนลิ้นร้อนจะก้มมาประชิดอย่างไม่ทันตั้งตัวเค้าร้อนแรงเสมอ.. ไม่ว่ากับใคร

                หากพอรู้ตัวอีกที.. ชั้นก็กำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มไร้ซึ่งสิ่งใดๆกีดขวางอีกต่อไป

                ร่างสูงของเค้าทาบทับอยู่ด้านบน.. พร้อมมอบสัมผัสลึกซึ้งให้ชั้นอย่างอ่อนโยน...    

     

     

     

                หลังจากฮารุกะหลับไป.. มิยูก็อดคิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นไม่ได้.. ใบหน้าคมผุดรอยยิ้มที่มุมปาก.. นิ้วเรียวยากกำลังวาดไล้ไปตามโครงหน้าหวานของคนที่เอาใจเค้าเสียเหลือเกินในคืนนี้

     

                “ โอมิ.. เอาหวานๆเลยนะ” มิยูบอกก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ สายตาคมมุ่งมาดปรารถนาเมื่อดูเหมือนการพยายามเป็นคนดีของเค้าจะยังไร้ค่า ไม่มีอะไรคืบหน้าไปนอกจากการโดนร่างบางแกล้งอยู่ทุกวันไป

     

                “ มิยูจะเล่นอะไรกันคะเนี่ย..” สาวคนเดิมเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เมื่อจู่ๆร่างสูงก็โทรเรียกให้ขึ้นมาพบก่อนจะยื่นเงินให้ก้อนนึงพร้อมกับบอกความต้องการให้เธอฟัง

     

                “ ก็แค่แกล้งคนขี้งอนนิดหน่อยนะ.. อย่าถามไรมากเลย” มิยูบอกก่อนจะรีบยื่นโทรศัพท์ให้พอดีกับที่ฮารุกะโทรเข้ามา

                จากนั้น.. เค้าก็นั่งเล่นรอเวลาก่อนจะโทรกลับไปหาร่างบางให้คิดไปเรื่อยว่ามันมีอะไรจากสิ่งที่ได้ยินทางโทรศัพท์

     

                แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย.. ไม่แม้แต่น้อย

     

                ออกจะเกินคาดไปด้วยซ้ำ

     

     

                ... รู้นะว่าผิด.. แต่ถ้ามันจะทำให้ฮารุกะยอมมานอนอยู่บนเตียงเดียวกับเค้าเหมือนเดิม ต่อให้ยิ่งกว่านี้เค้าก็จะทำ..

                เค้ามันเลวใช่มั้ยล่ะ.. ไม่ต้องบอกหรอก เค้ารู้ดี !!

     

     

     

     

                “ ฮารุกะ.. ปวดมากมั้ย.. ไหวรึเปล่า” มิยูเอ่ยอย่างเป็นห่วง พลางใช้แขนพยุงร่างบางรองรับน้ำหนักแทน ความจริงเค้าไม่อยากให้ฮารุกะมามหาลัยด้วยซ้ำหากไม่ติดว่าสอบล่ะก็

                ฮารุกะเป็นไรน่ะหรอ.. ก็เป็นวันนั้นของผู้หญิงน่ะสิ เจ้าตัวเล็กนี่นอนบิดตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง..ท่าทางจะปวดมาก

     

                “ หวะ... ไหวค่ะ” แม้ปากจะบอกอย่างนั้น.. แต่มิยูก็ไม่เชื่อแม้แต่น้อย เมื่อใบหน้าหวานบิดเบี้ยวอย่างทรมานเสียจนคนมองอยากจะร้องไห้

     

                “ เดี๋ยวกินข้าวนะ.. พี่จะไปซื้อยาให้” มิยูวางถ้วยโจ๊กไว้ด้านหน้า.. ก่อนจะวิ่งลับสายตาไปเพื่อซื้อยาแก้ปวดท้องประจำเดือนให้กับอีกคน

     

               

                “ อ้าวพี่มิยู.. มาซื้ออะไรคะ” ริสะที่บังเอิญเจอกับร่างสูงเอ่ยทัก

     

                “ ซื้อยาให้ฮารุกะน่ะ” มิยูตอบพลางล้วงกระเปาหยิบเงิน

     

                “ ฮารุกะเป็นไรหรอคะ..” ริสะถามอย่างตกใจ

     

                “ แค่เป็นวันนั้นน่ะ.. ไม่ต้องห่วง” มิยูตอบ

     

                “ ปวดขนาดต้องกินยาเลยหรอคะ..”

     

                “ อืม.. ท่าทางไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้ามืดแล้ว”

     

                “ งั้น.. ก็แสดงว่าพวกพี่ดีกันแล้วสินะคะ” ริสะเอ่ยจากการคาดคะเน

     

                “ ก็.. ประมาณนั้นมั้ง” มิยูอ้อมแอ้ม ไม่รู้ว่าดีที่ริสะว่านี่หมายถึงในแง่ไหน

     

                “ งั้นก็..ฝากดูแลฮารุกะด้วยนะคะรุ่นพี่” ริสะบอกอย่างดีใจ ให้มิยูยกนิ้วเกาแก้มแก้เก้อ

     

                “ อืม..”

     

                “ ถึงมันจะขี้อ้อน ขี้งอน ขี้เหวี่ยง ขี้วีนขนาดไหน.. แต่ความจริงแล้วมันก็แค่เด็กที่เรียกร้องความสนใจ และขาดความอบอุ่นแค่นั้นนะคะรุ่นพี่ หากมันทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง.. รุ่นพี่ก็ช่วยมองๆข้ามมันไปบ้างนะคะ

                ... ฮารุกะน่ะ.. ไม่ค่อยถูกกับพ่อก็เพราะว่าเค้าแต่งงานใหม่ ก็เลยไม่ค่อยได้รับความรักเท่าที่ควร..

                แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่รักพ่อหรอกนะคะ..

                บางครั้ง.. มันก็แค่เสดงออกไม่เป็นเฉยๆ..

     

     

                รุ่นพี่ก็รู้ใช่มั้ยคะว่ามันโหมทำงานหนักมาก..”

     

     

                “ อื้อ..”

     

     

                “ นั่นน่ะ.. ก็เพราะว่า.. มันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นภาระของใครน่ะสิคะ..

                เห็นมันตัวเล็กๆบางๆอย่างนั้น รุ่นพี่อาจจะไม่เชื่อก็ได้นะคะว่ามันผ่านอะไรมาบ้าง...

     

                ชั้นน่ะยังไม่เคยเห็นมันคิดมากเรื่องใครมาก่อนเลย.. จนมาเจอรุ่นพี่นี่แหละ ที่ทำให้มันดูโทรมขนาดนั้นได้

                ยังไงๆ.. รุ่นพี่ก็คงไม่ทิ้งมันหรอกใช่มั้ยคะ”                                           

     

     

                “ อื้ม..”

     

     

                “ งั้น.. ถ้าเป็นไปได้ ก็ช่วยมอบความรักให้มันบ้างซักนิดก็ยังดีค่ะ

                ถึงแม้ว่าความจริงรุ่นพี่อาจจะไม่ได้คิดอะไร...

               

                แต่รุ่นพี่คงไม่รู้หรอก.. ว่าฮารุกะรอคอยคำว่ารักขนาดไหน..

                รุ่นพี่เข้าใจที่ชั้นพูดใช่มั้ยคะ..”

     

     

                “ อืม..” มิยูรับคำในลำคอขณะกำลังคิดถึงอีกคน

     

                “ฝากเพื่อนด้วยนะคะรุ่นพี่มิยู..” ริสะยิ้มกว้างเหมือนเบาใจ ก่อนจะเดินออกสวนออกไป..

     

     

     

     

                “ ยาค่ะ..” มิยูแกะยาส่งให้หลังจากบังคับ ขู่เข็ญให้ฮารุกะกินโจ๊กจนพร่องไปครึ่งชามได้..

     

                “ มันขม..” เสียงหวานเงยหน้าเถียง แม้ว่าอาการปวดท้องจะยังรุมเร้า แต่เธอกับยาน่ะเป็นคู่อริกันมาแต่ชาติปางก่อนเลยนะ.. ไม่มีทางดีกันง่ายๆเป็นแน่

     

                “ ขมก็ต้องกินค่ะ...” มิยูยืนยันคำเดิม

     

                “ แต่ว่า..”

     

                “ กินค่ะ..”

     

                “ ต... อุ๊บ” ฮารุกะตาโตเมื่ออีกคนยัดยาเข้าไปในปากก่อนจะอมน้ำไว้เสียเองแล้วประกบปากลงมาใช้ลิ้นกวาดยาเม็ขมนั่นลงคอเธออย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่นั่งอยู่กลางโรงอาหารเวลานี้

     

                “ แค่นี้ก็เรียบร้อย.. ไปค่ะ” มิยูยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะคว้ามือเล็กให้เดินตามไปเก็บจานแล้วเตรียมขึ้นห้องสอบอย่างไม่แคร์ต่อสายตาใคร

     

                “ บ...แล้ว.” เสียงหวานดังมาจากด้านหลัง

     

                “ อะไรนะคะ..” มิยูก้มลงถามเมื่อได้ยินไม่ชัด

     

                “ ชั้นบอกว่าพี่ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” ฮารุกะอ้อมแอ้มตอบเสียงแผ่วเบา แก้มใสขึ้นสีระเรื่อน่าเอ็นดูจนมิยูอดคิดไม่ได้ว่า.. หากเค้าทำอย่างนี้ซะตั้งแต่แรก มันก็คงจะบอกคนอื่นได้ชัดเจนใช่มั้ยว่าร่างบางนี่เป็นของใคร

                มิยูคิดในใจ.. ขณะที่พาลคิดไปถึงวันก่อนที่เค้าจะวางแผนให้โอมิครางใส่โทรศัพท์

     

                “ เฮ๊ยมึงๆ.. นางฟ้าแมร่งน่ารักเนอะ” เสียงเพื่อนร่วมห้องพูดกันพลางจ้องหน้าปกนิตรสารเล่มล่าสุดที่เค้าจำได้ดีว่าคุยกันอยู่นานกว่าจะได้ถ่าย

     

                “ สุดๆอ่ะ.. ไม่มีเจ้าของด้วย.. อย่างนี้น่าลองจีบว่ะ ได้ข่าวว่าน้องเค้าน่ารัก เข้าถึงง่ายด้วยนะมึง”

     

                “ จริงมึง.. เมื่อวันก่อนกูแกล้งเดินชนน้องเค้า น้องเค้ายังไม่ว่ากูซักคำ.. แถมขอโทษกูซะเวียงอ่อนเสียงหวานทำเอากูเก็บฝันเลย”

     

                “ จริงหรอว่ะมึง.. โหยมึงโชคดีจัง ของกูนะ.. เคยแค่เดินผ่านหลังน้องเค้าเฉยๆ.. กลิ่นหอมๆของน้องเค้ายังลอยมาเตะจมูกจนกูจำได้ถึงทุกวันนี้เลยนะเว๊ย”

     

                “ อย่างนี้คงต้องลองซักตั้ง.. มึงว่าคราวนี้จะใช้มุกไหนเข้าไปดีว่ะ..”

     

                “ อย่างนี้มันต้อง บราๆๆๆๆ”

     

                “ พี่คะ..” ฮารุกะเรียกมิยูอีกครั้ง เมื่อดูเหมือนร่างสูงจะเหม่อคิดอะไรอยู่นานแล้ว

     

                “ คะ..ค่ะ”

     

                “ ถึงห้องแล้วค่ะ.. พี่มิยูไปห้องเถอะ เดี๋ยวเข้าสอบไม่ทันนะ” ฮารุกะเตือนอย่างหวังดี

     

                “ อ๋อ.. ค่ะ งั้นเดี๋ยวสอบเสร็จรอที่นี่นะ.. พี่จะมารับ” มิยูนัดก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ฮารุกะยิ้มกับตัวเองอยู่คนเดียว

                พักหลังๆมานี่.. ดูเหมือนพี่มิยูจะดูแลเธอเป็นพิเศษยังไงก็ไม่รู้

     

                ... ไม่ผิดใช่มั้ย หากเธอจะหวังว่าลึกๆแล้ว.. พี่เค้าก็อาจจะคิดอะไรกับเธอมากไปกว่าแค่ความสัมพันธ์ทางกายอยู่บ้าง..

     

     

                “ ฮัลโหลค่ะ..” ฮารุกะกรอกเสียงไปตามสายอย่างแปลกใจ เมื่อสายเข้าเป็นชื่อของมิยู

     

                “ ตั้งใจสอบนะ.. เมื่อกี้พี่ลืมบอก”

     

                “ ค่ะ.. พี่ก็เหมือนกันนะคะ..”

     

                “ อื้ม.. แค่นี้แหละ..”

     

                “ ค่ะ..”ฮารุกะเก็บโทรศํพท์พร้อมๆกับรอยยิ้มกว้างที่ระบายเต็มใบหน้าเสียจนเพื่อนที่เพิ่งเดินเข้ามาต้องยกยิ้มล้อเลียนอย่างรู้ทันว่าฮารุกะอารมณ์ดีเพราะอะไร

                เหมือนการปวดท้องจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง..

     

     

     

                “ เป็นไง.. ทำได้มั้ย” มิยูที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วเอ่ยถาม..

     

                “ ก็.. ไม่รู้สิคะ..” ฮารุกะกล่าวอย่างกังวล.. กลัวว่าที่ตอบไปจะไม่พอกับที่อาจารย์ต้องการ

     

                “ ฮารุกะทำได้อยู่แล้วพี่รู้..” มิยูยิ้มให้กำลังใจ ก่อนจะโยกศีรษะเล็กเบาๆอย่างเอ็นดู ท่ามกลางสายตาของใครหลายๆคู่ที่มองมาทั้งอิจฉา และชื่นชม

     

                “ พี่รู้.. แต่หนูไม่รู้ด้วยนี่คะ” ฮารุกะเถียงเบาๆ แต่ก็ยอมถูกลากไปขึ้นรถกลับห้องแต่โดยดี   

     

                ______________________
    อาจจะหายไปซักพักนะคราบ.. ขอตัวปั่นวิจัยแปปปปป ^____^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×