ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF..Nagaoka-Miyashita

    ลำดับตอนที่ #7 : SF..เห็นแก่ตัว

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 57


    สำหรับชั้นแล้ว   ความรัก............คือ.........ความเห็นแก่ตัว

     

    ทำไมน่ะเหรอ?

     

    เพราะ คนที่ชั้นรักเป็นคนน่ารัก

     

    น่ารักจนอยากเก็บเขาไว้เพียงคนเดียว

     

    ไม่อยากให้ใครมองใบหน้าที่น่ารักนั่น

     

    ไม่อยากให้ใครเห็นเรือนร่างที่โปร่งบาง.......งดงาม

     

    ไม่อยากให้ใครสัมผัสผิวที่นุ่มเหมือนเด็กทารกนั้น

     

    ไม่อยากได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจากคนอื่น

     

    และไม่อยากให้เสียงนั้นเรียกชื่อใคร...………..นอกจากชั้น

     

    ชั้นหวงแม้กระทั่ง แฟนคลับที่ร้องเรียกชื่อของเขาอยู่ขอบสนาม

     

    อยากได้ทุกอย่าง…………..อยากครอบครองเอาไว้เพียงคนเดียว

     

    อยากมีแค่ชั้นกับเค้า  .………………....สองคน...……………..เท่านั้น

     

    ……………………………………………

     

    เฮ้ย…….มิยู ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะค่ำนะ

     

    ยูกิเรียกซ้ำเมื่อเห็นเพื่อนสนิทนั่งเฉย เหม่อลอยเหมือนใจไม่ได้อยู่ในห้องนี้อย่างนั้น

     

    คิดอะไรอยู่วะ…………....เหม่อซะขนาดนั้น

     

    โทษที...กำลังคิดอะไรอยู่ เพลินไปหน่อยว่าแล้วก็เรียกสติตัวเองสาวเท้าก้าวตามหลังเพื่อนสนิทไป

     

     

    ไปเถอะ    พวกนั้นมาครบแล้ว

     

    ยูกิหมายถึงเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่ม ที่วันนี้นัดกันไว้ว่าจะไปทานข้าวเย็นและค้างด้วยกันที่บ้านของเจ๊ซาโอริ

     

     

    อ้าว...แล้วซาโอริละ?” มิยูถามเมื่อออกมาแล้วไม่เห็นเจ้าภาพอีกคนอยู่ด้วย 

     

     

    ไปก่อนแล้วค่ะ.. พี่ซาโอริบอกว่าจะไปซื้อของสดเตรียมไว้ให้

    เสียงตอบมาจากคนตัวเล็กบาง ที่นั่งหน้ายุ่งอยู่ตรงทางออกพอดี มิยูหันไปมองยิ้มๆ

     

    หิวมากเหรอ ตัวเล็ก?”

     

    ทำไม?”  เงยหน้ามอง ......สีหน้าบอกว่าไม่เข้าใจ

     

    ก็เห็นทำหน้าบึ้งเชียว...ขอโทษนะที่พี่ออกมาช้า

    มิยูก้มตัวลงพูดด้วย  ฮารุกะเบือนหน้าหนี   ก็……..หน้ามันใกล้กันเกินนี่

     

    ไม่ใช่หรอก...ไม่ได้รอนาน  เพิ่งครบทีมก่อนพี่ออกมาเดี๋ยวเดียวเอง  หนูหน้าบึ้งเหรอคะ?”

     

    ฮื่อ...คิดอะไรอยู่?”   พูดพลางจับมือบางที่ยื่นให้ ฉุดลุกขึ้นยืน

     

    เปล่า....ก็...ไม่เชิงคิด...

     

    ตกลงคิดหรือไม่คิด

     

    ช่างเถอะ...เรื่องไร้สาระน่ะไปกันได้แล้วมั้ง?”

    ฮารุกะบอกปัด รีบเดินให้เร็วขึ้นแต่ มิยูคว้าแขนไว้ ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ

     

    มีอะไรตัวเล็ก ปกติเธอไม่เคยปิดพี่นี่

     

    ฮารุกะไม่ตอบ  ทำเป็นมองคนอื่นๆคุยกันเหมือนไม่ได้ยินที่มิยูพูดซะอย่างนั้น

     

    เธอดูแปลกๆไปนะช่วงนี้ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า?”

     

    เงียบ....ไม่ตอบ

     

    ฮารุกะ  พี่รู้นะว่าเธอได้ยิน ....แล้วไม่ต้องมาทำหน้าซื่อไม่เข้าใจอย่างนี้หรอก ไม่สำเร็จ

     

    ฮารุกะก้มมองปลายเท้าตัวเอง  พูดไม่มองหน้ามิยู

     

    ไม่มีอะไรหรอก  ปกติดีทุก  พี่อย่าสนใจเลย

     

    จะไม่สนใจได้ไง    ก็.…….เราเป็นพี่น้องกันนี่

     

     

    ฮารุกะเม้มปากแน่น   เหมือนกลัวว่าหลุดคำพูดที่ไม่สมควรออกมา

     

    ฮารุกะ?”

     

    นั่นสินะ..ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา

     

    ฮารุกะ...หรือเธอไม่คิดว่าพี่เป็นพี่ของเธอ

     

    พอเถอะค่ะพี่!  พี่น้อง!  พี่น้อง!  พี่น้อง!  เป็นพี่น้องแล้วงัย   ต้องรู้ทุกอย่างอย่างนั้นเหรอ!

     

    ฮารุกะสวนกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ  ก็ว่าจะไม่โมโหแล้วนะ....เพราะอารมณ์หงุดหงิดแท้ๆเชียว

     

    มิยูเองก็นิ่งไป   ปล่อยมือจากแขนฮารุกะแทบจะทันที

     

    นั่นสินะ...ขอโทษที่ยุ่ง   เธอคงรำคาญพี่มากสินะ

     

    พี่ค่ะ.........ไม่ใช่นะ.......คือ......หนู   พี่มิยูฟังก่อนสิ......หนูขอโทษ

     

    มิยูมองฮารุกะนิ่ง สีหน้าเหมือนเจ็บปวดกับอะไรสักอย่างที่.........ฮารุกะเองก็ไม่เข้าใจ

     

    ฮารุกะยืนอึ้งมองมิยูที่หันหลังให้แล้วเดินห่างออกไป.........ไกลทุกที

     

    ตาย….โกรธมากเลยนี่หว่า  ทีนี้จะทำไงดีล่ะเรา…………

     

    ……………………………..

    ที่บ้านของซาโอริหลังจากที่ทานอาหารค่ำกันเรียบร้อยแล้ว.........

     

    พวกเธอนอนกันได้แล้วนะ ดึกมากแล้ว

     

    เสียงเจ้าของบ้านร้องเตือนดังๆ  แข่งกับเสียงเกมส์คอมพิวเตอร์ของริกะและยูกิ

     

    อีกเดี๋ยวนะเจ๊  ขออีกเดี๋ยวเดียว

     

    ริกะบอก แบบไม่หันมามองให้เสียเวลา  ซาโอริส่ายหน้า

     

    เดี๋ยวหลายครั้งแล้วนะเธอสองคนน่ะ ปูที่นอนกันหรือยัง เดี๋ยวก็ให้ตอนตรงนี้ซะเลยนี่

     

    น่า....ที่รัก.....นานนานที ขอนอนดึกตื่นสายสักวันเถอะยูกิตอบยิ้มๆ

     

    ไอ้เด็กพวกนี้นี่......ฉันก็เห็นพวกเธอตื่นสายกันประจำ

     

    ง่ะ... เค้าตื่นเช้านะ....ไม่อย่างนั้นจะไปซ้อมทันได้งัยทุกวัน

     

    เออ….เด็กดี…..ใครนอนดึกฉันจะล็อคห้องซะ นอนมันข้างล่างนี่แหละ

     

    เจ๊……...เดี๋ยวชั้นไปปูให้ก่อนก็ได้

    มิยูบอกแล้วลุกขึ้นเดินออกไป   ฮารุกะหันขวับมามอง ร้องบอกทันที

     

    พี่มิยู….. ให้หนูช่วยนะ

     

    ยิ้มเอาใจ  แววตาใสรอคอยคำตอบอย่างมีความหวัง......

     

    ตามใจเธอสิ

     

    ว่าแล้วก็เดินขึ้นข้างบนไปโดยมีร่างบางวิ่งตามไปติดๆ 

     

    ซาโอริมองตามก่อนถามอย่างไม่เข้าใจ

     

    สองคนนั่นเป็นอะไร   โกรธอะไรกันอีกหรือเปล่า?”

     

    ไม่รู้เหมือนกัน    เมื่อเช้ายังดีดีอยู่เลย   เฮ้..ริกะอย่าโกงสิ   ตาฉันแล้ว   เอามา

     

    ยูกิหันมาตอบแล้วก็กลับไปสนใจหน้าจอต่อ

     

    เห็น ไม่คุยกันมาตั้งแต่ตอนเย็น

    ริกะบอกบ้าง

     

    ไม่ใช่ !! ..ฮารุกะน่ะอยากจะคุยอยู่ ฉันเห็นวนเวียนอยู่ใกล้มิยูตั้งหลายที แต่มิยูมันไม่ยอมสนใจ...เป็นไรไม่รู้

     

    ช่างเถอะ…....เดี๋ยวก็ดีกัน ไอ้คู่นี้มันทะเลาะกันวันเว้นวันอยู่แล้วล่ะ

     

    ทุกคนหัวเราะเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำพูดของซาโอริ   ประเด็นนี้เลยถูกยกเลิกไป.

     

     

     ในขณะที่อีกสองคนนั้น........

     

    พี่ค่ะ...จะปูกี่ทีดีล่ะ?”

     

    ฮารุกะถาม...พยายามชวนคุยครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วนะวันนี้...พี่มิยูก็ยังเฉย

     

    คนอะไร.......ขี้งอนชะมัด

     

    ตามใจเธอเถอะ  กี่ทีก็ปูไป

    เสียงบอกเรียบๆ

     

    งั้น...ปูเท่าจำนวนพวกเราเลยละกันเนอะ

     

    มิยูไม่ตอบ หันไปเปิดตู้มุมห้องที่ซาโอริมักจะเก็บเครื่องนอนไว้

     

    ฮารุกะตรงเข้าแย่งหอบเบาะออกมาแทน   นึกว่าอีกฝ่ายจะดุอย่างทุกที 

     

    แต่มิยูก็ไม่ว่าอะไร ช่วยฮารุกะปูผ้าไปเรื่อยๆ

     

    ถ้าเป็นทุกที..  พี่มิยูไม่เงียบอย่างนี้หรอก.......

     

    ปูแค่สองที่ดีกว่า

     

    ทำไมล่ะ?”

     

    ก็นอนบนเตียงได้อีกนี่ เตียงออกใหญ่ นอนสามคนได้สบาย

     

    ดี...งั้นหนูนอนกับพี่ซาโอริดีกว่า

     

    ฮารุกะบอกยิ้มๆ แต่มิยูขัดขึ้นทันทีว่า

     

    เธอนอนข้างล่างน่ะดีแล้ว

     

    ทำไมอ่ะ?” 

     

    ก็....เธอนอนดิ้น คนอื่นอื่นเค้าจะนอนไม่หลับเอาน่ะสิ

     

    พี่จะนอนแทนใช่มั้ยล่ะ?”

     

    ใครบอกเธอ?”

     

    ไม่รู้ล่ะ……..ถ้าหนูนอนพื้น พี่ก็ต้องนอนพื้นด้วย

     

    ฮารุกะยื่นคำขาด  สีหน้าบอกชัดคราวนี้ไม่มีทางยอม

     

    ตามใจเธอ.....เฮ้ย!

     

    พูดไม่ทันจบประโยค หมอนที่อยู่มือฮารุกะ..ก็ปลิวใส่หน้ามิยูทันที

     

    ฮารุกะ..นายทำอะไร?”

     

    มิยูถามงงๆ เห็นฮารุกะยืนหน้าบึ้งเตรียมมีเรื่องเต็มที่

     

    พูดอยู่นั่นแหละ ตามใจเธอ ตามใจเธอ หนูเบื่อคำนี้แล้วนะ คนเค้าง้อแล้วยังไม่ยอมดีด้วยอีก จะให้ขอโทษกี่ครั้งถึงจะพอใจ

     

    พูดไม่ทันจบก็ตามด้วยหมอนอีกหนึ่งใบ แต่คราวนี้มิยูรับไว้ได้ทัน

     

    พอใจอะไรกันล่ะ ก็เธอบอกเองว่าพี่ยุ่ง พี่ก็ไม่ยุ่งแล้วงัย  แล้วจะมาโกรธทำไม?”

     

    ก็มันไม่ได้ตั้งใจพูดนี่ พี่มาบอกก่อนทำไมล่ะว่าเราเป็นพี่น้องกัน  เราเป็น พี่น้องกัน  เราเป็นพี่น้องกัน  ย้ำอยู่นั่นแหละ หนูรู้แล้ว.  …...ไอ้พี่มิยูบ้า

     

    เรื่องอะไรมาว่าพี่ เธอเองก็เหมือนกัน ทำอะไรกับคนอื่นเขารู้ตัวบ้างหรือเปล่า?”

     

    หนูทำอะไร พี่นั่นแหละมายุ่งกับความรู้สึกของคนอื่นแล้วไม่รู้ตัวยังมาคอยตอกย้ำอีก...เมื่อไหร่จะรู้ตัวสักที?”

     

    พี่รู้ตัวตลอดเวลา รู้ดีด้วย เธอเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วฮารุกะ พี่ขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว

     

    มิยูปาหมอนลงตรงหน้าอย่างแรง ทำอะไรคนไม่ได้ก็ลงมันที่หมอนนี่แหละ...

     

    งั้นก็ไม่ต้องมาพูดกัน หนูก็เบื่อพี่เหมือนกันแหละ คนขี้ขลาด!

     

    ฮารุกะ!!”

     

     

    เฮ้...เสร็จยัง  ฉันง่วงแล้วนะ

    เสียงริกะทักอย่างงัวเงีย  เหมือนเป็นระฆังอย่างดี  เพราะทำให้มิยูต้องเบรคตัวเองทันทีเหมือนกัน

     

    ฮารุกะที่เตรียมจะวิ่งหนีอยู่แล้วก็เลยต้องตอบคำถามริกะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เสร็จแล้ว หนูก็จะนอนแล้วเหมือนกัน พี่จะนอนบนเตียงหรือข้างล่างล่ะ?”

     

    นอนบนเตียงละกัน สบายหน่อย  พูดเสร็จก็ทิ้งตังลงนอนทันที

     

    ราตรีสวัสดิ์ ทั้งสองคน

     

    ราตรีสวัสดิ์  

     

    ฮารุกะจัดการลากเบาะของตัวเองไปชิดผนังห้องด้านหนึ่ง ที่เหลือก็แล้วแต่ว่าใครจะนอนตรงไหนก็เปลี่ยนที่ได้ตามใจตัวเอง

     

    จัดที่นอนเสร็จก็ล้มตัวลงนอน หันหน้าเข้าหาผนังห้อง โดยไม่สนใจคนที่ยืนมองอยู่เลยแม้แต่น้อย

     

    มิยูมองแผ่นหลังบางนั่นแล้ว นึกอยากทำ อะไรตามใจตัวเองดูสักที อยากเข้าไปใกล้ๆแล้ว.......

     

    ฮารุกะ….ถ้าพี่ทำอะไรลงไป เธอจะโกรธขนาดไหนนะ ถ้าวันหนึ่งพี่ทนไม่ได้ขึ้นมาล่ะ…………….

     

    แต่ที่ทำได้ตอนนี้คือ...เดินไปปิดไฟกลางห้อง เหลือพียงโคมไฟเล็กหัวเตียง แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

     

    ฮารุกะผงกศีรษะขึ้นมองตาม......

     

    โธ่เอ้ย....นึกว่าจะง้อเราซะอีก งี่เง่าจริงเลย

     

    คิดอย่างโกรธๆแล้วก็เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนใหนก็ไม่รู้  

     

    ฮารุกะรู้สึกตัวอีกทีตอนที่มีใครบางคนลงนอนข้างๆตัว

     

     ความหนาวของอากาศและไออุ่นจากคนคนนั้นกระตุ้นให้ฮารุกะขยับตัวเข้าหาโดยอัตโนมัติ

     

    มือบางวางพาดบนอกกว้าง ขณะที่ร่างเล็กเบียดอีกฝ่ายจนชิด  และ…..

     

    ฮารุกะคงจะหลับต่ออย่างเป็นสุขถ้าไม่รู้สึกถึงมืออุ่นที่กำลังลูบไล้แผ่นหลังของเธอไปทั่ว......

     

    .....ช้าๆ  แต่ว่านุ่มนวล  ทะนุถนอม

     

    ก่อนมือนั้นจะไล้มายังหน้าท้องแบนราบ เอวเล็กบาง และสัมผัสอกเนียนมือ

     

    อือ.....เสียงครางของใครคนหนึ่งหลุดดังเบาๆ

     

    ฮารุกะจำได้.....................เสียงของเธอเอง

     

    เสียงเหมือน......................คนที่กำลังมีความสุขอย่างแปลกประหลาด

     

    ฮารุกะ    คราวนี้เสียงเรียกชื่อของเธอดังพร่า ชิดหูบาง

     

    ฮารุกะขยับมือลูบไล้แผ่นอกตรงหน้าช้าๆ ใช้สัมผัสแทนดวงตาในความมืดของกลางคืนนั้น

     

    อย่า!.....

     

    ไม่ทันสิ้นเสียงห้าม ฮารุกะรู้สึกถึงความร้อนจากริมฝีปากอุ่นที่กดทับลงมาอย่างเร่าร้อน......

     

    เนิ่นนาน.. ฮารุกะหลับตารับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ

     

    พี่มิยูฮารุกะครางชื่อนี้ออกมา   ทำไมน่ะเหรอ.....

     

    เพราะเธอจำได้น่ะสิ........................

     

    จำได้ว่าเป็นพี่มิยูตั้งแต่ตอนที่ร่างสูงๆนั่นลงนอนข้างๆในตอนแรก

     

    ฮารุกะ...เธอตื่นอยู่เหรอ?”  เสียงถามยังพร่า  แปลกใจผสมตกใจ

     

    ฮารุกะยิ้มออกมา ตอบมิยูในความมืดนั้น

     

    ถ้าหนูไม่ตื่นจะรู้เหรอว่าเป็นพี่

     

    แล้วทำไม?”

     

    ทำไม ถ้าหนูตื่นอยู่ พี่ก็จะไม่ยอมจูบหนูอย่างนั้นเหรอ?”

     

    ฮารุกะถามพลางเบียดตัวเข้าหามิยูมากขึ้น  มิยูยังงงๆกับปฏิกริยาของคนตรงหน้า  ได้แต่นอนอึ้งอยู่

     

    เลยถูกฮารุกะรั้งใบหน้าเข้ามาใกล้ และเป็นฝ่ายจูบมิยูซะเองเลย

     

    (ให้มันได้อย่างนี้สิ...รุกะ)

     

    เวลาผ่านไปเป็นครู่กว่ามิยูจะมีโอกาสได้พูดบ้าง

     

    ฮารุกะ เธอไม่โกรธเหรอที่พี่จูบเธอ?”

     

    แล้วพี่ล่ะ...หนูก็จูบพี่นี่ แถมยังเป็นฝ่ายกอดพี่ก่อนด้วยซ้ำ

     

    พี่จะโกรธเธอได้ยังงัยเล่า ก็.....

     

    ก็....อะไร?” 

     

    ฮารุกะรุกถามเมื่อเห็นมิยูอ้ำอึ้ง

     

    ก็พี่อยากให้เธอทำอย่างนี้นี่นา

     

    มิยูบอกเสียงเบา   กดจูบปลายคางเล็กหนึ่งที

     

    ตอนนี้กลายเป็นว่า ฮารุกะมานอนทับอยู่บนตัวมิยูเกือบครึ่ง โดยมีแขนแข็งแรงกอดเอวบางไว้แน่น

     

    ก็เหมือนกัน หนูก็อยากให้พี่กอดหนู  จูบหนู  มากกว่าทำเย็นชาใส่อย่างวันนี้

     

    เธอหมายความว่า.....

     

    มิยูมองฮารุกะงงๆ เริ่มเข้าใจในสิ่งที่ร่างบางพูดแต่ก็ยังอดไม่แน่ใจไม่ได้

     

    ฮารุกะหัวเราะออกมาเบาๆ ซบหน้าลงกับอกมิยู

     

    พี่ใจเต้นแรงจังเลยค่ะ หนูได้ยินชัดเลยนะเนี่ย ตรงนี้ใช่มั้ยค่ะหัวใจของพี่?”

     

    ฮารุกะลากนิ้วไปหยุดตรงอกซ้ายของมิยู แนบใบหน้าหวานกับตรงนั้นนิ่งนาน

     

    ฮารุกะ?”

     

    คะ?”

     

    เธอก็รู้สึกเหมือนพี่ใช่มั้ย?  เรา...เราสองคนรักกันใช่มั้ย?”

     

    มิยูกระซิบถามในความมืด ฮารุกะพยักหน้ารับ

     

    แต่ไม่ใช่แบบพี่น้องที่พี่ชอบพูดนะ

     

    ก็พี่ต้องย้ำตัวเองนี่ บอกตัวเองตลอดว่าเธอเป็นแค่น้องเท่านั้น ถ้าไม่อยากเสียเธอไป พี่ก็ต้องทนให้ได้

     

    แล้วทำไมวันนี้ถึงทนไม่ได้ล่ะ?”

     

    ก็...เมื่อตอนหัวค่ำเธอหลุดออกมาน่ะสิ พี่ไปนั่งคิดถึงเรื่องที่เราทะเลาะกันดูถึงรู้ว่าที่แท้ก็เรื่องเดียวกัน

     

    ก็เลยรุกเลย

     

    ใครบอกเธอรุกพี่ก่อนต่างหากล่ะ อย่าลืมสิว่าเธอเป็นคนกอดพี่ก่อนนะฮารุกะ

     

    ได้ยินน้ำเสียงมั่นใจแบบนั้น ฮารุกะก็ถอยกลับมานอนบนเบาะของตัวเองทันที

     

    ไม่เห็นจำได้

     

    เสียงเล็กอุบอิบตอบ

     

    มิยูขยับเข้ามาใกล้  ก้มตัวคร่อมร่างเล็กไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง

     

    งั้นจะทวนความจำให้

     

    เสียงนุ่มบอกชิดริมฝีปากบาง ฮารุกะหน้าแดง หันหน้าหนีทันที

     

    อย่านะพี่มิยู..คนอื่นๆก็อยู่ เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก

     

    อย่าห้ามเลย พี่อยากจูบเธอจะแย่  รอมาตั้งนาน ขอทำตามใจตัวเองสักทีเถอะ ....นะ

     

    น้ำเสียงอ้อนเอาตรงๆแบบนั้นทำเอาฮารุกะเกือบหลงไปด้วยเหมือนกัน

     

    แต่...มันไม่...

     

    สัญญา   แค่จูบกับกอด.…..นะ

     

    เฮ้อ.......อ้อนซะขนาดนี้...ใครจะใจแข็งกับพี่ได้ล่ะ..พี่มิยู

     

    เช้าวันต่อมา ใครที่ตื่นนอนก่อนก็จะเห็น ภาพร่างเล็กบางที่หลับสนิทโดยมีคนตัวสูงนอนกอดซ้อนหลัง

    แขนสองข้างของมิยูรวบเอวเล็กไว้จนชิด  ใบหน้าที่ฉายแววแห่งความสุขนั้นซุกซบกับซอกคอของฮารุกะ

    หลับสนิทใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

    ...........................................................

     มาแล้วๆๆๆ.. ขอโทษน๊า ช่วงนี้งานยุ่งมากๆๆๆ.. ปลีกตัวมาไม่ได้เลย
    เพราะฉะนั้น.. อีกเรื่องเค้าขอติดไว้ก่อนนะคะ อิอิ
    เอาตอนพิเศษมาฝาก หวังว่าจะชอบกันนะคะ
    ป.ล.ขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์ กำลังใจ และการติดตามค่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×