ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infatuation MimI

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 57


                ก๊อกๆๆ

                มิยูเคาะประตูก่อนจะเปิดพรวดเข้าไปในห้องผู้บริหาร.. ที่ตอนนี้คาดว่าแม่กับพ่อคงอยู่ด้วยกันแน่นอน...

                “ นายแม่ !!” เสียงมิยูดังขึ้นก่อนที่จะก้าวเท้าเข้ามาในห้องเต็มตัวเสียอีก จึงไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้มีใครอีกคนกำลังนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาด้านในด้วย

     

                “ มาแล้วหรอลูก..”

     

                “ ค่ะ.. นายแม่มีเรื่องอะไรให้มิยูช่วยหรอคะ...” มิยูถาม พลางหันไปก้มศีรษะเคารพคนที่นั่งอยู่อย่างรู้จักดีในสายธุรกิจ ใครเล่าจะไม่รู้จักคุณพ่อของดาราชื่อดัง มิยาชิตะ  โชจิ

     

                “ ก็... เอ่อ..” คุณนายนากาโอกะเหลือบมองพ่อฮารุกะอย่างลังเลว่าควรจะพูด หรือรอก่อนดี

     

                “ ชั้นอยากให้เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ฮารุกะชั่วคราว.. ได้มั้ย” โชจิเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจนัก เป็นเรื่องภายในที่คนอื่นอาจไม่รู้ว่าเค้ากับบุตรีนั้นมีปัญหากันจนร่างบางไม่ยอมรับเงินที่โอนเค้าบัญชีแม้แต่เยนเดียว แถมยังกล้าแกร่งออกจากบ้านมาอยู่คอนโดตัวคนเดียวเสียอีก

                ... เค้าเองก็ไม่เข้าใจนักว่ามันจะสำคัญอะไรกับการเป็นดารานักหนา ในเมื่อเค้าเองสามารถเลี้ยงลูกสาวได้อย่างสุขสบายไม่มีทางขาดอยู่แล้ว..

                แต่ยัยตัวดีก็ยังดื้อ.. จนเค้าต้องส่งคนมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ แล้วพอดีกับที่ผจก.คนนั้นขอลาพักไปฮันนีมูนอีก จะให้เค้าปล่อยคนอื่นที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามาดูแลลูกสาวน่ะหรอ ฝันไปเถอะ

     

                “ เอ๋ ??” มิยูมองหน้าพ่อฮารุกะอย่างแปลกใจ.. แล้วทำไมฮารุกะไม่เห็นพูดเรื่องนี้เลยล่ะ

     

                “ แล้วชั้นก็อยากให้เธอเก็บเป็นความลับด้วยว่าชั้นมาขอให้เธอช่วย.. เรื่องค่าตอบแทนไม่ต้องห่วง... ขอแค่เธอคอยดูแลลูกสาวชั้นตลอด 24 ชั่วโมงก็พอ... ได้มั้ย”

     

                “ เอ่อ..”

     

                “ ส่วนเรื่องตารางงานเดี๋ยวชั้นจะให้คนอื่นคอยดูแล... เธอรับผิดชอบแค่ไปรับ-ส่งก็พอ แถมชั้นได้ข่าวมาว่าเธอเรียนที่เดียวกับลูกสาวชั้นด้วยนี่ ถ้ายังไงถือซะว่าเห็นแก่อา.. ช่วยดูแลฮารุกะหน่อยได้มั้ย”

     

                “ มิยู.. ลูกก็รู้ว่าวงการมายาบางครั้งมันก็อันตราย แล้วหนูก็พักที่เดียวกับน้องนี่ลูก... ยังไงก็ช่วยเป็นธุระดูแลน้องหน่อยได้มั้ยลูก..” ผู้เป็นแม่ก็จนปัญญาจะปฏิเสธ เมื่อคุณพ่อตรงหน้าดูเหมือนจะเป็นพวกหวงลูกสาวเสียเหลือเกิน

                ทั้งๆที่ความจริงฮารุกะเองก็สามารถดูแลตัวเองได้ดีแล้วในสายตาเธอแท้ๆ.. แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าเป็นลูกเธอ เธอก็คงห่วงไม่น้อยเหมือนกัน

                ดารา แอนตี้ สโตกเกอร์ มันหนีไม่พ้นอยู่แล้วใช่มั้ย..

     

     

                “ เอ่อ...” มิยูถึงกับพูดไม่ถูก หากเอาเข้าจริงๆเค้าไม่คิดว่าจะมาเจอพ่อฮารุกะที่นี่ด้วยซ้ำ แล้วการจะให้เค้าไปดูแลใครน่ะหรอ.. ฮึ นอนหลับแล้วฝันเอาอาจจะง่ายกว่า

                ชีวิตเค้า.. มันไม่ได้มีเวลาจะไปใส่ใจลูกคนอื่นขนาดนั้นซะหน่อยนะ

     

     

                “ นะจ๊ะลูก... อย่างน้อยก็แค่รอให้ผจก.คนเดิมของฮารุกะเค้ากลับมา” แต่เมื่อคนเป็นแม่ถึงกับลงทุนพูดด้วยตัวเอง มิยูก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้าตกลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

                แต่หากจะคิดไปอีกแง่... มันก็จะทำให้เค้าได้ลิ้มรสร่างบางมากขึ้นกว่าเดิมรึเปล่านะ ฮ่าๆๆ

     

                ... ฝากแมวไว้กับปลาย่าง.. ไม่ใช่ความผิดลูกนะนายแม่...

               

     

                “ ก็ได้ค่ะ...” หลังจากนั้นมิยูก็ขอตัว.. เลี่ยงออกมารับโทรศัพท์จากนางแบบสาวที่เพิ่งเจอกันเมื่อวันก่อนอย่างอารมณ์ดี...

                ... ไม่รู้ว่าคิดถูกรึเปล่านะที่ตกลง...

     

     

     

                แชะ ๆ

                “ เงยหน้าหน่อยครับ... อีกนิดฮะ โอเค..” เสียงช่างภาพกำลังรัวชัตเตอร์จนมือเป็นระวิงเมื่อนางแบบสาวตรงหน้าโพสต์ท่าได้อย่างมืออาชีพ..

     

                “ ใช้ได้มั้ยคะพี่โคจิ” เสียงหวานดังขึ้น ก่อนจะได้รับยิ้มหวานๆเป็นคำตอบจากช่างภาพ

     

                ฮารุกะเข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมถ่ายในเซตต่อไป.. พอดีกันกับที่มิยูเปิดประตูเข้ามาในสตูดิโอ

               

                “ มิยู..” เสียงนางแบบคนนึงที่กำลังนั่งรอเช็คภาพอยู่ดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนที่เพิ่งเดินเข้ามาได้ไม่ยาก.. ริมฝีปากหนายกยิ้มเมื่อเห็นนางแบบสาวในชุดลำลองเตรียมพร้อมที่จะไปต่อ

                ตอนแรกมิยูก็ว่าจะไม่ออกมาตอนบ่ายๆอย่างนี้หรอก.. หากไม่เพราะว่าต้องเข้ามาหานายแม่ คิดหรือว่าคนอย่างนากาโอกะ  มิยูจะยอมลุกจากเตียง

     

                “ ไงโอมิ..” มิยูทรุดตัวนั่งลงในเก้าอี้ข้างๆกับร่างบางที่ค่อนไปทางอวบนิดๆ ก่อนจะทักทายคนอื่นอย่างคุ้นเคย

     

                “ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะคะ.. มิยูหิวมั้ยคะ” โอมิถามด้วยรอยยิ้มหวานหยด ใครจะคิดล่ะว่าแค่โทรไปทำเสียงออดอ้อนนิดๆร่างสูงก็จะตอบตกลงมารับเธอแล้ว

                ... ใครๆก็รู้.. ว่าคนอย่างนากาโอกะ  มิยูน่ะ ถ้าเค้าจะมา.. เดี๋ยวเค้าก็มาเอง

     

                “ ไม่เป็นไร.. ตามสบายเถอะ” มิยูพูดอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นกดเกมเล่น.. ในใจก็พาลคิดไปถึงคนหน้าหวานที่เพิ่งลุกขึ้นเมื่อตอนสายๆแล้วก็โวยวายว่าเค้าทำเธอโดดเรียนไปโดยปริยาย

                .. ก็ไม่เห็นจะบอกก่อนเลยว่ามีเรียนตอน 9 โมงอ่ะ.. ใครจะไปตรัสรู้ล่ะ..

                เท่านั้นแหละ.. แม่เจ้าประคุณก็ยึดเสื้อคลุมของเค้า หยิบกระเป๋าหาคีย์การ์ดก่อนจะวิ่งออกจากห้องเค้าไปห้องตัวเองเสียอย่างเร็ว.. ไม่มีทิ้งทวนให้เค้าชื่นใจซักนิดเลย

                ... ไม่รู้เหมือนกันนะว่าถ้ากลับไป จะได้เจอมั้ย...

     

                .... แล้วมันเรื่องอะไรกันนะ.. ทำไมถึงต้องให้เค้าไปเป็นผู้จัดการให้เด็กแสบช่างยั่วแบบนั้นด้วย.. เดี๋ยวก็ไม่ได้เป็นอันทำอะไรกันพอดี พวกผู้ใหญ่นี่ก็คิดอะไรกันอยู่ไม่รู้แฮะ..

     

                แต่ก่อนที่มิยูจะคิดไปได้ไกลกว่านั้น.. สมาธิทั้งหมดก็เป็นอันต้องถูกเรียกกลับมาเมื่อเสียงของนางแบบสาวที่นั่งข้างๆก้มลงมากระซิบเบาๆที่ข้างหูว่า

                “ ... คงอีกซักพัก.. มิยูอยากได้ออเดิร์ฟก่อนมั้ยคะ..”

     

                ...ฮึ... แล้วอย่างนี้ใครคนไหนมันจะโง่ปฏิเสธล่ะจริงมั้ย

     

     

                ร่างสูงไม่ได้ตอบคำถาม ไม่ได้ให้คำตอบอะไรแต่อย่างใด.. กลับเดินเปิดประตูออกไปด้านนอกที่เป็นส่วนของออฟฟิศที่เค้าเพิ่งขึ้นไปหานายแม่มาเมื่อครู่

                มีร่างสมส่วนของนางแบบสาวคนเมื่อครู่ตามมาติดๆ.. ร่างสูงเดินนำไปยังทางหนีไฟที่คงไม่มีใครไปวุ่นวายแถบนั้นแน่ๆ...

     

     

                “ อ๊ะ... มิยู.. อ๊า...” เสียงครางหวานดังจากเรียวปากบางที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีหวาน ซึ่งมิยูก็ไม่ได้ก้มลงไปแตะต้องแต่อย่างใด..

                เมื่อเปิดประตูออกมาอยู่ตรงบันไดแคบๆ.. มิยูก็ไม่รอช้าที่จะตวัดร่างสมส่วนนั่นขึ้นนั่งบนราวบันไดโดยที่ตัวเองแทรกอยู่กลางเรียวขางามที่แยกออกจากกัน กระโปรงสั้นถูกถลกขึ้นจนเปิดช่องทางให้มิยูได้มีโอกาสเข้าไปสำรวจได้มากขึ้น..

                นัยน์ตาคมพราวระยิบเมื่อหญิงสาวเหมือนจะรู้ใจเค้าอย่างดี ไม่ได้มีกางเกงซับหรือสเตย์อะไรทั้งสิ้น มีเพียงผ้าลูกไม้ที่กางกั้นระหว่างเค้ากับส่วนหวงห้ามนั้นไม่ให้เจอกันตรงๆ..

     

                “ มิยูขา... อาห์..” โอมิส่งเสียงเรียกให้มิยูกลับไปสนใจเธอเสียที... เล็บที่ถูกเคลือบสีไว้สวยงามเริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองอย่างไม่อยากรอนาน.. มือเล็กอีกข้างจับมือหนาของอีกคนขึ้นมาจับยังอกอวบของตัวเองอย่างเอาใจ

                แล้วมิยูก็ไม่ใช่ไก่อ่อน.. นิ้วเรียวสะกิดยอดอกอวบอย่างรู้งาน เนื้อนุ่มที่ล้นมือจนออกมาจนเก็บไม่หมดทำให้มิยูหวนนึกไปถึงใครอีกคนที่เค้าได้สัมผัสในยามค่ำคืน

                ... แม้มันจะไม่ล้นทะลักจนเก็บไม่หมด.. แต่มันก็เต็มไม้เต็มมือกำลังพอดีให้เค้าอยากเข้าไปหยอกล้อ..

     

     

                “ มิยู... รออะไรล่ะคะ....” เสียงแหบพร่าของโอมิบ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

                มือหนาไม่ช้า... ไม่มีการเล้าโลมอะไรอีกต่อไป...

     

     

                “ อาห์...” นิ้วเรียวยาวที่แทรกเข้าไปทำให้นางแบบสาวต้องหลุดครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ มิยูก็ดีอย่างนี้เอง... รู้จักทุกจุด ทุกส่วนของผู้หญิงดีกว่าตัวเธอซะอีก

     

                ขาเรียวสวยตวัดกอดที่เอวของมิยู เรียวแขนเล็กดึงรั้งให้คนสูงกว่ากดเข้าไปใกล้กว่าเดิม.. ยิ่งเมื่ออารมณ์ที่คุกกรุ่นถูกตอบสนองได้อย่างถึงใจ

     

                ไม่นาน.. โอมิก็กระตุกเกร็งไปทั้งร่างก่อนจะล้นออกมาจนเปื้อนมือ ซึ่งมิยูก็ถอนนิ้วออกแล้วสอดเข้าไปในปากของหญิงสาวที่ระทวยอยู่ตรงหน้า

                ลิ้นเล็กดูดเลียทำความสะอาดจนหมดจด...

     

     

                แล้วมิยูก็ก้าวเท้าออกไป.. ทิ้งให้โอมินั่งระทวยอยู่กับพื้นอย่างไม่มีสติ

                ร่างสูงก้าวเข้าไปในห้องน้ำข้างๆ.. ก่อนจะกดน้ำยาล้างทำความสะอาดมือตัวเองอย่างเร่งรีบ ราวกับว่ามันกำลังจะติดเชื้อโรคก็ไม่ปาน...

                ... ให้ตายเหอะ อยากกลับไปฟัดฮารุกะชะมัดเลย...

     

     

                “ อ๊ะ..” แต่ดูเหมือนมิยูจะโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ.. เมื่อจู่ๆฮารุกะที่เพิ่งถ่ายแบบเสร็จเมื่อครู่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำซักห้องในทั้งหมด

                มือหนาดึงข้อมือเล็กนั่นให้หยุดไว้กับที่ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...

     

                “ มีธุระต่อรึเปล่า” มิยูถามคนที่กำลังทำหน้างงอยู่ในตอนนี้

     

                “ ไม่ค่ะ..”

     

                “ งั้นมากับพี่หน่อยสิ” มิยูไม่รอฟังคำทัดทาน ออกแรงดึงฮารุกะให้รีบเดินตามเข้าไปยังลิฟต์ส่วนตัวของผู้บริหารอย่างขัดไม่ได้

     

                “ พี่มิยุ... จะพาช..” ก่อนจะพูดได้จบประโยค.. ริมฝีปากบางก็ไร้ซึ่งอิสระอีกต่อไป.. ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้าสำรวจอย่างจาบจ้วง..

                มิยูดันฮารุกะติดกับผนังลิฟต์.. ก่อนจะตามไปใช้แขนแกร่งคร่อมกักทางออกไว้ไม่ให้ได้หลบหนี

     

     

                “ ไปห้องพี่กัน..” เมื่อลิฟต์เปิดออก มิยูก็ไม่ยอมเสียเวลาจะลากฮารุกะเดินตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวที่เค้าสั่งให้ทำเป็นห้องทึบและเก็บเสียงเพราะเป็นพวกชอบอยู่คนเดียว

                เมื่อก่อนเค้าก็ไม่ค่อยเห็นประโยชน์นักหรอกเพราะไม่ค่อยได้เข้าไปนั่งเท่าไหร่ ชอบไปนั่งทำกับป๋ามากกว่า แต่ดูเหมือนตอนนี้จะเริ่มคิดถูกเสียแล้วสิที่สร้างเก็บไว้

     

     

                “ อื้อ... อะไรกันคะพี่มิยู..” ฮารุกะถามอย่างตกใจ เมื่อทันทีที่ประตูปิดลงมิยูก็เข้ามาคว้ากระเป๋าเธอโยนไปทางอื่น ถอดเสื้อคลุมเธอไปอีกทาง.. แถมตอนปิดประตูทำไมต้องล็อกเสียแน่นหนาขนาดนั้นด้วยเล่า

                แล้วนี่มันห้องทำงานประสาไรกัน ทำไมถึงได้มีโซฟาข้างในด้วย..

     

                “ คิดถึง.. อยากกินฮารุกะจนแทบบ้าแล้ว...” ปากก็อธิบายเป็นคำพูด ส่วนมือก็กำลังอธิบายเป็นการกระทำ.. มิยูไม่อาจจาบจ้วงใช้กำลังบังคับให้ฮารุกะโอนอ่อนยอมตามใจแน่นอน

                แต่เค้ารู้ดีว่า.. หากฮารุกะรู้ก็จะไม่มีทางปล่อยให้เค้าค้างอยู่แบบนี้แน่ๆ เหมือนเมื่อคืน..

     

     

                “ เดี๋ยวสิคะ.. พี่เป็นอะไรคะเนี่ย..” ฮารุกะผลักมิยูออกก่อนที่ริมฝีปากหนานั่นจะกดแนบลงมาอีกครั้ง.. ดวงตาหวานมองมิยูอย่างไม่เข้าใจ

                ... เป็นบ้าไรเนี่ย เจอหน้าก็จะตื้ดอย่างเดียวเลยรึไง...

     

     

                “ เป็นผ..ฮารุกะไงคะ.. ขอนะ พี่ไม่ไหวแล้ว...” หากจะบอกว่าไม่เกิดอารมณ์กับหุ่นอวบอึ๋มเมื่อกี้เลยก็คงไม่ใช่.. แต่คงต้องบอกว่า ไอ้ตอนที่กำลังจะตื้ดนั่นน่ะ.. จู่ๆหน้าของฮารุกะมันก็ซ้อนทับขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่รู้

                ไหนจะเสียงหวานๆที่ครางอยู่ข้างหูทั้งคืนนั่นอีก..

     

                มิยูไม่รอช้า.. มือหนาดึงชายเสื้อออกจากกระโปรงสั้น.. ดันแผ่นหลังบางติดกับประตูที่เพิ่งปิดไปเมื่อครู่ มือหนาเลื้อยขึ้นสูงอย่างรู้จุดหมาย ขณะที่อีกข้างก็เคลื่อนลงต่ำแล้วเลิกชายกระโปรงขึ้นสูงอย่างรู้งาน

                อาจเป็นเพราะฮารุกะใส่กางเกงซับไว้ภายใน มือหนาก็เลยไม่อาจเข้าไปสำรวจดึงดันเหมือนดั่งใจได้..

                มิยูจึงพาฮารุกะมานอนราบอยู่กับโซฟาที่ไว้รับแขนตัวใหญ่..

     

                ร่างสูงทรุดลงตามคร่อมทับ แม้จะทุลักทุเลแต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอุปสรรค.. เมื่อมิยูสามารถรูดสิ่งขัดขวางนั้นออกจากร่างบางได้เป็นผลสำเร็จ..

     

     

                “ พี่มิยู... เอาดีๆค่ะ..” ฮารุกะจับมือหนาไว้ไม่ให้รุกล้ำ เมื่อเธอยังไม่ได้คำตอบก็อย่าหวังว่าจะได้แอ้มเลย..

    ร่างเล็กดันตัวลุกขึ้นนั่งกับเตียงโดยที่มิยูก็จำต้องเข้ามานั่งชิดอย่างเลี่ยงไม่ได้

                มือหนายังคงไม่ยอมแพ้.. ลิ้นร้อนๆนั่นก็เช่นกัน..

     

                มิยูเบียดตัวเข้าชิดกับร่างเล็ก.. ลิ้นร้อนลากดูดดึงต้นขอขาวจนเป็นรอยชัดกว่าเดิมอีกครั้งอย่างพอใจ มือที่ถูกจับไว้ก็ยอมอยู่นิ่งๆให้ฮารุกะจับซะให้พอใจ

     

     

                “ พี่ก็เอาดีๆค่ะ.. ไม่เคยมีใครบอกว่าพี่เอาไม่ดีเลยนะ” มิยูตอบยียวน.. ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความปรารถนาจนคนมองต้องสะท้านอายแทน ลิ้นร้อนไล้เลียที่กกหู ไล่ลงมาที่ต้นคอขาวแล้ววกกลับไปดูดดึงกลีบปากบางนั่นอีกครั้งอย่างชอบใจ

     

                “ อื้อ.. อย่ามาเล่นลิ้นนะ” ฮารุกะเบียงหน้าหลบไม่ยอมให้คนโตกว่าเปลี่ยนเรื่องแน่นอน

     

                “ งั้นเล่นอย่างอื่นได้มั้ย...” มือที่หลุดจากการเกาะกุมเริ่มละเลงนิ้วผ่านเสื้อเนื้อดีอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ..

     

     

                “ อื้อ.. ไม่เอา..” แต่มีหรือมิยูจะหยุดด้วยคำพูดแค่นี้ มือหนาที่ไล้วนไปมานั่นดูจะชอบใจที่เห็นฮารุกะสู้มือผิดกับคำพูดที่ออกจากปาก..

               

                “ เอาเถอะนะ...”

     

     

                “ คนบ้า...”

     

     

                “ อนุญาตนะคนดี.. ขอพี่เข้าไปนะคะ..”

     

     

                “ บอกมานะไปทำอะไรมา...” ฮารุกะเสียงเขียว คิดว่าเธอไม่รู้หรอว่าออกไปพร้อมๆกันกับยัยโอมิ นางแบบสาวหุ่นอวบอึ๋มคนนั้นน่ะ

     

                “ อื้อ.. ไปทำธุระมา...”

     

     

                “ แล้วมันยังไม่สมใจพี่อีกหรอคะ.. ธุระนั่นน่ะ” ฮารุกะยกมือขึ้นกอดอกประชด ให้คนที่กำลังเล้าโลมเตรียมความพร้อมอยู่ต้องชะงักมือ ยอมถอยออกมานั่งเคียงข้างร่างบางแต่โดยดี...

     

     

                “ ถ้าบอกว่ายังล่ะคะ..” มิยูตอบอย่างถือดี

     

                “ มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของชั้นนี่คะ..” คำตอบของฮารุกะทำให้มิยูรู้สึกเหมือนถูกท้าทาย มือหนาที่อยู่ไม่สุขเมื่อครู่เริ่มปั่นปวนอารมณ์ของคนที่นั่งนิ่งๆจนเริ่มไม่มีสติ

     

                “ นะ.. ฮารุกะ” มิยูขออีกครั้ง คราวนี้ไม่รอให้ฮารุกะตอบรับหรือปฏิเสธอีกแล้ว อารมณ์ที่ครุกกรุ่นของทั้งคู่ถูกเติมเชื้อไฟเข้าไปจนล้น ก่อนจะมอดไหม้ก็กินเวลาล่วงไปเกือบชั่วโมง

                ฮารุกะที่นั่งพิงอยู่กับบ่าแกร่งหายใจติดขัด ก่อนที่ความรู้สึกอะไรก็ไม่รู้ที่ตีตื้นขึ้นมาทำให้ขอบตาใสเริ่มแดงก่ำพร้อมกับหยาดน้ำใสๆที่ไหลรินออกมาช้า ไม่มีเสียงสะอื้นหรืออาการล่วงหน้าที่บ่งบอกให้มิยูเอะใจแต่อย่างใด

                มีเพียงมือเล็กที่ยกขึ้นปาดออกจากใบหน้าหวานเบาๆเท่านั้นที่เป็นการบ่งบอก ว่าเจ้าตัวรู้ดีว่ากำลังร้องไห้อยู่ ร้องไห้ในอ้อมกอดของคนที่เธอรัก แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะรักเธอบ้างรึเปล่า

     

     

     

     

                “ ฮารุกะ.. วันนี้ไปกินข้าวกัน ซาโอริอยากรู้จัก ไปนะๆ..” ยูกิที่เดินมาดักรอรุ่นน้องถึงหน้าห้องเอ่ยชวนร่างบางที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋า

                ซาโอริที่เป็นแฟนเค้าน่ะอยากเจอฮารุกะมาได้ซักพักแล้ว พอรู้ว่าเค้าเป็นพี่รหัสของดาราหน้าหวานนี่ล่ะก็.. เป็นอันอ้อนเช้า อ้อนเย็นให้เค้าพาไปเจอให้จนได้

                สุดท้าย.. คนที่รักแฟนยิ่งกว่าเพื่อนอย่างเค้าก็เลยต้องมาดักรอน้องรหัสอยู่ตอนนี้ไงล่ะ

     

                “ พี่ยูกิเลี้ยงนะ” ฮารุกะต่อรอง ขอแค่เป็นของฟรี เธอไม่มีปฏิเสธอยู่แล้ว.. ฮ่าๆๆๆ

     

                “ ได้สิ.. ตกลงไปนะ”

     

                “ ค่ะ.. ซัก 4โมงเป็นไงคะ”

     

                “ โอเค”

     

     

               

                “ อ๊ายยยยย.. นี่ฮารุกะจริงๆใช่มั้ยอ่ะ ว๊ายๆๆๆ.. ยูกิๆ ถ่ายรูปให้เค้าหน่อย” ซาโอริบอกแฟนอย่างตื่นเต้น ก่อนจะกระโดดมานั่งข้างร่างบางในชุดนักศึกษาที่อีกฝั่ง

     

                “ ฮ่าๆๆ.. เบาๆหน่อยซาโอริ เดี๋ยวผิวฮารุกะช้ำไอ้มิยูมันจะว่าเอาได้...” ยูกิเอ่ยแซว อย่างรู้ว่าระหว่างฮารุกะกับมิยูจะต้องมีอะไรซักอย่างแน่ๆ

     

                “ เกี่ยวไรกับพี่เค้าล่ะคะ” ฮารุกะบ่นอุบอิบ แต่ก็แอบดีใจน้อยๆที่โดนแซวอย่างนั้น

     

                “ เอ้า.. ไม่เกี่ยวหรอ เห็นโทรไปเมื่อคืนมันก็ว่านอนอยู่ห้องฮารุกะไม่ใช่หรอ” ยูกิได้ทีก็แซวใหญ่ เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนเค้าจะโทรไปชวนมิยูออกมาดื่มด้วยกันแต่ไอ้มิยูมันก็ไม่ยอมออกมาด้วยเพราะอยู่กับฮารุกะ ไม่ว่าง !!

     

                “ พี่เค้าก็แค่ไปหาข้าวกินค่ะ..” ฮารุกะตอบ

     

                “ กินข้าว.. หรือกินอะไรกันแน่น๊า..” ใครล่ะจะไม่รู้ว่าไอ้รอยแดงๆตรงต้นคอฮารุกะน่ะมันคือรอยอะไร แถมเค้าที่เป็นเพื่อนกับมิยูมาตั้งนานมีหรือจะไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนคนนี้มันนิสัยเสียอยู่อย่างคือ ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ

     

                “ T//////T

     

                “ ยูกิอ่ะ.. แซวน้อง หน้าแดงหมดแล้วเห็นมั้ยเนี่ย” ซาโอริที่เอ่ยออกมาอย่างนั้น แต่ก็ดูเหมือนจะชอบใจไม่น้อยกับหน้าแดงๆของเด็กหน้าหวานตรงหน้า กรี๊ด.. หน้าแดงแล้วตัวแดงไปหมดเลยอ่ะ

     

     

                “ แล้วทำไมมิยูไม่มาด้วยล่ะ.. ปกติก็ตัวติดกันตลอดไม่ใช่หรอ..” ซาโอริถามยูกิ ที่เธอเห็นว่าเจ้าสองคนนี้ชอบทำตัวเหมือนเป็นคู่แฝดกันก็ไม่ปาน

     

                “ มันว่ามีธุระน่ะ...” ยูกิตอบก่อนจะสนใจอาหารที่อยุ่ตรงหน้า

     

                “ หรอ...” ซาโอริถามอย่างไม่แน่ใจนัก เมื่อสายตาดันเหลือบไปเห็นเจ้าคู่แฝดที่พูดถึงกำลังเดินผ่านหน้าร้านไปกับผู้หญิงอีกคน ท่ามกลางสายตาหวานๆที่ดูเหมือนจะเจือความเศร้าขึ้นมากะทันหันของใครอีกคนทันที

     

     

                “ เอ่อ..”

     

                “ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ.. เรากินกันต่อเถอะค่ะ..” ฮารุกะก้มหน้าซ่อนความรู้สึก ตักอาหารเข้าปากอย่างไม่รู้รสตลอดจนกระทั่งกินอาหารเสร็จ

     

     

                “ ฮารุกะอย่าคิดมากนะ.. มิยูน่ะมันไม่อะไรหรอก” ยูกิบอกน้องรหัสอย่างรู้จักนิสัยเพื่อนตัวเองดี แต่ก็นะ.. คนมันจะคิด ห้ามอย่างไรก็คงคิดอยู่ดี

     

                “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ.. ความจริงหนูกับพี่เค้าก็ไม่ได้เป็นไรกันซักหน่อยนี่คะ...”

     

                “ ฮารุกะ..”

     

     

                “ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ.. พอดีมีนัดถ่ายละครต่อน่ะค่ะ” ฮารุกะรีบเอ่ยขอตัวก่อนจะสร้างความอึดอัดใจไปมากกว่านี้ให้กับรุ่นพี่ทั้งสอง

     

     

     

                “ ยูกิ.. ตกลงแฝดเธอน่ะยังไง..” เมื่อฮารุกะเดินจากไป ซาโอริก็หันกลับมาถามแฟนสาวที่ยืนอยู่อย่างอยากรู้คำตอบ

     

                “ เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะซาโอ..”

     

                “ ง่า.. เค้าสงสารน้องนะ”

     

     

                “ เค้าก็สงสาร แต่ซาโอก็รู้ว่ามิยูเป็นคนยังไงไม่ใช่หรอ..” ใช่ซาโอริรู้ดีว่ามิยูเป็นคนยังไง เด็กที่มีความต้องการไม่สิ้นสุดและโหยหาความรักขนาดนั้น เธอไม่เคยเห็นมิยูจะหยุดอยู่กับใครได้ซักที

     

     

                “ เค้าสงสารน้องจัง..”

     

               

     

     

                กริ๊ก !!

                เวลา 22.00 นาฬิกา

                “ ทำไมเพิ่งกลับ..” เสียงมิยูดังขึ้นท่ามกลางความมืด ส่งผลให้คนที่เพิ่งเปิดประตูห้องเค้ามาตกใจปล่อยของหล่นลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

                “ พ... พี่มิยู”

     

                “ ก็ใช่น่ะสิ.. คิดว่าใครล่ะ” มิยูตอบเสียงแข็ง นั่งกอดอก.. ทั้งๆที่เค้าอุตสาห์รีบกลับห้องเพราะอยากมากอดฮารุกะใจจะขาด กลับเปิดเข้ามาแล้วเจอแต่ห้องเปล่าๆ เจ้าของห้องหายไปไหนก็ไม่รู้

     

                “ พอดี.. ต้องถ่ายแก้บางฉากน่ะค่ะ ก็เลยดึกไปหน่อย” ฮารุกะอธิบายก่อนจะเปิดไฟ

     

                “ แล้วกินข้าวมารึยัง..” มิยูถาม ใบหน้าแดงๆนั่นทำให้ฮารุกะรู้ได้ไม่ยากว่ามิยูคงจะดื่มมาอีกแล้วแน่ๆ

     

                “ กินที่กองแล้วค่ะ.. พี่ล่ะคะ” ฮารุกะวางของลงกับโต๊ะกลางห้องก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นเทน้ำใส่แก้วดื่ม

     

                “ ยัง..”

     

                “ ตายแล้ว.. ยังไม่กินข้าวแล้วไปกินเหล้าเนี่ยนะคะ..” ฮารุกะถามเสียงหลง

     

                “ ก็เมียไม่อยู่ ไม่มีคนทำกับข้าวให้กิน มีเหล้าวางอยู่บนชั้นก็เลยเอามากินรองท้อง..” มิยูเอ่ย

     

                “ จะบ้าหรอคะ..” ฮารุกะว่าเสียงดุ ก่อนจะรื้อตู้เย็นออกเพื่อจะหาของสดทำอะไรให้มิยูทาน แต่ก็มีเพียงขนมปังกับแยมไว้ทำแซนวิสเท่านั้น

     

                “ ไม่บ้าหรอก.. เธอนั่นแหละ กลับดึกขนาดนี้ใครมาส่ง” ฮารุกะสะดุ้งน้อยๆเมื่อจู่ๆมิยูก็ก้าวมาอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

     

                “ ก็คนที่กองน่ะคะ.. ช่วงนี้ไม่มีพี่ผจก.เลยต้องติดรถเค้ากลับมาก่อน”

     

                “ แล้วรถเธอล่ะ..”

     

                “ ก็เมื่อเช้าชั้นไปกับพี่นี่คะ.. จะกลับมาเอารถตอนไหนได้ล่ะ” ฮารุกะอธิบาย

     

                “ แล้วทำไมไม่โทรหาพี่..”

     

                “ ก็.. ชั้นไม่รู้ว่าพี่จะว่างรึเปล่านี่คะ” น้ำเสียงที่เอ่ยปกปิดความน้อยใจได้ไม่มิด เมื่อฮารุกะนึกไปถึงภาพเมื่อตอนเย็นก็ยิ่งทำให้ความน้อยใจพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างฉุดไม่อยู่

     

                “ ทำไมพี่ต้องไม่ว่างล่ะ..” มิยูถามกลับ

     

                “ ก็...”

     

                “ก็อะไร...”

     

                “ ก็ชั้นกลัวพี่ติดธุระน่ะคะ..” ฮารุกะเอ่ยเสียงอ่อย

     

                “ ก็โทรมาก่อนสิ ถ้าไม่ว่างแล้วพี่จะบอก..” มิยูตอบ

     

                “ ค่ะ..” แต่ภายในใจฮารุกะไม่ได้ตอบรับอย่างที่พูดเลย เมื่อในใจกลับพาลนึกไปว่าหากโทรไปแล้วมิยูกำลังอยู่กับผู้หญิงอื่นล่ะ เธอจะทำอย่างไรได้

     

               

                “ แต่พี่ไม่ชอบเลยนะ.. คนในกองที่มาส่งผู้หญิงหรือผู้ชาย”

     

                “ ผู้ชายค่ะ..”

     

                “ ทำไมต้องให้ผู้ชายมาส่ง”

     

                “ ก็พี่เค้าจะผ่านหน้าหอพอดีน่ะคะ.. ก็เลยขอติดรถมา” ฮารุกะพยายามอธิบาย

     

                “ แต่พี่ก็ไม่ชอบอยู่ดี.. ครั้งหน้าถ้าจะมา ก็ต้องเป็นผู้หญิงนะรู้มั้ย..” มิยูบอก

     

                “ ทำไมล่ะคะ..”

     

                “ ไม่ต้องถามมากหรอกน่ะ.. ทำตามที่บอกก็พอ เข้าใจรึเปล่า”

     

                “ ค่ะ..”

     

                “ ดีมาก..” สิ้นเสียง มิยูก็สวมกอดเข้าที่เอวบาง.. ริมฝีปากก้มลงกัดแซนวิสพอดีคำที่ฮารุกะเพิ่งทำให้ในมือเล็กก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆอย่างพอใจ ท่ามกลางแก้มแดงๆของอีกคนที่รู้สึกร้อนๆหนาวๆท่ามกลางแขนแกร่งที่รัดตัวเองอยู่ในตอนนี้

     

     

     

                “ อิ่มแล้ว..” หมดคำสุดท้าย มิยูก็ยกยิ้มอย่างพอใจให้หน้าหวานๆนั่นต้องเขินอายอีกครั้งจนได้ เมื่อปลายจมูดโด่งดูเหมือนจะจงใจเฉียดผ่านแก้มบางๆที่หอมกรุ่นนั่นเสียเหลือเกิน

     

                “ อิ่มก็ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ.. เหม็นไปทั้งตัวแล้วเนี่ย” ฮารุกะผลักตัวมิยูออกเบาๆ

     

                “ ไปก็ได้.. แต่จะกลับมานอนด้วยนะ” มิยูพูดจบก็ไม่รอคำตอบ ผละออกจากห้องไปทิ้งให้ฮารุกะได้แต่เข่นเขี้ยวในใจกรอดๆก่อนจะเป็นฝ่ายไปอาบน้ำบ้าง

     

     

     

                กริ๊ก !!

                สวบ !!

     

                “ ว๊าย..” ฮารุกะร้องเสียหลงเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ จู่ๆก็โดนมือของใครอีกคนรัดเข้าที่เอวเล็กแน่น

     

                “ หอมจัง..” มิยูกดจมูกสูดกลิ่นจากต้นคอขาวตรงหน้าอย่างเอาแต่ใจ มือหนาเริ่มสอดเข้าไปตามสาบเสื้อคลุมที่แยกออกอย่างรู้หน้าที่ ให้ฮารุกะต้องสะท้านกับลมหายใจร้อนผ่าว

     

                “ อื้อ.. พี่มิยู..” ฮารุกะพยายามแกะมือหนาที่แข็งแกร่งแระหนึ่งป้อมปราการออก แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล

     

                “ จ๋า...” ริมฝีปากหนาเริ่มแตะชิมรสเนื้อที่ต้นคอขาวบ้างอย่างอดใจไม่อยู่ นัยน์ตาคมฉายแววกล้ากระหายเหมือนหมาป่าที่กำลังจ้องลูกแกะก็ไม่ปาน

     

                “ อย่าเพิ่งค่ะ.. ขอชั้นแต่งตัวก่อน”

     

                “ แต่งทำไม.. เดี๋ยวก็ถอดอยู่ดี” มือหนาเริ่มด้วยการกระตุกโบว์ที่รัดเสื้อคลุมให้หลุดออกจากกัน เผยให้เห็นเรือนร่างขาวผ่องเต็มตา

     

                “ ไม่เอาค่ะ..”

     

                “ ไม่เอาอะไรคะ...”

     

                “ อย่ามองค่ะ..” ฮารุกะรีบยกมือปิดตาคมนั่น แม้จะรู้ดีว่าคงไม่ทันแล้ว

     

                “ อายอะไรคะ.. พี่เห็นมาหมดแล้วนะ” มิยูจับมือเล็กออกมากดจูบที่หลังมือ ก่อนจะช้อนตัวฮารุกะขึ้นแนบอกก่อนจะพาไปวางบนที่นอนเนื้อนุ่มที่อยู่กลางห้อง

                มือหนาเลิกผ้าห่มขึ้นคลุมทับตัวร่างบางก่อนจะเป็นฝ่ายขยับแทรกตัวเข้ามาทาบทับลงบนเนื้อนวลที่กลางเตียงกว้าง..

     

               

                “อะ.. อื้อ...” มิยูไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า มือหนาลากวนสัมผัสไปทั่วเนื้อนิ่มอย่างถือสิทธิ์

     

                “ อย่า.. อย่าทำรอยนะคะ” ฮารุกะบอกเสียงแผ่ว เมื่อลิ้นร้อนกำลังดูดคลึงที่ต้นคอขาวอย่างร้อนแรง

     

                “ทำไม...” มิยูผละออกถามอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ความจริงเค้าไม่เคยทำรอยให้ใครเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมฮารุกะต้องบอกว่าอย่าทำรอยด้วย

     

                “ ก็วันนี้.. พี่ที่กองเอาแต่ถามว่าใครคือเจ้าของรอยนี่คะ..” ฮารุกะอุบอิบบอกอายๆ แต่อีกใจก็หวาดกลัวในคำตอบ

     

                “ ก็บอกไปสิว่า.. ผ..ทำ” มิยูบอกขณะที่ก้มลงดูดดึงทำรอยให้ชัดยิ่งกว่าเดิม

     

                “ อื้อ.. พี่มิยู...”

     

                “ จ๋าคนดี..” สายตาที่เต็มไปด้วยกามอารมณ์ทำให้ฮารุกะพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่งมือเล็กเอื้อมขึ้นไปคล้องคอแกร่งให้ก้มลงมาสัมผัสกับตนยิ่งกว่าเดิม

     

                “ ฮารุกะเป็นเมียพี่ รู้ใช่มั้ย..” เสียงทุ้มถามขณะไล่ลิ้นร้อนลงสำรวจกับบ่าเล็ก สำรวจไปทั่วทุกตารางนิ้วบนร่างกายขาว

     

                “ ....”

     

                “ ถ้าใครถามอีก.. ก็บอกไปเลยว่าให้มาคุยกับพี่ เข้าใจตรงกันนะ” มิยูกระซิบบอกก่อนที่มือหนาจะเลื่อนต่ำลง

     

     

                “ แต่ว่า...”

     

                “ ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นแหละ.. พี่บอกพูดยังไงก็อย่างงั้น.. ตกลงนะ”

     

                “ ค่ะ..” เสียงที่ตอบรับแผ่วเบาปนเสียงครางอ่อนหวาน เมื่อดูเหมือนสติของฮารุกะจะเริ่มจางหายไปจากการเล้าโลมอย่างชำนาญของใครอีกคน

     

                “ น่ารักมากค่ะ...” มิยูกระซิบบอกเสียงหวาน มือหนาจาบจ้วงไล้วนไปทั่วผิวบอบบางอย่างรู้สึกยินดีที่ได้เป็นเจ้าของ ดวงตาคมฉายแววกระหายเมื่อเหลือบเห็นสีหน้าอ่อนระทวยของคนใต้ร่าง

                แสงที่เหลืออยู่เพียงจากโคมไฟตรงหัวเตียง ไล้ใบหน้าหวานให้ดูเย้ายวนขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว...

     

                แล้วมิยูก็ไม่ปล่อยเวลาให้เลยผ่านไปอีกแล้ว.. ร่างสูงกระโจนทาบทับร่างบางที่อยู่ใต้ร่างก่อนจะมอบความสุขให้กันจนเต็มรัก.. แล้วผล็อยหลับไปท่ามกลางความเหนื่อยอ่อนตอนใกล้เช้า

     

                “ พรุ่งนี้มีเรียนมั้ย..” ก่อนฮารุกะจะหลับไปเสียก่อน มิยูก็ไม่วายถามประโยคสำคัญที่ทำให้โดนเคืองไปเมื่อเช้าก่อนจะโดนเคืองอีกรอบ

     

                “ พรุ่งนี้มีบ่ายค..” เสียงหวานงัวเงียของคนที่เหมือนจะเหนื่อยจากการถูกกระทำสบลไสลอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน.. เรียกรอยยิ้มเอ็นดูให้เกิดขึ้นที่มุมปากของมิยูได้ไม่ยาก

                แม่ดาราตัวน้อย.. คงจะไม่รู้ตัวใช่มั้ยว่าคราวนี้ รอยที่ห้ามให้เค้าทำน่ะ... มันย้ายไปปรากฏอยู่บนแก้มนุ่มเสียแล้ว

     

                แล้วเค้าก็ดูจะพอใจเสียด้วยสิ.. ฮ่าๆๆๆ         

     ________________________

    ^_______^ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×