ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infatuation MimI

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 57


                “ ฮัลโหลนายแม่...” เสียงแหบเล็กน้อยกรอกไปตามสาย เมื่อเห็นว่าใครโทรมาในช่วงหัวค่ำเช่นนี้...

     

     

                “ ทำอะไรอยู่จ๊ะ.. เสียงยุ่งเชียว..”

     

     

                “ เปล่าค่ะ.. มิยูกำลังดูอะไรอยู่นิดหน่อย..” ไม่ได้โกหก เพราะตอนนี้มิยูกำลังนั่งอยู่บนโซฟาเนื้อนุ่มที่หันหน้าไปทางครัวที่ปกติเป็นแค่ครัวว่างเปล่า

                แต่ตอนนี้กำลังมีใครคนนึงกำลังง่วนกับการทำอะไรซักอย่างที่เรียกว่า สปาเกตตี้..

     

     

                “ เอ๋.. แล้ววันนี้ไม่ออกไปเที่ยวไหนหรอจ๊ะ..” คุณนายนากาโอกะที่รู้ในนิสัยของลูกสาวที่ไม่ค่อยจะเป็นสาวเท่าไหร่ของมิยูดี ว่าช่วงค่ำแบบนี้ถ้าไม่ติดงานหรือเรียน มิยูไม่มีทางนั่งเบื่ออยู่ห้องเฉยๆเป็นแน่

                ความจริงก็อาจเป็นความผิดของเธอด้วย เพราะการเป็นผู้กำกับก็คงจะต้องเดินทางบ่อย ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แล้วก็ไม่ค่อยได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด

                มิยูก็เลยเลือกออกไปอยู่คอนโดที่ใกล้มหาลัยมากกว่า แทนที่จะต้องขับรถวนเข้ามาในย่านที่พักอาศัย... แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอกับลูกจะห่างกันนะ

                เพราะมิยูเองก็เข้าใจดี.. ถึงได้ไม่เคยมีปัญหาให้หนักใจเลยซักครั้ง

     

     

                “ โธ่นายแม่.. เห็นมิยูเป็นคนยังไงคะ..” มิยูเสียงอ่อนลงออดอ้อนเมื่อถูกรู้ทัน..

     

     

                “ หรือแม่พูดผิดจ๊ะ...”

     

     

                “ ก็... ไม่รู้สิคะ..” มิยูทิ้งท้ายประโยคแค่นั้น ก่อนที่ร่างบางของใครอีกคนในห้องจะตีหน้ายุ่งเมื่อเห็นเค้าคุยโทรศัพท์อยู่..

                ให้มิยูต้องรีบกระซิบบอกว่านายแม่โทรมา.. คิ้วที่ขมวดพันกันเมื่อครู่จึงจางหายไป พร้อมๆกับที่ร่างบางก้าวเข้ามาทรุดนั่งลงบนตักเค้าอย่างเอาใจ

                ... เอาใจเก่งไปมั้ยเด็กแสบ...

     

     

                “ ตกลงนายแม่โทรมามีอะไรรึเปล่าคะ...” มิยูรีบถามหาจุดประสงค์ทันทีเมื่อมือเล็กของฮารุกะนั้นเริ่มจะอยู่ไม่สุขแล้ว...

                ดวงตาหวานที่ช้อนมองขึ้นมา ทำให้มิยูใจสั่นขึ้นมาเสียดื้อๆ... ก่อนร่างสูงจะสะดุ้งจนเกือบทำโทรศัพท์หลุดจากมือ เมื่อฮารุกะชะโงกหน้าขึ้นมายึดครองกลีบปากหนาทั้งๆที่ยังไม่ได้วางสาย

                ... อะ..อื้อ...อือ...

     

     

                “ เอ๋.. มิยูยุ่งอยู่รึเปล่าลูก..” เสียงตามสายดังขึ้นมาอย่างสงสัยเมื่อมีเสียงกุกกักเหมือนกำลังง่วนกับการทำอะไรซักอย่างอยู่

     

     

                “ ปละ.. เปล่าค่ะ..อึก” ยังไม่ทันจบประโยคดี ลิ้นร้อนๆของฮารุกะที่คลอเคลียอยู่ก็ประกบรุกล้ำเข้ามาภายใน กวาดต้อนสำรวจโพรงปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ...

                แต่คิดหรอว่ามิยูจะไม่ชอบ... ไม่มีทางซะล่ะ

     

                มือหนาข้างที่ไม่ได้จับโทรศัพท์เลื่อนขึ้นโอบกระชับเอวบางให้ขยับขึ้นมานั่งโดยมีมิยูเป็นเบาะรองนั่งอยู่ข้างล่าง.. นัยน์ตาคมมองคนยิ้มหวานจดหยดย้อยบนตักอย่างพึงใจ

                ริมฝีปากหนาละออกจากเรียวปากบาง เคลื่อนมาลากสัมผัสดูดชิมรสความหอมหวานที่ต้นคอขาว แม้จะมีกลิ่นของอาหารติดตัวแนบอยู่กับเนื้อนุ่ม แต่นั่นไม่ได้ทำให้มิยูนึกรังเกียจแต่อย่างใด..

                กลับกระตุ้นให้มิยูชักอยากชิมเนื้อสดๆ มากกว่าจะสนใจอาหารที่คงวางรออยู่บนโต๊ะอาหารเสียอีก

     

     

                “ แม่จะโทรมาบอกว่า... พรุ่งนี้เข้ามาหาแม่ที่บริษัทหน่อยนะลูก แม่มีงานให้หนูช่วยหน่อยน่ะจ๊ะ..”

     

    “ อะ..คะ ค่ะ..” มิยูที่ฟังบ้างไม่ฟังบ้างตอบรับไปส่งๆ เรื่องอะไรเดี๋ยวค่อยไปถามเอาพรุ่งนี้แทนแล้วกัน... ในเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันน่าสนใจมากกว่าอะไรทั้งสิ้นในวินาทีนี้นี่นา

     

    “ จ๊ะ.. แค่นี้ล่ะลูก อย่าลืมกินข้าวกินอะไรให้เรียบร้อยนะจ๊ะ แม่เป็นห่วง” ผู้เป็นแม่วางสายไปซักพักแล้ว แต่มีหรือมิยูจะสนใจ

    มิยูไม่อยากจะบอกเลยว่า.. ถึงแม่ไม่พูดเค้าก็คงไม่มีทางปล่อยเนื้อนุ่มให้หลุดมือไปหรอก แต่จะกินข้าวรึเปล่านั้น.. คงเป็นอีกเรื่องนึง

     

     

    โทรศัพท์ตกลงบนโซฟานุ่มโดยที่เจ้าของก็ไม่ได้สนใจจะเก็บขึ้นมาวางบนโต๊ะให้เรียบร้อยแต่อย่างใด มือหนาเลื่อนเข้าไปลูบสัมผัสแผ่นหลังบางที่ไร้ซึ่งสิ่งกีดขวางใดๆให้สะดุดมือ

    ใช่... ฮารุกะไม่ได้ใส่เสื้อใน นั่นก็เพราะเค้ายังไม่ได้อนุญาตให้ร่างบางกลับห้องตัวเองเลยนี่นา.. แล้วเจ้าเด็กแสบบนตักนี่จะไปหาที่ไหนมาใส่ล่ะ... แถมตัวเก่าเค้าก็เหวี่ยงไปไว้ไหนแล้วไม่รู้

     

    ลิ้นร้อนดูดดึง ลากลงต่ำมาสนใจสิ่งล่อตาที่อยู่ภายใต้เสื้อเนื้อนุ่มของคนบนตัก มิยูไม่แม้แต่จะปลดรังดุมออกจากร่างเล็กด้วยซ้ำ..

    กลีบปากร้อนทาบทับดูดดึงยอดอกที่เริ่มแข็งสู้มือผ่านผ้าเนื้อนุ่ม... มือร้อนที่ลูบไล้แผ่นหลังขาวกระชับร่างบางที่ดูเหมือนจะเริ่มหมดแรงให้ขยับเข้ามาใกล้

    มิยูยกร่างบางขึ้น ขยับตัวเข้าหาร่างบางหามุมที่จะทำให้เค้าได้ใกล้ชิดกับร่างบางมากกว่าเดิม..

     

     

     

    “ อื้อ.. พี่มิยู..” เสียงหวานใสเต็มไปด้วยอารมณ์เอ่ยเรียกร่างสูงที่กำลังสนุกกับการสำรวจตัวเธออยู่ในเวลานี้

     

     

    “ คะ..” มิยูไม่แม้แต่จะเงยหน้ามองด้วยซ้ำ กลิ่นกายฮารุกะหอมเกินกว่าเค้าจะห้ามใจได้จริงๆ

     

     

    “ ไปกินอะไรรองท้องก่อนนะคะ..” ฮารุกะพยายามฝืนตัวเองออกจากมือหนาที่ขยันเร้าเธอเสียเหลือเกิน ทั้งๆที่ความจริงเธอก็แค่อยากมาก่อกวนเค้าเล็กน้อยแค่นั้นเอง

     

     

    “ พี่ก็กำลังจะกินอยู่นี่ไงคะ..” มิยูตอบอย่างเอาแต่ใจ มือหนาไม่ยอมให้ฮารุกะหลุดมือไปง่ายๆแน่

     

     

    “ เค้าหมายถึงกินจริงๆค่ะ ไม่ใช่อย่างนี้..” ฮารุกะดุมิยูเสียงแข็ง มือเล็กจับบ่าแกร่งแน่นเมื่อมือหนาที่วุ่นอยู่กับอกนุ่ม คลึงยอดอกนุ่มจนมันเริ่มแข็งสู้มืออย่างไม่อาจบังคับตัวเองได้

     

     

    “ พี่ก็ไม่ได้กินเล่นๆนี่คะ... อื้ม..” มิยูพูดอย่างอารมณ์ดี ริมฝีปากหนายกยิ้มก่อนจะเข้าครอบครองยอดอกนั่นอย่างอดใจไม่อยู่ ลิ้นร้อนตวัดดูดดึงเร่งเร้าไม่ยอมแพ้

     

               

                “ อื้อ... พี่อย่าเล่นสิคะ เดี๋ยวเย็นหมดนะ..” ฮารุกะทักท้วง.. ให้มิยูเงยหน้าขึ้นเพียงนิดเดียว... แล้วก็ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ...

     

     

                “ อย่าค่ะ..” ฮารุกะดันมือหนาที่กำลังเลื้อยเข้ามาใต้ร่มผ้าออก.. ก่อนจะหน้านิ่วคิ้วขมวดให้มิยูหยุดมือ..

     

     

                “ โธ่.. ขอนิดเดียวเอง...” มิยูอ้อนวอน..

     

               

                “ ไม่ค่ะ..” ฮารุกะเสียงแข็ง.. ไม่สบสายตาอ้อนด้วยกลัวจะใจอ่อน.. พยายามยันตัวให้ลุกขึ้นจากตักมิยู

     

                “ ฮารุกะอ่ะ..” มิยูมุ่ยหน้าอย่างขัดใจ เหมือนเด็กขอไอติมแล้วแม่เก็บเข้าตู้เย็น..

     

     

                “ ไม่ต้องเลย.. ถ้าไม่กินฮารุกะจะไปเททิ้งเดี๋ยวนี้แหละ” ฮารุกะก็ไม่ยอมแพ้ ทั้งวันนี่เพิ่งได้กินข้าวเมื่อตอนเย็นไปนิดเดียวเองนะ แล้วตอนนั้นพี่มิยูก็ไม่ยอมกินด้วย..

                .. ไม่กินหรอก... ไม่ชอบคนส่งอาหาร.. ทำไมต้องมองเธอด้วย..

     

                แล้วเหตุผลงี่เง่านั่น... ก็เลยเป็นเหตุให้เธอต้องมานั่งผัดสปาเก็ตตี้ให้กินอยู่ตอนนี้ไง

                แล้วมีอย่างที่ไหน.. พอทำเสร็จกลับจะไม่กินซะอย่างงั้น นี่ใครทำ... คุณหนูฮารุกะทำให้เลยนะ คิดว่าคนอย่างเธอจะยอมมาทำอะไรแบบนี้ให้ใครก็ได้อย่างงั้นหรอ.. ฝันไปเหอะ

     

     

                “ โห่.. เดี๋ยวค่อยกินไม่ได้หรอ..” มิยูไม่ยอม ก็ตอนนี้ที่เค้าอยากกินมันเป็นอย่างอื่นมากกว่านี่... มัวแต่กินอันนั้นก็อดกินอันนี้พอดีสิ.. เสียเวลา !!

     

               

                “ งั้นก็เลือกเอาค่ะ... พี่จะกิน.. หรือจะให้ชั้นกลับห้อง..” ฮารุกะพูดอย่างเหนือกว่า ใบหน้าหวานไม่ได้ยิ้มอีกต่อไป สายตาสวยฉายแววเอาจริงจนมือหนาที่รัดเอวบางอยู่ต้องคลายออก

     

     

                “ ง่ะ..” มิยูปากยื่นอย่างขัดใจ.. ไม่ยอมมองหน้าหวานๆนั่น

                ... ก็มิยูอยากกินอย่างอื่นอ่ะ ไม่เข้าใจหรอ...

     

     

                “ แต่ถ้าพี่ยอมกิน.. เดี๋ยวชั้นจะป้อนให้เลยนะ” ฮารุกะใช้นิ้วเรียวเชยคางมิยูกลับมาสบตา นัยน์ตาหวานออดอ้อนแต่อีกมุมก็ดูเหมือนจะยั่วยุ ลิ้นเล็กเลียรอบริมฝีปากตัวเอง...

                .... ชั้นยอมขนาดนี้แล้ว.. ถ้าพี่ไม่กินนะ อย่าฝันว่าคนอย่างชั้นจะทำให้อีกตลอดชีวิตเลยเหอะ...

     

     

                “ แน่นะ...” มิยูกระพริบตาปริบๆ นัยน์ตาคมเหมือนจะวางแผนอะไรซักอย่างอยู่ข้างใน.. ริมฝีปากยกยิ้มที่มุมปากยากจะคาดเดาความคิด

     

               

                “ ค่ะ...”

     

     

                “ งั้นกินก็ได้...”

     

               

                “ อ๊ะ..” ฮารุกะร้องเสียงหลง เมื่อมิยูไม่ยอมปล่อยให้เธอลงจากตัก แต่กลับอุ้มเธอเหมือนอุ้มเด็กเดินไปที่โต๊ะกินข้าวซึ่งมีสปาเก็ตตี้วางอยู่

                มิยูเลื่อนเก้าอี้นั่งลงหน้าจานสปาเกตตี้.. พร้อมจับร่างบางนั่งบนตักในท่าที่ถนัด

                “ ป้อนสิ...”

     

     

                “ ก็ปล่อยก่อนสิคะ..” ฮารุกะบอกเสียงเบา การจะให้เธอมานั่งตักแล้วป้อนแบบนี้มันดูเกินคาดไปนิด ให้เธอไปนั่งเก้าอี้อีกตัวจะถนัดกว่ามั้ย..

     

     

                “ ไม่อ่ะ.. หิวแล้ว... ป้อนหน่อย” มิยูออกคำสั่ง.. ก่อนจะซุกหน้าสูดกลิ่นกายจากบ่าเล็กที่ตอนนี้ปกเสื้อคลุมตกลงจนเห็นเนินอะไรๆที่ล่อตาอยู่

                ... แถมน่ากินกว่าเป็นไหนๆ..

     

     

                “ อื้อ.. อย่าเพิ่งสิคะ..” ฮารุกะเสียงสั่นเมื่อลมหายใจร้อนปัดเป่าไปทั่วหลังกกหู.. แถมยังไปกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เธออยากเบียดตัวเข้ากับร่างสูงที่นั่งเป็นเบาะอยู่เสียเหลือเกิน

     

     

                “ อย่าอะไร...หืม..” มิยูไม่เงยหน้าขึ้นมาถามด้วยซ้ำ จมูกโด่งยังขยันเคลื่อนที่พ่นลมร้อนเรียกอารมณ์คนตัวขาวจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

                มือหนาที่วางอยู่บนขาขาวไล้วนเบาๆไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปใกล้ส่วนหวงห้าม แต่ก็ไม่ยอมห่างไปไหนไกล..

     

     

                “ กินก่อนนะ.. นะคะ” มือเล็กสั่นระริกพยายามหมุนเส้นสปาเกตตี้ขึ้นจ่อให้ถึงริมฝีปากหนา.. ซึ่งครั้งนี้มิยูก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียอมอ้าปากงับแล้วเคี้ยวจนหมดอย่างเอาใจ

                ปลายจมูกโด่งกดลงบนแก้มนิ่มอย่างเอาใจ.. พร้อมคำพูดขอบคุณเสียหวานหู...

     

     

               

     

                “ คำสุดท้ายแล้ว... อย่าเพิ่งซนนะคะ” ฮารุกะที่ตอนนี้ยอมให้มิยูล่วงเกินเต็มที่เอ่ยอ้อน.. แขนเรียวโอบรอบคอมิยูยึดเป็นหลักไม่ให้หงายลงไปด้านหลัง มืออีกข้างก็ตักสปาเกตตี้คำสุดท้ายป้อนเข้าปากให้อย่างเอาใจ..

               

     

                “ อย่าลืมของหวานนะ..” มิยูเอ่ยทวง

     

                “ ต้องล้างจานเก็บก่อนนะคะ..” ฮารุกะต่อรอง เมื่อเห็นว่ายังไงๆก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี...

                แถมเธอเองก็อดจะพอใจนิดๆไม่ได้... ที่มิยูดูเหมือนจะต้องการเธอขนาดนี้

     

     

     

                “ อื้ม... ล้างให้เลยก็ได้..”

                แล้วมิยูก็ทำอย่างปากพูดจริงๆ.. หลังกินเสร็จมิยูก็ดึงฮารุกะเข้ามาในอ้อมแขนก่อนจะพากันเดินไปที่ซิงค์ล้างจานด้านใน..

                คนร่างสูงยืนคร่อมคนตัวเล็กกว่าไว้ กั้นทางออกไม่ให้ฮารุกะหลบหนีไปทางไหน.. ตกอยู่ในวงแขนแกร่งของอีกคนอย่างจำยอม

     

     

                ปึก !!

                “ ล้างเสร็จแล้ว...” หลังจากเก็บจานที่เช็ดเรียบร้อยขึ้นใส่ตู้เรียบร้อย มิยูก็ไม่วายทวงสัญญาจากร่างบางเสียตรงนั้น..

                มือหนารั้งเอวบางเข้ามาชิด.. แขนแกร่งรั้งแนบชิดไม่ให้ดิ้นหนีไปทางอื่น...

     

                “ ค่ะ... คนเก่ง..” ฮารุกะแกล้งไม่รู้ความหมายที่มิยูต้องการสื่อ พยายามมุดหาทางออกจากวงแขนแกร่งที่รัดเธอไว้เสียจนแน่นขนัด ขยับแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ

     

     

                “ ถึงเวลาของหวานแล้ว..” มิยูเอ่ยดื้อๆยกยิ้มเจ้าเล่ห์

     

     

                “ ในตู้เย็นมีพุดดิ้งอยู่นี่คะ.. ไปเอาสิ” ฮารุกะวางมือบนบ่ากว้างก่อนจะชี้ไปอีกด้านที่มีตู้เย็นหลังใหญ่ตั้งอยู่

     

     

                “ ไม่อยากกินอันนั้น..” มิยูหน้ามุ่ยขัดใจอีกครั้ง..

     

     

                “ แล้วอยากกินอะไรล่ะคะ.. ให้ชั้นไปซื้อให้มั้ย..” ฮารุกะกลั้นยิ้มกับผู้ใหญ่ดื้อตรงหน้า

     

     

                “ อยากกินอันนี้..” มิยูไม่ว่าเปล่า ก้มลงยึดครองริมฝีปากบางจนคนที่อาสาจะไปซื้อเมื่อครู่อ่อนระทวยคาอ้อมแขน.. มือหนาที่โอบเอวบางอยู่เปลี่ยนท่าทางมาเป็นช้อนร่างเล็กขึ้นแนบอกโดยไม่ยอมถอนปากออก แล้วพาเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปยังเตียงใหญ่หลังเดิมในห้องนอน

               

               

                “ ขอกินนะ... ได้มั้ย..” หลังวางฮารุกะลงบนเตียง มิยูก็ตามขึ้นมาคร่อมจนเนื้อตัวแนบชิดกันไปแทบทุกส่วน.. ก่อนจะเอ่ยปากขอคนใต้ร่างรอคำอนุญาต

     

     

                “ ไม่ให้ได้มั้ยคะ..” ฮารุกะวาดแขนมาโอบรอบคอแกร่ง.. เงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาคมร้อนแรงที่มองลงมาอย่างเว้าวอน..

                มือหนาที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวกระดุมเสื้อหยุดชะงัก

     

     

     

                “ ไม่ได้ค่ะ...” แล้วมิยูก็จัดการปลดกระดุมเสื้อออกอย่างรวดเร็ว.. มือหนาลากสัมผัสไปทั่วผิวเนื้อเนียน..

     

     

                “ คิก..” ฮารุกะหลุดหัวเราะอย่างพอใจกับคำตอบ.. ท่าทางเร่งรีบของมิยูทำให้เธออดจะตลกกับท่าทางเค้าไม่ได้...

                ... ถ้าเธอไม่ให้ คิดว่าจะยอมให้อุ้มเข้ามาในห้องมั้ยฮะ...

     

     

                “ ไม่ตลกนะเด็กแสบ..” มิยูเลื่อนมาสบตาคนใต้ร่างอย่างหงุดหงิดเมื่อโดนหลอก.. มือหนาบีบยอดอกนุ่มแรงๆเป็นการลงโทษคนที่กล้าลองของ

     

     

                “ อ๊ะ..” ฮารุกะสะดุ้งขึ้นตามความรู้สึกที่ไวต่อสัมผัส..

     

     

                “ สมน้ำหน้า..” มิยูยกยิ้มอย่างพอใจที่เอาคืนได้สำเร็จ.. แต่ใช่ว่าอีกคนจะมีอารมณ์มาฟังเค้าแล้วในตอนนี้...

                ฮารุกะรั้งต้นคอมิยูกดลงมาใกล้ ริมฝีปากบางผงกขึ้นแนบชิดเรียกร้องความสนใจได้เป็นผลสำเร็จ..

     

     

                “ อื้อ...อะ...อ” เสียงหวานหลุดครางทุกครั้งที่องศาเปลี่ยน.. มิยูถอดเสื้อออกจากร่างบาง... เมื่อไร้ซึ่งสิ่งปกปิด.. ผิวเนื้อเนียนสวยที่ต้องกับแสงไฟจากหัวเตียงยิ่งทำให้ผิวฮารุกะน่าลิ้มลอง

     

     

                “ อาห์...” ฮารุกะดันตัวขึ้นจากเตียง.. มือเล็กเลื่อนถอดเสื้อให้มิยูโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากมือหนาที่ดูจะเร่งรีบเสียเหลือเกิน

                ใบหน้าคมซุกลงกับอกอิ่ม.. ลิ้นร้อนทำให้ร่างบางต้องสั่นสะท้าน ปลายเท้าจิกเกร็งกับเตียงนุ่ม.. เล็บที่ได้รับการตกแต่งไว้อย่างดีจิกลงกับบ่าแกร่งซ้ำรอยเดิมจากเมื่อคืน

                เลือดซิบๆที่ไหลออกจากแผลไม่ได้ทำให้มิยูสะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด.. เมื่อกลิ่นหอมที่เย้ายวนอยู่น่าลิ้มลองจนไม่อยากถอนตัวออกมา

     

                “ พร้อมนะ...” มิยูดันหลังฮารุกะลงกับเตียงนุ่ม.. เงยหน้าขึ้นถามก่อนใบหน้าหวานที่พยักขึ้นลงเป็นคำตอบแสดงการอนุญาต

                มือหนาถึงกล้ารุกล้ำเข้าไปในส่วนหวงห้าม..

     

                กึก !!

                มือหนาหยุดชะงักเมื่อเรียวขาขาวบีบรัด.. ไม่ยอมให้มิยูได้ขยับหรือทำอย่างอื่น...

                “ อย่าเกร็งค่ะคนดี.. ขอพี่เข้าไปหน่อยนะ..” มิยูเคลื่อนขึ้นมากดจูบที่ริมแก้ม.. ปลอบประโลมอย่างใจเย็นจนขาเรียวเริ่มคลายออกอย่างผ่อนคลาย

                นิ้วเรียวเริ่มรุกล้ำเข้าสำรวจ..

               

                ช้า.. เร็ว... สลับกันตามช่วงอารมณ์...

                ริมฝีปากอิ่มดูดดึง.. เร้าอารมณ์จนฮารุกะตัวโยน... ก่อนนิ้วร้อนจะลุกล้ำเข้าจนสุดพร้อมกับร่างบางที่เกร็งนิ่งพร้อมกับน้ำที่ล้นจนหยดลงเปื้อนเตียง

     

     

                “ น่ารักที่สุดเลย...” มิยูดึงนิ้วเรียวออกก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมากดจูบแล้วล้มตัวนอนข้างๆร่างบาง มือหนายังคงไล้วนอยู่กับอกอิ่มที่นุ่มพอดีมืออย่างไม่รู้เบื่อ.. แขนอีกข้างรั้งศีรษะเล็กเข้ามาใกล้แล้วใช้ต่างหมอนให้ฮารุกะใช้หนุนนอน

     

     

     

                “ อื้อ..อา...อะ...” หลังจากนิ้วร้อนที่ชุ่มไปด้วยน้ำและเหงื่อจนแยกกันไม่ออกถูกลิ้นเลียจนสะอาดเอี่ยม.. มันก็กลับไปคลึงเคล้นกับอกนุ่มอย่างไม่รู้จักพอ..

                ปลายนิ้วขยี้ยอดอกกระตุ้นให้ฮารุกะครางเสียงหวานออกมาอีกครา... จนมิยูแอบยกยิ้มอย่างพอใจ..

     

                ร่างสูงเคลื่อนขึ้นเหนือคนตัวเล็กกว่าอีกครั้ง... คราวนี้ไม่มีการขออนุญาตใดๆอีกต่อไป...

                นิ้วร้อนรุกล้ำเข้าสำรวจส่วนนั้นอีกครั้งอย่างเชื่องช้า... จนคนได้รับต้องกัดปากกลั้นอารมณ์ด้วยไม่อยากให้คนข้างบนได้ใจกับเสียงหวานๆมากเกินไปนัก

                แต่ก็ทำได้เพียงชั่วคราว... เมื่อคนที่ดูเชี่ยวกว่าอย่างมิยูรู้จักจุดสัมผัสที่จะทำให้เสียงหวานๆนั้นครางออกมาจนลั่นห้องได้...

     

                คงเป็นอีกคราที่ทั้งคู่หลับไปพร้อมกันในความเหนื่อยอ่อน...

                และคงเป็นอีกวันที่มิยู... ไม่ได้ออกไปหาความสุขข้างนอกเหมือนอย่างเคย..

    ____________________________________

    ไสยบ่อยๆ.. อย่าว่าเค้า >//////////<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×