คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : SF..รอ
“ ปล่อย !!”
ฮารุกะพูดพร้อมพยายามปลดข้อมือตัวเองออกจากมือหนาที่กุมอยู่แน่นในตอนนี้ สายตาหวานตวัดมองนัยน์ตาคมเจ้าของมืออย่างเคืองๆ แต่เมื่อรู้ว่าถึงจะสะบัดอย่างไรมือก็ไม่หลุดออกจากการจับกุมเป็นแน่ ร่างบางเลยได้แต่ยืนนิ่งจ้องมองร่างสูงด้วยท่าทางที่บ่งบอกว่าขัดใจอยู่ไม่น้อย
“ เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยมั้ย”
มิยูพูดขึ้น.. ก่อนจะออกแรงดึงข้อมือบางอย่างไม่แคร์ว่าเจ้าของจะรู้สึกเจ็บหรือไม่
“ ไม่ !! หนูไม่มีอะไรจะพูดกับพี่แล้ว” เสียงหวานตอบห้วนๆอย่างไม่ใส่ใจ
“ เธอไม่.. แต่พี่มี.. ตามพี่มา” มิยูที่เห็นร่างบางตวัดเสียงใส่ก็ยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม ออกแรงกำข้อมือบางแน่นอีกครั้ง
“ ปล่อยนะ.. หนูเจ็บ” มือบางข้างที่ว่างพยายามแกะมือหนาที่จับแน่นอยู่ที่ข้อมือออก.. แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อมิยูกลับยึดมืออีกข้างของเธอไปกุมไว้แน่น
“ แล้วเธอคิดว่าพี่ไม่เจ็บรึไง” มิยูตวาดกลับใส่ร่างบางเสียงดัง เรียกน้ำขึ้นมาคลออยู่ที่หน่วยตาหวาน
“ เจ็บ !! คนอย่างพี่เจ็บเป็นด้วยหรอ” เสียงหวานตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้.. ดวงตาหวานวาวโรจน์แต่ก็รื้นไปด้วยน้ำตาที่เจ้าของพยายามกลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“ พูดอย่างนี้หมายความว่าไงฮารุกะ” นัยน์ตาคมจ้องหน้าหวานอย่างคาดคั้น.. มือหนารั้งร่างบางเข้ามาเผชิญหน้าก่อนที่มิยูจะปล่อยข้อมือบางเป็นอิสระแล้วโอบที่เอวบางแทน
“ แล้วพี่ทำอะไรไว้.. คิดว่าหนูโง่มากหรือไง” ฮารุกะพูดขึ้นก่อนที่น้ำตาจะไหลออกจากหน่วยตาหวาน.. มือบางปลดมือหนาออกจากเอวก่อนจะยกขึ้นปาดน้ำใสๆออกจากใบหน้า
“ เธอพูดถึงอะไรฮารุกะ.. พี่ไม่เข้าใจ” มิยูเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ.. ในเมื่ออยู่ๆน้องก็ทำเป็นห่างเหินกับเค้า โทรไปก็ไม่รับ.. ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ.. แล้วไหนวันนี้จะยังทำเป็นสนิทสนมกับไอ้ผู้ชายคนนั้นอีก
ตกลง.. มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่.. เค้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“ ฮึ.. พี่เคยสนด้วยหรอ ว่าหนูจะพูดถึงเรื่องอะไร”
ฮารุกะส่งเสียงเย้ยในลำคอ.. ยกมือขึ้นกอดอก ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกด้านด้วยไม่อยากให้ร่างสูงเห็นน้ำใสๆที่กำลังไหลลงมาอาบแก้มนวล
... พี่จะมาถามหนูทำไมตอนนี้คะ.. ในเมื่อที่ผ่านมาพี่ไม่เคยสนใจ ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยจดจำสิ่งที่เราสัญญากันไว้เลย
.... แล้วพี่จะมาสนทำไมตอนนี้ มันไม่สายเกินไปหน่อยหรอ
“ ฮารุกะ.. อย่าทำตัวงี่เง่าได้มั้ย.. พี่ถามก็ตอบดีๆอย่ามาเล่นลิ้น” มิยูที่เห็นร่างบางเชิดใส่ก็ยิ่งไม่พอใจ เสียงทุ้มกว่าดังขึ้นจากเดิมตามแรงอารมณ์ที่เหมือนจะยิ่งทวีความหงุดหงิดขึ้นเมื่อร่างบางตรงหน้าเอาแต่ยืนกอดอกนิ่ง ไม่พูดไม่จา
“ ฮารุกะ.. ความอดทนพี่มีจำกัดนะ.. อย่าทำให้พี่ต้องหมดความอดทนได้มั้ย” มิยูพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างบางยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่หันกลับมาบอก หรืออธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะอะไร
“ ฮารุ..”
“ ถ้าความอดทนพี่มันมีจำกัด.. งั้นพี่ก็เก็บมันไว้ใช้กับคนอื่นเถอะค่ะ หนูไม่ต้องการ” เสียงหวานดังขึ้นแผ่วเบาทว่าสั่นเครือตามความรู้สึกของเจ้าของ ดวงหน้าหวานนัยน์ตาแดงก่ำหันกลับมามองมิยู ก่อนจะปลดมือมิยูที่จับแขนตนเองออกแล้วหันหลังเดินออกมาจากห้องพัก
................................................................
..ฮึก..ฮือๆๆ...
...ฮึก.. ทำไมคะ.. ทำไมเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมพี่มิยูต้องเสียงดัง ต้องโมโห.. ทั้งๆที่ ควรจะเป็นหนูมากกว่าที่ไม่พอใจ
... ทั้งๆที่พี่ปล่อยให้หนูนั่งรออยู่ที่ท่ารถคนเดียว.. ในขณะที่พี่กำลังติดซ้อม..
.. ฮือ.. หนูคงไม่ว่าอะไรเลย..ถ้าพี่จะโทร หรือส่งข้อความมาบอกหนูซักคำ.. ไม่ใช่ลืมนัดของเรา.. แล้วก็ปล่อยให้หนูนั่งรอจนดึก
.. ถ้าวันนั้นพี่ยูกิไม่โทรมา... หนูจะรู้มั้ยคะ ว่าพี่ลืม.. ลืมไปแล้วกับนัดของเรา
... ลืมไปแล้วว่าเรานัดจะไปไหว้พระด้วยกัน..
.. ถ้าพี่เป็นหนู... เป็นคนที่ต้องนั่งรอตั้งแต่เช้าจนมืด.. โทรหาก็ไม่รับ ข้อความไปก็ไม่ตอบ.. ถ้าพี่เป็นหนู พี่จะเคืองมั้ยคะ
... ทั้งๆที่คืนก่อนหน้านั้น.. หนูก็ส่งข้อความไปเตือนแล้วแท้ๆ..
.. ถ้าพี่ใส่ใจหรือว่าสนใจหนูซักนิด.. มันก็คงจะดีกว่านี้ใช่มั้ยคะพี่มิยู
... หรือว่าสุดท้ายแล้ว.. เรื่องของเรา.. มันจะเป็นไปไม่ได้จริงๆ
.........................................................
“ โธ่เว้ย !!” มิยูที่กำลังโมโหกวาดของที่วางอยู่บนโต๊ะกระจัดกระจายตกลงพื้นเต็มไปหมด.. จนยูกิที่เพิ่งไขกุญแจเข้ามาต้องมองอย่างแปลกใจแกมไม่พอใจและไม่เข้าใจ
“ เป็นบ้าอะไรของแกว่ะมิยู..” ยูกิวางกุญแจไว้เหนือตู้เย็นก่อนจะเดินเข้ามาถามมิยูที่ตอนนี้ทรุดตัวลงไปนั่งกุมหน้าอยู่ที่พื้น พร้อมกระป๋องเบียร์วางอยู่ข้างๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้นี่มันโทรไปสั่งรูมเซอร์วิสขึ้นมาเป็นแน่
“ ไม่ใช่เรื่องของแก” มิยูพูดก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นกระดกลงคอราวกับน้ำเปล่า
“ เออ!! มันใช่เรื่องของชั้นแน่ ถ้าพรุ่งนี้แกแข่งไม่ไหวน่ะ” ยูกิพูดขึ้นก่อนจะดึงกระป๋องเบียร์ออกจากมือหนา
“ อย่ามายุ่งดิ่ว่ะ!!” มิยูพูดก่อนจะแย่งกระป๋องกลับมา
“ ไม่ได้นะเว๊ย.. แกกินแบบนี้แล้วพรุ่งนี้แกจะแข่งไหวได้ไงว่ะ.. อย่าทำตัวแบบนี้นะไอ้มิยู” ยูกิพูดก่อนจะแย่งกระป๋องกลับมาอีกครั้ง
“ โว๊ย!! มันจะอะไรนักหนาว่ะ กับแค่กินเบียร์เนี่ย” มิยูหันมาโมโหใส่ยูกิทันทีเมื่อไม่สามารถแย่งกระป๋องเบียร์คืนมาได้สำเร็จ
“ เออ !! แล้วมันเรื่องอะไรนักหนาว่ะ. ถึงต้องมานั่งกระดกเบียร์แทนน้ำเปล่าเนี่ย แกลองบอกชั้นมาดิ” ยูกิที่โดนเพื่อโวยใส่ ก็โวยกลับอย่างไม่จริงจังนักด้วยรู้นิสัยเพื่อเวลามันกึ่มๆดีว่าเป็นยังไง
“ แกไม่ต้องสนใจหรอก.. เรื่องของชั้น.. ชั้นจัดการเองได้” มิยูบอกก่อนจะพยายามทรงตัวลุกขึ้นเพื่อไปเข้าห้องน้ำ
“ เรื่องฮารุกะหรอว่ะแก” ยูกิพูดขึ้นหลังจากที่เห็นมิยูเดินเอาผ้าเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ.. สงสัยมันจะเข้าไปเอาหัวจุ่มน้ำมา.. ไอ้บ้า!!
“ อืม..” มิยูตอบ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงที่ปลายเตียง ยกมือขึ้นเช็ดผมตัวเองแรงๆอย่างหงุดหงิด
“ ทำไมว่ะ.. ทะเลาะกันหรอ” ยูกิถามพลางเดินไปเทน้ำใส่แก้วมาให้เพื่อพร้อมกับยาแก้แฮงค์ที่ควรจะกินกันไว้ก่อน
“ ก็นิดหน่อย..” มิยูตอบก่อนจะจับยายัดปากตัวเองแล้วกรอกน้ำตามด้วยรำคาญต่อสายตาจับจ้องของเพื่อนสนิทที่เริ่มจะเหมือนแม่ไปทุกที
“ ทะเลาะกัน.. เรื่องอะไรว่ะ” ยูกิถามเมื่อเดินกลับมาทรุดลงอีกด้านของเตียง
“ ก็.. ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” มิยูตอบอย่างไม่แน่ใจนัก
“ แล้วแกจะไม่รู้ได้ไงว่ะ.. ทะเลาะกันแค่สองคนนะเว้ย.. ถ้าแกไม่รู้แกจะทะเลาะกับน้องได้ไง” ยูกิถามอย่างแปลกใจ
“ ก็.. ช่างมันเหอะว่ะ” มิยูตอบก่อนจะเอาผ้าไปผึ่งไว้กับเก้าอี้ แล้วเดินกลับมาล้มตัวลงนอนอย่างไม่สนใจหัวที่ยังไม่แห้งดี
“ เฮ้อ.. อย่าช่างให้มันนานนะเว้ยมิยู.. แกก็รู้ว่าน้องน่ะ.. มีใครมาต่อคิวรอบ้าง... ขืนช่างนานๆ.. ระวังจะถูกหมาคาบไปแดกไม่รู้ด้วย” ยูกิพูดขึ้นลอยๆเมื่อเห็นว่ามิยูไม่ใคร่จะสนใจฟังที่ตนพูดมากนัก
......................................................................
21.45น.
... โกรธพี่จริงๆหรอฮารุกะ...
มิยูได้แต่คิดในใจ.. เมื่อยกโทรศัพท์ขึ้นดูแล้วพบว่า.. ไม่มีสายที่ไม่ได้รับจากฮารุกะเลย ไม่มีแม้แต่ข้อความที่น้องมักจะส่งมาหาทุกวันก่อนเค้าเข้านอน
นัยน์ตาคมจ้องมองออกไปที่ระเบียง.. มองยูกิที่กำลังยืนรับลมคุยโทรศัพท์อยู่กับปลายสายที่ไม่ต้องบอกเค้าก็รู้ว่าใคร ใครที่จะทำให้เพื่อนสนิทเค้ายิ้มได้ขนาดนั้นถ้าไม่ใช่ใครอีกคนที่ไปอยู่ไกลถึงต่างประเทศ แต่ก็เหมือนอยู่ใกล้กันตลอดเวลา
ไม่เหมือนกับเค้า.. ที่แม้จะได้พักอยู่ในโรงแรมเดียวกัน แต่ก็เหมือนอยู่ไกลกันคนละประเทศ...
...บางที.. ระยะทางคงไม่ได้มีผลกับความรู้สึกหรอก
แต่การกระทำต่างหาก.. ที่ทำให้เราห่างกัน...
มิยูได้แต่นอนจ้องโทรศัพท์แล้วเปิดข้อความเก่าๆขึ้นมาอ่านไปเรื่อยๆ.. ในใจก็นึกไปถึงเจ้าของข้อความ คิดถึงใบหน้าหวานๆ แก้มอมชมพูที่มักจะขึ้นสีแดงก่ำเวลาที่เหนื่อย กับเขิน หรือแม้แต่ตอนโมโห
คิดถึงใบหน้าหวานๆที่กำลังยุ่งขึ้นนิดๆเมื่อโดนขัดใจ หรือแก้มที่พองขึ้นเมื่อต้องใช้ความคิดหรือกำลังเอาแต่ใจ
คิดถึงใบหน้าน่ารักๆของเจ้าของเบอร์โทร.. ที่มิยูคิดจะกดโทรไปหลายรอบ แต่ทิฐิก็ทำให้ต้องย้อนกลับไปหน้าเมนูหลักทุกครั้งไป
จนกระทั่ง...
11/01/14 21.40pm.
... พี่มิยู.. พรุ่งนี้อย่าลืมนัดของเรานะคะ.. หนูจะไปรอที่ท่ารถตอน 7 โมง.. หวังว่าพี่คงจะไม่ตื่นสายแล้วปล่อยให้หนูเป็นแม่สายบัวรอเก้ออีกนะคะ หนูจะไปนอนแล้ว..(เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่สวย อิอิ)..ฝันดีนะคะพี่มิยู อย่าลืมห่มผ้าหนาๆด้วย
ป.ล.ถ้าพี่ลืมนัดของเราอีก.. หนูจะคิดว่าพี่ไม่สนใจหนูแล้วน๊า ^^ ไปแล้วดีกว่า..พี่ก็รีบนอนนะคะ ฝันดีค่ะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องฝันถึงหนูนะ(ฮุๆๆ) บายค่ะ.. รักพี่นะ
... ฮารุกะ !! ...
เสียงสะท้อนชื่อเจ้าของข้อความดังขึ้นในใจ เมื่อมิยูเหมือนจะเพิ่งเปิดเจอข้อความสำคัญที่ทำให้เค้าเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าร่างบางไม่รับโทรศัพท์เค้าเพราะอะไร
นัยน์ตาคมฉายแววผิดหวังในตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่า.. วันนั้นเค้าซ้อมเหนื่อยจนผล๊อยหลับไป พอเช้ามาก็ลืมซะสนิทเลย.. เห็นแต่ข้อความฮารุกะเข้าแต่ก็ไม่ได้เปิดดูเพราะนึกว่าจะเป็นข้อความอรุณสวัสดิ์เหมือนทุกวัน
... เค้าพลาดเองซินะ... งั้นมันก็คงไม่แปลกหรอกที่ฮารุกะจะโกรธมากมายขนาดนั้น เพราะตัวเล็กเคยบอกไว้ว่าอยากไปไหว้พระด้วยกัน...
ความจริงตัวเล็กก็ไปไหว้มาแล้วตอนปีใหม่.. แต่ก็อยากไปกับเค้าอีก.. แต่จนแล้วจนเล่าเค้าก็ยังไม่ว่างซักที เลยต้องเป็นตัวเล็กที่คอยหาวันเวลาที่น่าจะได้ว่างตรงกัน.. ซึ่งก็คือวันที่ 11ที่ผ่านมา
วันที่เค้าเห็นว่าเป็นวันหยุดก็เลยนอนยาวจนบ่าย แล้วก็ไปซ้อมต่อกับเด็กๆในสโมสรจนมืด
วันที่เค้าได้ข้อความจากฮารุกะเป็นสิบ แล้วก็สายไม่ได้รับอีกมากมายแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักเพราะหลังจากนั้นเค้าก็ไปต่อกันกับน้องที่ซ้อม
แถมตอนที่ฮารุกะโทรมา.. น้องก็บอกแค่ว่า
... งั้นก็.. อย่าดื่มเยอะนะคะพี่มิยู ฝันดีค่ะ..
...ตอนนั้น.. ฮารุกะคงรู้สึกแย่มากเลยสินะ...
... ทั้งๆที่น้องนับวันรอ.. หาวันเวลาที่เราจะว่างตรงกัน... แต่เค้ากลับเป็นคนที่ละเลย
... ทั้งๆที่น้องอุตส่าห์เข้านอนแต่หัวค่ำ.. เพื่อมานั่งรอเค้าตอนเช้าที่ท่ารถ.. แต่เค้ากลับจำไม่ได้
.... ทั้งๆที่น้องอุตส่าห์ส่งข้อความมาเตือน.. แต่เค้ากลับไม่ใส่ใจ
... ทั้งๆที่น้องต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาหาเค้าที่เมืองนี้... แต่เค้ากลับตื่นตอนบ่าย แล้วก็ปล่อยให้น้องนั่งรถกลับคนเดียว
... วันนั้นฮารุกะจะเป็นยังไง.. จะรู้สึกยังไงนะ...
... วันนั้นที่น้องนั่งรอเค้า.. น้องจะทำหน้าแบบไหนนะ
แล้วเมื่อเลื่อนมาถึงข้อความสุดท้ายของวันที่ 11
สุดท้าย.. หนูก็รอเก้ออีกครั้งแล้วสินะ..
เฮ้อ.. ไม่อยากร้องไห้เลยนะพี่มิยู... แต่มันกลั้นไม่ไหวแล้วแหละ.. ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะพี่มิยู.. ยิ่งพยายามใกล้.. ก็เหมือนเรายิ่งห่างกัน
หรือความจริงแล้ว.. หนูไม่เคยสำคัญกับพี่เลย.. หรืออาจมีแค่หนูที่รักพี่อยู่ฝ่ายเดียว
... มันเจ็บจังเลยพี่มิยู.. หนูควรทำยังไงดีคะ( หรือหนูไม่ควรรักพี่ตั้งแต่แรกแล้ว...)
มิยูไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่ไหลออกมาได้.. เมื่อหัวใจกำลังรับรู้ ถึงความรู้สึกของคนที่ส่งข้อความมาในวันนั้น..
ว่าร่างบางคงเสียใจไม่น้อยไปกว่าเค้าในตอนนี้ และคงจะมากกว่าด้วยซ้ำเมื่อคนที่ทำให้ร่างบางเสียใจมันก็คือเค้าเอง
มือหนายกขึ้นปากน้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆ.. มืออีกข้างกำโทรศัพท์แน่นอย่างพยายามกลั้นอารมณ์ตัวเองเต็มที่ แต่เหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อจู่ๆข้อความจากคนที่เค้านั่งรอมาตั้งแต่3ทุ่มถูกส่งเข้ามา
ขอโทษนะคะ.. ถ้าวันนี้หนูทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ
หนูผิดเองแหละค่ะ... พี่อย่าคิดมากนะ
พักผ่อนเยอะๆนะคะ..
... ขอโทษ.. พี่ขอโทษนะฮารุกะ..
........................................................................
... ส่งไปแล้ว.. สุดท้ายก็ส่งไปจนได้นะเรา..
ฮารุกะที่กำลังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มลอบถอนหายใจแผ่วเบา.. นัยน์ตาหวานฉายแววเศร้า เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเย็น...
ในใจก็แอบหวังว่าจะมีข้อความตอบกลับมาบ้างจากใครอีกคน... ที่อยู่ปลายทาง แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อตลอดเวลาที่คบกันมา.. มิยูส่งข้อความหาเธอนับฉบับได้..
มือบางเลื่อนดูข้อความที่ถูกส่งมาจากเจ้าของนัยน์ตาคม.. ตั้งแต่ฉบับแรกจนฉบับปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ซักที..
ร่างบางนอนพลิกตัวไปมา.. จนมินามิที่นอนอยู่อีกด้านลุกขึ้นมาดูอย่างสงสัย
“ นอนไม่หลับหรอ..ฮารุกะ”
“ อ๊ะ.. ทำให้ตื่นหรอ.. ขอโทษนะ” ฮารุกะบอก
“ อืม.. ไม่เป็นไร ว่าแต่.. มีเรื่องอะไรรึเปล่า บอกเราก็ได้นะ..” มินามิบอกอย่างเป็นห่วง เพราะเมื่อเหลือบมองเวลาก็พบว่ามันเลยเวลานอนของร่างบางมานานแล้ว
“ ไม่มีไรหรอก.. สงสัยจะตื่นเต้นน่ะ ถ้างั้น.. เราขอออกไปเดินเล่นหน่อยนะ” ฮารุกะพูดพร้อมเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ
“ เฮ้ย!! นี่มันดึกแล้วนะ... จะไปเดินเล่นที่ไหน” มินามิถามอย่างตกใจ
“ เอ่อ.. ก็แถวๆนี้แหละ มินามินอนเหอะ.. ไปแปปเดียว เดี๋ยวชั้นกลับมา” ฮารุกะตอบก่อนจะรีบดันตัวเองออกจากห้องก่อนที่มินามิจะทันเอ่ยอะไรออกมาจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
................................................
.. เฮ้อ !! สุดท้ายก็ขาดพี่เค้าไม่ได้สินะเรา...
ฮารุกะได้แต่คิดกับตัวเองในใจ.. เมื่อพบว่าจากการที่เดินไปเรื่อยๆของตัวเอง เวลานี้มันกลับมาหยุดเท้าอยู่หน้าห้องของใครอีกคนไปแล้ว
หน้าห้องของใครบางคน.. ที่ทำให้ใจของเธอสั่นระรัว ก่อนจะรู้สึกหนักๆคล้ายจะหายใจไม่ออก เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเย็น..
... ทำไมเราต้องทะเลาะกันด้วยนะ...
แก๊ก !! แอดดดดด...
“เอ้า.. ฮารุกะ เข้ามาก่อนสิ” ยูกิที่เปิดประตูออกมาเจอกับร่างบางที่ยืนอยู่ก็ตกใจนิดหน่อยก่อนจะตั้งสติได้แล้วชวนน้องเข้าห้อง
“ เอ่อ..”
“ แต่ไอ้มิยูมันหลับแล้วนะ.. หลับตั้งแต่5ทุ่มแล้ว.. นอนอยู่บนเตียงโน่นแน่ะ” ยูกิว่าพลางพยักเพยิดไปทางร่างสูงที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
“ งั้น.. หนูขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยคะ” ฮารุกะแอบถอนหายใจอย่างโล่งใจเมื่อพบว่าร่างสูงหลับไปแล้ว
“ ได้สิ.. งั้นอยู่กับมิยูไปก่อนนะ พอดีพี่จะไปหานานะน่ะ เดี๋ยวมา” ยูกิบอกก่อนจะรีบออกไปโดยไม่รอคำตอบจากร่างบางที่ตอนนี้กำลังยืนเคว้งอยู่หน้าห้อง
สวบ !!
ฮารุกะที่เดินเข้ามาทรุดนั่งอยู่ข้างเตียงฝั่งที่ร่างสูงกำลังหลับอยู่... นั่งนิ่งๆอยู่ได้ซักพัก ก่อนที่ร่างสูงจะพลิกตัวจนผ้าห่มร่นไปกองอยู่ที่เอว เป็นเหตุให้ร่างบางต้องลุกขึ้นดึงผ้าขึ้นมาคลุมให้อย่างเบามือ
... รักพี่นะคะ..
เสียงหวานพูดขึ้นแผ่วเบา.. ก่อนที่ปลายจมูกจะกดลงบนแก้มของคนที่หลับอยู่อย่างแผ่วเบา แล้วผละออกมาหันหลังเดินออกจากห้องไป
... พี่ก็รักเธอ.. ฮารุกะ...
มิยูพูดขึ้นหลังจากที่ร่างบางของอีกคนเดินพ้นประตูห้องไป.. ร่างสูงยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองที่เหมือนจะมีหยดน้ำใสๆจากใครอีกคนเมื่อครู่หยดใส่
หยดน้ำที่ทำให้มิยูสั่นสะท้านในใจอย่างบอกไม่ถูก..
...............................................................................
“ ฮารุ...” หลังจบเกม มิยูที่มาดักรอร่างบางอยู่หน้าโรงยิมส่งเสียงเรียกร่างบางที่กำลังเดินออกมา แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้ยิน.. เมื่อร่างบางที่มิยูจะเรียกมีใครอีกคนเดินตามมาด้วย
“ ฮ่าๆๆ.. โทโมะคิดงั้นหรอ..” เสียงหวานใสดังผ่านหน้ามิยูไปราวกับเค้าไม่มีตัวตน จะว่าเป็นความผิดน้องก็ไม่ใช่ เพราะเค้าเป็นคนหลบเข้ามุมเอง..
ความจริง.. เค้าก็แค่อยากเห็น.. อยากเห็นฮารุกะยิ้ม อยากเห็นฮารุกะหัวเราะ.. อยากเห็นฮารุกะมีความสุข
เพราะงั้น.. เดี๋ยวเค้าค่อยเข้าไป.. มันคงจะดีกว่า
มิยูคิด.. ก่อนจะหันหลังสวนกลับเข้าไปด้านในเพื่อทะลุไปอีกฝั่งของโรงยิม ที่ๆทีมของเค้าน่าจะกำลังนั่งคุยกันอยู่
“ มองอะไรหรอฮารุกะ..” มินามิที่เดินขนาบมาอีกด้านของฮารุกะเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังหันซ้าย หันขวาราวกับต้องการหาใครบางคน แล้วเหมือนจะไม่ได้พบเพราะใบหน้าหวานกำลังฉายแววผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
“เปล่า.. ไม่มีอะไรหรอก.. เราไปกันเหอะ” ฮารุกะพูดขึ้นหงอยๆก่อนจะออกตัวเดินช้าๆ
........................................................
“ มิยู.. โทรไปดิ่ว่ะ นั่งจ้องแล้วมันจะดังรึไง” ยูกิที่เห็นเพื่อนนั่งจ้องโทรศัพท์ตั้งแต่ขึ้นห้องมาก็รู้สึกอึดอัดแทน
“ ................” มิยูเงยหน้าขึ้นมองยูกิ ก่อนจะหันกลับไปสนใจโทรศัพท์ต่ออย่างไม่ค่อยสนใจนัก
“ ไม่กล้า.. งั้นโทรให้เอามั้ย” ยูกิเสนอทางเลือกให้
“ ไม่เป็นไร.. ขอบใจ” มิยูตอบเบาๆก่อนจะตัดใจวางโทรศัพท์ไว้ที่หัวเตียงแล้วเดินไปหยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นมานั่งอ่านราวกับไม่ใส่ใจนัก
“ ชิส์..” ยูกิได้แต่มุ่ยหน้าใส่เพื่อนสนิทก่อนจะหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไปอาบน้ำ
.....................................................................
“ ฮารุกะ.. ชั้นว่าเธอไปเคลียกับพี่เค้าให้รู้เรื่องเหอะ” มินามิบอก เมื่อหลังจากอาบน้ำเสร็จพบว่าเพื่อนสนิทที่อาบน้ำเสร็จก่อนหน้าเธออีกยังไม่เช็ดผมให้แห้งซักที ปล่อยให้น้ำหยดติ๋งๆอยู่นั่นแหละ
“ จ้องอยู่นั่นแหละ.. อย่าคิดนะว่าชั้นไม่รู้น่ะว่าที่เธอไม่มีสมาธิวันนี้เพราะเรื่องอะไร” มินามิเอ่ยอย่างรู้ทัน
“ นะฮารุกะ.. เชื่อชั้น.. รุ่นพี่เค้าก็คงกังวลเรื่องเธอไม่น้อยเหมือนกันนั่นแหละ.. วันนี้น่ะ.. ไม่มีสมาธิด้วยกันทั้งคู่เลยเห็นมั้ย..” มินามิเอ่ยขึ้นเตือนสติ
“ พี่เค้าคงไม่ได้คิดเรื่องชั้นหรอก” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเจือความเสียใจไม่น้อย.. เมื่อเกมวันนี้เธอไม่ค่อยมีสมาธิเลย
“ ทำไมแกคิดงั้นล่ะ.. ไม่เอาน่า..อย่าคิดในแง่ร้ายดิ่” มินามิตบบ่าเพื่อนเบาๆ
“ เฮ้อ.. ก็ไม่รู้สินะ ถ้าพี่เค้าคิดถึงชั้นจริงๆ.. พี่เค้าก็คงโทร หรือว่าส่งข้อความมาบ้างแล้วล่ะ.. ชั้นว่า.. พี่เค้าคงโกรธชั้นมากเลยมั้ง” ฮารุกะพูดขึ้นอย่างปลงๆ
“ ไหงงั้นล่ะ.. ความจริงชั้นว่าคนที่ควรโกรธน่าจะเป็นแกมากกว่านะ” มินามิย้อน
“ ถ้าชั้นโกรธ.. แล้วพี่เค้าง้อมันก็คงจะดีสิเนอะ” เสียงหวานพึมพำราวกับกำลังบอกตัวเอง ด้านมินามิที่เห็นร่างบางเอาแต่นั่งเศร้าก็จนปัญญาไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
“ ถ้าพี่เค้าไม่ง้อ.. แกก็ง้อดิ่ว่ะ.. ไม่เห็นยากเลย” มินามิพูดขึ้น
“ ..............” ฮารุกะได้แต่นั่งนิ่ง
“ ไม่รู้นะแก.. ไหนๆก็ได้เจอกันแล้ว.. ทำไมต้องเอาเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันมาทะเลาะกันด้วยล่ะ หรือว่าถ้าพี่เค้าจะจบ มันจะจบ.. แกจะได้ไม่ต้องเจ็บคาราคาซังไง.. เชื่อชั้นเหอะ... ไปคุยกับพี่เค้าซะ..” มินามิอธิบายแล้วปล่อยให้ฮารุกะคิด
“ เดี๋ยวชั้นมานะแก” เสียงหวานที่ดังขึ้น เรียกรอยยิ้มจากมินามิได้ไม่น้อยเมื่อพอว่า ในที่สุดฮารุกะก็ตัดสินใจได้ซะที
“ เออ.. โชคดีนะแก”
........................................................................
“ มิยู.. เดี๋ยวชั้นจะไปหานานะนะ..พอดีมีเรื่องจะคุยกันนิดหน่อย” ยูกิบอกมิยูขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่
“ อืม.. ชั้นไม่ไปนะ จะอ่านหนังสือ” มิยูพูดโดยไม่เงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่
“ เออๆ.. แกน่ะไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวกลิ่นติดเตียง เหม็นเหงื่อ” ยูกิที่อยู่ๆก็เกิดอาการหมั่นไส้เบาๆเลยเดินมาดึงหนังสือออกจากมือมิยูก่อนจะดันหลังเพื่อนสนิทเข้าห้องน้ำไป
......................................................................
ก๊อกๆๆ
“ อ้าว!! ฮารุกะ.. เข้ามาก่อนสิ มิยูมันอาบน่ะ” ยูกิที่เดินมาเปิดประตูเอ่ยบอกอย่างรู้ทันเมื่อร่างบางสอดสายตามองหาใครอีกคนที่น่าจะอยู่ในห้อง
“ เอ่อ.. ค่ะ .///.”
“ งั้น.. ล๊อกห้องให้พี่ทีนะ พอดีพี่จะไปหานานะน่ะ” ยูกิบอกก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วออกจากห้องไป
... แอดดดด..
“ เอ่อ..” ฮารุกะที่นั่งอยู่ปลายเตียงทำตัวไม่ถูกเมื่อมิยูเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ยังไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไรนัก
... แง.. จะเริ่มยังไงดีล่ะฮารุกะ.. พี่เค้าออกมาแล้วนะ... จะพูดอะไรก่อนดี.. ง่าๆๆ
“ ไง...” มิยูทักก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไปแต่งตัวให้เรียบร้อย
“ คือ...” มือบางทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่นอย่างพยายามให้กำลังใจตัวเอง.. เมื่อร่างสูงที่แต่งตัวเสร็จแล้วกำลังเดินตรงมาพร้อมผ้าขนหนูที่วางอยู่บนศีรษะ
*$%#^*%$
“ ฮัลโหล.. อ่าฮะ.. จำได้ๆ....&*^#%” มิยูที่เดินไปรับโทรศัพท์ที่วางไว้ตรงหัวเตียง ก่อนจะทรุดตัวนั่งคุยโทรศัพท์อย่างออกรสราวกับลืมไปว่ามีใครอีกคนกำลังนั่งรออยู่
สายตาหวานฉายแววเศร้าอย่างเห็นได้ชัด.. เมื่อจากที่สังเกตร่างสูงไม่ได้มีท่าทีเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาเมื่อวานแม้แต่น้อย แถมยังมานั่งคุยโทรศัพท์กับคนอื่นให้เธอฟังอีก..
... อย่าหวังให้มันมากเลยฮารุกะ.. ตกจากที่สูงน่ะ มันเจ็บนะ...
ร่างบางได้แต่บอกตัวเองในใจ.. เมื่อหลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จร่างสูงก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจเธอแม้แต่น้อย กลับเดินผ่านหน้าเธอไปราวกับไม่มีตัวตน
ความเสียใจกำลังประดังเข้ามาให้หัวใจสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้.. นัยน์ตาหวานที่เหลือบมองแผ่นหลังของร่างสูงต้องกระพริบเพื่อไล่น้ำใสที่กำลังรื้นอยู่บริเวณขอบตาช้ำ
“ หนูขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะคะ”
กริ๊ก !!
... พี่ขอโทษนะฮารุกะ.. แต่พี่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง... พี่ไม่เคยง้อใคร และพี่ง้อใครไม่เป็น
มิยูได้แต่คิดในใจ นัยน์ตาคมจ้องไปยังประตูห้องน้ำที่ถูกปิดลงเพราะใครอีกคน มือหนากำเข้าหากันแน่นอย่างไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรในตอนนี้
ในหัวก็พาลนึกถึงใบหน้าหวานที่ดูเศร้าและสายตาผิดหวังที่ร่างบางมองมาตอนที่เค้ารับโทรศัพท์ เดาได้ไม่ยากเลยว่าน้องคงคิดไปต่างๆนาๆว่าคงเป็นคนที่เข้ามาหาเค้า น้องไม่เคยว่า ไม่เคยบอก ไม่เคยห้ามเวลาที่เค้าจะคุยกับคนอื่น
แต่นี่คงเป็นครั้งแรกที่เค้าเห็นน้องทำหน้าแบบนี้ให้เห็น.. แม้ว่าสายที่โทรมาจะเป็นพี่สาวเค้า แต่น้องที่ไม่รู้ด้วยก็คงคิดอะไรไปต่างๆนาๆ
... พี่คงเป็นแฟนที่แย่มากเลยใช่มั้ยฮารุกะ.. พี่ถึงทำให้เธอเชื่อว่าพี่จะไม่มีใครไม่ได้...
ด้านฮารุกะ..
... พี่มิยู.. เรื่องของเราจะจบลงจริงๆแล้วใช่มั้ยคะ..
ในหัวร่างบางกำลังคิดไปถึงตอนที่ร่างสูงเดินผ่านเธอไปคุยโทรศัพท์ที่เหมือนจะมีความสุข ร่างสูงทำราวกับเธอไม่มีตัวตน..
ถ้าเป็นแบบนี้.. แล้วเธอควรยืนอยู่ตรงไหนกัน
... ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ.. ความจริงมันรับได้ยากเสมอเลยรึเปล่า..
.. ทั้งๆที่เตรียมใจมาแล้วแท้ๆ.. ทั้งๆที่น่าจะชินซักที... แต่ทำไมมันถึงแปลบๆขึ้นมาอย่างนี้ ทำไมมันถึงต้องเสียดขึ้นมาอีกด้วย..
.... พอดีกว่ามั้ยฮารุกะ.. แค่นี้เธอยังเสียใจไม่พออีกหรอ..
... ต่อให้รักมากขนาดไหน.. แต่คนเรา.. ตบมือข้างเดียวยังไงมันก็ไม่ดังหรอก
.... เอาน่า.. ฮารุกะ... ไม่มีพี่เค้า เราก็ไม่เป็นไรหรอก.. เราต้องไม่เป็นไร.. ร่างบางยืนสั่งตัวเองอยู่หน้ากระจก ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะยิ้มให้กำลังใจตัวเองช้าๆ
กริ๊ก !!
ร่างบางที่เปิดประตูออกมาก็พบว่าร่างสูงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หัวเตียง.. หลังจากที่ยืนเก้ๆกังๆได้ซักพัก ฮารุกะก็พาตัวเองมานั่งที่ปลายเตียงเงียบๆ
พรึ่บ ๆ
เสียงพลิกกระดาษดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ.. นัยน์ตาคมจ้องมองแผ่นหลังของร่างบางที่นั่งคู้ตัวอยู่ที่ปลายเตียงพลางคิดว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี แต่ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ซักที
ติ๊ดๆ (ข้อความเข้า)
พี่ค่ะ.. หนูขอโทษนะคะ
ร่างบางที่ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี.. ก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความด้วยคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
มือบางไล้หน้าจอโทรศัพท์รออย่างมีความหวัง.. ว่าร่างสูงที่นั่งอยู่ด้วยกันจะตอบอะไรกลับมาบ้าง.. ซักนิดก็ยังดี
ติ๊ดๆ
พี่คะ.. โกรธหนูมากเลยหรอคะ
หนูขอโทษ.. พี่ยกโทษให้หนูนะคะ
มือหนาที่เปิดข้อความออกอ่านไล้วนอยู่ที่ข้อความซ้ำๆ แต่ไม่ยอมกดอะไรส่งกลับไปแม้แต่น้อย
ติ๊ดๆ
พี่มิยู.. เราดีกันนะคะ
ติ๊ดๆ
พี่มิยู.. พี่พูดอะไรกับหนูบ้างสิคะ
ติ๊ดๆ
พี่มิยู... ง้อนะคะ
ฮารุกะง้อพี่มิยูนะคะ.. ดีกันเหอะนะคะ
ติ๊ดๆ
พี่มิยู.. หนูเสียใจนะคะ
เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะคะ
ติ๊ดๆ
พี่มิยู.. ฮารุกะรักพี่นะคะ
ติ๊ดๆ
พี่มิยูๆๆๆ....และอีกกว่าสิบฉบับที่ร่างบางขยันพิมพ์ส่งให้ร่างสูง แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผลเมื่อร่างสูงยังคงเพียงกดเปิดเข้าไปอ่านดูแต่ไม่ตอบกลับมาเลย
ติ๊ดๆ
พี่ค่ะ.. คุยกับฮารุกะนะ
ฮารุกะเหงา T^T
ติ๊ดๆ
พี่มิยู.. ถ้าพี่ไม่คุย
ฮารุกะจะกลับห้องแล้วนะ -^-
ร่างบางกลั้นใจรอให้ร่างสูงเอ่ยอะไรขึ้นมาซักคำ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่อทุกอย่างยังคงตกอยู่ในความเงียบสงบ
จนเธอเริ่มท้อ.. และคิดว่า.. หรือบางทีอาจเป็นแค่เราที่อยากให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม
ติ๊ดๆ
พี่คะ.. เรายังรักกันอยู่มั้ย
ฮารุกะกระพริบตาเพื่อไล่ให้หยาดน้ำตาไหลลงมาอย่างผิดหวัง.. เมื่อเธอพยายามแล้ว.. พยายามที่จะรักษาทุกอย่างไว้ แต่มันก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม.. ที่ไม่เหมือนเดิมก็แค่ความเสียใจ
ที่ตอนนี้เหมือนมันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจห้ามได้..
นัยน์ตาคมทอประกายเศร้า.. ยิ่งเมื่อแผ่นหลังของร่างบางที่สั่นน้อยๆด้วยเพราะเจ้าของกำลังร้องไห้ เค้าก็ยิ่งอยากเอื้อมมือไปรั้งร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
อยากดึงเข้ามากอด เข้ามาปลอบ เข้ามาเช็ดน้ำตา.. แต่มันติดอยู่ที่ว่า เค้าเป็นคนเริ่มไม่เป็น
ทุกข้อความของร่างบางมันทำให้เค้ายิ่งรู้สึกผิด.. เค้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร จะพูดแบบไหน..
ตุ๊กตากระเบื้องตรงหน้าเค้า.. มันกำลังร้าว.. และเค้ากลัวว่า.. หากเค้ากอดแรงไป.. ทำอะไรหรือพูดอะไรออกไป... ตุ๊กตาตัวนี้มันจะแตก
.... ฮารุกะ.. ยกโทษให้พี่นะ..
มิยูวางหนังสือที่แกล้งอ่านลงกับหัวเตียงพร้อมโทรศัพท์.. เค้าตัดสินใจแล้ว.. เค้าไม่อยากเห็นน้องเป็นแบบนี้อีกแล้ว แต่เค้าก็ปล่อยน้องไปไม่ได้เช่นกัน
%#^&%#^**$
แต่ก่อนที่มิยะตัดสินใจพูดหรือทำอะไร เสียงโทรศัพท์ที่หัวเตียงก็ดังขึ้น.. และด้วยความบริสุทธิ์ใจ มิยูเลยเปิดลำโพงเพราะไม่อยากให้น้องกังวลว่าใครโทรมา
“ ฮัลโหล”
“ มิยู..ชั้นนานะนะ”
“ อืม.. ว่าไงนานะ”
“ คือยูกิให้ชั้นโทรมาบอกว่าคืนนี้ยูกิจะนอนกับชั้นนะ”
“ อืม.. แล้วจะให้ชั้นนอนคนเดียวหรอ” มิยูถาม
“ เออสิ.. หรือว่าแกจะให้ชั้นไปตามใครให้มานอนด้วยล่ะ” นานะส่งเสียงมาตามสาย
“ บะ..บ้า.. ไม่เอาด้วยหรอก” มิยูพูดพลางเหลือบตามองร่างบางที่ปลายเตียง
“ อย่ามาว่ะมิยู.. วันนี้ก็มีคนเข้ามาขอเบอร์นี่หว่า.. แถมเพื่อนชั้นก็ชอบแกอีก เอามั้ยแก.. เดี๋ยวชั้นให้เพื่อนไปนอนเป็นเพื่อน รับรองไม่บอกน้องฮารุกะแน่นอน” นานะเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“ เฮ้ย!! ไม่เอาๆ” มิยูรีบกรอกเสียงลงไปตามสาย
“ เอาน่า.. เดี๋ยวชั้นบอกเพื่อนให้นะ” นานะคะยั้นคะยอ
“ ไม่ๆ.. แค่นี้ใช่มั้ย..พอดีชั้นอยู่กับน้องน่ะ ” มิยูเอ่ย
“ อ้าว..จริงดิ่.. ขอโทษๆ..เออๆ.. แค่นี้แหละ..”
“ ราตรีสวัสดิ์นะ” มิยูรีบตัดบททันที เมื่ออยู่ๆก็มีข้อความอีกฉบับนึงเข้ามา
ติ๊ดๆ
พี่คะ.. ถ้าหนูทำให้พี่ลำบากใจ
.. งั้นเราเลิกกันเหอะค่ะ..
พรึ่บ!
.. ฮึกๆ... ฮึก..ฮืออ..
เสียงสะอื้นดังขึ้นมาจากอ้อมแขนของมิยู.. ที่รีบวางโทรศัพท์แล้วรีบเข้ามาคว้าตัวร่างบางไว้ทันก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง
“ ฮึก..ปละ...ฮือ..ฮือ..ปล่อยหนูเถอะค่ะ”
มือบางพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมแขนของร่างสูงทีวันนี้ดูเหมือนจะรัดแน่นเป็นพิเศษ นัยน์ตาหวานฉ่ำไปด้วยน้ำตา แก้มนวลกำลังแดงก่ำขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ
“ ขะ..ฮึก.. ขอบ.. ฮึก.. ฮือ..ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมานะคะ”
“ ฮารุกะ..” มิยูไม่ยอมปล่อยมือออก แม้ว่าร่างบางจะพยายามดันตัวเองออกยังไง.. ร่างสูงก็ไม่ยอมให้หลุดออกไป
“ ฮึก..พะ..ฮึก..พี่คะ หนะ..ฮึก.. หนู... ฮึก.. ฮือ... หนูไม่ไหวแล้วค่ะ หนะ..ฮึก.. หนู.. ฮึก.. ฮือ.. หนูพยายามแล้ว ฮึก...หนะ..ฮึก..หนู.. ฮึก.. ฮือ.. หนูคงเป็นแฟนที่ดีไม่ได้จริงๆค่ะ.. หนู..ฮึก..หนูจะ..ฮึก.. ฮือ.. หนูเจ็บ..ฮืออออ”
เสียงหวานที่เจือด้วยเสียงสะอื้นทำให้มิยูได้แต่เพิ่มแรงกอดที่รัดร่างบางอยู่ให้แน่นขึ้น.. ใบหน้าคมซุกลงกับกลุ่มผมนุ่มด้วยไม่อยากให้ร่างบางรู้ว่าตัวเองก็ร้องไห้เช่นกัน
“ ฮึก..พะ..ฮึก..ฮึก..พี่ค่ะ..ระ..ฮึก..เรา..ฮึก..ฮือ..เราจบกันตรงนี้เถอะนะคะ..ฮือออ...”
“ ไม่ฮารุกะ..ไม่”
เสียงทุ้มกว่าเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง..
“ ฮึก.. แต่..ฮึก..ฮือ... แต่หนูไม่ไหวแล้วจริงๆค่ะ”
เสียงหวานเอ่ยอย่างท้อถอยและพยายามยอมรับความจริง..
“ ฮารุกะไม่รักพี่แล้วหรอ.. เลิกรักพี่ไปแล้วหรอ” มิยูถามย้ำอย่างไม่ยอมแพ้
“ มะ..ฮึก..ไม่ค่ะ..หนูไม่เคยเลิกรักพี่เลย ฮึก..ฮือ.. ต่อให้พยายาม.. หนูก็ทำไม่ได้..ฮือ..” เสียงหวานเอ่ยอย่างยอมจำนน..
“ งั้นอย่าเลิกนะ.. เราอย่าเลิกกันนะ... ฮารุกะ..พี่ขอ”
“ ฮึก.. อย่าเลยค่ะ.. ฮือออ.. พี่จะได้มีเวลาทำในสิ่งที่พี่อยากทำไงคะ” ฮารุกะพยายามกลั้นสะอื้น
“ ฮารุกะ.. อย่า..”
“ พี่มิยู..ฮึก..พี่จำได้มั้ยคะว่าพี่ผิดนัดหนูไปกี่ครั้ง... ฮึก..ฮึก.. พี่โทรหาหนูกี่หน.. ตอบข้อความหนูกี่ฉบับ..ฮึก..พี่จำได้มั้ยว่าหนูชอบอะไร.. ไม่ชอบอะไร...ฮึก..พี่รู้มั้ยว่าหนูต้องนั่งร้องไห้กี่ครั้ง..ฮึก.. ต้องเสียใจกี่หน.. ฮึก.. ต้องนั่งคนเดียวจนมืด..ฮึก.. ต้องตื่นให้เช้าขึ้น..
หนะ..หนู..ฮึก.. หนูพยายามเป็นคนรักที่ดี... ฮึก.. เป็นแฟนที่ดี.. หนะ..หนูพยายามไม่คิดมาก..ฮึก..
เวลาที่พี่ไม่รับโทรศัพท์..ฮึก..หนูก็ไม่ว่า.. ฮึก.. พี่ไม่ตอบข้อความ..ฮึก.. หนูก็ไม่พูด.. ฮึก.. พี่จะคุยกับใคร.. หนูก็ไม่เคยห้าม
เพราะอะไรรู้มั้ยคะ..ฮึก.. เพราะหนูกลัวไงคะ.. ฮึก.. หนูกลัว..หนูกลัวว่าจะถูกพี่ทิ้งในซักวัน.. ฮึก..กลัวว่าวันไหนที่ไม่มีพี่..ฮึก.. แล้วหนูจะอยู่ไม่ได้
ฮึก.. หนูเคยหวังนะคะ... ฮึก.. เคยหวัง.. ว่าซักวัน..ฮึก.. พี่จะรักหนูบ้าง..ฮึก.. ซักวัน..พี่จะทำเหมือนคนอื่นที่เค้าเป็นแฟนกัน..
..ฮึก.. แต่หนู..ฮึก... แต่หนูหวังมากไปใช่มั้ยค่ะ..ฮึก..
เพราะตอนนี้.. ฮึก.. แม้แต่ตอนที่พี่กอดหนูอยู่... ฮึก.. หนูก็ยังเจ็บเหลือเกิน..
หนูควรทำไงดีค่ะ..ฮึก.. พี่บอกหนูหน่อยสิคะ...ฮึก.. ว่าหนูควรทำไง..ฮือ..”มือบางระรัวทุบใส่ร่างสูงเจ้าของอ้อมกอดอย่างระบายอารมณ์..
“ ฮารุกะ..พี่ขอโทษ” เสียงทุ้มกว่าดังขึ้น.. มิยูพูดอะไรไม่ออกนอกจากได้แต่บอกว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมา..
“ พอเถอะค่ะ.. พี่อย่าขอโทษหนูเลย.. ฮึก.. ยิ่งพี่ขอโทษ..ฮึก.. หนูก็ยิ่งรู้สึกแย่.. รู้มั้ยคะ” ฮารุกะผละออกจากอกเงยหน้าขึ้นสบตาร่างสูง
“ แต่พี่ต้องขอโทษค่ะ..” มิยูย้ำ
“ ทำไมคะ..พี่จะขอโทษหนูทำไม..” ฮารุกะถาม
“ เพราะว่าพี่คงปล่อยเราไปไม่ได้.. พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเรานะฮารุกะ.. อย่าทิ้งพี่ไปนะ.. ถึงพี่จะไม่ใช่แฟนที่ดีนัก.. แสดงออกก็ไม่เก่ง.. แต่ที่พี่รู้ดีก็คือ.. พี่รักเรานะฮารุกะ.. รักเรา.. รักมาก
ฮารุกะคงไม่รู้.. ว่าพี่ต้องตื่นมารออ่านข้อความทุกเช้า.. แล้วก็รออาบน้ำหลังข้อความราตรีสวัสดิ์
พี่รู้ว่าพี่ไม่ค่อยมีเวลา.. ผิดนัดก็บ่อย... ชอบทำเหมือนฮารุกะไม่สำคัญ... แต่พี่พี่อยากบอกให้ฮารุกะรู้นะ.. ว่าฮารุกะเป็นยิ่งกว่าคนสำคัญ.. ฮารุกะคือครอบครัว
พี่เอาแต่คิดเอง..เออเอง.. จนบางครั้งก็มองข้ามจุดสำคัญๆไป..
จากนี้ไป.. ฮารุกะให้โอกาสพี่นะ
ฮารุกะไม่ต้องเป็นฝ่ายเทคแคร์พี่แล้ว.. พี่จะเป็นฝ่ายตามตื้อฮารุกะเองนะ..
ฮารุกะอย่าเพิ่งทิ้งพี่ไปไหนนะ..”
“ พี่มิยู !!...”
“ คบกับพี่ต่อนะ..ตัวเล็กของพี่” มิยูถามพร้อมส่งสายตาอ้อนวอนตามแบบฉบับ
“ .....”
“ นะคร๊าบบ.. ตัวเล็ก.. คบกับพี่ต่อนะ..” เสียงทุ้มกว่าเอ่ยเว้าวอนพลางซุกหน้าลงกับซอกคอร่างบาง
“ ...ม”
“ ฮะ... อะไรนะ.. ตัวเล็กพูดว่าไงนะ..พี่ไม่ได้ยิน” มิยูถามซ้ำ
“ ...ม”
“ ง่า.. ตัวเล็กอ่ะ.. อย่าแกล้งพี่สิ.. นะคับน๊า”
“ ค่ะ..” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมริ้วแดงๆบนใบหน้า
“ งั้นคืนนี้ตัวเล็กนอนกับพี่นะ.. ไปค่ะ.. ร้องไห้ซะตาช้ำหมดแล้ว..พี่ขอโทษนะคะ.. ตัวเล็กให้อภัยพี่นะ” มิยูว่าพลางดันตัวร่างบางให้นอนลงบนเตียงก่อนที่เจ้าตัวจะเดินอ้อมไปนอนอีกข้างแล้วรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด
“ พี่อาจไม่ใช่แฟนที่ดีที่สุด.. แต่พี่รักฮารุกะที่สุดเลยนะ..”
จุ๊บ!!
“ อื้ม.. ฝันดีค่ะพี่มิยู รักพี่นะคะ”
จุ๊บ!!
“ พี่ต้องฝันดีแน่ๆ.. ได้นอนกอดฮารุกะแบบนี้น่ะ”
...............................................................
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ กำลังใจ และการติดตามนะคะ
หายไปนานเลย.. แฮะๆ.. ช่วงนี้ยุ่งมากเลยค่ะ
สำหรับเรื่องนี้.. อาจจะงงๆไปหน่อย อย่าว่ากันนะคะ
ไรท์อยากแต่ง.. อยากอัพ.. คิดถึงคนอ่าน อิอิ
ไปดีกว่า.. ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
ความคิดเห็น