คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เด็กเอาแต่ใจ..ตอนที่1
ป.ล.ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์จริง สถานที่จริงและบุคคลใดๆทั้งสิ้น
ทุกอย่างเป็นเพียงการสมมติขึ้นมา.. เท่านั้น
ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ ^__^
โครม!! ซ่าาา~~
ห้าชีวิตที่นั่งประจำตรงระเบียงทางเดินของอาคารเรียนชั้นสามหยุดกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ฉับพลันเมื่อถูกบุคคลปริศนาสาดน้ำลงมาโครมใหญ่จนเนื้อตัวเปียกลู่ให้ต้องสะบัดเสยไล่ความชื้นออกจากร่างกันอย่างหงุดหงิดพร้อมเสียงสบถที่ไม่ค่อยน่าฟังนัก
คนร่างสูงที่นั่งบนขอบระเบียงเขวี้ยงมวนบุหรี่เปียกน้ำลงกับพื้นอย่างหัวเสียก่อนจะกระโดดลงมายืนเผชิญหน้ากับผู้บุกรุกสถานที่ส่วนตัวอย่างเอาเรื่อง
“ทำบ้าอะไรของเธอ!!!....”
“ดับไฟไง...แถวนี้มลพิษมันเยอะ!...” คนตัวเล็กกว่าไม่ได้เกรงกลัวต่อเสียงคำรามถามเลยแม้แต่น้อยแถมยังขว้างถังน้ำว่างเปล่าที่ถืออยู่ลงกับพื้นจงใจให้มันกระแทกไปโดนแข้งขาของฝ่ายตรงข้ามอย่างเปิดศึก
ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันไม่ลดละจนเกิดเป็นความเงียบอยู่ชั่วขณะในบริเวณนั้นท่ามกลางเสียงนักเรียนที่เดินผ่านไปมาเริ่มขยับปากซุบซิบนินทา
“ฉันเคยเตือนเธอแล้วนะว่าถ้าขืนยังมาสูบบุหรี่ในเขตโรงเรียนอีกล่ะก็ฉันจะจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาดนากาโอกะ มิยู!...” คนถูกตักเตือนเพียงกระตุกยิ้มมุมปากอย่างนึกขันที่บทลงโทษแสนน่ากลัวนั้นเป็นเพียงการสาดน้ำที่สร้างความหงุดหงิดให้เท่านั้น
นากาโอกะ มิยู ยกยิ้มที่มุมปาดก่อนขยับตัวเข้าไปใกล้ให้ฝ่ายตรงข้ามผงะ ก่อนจะโน้มหน้าลงจัดการปิดริมฝีปากสีชมพูอ่อนแสนล่อตานั้นอย่างถือดีท่ามกลางอาการตกตะลึงของผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์วิวาทครั้งนี้และ....สองบุคคลสำคัญที่เพิ่งวิ่งหน้าเริดออกมาจากห้องสภานักเรียนหลังจากที่มีรุ่นน้องคาบข่าวไปบอกประธานและรองประธานนักเรียนให้ต้องทิ้งงานที่กองอยู่แล้วรีบพรวดพราดออกมา
ยูกิ วิ่งตามหลังริสะเข้ามายังบริเวณพื้นที่เกิดเหตุก่อนที่ขาของคนทั้งคู่จะหยุดชะงักเมื่อเห็นเพื่อนตัวน้อยที่มีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการควบคุมความประพฤติยืนค้างเบิกตากว้างไร้เรี่ยวแรงขยับเขยื้อนเมื่อถูก..เด็ก(หรอ??)..ฉวยเอาจูบแรกไปเสียแล้ว
ยูกิกวาดสายตามองกลุ่มเพื่อนของนากาโอกะ มิยูที่ยืนตัวเปียกจนทั่วและหยุดลงตรงคนหลังสุดที่ยังยืนนิ่งแม้ตัวจะเปียกมะร่อกมะแร่กและคาดว่าลมที่พัดโกรกเข้ามาตามแนวระเบียงคงทำให้หนาวไม่น้อยแต่ร่างบางก็ยังยืนนิ่งทั้งที่ไม่ได้ใส่เสื้อนักเรียนตัวนอกอย่างเพื่อนคนอื่น
ประธานนักเรียนกระแอมไอเรียกสติตัวเองพลางเบี่ยงหน้าหนีในทันทีที่ถูกอีกฝ่ายจ้องกลับ แต่ดูเหมือนว่าการเรียกสติของยูกิเมื่อครู่จะทำให้คนที่ถูกทำอุกอาจมีสติขึ้นมาด้วยเช่นกัน..ฝ่ามือเล็กยกขึ้นผลักคนตัวโตออกห่างพลางใช้หลังมือปาดเช็ดความอุ่นร้อนบนริมฝีปากสีฉ่ำอย่างโกรธเคือง
“ทำบ้าอะไรของเธอ!!!.....”
“จูบไง....เผื่อคนแถวนี้จะหุบปากลงบ้าง...”
“เธอ!.....นากาโอกะ มิยู!!!!!....” และก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายจนกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โตเมื่อคณะกรรมการควบคุมความประพฤติผู้แสนเข้มงวดคนนี้ตั้งท่าจะเข้าไปกระชากคอเสื้อคนตัวโตที่ยังยืนหน้าตายด้วยความหงุดหงิด ริสะก็รีบลากเพื่อนตัวน้อยให้ออกมาจากบริเวณนั้นและโยนภาระทั้งหมดไปให้ประธานนักเรียน
ยูกิถอนหายใจมองกลุ่มรุ่นน้องม.ปลายปีหนึ่งที่เพิ่งเข้าใหม่แต่ดันก่อเรื่องทำผิดระเบียบไม่เว้นวันและตลอดเทอมที่ผ่านมาความประพฤติแหกกฎชวนปวดหัวก็ยังดำเนินมาเรื่อยๆจนกระทั่งวันนี้..ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม
“นากาโอกะ มิยู...เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าห้ามสูบบุหรี่ในโรงเรียนแล้วทำไมยังทำอยู่อีก...เธอท้าทายอาจารย์?...ฉัน?...หรือว่าเธอแค่ต้องการเรียกร้องความสนใจแบบเด็กๆ.....” คนร่างสูงก้มลงเก็บถังน้ำที่คาดว่าน่าจะเป็นของเพื่อนรักตัวน้อยทิ้งเอาไว้ ก่อนที่ยูกิจะขยับย้ายมาเผชิญหน้ากับตัวต้นเหตุอีกครั้ง
“อย่าคิดว่าบ้านรวยและพ่อเป็นถึงหุ้นส่วนใหญ่ของโรงเรียนแล้วเธอจะทำอะไรก็ได้นะ....ที่นี่..โรงเรียนนี้ไม่สนใจชาติตระกูลภูมิหลังของเธอหรือใคร...แต่ทุกคนที่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ต้องปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้นเข้าใจใช่มั๊ยนากาโอกะ มิยู....พวกเธอก็ด้วยเข้าใจรึเปล่า...” แม้ผู้ถูกสั่งสอนจะยืนนิ่งไม่เอ่ยปากเถียงแต่ท่วงท่าอาการเซ็งของพวกมันที่แสดงออกมาก็บ่งชัดได้ดีว่าเข้าใจแต่ไม่คิดจะปฏิบัติตาม!
เชื่อได้เลยว่าถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นฮารุกะเจ้าเด็กพวกนี้อาจจะโดนน้ำสาดอีกซักถังโทษฐานที่แสดงกิริยามารยาทให้น่าหงุดหงิด แต่เผอิญคนที่ยืนอยู่ ณ ตอนนี้คือยูกิที่มีเหตุผลและใจเย็นเกินกว่าจะเอาอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลสถานการณ์จึงดำเนินไปได้ด้วยดีไม่มีการกระทบกระทั่ง
“ฉันจะให้โอกาสพวกเธออีกซักครั้ง....แต่ถ้าพวกเธอยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกฉันก็คงจะต้องจัดการพวกเธอขั้นเด็ดขาดเหมือนกัน...” ขู่ก็แล้ว ทำโทษก็แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กเกเรพวกนี้ก็ยังทำตัวแบบเดิม หวังว่าคราวนี้ที่ยูกิใช้ไม้อ่อนเอาความใจดีเข้าข่มจะทำให้เด็กพวกนี้มีสำนึก....บ้าง
นัยน์ตาคมน่าเกรงขามจ้องมองคนทำผิดเรียงตัวแต่ดูเหมือนว่านอกจากพวกมันจะไม่หลบตาแล้ว ยังไม่มีความเกรงกลัวกับประธานนักเรียนที่ยืนเผชิญหน้ากับพวกมันอยู่เลย ... ยูกิแอบถอนหายใจเบาๆเดินไปยัดถังน้ำใส่มือซากะเจ้าเด็กตัวแสบที่เจาะหู5รูให้มันก้มลงมองแบบเซ็งๆก่อนที่คนร่างสูงจะเดินแหวกกลุ่มเด็กซ่าเข้าไปหาใครคนท้ายสุดที่จู่ๆก็ถูกลมหนาวพัดผ่านจนต้องกอดอกห่อไหล่
“ฉันให้ยืม....ถ้าหายหนาวแล้วค่อยเอามาคืน...” แพขนตาชื้นน้ำก้มมองเสื้อสีเข้มที่วางคลุมบนไหล่บางแล้วตวัดตามองคนใจดีโดยไร้คำพูดใดๆมีเพียงรอยยิ้มเจือจางจากประธานนักเรียนเท่านั้น
ซาโอริมองแผ่นหลังกว้างเหยียดตรงที่เดินหายลับไปตามทางเชื่อมต่อของตึกเรียนพลางกระชับเสื้ออุ่นเข้าหาตัวก่อนที่ไหล่บางจะถูกริกะเพื่อนผมสีทองโอบให้เดินตามนากาโอกะ มิยูและซากะไปโดยมีมายะบุคคลชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเดินห้อยท้ายแหวกฝูงนักเรียนมุงออกไป
...........................
.......
“อะไร!!?.....เธอปล่อยไปอีกแล้วเหรอยูกิ~!!!.” และอีกมากมายที่เพื่อนตัวเล็กลุกขึ้นโวยวายทันทีที่รู้ว่า เมื่อกลางวันยูกิปล่อยเด็กเกเรให้ลอยนวลโดยทำแค่การตักเตือนเล็กน้อยแต่พองาม==*
หลังจากไม่ได้เข้าเรียนคาบบ่ายเพราะต้องไปรายงานความประพฤติและเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้อาจารย์ฝ่ายปกครองได้รับรู้ ยูกิก็ได้เจอเพื่อนฝูงอีกทีตอนเลิกเรียนพอดิบพอดี แถมยังต้องหยีหน้ายกมือขึ้นอุดหูทันทีที่เดินเข้ามาในห้องสภานักเรียนอีกด้วย=3=
“ใจดีเกินไปอีกแล้วนะยูกิ...”
ริสะเดินดื่มน้ำเย็นออกมาจากแท้งน้ำมุมห้องก่อนจะมาหยุดอยู่ข้างๆเพื่อนตัวบางที่กำลังโวยวายหน้ามุ่ยพลางพิงสะโพกเพรียวกับพนักโซฟามองดูประธานนักเรียนที่ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามอย่างเมื่อยล้า
“ไม่ใช่เพราะคนสวยนั่นหรอกนะ...”
คนถูกพูดจี้ใจดำจิ๊ปากให้รองประธานอย่างสุดเซ็งแกล้งปิดหูปิดตาไม่รับรู้เสียงบ่นเสียงโวยของเพื่อนทั้งสอง จนห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้งเมื่อฮารุกะเดินหน้างอออกจากห้องไปอย่างอารมณ์บูดสนิท
คนตัวเล็กเดินบ่นหงุงหงิงไปตามประสาคนขี้หงุดหงิดลงมาจนถึงม้านั่งหลังตึกเรียนที่ฮารุกะชอบนั่งประจำเวลาอารมณ์บ่จอย แต่ดูเหมือนว่าเย็นวันนี้ที่ประจำของฮารุกะจะถูกกลบด้วยควันบุหรี่และกลิ่นเหม็นๆของมันไปเสียแล้ว
คิ้วเรียวขมวดฉับเพ่งมองบุคคลที่ยืนพิงต้นไม้ปล่อยควันพิษออกมาเป็นระรอกก่อนที่เท้าเรียวจะก้าวตรงไปฉวยดึงมวนบุหรี่จากริมฝีปากสีคล้ำแล้วขว้างลงพื้นหญ้าพร้อมใช้เท้าเหยียบขยี้จนไฟมอดให้คนร่างสูงที่ถูกลุกล้ำสิทธิส่วนตัวตวัดดวงตาคมสีเข้มมองอย่างอารมณ์เสีย
ไร้ซึ่งคำพูดใดๆของเด็กหน้าคมที่ยืนทำหน้าเหี้ยม นอกจากช่วงขาเรียวยาวที่ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้ให้ฮารุกะนึกหวั่นใจว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อตอนกลางวันจนวงหน้าเล็กเริ่มซีดเลิ่กลักมองหาทางหนีทีไล่อย่างร้อนรนโดยไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอขยับถอยหลังหนีการคุกคามจนแผ่นหลังบางแนบติดกำแพงตึกไปเสียแล้ว
“จ...จะทำอะไรไอ้เด็กบ้า....ฉัน...ฉันเป็นสภานักเรียนนะ!!.....” ไหล่บางเริ่มห่อเข้าหาตัวเมื่อคนร่างสูงขยับเข้ามาชิดแล้วเท้าแขนคร่อมยันกำแพงเอาไว้อย่างถือดีให้ฮารุกะต้องหลับตาปี๋เบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากอิ่มที่โน้มลงมาใกล้และ.....
ฟู่ว์~~
คนถูกพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าสำลักไอค่อกแค่กจนหน้าแดงก่ำให้นากาโอกะ มิยูยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจพลางยกข้อนิ้วฉวยเกลี่ยคราบชื้นบนห่างตาเรียวออกให้ก่อนจะถูกมือเล็กปัดความหวังดีนั่นทิ้งอย่างแสนหงุดหงิด
“ทำอะไรของเธอ....จะฆ่าฉันรึไง!!....”
“ชั้นต่างหากที่ต้องถาม..ว่าเธอทำอะไร....ว่างนักใช่มั๊ยถึงได้จ้องจับผิดชั้นเช้ากลางวันเย็น...”
“ก็ถ้าเธอและเพื่อนๆของเธอไม่ทำผิดกฎของโรงเรียนฉันก็ไม่ต้องมายืนให้เธอพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าฉันหรอกนากาโอกะ มิยู!...ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนยูกิหรอกนะคราวนี้เธอโดนเรียกผู้ปกครองแน่!!..” ฝ่ามือเล็กผลักอกกว้างเต็มแรงด้วยความโมโหก่อนจะหุนหันเดินออกไปรวดเร็วแต่ลำตัวบางก็ถูกเหวี่ยงกลับมาอีกครั้งจนแผ่นอกบางกระแทกติดกำแพงพร้อมเงาดำมืดที่ตามเข้ามาแนบชิด
ข้อมือเล็กถูกจับล็อกไพล่หลังจนต้องตวัดมองดวงตาคมกล้าอย่างนึกโมโห แต่ร่างบอบบางกลับต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อระหว่างขาด้านหลังถูกสอดแทรกด้วยหัวเข่าแข็งแรงและลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดข้างแก้มขาว
“เอาสิ....เรียกมาเลย....จะเรียกให้ตายยังไงผู้ปกครองชั้นก็ไม่มีวันมาหรอกรู้ไว้ซะ!!...”
“อย่าทำตัวมีปัญหาให้มากนัก...เพราะมันอาจไม่เป็นผลดีกับตัวเธอเองมิยาชิตะ ฮารุกะ...” ฝ่ามือใหญ่จงใจลูบคลึงสะโพกเพรียวหนักๆให้อีกฝ่าผวาเฮือกอยากกรีดร้องหาคนช่วยแต่สภาพร่างกายในตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยให้ฮารุกะขยับปากร้องโวยวายเลยด้วยซ้ำนอกจากยืนเป็นเป้านิ่งให้เด็กเกเรมันรังแก!
ร่างกายบางแนบติดกำแพงมากขึ้นยามถูกคนด้านหลังขยับเบียดรุกรานหนักหน่วงก่อนที่ฮารุกะจะเกร็งเขม็ง เมื่อฝ่ามือใหญ่โอบเลื่อนเข้ามาวางลูบผิวเนื้อด้านในให้คนเสียเปรียบต้องร้องห้ามเสียงสั่น
“ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ปรานีเธออีกแล้ว...” ริมฝีปากอิ่มพูดชิดขมับบาง มองดูคนสิ้นฤทธิ์อย่างพอใจก่อนจะลูบเบาๆที่แผ่นหลังบางอย่างพอใจ
“ย..อย่า...อื้ออ~….” ลำตัวบางกระเสือกกระสนให้หลุดจากสถานการณ์น่าอับอายนี้แต่ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงและเสียงร้องจะอ่อนล้าไปเสียหมด เมื่อความรู้สึกอึดอัดปนอ่อนระทวยตีกันให้มั่วไปหมด
ใบหน้าเรียวสวยหอบสะท้านทั้งน้ำตาคลอเรียกให้คนมองกระตุกยิ้มมุมปากส่งเรียวลิ้นชื้นลากเลียต้นคอซึมเหงื่อ กระตุ้นให้ผู้ใหญ่ตัวเล็กเผลอส่งเสียงครางออกมาท่ามกลางความเงียบสงบของบรรยากาศสวนหลังโรงเรียนซึ่งไร้ผู้คนเดินผ่านในตอนห้าโมงเย็น
ข้อมือเล็กที่โดนจับไพล่หลังถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนใดๆเมื่อฝ่ามือข้างนั้นเลื้อยเข้ามาใต้ชายเสื้อผ่านหน้าท้องหดเกร็งขึ้นสู่..XXX...แล้วบีบขยี้ไปพร้อมๆกับการกดจูบร้อนที่เรียวปากบาง
เรียวขาบางสั่นระริกให้แทบทรุดไหลลงไปกองกับพื้นหญ้าถ้าท่อนแขนแกร่งไม่โอบกอดเอาไว้พร้อมยื่นจูบผ่อนคลายให้ริมฝีปากสีฉ่ำได้อ้ารับความอุ่นนุ่มเข้ามาอย่างเผลอตัว และดูท่าว่าจุมพิตนี้จะเร่าร้อนมากขึ้นจนผู้ใหญ่อ่อนประสบการณ์หอบสะท้าน จนนากาโอกะ มิยูจำต้องผละก้อนลิ้นชื้นออกมามองดูผิวแก้มสีระเรื่อชัดๆก่อนจะโน้มลงไปจัดการริมฝีปากล่อตานั่นอีกครั้งแต่เสียงเรียกของเพื่อนก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ไปรึยังมิยู...พวกฉันรอนานแล้วนะ....” ซาโอริยืนหิ้วกระเป๋ารอพร้อมกับเพื่อนอีกสามคนที่โผล่ออกมาจากซอกตึกพร้อมเสียงแข่งกันจามคล้ายจะเป็นหวัดเนื่องจากต้องทนใส่เสื้อผ้าชื้นๆตลอดครึ่งวันเว้นเสียแต่ใครบางคนที่มีเสื้ออุ่นๆคลุมไหล่อยู่ตลอดเวลา
ซากะยืนจามจนน้ำหูน้ำตาไหลหมดภาพลักษณ์คนหน้าโหดไปชั่วคราวไม่ต่างกับคนหัวทองริกะซักเท่าไหร่และที่ยิ่งไปกว่านั่นก็เห็นจะเป็นคนชอบเคี้ยวที่จามรัวจนหมากฝรั่งกระเด็นหล่นพื้นไปแล้วเรียบร้อย..มายะ==*
“พวกเธอไปก่อนเดี๋ยวฉันตามไป....ซาโอริวันนี้ฉันไม่กลับบ้านบอกพ่อด้วยแล้วกัน....” คนรับฝากทำเพียงพยักหน้าแล้วหันหลังเดินออกไปให้เพื่อนที่เหลือต้องเดินจาม...เอ่อ เดินตามออกไป
นากาโอกะ มิยูหันมามองคนไร้เรี่ยวแรงอีกครั้งพร้อมกระซิบขู่เสียงต่ำข้างใบหูบางแล้วเดินจากไป ทิ้งให้คนร่างเล็กทรุดร่างลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงพลางขบกัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ
...บทลงโทษของคนชอบวุ่นวายจำเอาไว้นะฮารุกะ…
คะ...ใครใช้ให้เธอมาเรียกชื่อฉันกันนากาโอกะ มิยู!...ไอ้ ไอ้เด็กบ้า~!!!!
………………
……
ยูกินั่งกอดอกมองเพื่อนตัวน้อยฮึดฮัดไปมาพลางทำแก้มแดงเป็นระยะให้นึกสงสัย โดยมีริสะขมวดคิ้วมองอยู่ข้างๆกันภายในห้องสภานักเรียนที่มีคณะกรรมการรุ่นเดินเข้าออกเหมือนอย่างปกติทุกวัน
“เป็นอะไรฮารุกะ...พวกฉันเห็นเป็นแบบนี้มาสามวันแล้วนะ.......”
“ม..ไม่...ไม่ได้หงุดหงิดซักหน่อย......” ==* เถียงทั้งที่แก้มแดงทำตัวเลิ่กลักแบบนี้ใครๆก็ดูออกว่านั่นมันมีพิรุธชัดๆ
ริสะจ้องมองเพื่อนตัวเล็กอีกครั้งอย่างคาดคั้นจนคนถูกกดดันทำเนียนชิ่งหนีออกไปเข้าห้องน้ำชนิดตามจับไม่ทัน....ฮารุกะถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่เดินพ้นประตูห้องสภาออกไปพอดีกับที่เด็กน้อยผู้มีแววตาสงบนิ่งหิ้วเสื้อตัวใหญ่แสนคุ้นตาเดินผ่านไปหยุดยังประตูที่ฮารุกะเพิ่งเดินออกมา
ผู้มาใหม่เคาะประตูตามมารยาทก่อนจะผลักเข้าไปเมื่อไม่มีเสียงขานรับจากด้านในให้สองบุคคลที่นั่งคุยกันอยู่ชะงักโดยเฉพาะยูกิที่ต้องถูกเพื่อนกระทุ้งศอกใส่ถึงได้มีสติลุกขึ้นเดินไปหา..เด็ก..ที่ยืนอยู่หน้าประตู
“ชั้นเอาเสื้อมาคืน...” ยูกิรับเสื้อมาพลางขมวดคิ้วมุนขยับเข้าไปใกล้ร่างบางเพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างก่อนที่เสียงใสจะถามออกมาราบเรียบ
“สูบบุหรี่ด้วยหรือ....” นอกจากไม่ตอบแล้วเจ้าของดวงตากลมยังหมุนตัวกลับทันทีที่เสร็จธุระ ให้ยูกิต้องคว้าแขนเอาไว้แล้วลากคนตัวเล็กออกไปคุยกันนอกห้องโดยไม่ลืมโยนเสื้อที่เพิ่งได้รับคืนไปให้ริสะรับเอาไว้
คนร่างสูงจับจูงเด็กเกเรมาคุยกันริมระเบียงอาคารก่อนจะยอมปล่อยมือออกเมื่อถูกเจ้าของดวงตากลมก้มมองการเกาะกุม
“โอเค..เข้าเรื่องเลยแล้วกัน....เธอสูบบุหรี่มาใช่มั๊ย...”
“ถ้าชั้นบอกว่าไม่ได้สูบ เธอจะเชื่อมั๊ยล่ะ...”
“แต่กลิ่นจากตัวเธอมันบอกแบบนั้น...” ซาโอริตวัดตามองบุคคลตรงหน้าด้วยอาการเรียบเฉยจนยูกิชะงักที่เห็นความผิดหวังฉายชัดออกมาในแววตากลมโต
“ถ้าอย่างนั่นชั้นก็ไม่ปฏิเสธ....ขอตัวนะชั้นมีเรียนต่อ...” แล้วคนพูดก็เดินจากไปทิ้งให้ยูกิที่ยืนนิ่งรู้สึกผิดอยู่เต็มอกรีบสาวเท้าตามแผ่นหลังเล็กที่ค่อยๆเดินหายลงบันไดไปอย่างรีบร้อน แต่ประธานนักเรียนงานรัดตัวก็ดันมาถูกขัดด้วยเสียงของอาจารย์ฝ่ายปกครองซะก่อน...ชิท!!
....และยูกิก็ถูกลากไปคุยงานในห้องพักอาจารย์จนได้==*
“ไปไหนมาซาโอริพวกฉันตามหาซะทั่ว...อย่าทำให้เป็นห่วงนักซี...แล้วนี่ไปได้แผลที่ไหนมารึเปล่าไหนดูสิ...” พอเดินกลับมาถึงห้องคนตัวเล็กแสนเงียบขรึมก็ถูกเพื่อนทั้งสามที่นั่งเล่นกันหลังห้องรุมถามไถ่พลางจับสำรวจเนื้อตัวเหมือนอย่างเคย
ไม่ใช่เพราะซาโอริอายุน้อยกว่าแค่ปีสองปีหรือบอบบางจนต้องคอยห่วงแต่เพราะซาโอริเป็นน้องสาวต่างมารดาของนากาโอกะ มิยูน่ะสิ เจ้าพวกนี้ถึงได้คอยประคมประหงมกันแบบมดไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมตามคำสั่งเฉียบขาดของพี่สาว
ถึงจะมีสายเลือดเดียวกันแค่ครึ่งหนึ่งแต่นากาโอกะ มิยูก็เป็นพี่ที่รักน้องยิ่งกว่าอะไรดีจนถึงขนาดใช้อำนาจมืดของผู้เป็นพ่อยัดให้น้องสาวข้ามชั้นมาเรียนห้องเดียวกันหลังจากที่ซาโอริเพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนที่อเมริกา
อาจเพราะทั้งคู่มีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่างจึงไม่แปลกใจเลย ที่คนเงียบขรึมมาแต่เด็กอย่างซาโอริจะยอมรับในความเป็นพี่สาวของนากาโอกะ มิยูได้ไม่ยาก....พี่สาวต่างแม่ที่ไม่เคยได้รับความสนใจจากผู้เป็นพ่อซึ่งเอาแต่ทำงานจนละเลยหน้าที่ความเป็นพ่อไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเพราะมีพ่อคนเดียวกัน ซาโอริก็มีสภาพที่ถูกละเลยไม่ต่างกัน
และการที่ต้องคลุกคลีใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันซะส่วนใหญ่โดยไร้เงาของผู้เป็นพ่อซึ่งนานๆทีจะกลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน และปราศจากอ้อมกอดของแม่ที่ต่างก็เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งคู่สองพี่สองที่ไม่ได้เกิดคลานตามกันมาถึงได้รู้ใจและสนิทกันยิ่งกว่าใคร
“แล้วมิยูไปไหน....”
“อ่า...คือว่างี้นะ.....แบบว่าก็เอ่อ...”
“โอ๊ย..อะไรของแกซากะก็บอกไปสิว่ามันไปหาพ่..อ~.....” ผลัวะ~!! ทันที่พูดจบมายะก็ถูกฝ่ามือพิฆาตของเพื่อนทั้งสองฟาดผลัวะลงมาบนกระหม่อมให้หมากฝรั่งที่เคี้ยวอยู่กระเด็นหล่นออกมาติดหนึบบนพื้นอย่างสุดจะซกมก
คนตัวเล็กรีบลุกออกจากโต๊ะให้ริกะต้องเรียกรั้งเอาไว้พลางกระชากคอเสื้อปิดปากของคนชอบเสร่อไม่เข้าเรื่องเอาไว้
“แล้วพ่อมาทำไมพวกเธอรู้รึเปล่า...” และในเมื่อคำตอบมีเพียงการส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียงของเพื่อนทั้งสาม ซาโอริก็เลยต้องวิ่งออกจากห้องไปสืบสาวราวเรื่องเอาเอง ปล่อยทิ้งให้มายะถูกลงทัณฑ์อยู่ในห้องท่ามกลางสายตาขบขันของเพื่อนร่วมชั้น==*
ซาโอริเดินไปยังจุดหมายที่คาดว่าพ่อและพี่สาวน่าจะอยู่ ณ ที่ตรงนั้น..ห้องผู้อำนวยการชั้นบนสุดของอาคารเรียนรวม คนตัวเล็กวิ่งขึ้นบันไดไปรวดเร็วจนเฉียดไหล่คนที่เดินสวนมาโดยไม่ได้ตั้งใจจนผู้ถูกชนจิ๊ปากอย่างขุ่นเคืองลูบต้นแขนตัวเองป้อยๆ
ฮารุกะตวัดตามองแผ่นหลังคนวิ่งชนที่ไม่ยอมขอโทษอย่างนึกโมโห ก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดมุ่นชะเง้อคอมองตามความเร็วของฝีเท้านั้นขึ้นไปจนสุดตา ให้คนช่างสงสัยเกิดอยากรู้เลยตัดสินใจเดินตามขึ้นไปจนทันเห็นเด็กน้อยยืนอยู่หน้าห้องผู้อำนวยการ
ร่างบอบบางมองซ้ายขวาหาที่หลบก่อนจะเร้นกายเข้ามาแอบในซอกตึกแสนแคบเมื่อบุคคลในห้องเปิดประตูโดยมีผู้ชายรูปร่างภูมิฐานและนากาโอกะ มิยูเดินออกมา!
ไม่มีการพูดคุยใดๆเลยระหว่างคนทั้งสามนอกจากนากาโอกะ มิยูที่หันไปถามไถ่เพื่อนตัวเล็กที่มายืนรออย่างเงียบๆเมื่อครู่ และชายวัยกลางคนที่เดินนำหน้าให้ฮารุกะได้พิจารณาชัดๆอีกครั้งว่าบุคลิกและรูปร่างหน้าตาแบบนี้มันเหมือนมาก....หรือว่า
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพ่อต้องไปสัมมนาที่โอกินาว่า....อยู่กันสองคนพี่น้องก็ดูแลกันดีๆล่ะอย่าพากันเหลวไหลรู้รึเปล่ามิยู.....” ชายวัยกลางคนหยุดพูดตรงบันไดพอดิบพอดี ให้ฮารุกะไขข้อสงสัยที่ค้างคาไปได้หนึ่งเปราะแต่...สองคนนี้เป็นพี่น้องกันด้วยงั้นหรือ
“คุณจะอยู่บ้านหรือไม่อยู่มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก...” ซาโอริหันไปมองหน้าพี่สาวเมื่อเห็นคนเป็นพ่อถอนหายใจยาวแล้วกล่าวลาลูกสาวเงียบๆก่อนเดินจากไปโดยไม่ได้หันกลับมามองรอยยิ้มเหยียดของนากาโอกะ มิยูที่มองตามแผ่นหลังกว้างไปจนลับตา
...ก็เรียกตัวเองว่าพ่ออยู่ทุกวัน แต่ไม่เคยทำหน้าที่..พ่อ..ได้สมบูรณ์แบบสักที
“ทำไมไปพูดกับพ่อแบบนั้น....”
“ฉันก็พูดแบบนี้ทุกครั้งเธอจะใส่ใจทำไม....หรือเธอเกิดซึ้งในบุญคุณเค้าขึ้นมา...”
“ถึงยังไงเค้าก็พ่อพวกเรา... มิยูน่ะเย็นชาเกินไปแล้ว...”
“แล้วเธอร่าเริงมากงั้นสิ....” นอกจากจะหัวรั้นเอาแต่ใจตัวเองแบบสุดๆแล้ว นากาโอกะ มิยูยังไม่ค่อยจะยอมลงให้ใครด้วยซ้ำ แม้ว่าซาโอริจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาวสุดที่รักก็เถอะ.. คนร่างเล็กเหลือบตามองมิยูราบเรียบก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไปอย่างเงียบๆให้นากาโอกะ มิยูสบถอย่างนึกโมโห
...เหอะ ถ้าอย่างมิยูเรียกว่าเย็นชา แล้วอย่างซาโอริเรียกว่าอะไรไม่ทราบ!!
คนกำลังหงุดหงิดล้วงไฟแช็กและซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ให้คนแอบอยู่ในซอกหลืบเบิกตากว้างเมื่อเห็นเจ้าเด็กถือดีกล้ามายืนสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องผู้อำนวยการ!...
และคณะกรรมการควบคุมความประพฤติอย่างฮารุกะก็อดไม่ได้ที่จะพุ่งพรวดออกไปดึงบุหรี่ออกจากปากสีคล้ำนั่นให้นากาโอกะ มิยูขมวดคิ้วพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“เอาคืนมา....”
“ไม่!!...”
“อยากลองดีอีกใช่มั๊ย...” แม้ว่าน้ำเสียงจะกดต่ำจนเย็นยะเยือก แต่รุ่นพี่อย่างฮารุกะก็ยังเชิดหน้าท้าทายคนอายุน้อยกว่าทั้งที่มือไม้เริ่มสั่น
“ ...ถ้าเธอกล้าทำอะไรฉันตอนนี้ล่ะก็ฉันจะแหกปากร้องให้ผอ.วิ่งออกมาดู...ที่สำคัญหลักฐานมันก็อยู่ในมือฉันนี่...” คนเหนือกว่าแยกเขี้ยวใส่แล้วโชว์มวนบุหรี่ให้ดูกันคาตาแล้วหวังจะเดินผ่านเด็กตัวโตเข้าไปฟ้องผู้อำนวยการแต่เอวคอดบางรูปร่างน่าฟัดก็ถูกท่อนแขนแกร่งกระชากกลับมาเสียก่อน
“เอาสิฟ้องเลย....ถ้าชั้นโดนเธอก็โดนด้วยเพราะหลักฐานมันอยู่ในมือเอนี่...หืออ์ดูสิ...ที่ตัวเธอก็เริ่มมีกลิ่นบุหรี่ติดแล้วด้วยนะ...” เด็กร้ายกาจมันไซ้ปลายจมูกสูดดมซอกคอขาวให้ฮารุกะตัวแข็งทื่อ อยากจะหันกลับไปโวยวายใส่คนหัวใสอย่างนึกแค้น แต่เถ้าบุหรี่ที่มอดไปตามการเผาไหม้ก็หล่นลงใส่หลังมือขาวจนเจ้าตัวต้องสลัดมวนบุหรี่ทิ้งอย่างแสบร้อน
ร่างบอบบางสะบัดมือเร่าๆทั้งน้ำตาคลอให้คนที่ยืนมองต้องฉวยหลังมือขาวขึ้นมาดูรอยไหม้สีแดงจุดเล็กที่เริ่มขยายพองอย่างนึกตำหนิ ก่อนที่มิยูจะจรดริมฝีปากอุ่นลงบนหลังมือขาวแล้วใช้เรียวลิ้นชื้นเลียรอยไหม้เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน
และเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นทั่วทั้งบริเวณนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบปราศจากแม้แต่เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของฮารุกะที่ในตอนนี้ทำได้แค่ยืนนิ่งทั้งที่ใบหน้าร้อนเห่อเมื่อนากาโอกะ มิยูผละริมฝีปากออกคนตัวเล็กก็อึกอักทำตัวไม่ถูก
“ซุ่มซ่าม....”
“ฉันเปล่า!!!!.......” เสียงเล็กตวาดแว๊ดทั้งที่แก้มยังแดงปลั่งจนมิยูต้องรีบฉุดแขนผู้ใหญ่ขี้โวยวายให้วิ่งหนีลงบันไดไปพร้อมกับประตูห้องผอ.ที่เปิดออกมาโดยมีชายสูงวัยเดินออกมาดูต้นตอของเสียงรบกวนแต่ก็พบเพียงมวนบุหรี่ที่ตกอยู่บนพื้นให้ผู้อำนวยการต้องส่ายหน้าพลางก้มลงเก็บไปทิ้งขยะ แล้วหันหลังกลับเข้าห้องตามเดิมเมื่อไม่พบสิ่งแปลกปลอมใดๆอีก
นากาโอกะ มิยูพาเจ้าของข้อมือบางวิ่งมาจนถึงหน้าห้องสภานักเรียนก่อนที่เด็กไม่มีมารยาทจะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่มีการเคาะหรือร้องบอกบุคคลด้านในใดๆทั้งสิ้นเล่นเอาริสะที่นั่งสั่งงานรุ่นน้องในทีมอยู่เลิ่กคิ้วอย่างแปลกใจพลางเหลือบสายตาลงต่ำมองข้อมือบางที่ถูกเกาะกุมให้ฮารุกะต้องสะบัดออกอย่างเก้อเขิน
“ชั้นเอาเพื่อนเธอมาส่ง...คราวหลังดูแลกันดีๆหน่อยสิ ไม่ใช่ปล่อยให้ไปแอบฟังใครเค้าคุยกัน...” คนถูกพาดพิงถลึงตาใส่หวังจะเดินไปซัดเด็กตัวโตให้หายเคือง แต่เท้าเจ้ากรรมดันพันแข้งพันขากันเองจนสะดุดล้มใส่แผ่นอกกว้างให้มิยูต้องคว้าเอาไว้ก่อนที่หน้าสวยๆจะทิ่มลงพื้น
ริสะมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆโดยปล่อยให้สมาชิกที่เหลือทำงานกันต่อไปท่ามกลางบรรยากาศแปลกๆที่คล้ายจะอบอวลไปด้วยความรักไงไม่รู้สิ==*
“นี่...ถามจริงๆนะ...ไอ้ที่คอยตามจับผิดชั้นต้อยๆเนี่ย เธอแอบชอบชั้นอยู่ใช่มั๊ย...”
“.............................ฉะ...ฉัน.....ฉันไม่ได้ชอบเธอซักหน่อย~!!!...”
“อ๋อหรอ~......” ยิ่งเห็นแก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ มิยูก็ยิ่งอยากแกล้งให้ผู้ใหญ่ตัวเล็กจอมจับผิดนั้นเขินจนพูดไม่ออกต้องรีบผละตัวจากอ้อมกอด ทำเนียนจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้วุ่นวายจนใบหน้าคมต้องโน้มลงมาพร้อมส่งสายตาแสนเจ้าชู้ให้ฮารุกะยิ่งแก้มร้อนฉ่า
...แล้วเจอกันใหม่ที่รัก....
สิ้นเสียงกระซิบและริมฝีปากอุ่นที่แนบข้างแก้มนุ่ม นากาโอกะ มิยูก็เดินออกไปท่ามกลางอาการตกใจของริสะและอาการตัวเกร็งของฮารุกะ ก่อนที่เจ้าตัวจะได้สติส่งเสียงโวยวายด่าทอเจ้าเด็กฉวยโอกาสกลบเกลื่อนความอายให้ริสะส่ายหัวอย่างนึกขัน
....ชอบเจ้าเด็กนั่นเข้าแล้วล่ะสิฮารุกะ~….
“......ฉัน....ฉันไม่ได้ชอบไอ้เด็กบ้านั่นซักหน่อยนะริสะจาง~!!....”
...ร้อนตัวอีก!!!
==*
__________________________
ช่วงนี้คิดต่อไม่ออกค่ะ(สารภาพจากใจจริง..ฮ่าๆๆ)
เลยอยากจิ่ขอนำเสนอ..ตอนใหม่ก่อน
เป็นตอนสั้นๆ.. แต่หวังว่าจะชอบกัน อิอิ
อ่านให้สนุกน๊า
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^___^
ความคิดเห็น