ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infatuation MimI

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 57


    “ อ้าว.. ฮารุกะ กำลังจะกลับหอหรอ” เสียงพี่รหัสดังขึ้นจากด้านหลัง ส่งผลให้คนที่กำลังควานหากุญแจในกระเป๋าสะพายต้องเหลียวหลังกลับไปมองพี่ตาตี่ร่างสูงที่กำลังเดินมาพร้อมๆกับเพื่อนสนิทหน้านิ่ง

     

                “ ค่ะพี่ยูกิ.. เพิ่งเลิกเรียนเหมือนกันหรอคะ” ฮารุกะยกยิ้มหวานจงใจข้ามรุ่นพี่หน้านิ่งที่ดูเหมือนไม่สนใจโลกคนนั้นส่งให้พี่รหัสที่สุดแสนจะใจดีของตัวเอง

     

                “ ใช่แล้ว.. ว่าแต่ฮารุกะต้องไปธุระที่ไหนมั้ย”

     

                “ ไม่ค่ะ.. ทำไมหรอคะ”

     

     

                “ คือ.. พอดีวันนี้ไอ้มิยูมันไม่ได้เอารถมาน่ะ พี่รบกวนให้มันติดรถไปหน่อยได้มั้ยอ่า.. ไหนๆก็อยู่หอเดียวกันไม่ใช่หรอ..” ยูกิฝากฝังเพื่อนสนิททันที เพราะตัวเค้าเองจะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปส่ง แต่สามารถไปรับซาโอริที่อีกคณะได้เลยไร้กังวล

     

                “ อ๋อ.. ได้สิคะ เชิญค่ะรุ่นพี่..” ฮารุกะตอบรับ ก่อนจะกดรีโมตปลดล็อครถแล้วเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ

     

                “ แล้ววันนี้เราไม่ต้องไปถ่ายละครที่ไหนหรอ..” ยูกิถามรุ่นน้องดาราคนสวย ที่ตอนนี้มาแรงจนไม่ว่าจะเปิดไปช่องไหนก็เป็นอันต้องเห็นหน้าหวานๆของเด็กน้อยตรงหน้าครองจออยู่ร่ำไป

     

                “ ไม่ค่ะ.. พอดีว่าเมื่อวานเพิ่งปิดกล้องไปเรื่องนึง ก็เลยมีแค่ถ่ายแบบตอนเย็นๆน่ะค่ะ” ฮารุกะอธิบาย ก่อนจะยัดสัมภาระไปกองไว้ที่เบาะหลัง

     

                “ ยังไงก็ดูแลตัวเองบ้างรู้มั้ย.. หน้าซีดมากเลยรู้ตัวรึเปล่า” ยูกิยกมือทาบหน้าผากเด็กสาวก่อนจะเอ่ยอย่างห่วงใย ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเด็กสาวตรงหน้าถึงต้องรับงานเสียเยอะอะไรนักหนา

                ทั้งๆที่ บ้านของฮารุกะเองก็ไม่ได้ขัดสน ถึงขนาดเข้าขั้นมหาเศรษฐีเลยซะมากกว่าด้วยซ้ำไป

     

                “ ค่าๆๆ.. ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ แต่พี่ยูกิไม่ต้องห่วงหรอกคะ อย่างน้อยยังไงๆวันนี้เพื่อนพี่ก็กลับถึงห้องสบายใจหายห่วงได้ค่ะ ^^” ฮารุกะยกมือยอมแพ้ ก่อนจะเอ่ยถึงคนที่นั่งหน้านิ่งอยู่บนรถแล้วในเวลานี้แบบแซวๆ

     

                “ เออๆ.. ยังไงก็ขอบใจมากนะน้องรัก แล้ววันหลังจะซื้อขนมมาฝาก” ยูกิบอกอย่างเอ็นดู

     

                “ คราบๆๆๆ ขอบคุณล่วงหน้าฮะ..”

     

                “ เออๆ.. ไปได้แล้ว..”

     

                “ งั้น.. ไปก่อนนะคะ บายค่ะพี่ยูกิ” ฮารุกะโบกมือลาก่อนจะขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกไป

     

     

     

     

                “ รุ่นพี่ก็อยู่หอ MM เหมือนกันหรอคะ” ฮารุกะเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังขึ้นคลอเบาๆ

     

                “ ใช่..” มิยูตอบสั้นๆก่อนจะให้ความสำคัญกับถนนตรงหน้า ทั้งๆที่ความจริงก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองคนข้างๆที่กำลังตั้งใจขับรถด้วยท่าทางมุ่งมั่นเสียจน หากใครมาเห็นก็คงลงความเห็นได้สั้นๆว่า ... น่ารัก...

                แต่ขอโทษ.. นั่นคงไม่ใช่เค้าแน่ๆ

     

                ในฐานะที่เป็นลูกของโปรดิวเซอร์และบริษัทจัดละครชื่อดัง ทำไมเค้าจะไม่รู้ล่ะว่านักแสดงแต่ละครน่ะ เปลี่ยนหน้ากากเก่งขนาดไหน

                แถมตัวร่างบางเองก็เหอะ.. ชื่อเสียงที่เค้าเคยได้ยินมา ออกจะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจ ขี้เหวี่ยง ขี้วีน เจ้าปัญหาจนหลายๆคนพากันเอือมเลยไม่ใช่หรอ

                แล้วจู่ๆจะมาเป็นเด็กดี เคารพรุ่นพี่ราวกับเป็นเด็กซื่อๆ ใสๆ บริสุทธิ์จนใครๆพากันชื่นชมอย่างตอนนี้น่ะ ฮึ... โกหกทั้งเพ

     

     

                “ ดูเหมือน.. รุ่นพี่จะไม่ค่อยชอบชั้นเลยนะคะ” ฮารุกะที่ไม่ได้ละสายตาจากถนนเลยเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

     

                “ ก็ไม่นี่” มิยูตอบเสียงเรียบ

     

                “ หรอคะ..” ฮารุกะไม่ยอมเมื่อยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน

     

                “ อืม..”

     

                “ แล้วทำไมถึงไม่ค่อยพูดเลยล่ะคะ”

     

                “ ก็ไม่รู้จะพูดอะไร..”

     

                “ เรื่องอะไรก็ได้ค่ะ.. อย่างเช่น.. รุ่นพี่ชอบกินอะไรไงคะ..” ฮารุกะหันไปถามยิ้มๆกับเพื่อนร่วมทาง

     

                “ ก็ไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ.. ทำไมหรอ”

     

                “ ก็... แหะๆ เราแวะหาไรกินกันก่อนดีมั้ยคะ” ฮารุกะหัวเราะกับเสียงท้องร้องเบาๆพร้อมกับมือเล็กที่ลูบท้องอย่างอายๆ

     

                “ พวกดาราเค้าไม่ทานข้าวเย็นกันไม่ใช่หรอ..” มิยูเอ่ยหน้านิ่ง ทั้งๆที่อดแปลกใจไม่ได้ ในเมื่อแต่ละคนที่เค้ารู้จักหรือเคยควงนี่ ถ้าพูดถึงข้าวเย็นเป็นอันต้องเบือนหน้าหนีกันทั้งนั้น

                แล้วเด็กตรงหน้าก็ออกจะเป็น.. ดาราดัง ซะขนาดนั้นนี่นะ

     

     

                “ ก็ชั้นไม่ใช่ดาราพวกนั้นนี่คะ.. ชั้นหิว ชั้นก็กิน ตกลงพี่จะไปกินด้วยกันมั้ยคะ..” เสียงหวานใสเอ่ยแก้ตัวแกมถาม ที่ดูเหมือนจะออกคำสั่งกลายๆ

     

                “ ก็เอาสิ.. กินไรดีล่ะ” มิยูตอบอย่างไม่ใส่ใจ ความจริงเค้าก็ไม่ได้หิวอะไรมากมายหรอก แต่ฟังจากเสียงท้องร้องของคนข้างๆแล้วท่าทางจะหิวไม่น้อย

     

                “ งั้น.. ร้านนี้แล้วกันค่ะ.. ชั้นมากินกับเพื่อนบ่อย” ฮารุกะเสนอโดยไม่ฟังคำตอบ เพราะเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วน่ะสิ

     

     

     

                “ รุ่นพี่สั่งเลยนะคะ.. มื้อนี้ชั้นเลี้ยงเอง” ฮารุกะเอ่ยตามเคยชิน เพราะปกติด้วยความที่เธอเป็นคนหาเงินใช้เอง เวลามากินกับเพื่อนหรือคนในกองเธอก็มักจะเป็นฝ่ายเลี้ยงทุกคนอยู่ร่ำไป

                แต่เธออาจจะลืมไปว่า.. วันนี้มากับรุ่นพี่ ที่เป็นถึงลูกสาวคนเดียวของผู้กำกับชื่อดังซะด้วย แถมผู้กำกับคนนี้ยังเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อีกมากมายเสียจนคนในวงการด้วยกันยกให้เป็นเสี่ย

     

                “ ไม่เป็นไร.. คุณสั่งเหอะ เดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง..” มิยูพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นกด โดยไม่ได้สนใจหน้าตาเหวอๆของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่อย่างใด

     

                “ เอ่อ.. รุ่นพี่ไม่พอใจอะไรชั้นรึเปล่าคะ” ฮารุกะถามหลังจากที่สั่งรายการอาหารเสร็จ

     

                “ ไม่นี่..” มิยูเงยหน้าจากโทรศัพท์ตอบเสียงเรียบ

     

                “ แน่นะคะ..”

     

                “ แล้วทำไมชั้นต้องไม่พอใจอะไรคุณด้วย”

     

                “ ก็..เอ่อ.. ไม่รู้สิคะ”

     

                “ งั้นก็รออาหารเถอะ.. ไม่ต้องพูดมาก”

     

                -*-” ฮารุกะที่ได้ยินก็อดที่จะหน้ามุ่ยด้วยความไม่พอใจไม่ได้ แต่จะทำไงได้ล่ะในเมื่อคนตรงหน้าเป็นทั้งรุ่นพี่ที่เธอควรเคารพ และก็เป็นทั้งคนที่ทำให้เธอเดินเข้ามาในวงการนี้

                นั่นก็ด้วยเหตุผลเพียงว่า... เธออยากรู้จักและก็อยู่ใกล้ๆคนที่เคยช่วยเธอไว้ในงานเลี้ยงกลุ่มบริษัทของคุณพ่อเมื่อ2ปีที่แล้ว

                แต่เค้าเองคงจำไม่ได้ด้วยซ้ำมั้ง.. ในเมื่อตอนนั้นกับตอนนี้... เธอเองก็พัฒนาตัวเองขึ้นเยอะอยู่เหมือนกัน

     

                ... แค่เพื่อเดินเคียงคู่กับเค้าได้อย่างไม่อายใคร.. ต้องทำอะไรเธอก็ยอม !!

     

     

               

                “ ขอบคุณสำหรับมื้อเย็นนะคะรุ่นพี่...” ฮารุกะเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะหันกลับไปหยิบคีย์การ์ดแตะกับประตูห้อง

    ทันทีที่เดินออกจากลิฟต์ ก็ทำให้ฮารุกะรู้ว่าเธอกับมิยูอยู่ชั้นเดียวกัน แถมยังดูเหมือนว่าจะอยู่ห้องมุมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามซะด้วยสิ

     

                “ เดี๋ยวสิ..” มิยูดึงแขนฮารุกะให้หันกลับไปมองอย่างสงสัย

     

                “ คะ..??

     

                “ ขอบใจนะ.. ที่มาส่ง” มิยูเอ่ยก่อนจะปล่อยมือที่จับข้อมือเล็กลง.. แล้วเดินเข้าห้องไปด้วยความสงสัยที่เกิดขึ้นในใจ... ทำไมข้อมือถึงเล็กจัง ??

                แต่มิยูก็ไม่ได้ใส่ใจจะคิดอะไรมากมายนัก นอกจากจะเดินไปเปิดประตูเสื้อผ้าแล้วหยิบชุดสำหรับคืนนี้มาวางเรียงกันบนโต๊ะ แล้วผลุบเข้าไปอาบน้ำ

     

                อีกด้านที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้อง.. ฮารุกะวางของทั้งหมดลงกับโต๊ะยาวกลางห้องก่อนจะหายเข้าไปชาร์ตโทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียง แล้วก็เดินออกมาเปิดโทรทัศน์ดูรายการเพลงไปเรื่อยๆ พลางหยิบไอแพดขึ้นเช็คตารางงานตอนเย็น

     

     

     

                ที่สตูดิโอ

                ร่างบางที่กำลังนั่งนิ่งให้ช่างแต่งหน้าอยู่ เป็นจุดรวมสายตาของคนทั้งสตูก็ว่าได้ในเมื่อคอนเซปวันนี้มันต่างไปจากลุคปกติของฮารุกะไม่น้อย เพราะปกติแล้วบทละครต่างๆมักจะให้ฮารุกะเล่นบทนางร้ายที่เปรี้ยวเข็ดฟัน

                แต่ตอนนี้ร่างบางกลับอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น กับเสื้อเชิ้ตสีขาวยี่ห้อดัง พร้อมๆกับแหวนเพชรวงเล็กๆในนิ้วเรียวนั่นที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้

               

                “ ไงคะคุณน้อง..วันนี้ไปเรียนเหนื่อยมั้ยคะ หน้าตางี้ซีดเชียว.. เอ๊ะ..หรือว่าเมื่อคืนหนักคะ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองเอ่ยถามด้วยคำพูดที่ดูเหมือนจะดี แต่มันก็ยังไม่ดีนัก

               

                “ ฮ่ะๆ.. ก็นิดหน่อยค่ะพี่..” ฮารุกะตอบเลี่ยงๆ ทั้งๆที่ความจริงเริ่มเวียนหัวนิดๆ

     

                “ โธ่ๆๆ.. คุณน้องขา คุณน้องก็อย่าหักโหมมากสิคะ.. แล้วเป็นไงคะคุณน้อง.. โทมะน่ะ แซบอย่างที่เค้าว่ากันมั้ย” ช่างคนเดินกระซิบถามราวกับเป็นความลับ แต่เสียงที่พูดออกมามกลับทำให้ช่างอีกคนที่กำลังทาสีเล็บให้ฮารุกะอยู่เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

     

                “ ก็ดีนะคะคุณพี่.. เรื่อยๆดีค่ะ” ฮารุกะตัดบทก่อนจะลุกขึ้นกระชับคอเสื้อที่เริ่มตกลงมาอยู่บนไหล่เล็กขึ้น

                ... ทั้งๆที่ถ่ายแค่มือกับแหวนก็ได้แท้ๆ.. ไม่รู้ทำไมถึงต้องถ่ายทั้งตัวก็ไม่รู้ เฮอะ.. เข้าใจยากชะมัดเลยแฮะ

     

                “ อ้าว... จะไปแล้วหรอคะคุณน้อง..”

     

                “ ค่ะ.. ว่าจะลองไปให้พี่เค้าดูแสงหน่อยน่ะค่ะ” ฮารุกะพูดก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปก่อนจะต้องมานั่งตอบคำถามช่างแต่งหน้าอีก

                ความจริงเธอก็ไม่ได้อคติอะไรหรอกนะ.. แต่เธอแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมานั่งจับผิดเธอด้วยก็ไม่รู้ นี่ถ้าพี่ลิซไม่ขอไว้ว่าให้พวกนี้ทำล่ะก็.. เธอตะเพิดไปนานแล้ว

                คนบ้าอะไร... อยากรู้อยากเห็นขนาดนั้น..

     

                ฮารุกะอดไม่ได้ที่จะคิดถึงพี่ช่างแต่งหน้าส่วนตัวที่เธอไว้ใจมาตลอดตั้งแต่เข้าวงการนี้.. เพียงแต่ตอนนี้พี่เค้าขอพักร้อนไปเที่ยวฮาวายก็เลยให้เพื่อนมาทำงานแทน

     

     

                แชะ แชะ

                “ อีกนิดนะครับ..” เสียงช่างภาพดังขึ้นให้ฮารุกะโพสต์ท่าต่อไปเรื่อยๆถ้าไม่เพราะ

     

                “ อ๊าย.. คุณมิยู วันนี้ว่างหรอคะ” เสียงช่างแต่งหน้าที่กำลังเก็บกระเป๋าส่งเสียงเรียกลูกสาวเจ้าของสตูดิโอที่เพิ่งเดินเข้ามาไม่เบานัก ก่อนจะรีบสาวเท้าเข้าไปกอดแขนคนหน้านิ่งไว้แล้วลากเข้ามาดูการถ่ายใกล้ๆ

     

                “ ค่ะ.. พอดีมารับลิซ่า” คนหน้านิ่งมองนางแบบที่กำลังโพสต์ท่าอยู่ ก่อนจะปรายสายตาไปยังนางแบบตัวประกอบที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วแต่มานั่งรอดูภาพอยู่ข้างๆซึ่งเป็นคนที่เค้านัดไว้สำหรับคืนนี้

     

                “ โหย..คุณน้อง มีของดีแล้วอุบเงียบนะคะ” ช่างแต่งหน้าคนเดิมแซวนางแบบสาวลูกครึ่งที่นั่งกระมิดกระเมี้ยนอยู่บนเก้าอี้ด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะทิ้งมิยูไว้กับสาวลูกครึ่งนั่นแล้วเดินออกไป

     

     

     

                “ มิยู.. จะมารับทำไมไม่บอกล่ะคะ” สาวลูกครึ่งที่ดูเหมือนจะเรียบร้อย แต่ความจริงไม่ใช่เลยนั้นเอ่ยทักร่างสูงที่เดินมานั่งข้างๆ มือเรียวก็ไม่วายเกาะเกี่ยวแขนแกร่งแสดงความเป็นเจ้าของบอกใครๆในกอง

                ทั้งๆที่ทุกคนต่างรู้ดีว่า... ผู้หญิงพวกนี้ไม่มีใครหยุดคนที่ชื่อว่า นากาโอกะ  มิยูได้หรอก.. เพราะไม่นานเจ้าตัวก็คงเบื่อ แล้วก็ไปเลือกคนใหม่เอาเอง

     

                ... เพราะคนเจ้าชู้.. จะหยุด ก็ต่อเมื่อเลือกที่จะหยุด...

     

                “ ก็คิดถึง.. อยากเจอเร็วๆไม่ได้หรอ” มิยูก้มกระซิบข้างแก้มนวล ก่อนสายตาคมจะสื่อความหมายในสิ่งที่เค้าต้องการ..

                ... ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน ไม่ต้องมีพันธะ ไม่มีข้อผูกมัด ก็แค่เรื่องสนุกๆที่มีด้วยกันบนเตียง พอเช้าก็ต่างคนต่างไป มิยูได้ลิ้มลองรสชาติของผู้หญิงมากี่คนก็นับไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนทุกคนจะภูมิใจที่ตนเองได้เป็นคนที่ถูกเลือก...

     

                แน่ล่ะ.. ใครบ้างจะไม่อยากนอนกับคนดังอย่างเค้า.. ใครบ้างจะไม่อยากได้ในสิ่งที่เค้าปรนเปรอ.. ใครบ้างจะไม่อยากสนุกโดยไม่ต้องกังวลกับสายตาคน...

     

     

                “ แหม.. มิยูล่ะก็” คำพูดเหนียมอาย.. แต่อกอวบที่ดันแขนแกร่งอยู่ในเวลานี้ดูตรงกันข้าม ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นมาเพียงแค่มิยูปรายตามองทำให้ลิซ่าขนลุกชัน

                มือหนาที่ถูกมือของนางแบบสาวชักนำให้ไปวางบนตัก ลูบไล้เนื้อนุ่มที่โผล่พ้นกางเกงขาสั้นนั่นอย่างเชื่องช้า.. นัยน์ตาคมทอดมองไปยังนางแบบที่ยืนอยู่หน้ากล้อง สบกับนัยน์ตาหวานที่มองมายังเค้าอย่างท้าทายอยู่นัยที

                แต่เหมือนลูกครึ่งสาวจะไม่ได้คิดอย่างนั้น.. ยิ่งเมื่อจินตนาการว่ามือหนาลากไล้เข้าสัมผัสลึกเข้าไป เธอก็แทบจะสุขสมอยู่กับที่แล้ว..

                ... เหมือนจะจริงอย่างที่เค้าว่า.. หากได้ลองเล่นกับไฟแค่เพียงครั้ง... มันจะท้าทายให้เราเล่นครั้งต่อไปเรื่อยๆ และเฝ้ารอให้เปลวไฟนั้นเผาไหม้ไปทั้งร่าง

     

                “ ไม่ได้หรอ...” มิยูยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อของหวานที่ตั้งใจจะกินเป็นมื้อค่ำดูเหมือนจะได้กินก่อนเวลาเสียแล้ว

     

                “ อือ...” ลิซ่าหลุดเสียงคราง.. เมื่อมือหนาที่ลากวนกับเรียวขาขาวเหมือนจะลูบขึ้นลงจนปลุกอารมณ์ที่ฝั่งไว้ให้ลุกฮือขึ้น

     

                “ ว่าไงคะ..??” มิยูเลิกคิ้วถาม ขณะที่มือหนาก็บีบเข้ากับขาขาวอย่างรู้ทันให้ลิซ่าต้องตะปปมือหนาหยุดอยู่กับที่

     

                “ ลิซ่าอยากเข้าห้องน้ำ.. ไปเป็นเพื่อนได้มั้ยคะ” เหมือนจะเป็นคำถาม แต่คงไม่ใช่มิยูรู้ดี.. ร่างสูงผลุดลุกขึ้นก่อนจะประคองร่างสาวลูกครึ่งให้เดินเลี่ยงออกไปด้านนอก

                แต่ก็ไม่วายทิ้งสายตามองร่างบางที่กำลังจะเปลี่ยนชุดสำหรับถ่ายล็อตถัดไป

     

     

                “ อ๊า.. มิยู... ตรงนี้..ได้มั้ยคะ...” ลิซ่าส่งสายตาเว้าวอน มือเล็กคว้ามือหนาสอดแทรกเข้ามาใต้เสื้อที่ใส่อยู่ให้พบกับอกนุ่มเต็มมือของตัวเอง

                ก่อนจะแอ่นตัวเข้ารับสัมผัสจากฝ่ามือร้อนที่กำลังปลดเปลื้องกางเกงตัวจิ๋วให้หลุดลงไปกองอยู่กับพื้น

     

                “ ไหนว่าจะเข้าห้องน้ำไง..” มิยูมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างร้อนแรงไม่ต่างกัน.. มือหนาบีบเคล้นอกนุ่มที่ล้นมือเล่นอย่างพอใจ ก่อนปลายนิ้วจะสะกิดติ่งไตด้านบนจนมันแข็งสู้มือ

                ลิ้นร้อนซุกไซ้ต้นคอขาวที่ชายเสื้อโดนเลิกขึ้นจนพ้นศีรษะไปเมื่อครู่ ทำฟันขาวกัดลงบนเนื้อนวลของคนตรงหน้าอย่างพึงใจและรุนแรง

     

                “ อื้ม.. ลิซ่า.. อยากได้ อึก.. อยากได้คุณ” ลิซ่าบอกความต้องการเสียงกระเส่า มือเรียวคว้าคอแกร่งเป็นหลักก่อนที่หลังนุ่มจะถูกยกขึ้นชิดผนังเย็นของห้องน้ำ

                ขาเรียวขาวเกี่ยวกับสะโพกของมิยูแน่น..ให้มือหนาได้ทำหน้าที่สำรวจภายในอย่างเต็มที่

     

                “ อยากได้.. ก็ขอสิ..” มิยูละริมฝีปากออกจากต้นคอขาว มองใบหน้าเสียวกระสันอย่างอ้อยอิ่ง.. มองความต้องการที่ล้นทะลักออกมาจากสายตาของแม่สาวลูกครึ่ง

                ฉับพลัน.. ใบหน้าหวานของอีกคนก็ซ้อนทับขึ้นมาจนเป็นเค้าเองที่อดใจไม่ไหว สอดกระแทกนิ้วเรียวเข้าไปในตัวเสียจนถึงโคน

                ... ฮารุกะ...

     

     

                “ ม..มิยู อาห์... คุณนี่มัน.. อา.. สุดๆเลย...” ลิซ่าซบหน้ากับบ่าแกร่งขณะที่สะโพกผ่ายก็ขยับสวนรับกับนิ้วแกร่งที่ชักเข้าออกเนิบนาบ สลับกับรัวเร็วเป็นจังหวะ

                ความสุขที่ไม่เคยได้รับจากใครล้นทะทักเต็มฝ่ามือหนาก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะสะกิดตุ่มภายในให้อารมณ์หญิงสาวถึงขีดสุด

               

                ลิซ่าคว้าคอแกร่งแน่นก่อนจะแนบอกคัพซีเข้ากับอกแกร่งของอีกคน ถูไถไปมาอย่างเมามัน เนื้อผ้าสากๆกับกลิ่นกายมิยูทำให้ความต้องการพุ่งทะลุได้ไม่ยาก

     

                “ อื้ม.. ดูด.. ดูดหน่อย..” ลิซ่าส่งเสียงครางบอกความต้องการของตัวเอง ก่อนจะแอ่นอกนุ่มของตัวเองล่อสายตาคมของอีกคน

     

                ด้านมิยูก็ไม่ขัดศรัทธา คว้าตัวลิซ่าเข้าหาตัวก่อนจะกดริมฝีปากอิ่มลงดูดดึงอกอิ่มอย่างเอาใจ.. นิ้วเรียวด้านล่างก็ยังคงทำหน้าที่อย่างดีไม่หยุดหย่อนจนเป็นลิซ่าเสียเองที่ทนไม่ไหว ยกตัวกระแทกนิ้วเรียวสวนกันเป็นจังหวะ..

     

                ไม่กี่ครั้ง.. หยาดน้ำก็ล้นทะลักออกมาเต็มมือหนาเรียกสีหน้าพอใจจากมิยูได้ไม่ยาก ทั้งสีหน้าอิ่มเอมใจของลิซ่าก็เหมือนกัน..

                มือหนาช่วยสาวลูกครึ่งแต่งตัว.. ก่อนจะหยิบกระดาษที่พกติดตัวส่งให้ลิซ่าเช็คคราบคราวที่ไหลลงมาตามขาขาว

     

     

                “ คืนนี้.. ที่ห้องลิซ่านะคะ” ก่อนมิยูจะเดินออกไป.. มือเล็กของคนที่คงไม่พอดึงรั้งไว้บอกความต้องการให้มิยูยกยิ้มอย่างพอใจ

     

                “ ถ้าชั้นไม่มีนัดนะ..” ทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่สนใจ... ถ้าไม่เด็ดจริง.. เค้าไม่กินซ้ำหรอกนะ ฮึ

     

     

     

     

                “ อ้าวคุณมิยู.. จะกลับเลยหรอคะ” เสียงช่างแต่งหน้าคนเดิมส่งเสียงทัก เมื่อเห็นร่างสูงกำลังจะเดินออกจากสตู

     

                “ ค่ะ.. เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระ” มิยูยกยิ้มก่อนจะเดินควงกุญแจรถคันโปรดออกไป

     

                “ เฮ้อ.. จะรีบไปไหนกันนะ.. คุณมิยูนะคุณมิยู..”

     

     

     

                “ พี่ๆคะ.. กลับก่อนนะคะ..” นี่ก็อีกคน.. ไหนใครๆก็ว่าน้องเค้าเอาแต่ใจ ขี้เหวี่ยง ขี้วีน ขี้โวยวายไง.. ทำงานด้วยกันมาจะอาทิตย์แล้วไม่เห็นจะมีนิสัยอย่างว่าซักนิด

     

                “ ค่ะ.. ขับรถดีๆนะคะคุณน้อง..” ช่างแต่งหน้าคนเดิมโบกมือลาฮารุกะก่อนจะก้มลงเก็บเครื่องแต่งหน้าลงกระเป๋า

                คงไม่มีใครทันสังเกตเห็นมุมปากที่ยกยิ้มน้อยๆของร่างสูง และใบหน้ามุ่ยๆของร่างบางที่เหมือนจะรับรู้อย่างดีว่ามีใคร ทำอะไรกันในห้องน้ำเมื่อครู่ใหญ่ๆ

                ... ในสตูก็ไม่เว้นนะ...

     

     

     

     

                “ แกกกกกกกกกกกกกกกกกกก... ฮารุกะ” นามิเพื่อนสนิทส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวที่อุตส่าห์หอบสังขารเพื่อมานอนที่มหาลัยแต่เช้าให้ตื่น

     

                “ อาราย..หืม.” ฮารุกะผลกหัวขึ้นปรือตามองเพื่อนสนิทก่อนจะฟุบลงกับโต๊ะเหมือนเดิม

     

                “ ตื่นๆๆ.. ตื่นเลยแก” นามิไม่ยอมแพ้ เขย่าตัวเพื่อนสนิทอย่างแรง

     

                “ อะรัยว่ะ.. เรียกอยู่ได้..” ฮารุกะที่โดนเซ้าซี้หงุดหงิดไม่น้อย เงยหน้าขึ้นเสียงดังใส่เพื่อนอย่างลืมตัว

     

                “ โหยแก.. อย่างเพิ่งหงุดหงิดดิ่ว่ะ เนี่ย..ชั้นจะชวนแกไปสมัครชมรม ไปป่ะๆ” นามิยิ้มเข้าสู้ก่อนจะยื่นใบปลิวชมรมการแสดงส่งให้ร่างบาง

     

                “ หึ.. ไม่เอาอ่ะ เป็นนักแสดงก็จะบ้าตายแล้ว.. ยังจะให้มาเป็นเด็กชมรมการแสดงอีกหรอ เอียนตายเลย..” ฮารุกะเบือนหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจ

     

                “ โหยแก.. ดูดีๆ นี่มันชมรมการแสดงที่ไหน.. มันชมรมถ่ายภาพยนตร์เว๊ย.. เค้าจะสอนเราถ่ายภายทั้งภาพนิ่งแล้วก็เคลื่อนไหว ตัดต่อหนัง ตัดต่อวีดีโอให้เราลองทำหนังสั้น น่าสนใจออกแก.. ไปกันมั้ย..”

     

                “ จริงอ่ะ..” ฮารุกะฟังตาโต ก็บ้านพี่มิยูทำงานเกี่ยวกับพวกนี้นี่นา จะแปลกอะไรที่เธอจะอยากรู้เรื่องพวกนี้ล่ะ

     

                “ จริง.. แถมพี่รหัสแกก็อยู่ชมรมนี้ด้วยนะเว๊ย ชั้นไปสืบมาแล้ว พอเข้าไปเราก็จะได้อภิสิทธิ์เพราะเพื่อนสนิทพี่เค้าเป็นประธาน

                โหยแกคิดดู.. พี่เค้าแค่ปีสองแต่ทุกคนก็ยอมรับในฝีมือแล้ว

                แกลองคิดดูดิ่.. ถ้าเราได้ทำงานร่วมกับคนแบบนั้นอ่ะ มันจะวิเศษขนาดไหน..” นามิท่าทางเพ้อฝัน ก่อนจะหันมาส่งสายตาอ้อนจนสุดท้ายฮารุกะก็ใจอ่อน

     

     

     

                “ ขอบคุณมากนะคะรุ่นพี่.. แล้วพรุ่งนี้ให้มากี่โมงดีคะ” นามิก้มหัวให้รุ่นพี่ที่รับสมัครและชี้แจงรายละเอียดก่อนจะถามเวลานัด

     

                “ ก็ประมาณบ่ายๆแล้วกัน พวกพี่จะได้มีเวลาไปดูด้วย.. ดีมั้ย” ริกะเป็นคนตอบคำถาม ไม่วายทอดสายตามองร่างบางของใครอีกคนที่ดูโดดเด่นขึ้นมากว่าคนอื่นเป็นระยะ

                ... สวยกว่าในทีวีอีกแฮะ...

     

     

                “ เอ่อ.. รุ่นพี่คะ พอดีตอนบ่ายชั้นไม่ว่าง.. ขอเป็นซัก4โมงได้มั้ยคะ” ฮารุกะที่คำนวณเวลางานแล้วเอ่ยขอเลื่อนเวลาเป็นกรณีพิเศษ

     

                “ อ่า.. 4โมงหรอ..” ริกะครุ่นคิดว่าจะเอายังไงดี เพราะตัวเค้าเองก็มีนัดตอน 4 โมงพอดี.. ยูกิก็นัดซาโอริ ถ้าจะมีก็คงแค่

                “ มิยู.. พรุ่งนี้ 4 โมง.. แกมาดูน้องฮารุกะด้วยนะ”

     

     

                “ อืม...” คำตอบรับสั้นๆจากคนที่นั่งอยู่บนโซฟาริมห้องพร้อมกีตาร์โปร่งเงยหน้ารับส่งๆ ก่อนจะกลับให้ความสนใจกับโน๊ตเพลงในสมุดอีกครั้ง

     

     

     

                ... พี่มิยูมุมนี้.. ไม่เคยเห็นเลยแฮะ...

                ฮารุกะบอกกับตัวเองในใจ.. ก่อนจะหันกลับมาตั้งใจฟังพี่ริกะพูดต่อไป รู้เรื่องบ้าง..ไม่รู้บ้างสลับกับการลอบมองคนที่นั่งเกากีตาร์อยู่เบื้องหลังเป็นระยะๆ

     

     

     

     

                ในผับหรูย่านใจกลางเมือง ฮารุกะที่มีนัดกับเพื่อนเดินเข้ามาพร้อมแว่นอันโตที่ผิดบังใบหน้าหวานซะเกือบมิด แต่นั่นก็ไม่ได้คลาดไปจากคนที่สอดส่ายสายตาไปทั่วอย่าง อิชิอิ ยูกิ

                “ เฮ๊ยมิยู.. เดี๋ยวชั้นมานะ” ยูกิที่เหลือบไปเห็นร่างบางของรุ่นน้องจากไกลๆผละออกไปหา ทิ้งให้มิยูทิ้งสายตามองตามไปจนเจอกับ... ฮารุกะ

               

                ... เด็กใจแตก...

                มิยูคิดในใจก่อนจะเบือนหน้าหนี.. กลับมาให้ความสนใจกับนาโอโกะ.. สาวสวยในชุกเดรสสั้นรัดรูปที่เค้าเพิ่งไปตกมาได้จากกลางฟอล์เต้นเมื่อครู่

                มือหนากระชับรอบเอวบางของผู้หญิงตรงหน้าก่อนจะซุกหน้าลงที่ต้นคอขาว สูดกลิ่นหอมยั่วยวนด้วยน้ำหอมที่แฝงไปด้วยยาปลุก ซึ่งไม่มีทางที่คนเจนอย่างมิยุจะไม่รู้ทัน..

                ... งี้ก็สนุกสิ..

     

     

                “ อื้อ.. มิยูคะ.. ใจเย็นๆสิคะ..” นาโอโกะเบี่ยงตัวออกเป็นพิธี มือเล็กไล้คอเสื้อเชิ้ตเนื้อนุ่มของคนตรงหน้าอยู่ไม่ห่าง พร้อมๆกับตัวเองที่แทบจะย้ายมานั่งตักร่างสูงแล้วด้วยซ้ำโดยไม่รู้ตัวบดเบียดตัวเข้าหามือหนาที่เลื้อยเข้ามาใต้กระโปรงเดรสตัวสั้น

                ดีที่แสงไปในนี้แทบมองอะไรไม่เห็น.. และใครต่อใครก็ไม่ได้สนใจกันมากนัก

                เธอก็เลยสามารถบดเบียดกับร่างสูงได้อย่างเต็มที่...

     

     

                “ เธอรึชั้น.. ที่ต้องใจเย็นน่ะ” มิยูเลิกคิ้วถามยั่วยวน.. มือหนาที่ผ่านปราการชิ้นน้อยเข้าไปกำลังสำรวจพื้นที่และเริ่มเจาะสำรวจ

                นาโอโกะหน้าบิดเบี้ยว ขาเรียวเบียดชิดกันจนมือหนาที่แทรกอยู่ขยับไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่ามิยูจะสิ้นฤทธิ์เมื่อปลายนิ้วยังคงขยับไปมาได้ไม่หยุด

     

     

                “ อะ..อ๊ะ..มิยู” นาโอโกะหลุดเสียงครางก่อนจะเป็นฝ่ายนั่งซบหมดแรงอยู่กับตักให้ร่างสูงกระทำจนเป็นที่พอใจ

     

     

                หลังเสร็จกิจมิยูก็ผลุดลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ.. เพื่อล้างมือจากคราบคาวของคนเมื่อครู่อย่างไม่ใส่ใจมากมายนัก.. พอๆกับที่ไม่ได้สังเกตว่ามีร่างของใครอีกคนตามเข้ามาด้วย

                ... อ๊ะ..

     

     

                “ สวัสดีค่ะรุ่นพี่..” ฮารุกะเอ่ยทักเสียงแข็ง.. ภาพบาดตาที่มิยูคิดว่าไม่มีใครเห็น ฮารุกะเห็นมันเต็มสองตา..

     

                “ อืม..” มิยูรับคำในลำคอไม่ใส่ใจนัก ทั้งๆที่สายตาคมเองก็ไม่ได้คลาดไปจากร่างบางที่แม้จะมาเที่ยวแต่ก็ไม่ลืมเซฟตัวเองในชุดกางเกงขายาวกับเสื้อแขนกุดที่มีเสื้อคลุมทับมาอีกชั้นด้วยเป็นอย่างดี

                .. ซึ่งนั่นก็ทำให้มิยูอดไม่ได้ที่จะพอใจน้อยๆกับการแต่งตัวตรงหน้า...

                .... รสนิยมดีเหมือนกันนี่...

     

                “ รุ่นพี่จะกลับเมื่อไหร่คะ..” ฮารุกะถาม มือเล็กยกขึ้นกระชับเสื้อคลุมเมื่อเห็นว่าสายตาคมกำลังสำรวจไปทั้งร่างจนตัวสั่นน้อยๆ

     

                “ ซักพัก..”

     

                “ อ๋อ.. ค่ะ..” ฮารุกะรับคำก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อให้มิยูแทรกตัวเดินผ่านไป

     

                “ เธอ..” แต่ก่อนที่จะเดินผ่านไป มิยูก็ส่งเสียงเรียกให้ฮารุกะหันกลับมาสนใจซะก่อน

     

                “ คะ..??

     

                “ สนใจจะมาเป็นคู่นอนชั้นมั้ย..” มิยูถามตรงๆเพราะออกจะถูกใจกับคนตรงหน้าไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ชอบนิสัยก็เหอะ.. แต่ถ้าหักกลบเรื่องพวกนั้นไปมันก็คงไม่มีปัญหา

                อีกอย่างเค้าก็ฟังๆคนอื่นมา ไม่เคยเห็นฮารุกะเป็นอย่างนั้นซักที

                แต่ความจริง.. คู่นอนเค้าก็ไม่เคยเกินเดือนนึงอยู่แล้วนะ จะไปสนใจนิสัยทำไมกัน

     

                “ แล้วพี่.. จะหยุดที่ชั้นมั้ยล่ะคะ..” ฮารุกะถามกลับ.. ความจริงเธอเองก็อดที่จะตกใจกับคำพูดของมิยูไม่ได้ แต่ถ้ามันจะเป็นการสร้างโอกาสให้เธอรู้จักร่างสูงมากขึ้น เธอก็ยินดี

     

                “ ก็.. ขึ้นอยู่กับว่าเธอแน่พอรึเปล่า..” มิยูยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด ซึ่งก็สร้างความหมั่นไส้ให้ร่างบางไม่น้อย

     

                “ ลองดูมั้ยล่ะคะ..” ฮารุกะก้าวเข้าไปกระซิบที่ริมหู เปาลมแผ่วเบา ก่อนจะเดินออกไปในจังหวะที่มิยูไม่ทันตั้งตัว..

     

                ร่างสูงผลุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าเล็กน้อย.. ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆกับความแสบของเด็กคนเมื่อครู่...

     

     

     

                “ อ้าว..มาแล้วหรอมึง กูเอาฮารุกะมานั่งด้วยนะ..” ยูกิบอกเพื่อนก่อนจะขยับที่ให้มิยูนั่งลง ซึ่งครั้งนี้มิยูไม่ได้กลับไปนั่งข้างนาโอโกะ แต่กลับเลือกที่จะมานั่งแทรกอยู่ระหว่างเค้ากับฮารุกะแทนน่ะสิ

     

                “ ทำไมมึงไม่ไปนั่งที่เดิมว่ะ..”

     

                “ กูร้อน.. อยากนั่งตรงนี้ มีไรมั้ย..” มิยูหันมาตอบเพื่อนสนิท จนยูกิต้องส่ายหัวให้กับเหตุผลแล้วเป็นฝ่ายลุกไปนั่งแทนที่เดิมของมิยูซะเอง

     

                “ฮารุกะ.. เมามั้ยเนี่ย..” มิยูแกล้งทำเป็นห่วง ก้มหน้ากระซิบถามที่ริมหูแล้วเป่าลมใส่เป็นการแก้เผ็ดร่างบางเมื่อครู่ มือหนาถือวิสาสะวางลงบนตักของฮารุกะ

     

                “ ไม่ค่ะ...” ฮารุกะตอบเสียงแข็งก่อนจะพยายามดันมือหนาออกไป ซึ่งก็ดูเหมือนจะยากเหลือเกินเมื่อมือปลาหมึกมันเกาะหนึบจนแซะไม่ออก

     

                “ มิยูคะ.. ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะคะ..” นาโอโกะที่เห็นมิยูสนใจเด็กหน้าหวานก็อดจะไม่พอใจไม่ได้ ร่างบางรีบลุกขึ้นมานั่งบนที่วางแขนของโซฟาฝั่งร่างสูงแล้วโน้มตัวลงต่ำจนเห็นร่องอก ถามมิยูอย่างเง้างอน

     

                “ ก็ตรงนั้นมันร้อน..” มิยูตอบส่งๆหาได้ใส่ใจไม่ เพราะตอนนี้นัยน์ตาคมกำลังทอดมองเด็กแสบตาวาวที่เค้ากำลังลุ้นว่าจะทำยังไงต่อไป

     

                “ ก็ถ้ามิยูร้อน... นาโอโกะคลายร้อนให้ดีมั้ยคะ” สาวสวยไม่ยอมแพ้ รั้งคอมิยูให้หันมาสนใจตนก่อนจะก้มหน้าจนแทบติด ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนจะเรียกความสนใจได้เป็นผลสำเร็จ

                มิยูตาวาวขึ้นด้วยความชอบใจกับข้อเสนอ.. ไหนจะอกอวบที่เบียดชิดต้นแขนแกร่งในเวลานี้.. ดูต้องการจะคลายร้อนให้เค้าซะเหลือเกิน

                .... ฤทธิ์ของกลิ่นตัวแม่นี่ก็ใช่ย่อยซะเมื่อไหร่ล่ะ.. กินซ้ำอีกซักทีจะเป็นไรไป...

     

     

                “ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ.. พอดีพี่มิยูมีคนคลายร้อนส่วนตัวแล้ว” ฮารุกะอดหมั่นไส้กับความเจ้าชู้ของคนตรงหน้าไม่ได้ ลุกขึ้นนั่งตักแกร่งก่อนจะปลดมือเรียวนั่นออกจากต้นคอแกร่งแล้วดึงศีรษะมิยูซบเข้ากับอกนุ่มของตัวเองแทน

                ใบหน้าหวานมุ่งมาด นัยน์ตาหวานแฝงความมีอำนาจเจือความร้ายกาจที่ซ่อนเอาไว้ไม่มิด

                มือเล็กกำรอบข้อมือนาโอโกะแน่นจนแน่ใจว่าคงเขียวในไม่ช้า.. พร้อมขาเรียวก็เบียดขาขาวเนียนของนาโอโกะจนแทบหล่นจากที่วางแขนของโซฟา

                “ ใช่มั้ยคะ.. พี่มิยู”

     

     

                “ ชะ...ใช่ค่ะ..” มิยูตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้เงยหน้าจากกลิ่นกายหอมกรุ่นของเด็กแสบตรงหน้า

                ... ใครจะไปคิดว่าจะซ่อนรูปขนาดนี้กัน...

     

                แล้วคำตอบของมิยูก็ทำให้นาโอโกะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปอย่างไม่พอใจ.. ทิ้งให้ยูกิได้แต่มองมิยูกับฮารุกะอย่างงงๆกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่

                แต่ก็ช่างเถอะ.. ตราบใดที่ทุกคนมีความสุข ยูกิก็มีความสุข ฮ่าๆๆ

    _______________________
    เรื่องเก่ายังไม่จบ ริอาจเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว.. ฮ่าๆๆ
    อย่าเพิ่งโกรธเคืองเค้าแต่อย่างใด.. (กระพริบตาปริบๆ)

    หวังว่าจะยังติดตามกันเรื่อยไปนะคะ ^^

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×