My wind , love สายลมแห่งความรักและความหวัง
ความรักที่ไม่สามารถลืมมันได้ คุณกล้าพอมั้ยที่จะก้าวข้ามมันไป ถ้าความรักครั้งนั้นมันคือสิ่งที่มีค่าที่สุด แต่มันทำให้เราเจ็บปวดและทรมานที่สุด คุณจะทำอย่างไร ติดตามใน My wind, love สายลมแห่งความรักและความหวัง
ผู้เข้าชมรวม
544
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แนะนำตัวละคร
เลอวอง : หนุ่มลูกครึ่งมาดเข้ม เย็นชา ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร มีโลกส่วนตัวสูง เลอวองมีดวงตาสีดำลึกลับแต่กลับอ่อนโยน เขาไม่เคยมีเป้าหมายในชีวิตมาก่อน จนกระทั่งได้พบกับ 'เธอ'
กานพลู : สาวร่าเริงสดใส มีความมั่นใจในตนเองสูง มีความเป็นตัวของตัวเอง ขี้สงสาร และมักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เธอคิดเสมอว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม และมันยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อได้พบเจอกับ 'เขา'
อัลล์ : เพื่อนสนิทของกานพลู มีความเป็นผู้นำสูง ฉลาดเป็นกรด! คอยดูแลเพื่อนๆอยู่เสมอ จึงเปรียบเสมือนพี่สาวผู้แสนดีของเพื่อนทุกคน และสิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือการเห็นเพื่อนรักเสียใจ
แองจี้ : เพื่อนสนิทอีกคนของกานพลู เธอมีนิสัยที่เอาแต่ใจ งี่เง่า เฟอะฟะ! ปัญญาอ่อน! แต่เมื่อใดที่เพื่อนสนิทมีปัญหาเธอก็จะกลายเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้ทันที!!
บทนำ
ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมกับแสงเจิดจ้าของดวงอาทิตย์ และนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้ฉันตื่นเช้าได้ ฉันลุกขึ้นจากหมอน และตาของฉันก็ไปสะดุดกับกรอบรูปอันหนึ่งที่แสนจะคุ้นเคย พอฉันมองรูปนั้นที่ไร หัวใจก็จะพองโตเหมือนคนตื่นเต้นทุกที แต่มันก็มีความรู้สึกเจ็บปวดจี๊ดๆในหัวใจตามมาอีกที่หลัง
“เป็นแบบนี้ตลอดเลย” ทุกครั้งที่ฉันมองมันรูปนั้น คนที่อยู่ในรูปนั้น ฉันรู้สึกได้ถึงความคิดถึงและโหยหาเขาคนนั้นที่มากมาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี กี่เดือน ใจของฉันก็ยังคอยเฝ้าคิดถึงแต่เขา เพียงผู้ชายคนนี้คนเดียวในชีวิต ที่ทำให้คนที่ธรรมดาๆอยากเป็นคนที่พิเศษของใครสักคน และใครคนนั้นมันได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น ฉันเข้าใจดีกับคำว่าความรัก เริ่มต้นด้วยความสุขจบด้วยความทุกข์ ฉันรู้ดี รู้ว่าสักวันต้องเจ็บ สักวันที่เราต้องมานั่งเสียใจ แต่สิ่งเดียวที่ฉันไม่รู้อะไรเลย และไม่มีวันที่จะได้รู้ก็คือ ความเจ็บปวดทรมานที่ฉันรู้สึกอยู่ตอนนี้ เมื่อไรจะหายไปสักที จะต้องทนทุกข์ทรมานอีกนานแค่ไหนกับความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตนี้ ซึ่งคำตอบที่ฉันนึกได้คือ “ไม่มีวันเลย”
“เฮ้อออออ” ฉันถอนหายใจระบายความเบื่อหน่ายในชีวิตของตัวเองออกมา ก็คงจะดีนะถ้าได้ทำอะไรสนุกๆบ้าง ผ่อนคลายความเหงาและความเหนื่อยล้า ถ้าเขายังอยู่ตรงนี้ ฉันก็คงจะมีแต่ความสุขตลอดมา สินะ
5 ปีที่แล้ว
“โอ๊ย ! นี่แกจะช้าไปถึงไหนเนี้ย เร็วๆหน่อยซี้ ฉันไม่อยากสายนะ !” เสียงของยัยอัลล์เพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่ชั้นประถมต้นตะโกนบอกฉันให้รีบสุดขีด จะอะไรกันนักกันหนากะอีแค่เปิดเทอมใหม่ ทำไมต้องรีบไปตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ด้วยเนี้ย -*- อ้ะ ! ฉันลืมแนะนำตัวไป ฉันชื่อ กานพลู นะ ปีนี้ฉันก็จะอายุ 17แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังเรียนอยู่ที่ชั้นม.5แหละ เพิ่งเปิดเทอม
“เออๆ เสร็จแล้วๆ อะไรของแกเนี้ย เร่งอยู่ได้ ชิ !” รีบไปดูพระอาทิตย์ขึ้นรึไงยะ -*- อย่าว่าแต่พระอาทิตย์เลย ตัวฉันเองก็จะลุกไม่ขึ้นอยู่แล้วนี่ มันง่วง (_ _)
“วันนี้วันเปิดเทอมนะ เราจะต้องไปเช้าๆหน่อย ฉันอยากเห็นหน้านักเรียนใหม่น่ะ ><” อ้อ ! ที่จริงก็แค่อยากจะดูว่ามีนักเรียนใหม่ที่หล่อๆมั้ยก็เท่านั้นสินะ เฮ้อ ! ตายละเพื่อนฉัน = =’
พอพูดจบ อัลล์ก็ไม่รอช้ารีบจูงมือฉันและพาฉันไปรอรถไปโรงเรียน แต่รถที่ฉันรอไม่ใช่รถโรงเรียนหรอกนะ เป็นรถประจำทาง ฉันกับอัลล์คิดว่าถ้าไปกันเองจะดีกว่า ช้าก็ได้เร็วก็ได้ ถึงแม้จะต้องทนอัดกันกับผู้คนที่เดินทางไปเรียนและไปทำงานเป็นจำนวนมากก็ตาม โรงเรียนของฉันเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆของประเทศที่คัดแต่นักเรียนหัวกะทิมาเรียน จึงทำให้มีจำนวนนักเรียนน้อย แถมยังมีแค่นักเรียนชั้นมัธยมปลายเท่านั้น ผอ.ของโรงเรียนนี้ความจริงก็คือคุณปู่ของยัยอัลล์นั่นแหละ แต่อย่าเข้าใจผิดล่ะว่าฉันกับอัลล์ใช้เส้นเข้ามาเรียน พวกเราเข้ามาเรียนที่นี้ได้ด้วยความสามารถของตัวเองทั้งนั้น ตอนอยู่โรงเรียนเก่าพวกเราอยู่ในระดับท็อปเท็นของโรงเรียน อัลล์เก่งคณิตศาสตร์มากจึงได้ตำแหน่งท็อปคณิตไป ส่วนฉันเก่งวิทยาศาสตร์มากจึงไปตำแหน่งท็อปวิทย์ไปด้วยเช่นกัน
-ที่โรงเรียน-
คาบโฮมรูมหมดลงฉันเหลือบตาไปเห็นยัยอัลล์กับยัยแองจี้เพื่อนสนิทอีกคนกำลังนั่งคุยอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าฉันเป็นคนที่เงียบๆหรือไงหรอกนะ แต่เพราะเมื่อคืนช่วยคุณพ่อทำบัญชีบริษัทจนดึกและก็ต้องตื่นเช้าโดยมีเพื่อนสุดที่รักมาปลุก มันทำให้ตอนนี้ฉันรู้สึกง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัดเลยแหละ
ชั่วโมงเรียนวิชาที่น่าเบื่อหน่าย เฮ้อ ไม่อยากเรียนซะเลย ฉันทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างทางสนามหญ้าของโรงเรียน ห้องของฉันอยู่ชั้นล่างสุดทำให้ได้เห็นคนที่สนามอย่างชัดเจน และสายตาของฉันก็ไปปะทะเข้ากับร่างของผู้ชายคนหนึ่ง สูงประมาณ 180ซม.กว่าๆได้มั้ง เดาว่าอายุเขาน่าจะไม่ต่างจากฉันเท่าไร เขามีผมสีน้ำตาลไม่เข้มมากอ่อนมากแบบธรรมชาติ ใบหน้าของเขาเรียวสวย ปากและจมูกที่เข้ารูปได้อย่างสวยงาม ถึงแม้จะมองอยู่ไกลๆรัศมีความหล่อราวกับเทพบุตรของเขาก็สามารถทำให้คนที่มองเห็นแทบจะเป็นลมไปได้ ดูเหมือนจะเป็นคนอบอุ่นนะเนี้ย แต่ดวงตาของเขาสีดำสนิทดูลึกลับแฮะ เฮ้ ! นั่นเขาหันมาทางฉัน>< นี่ฉันจ้องเกินไปรึเปล่าเนี้ย ฉันคิดว่าฉันมีภูมิคุ้มกันกับผู้ชายหล่อๆแล้วนะ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยสนใจเรื่องนี้เลย แต่ทำไมกับผู้ชายคนนี้ แค่ได้มองน่าจากไกลๆ มันกับมีความรู้สึกแปลกๆวาบหวิวในท้องอย่างประหลาดกันนะ บ้าน่า ! คนเพิ่งเคยเห็นหน้า ! ฉันไม่เชื่อเรื่องรักแรกพบหรอกนะ ชิๆ
“กานพลู!!!” เสียงดัง500เดซิเบลแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากยัยแองจี้ผู้มีเสียงพิฆาตอันตรายร้ายแรงเกินมนุษย์ทำให้ฉันถึงกับสะดุ้งตื่นจากภวังค์
“อะไร ! เรียกซะฉันตกใจหมด”
“ก็ดูนั่นสิ เด็กนักเรียนหญิงพวกนั้นอ่ะ ดูตื่นตัวกันยังไงไม่รู้ ฉันว่านะ ฉันว่า จะต้องมีคนหล่อๆระดับโยซอบเข้ามาในโรงเรียนแน่เลย ><”
นี่ก็เป็นเรื่องปกติของแองจี้ที่จำเป็นจะต้องรู้ทุกเรื่องภายในโรงเรียน และครั้งนี้ก็มาเรื่องเดิมๆเช่นเคย เรื่องของเด็กนักเรียนชายหล่อๆน่ะสิ แต่เอ๊ ! เมื่อกี๊ยัยแองจี้บอกว่าหล่อๆระดับโยซอบงั้นเหรอ เอิ่ม น่าสนใจแฮะ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ความจริงแล้วฉันเป็นบิวตี้แฟนคลับของวงบีสท์เขาน่ะ อิอิ ><’
“ป่ะ กานพลู ไปดูกัน” เสียงของยัยอัลล์สนับสนุนขึ้นมา
ฉันเดินมาตามพวกกลุ่มผู้หญิงออกมาดูเหตุการณ์ประมาณว่านาทีฉุกเฉินที่หน้าห้องธุรการของโรงเรียน หืม? มีใครเป็นอะไรเหรอเนี้ย? ทำไมไทยมุงเยอะจัง
“นี่ๆ น้องมีอะไรกันเหรอ? ดูอะไรกันอยู่?” ฉันหันไปถามรุ่นน้องที่ยืนเบียดฉันอยู่ข้างๆ
“เตยก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะค่ะ แต่ได้ยินมาว่า มีคนหล่อๆย้ายมาโรงเรียนเรา เห็นบอกว่าเป็นพวกคนในราชสกุลสูงๆอะไรประมาณนี้แหละค่ะ” ยัยน้องเตย บอกว่าราชสกุลเหรอ? อืม ๆแต่ไม่แปลกหรอกโรงเรียนออกจะดังนี่น่า พวกลูกผู้ดีไฮโซทั้งหลายก็มาเข้าโรงเรียนนี้ทั้นนั้นแหละ ฉันเขย่งสุดปลายเท้าเพื่อดูหน้าของคนที่ว่า แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย คนเยอะมากน่ะสิ เชอะ ! ไม่ดูก็ได้
-พักเที่ยง-
ช่วงเวลาที่ฉันชอบที่สุดตอนที่อยู่ในโรงเรียนก็คือตอนพักเที่ยงนี่แหละ เพราะฉันกับเพื่อนๆจะนัดกินข้าวกันแลกของกินกันบ่อยๆ ณ ที่ประจำของเราก็คือดาดฟ้าของตึกที่สูงที่สุดของโรงเรียน มันไม่ค่อยมีคนขึ้นมา แต่วิวที่นี่สวยมากมองเห็นทั่วเมืองเลย แต่วันนี้น่ะฉันอยู่คนเดียวบนดาดฟ้า พวกยัยแองจี้กับยัยอัลล์ไปหาหนังสือทำรายงานกันที่ห้องสมุด ฉันเลยต้องได้รออยู่คนเดียว
ตุ๊บ !
ฉันหันทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนกระทบกับพื้นเหมือนกระโดด และฉันก็เห็นผู้ชายผมสีน้ำตาลคนนั้นคนเมื่อเช้ากำลังกระโดดลงมาจากบนดาดฟ้าที่เป็นทางเชื่อมอาคารนี้กับอีกอาคารหนึ่ง
“โทษที ถ้าทำให้ตกใจ ฉันนึกว่าไม่มีคนอยู่บนนี้” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับท่าทางและหน้าตาที่ดูเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกผิดจริงๆกับคำขอโทษที่เพิ่งพูดออกมา
“เอิ่ม คือ ไม่เป็นไรๆ พอดีฉันมานั่งพักผ่อนรอเพื่อนน่ะ ตรงนี้มันเป็นที่ประจำของฉัน ว่าแต่นาย เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่เหรอ? ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”
“อืม เพิ่งย้ายมาเมื่อเช้า” เขาตอบนิ่งๆ
“ฉันชื่อ กานพลู นะ อยู่ห้องม.5 B”
“ฉัน เลอวอง อยู่ห้องม.5 B เหมือนกัน” เลอวองงั้นเหรอ เป็นภาษาอะไรกันนะ “เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่าสายลม”
“เอ๊ะ ! อ้อๆ ” นี่เขาอ่านใจคนได้รึเปล่าเนี้ย บ้าน่า ! มันขัดแย้งกับหลักทางวิทยาศาสตร์นะ คนอะไรจะอ่านใจคนได้ ใช่ม่ะ?? นายได้ยินที่ฉันพูดมั้ย เงียบ.. ไม่ได้ยินสินะ ว่าแล้ว ฉันพูดถูก ^3^
“นายอยู่ห้องเดียวกับฉันนี่ ถ้ามีอะไรสงสัยถามฉันได้นะ ^^” แหมๆ ฉันก็ต้องทำตัวเป็นคนดีหน่อยไง คิกๆ
“อืม ขอบใจ” เฮ้ ! อะไรกันเนี้ย ทำไมพูดน้อยแบบนี้ล่ะ เป็นเจ้าชายมาดขรึมรึไงกัน แต่ฉันไม่ชอบแบบนี้เลยนะ -*-
“กานพลู !!!!!” เอาแล้วไง เจ๊เจ้าเก่าเจ้าเดิม เสียง500เดซิเบล ฉันล่ะงงจริงๆทำไมเวลาที่เรียกชื่อฉันยัยนี่ต้องขึ้นเสียงสูงด้วยนะ
“แองจี้ ! เบาๆก็ได้ !” เสียงของยัยอัลล์แทรกเข้ามาห้ามปรามเพื่อนตัวแสบ เพราะเห็นว่าฉันคุยกับคนอื่นอยู่ อันที่จริงฉันว่าแกน่าจะสั่งมันห้ามพูดเลยดีกว่านะอัลล์ เหอะๆ !
“อารายยย = =” ฉันมองหน้ายัยแองจี้ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ารำคาญเป็นที่สุด ยัยนั่นจะรู้มั้ยนะว่าฉันต้องการจะบอกอะไรน่ะ เหอะ !
“นี่แกกำลังคุยกับเด็กใหม่อยู่เหรอ ดีจังเลย >< เอิ่ม คือว่า ฉันชื่อ แองจี้นะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ยัยแองจี้หันมาถามฉันก่อนไปหันไปแนะนำตัวกับนายเด็กใหม่ด้วยนำเสียงที่ดี๊ด๊าเป็นพิเศษ ถ้าให้ฉันเดาจากท่าทางของยัยแองจี้แล้วล่ะก็ เหตุการณ์นาทีฉุกเฉินหน้าห้องธุรการเมื่อเช้าต้องเกิดจากนายเลอวองคนนี้แน่ๆ
“ฉันขอตัวก่อนนะ" นายเลอวองหันมาบอกฉันด้วยน้ำเสียงเรียบๆโดยยังไม่ได้แนะนำตัวตอบยัยแองจี้เลย และเดินออกจากดาดฟ้าลงบันไดไปชั้นล่าง แปลกจังแฮะ ภาพที่เลอวองหันหลังและเดินไปจากฉัน.. มันรู้สึกเหมือนเดจาวูยังไงไม่รู้ แต่ฉันคงคิดไปเองล่ะมั้ง ช่างเถอะๆ
.
.
.
.
.
อ้าาาา~ จบไปแล้วกับบทนำ ฮิฮิ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกนะคะ อาจจะมีอะไรติดขัดบ้าง แต่ก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในใจทุกท่านด้วย สาวน้อยอินโนเซ้นท์สัญญาว่าอัพมาให้ติดตามเรื่อยๆ เรื่องราวตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน My wind, love สายลมแห่งความรักและความหวัง ตอนที่ 1 ความใกล้ชิด นะคะ ><
ผลงานอื่นๆ ของ สาวน้อนอินโนเซ้นท์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สาวน้อนอินโนเซ้นท์
ความคิดเห็น