คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Under the tree
ตกเย็นเม็ดฝนก็เริ่มโปรยปราย จากละอองเล็กๆก็กลายเป็นฝนห่าใหญ่ เซดริกและกลุ่มเพื่อนพากันวิ่งหลบเข้าไปในตัวปราสาท พวกเขามุ่งหน้ากันไปที่ห้องโถงที่ซึ่งตั้งถ้วยอัคนีเอาไว้
"เอาเลยเซด" หนึ่งในเพื่อนของเขาพูด เซดริกเดินเข้าไปในเส้นวงล้อมอายุที่วาดล้อมถ้วยเอาไว้ จากนั้นก็ใส่กระดาษที่เขียนชื่อของเขาลงไป เพื่อนๆก็พากันส่งเสียงเฮ
และใช่ เอวาเองก็เห็นภาพนั้นเช่นกันเพราะเธอยังนั่งกินขนมปังอยู่ เธอมองไปที่เซดริก เซดริกเองก็มองเธอ และเป็นเธอที่ละสายตาออกจากเขาก่อน
ต่อมาเสียงปรบมือก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของฝาแฝดวีสลีย์ พวกเขาประดิษฐ์ของเวทมนตร์แปลกๆออกมาอีกเช่นเคย และครั้งนี้สิ่งที่พวกเขาทำก็คือยาเพิ่มอายุ ซึ่งสามารถเพิ่มอายุพวกเขาได้ 1 ปี ทำให้พวกเขาเข้าไปในเส้นวงล้อมอายุได้
จากนั้นทั้งสองคนก็ใส่ชื่อลงไปพร้อมๆกัน รออยู่ครู่นึง เมื่อทุกอย่างยังสงบดี คนที่ยืนอยู่รอบๆก็พากันส่งเสียงเฮและปรบมือให้พวกเขา
แต่ดีใจได้ไม่นานนัก เปลวไฟในถ้วยอัคนีก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น และมีเปลวไฟดวงเล็กแยกออกมาสองดวง มันพุ่งเข้าไปที่ตัวของฝาแฝดวีสลีย์ทั้งสองคนจนพวกเขากระเด็นออกไปนอกวงล้อม
ผมของพวกเขาเริ่มยาวและเป็นสีขาวโพลน ผิวหนังเหี่ยวและแห้ง ภายในไม่กี่วินาทีพวกเขาก็กลายเป็นตาแก่สองคนและตีกันอยู่บนพื้น ทำเอาเสียงหัวเราะดังไปทั่วทั้งห้องโถง
แต่ก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น เมื่อวิกเตอร์ ครัม ซีกเกอร์ดาวเด่นของบัลแกเรียปรากฎตัวขึ้นและใส่ชื่อลงไปในถ้วยอัคนี
ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องเป็นตัวเก็งของเดิร์มสแตรงก์และการประลองเวทนี้แน่ แม้แต่เอวาเองยังรู้สึกได้ว่าเขาเก่งกาจ
.
.
.
และแล้วก็ถึงเวลาการประกาศชื่อตัวแทนของทั้งสามโรงเรียน นักเรียนและอาจารย์ทั้งหมดพากันมารวมตัวที่ห้องโถง จนห้องที่กว้างขวางดูแคบลงไปทันตา
"เวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว การประกาศตัวแทนประลองเวทไตรภาคี" ดัมเบิลดอร์เอ่ย คบไฟในห้องโถงค่อยๆหรี่เล็กลง จนในที่สุดภายในห้องก็มีเพียงแสงสลัวๆ
ดัมเบิลดอร์เอื้อมมือไปแตะที่ถ้วยอัคนี จากเปลวไฟสีฟ้าก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นสีชมพูม่วง และกระดาษหนึ่งใบก็ลอยออกมาจากถ้วย
"ตัวแทนจากเดิร์มสอตรงก์คือ.. วิกเตอร์ ครัม!" ดัมเบิลดอร์คว้าจับกระดาษแผ่นนั้นไว้และอ่านชื่อด้านในออกมาเสียงดังกังวาล
"ตัวแทนของโบซ์บาตง.. เฟลอร์ เดอลากูร์!" ต่อมาเป็นกระดาษแผ่นสีฟ้าของทางโบซ์บาตง และใบสุดท้ายก็ลอยออกมา
"ตัวแทนจากฮอกวอตส์.. เซดริก ดิกกอรี่!" เจ้าของชื่อกำหมัดด้วยความดีใจก่อนจะลุกขึ้น เดินไปหาดัมเบิลดอร์และรวมกลุ่มกับตัวแทนคนอื่นๆ
ท่ามกลางความปิติยินดี ยังมีคนคนนึงที่กำลังวิตกกังวลเป็นอย่างมาก นั่นก็คือเอวา
ตอนนี้ภายในหัวของเธอมีแต่เรื่องข้อตกลงของเซดริก ที่เธอตกลงไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะถูกรับเลือกให้เป็นตัวแทน แต่ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว นี่มันแย่กว่าที่คิด
ไม่สิ มันอาจจะไม่แย่ขนาดนั้นก็ได้ ก็แค่เรีนกชื่อเล่นกันเอง คนอื่นๆก็เรียกกันใช่มั้ย? มันคงไม่มีอะไรหรอก แต่ก็ไม่แน่ถ้าก็สาวๆของเซดริกเหม็นหน้าเธอเพราะเธอไปเรียกชื่อเขาล่ะจะทำยังไง แต่ก็คงไม่มีใครเพี้ยนขนาดนั้นหรอก ใช่มั้ย?
เพี๊ยะ
จู่ๆเอวาก็ตบหน้าผากตัวเอง เสียงตบของเธอดังข้ามไปสามโต๊ะจนคนอื่นๆพากันหันมามอง พอเอวาลืมตาขึ้นมา เธอก็ต้องรีบก้มหน้าลงไปด้วยความอับอาย
แค่ไม่เจอก็พอแล้ว ใช่ แค่ไม่ต้องเจอก็โอเคแล้ว! เอวาคิด
หลังจากวันนั้นเอวาก็มักจะหลบไปซ่อนตัวอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ป่าต้องห้ามเป็นประจำ มีแค่จอร์จและเฟร็ดเท่านั้นที่รู้ที่ซ่อนใหม่ของเธอ (เฟร็ดรู้เพราะว่าแอบตามจอร์จมา)
วันนี้เองก็เช่นกัน เอวาเดินมาที่ใต้ต้นไม้เหมือนอย่างเคย แต่มันก็มีบางสิ่งที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือร่างสูงของคนคนนึงที่เอวาพยายามหลบมาตลอด
"สมิธ!" ไม่ทันที่เอวาจะได้หันหลังกลับ เซดริกร้องเรียกออกมาและเดินเข้ามาหาเธอทันที
"ด.. ดิกกอรี่" เอวาพูดเสียงอ่อน เธอรู้ตัวว่ามีความผิดอยู่เต็มประตู
"ฉันอธิบายได้นะ"
"อธิบายว่าหลบหน้าฉันแล้วมาอยู่นี่กับแฝดวีสลีย์ประจำน่ะหรอ?" ราวกับถูกพ่อจับได้ในตอนที่หนีเที่ยว เอวาเหงื่อแตกพลั่ก เธอมองซ้ายขวาสลับไปมา พยายามใช้ความคิดเพื่อให้หลุดพ้นออกจากสถานการณ์นี้
"นั่นมัน..." แต่ดูเหมือนในตอนนี้สมองของเธอจะไม่ยอมทำงานไปเสียแล้ว คำพูดมากมายหายวับไปกับตา
"ขอโทษ ฉันแค่ไม่อยากมีปัญหา" เอวาพูดออกไปตามตรง จริงอยู่ที่ว่ามันอาจจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ แต่อีกใจนึงเธอก็กลัวมันอยู่ดี
"สมิธ ถ้าจะมีปัญหาอะไร ก็คงมีไปแล้วตั้งแต่ที่เธอหวดลูกบลัดเจอร์อัดหลังฉันนั่นแหละ" คำพูดของเซดริกทำเอาเอวาพูดไม่ออก
เธอไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องนี้มาพูด พอได้ยินแล้วก็พาลทำให้นึกถึงเรื่องในตอนที่เธอเข้าทีมควิดดิชใหม่ๆและต้องแข่งกับฮัฟเฟิลพัฟ
"ฉันรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไร และฉันรับปากว่าจะไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ตกลงมั้ย" เป็นเรื่องจริงที่เขารู้ปัญหาในใจของเธอ อันที่จริงไม่ว่าใครๆก็ดูออก
เรื่องที่ว่าเอวา สมิธ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองต่ำ มองโลกแง่ร้าย และไร้มนุษย์สัมพันธ์ แต่ความจริงแล้ว เอวาเป็นเพียงคนขี้กลัวและไม่ชอบความวุ่นวาย เธอเลยมักจะหนีจากสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นปัญหามาโดยตลอด
"ก็ได้.. ถ้านายว่าอย่างงั้น" เอวาเอ่ยตกลง เผยให้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเซดริก
เอวาถูกรอยยิ้มนั้นสะกดเอาไว้โดยปริยาย ริมฝีปากที่โค้งสวยราวกับพระจันทร์เสี้ยวนั้นช่างน่าหลงไหล ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็ชอบเขา
"พรุ่งนี้ก็ถึงวันที่ต้องทำภารกิจแรกแล้ว จะไม่ให้กำลังใจกันหน่อยหรอ?" เซดริกพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายแซวอีกฝ่าย ทำเอาเอวาอ้ำอึ้งอยู่ครู่นึงก่อนจะเอ่ยออกมา
"ก็.. พยายามอย่าเจ็บตัวล่ะ" ว่าจบเอวาก็ลุกเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เซดริกนั่งยิ้มอยู่คนเดียวอย่างนั้น
"น่ารัก" เซดริกพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินค่อยๆเดินตามเอวาไป
อีกด้านหนึ่งไม่ไกลจากที่ทั้งสองอยู่นัก มีคนคนนึงยืนมองพวกเขาสองคนมาตั้งแต่แรก และเดินหายลับไปเมื่อพวกเขาลุกออกจากม้านั่ง
- talk talk -
เอิ้วววววววว ตอนที่4มาเสิร์ฟแล้วค้าบ จริงๆแล้วมีเหตุผลที่เอวากลัวแล้วก็มองโลกในแง่ลบนะคะ แต่ว่ายังไม่เฉลยในเร็วๆนี้ค่ะ (รอให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยก่อน)
แล้วใครกันนะที่แอบมองอยู่? อาจจะเป็นคนสำคัญหรืออาจจะไม่สำคัญอะไรเลยก็ได้ ทุกคนลองเดาเล่นๆกันดูนะคะ
แล้วก็ขอบคุณทุกคนอีกเหมือนเคยนะคะ เรายังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีกมาก หากมีตรงไหนที่อยากให้ปรับแก้ก็สามารถบอกกันได้เลยนะคะ บะบายย
ความคิดเห็น