คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Aleatory
"ไม่ไปไม่ได้หรอคะพ่อ" เอวา สมิธเอ่ยถามวิลเลียม สมิธพ่อของตน ในขณะที่กำลังเดินเท้าเข้าไปในป่า เพื่อไปสมทบกับครอบครัววีสลีย์และดิกกอรี่
"ถ้าลูกไม่มาแล้วพ่อจะอวดใครกับเพื่อนๆล่ะ อีกอย่างลูกเองก็ต้องออกมาเจอเพื่อนบ้างสิ คลายเครียดจากการเรียนบ้าง" วิลเลียมว่า อันที่จริงเขาก็แค่อยากให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาได้ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้าง หลังจากที่เอาแต่ไปๆกลับๆที่สวนหลังบ้านและห้องนอน
"แต่หนูชอบอยู่คนเดียวมากกว่านี่นา.." เอวาพูดกับตัวเองเบาๆ จำใจเดินตามหลังพ่อของเธอต่อ ทั้งที่ภายในใจเธออยากจะรีบวิ่งกลับไปที่บ้านและกระโดดขึ้นเตียง นอนอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ
"เอม็อส!"
"วิลเลียม!"
ชายวัยกลางคนสองคนสวมกอดกันเป็นภาพที่เอวาไม่อยากมองเท่าไหร่นัก แต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อพวกเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน
"ไงสมิธ" และคนที่เอวาไม่อยากเจอมากที่สุด เซดริก ดิกกอรี่
หนุ่มฮอตดีกรีกัปตันทีมควิดดิชบ้านฮัฟเฟิลพัฟที่มีแต่สาวๆหมายตา เขาหน้าตาดี มีอัธยาศัย เข้ากับคนอื่นๆได้ง่าย เลยทำให้มีแต่คนชอบเขา เรียกได้ว่าเขาคือจุดศูนย์รวมความสนใจเลยก็ได้ และเพราะแบบนั้นเซดริก ดิกกอรี่จึงเป็นคนประเภทที่เอวาไม่อยากยุ่งด้วยเป็นที่สุด
"ไงดิกกอรี่" เอวาตอบเสียงเบา เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าของเขาด้วยซ้ำ ทำเอาเซดริกรู้สึกหน้าเสียไม่น้อย
พ่อของพวกเขาคุยกันอยู่สักพักและพบว่าครอบครัววีสลีย์ยังมาไม่ถึง พวกเขาจึงต้องรอต่ออีกหน่อย เอวาที่ได้ยินแบบนั้นก็หาที่นั่งใต้ต้นไม้และควักเอาหนังสือในกระเป๋าสะพายออกมาเปิดอ่านรอทันที เซดริกเองก็ปีนขึ้นไปนั่งเล่นบนต้นไม้เช่นกัน
"อาเธอร์! เกือบจะมาไม่ทันแล้ว"
กว่าบ้านวีสลีย์จะมาถึง เอวาก็อ่านจบไปหนึ่งบทพอดิบพอดี
"โทษทีเอม็อส มีพวกเราบางคนยังลืมตาไม่ขึ้นน่ะ" อาเธอร์ วีสลีย์ว่าพร้อมกับมองไปที่ลูกชายคนเล็กของเขา ที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อนคนดัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ลูกชายของมือปราบมารที่เก่งกาจอย่างเจมส์ พอตเตอร์
ซึ่งถ้าเอวาจำไม่ผิด เขาน่าจะชื่อรอน วีสลีย์ เพื่อนร่วมรุ่นของเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และน้องชายของเฟร็ดและจอร์จ วีสลีย์ ฝาแฝดตัวป่วน
"ไม่เจอกันนานนะเกรนเจอร์"
"ไงสมิธ สบายดีมั้ย" เอวาเอ่ยทักเกรนเจอร์ เกรนเจอร์เองก็เอ่ยทักทายเธอเช่นกัน สองสาวเข้ากันได้ดีสำหรับคนที่เป็นหนอนหนังสือเหมือนกัน
แต่แล้วความสนใจก็ถูกเบนไปหาเซดริก เมื่อพ่อของเขาแนะนำตัวเขาให้กับบ้านวีสลีย์ หรือจะเรียกว่าอวดลูกชายดี เอวาก็ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจขอให้พ่อของเธอไม่พูดอะไร แต่ดูเหมือนคำขอของเธอจะส่งไปไม่ถึงเมอร์ลิน
"ส่วนสาวสวยคนนี้คือลูกสาวของฉันเอง" วิลเลียมเอ่ย โดยลืมสังเกตไปว่าสีหน้าของลูกสาวสุดที่รักของเขาแสดงออกว่าอับอายมากแค่ไหน
ถึงอย่างนั้นเอวาก็ไม่พูดอะไรที่จะหักหน้าพ่อของเธอ แต่เธอเพียงนิ่งเงียบและยิ้มให้ผู้ใหญ่อย่างอาเธอร์เท่านั้น
เมื่อคนมากันครบแล้ว พวกเขาจึงเดินเท้ากันต่อ ทะลุผ่านป่าไม้ออกไปเป็นทุ่งกว้าง พวกเขาเดินไปยืนล้อมรอบรองเท้าบูทเก่าๆข้างนึง ท่ามกลางความงุนงงของเด็ก 4 คน อย่างแฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่
"เอาล่ะทุกคน ล้อมวงกันเข้ามาและจับรองเท้าบูทไว้" อาเธอร์ว่า เด็กๆทุกคนก็ทำตามที่เขาบอกด้วยความเชื่อฟัง
เอวายืนถัดจากพ่อของเธอ และต่อจากเธอก็คือเซดริก มันควรเป็นอย่างนั้น แต่เฟร็ดหรือจอร์จ คนใดคนนึงแทรกตัดหน้าเซดริกเข้ามายืนข้างเธอแทน
"ขออยู่ด้วยนะ" เอวาเดาว่าจะเป็นเฟร็ด แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรตอบ จริงๆแล้วเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือเฟร็ดหรือจอร์จ เซดริกเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเช่น เขาเพียงแค่มองและถอนหายใจออกมาเบาๆ
เมื่อถึงเวลา กุญแจนำทางก็เริ่มทำงาน มันหมุนและเหวี่ยงทุกคนที่จับมันอยู่ ภาพรอบข้างบิดเบี้ยวไปมาก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นอีกสถานที่นึง
"ปล่อยมือเลย!" ว่าจบอาเธอร์ก็ปล่อยมือออก เด็กๆที่ไม่เคยใช้กุญแจนำทางตกใจกันไม่น้อยที่เห็นเขาปลิวออกไป แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ปล่อยมือตามที่อาเธอร์บอก และพากันร่วงหล่นลงบนพื้น
จะมีก็แค่ตัวอาเธอร์ เอม็อส วิลเลียม เซดริก และเอวาที่ค่อยๆลอยตัวลงมาบนพื้นได้อย่างเรียบร้อย
"พนันได้เลยว่ามันทำให้จมูกโล่ง" วิลเลียมเอ่ยแซวเด็กๆที่กำลังพากันลุกขึ้นจากพื้นกันทีละคน โดยมีเซดริกและเอวาค่อยช่วยดึงพวกเขาขึ้น
"ครั้งแรกใครๆก็เป็นงี้" เอวาพูดกับจินนี่ในขณะที่กำลังดึงมือของเธอขึ้น ทำให้จินนี่รู้สึกสบายใจขึ้นที่ได้รู้ว่าคนอื่นก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
พวกเขาเดินเท้ากันต่อ ไม่นานก็มาถึงที่พักสำหรับผู้ชมเอาไว้ให้กางเต็นท์ จากนั้นพวกเขาทั้งสามครอบครัวแยกกันเพื่อไปที่เต็นท์ของตัวเอง
ภายในเต็นท์ถูกเสกด้วยคาถาขยายพื้นที่ ทำให้พื้นที่ภายในกว้างขวางแม้ภายนอกจะเป็นเพียงแค่เต็นท์ใบเล็กๆก็ตาม
เอวารีบพุ่งตัวเข้าไปนอนลงบนเตียงทันที เธอทิ้งกระเป๋าสะพายไว้บนพื้นอย่างไม่ใยดี ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เธอสบายใจมากที่สุดคือความเงียบและเตียงนุ่มๆ
"หนูขออยู่นี่จนการแข่งจบเลยได้มั้ย" เอวาพูดอย่างไม่จริงจัง แต่ถ้าพ่อของเธออนุญาต เธอก็พร้อมจะนอนขี้เกียจอยู่ในนี้จนงานจบ
"แล้วแบบนั้นจะไปสนุกอะไรล่ะลูกรัก" เอวาได้ยินก็ได้แต่หัวเราะอยู่ในใจ เธอคิดอยู่แล้วว่าพ่อต้องพูดแบบนี้
ตกเย็น ก็ถึงเวลาของการแข่งขันควิดดิชเวิลด์คัพ ที่นั่งของครอบครัวสมิธอยู่ติดกับวีสลีย์ พวกเขาต่างพากันตื่นเต้นและส่งเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน จนเอวาเองก็รู้สึกสนุกไปด้วยโดยปริยาย
"เชียร์ทีมไหน"
"ไอร์แลนด์หรือบัลแกเรีย" ฝาแฝดวีสลีย์ เฟร็ดและจอร์จเข้ามายืนประกบเอวาทั้งสองข้าง
"ทีมไหนหรอ? ทีมที่ชนะละมั้ง" เอว่าเปล่งเสียงให้ดังมากกว่าปกติเพื่อสู้กับเสียงรอบข้าง แม้ว่าความจริงแล้วเฟร็ดและจอร์จจะได้ยินเสียงของเธอชัดอยู่แล้วก็ตาม
"ไม่ยักรู้ว่าเธอมีอารมณ์ขันด้วย" เฟร็ดและจอร์จพูดพร้อมๆกัน พวกเขาถูกใจกับคำพูดของเอวาไม่ใช่น้อย
การแข่งขันยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและด้วยความตื่นเต้น และแล้วทีมที่จับลูกสนิชได้ก็คือทีมบัลแกเรีย ด้วยฝีมือซีกเกอร์ดาวรุ่งอย่างวิกเตอร์ ครัม
แต่บัลแกเรียก็ไม่สามารถเอาชนะไอร์แลนด์ได้ด้วยแต้มที่ห่างกันเพียงสิบแต้ม ทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ไม่ว่าทีมไหนจะเป็นฝ่ายชนะ เหล่าผู้ชมก็พากันดื่มฉลองชัยให้พวกเขาทั้งสองทีมอยู่ดี
ด้วยเสียงดังอึกทึกจึงทำให้เอวาไม่สามารถนอนหลับได้ เธอพลิกตัวอยู่บนเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมาหาอะไรดื่ม
เอวาเทน้ำใส่แก้วและยกขึ้นดื่ม วางแก้วลงและเดินไปใส่เสื้อคลุม ตอนนี้เธออยากหาที่เงียบๆอยู่สักพัก เลยคิดว่าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย
แต่เมื่อเดินออกไป เธอก็เจอเข้ากับแฝดวีสลีย์คนนึงที่กำลังทำท่าทำทางลังเลอะไรสักอย่างอยู่พอดี
"วีสลีย์ มีอะไรรึเปล่า" เอวาเอ่ยทักอีกฝ่าย ทำเอาเจ้าตัวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวตกใจสะดุ้ง แต่ดีที่เขาแอบเนียนได้ทัน เอวาจึงไม่ทันสังเกตเห็น
"อ้าวสมิธ บังเอิญจัง ฉันออกมาเดินเล่นน่ะ" จอร์จว่าพลางมองฟ้ามองอากาศอยู่ครู่นึง กว่าจะหันมามองเอวาก็เป็นตอนที่เธอกระชับเสื้อคลุมนั่นแหละ
"จะไปไหนหรอ?" จอร์จอดถามไม่ได้ ทั้งยังคิดกับตัวเองภายในหัวมากมายว่านี่เมอร์ลินกำลังให้โชคเขารึเปล่า
"เดินเล่นน่ะ"
"งั้นไปด้วยกันสิ" ไม่รอช้าจอร์จรีบเอ่ยปากชวนอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยื่นขนมปังฮอตดอกที่ตั้งใจซื้อมาฝากให้กับเอวา
"ขอบใจนะ แต่จริงๆแล้วไม่ต้องก็ได้" เอวาพูดและรับขนมปังมาด้วยความเกรงใจ
"เอาหน่า ฉันอิ่มแล้ว" จอร์จพูดพร้อมรอยยิ้มประจำตัวของเขาที่ดูสดใส อบอุ่น ราวกับแสงอาทิตย์ในยามเย็น
เอวามองรอยยิ้มนั้นแล้วก็ได้แต่คิด ว่าคนขี้เล่นแบบพวกเขาจะเป็นที่ต้องการมากแค่ไหนในกลุ่มสาวๆ ไม่อยากรู้เลยว่าคนที่ชอบพวกเขามากๆจะมีปฏิกิริยาแบบไหนคีร์กีซสถาน
"ว่าแต่.. นายคือเฟร็ดหรือว่าจอร์จหรอ" ถ้าให้เดินคุยกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือใครก็คงจะน่าอึดอัดไปสำหรับเธอ เอวาจึงถามออกมาโดยไม่คิดอะไร
แต่คนที่โดนถามกลับรู้สึกราวกับว่าโดนเข็มทิ่มลงกลางใจ ไม่อยากเชื่อเลยว่าที่ผ่านมาเธอแยกพวกเขาไม่ออก ทั้งที่แข่งควิดดิชกันมาตั้งหลายต่อหลายครั้ง
"จอร์จ ฉันจอร์จ" จอร์จตอบเสียงอ่อน ถ้าเขาอยากสนิทกับเธอ ดูท่าว่าเขาคงต้องพยายามมากกว่านี้เสียแล้ว
- talk talk -
น่าสงสารจอร์จเขานะคะ ตีสนิทเขามาตั้งแต่ปี 1 จนตอนนี้ปี 6 เขายังแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ทั้งที่เป็นคนที่ออกตัวแรงที่สุด แต่จะโดนคุมกำเนิดก่อนเกิดมั้ยไม่รู้
หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ หากมีตรงไหนอยากติชมก็สามารถพิมพ์บอกได้ในคอมเม้นเลยนะคะ
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกๆคนที่แวะเวียนเข้ามาอ่านกันนะคะ ขอบคุณค่า<3
ความคิดเห็น