ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Lumin] What's on your mind?

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : เปาจื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 57







    ทันทีที่มาถึงบ้านพัก พวกเราก็มานั่งประชุมกันที่ห้องโถงเนื่องจากกระเป๋าเราถูกส่งมาล่วงหน้าแล้ว แต่ยังไม่ได้จัดมันเข้าห้อง และตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะเลือกห้องกันสักที

     

    พอคริสเริ่มให้สัญญาณผมกับจงแด ถลาเข้าหากันโดยไม่ได้นัดหมาย ความจริงผมกับเค้าตกลงกันไว้แล้วว่า ถ้ามาจีน เราจะอยู่ห้องเดียวกัน แต่ดูจะผิดแผน เมื่อคริสพูดขึ้นมาเสียงเข้ม

     

    "นายสองคนนอนด้วยกันไม่ได้นะ" ผมหันไปมองเขา พลางทำหน้าเอ๋อ ทั้งที่ยังกอดจงแดอยู่

     

    ถ้าพวกนายอยู่ห้องเดียวกัน ก็ไม่ได้ฝึกภาษาจีนเลยน่ะสิ" คริสว่า พลางทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผม โดยมีเทาส่งเสียงอือ ออ มาเป็นแบ็คกราว

     

    "แต่เวลาเราคุยกัน เราก็ใช้ภาษาเกาหลีคุยกันตลอดเลยนะ คริสฮยอง" จงแดออกความคิดเห็นบ้าง เลยได้สายตาแสนรำคาญจากจื่อเทาส่งมาให้แทนคำตอบ

     

    "บอกว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ไม่ได้สิ มีอะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนตั้งมากที่พวกนายต้องเรียนรู้ ลู่หานเอ่ยขึ้นมาบ้าง เป็นครั้งแรกเลยมั้งหลังจากที่เราขึ้นเครื่องกันมา

     

    "นายน่ะพูดดีนักนะ นายมานอนห้องเดียวกับฉันเลยละกันจงแด" คริสพูด พลางลากจงแดออกจากอ้อมกอดผม

     

    จงแดส่งสายตาละห้อยมาให้ผม ก่อนจะต้องขนกระเป๋าเดินตามคริส ขึ้นไปยังขั้นสองของบ้าน

     

    คราวนี้ก็เหลือแค่ผม กับ ผู้ชายชาวจีนอีกสามคน

     

    "มินซอกฮยองนอนกับผมนะ" เทาเอ่ยชวนอย่างกระตือรือร้น พอได้ยินแบบนั้นผมเลยฉีกยิ้มกว้าง

     

    "ดะ../ ไม่ได้"

     

    เสียงลู่หานดังขันขึ้นมาทันที ผมได้แต่หันไปถลึงตาใส่เขา ที่ทำหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

     

    "เทาภาษาเกาหลีก็ไม่คล่อง จะสอนอะไรเปา... เอ่อ มินซอกได้ล่ะ เพราะฉะนั้น นายมินซอก นายต้องนอนกับฉัน" ลู่หานหันมาพูดกับผม

     

    "ไม่เอา ฉันขออยู่กับอี้ชิงนะ" ท้ายประโยคผมหันไปหาอี้ชิง ที่นั่งเงียบๆรอเราตกลงกัน พร้อมทำหน้าที่คิดว่าน่ารักที่สุด (เผื่อเค้าจะใจอ่อน)

     

    "ไม่ได้ บอกแล้วไงนายต้องนอนกับฉัน"

     

    ยังไม่ทันที่เลย์จะตอบอะไรเลย ลู่หานก็ขัดขึ้นมาอีกครั้ง ผมล่ะอยากเตะก้านคอเขาจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเขาตัวสูงกว่าผม

     

     

    เราจ้องตากันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้ออยู่นาน พอหันกลับมา ก็เห็น เลย์และเทา ช่วยกันลากกระเป๋า ขึ้นไปชั้นบนแล้ว

    นี่ผมต้องอยู่กับไอ้กวางบ้านี่จริงๆเหรอ

     

    "พวกนาย ยังไม่ขนของกันอีกเหรอ" คริสที่เดินลงมาขนกระเป๋าอีกรอบมองดูพวกผมสองคนอย่างละอาใจ

     

     ทำไมนายต้องมองแบบนั้นห๊ะคริส ฉันอายุมากกว่านายนะ

     

     

     

    ********************************************

     

     

    โอ้ย!!

     

    ผมทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้องทันที หลังจากลากกระเป๋าใบสุดท้ายเข้ามาในห้องเสร็จ พลางเหลือบมองลู่หานที่นั่งอยู่บนเตียง แต่สายตาเค้าจ้องตรงมาที่ผม

     

    หึ ไอ้คนแล้งน้ำใจ

     

    ผมแอบด่าเขาในใจ

     

    ทั้งๆที่เข้ามีกระเป๋า แค่สองใบ แต่ของผมมีตั้ง ห้าใบ เค้ากลับไม่คิดจะช่วยผมขนกระเป๋าขึ้นมาเลย แถมยังนั่งมองผมอย่างสบายใจ

     

    "จะด่าฉันในใจอีกนานไหม" จู่ๆลู่หานก็ถามขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนอกอ่อนใจ สงสัยผมจะแสดงออกด้วยสายตามากเกินไป ผมสะบัดหน้าไปอีกทาง พลางดึงกระเป๋าใบใกล้ตัวที่สุดมาเปิดออก

     

    "นี่ มาตกลงกันก่อน" ลู่หานพูดขึ้นอีกครั้ง ผมเลยต้องหันไปมองเขา

     

    "ฉันไม่ชอบให้ใครขึ้นมาบนเตียงฉัน ฉะนั้น ไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกายนาย หมอน หรือว่าผ้าห่ม ทุกอย่างของนาย ห้ามเขามาในอาณาเขตเตียงฉันเด็ดขาด" เขาพูด ก่อนจะจ้องเขม็งมาทางผม

     

    ซึ่งคนอย่างผมน่ะเหรอ แค่ร่วมห้องผมยังไม่ต้องการเลย แล้วเขาดันมาพูดแบบนี้อารมณ์ก็ขึ้นสิครับ

     

    "คิดว่าฉันอยากจะขึ้นไปบนเตียงนายรึไง" ผมพูด ก่อนจะเดินตรงไปยังเตียงคู่ที่วางติดกันอยู่กลางห้อง แล้วออกแรงทั้งดึงทั้งดันเตียงที่แสนหนักออกมา แล้วดันมันไปติดผนังห้องอีกฝั่ง โดยที่เตียงของลู่หานยังคงวางอยู่ที่เดิม

     

    และเขาก็มองผมอยู่เงียบๆ ผมทำเป็นไม่สนใจเขา แล้วเริ่มจัดของเข้าที่ ผมเหลือบมองเขาจากหางตา เขาจ้องผมอยู่สักพัก ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง พลางชันขาขึ้นมาข้างหนึ่ง

     

    ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วล่ะว่า ทำไมเมมเบอร์คนอื่นถึงบอกว่าเขาดูเท่

     

    ตอนเป็นเด็กฝึกอยู่ด้วยกัน เขาก็ดูจะป๊อบมาในหมู่แฟนคลับ ติดแต่ว่าลู่หานเป็นผู้ชายที่หน้าหวานมากกว่า ผมเลยไม่เคยได้สังเกตเลยว่า หมอนี่มันก็เท่เหมือนกัน เฉพาะเวลาที่อยู่เงียบๆ ไม่พูด ไม่ยิ้มอ่ะนะ

     

    แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของผมที่ต้องมานั่งชมเขานี่นา

     

    ผมสะบัดหัวไล่ความคิดเกี่ยวกับลู่หาน ผมต้องรีบจัดของให้เสร็จ เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้มีวันหยุดให้นอนพักผ่อนบ้าง

     

     

     

    *************************************************

     

     

     

    หลังจากมาใช้ชีวิตที่จีนได้หนึ่งอาทิตย์ผมก็เริ่มปรับตัวเข้ากับที่นี่ อาหารอร่อย(จนผมน้ำหนักขึ้น) เตียงนุ่มสบาย แถมแฟนๆที่นี่ก็มอบความรักให้พวกเราเป็นอย่างดี ความจริงแล้ว ก็ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าเพื่อนร่วมห้องของผมอีกแล้ว

     

     ถึงแม้ผมจะพยายามต่างคนต่างอยู่สักเท่าไหร่ แต่เวลาไปออกรายการต่างๆ ตำแหน่งของผมจะต้องยืนใกล้ลู่หานตลอดแล้วเวลาพิธีกรถามคำถามอะไร ผมก็ต้องพึ่งให้เขาคอยแปลให้ ความจริงก็ไม่อยากหรอกนะ

     

    แต่ คุณก็รู้ใช่ไหมล่ะ บางรายการคุณพี่สาวล่ามของบริษัทก็ไม่ได้เข้ามาในกล้องกับเรา เพราะงั้นเลยต้องแก้ปัญหาโดยให้เมมเบอร์จีนแปลให้ ข้างซ้ายผมก็ลู่หาน ข้างขวาผมก็จงแดที่ไม่รู้ภาษาจีนเหมือนผม ผมล่ะอยากจะไปยืนข้างคริสซะเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าหมอนั่นน่ะ สูงผิดปกติ

     

    แล้วเมื่อสองวันก่อนปีศาจในคราบนางฟ้าของหมอนี่ก็แผลงฤทธ์ ไปเที่ยวบอกออกอากาศว่าผมมีฉายาว่า เปาจื่อ!

     

    มันเป็นฉายาที่ไหนกัน ในเมื่อคนเดียวที่เรียกก็มีแต่เขา ผมจำได้เลย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากัน เมื่อตอนที่ผมอยู่อนุบาล ไอ้กวางบ้านี่ก็เรียกผมว่า เปาจื่อ แถมยังหันไปถามแม่ของผมอีกว่า เล่นกับผมได้ไหม แล้วเจ้าปีศาจนั่นก็ดึงแก้มผม แถมหาว่าผมอ้วนอีก

     

    โลกของเด็กน้อยที่ทุกคนเคี่ยวเข็ญให้กินเยอะๆ แล้วจะน่ารัก ต้องมาแตกสลายเพราะคนต่างด้าวนี่คนเดียวเลย

     

    พอคำว่าเปาจื่อ หลุดออกมาจากปากลู่หานผมแทบจะร้องไห้ และคงเอาเก้าอี้ฟาดหน้าซื่อๆนั่นไปแล้วถ้าไม่ติดว่ามีกล้องห้าตัวคอยจับภาพเราอยู่

     

    ไหนจะกล้องจากแฟนๆอีกนับร้อย ถ้าผมทำอะไรลงไปหลักฐานมันจะมัดตัวผม คอยเสร็จงานก่อน

     

    แต่รู้อะไรไหม หลังจากจบงานแทนที่จะผมจะได้จัดการหมอนี่ พี่เมเนเจอร์กับสต๊าฟรายการก็เข้ามาบอกว่า ฉายาเปาจื่อเหมาะกับผม

     

    ผมได้แต่ยืนน้ำตาตกใน

     

    ใจผมแตกสลายเป็นเสี่ยงๆไปกองกับพื้น ผมล่ะเกลียดเขาจริงๆ ชาติที่แล้วผมคงไปเหยียบตาปลาเขาต่อหน้าสาวแน่เลย ชาตินี้ถึงจองเวรผมไม่หยุด

     

     

     

    ******* ******* ****** ******

     

    "มินซอก   ....ได้แล้ว"

     

    เสียงแว่วๆของลู่หานดังเข้ามาในโสตประสาทของผม อ่าา.... ทำไมมันปวดหัวจังเลย หลังจากพยายามจะลืมตาอยู่สักพัก ผมก็แพ้ร่างกายตัวเองเลยได้แต่มุดหน้าลงกับหมอน

     

    "มินซอก  ... ตื่น ... เช้าแล้ว..."

     

    ลู่หานน่ารำคาญ

     

    "ตื่น เดี๋ยวนี้นะ มินซอก"

     

    เงียบซะทีเถอะ

     

    เสียงลู่หานยังคงดังงุ้งงิ้งอยู่แถวๆเตียงผม แต่ตาผมไม่สามารถจะลืมขึ้นได้เลยจริงๆให้ตายสิ

     

    ปวดหัวด้วย

     

    "เปาจื่อ!"

     

    คราวนี้เสียงของลู่หานดังชัดขึ้นเมื่อผ้าห่มของผมถูกกระชากออกไป ผมเงยหน้ามองเขา พยายามลืมตาสุดๆเลยนะ แต่ภาพเขาดูเบลอๆ ผมเลยได้แต่หลับตาลงอีกครั้ง

     

    "เปาจื่อ ตื่น"

     

    ลู่หานไม่พูดเปล่า แต่ฉุดแขนผมขึ้น ก่อนที่เขาจะชะงักไป นายไม่สบายเหรอ เปาจื่อ"

     

    "ห้ามเรียกฉันว่าเปาจื่อนะ" ผมไม่อยากจะทะเลาะกับเขาตอนนี้เลยจริงๆ สุดท้ายผมเลยมุดหน้าลงกับหมอนอีกครั้ง รู้สึกหนักๆที่หัวยังไงไม่รู้

     

    "ตอนบ่ายมีงานนะ นายไหวรึเปล่า"

     

     "ไหวๆ" ผมตอบส่งๆไป ตอนนี้ไม่อยากจะทำอะไรเลยทั้งนั้น ปกติผมไม่ใช่คนป่วยง่ายนะ แต่ว่าโดนฝนเมื่อไหร่ก็พาลจะป่วยเอาซะทุกที นี่ผมไม่ใช่คนป่วยง่ายจริงๆนะ

     

    "แต่ดูจากสภาพนายไม่น่าจะไหวนะ" ผมรู้สึกได้ถึงเตียงที่ยวบลง คงเพราะน้ำหนักตัวของลู่หานนั่นแหละ "เดี๋ยวฉันไปคุยกับพี่ยงมินให้นะ ว่านายไม่สบาย ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนหรอก"

     

    ผู้ชายคนนี้ใช่ลู่หานจริงๆรึเปล่าเนี่ยทำไมถึงมาห่วงผมได้ล่ะ

     

    "ไม่ๆ ฉันไหว แต่ขอนอนต่ออีกชั่วโมงนึงละกัน นายมาปลุกฉันด้วยนะ" ผมเงยหน้าไปมองเขา แต่ก็มองไม่ชัดนัก

     

    "เอางั้นก็ได้"

     

    แปลกที่ลู่หานไม่คิดเซ้าซี้อะไรผมต่อ ผมได้ยินเสียงปิดประตูเบาๆ เลยซุกหน้าลงกับหมอนแล้วนอนต่อ

     

    To be continued

     

    ตอนหน้าอาจมาช้านะคะ แต่คงไม่นานเกินรอแน่ค่ะ

    ขอเวลาเรียบเรียงความคิดนิดนึงนะคะ

    Jyploy

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×