[Special] N e w Y e a r W i t h Y o u - Lumin - [Special] N e w Y e a r W i t h Y o u - Lumin นิยาย [Special] N e w Y e a r W i t h Y o u - Lumin : Dek-D.com - Writer

    [Special] N e w Y e a r W i t h Y o u - Lumin

    ผู้เข้าชมรวม

    995

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    995

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    15
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ธ.ค. 56 / 22:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้




    amanita.theme
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

       

      "ลู่หาน ตื่นได้แล้ว ฉันอุ่นซุปมาให้ กินซะตอนที่มันยังร้อนๆ" ผมวางถาดที่ใส่ชามน้ำซุปไว้ข้างเตียงของลู่หาน เอื้อมมือไปดึงผ้าห่มที่เขาใช้คลุมโปงออกมา จนได้เห็นหน้ายุ่งๆของเขานั่นหล่ะ ผมถึงยอมปล่อยมือจากผ้าห่มของเขา

       

      "ลู่หาน ตื่นได้แล้วนะ"

       

      ลู่หานพลิกตัวหนีผมแล้วมุดหน้าลงไปกับเตียง ผมล่ะเบื่อจริงๆ เวลาปกติลู่หานก็ปลุกยากอยู่แล้ว พอมาป่วยแบบนี้เขาก็ยิ่งทำตัวเป็นเด็ก

       

      "อือ .."

       

      ผมล่ะอยากจะร้องไห้ ทำไมผมต้องมาปลุกเขาด้วยเนี่ย คิดแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา ถัดจากวันคริสต์มาสผมให้แม่ทำน้ำซุปให้ลู่หาน พอเดินเข้ามาในบ้านของลู่หานก็เจอพ่อกับแม่ของลู่หานที่กำลังเตรียมข้าวของกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ด้วยความที่ผมเห็นพ่อและแม่ของลู่หานเหมือนพ่อแม่ของตัวเองเลยเอ่ยถามออกไปด้วยความอยากรู้ว่าพวกท่านจะไปไหนกัน

       

      "แม่กับพ่อจะไปเค้าดาวน์ที่ปักกิ่ง"

       

      แม่ของลู่หานตอบยิ้มๆ ผมส่วนผมก็ได้แต่ทำหน้ามึน

       

      หมายความว่า ลู่หานก็ต้องไปด้วยน่ะเหรอ

       

      "ลู่หานไม่ได้ไปด้วยกันหรอกจ๊ะ มินซอก" ไม่รู้เพราะสีหน้าแปลกๆของผมรึเปล่าแม่เลยเอ่ยบอกสิ่งที่ผมคิดในใจ

       

      "แม่ฝากลู่หานด้วยนะมินซอก"

       

      นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องมาคอยดูแลเขาอยู่แบบนี้

       

      เพราะผมเป็นต้นเหตุให้เขาป่วยนี่นา

       

      และทำให้เขาไม่ได้กลับบ้านเกิดด้วย

       

      เขากับผมก็มีชะตากรรมที่ไม่ต่างกันนัก เพราะพ่อกับแม่ผมก็ทิ้งผมไว้แล้วไปเค้าท์ดาวน์กันสองคนที่ลอนดอน

       

      "ลู่หาน"

       

      "ขอห้านาที มินซอก" ลู่หานส่งเสียงอู้อี้ตอบกลับมา

       

      "ตื่นเถอะลู่หาน ฉันต้องทำความสะอาดห้องให้นายอีกนะ" ผมเอื้อมมือไปดึงแขนของเขาเอาไว้ ตั้งแต่ลู่หานป่วยเขาก็เอาแต่โทษว่าเป็นเพราะผมเขาถึงป่วยแล้วอดไปเที่ยวกับเพื่อน จากนั้นก็โยนภาระมากมายมาให้ผม ตั้งแต่เก็บกวาดเช็ดถู ทำอาหารให้เขาในระหว่างที่พ่อกับแม่ของเขาไม่อยู่ ถึงมันจะไม่ได้เป็นภาระที่หนักมากมายแต่ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย  ผมขอให้แม่ทำซุปไว้แล้วคอยอุ่นให้กับลู่หาน ถึงเขาจะบ่นว่ามันเค็มขึ้นทุกวันๆ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี ถ้าเติมน้ำแล้วกลายเป็นจืดไป ก็สู้ให้กินเค็มๆไปละกัน

       

      "ลู่หานอย่าดื้อสิ" ผมกระตุกแขนเขาให้ลุกขึ้น แต่ลู่หานกลับพลิกตัวกลับมาแล้วดึงแขนผมจนตัวผมล้มลงไปบนเตียงข้างๆกับเขา แล้วลู่หานก็ใช้จังหวะนั้นดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่น

       

      "ขอ 20นาทีนะ" เสียงของเขาดังอยู่ข้างหูผม มันฟังดูเหมือนเขากำลังละเมอแต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ เพราะมือของเขาที่ดึงตัวผมให้เข้าไปชิดกับตัวเขา

       

      อ่าาาาาา

       

      ทำไมผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเลย

       

      "ลู่หานปล่อยฉันก่อนสิ"

       

      ผมรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดต้นคอของผม

       

      ฮือออ

       

      ผมจะทำยังไงดี

       

      กับหัวใจที่กำลังเต้นเป็นบ้าเป็นหลังอยู่แบบนี้

       

      "ไม่ นอนด้วยกันแบบนี้แหละ อุ่นดี" เสียงอู้อี้ๆของเขาดังขึ้น ข้างๆหู

       

      ผมรู้สึก ร้อนผ่าวไปทั้งหน้า

       

      โอย

       

      ลู่หานนายมันตัวอันตราย

       

      ทำไมต้องทำให้ฉันใจเต้นแบบนี้ด้วยเนี่ย

       

       

      *******   *******

       

       

       

      ผมนอนกอดเขาเอาไว้ ความจริงตั้งใจจะนอนต่อ แต่พอมีมินซอกในอ้อมกอดแบบนี้  ผมกลับตาสว่าง จากที่ง่วงๆอยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้ง  ไม่รู้เพราะกลิ่นกาแฟหอมๆจากตัวของเขารึเปล่านะผมถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้  


      กลิ่นกาแฟนี่แหละที่ทำให้ผมตื่น  ผมคิดว่างั้นนะ

       

      ผมนอนกอดเขาที่นอนเกร็งอยู่  รู้สึกเหมือนว่ามินซอกดูจะผอมลงนะ  กอดได้ไม่เต็มไม้เต็มมือเหมือนเมื่อก่อน
       

      ไม่รู้ว่าผมนอนกอดเขาอยู่นานแค่ไหน พอรู้ตัวอีกทีมินซอกก็หลับไปแล้ว  ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งให้เบาที่สุดเพราะกลัวเขาจะตื่น   ปากแดงๆของเขาขยับมุบมิบ เหมือนบ่นอะไร แก้มขาวๆพองออกเหมือนเวลาที่เขางอนผม   สุดท้ายผมเลยกดจูบลงไปบนแก้มนิ่มนั้น จนได้กลิ่นหอมแป้งเด็กกับกลิ่นกาแฟจากตัวเขา

       

      เพราะมินซอกน่ารักแบบนี้ไง

       

      ผมเลยกลายเป็นพวกชอบฉวยโอกาสบ่อยๆ

       

      ********

       

      "ตรงนี้ด้วยมินซอก" คนป่วยชี้นิ้วไปยังกองนิตยสารฟุตบอลที่วางกองอยู่บนพื้นข้างเตียง คนตัวเล็กได้แต่มองค้อนคนป่วยที่นั่งเล่นเกมกดอยู่บนเตียง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบนิตยสารนั้นขึ้นมาเรียงเข้าชั้นวางหนังสือ

       

      "ฝากเอานี่ไปทิ้งด้วยนะ มินซอก" คนที่ถูกเรียกเงยหน้าจากไม้ถูพื้นไปมองซองขนมที่อีกคนโยนลงมาจากเตียง เศษขนมหล่นเกลื่อนลงบนพื้นที่เขาเพิ่งจะถูมันเสร็จ มินซอกได้แต่อ้าปากค้างกับการกระทำของคนตรงหน้า แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเมื่ออีกคนเริ่มไอคอกแคกอยู่บนเตียง

       

      "ถ้าเสร็จแล้ว ฉันขอข้าวเย็นด้วยนะ" คนป่วยพูดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กกว่ากำลังขนอุปกรณ์ทำความสะอาดออกไปจากห้อง

      ไม่มีเสียงตอบ เมื่ออีกคนทำเพียงแค่ปรายตามามองเขาเท่านั้น

       

      ใบหน้าน่ารักแดงก่ำจากการทำงานบ้านที่เขาคอยแกล้งนั่นแกล้งนี่ เส้นผมหน้าม้าของอีกคนเปียกชุ่ม  มินซอกเหมือนเด็กที่ไปวิ่งเล่นมาจนเหนื่อย  ลู่หานได้แต่อมยิ้มกับภาพนั้นก่อนจะทิ้งตัวลงนอน  อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะปีใหม่แล้ว วันคริสต์มาสมินซอกถ่วงเวลาเขาให้อยู่ด้วยกันทั้งวัน  วันนี้เขาก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน แค่อยากให้มินซอกอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะวันอะไรก็ตาม การได้ใช้เวลาร่วมกันสองคน คือสิ่งที่แสนวิเศษที่สุดสำหรับเขาแล้ว

       

      เกือบชั่วโมงกว่าๆ ประตูห้องของลู่หานก็ถูกเปิดออกโดยมินซอกที่ค่อยๆประคองจานข้าวเข้ามาในห้อง

       

      ลู่หานละมือจากโน้ตบุ้คก่อนจะหันไปมองร่างเล็กที่ทำหน้าอมทุกข์ ก่อนจะเหลือบมองจานข้าวที่อีกคนนำมาวางตรงหน้าแล้วรีบเดินหายไปจากห้อง

       

      แล้วก็ได้แต่อึ้งกับสภาพอาหารในจานที่มีกิมจิ วางคู่กับไข่เจียวสีน้ำตาลที่โปะอยู่บนข้าว สิ่งที่ดูจะเหมือนมะเขือเทศฉ่ำไปด้วยน้ำ ผิดกับบางชิ้นที่ไหม้เกรียม  ลู่หานหยิบส้อมขึ้นมาก่อนจะพลิกดูไข่เจียวอีกด้านที่สภาพดูน่ากินกว่าด้านบน แต่ก็ต้องตกใจกับสภาพข้าวที่แฉะเกินจะกิน ไม่รู้เพราะน้ำมันจากไข่เจียวหรือเปล่า แต่มันเหมือนข้าวต้มซะมากกว่า

       

      คนป่วยถอนหายใจก่อนจะคว้าจานแล้วลุกออกไปจากห้อง

       

      "มินซอก"

       

      "คิมมินซอก"

       

      ตะโกนเรียกชื่อคนทำอาหารมาทั้งทางที่ลงบันไดมา  ใบหน้าที่ค่อนไปทางน่ารักบูดบึ้ง  หลังจากที่มองหาไม่เห็นคนตัวเล็กในห้องนั่งเล่นก็รีบเดินเข้าไปในห้องครัว จ้องมองแผ่นหลังของอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ

       

      "มินซอก นายทำอะไรเนี่ย บ้านนายเรียกมันว่าไข่เจียวรึเปล่า ทำไมมันเป็นแบบนี้จะกินเข้าไปได้ยังไง"

       

      ร้องถามอีกคนก่อนจะเดินเอาจานไปวางกระแทกตรงหน้าคนที่นั่งกินข้าวอยู่

       

      แล้วก็ต้องอึ้งกับจานข้าวของอีกคน

       

      ไข่เจียวที่ดำจนไหม้ มันดูเหมือนจะกินไม่ได้ด้วยซ้ำ ส่วนข้าวก็เละจนเป็นข้าวต้ม สิ่งที่ดูจะกินได้เพียงอย่างเดียวก็คือกิมจิสีสดที่อยู่ข้างจาน

       

      ลู่หานจ้องมองใบหน้าอีกคนก่อนจะเหลือบมองมือที่มีพาสเตอร์ยาพันอยู่รอบนิ้ว

       

      "มินซอก.."

       

      เรียกอีกคนเสียงอ่อน เมื่อดวงตากลมคู่นั้นมีประกายสั่นไหว พร้อมทั้งน้ำตาที่คลออยู่ในตา

       

      "ก็ฉันทำไมเป็นนี่" คนตัวเล็กกัดริมฝีปากแน่น พยายามห้ามน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอเอาไว้

       

      "ลู่หานเอาแต่สั่งๆ ไม่เคยถามเลยว่าฉันทำ ฮึก ทำเป็นรึเปล่า ฮึก ฮือออออออออ" คนตัวเล็กร้องไห้พลางยกมือมาปาดน้ำตาเหมือนเด็กๆ

       

      "มินซอก" ได้แต่ดึงตัวอีกคนมากอดปลอบ แรงสะอื้นเบาๆจากตัวอีกคนพาลจะทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

       

      นั่นสินะ มินซอกก็เป็นเด็กผู้ชาย ทำไมเขาถึงมีความคิดที่ว่ามินซอกต้องทำงานแบบผู้หญิงเป็นด้วยนะ

       

      "ทำไม่เป็นก็บอกสิ ฉันจะได้ทำให้ แล้วทำไมนายยังกินไข่ไหม้ๆแบบนี้เข้าไปได้อีกเนี่ย" ลูบหลังปลอบอีกคน พลางเหลือบมองไข่เจียวไหม้ เพราะฝีมือคนทอดไม่เป็น

       

      "ก็ ฮึก หิวนี่ ตั้งแต่เช้าฉันกินกาแฟไปแก้วเดียวเอง"

       

      "โอ๋ๆ ไม่ร้องนะมินซอก เดี๋ยวฉันทำอะไรให้กินละกันนะ" ได้แต่ลูบหัวปลอบอีกคนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น

       

      ได้ยินเสียงสูดน้ำมูกเบาๆ จากคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกของเขา

       

      "อย่าทำเสื้อฉันเลอะนะมินซอก"

       

       

       

       

       

      "อิ่มจัง หานหานทำข้าวผัดอร่อยที่สุดเลย" ลู่หานมองคนที่กำลังยิ้มแฉ่งผิดกับเมื่อชั่วโมงก่อนที่ยังร้องไห้เป็นเด็กสิบขวบ แล้วก็อดจะยิ้มไม่ได้เมื่อ นึกถึงตอนที่เขาบอกว่าจะทำอาหารให้อีกคนกิน

       

      คนแก้มป่องก็ทำตาโต ทั้งๆที่หน้ายังเปื้อนน้ำตาอยู่ หลังจากที่เขาหาของที่เหลืออยู่ในตู้เย็นที่พอจะเอามาทำอาหารได้

      อีกคนก็ขอช่วยเตรียมวัตถุดิบ  แต่หลังจากที่เขาเห็นการจับมีดเก้ๆกังๆของอีกคนเลยต้องไล่ให้กลับไปนั่งรอเงียบๆ

       

      "ไม่เห็นรู้เลยว่า นายทำอาหารเป็นด้วย" คนตัวเล็กส่งยิ้มหวานให้อีกคนที่ยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา

       

      "ก็ ตอนพ่อกับแม่ไม่อยู่ฉันก็ทำกับข้าวกินเองตลอดแหละ" ลู่หานพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วฉุดแขนอีกคนที่นั่งลูบท้องตัวเองอยู่บนโซฟาให้ลุกขึ้น

       

      "ไปไหนลู่หาน" มินซอกเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อจู่ๆก็โดนอีกคนลากมาที่หน้าประตูบ้าน

       

      "เปล่า" พูดพลางดันหลังคนตัวเล็กกว่าให้ออกไปยืนหน้าประตูบ้าน ลมเย็นๆที่พัดมาหอบเอาเกล็ดหิมะเล็กๆมาปะทะกับใบหน้า จนคนตัวเล็กต้องย่นคอหนีความหนาวเย็น แสงไฟที่ประดับบนต้นคริสต์มาสหน้าบ้านกระพริบวิบวับ กับไฟสีเหลืองอ่อนที่ติดอยู่หน้าประตู ทำให้มินซอกมองเห็นใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของอีกคน

       

      แล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่ออีกคนเริ่มหน้าแดงขึ้นมา

       

      "หนาวรึเปล่า นายไม่สบายอยู่นี่นา ลู่หาน" เอ่ยถามพร้อมกับที่มือเล็กๆเอื้อมไปโอบกอดอีกคนไว้ แล้วซุกหน้ากับอกกว้าง

       

      "อีกห้านาที จะปีใหม่แล้ว"

       

      "อ๊ะ จริงสิ ลืมไปเลย" คนแก้มกลมพูด ก่อนจะดันตัวเองออกจากอกอุ่นๆของลู่หาน แต่มืออีกคนก็ดันหัวของเขาให้กลับไปแนบกับอกอีกครั้ง

       

      "วันคริสต์มาสนายหลับไปก่อน ฉันเลยยังไม่ได้บอกบางอย่างกับนาย"

       

      "....."

       

      "เมื่อก่อนไม่ว่าเทศกาลไหนๆสำหรับฉัน มันก็เป็นแค่วันธรรมดาที่ไม่พิเศษอะไร ฉันสงสัยตลอดเวลาที่นายชอบชวนฉันทำโน่นทำนี่ในวันคริสต์มาส ฉันถามตัวเองว่าคริสต์มาสมันพิเศษยังไงกันนะ  แต่พอคริสต์มาสที่ผ่านมา ได้อยู่กับนายสองคน ได้แบกนายบนหลัง ได้เห็นนายยิ้มเป็นคนบ้าทั้งวันแบบนั้น ฉัน รู้แล้วล่ะว่าคริสต์มาสมันพิเศษยังไง"

       

      "ยังไงเหรอ" ดวงตากลมโตจ้องตอบดวงตาหวานที่เหมือนกับลูกกวางกลับไป

       

      "มันพิเศษเพราะเป็นฉันใช่ไหมล่ะ

       

      วันแรกที่เราเจอกันมันคือวันคริสต์มาส ทำไมฉันเพิ่งนึกออกนะ วันแรกที่เราเจอกัน นายนั่งจัดต้นคริสต์มาสอยู่ในบ้าน เด็กแก้มกลมที่เอาแต่สนใจต้นคริสต์มาสคนนั้น กับนายคนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด

       

      รอยยิ้มที่นายมอบให้ฉัน

       

      เมื่อไหร่กันนะที่นายไม่ได้เป็นแค่เพื่อนข้างบ้านสำหรับฉัน

       

      เมื่อไหร่กันที่ฉันตกหลุมรักรอยยิ้มนั้นของนาย

       

      เมื่อไหร่กันที่ฉันเริ่มรู้สึกว่า ทุกวัน มันพิเศษเพราะมีนายอยู่ ฉันก็ไม่รู้ว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันอยากจะทำแบบนี้กับนาย"

       

      มือที่โอบกอดคนตัวเล็กเปลี่ยนมาประคองท้ายทอยเอาไว้ ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นๆของอีกคนจะประทับลงบนกลีบปากนุ่ม ดวงตาคู่กลมค่อยๆปิดลงเพื่อรับรู้สัมผัสอ่อนโยนที่ริมฝีปากนั้น

       

      เหมือนลมหายใจถูกช่วงชิง

       

      ได้แต่ยืนหมดแรงอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน

       

      อ้อมกอดที่อบอุ่น

       

      กับสัมผัสอ่อนโยนที่ริมฝีปาก ที่ค่อยๆหลอมละลายเขา

       

      "ที่ผ่านมาทุกวันสำหรับฉัน มันพิเศษเพราะมีนาย ต่อจากนี้ ช่วยทำให้ทุกวันของฉันพิเศษตลอดไปนะ มินซอก" ลู่หานเหลือบมองเวลาที่ข้อมือก่อนจะยิ้มกว้าง "Happy new year" กระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของคนตัวเล็ก


      "อือ Happy new year"


      "จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ" เสียงถามพร้อมรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้าของอีกคน ทำให้มินซอกได้แต่ก้มหน้างุด


      "จะให้พูดอะไรอีกล่ะ ก็นายน่ะ"


      "ฉันทำไมเหรอ มินซอก  หืม" คนตัวสูงกว่าก้มลงมาถามจนชิดข้างหู นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมสีอ่อนไปทัดไว้ที่ข้างหู อีกคนที่หดคอหนี


      "ก็ ลู่หาน"

       

      ครืดๆ~~~

       

      แรงสั่นจากโทรศัพท์ทำให้มินซอกรีบก้มหน้าหลบสายตาที่มองมาของอีกคน

       

      ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับอย่างงกๆเงินๆ

       

      "ครับแม่"

       

      (Happy new year นะจ๊ะมินซอก)

       

      "Happy new year ครับแม่ ฝากบอกพ่อด้วยนะครับ แต่ว่าที่นั่นกี่โมงแล้วครับ?"

       

      มินซอกไม่ทันได้ฟังคำตอบจากแม่ด้วยซ้ำ เพราะริมฝีปากที่กดจูบลงมาอีกครั้ง มันพาลจะทำให้มือไม้อ่อนไปหมด

       

      เพราะจูบที่เอาแต่ใจของลู่หานมันทำให้

       

      คิมมินซอกคนนี้กำลังละลาย

       

       

      The End


       

       


       

       

      พยายามจะเขียนให้ตอนจบมันดูดีกว่านี้ แต่ ขออภัยทำไม่ได้จริงๆค่ะ
      สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ


      Jyploy

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×