ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic b.a.p] All fiction of B.A.P

    ลำดับตอนที่ #6 : [Special] shoes

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 56


     

    Special


              มันไม่ใช่ความรักหรอก นี่มันไม่ใช่ความรักเลย ฉันก็แค่ถูกเธอครอบงำเท่านั้น ไม่ว่าฉันจะอยู่ที่ไหนไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันกำลังหวดกลัวกับการติดตามของเธอ

     

    ดวงตาคมจ้องมองทุกการกระทำของร่างบาง ไม่ว่าคน ๆนี้จะเดินไปที่ไหนทุกอิริยาบถถูกบันทึกอยู่ในดวงตาคมคู่นี้ แต่หารู้ไม่ว่าในดวงตาคู่นั่นที่มองไปยังร่างบางมันแอบแฝงความอ่อนโยนเอาไว้

    ฮิมชานเริ่มจะรู้ตัวว่ามีคนคอยเฝ้ามองเขาตลอดไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาเดินเข้าโรงเรียนมา นั่งเรียนอยู่ในห้องหรือแม้แต่ตอนเดินทางกลับหอ ถึงจะกลับเข้ามาอยู่ในห้องของตัวเองก็ยังมีความรู้สึกนั้นอยู่ดี ทำไมนะ ?

     

     ฉันเฝ้าตามเธอเป็นเหมือนเงาและเฝ้าโทรหาเธอ ฉันรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้สัมผัสถึงลมหายใจอันสั่นไหวของเธอ

    Rrr!~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้แล้ว เบอร์แปลกที่โทรเข้ามาเมื่อรับกลับไม่ได้ยินเสียงปลายสายตอบกลับมาทำให้ฮิมชานคิดว่าคงเป็นเพียงพวกโรคจิต เมื่อคิดได้อย่างนั้นนิ้วเรียวจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตัดสายทิ้งแล้วกดปิดเครื่องซะ

     

    ยิ่งเธอก้าวเดินขึ้นมากเท่าไหร่เสียงหัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นถี่รัวฉันเหมือนคนที่เป็นบ้ามากขึ้นในยามค่ำคืน

     

    วันนี้ฮิมชานเลือกที่จะขึ้นรถเมล์มาลงแล้วเดินต่ออีกนิดเพื่อกลับหอ แต่ว่าดันติดงานตอนเย็นจนทำให้กลับบ้านค่ำ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยความมืดมิด ขาเรียวรีบก้าวเพื่อที่จะได้ถึงหอพักให้เร็วที่สุดเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาที่ตนอีกแล้วอาจจะเป็นโจรก็ได้ เมื่อใกล้ถึงหอจากการเดินเร็วจึงเปลี่ยนเป็นการวิ่งทันที

     

     

    ภายใต้ถนนอันมืดมิดที่หน้าบ้านของเธอ ฉันเฝ้ามองเธอผ่านรอยร้าวที่หน้าต่างห้องของเธอ พยายามตามหาฉันสิ จนกว่าจะเช้าเลยมาเล่นซ่อนหาที่หน้าตื่นเต้นกับฉันต่อ เธอ เธอ เธอ รับรู้ไว้ซะว่าเธอไม่มีทางหนีจากฉันไปไหนได้ทั้งนั้น

    ปัง เสียงประตูปิดกระแทกอย่างแรงพร้อมกับเสียงหายใจหอบจากคนที่ยืนพิงประตูบานนี้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอย่างกับหนังฝรั่งโรคจิต มือขาวปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากใบหน้าหวาน  

    ขายาวเดินตรงไปยังผ้าม่านที่พลิ้วไหวตามแรงลม อะไรกันเมื่อเช้าไม่ได้ปิดประตูระเบียงงั้นเหรอ ?’ ขณะที่มือขาวปัดผ้าม่านหลบเพื่อที่จะเลื่อนประตูปิดสายตาก็สะดุดเข้ากับร่างหนึ่งที่ยืนมองมายังห้องของเขาก่อนจะเดินลับหายไปเพราะถูกมุมตึกบัง

              ฮิมชานเมื่อเห็นอย่างนั้นจึงรีบปิดประตูระเบียงแล้วเลื่อนผ้าม่านเข้ามาปิดอย่างรวดเร็ว มีคนกำลังติดตามเราจริง ๆด้วย มันต้องการอะไร!?

    ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเรียกจากความสนใจจากร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียงให้เดินไปยังประตู เมื่อส่องตาแมวดูก็เห็นว่าเป็นพนักงานทำความสะอาดจึงเปิดประตูให้

    แกร๊ก! “มีอะไรเหรอครับ ?

    ผลั่ก!! จู่ ๆพนักงานทำความสะอาดคนนั้นก็พลักเขาเข้ามาในห้องก่อนที่จะดันฮิมชานลงกับเตียง ใบหน้าทั้งสองเผชิญเข้าหากันทำให้ฮิมชานมองเห็นใบหน้าคมนั้นได้ชัดเจน

    “ยงกุก!!

     

     เธอบ้าไปแล้วเหรอ ทำไมเธอถึงทำแบบนี้หล่ะ ตอนนี้หยุดมันเถอะนะปล่อยฉันให้เป็นอิสระเถอะ ฉันเห็นเธอแล้ว ตอนนี้ฉันหายใจไม่ออกเลย ออกไปจากฉันซะเถอะ

    ร่างด้านใต้พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากการพันธนาการของคนด้านบนที่นั่งคร่อมเขาอยู่

    “นี่ยงกุกจะทำบ้าอะไรหน่ะ ปล่อยนะ!!” ฮิมชานทั้งดิ้นทั้งโวยวายทำให้ยงกุกยกนิ้วขึ้นมาแตะที่ปากเพื่อส่งสัญญาณให้คนด้านใต้เงียบซะ

    “จุ๊ ๆอย่าร้องไปเลยนะ หึหึ เพราะเดี๋ยวนายจะได้ร้องยิ่งกว่านี้แน่” ดวงตาเรียวเบิกโพลงด้วยความตกใจกับคำพูดที่ออกมาจากคนที่คร่อมเขาอยู่

    โป๊ก!

    “โอ๊ย!” ฮิมชานเอาหัวกระแทกเข้าที่หัวยงกุกอย่างแรงทำให้คนด้านบนเผลอจนฮิมชานฉวยโอกาสผลักยงกุกออกมาได้

    ขายาวรีบวิ่งออกมาจากห้องแล้ววิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็วเวลาแบบนี้ให้ใช้ลิฟต์คงไม่ทัน

     

     มันไม่มีทางที่เธอจะสลัดฉันทิ้งไปได้ เธอจะรักฉันได้คนเดียวเท่านั้น พยายามจะหนีเหรอ อย่าหวังเลยเพราะฉันเห็นเธอ ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ฉันรู้จักเธอดีที่สุด อย่าพยายามที่จะกำจัดฉันออกไป ฉันเท่านั้นที่เธอจะรักได้ มองฉันสิ

     

    ฮิมชานรีบวิ่งจนขาพลันกันส่งผลให้เขาก้าวพลาดกลิ้งตกบันไดลงมาหลายขั้นจนข้อเท้าแพลง ตอนนี้ร่างบางขยับหนีไปไหนไม่ได้แล้วทั้งนั้น เสียงรองเท้าหนังดังใกล้ลงมาเรื่อย ๆฮิมชานทั้งเจ็บทั้งกลัวจนทำให้น้ำตาเล็ดออกมา


              “นายหนีฉันไปไหนไม่ได้หรอกฮิมชาน” ยงกุกก้มลงมากระซิบที่ข้างหูแต่มันกลับทำให้คนฟังรู้สึกขยะแขยงเป็นที่สุด ใบหน้าหวานพยายามเบี่ยงหนีใบหน้าคมแต่ก็ถูกมือหนาบีบให้หันมามองใบหน้าที่ฮิมชานทั้งกลัวและรังเกียจ

    ริมฝีปากหนาบดขยี้เข้ามายังริมฝีบางอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาอย่างถือวิสาสะคนถูกจูบพยายามเบี่ยงหน้าหนีแต่ก็สู้แรงมือที่รั้งใบหน้าเขาไว้ไม่ได้ น้ำตาเริ่มไหลออกจากดวงตาคู่สวย

    เมื่อเห็นว่าฮิมชานเริ่มจะหายใจไม่ออกริมฝีปากหนาจึงละออกมาแต่ก็ยังไม่ปล่อยมือที่รั้งใบหน้าสวยเอาไว้ ฮิมชานต้องมองแต่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

     

     เลือนหายไป หยุดแล้วจากไปซะ ฉันหายใจไม่ออกแล้วจริง ๆไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนไม่ว่าฉันจะทำอะไร ฉันกลัวนะกับการติดตามของเธอแบบนี้

    “ฮึก ฮือ ๆปล่อยฉันไปเถอะนะยงกุก อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฮือ” น้ำตาของฮิมชานที่ไหลลงมาอาบแก้มสวยทำให้ดวงตาคมสั่นไหวขึ้นมา เขาไม่ได้ต้องการให้คนตรงหน้าร้องไห้เลยซักนิด

    “ฮือ ๆๆขอร้องหล่ะฉะ ฉันกลัว ฮึก” ฮิมชานพูดทั้งที่ยังหลับตาปี๋แล้วก้มหน้าลงทันทีที่ยงกุกปล่อยมือออก ร่างสูงตรงหน้าลุกขึ้นโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา แขนแกร่งช้อนร่างของฮิมชานขึ้นมาแล้วอุ้มเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องที่เพิ่งวิ่งหนีออกมา

    เมื่อมาถึงห้องแขนแกร่งก็วางฮิมลงบนเตียงอย่างเบามือแล้วเดินจากไปโดยเอ่ยอะไรออกมาซักคำ ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับร่างบางเป็นอย่างมาก

     

     ฉันร้องเรียกเธอเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ทำไม ทำไมเธอไม่เคยแม้จะตอบรับ ลืมไปแล้วเหรอเราเจอกันมาครบ 1000 วันแล้วนะ

    “ฮิมชาน ฮิมชาน!” เสียงทุ้มต่ำตะโกนเรียกร่างบางที่เอาแต่เดินหนีเขาตอนอยู่ที่โรงเรียน การเมินเฉยแบบนี้มันทำให้ยงกุกหัวเสียเป็นอย่างมาก

    “นี่! ฉันเรียกทำไมไม่หยุดฮะ” มือแกร่งกระชากแขนบางของฮิมชานเข้ามาหาตนโดยที่คนถูกกระชากเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองขึ้นมาซักนิด

    “ฮิมชานฉันขอโทษ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยความสำนึกผิด

     

    ฉันเตรียมของขวัญที่เธอจะต้องชอบ ฉันนั่งรอเธอยู่ที่ถนนที่เธอมักจะเดินผ่าน ฉันเฝ้ารอแต่เธอมาโดยตลอด เธอรับรู้ความรู้ความรักของฉันบ้างมั้ย

    “ฉัน ฉันเฝ้าติดตามนายมาตลอด” เสียงใหญ่ของยงกุกเอ่ยขึ้นทีละประโยคทำให้ฮิมชานค่อย ๆเงยหน้าขึ้นมามองเขา

    “ฉันดักรอนายระหว่างทางแต่ฉันก็ไม่กล้าออกไปหานาย ได้เฝ้าตามนายจนมาถึงหอ”

    “ฉันเฝ้ามองนายจากหน้าหอพัก ฉันเฝ้ามองเพียงแค่ห้องของนายด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความโหยหา” ดวงตาคู่สวยได้เพียงหลุบต่ำลงโดยไม่แสดงแววตาใดใดออกมา

    “จนฉันทนไม่ได้เลยขึ้นไปหานาย แต่แต่ฉันก็เหมือนเสียสติฉันดันทำอะไรบ้า ๆลงไป”

    “ฉันขอโทษยกโทษให้ฉันนะฮิมชาน” ดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจ้องมองมายังฮิมชาน

     

    อย่ามาพูดว่าฉันครอบงำเธอในเมื่อเธอไม่รู้จักความรัก อย่ามาพูดว่าฉันเป็นบ้าเพราะเธอไม่เข้าใจความรู้สึกของฉัน เธอ เธอ เธออย่าหวังว่าฉันจะจากไปไหนได้เลย

    “ใช่! นายมันบ้า นายมันเสียสติที่มาทำอะไรบ้า ๆกับฉันรู้มั้ยว่าฉันกลัวแค่ไหน” ดวงตาสั่นระริกของฮิมชานมันทำให้ยงกุกเริ่มใจไม่ดีขึ้นมา

    “ช่างเถอะฉันยกโทษให้นาย แล้วนายก็เลิกทำอะไรแบบนี้ซะ” ฮิมชานว่าแล้วสะบัดหน้าไปทางอื่น

    “ขอบคุณนะ แต่ฉันจะไม่หยุดรักนายหรอก ฉันรักนายนะฮิมชาน”

     

     เธอบ้าไปแล้วเหรอ ทำไมเธอถึงทำแบบนี้หล่ะ ตอนนี้หยุดมันเถอะนะปล่อยฉันให้เป็นอิสระเถอะ ฉันเห็นเธอแล้ว ตอนนี้ฉันหายใจไม่ออกเลย ออกไปจากฉันซะเถอะ

    “อะไรนะ!?นายรักฉัน เหอะ!นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย” ฮิมชานทึ้งหัวอย่างอารมณ์เสีย

     

     เธอก็ต้องการฉันไม่ใช่เหรอ เธอเองก็รักฉันไม่ใช่หรือไงดังนั้นอย่าวิ่งหนีฉันอีกเลย

    “ฉันจะไม่ทำอะไรบ้า ๆแบบนั้นอีกแต่นายยอมคบกับฉันได้มั้ย ?

     

     หยุดเรื่องไร้สาระพวกนี้เถอะ กลับมาเป็นตัวเองได้แล้วหยุดเรื่องนี้ซะ แล้วปล่อยฉันไปเสียที

    “นายจะบ้าเหรอเลิกไร้สาระเถอะฉันไม่ได้รักนาย ฉันคบกับนายไม่ได้หรอก”

    นี่มันไม่ใช่เลย นี่ไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก เธอกำลังทำร้ายฉันอยู่นะอย่าทำแบบนี้เลย อย่าทำแบบนี้อีกเลย ฉันรักเธอนะแต่ว่ามันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ลบฉันออกไปจากความทรงจำของเธอซะ

    “ลืมฉันซะ ฉันไม่มีวันรักคนอย่างได้ฉันขอโทษนะ” ฮิมชานว่าแล้วกำลังจะหันหลังเดินหนีไป

    “ฉันจะทำให้นายรักฉันให้ได้ฮิมชาน” คำทิ้งท้ายของร่างสูงทำเอาคนฟังอย่าฮิมชานรู้สึกหงุดเป็นอย่างมาก มีวิธีไหนที่เขาจะหนีการติดตามจากผู้ชายคนนี้ได้บ้างเนี่ย!














    เด็กหนุ่มร่างสูงเดินถือช่อดอกไม้สีแดงสดเข้ามายังสุสาน เขาเดินตรงไปวางช่อดอกไม้นั่นลงบนหลุมศพ ในแววตาเศร้าทอดมองไปยังป้ายชื่อที่ปักอยู่บนหลุม ใบหน้าขาวยืนสลดอยู่ซักพักก่อนร่างนั้นจะทรุดนั่งลงหน้าหลุมศพ


    ความเข้มแข็งที่สร้างมาพังทลายไปอย่างง่ายดายเพียงได้เห็นชื่อของคนบนป้ายหลุมศพนั่น บัง ยงกุกน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย ร่างสูงที่ทรุดอยู่กับพื้นสั่นเทาพร้อมกับเอ่ยประโยคต่างๆออกมาอย่างจับใจความได้ลำบาก

    “ฮึกฮึก ฮยองครับ ฮือ ผมคิดถึงฮ..ยองมากนะคะ ครับ” แขนยาวปาดน้ำตาออกจากใบหน้าขาวอย่างลวก ๆ แต่มันก็ยังไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

    “ถึงแม้ว่า ฮึก ฮ..ยองจะไม่เคยสนใจผมละ เลย ฮือ ” ยิ่งเอ่ยคำต่างๆออกมามากเท่าไหร่ น้ำตามันก็ไหลออกมามากเท่านั้น ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มแดงก่ำจากการร้องไห้

    “ไม่ว่าตอนนี้ฮะ ฮยองจะอยู่ที่ไหน ฮือ ฮยองก็จะอยู่ในใจของผม ฮึก เสมอนะครับ” จบประโยคก็ปล่อยโฮออกมามากว่าเก่า ถ้ามีใครอยู่ข้างๆคงเข้ามาปลอบหรือปล่อยให้ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้คงดีไม่น้อย

               ร่างสูงค่อยๆพยุงร่างตนเองลุกขึ้นและหันหลังกลับอย่างยากลำบาก ขายาวสองข้างก้าวเดินไปข้างหน้าแบบอ่อนแรง

     

     

    ….ไม่ว่ายังไงฮยองก็จะอยู่ในใจของผมตลอดไปนะครับ
     


    _________________________
    ตัดจบแบบนี้รีดเดอร์อย่าฟาดเรานะ TT
    เม้นหน่อยนะ อ่านแล้วบางทีไรท์ก็นั่งขำกับคอมเมนต์

    555555
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×