ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic b.a.p] All fiction of B.A.P

    ลำดับตอนที่ #3 : Shoes [Himjae] #3

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 56


    3

    ระหว่างทางกลับบ้าน คนผมทองก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาพึมพัมเกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับรู้มาแบบงง ๆ ถ้าใครมาเห็นเข้าจะคิดว่าบ้าเพราะคุยกับตัวเองก็ไม่แปลก

     

     “ฉันเป็นนักเรียนที่นายเห็นในข่าวนั่นแหละ คนๆนั้นคือฉันเอง”

    “มะ หมายความว่าหน่ะ นายตายแล้วสินะ” ถึงจะรู้มาอยู่แล้ว แต่พอเจอคำตอบจากเจ้าตัวอย่างนี้ก็ทำให้ยองแจสั่นได้ไม่น้อย

    “อืม ก็ไม่เชิงนะ ฉันยังไม่ตายแต่ก็เหมือนกับตายแล้วนั่นแหละ”

    “ตกลงมันยังไงกันแน่” ร่างเล็กเอียงคอถามอย่างไม่เข้าใจ

    “ฮะ ๆ อยากรู้ขนาดนั้นเชียว” คนตัวสูงถามพลางมองเข้าไปในดวงตาคู่ใส

    “อะ อื้ม” คนถูกมองหลบสายตาเล็กน้อย กลัวใจเต้นหรือไงกัน

    “ฉันก็บอกอะไรได้ไม่มากหรอกนะ แต่ว่าฉันคือวิญญาณที่หลุดออกมาจากร่าง” เสียงใหญ่เงียบไป

    “แล้ว ยังไงต่อหล่ะ” คนตัวสูงหันมาทางคนตัวเล็กแล้วเล่าต่อ

    “หมายความว่าฉันยังไม่ตายยังไงหล่ะ ตอนนี้ร่างฉันก็คงอยู่ที่ไหนซักแห่ง”

    “ยังไม่ตาย!? แล้วนายปรากฏตัวให้ฉันเห็นได้ยังไงกัน”

    “ฉันไปก่อนนะ” คนตัวขาวไม่สนใจคำถามของคนผมสีทองแล้วเดินหนีไป

    “แสดงว่านายยังมีโอกาสกลับมาเป็นคนได้ใช่มั้ย!” ยองแจตะโกนถามฮิมชาน ส่งผลให้ขายาวที่กำลังก้าวเดินชะงักลง มีรอยยิ้มเล็กๆปรากฏบนมุมปากของคนถูกถาม

    “หึ โอกาสแบบนั้นหน่ะฉันลืมไปแล้วว่าฉันเคยมีมัน” น้ำเสียงตัดพ้อนั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนที่ร่างสูงจะเดินหายเข้าไปในมุมมืด

              ตกลงว่าฮิมชานยังไม่ตายแต่เป็นวิญญาณที่หลุดออกมาจากร่างแล้วมาสิงอยู่ที่โรงเรียน แต่ว่าทำไมเขาต้องมาอยู่ที่โรงเรียนกันหล่ะ บ้าน โรงบาล หรือที่อื่น ๆ ทำไมต้องโรงเรียนแสดงว่าเขาต้องมีความสัมพันธ์อะไรซักอย่างกับโรงเรียนแน่ ๆ แต่ก็แปลกทำไมฮิมชานถึงปรากฏตัวให้เราเห็นได้จับต้องได้ แล้วเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีที่โรงเรียนนี้จะคือฮิมชานรึเปล่านะ ใช่! แล้วก็เรื่องที่เขาฝันวันนั้นอีก โอ๊ยย!! ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวยิ่งสับสน

    มือเล็กทึ้งผมสีทองไปมาทำให้คนที่เดินสวนไปถึงกับเหลียวมองอย่างงงๆ แต่ยองแจมัวแต่คิดเรื่องของฮิมชานจนไม่ได้สนใจใครรอบข้างเลย เมื่อมาถึงหอพักสิ่งที่พอจะคิดได้ตอนนี้คือลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวอุบัติเหตุของฮิมชาน

     ดวงตาใสจ้องมองตัวหนังสือที่ปรากฏบนจอสี่เหลี่ยม โรงพยาบาลx I’ นี่คือชื่อของโรงพยาบาลที่ปรากฎบนข่าว ถ้าฮิมชานยังไม่ตายจริง ๆ พ่อแม่ของเขาจะยอมเก็บร่างของเขาไว้นานขนาดนั้นเลยเหรอทั้งที่แทบจะไม่มีหวัง

     

    “นี่ยองแจทุกทีเห็นกลับบ้านค่ำจะตาย ทำไมสองสามวันนี้ถึงรีบกลับนักนะ” แดฮยอนเอ่ยถามโน่นนี่จากยองแจจนกลายเป็นเรื่องปกติ

    “ก็ไม่มีอะไรนี่ ฉันจะกลับบ้านเร็วบ้างไม่ได้รึไง”

    “แน่ใจนะว่ากลับบ้าน? ไม่ได้ไปที่อื่น” คำถามจากปากของเพื่อนซี้ผิวเข้มที่ทำยื่นหน้าทะเล้นเข้ามาถามทำให้ยองแจกระตุกเล็กน้อย

    “ฉันจะไปไหน ไม่มีที่ไหนให้ไปซักหน่อย” พูดพร้อมเบ้ปากแล้วหันหน้าหนี

    “หรือว่านายโดนดีที่โรงเรียนนี้เข้าซะแล้วเลยกลัวจนรีบกลับบ้าน” กระตุกรอบสอง! ทำไมไอ่ดำนี่มันชอบพูดอะไรแทงใจเรื่อยเลยนะ!

    “เฮ้ย จะบ้าเหรอฉันไม่คุยกับแกแล้ว ไปละ”ยองแจรีบตัดบทก่อนที่มันจะทำให้เขาพูดไม่ออกไปมากกว่านี้ เจ้าบ้าแดฮยอนเอ้ย

     

     

    โรงพยาบาล x I

    “ที่นี่สินะ” เสียงใสพึมพำกับตัวเองหน้าโรงพยาบาลแล้วตัดสินใจก้าวเข้าไป

     “เอ่อ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่ามีคนไข้ชื่อ คิม ฮิมชานมั้ยครับ” คนตัวเล็กเอ่ยถามเจ้าหน้าที่อย่างสุภาพ

    “รายชื่อของคนไข้รายนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาล x II ตั้งแต่ปีที่แล้วหล่ะค่ะ ”

    “อ่อ ขอบคุณมากนะครับ” เอ่ยคำขอบคุณโดยไม่ลืมโค้งให้ ยองแจไม่รอช้ารีบโบกแท็กซี่เพื่อไปยังจุดหมายต่อไปทันที

    “ไปโรงพยาบาล x II ครับ”

     

     

    “หวังว่าคราวนี้คงไม่พลาดนะ” พึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังเข้ามาในโรงพยาบาล

    “ขอโทษนะครับไม่ทราบว่ามีคนไข้ชื่อ คิม ฮิมชาน มั้ยครับ?

    “อ๋อ มีค่ะพักอยู่ที่ห้อง 601 น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าเป็นญาติหรือเปล่าคะ”

    “เอ่อเป็น เป็นเพื่อนน่ะครับว่าจะมาเยี่ยมซะหน่อย”

    “ค่ะ เชิญเลยค่ะ” เจ้าหน้าที่นางพยาบาลสาวพูดพร้อมโปรยยิ้มหวาน

    “ขอบคุณมากนะครับ” รีบโค้งให้แล้วมุ่งหน้าไปลิฟท์ทันที บางทีก็สงสัยนะว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่..

     

    ก๊อก ก๊อก! เคาะไปทั้งที่ไม่รู้ว่าจะมีเสียงตอบรับหรือเปล่า

    แกร๊ก! แอ๊ด บานประตูสีเทาเปิดออกเผยให้เห็นร่างของหญิงสาววัยกลางคนพอดูมีอายุที่มาเปิดประตูให้

    “เอ่อ มาเยี่ยมฮิมชานเหรอจ๊ะ” เสียงหวานทักขึ้นก่อน

    “ครับ ผมเป็นเพื่อนของฮิมชานหน่ะครับ”

    “งั้นเข้ามาก่อนเลยจ๊ะ” พูดพร้อมเดินผายมือแล้วเดินนำยองแจเข้ามาในห้อง

    “อืม เป็นเพื่อนฮิมชานเหรอ ทำไมน้าไม่เคยเห็นมาเยี่ยมเลยหล่ะทั้งที่เรื่องมันก็ตั้งนานแล้ว” หญิงสาวถามขณะที่นั่งข้างเตียงคนไข้ฝั่งตรงข้ามกับยองแจ

    “คือผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศหน่ะครับ พอกลับมาถึงก็เลยรีบมาเยี่ยมเขา” เนียนซะ

    “อ๋อเหรอ งั้นตามสบายนะน้าจะลงไปข้างล่างซักหน่อย” หญิงสาวที่ผิวขาวไม่ต่างจากฮิมชานว่าพลางลุกขึ้น

    “เชิญเลยครับ” ยองแจยิ้มเล็กๆ

     “ฝากหน่อยนะจ๊ะ” แอ๊ด! แกร๊ก! เสียงปิดประตูบ่งบอกว่าในห้องนี้เหลือแค่สองคน หนึ่งคนกับร่างไร้วิญญาณอีกหนึ่งร่าง

    ดวงตาคู่ใสมองไปยังร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องวัดชีพจรยังคงทำงานเรื่อย ๆ ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ทำไมนายถึงไม่ฟื้นขึ้นมาหล่ะ ยองแจหยิบมือเย็นของอีกคนขึ้นมากุมไว้ข้างแก้ม มือของคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่เขากลับรู้สึกเป็นห่วง รู้สึกอยากอยู่ด้วยตลอดเวลา

    “ฉันจะทำยังไงให้นายฟื้นขึ้นมาดีนะ” ยิ่งมองร่างที่รู้ว่าไม่มีทางลืมตาขึ้นมาคุยกับตนเอง น้ำตามันก็รื้นขึ้นมาพาลจะไหลเอาเสียดื้อ ๆ เจ้าบ้ายองแจ! นายจะร้องไห้ไม่ได้นะ

    “นายทำให้ฉันพูดคนเดียวจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วรู้รึเปล่า ฮิมชาน” เพราะเจ้าคนที่นอนบนเตียงเนี่ยแหละที่ทำให้ยู ยองแจคนนี้ต้องพูดคนเดียวจนคนอื่นจะมองว่าบ้ากันไปหมดแล้ว

    “ฉันจะช่วยทำให้นายฟื้นขึ้นมาให้ได้” ร่างเล็กเอ่ยออกมา มืออุ่นบีบมือเย็นไว้แน่นราวกับเป็นคำสัญญา

    “ยองแจ” เสียงใหญ่ดังขึ้นมาจากคนบนเตียง ทำให้ร่างเล็กรีบหันไปมอง

    “ฮะ ฮิมชาน นายฟื้นแล้วเหรอ” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจปนดีใจไม่ใช่น้อย

    “ขอบคุณนะ” คนตัวขาวดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอด ยองแจที่ไม่ได้ตั้งตัวจึงเซลงไปในอ้อมกอดอย่างง่ายดาย กอดที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรู้สึกขอบคุณ

    “นายจะขอบคุณฉันทำไม ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” ถึงจะตกใจแต่ก็ยังมีสติเอ่ยถามออกไป

    “ก็นายสัญญาว่านายจะช่วยฉันนี่นา นายจะช่วยให้ฉันฟื้น”

    “อ่าว นายฟื้นขึ้นมาแล้วนี่?

    เฮือก! เหงื่อผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวานเล็กน้อยแต่ก็มองไม่ค่อยเห็นในความมืดซักเท่าไหร่ สงสัยจะคิดเรื่องที่ไปเยี่ยมฮิมชานเมื่อตอนเย็นมากเกินไปเลยเก็บมาฝัน สะบัดหัวไล่ความฟุ้งซ่านออกไปแล้วลงไปนอนต่อแต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงคงดี

     

    “นี่ฮิมชานอา” เสียงใสเรียกคนตัวสูงที่ยืนหันหลังให้ตน ใบหน้าขาวหันมาตามเสียงเรียก

    “ครับ” ขานรับพร้อมรอยยิ้ม

    “ฉันอยากคุยกับนาย” ดึงมือใหญ่ให้เดินตามตัวเองไปก่อนจะนั่งลงกับพื้นหญ้า พื้นหญ้าที่สวนหลังโรงเรียน

    “นายรู้เรื่องเมื่อวานใช่มั้ย”คนถูกถามไม่ตอบแต่พยักหน้าเบา ๆ

    “ขอบคุณมากนะ” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาด้วยความจริงใจ

    “โอ๊ย พอเถอะตั้งแต่ฉันบอกว่าจะช่วยนายก็เอาแต่ขอบคุณฉันจนตอนนี้เบื่อคำนี้จะตายอยู่ละ” บ่นให้คนข้าง ๆ โดยมิวายแลบลิ้นใสอย่างน่ารัก

    “ฮ่า ๆ ก็จะให้ฉันทำอะไรได้เล่า”

    “แล้ว..พอมีวิธีไหนที่ฉันพอจะช่วยนายได้บ้าง ทำบุญ กรวดน้ำ หรือบลา ๆๆ”

    “นี่อยากจะช่วยฉันจริงรึเปล่าเนี่ยฮะ” ฮิมชานอดที่จะยีหัวคนตัวเล็กด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้

    “อ้าว แล้วฉันต้องทำไงอ่ะ” -3-

    “ถ้านายรู้แล้วนายอาจจะเปลี่ยนใจไม่ช่วยฉันก็ได้นะ”

              “ยังไงก็ช่างเหอะ ว่ามา!

    ________________
    ไม่รู้ว่าเพราะเน็ตหรือเพราะเว็บ 
    แต่กว่าจะอัพได้แต่ละตอนลำบากมาก ฮืออ
    ไรท์ชอบมาแบบค้าง ๆเนอะ - -
    จะอัพอีกตอนมั้ยขอดูสถานการณ์ก่อนนะ รักคนเม้น จุ้บ!

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×