ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic b.a.p] All fiction of B.A.P

    ลำดับตอนที่ #1 : Shoes [Himjae] #1

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 56









    รองเท้านักเรียนชายคู่นั้นที่วางอยู่บนชั้น

     

    ไม่มีเจ้าของมาเอาคืนไป..มันอยู่บนนั้นมานานมาก

     

    รู้ได้ไงงั้นเหรอ ? เพราะมันมีหยากไย่และฝุ่นเกาะเต็มรองเท้าเลยหน่ะสิ

     

    ทำไมเจ้าของรองเท้าถึงไม่มาเอาคืนไปนะหรือถ้าเขาลืมแล้วทำไมไม่มีภารโรงมาเก็บไป

     

    ทำไมถึงปล่อยให้มันวางอยู่ตรงนั้นมานานขนาดนี้. . .




                ยู ยองแจ รู้มานานแล้วว่ามีรองเท้านักเรียนชายที่วางอยู่บนนั้นไม่มีใครเอาไปแต่ไม่ได้สนใจ เพราะชั้นวางรองเท้าชั้นนั้นไม่ได้อยู่ที่ตึกเขา จนเขาได้ย้ายมาเรียนที่ตึกนี้ทุกวันที่ถอดรองเท้าวางบนชั้นวางเขาก็มักจะมองมันเสมอ มีเรื่องเล่าเกี่ยวรองเท้าคู่นี้แต่อาจจะแค่เป็นเรื่องที่แต่งมาก็ได้ร่างเล็กจึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งวันที่เขาเจออะไรแปลก ๆ ในวันที่ฝนตก. . .

    ครืน..เปาะ แปะ แปะ เสียงฟ้าร้องและไม่นานฝนก็เริ่มลงเม็ด ร่างเล็กที่นั่งทำงานอยู่ในห้องเรียนรีบเก็บข้าวของยัดลงกระเป๋านักเรียนอย่างเร่งรีบถึงจะรีบวิ่งลงมาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว สายฝนเทลงมาอย่างหนัก เสียงถอนหายใจเล็ก ๆ ดังขึ้นก่อนที่ยองแจจะเดินไปยังชั้นวางรองเท้าซึ่งมีรองเท้าวางอยู่สองคู่ คู่หนึ่งเป็นของเขาแต่อีกคู่ไม่รู้ว่าเจ้าของคือใคร

    คนตัวเล็กได้แต่นั่งกอดเข่ามองสายฝนที่เทลงมาด้านนอกอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดด้วยความหนักใจ จะกลับบ้านยังไง? หันหลังกลับไปก็เจอแค่ชั้นวางรองเท้ากับรองเท้าคู่นั้น.. คงทำได้แค่รอให้ฝนหยุดตกสินะ ผ่านไปหลายนาทีฝนก็ยังไม่ซาลงไปอากาศเริ่มเย็นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนรู้สึกหนาว มือบางลูบท่อนแขนของตัวเองเพื่อคลายความหนาวเย็นแต่คงช่วยอะไรได้ไม่มาก หรือจะตัดสินใจวิ่งออกไป? พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่มสีดำวางอยู่ข้าง ๆ ชั้นวางรองเท้า ทำไมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย ยองแจลุกขึ้นไปหยิบร่มคันสีดำนั้นขึ้นมา

    “ขอยืมก่อนนะครับ” คำพูดที่เอ่ยออกไปแม้รู้ว่าไม่มีคนฟัง

    วูบ เฮือก! หางตาเหลือบเห็นเงาดำวูบผ่านหลังเขาไป ความเย็นที่พัดผ่านทำให้ขนลุกชันขึ้นมาทันที เมื่อหันไปก็ไม่พบใคร ถ้าเจอสิแปลกเพราะนี่มันตั้งหกโมงกว่าแล้วอีกอย่างฝนก็ตกด้วยใครมันจะมาอยู่ที่ตึกนี้ได้ เมื่อไม่มีอะไรจึงกางร่มสีดำแล้วรีบกลับหอทันที

     

    “เฮ้ย เป็นไรว่ะยองแจ”

    “ฮะ ไม่ได้เป็นอะไร” เหมือนสติจะเพิ่งกลับมาเลยตอบไปอย่างตะกุกตะกัก คนตัวเล็กเงียบไปซักพักเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่จนเอ่ยคำถามนึงขึ้นมา

    “แดฮยอนแกรู้เรื่องรองเท้าที่ถูกวางทิ้งไว้ตรงชั้นล่างป่ะวะ”

    “เอ่อ..ก็พอรู้นะ”

    “เล่าให้ฟังหน่อยดิ่”

     

    “มันก็มีหลายเรื่องเล่านะแต่เท่าที่ฉันฟังมาแล้วเหมือน ๆ กันคือ เจ้าของรองเท้าประสบอุบัติเหตุที่โรงเรียนนี้แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่รองเท้าหลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายเพราะโรงเรียนปิดข่าว”

    “แล้วทำไมไม่เอารองเท้านั้นไปเก็บที่ไหนซักที่หล่ะ”

    “ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับมันหน่ะสิ คงจะรอให้เจ้าของรองเท้ากลับมาใส่มันอีกครั้งมั้ง แต่จะว่าไปก็มีเรื่องหลอน ๆ เกี่ยวกับรองเท้านี้เยอะเหมือนกันนะ”

    “เรื่องหลอน ๆ ?

    “อืม เขาเล่าว่าถ้ามีใครไปยุ่งกับรองเท้านั่นวิญญาณเจ้าของจะออกมาหลอก”

    “หึหึ ไร้สาระจริง ๆ” เด็กหนุ่มสายหน้าอย่างเอือมระอา

    “เขาว่าถ้าใครกลับบ้านค่ำก็จะเจอ บ้างก็เป็นเสียงเดิน บ้างก็เห็นเงาดำๆ วูบไปมา บางคนนี่ถึงกับรู้สึกเหมือนมีมือเย็นมาแตะเลยหล่ะ บรื๋อ! นายหน่ะชอบกลับบ้านค่ำระวังไว้ด้วยหล่ะ” พูดจบเพื่อนผิวเข้มก็หันไปสนใจอาจารย์ที่กำลังสอนหน้าห้องต่อ

     ผิดกับยองแจที่ถึงกับนิ่งเมื่อได้ฟังประโยคสุดท้ายจากปากเพื่อนของตัวเอง ผมสีทองสบัดไปมาเพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้พ้น

    กริ๊งงง!~ เสียงกริ่งเลิกเรียนปลุกให้ยองแจหลุดออกจากภวังค์ คนตัวเล็กเก็บสมุดและปากกาลงกระเป๋าแล้วเตรียมตัวเดินลงไปทานข้าวเที่ยง เมื่อลงมาถึงชั้นล่างสายตาก็เหลือบไปมองยังรองเท้าคู่นั้นก็ต้องเอะใจ เพราะเมื่อเช้าเขาเอาร่มมาวางคืนไว้ข้างๆแล้วแต่ตอนนี้มันไม่มี

    “เฮ้ย! มัวแต่เหม่ออะไรอยู่ยองแจ เร็วเดี๋ยวไม่มีที่นั่งกินข้าวกันพอดี” เสียงเรียกจากเพื่อนทำให้ยองแจรีบวิ่งตามไป

    เย็นนี้ก็เช่นเคย ห้าโมงกว่าแล้วแต่คนผมสีทองก็ยังคงนั่งทำงานอยู่ในห้องเรียน จู่ ๆ ก็มีเสียงคนเดินผ่านหน้าห้องไปตามระเบียง เย็นขนาดนี้แล้วยังมีคนอื่นอยู่อีกเหรอ แต่พอนึกถึงเรื่องนั้นมือเล็กก็หยุดเขียนทันที สองขาค่อยๆก้าวไปที่ประตูห้องแล้วชะเง้อออกไปดู ไม่มีใครแต่พอหันกลับมาก็ทำให้คนตัวเล็กตกใจจนถึงกับเกือบร้องออกมา

    !!

    “สวัสดี”






     

    “สวัสดี” ร่างสูงในชุดนักเรียนเช่นเดียวกับเขาเอ่ยทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “อ่ะเอ่อ สวัสดี” ร่างเล็กที่กำลังหายตกใจทักตอบกลับไป

    “ฉันชื่อคิม ฮิมชานนายหล่ะ” ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของยองแจด้วยความเป็นมิตร

    “ยู ยองแจ” เมื่อยองแจตั้งสติได้ก็ตอบกลับพร้อมยิ้มแห้งๆ

    “นายเนี่ยกลับบ้านค่ำจังนะ” คนตัวสูงเดินนำเข้าในห้องแล้วขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเรียนตรงข้ามกับโต๊ะของยองแจ ก่อนจะตามมาด้วยร่างเล็กที่เดินกลับมานั่งทำงานที่โต๊ะตัวเอง

    “ทำไมนายถึงกลับค่ำจังหล่ะ”

    “อยู่ทำงานหน่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

    “ไม่กลัวคนที่บ้านเป็นห่วงเหรอ” ประโยคคำถามของฮิมชานทำให้มือของยองแจหยุดเขียนลงอีกครั้งแล้วค่อย ๆ เงยหน้าหวานขึ้นมามองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ก็ยังมีสีหน้ายิ้มแย้มอยู่

    “ไม่มีคนที่บ้านเป็นห่วงเวลาฉันกลับบ้านค่ำหรอก ฉันอยู่หอคนเดียวกลับมืดแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า” ยองแจตอบแล้วก้มลงไปเขียนงานต่อให้เสร็จ

    “แต่ฉันเนี่ยแหละที่จะว่านาย รู้มั้ยที่นี่ไม่มีใครอยากอยู่ค่ำ ๆ หรอกนะ” น้ำเสียงที่จริงจังขึ้นของฮิมชานเหมือนจะทำให้ยองแจสนใจจนตั้งใจที่จะคุยกับคนตรงหน้ามากขึ้น

    “ทำไมหล่ะ” มือที่จับปากกาเลื่อนขึ้นมาเท้าคางมองคนตรงหน้า ใบหน้าของร่างสูงจากที่มีรอยยิ้มร่าเริงก็แปรเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มที่เยือกเย็นทันที

    “ที่นี่เขาว่าผีดุ” จบประโยคยองแจก็รู้สึกได้ถึงความเย็นรอบ ๆ สีหน้ายองแจซีดลงทันทีมันทำให้เขาคิดได้ว่าควรรีบกลับบ้านได้แล้ว

    มือบางรีบหยิบของแล้วหันไปยัดใส่กระเป๋าแต่พอหันมาหยิบสมุดก็สัมผัสได้ถึงความเย็นจนต้องรีบชักมือกลับ มือยองแจเลยจับโดนมือฮิมชานที่ยื่นสมุดมาให้พอดี

    “แล้วทำไมนายก็ยังไม่กลับบ้านซักทีว่าแต่คนอื่น” คนผมสีทองพูดโดยหันหลังไปหยิบกระเป๋าขึ้นมา

    “ฉันกลับบ้านไม่ถูก” น้ำเสียงเศร้าเอ่ยออกมาทำให้ยองแจหันไปมองใบหน้าคนตัวสูงที่ตอนนี้ดวงตามีแต่ความเศร้า

     “อะไรนะกลับบ้านไม่ถูก นายก็เรียกให้ใครมารับสิ”

    “ไม่มีใครมารับฉันซักที ฉันรอมานานมากแล้ว ฉันเหงามากเลยยองแจ” ร่างสูงก้มหน้าต่ำลงไปเพื่อดวงตาคู่เศร้านั้นไว้

    “อีกซักพักคงมามั้งเดี๋ยวฉันอยู่เป็นเพื่อนนายก็ได้”

    “ไม่เป็นไรขอบคุณมากนะ นายรีบกลับไปเถอะ” ฮิมชานเงยหน้าขึ้นมายิ้มขอบคุณแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่มีความสุขเลย

    “ไม่เป็นไรระ..อ้ะ” ไม่ทันที่ร่างเล็กจะพูดจบคนตัวสูงก็ผลักหลังให้เขาเดินออกจากห้องไป

    พอถึงชั้นล่างยองแจก็คว้ารองเท้าของตัวเองมา จนตอนนี้ที่ชั้นวางรองเท้าเหลือเพียงแค่รองเท้าคู่เดียว ทำให้ยองแจเพิ่งสังเกตเห็นว่าฮิมชานก็ไม่ได้ใส่รองเท้า

    “รองเท้าคู่นี้ของนายรึเปล่าเนี่ย” ยองแจพูดติดตลกเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดว่ารองเท้าคู่นี้จะเป็นของฮิมชานหรอกเพราะมันมีหยากไย่เกาะเต็มไปหมดแล้ว

    ร่างสูงไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มบาง ๆ ให้ยองแจ ร่างเล็กโบกมือให้แล้วเดินจากไป

    “ไว้พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ ยู ยอง แจ”


     

    ตลอดทั้งวันสายตาของร่างเล็กก็มัวแต่ชะเง้อมองหาร่างสูงที่เจอเมื่อวาน แต่ไม่ว่าจะมองหายังไงก็ไม่เจอหรือโรงเรียนนี้จะกว้างและนักเรียนเยอะเกินไปยองแจเลยหาฮิมชานไม่เจอ

    “มัวแต่มองหาใครอยู่นั่นแหละ”

    “อ้ะ เปล่า ๆ” ร่างเล็กส่ายหน้ารัวแต่สายตาก็ไม่วายแอบมอง อยู่ไหนกันนะ?

    “วันนี้คาบบ่ายว่างนายจะไปไหน” แดฮยอนถามด้วยสีหน้ามีความสุขสุด ที่วันนี้ไม่มีเรียนคาบบ่ายที่แสนจะน่าเบื่อ

    “ไม่รู้สิ แล้วนายจะไปไหน” ถามพลางตักข้าวเข้าปากคำโต

    “ฮิฮิ ฉันก็จะไปอยู่น้องจงออบน้อยของฉันหน่ะสิ ว่าจะไปหาไรกินด้วยกัน” แววตาวาวใสด้วยความสุขจนคนมองอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้

    “แหวะหมั่นไส้ นายเนี่ยก็ดีแต่หาอะไรกินนั่นแหละเดี๋ยวได้กลายเป็นคู่รักหมูหวานซะหรอก อู๊ดๆ” คนผมทองว่าล้อเลียนโดยเอานิ้วดันจมูกขึ้นให้เหมือนหมู

    “นายอิจฉาฉันละสิ ฮ่าๆๆ น่าสงสารคนไม่มีแฟนเนอะแบร่” เพื่อนหน้าแมวว่าแล้วรีบลุกหนีเพื่อเอาจานไปเก็บก่อนที่จะโดนส้อมจากเพื่อนรักจิ้มตาซะก่อน

     

    ขาเรียวเดินมาเรื่อย ๆ เพื่อหาพักสงบให้กับตัวเองจนมาถึงสวนหย่อมหลังโรงเรียน บรรยากาศที่นี่ดีมาก มีแสงแดดที่ลอดมาจากต้นไม้เล็กน้อยกระทบลงบนพื้นหญ้าสีเขียวนุ่ม สายตากวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อหาทำเลดี ๆ ในการพักผ่อนแต่ก็ต้องสะดุดเข้ากับร่างร่างหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าไม่ห่างจากเขามากนัก

              สองเท้าค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้อย่างแผ่วเบาจนสามารถมองเห็นใบหน้าผู้ที่นอนอยู่ได้ จมูกโด่งเป็นสันตรงสวยใบหน้าขาวที่ตัดกับผมสีดำ นี่มันฮิมชานนี่นา

    “สวัสดี” เสียงใสเอ่ยทักทายคนที่นอนอยู่บนพื้นทำให้คนที่นอนอยู่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองบุคคลผู้มาใหม่

    “สวัสดียองแจ” ร่างสูงที่นอนอยู่กับพื้นเอ่ยทักทายกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนกันที่เจอกันครั้งแรก ร่างเล็กค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลงข้างฮิมชานที่ตอนนี้ยังคงนอนอยู่

    “แล้วตกลงเมื่อวานกลับบ้านยังไง”

    “ถ้าจะคุยกับฉันอย่าถามเรื่องนี้อีกเลยนะ” คำขอของฮิมชานทำให้คนฟังแอบงงนิดๆแต่ก็พยักหน้ารับ

    “งั้นเปลี่ยนคำถามก็ได้ นายมาทำอะไรที่นี่ไม่มีเรียนรึไง”

    “ไม่มีหรอกฉันว่างจะตายไปว่างจนเบื่อเลยมานอนเล่นแก้เซ็งที่นี่ ฮ้าว~ ว่าแต่นายเถอะไม่มีเรียนเหรอ”

    “อืม คาบบ่ายว่างไม่มีไรทำเลยเดินมาเรื่อย ๆ แล้วก็เจอนายพอดี”

    “งั้นเหรอ เออนี่ยองแจนายเชื่อเรื่องวิญญาณมั้ย?

    “หืม? ไม่รู้สิยังไม่เคยเจอเลยจะให้เชื่อเต็มๆก็คงไม่ได้”

    “แล้วถ้านายเคยเจอแล้วหล่ะ นายจะเชื่อมั้ย”

    “ไว้รอเจอก่อนนะ ฮะฮะ” เจ้าของใบหน้าหวานพูดพร้อมหัวเราะติดตลก

    “ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นมา

    “อะไรเหรอ?

    “ถ้าฉันไม่ได้ดีอย่างที่นายคิดไว้หล่ะ นายจะทำยังไง”

    “หืม ถามอะไรเนี่ย? แค่เป็นแบบตอนนี้ก็พอแล้วหล่ะ” ตอบพร้อมยิ้มน่ารัก

    “นายจะไม่รังเกียจหรือกลัวฉันสินะ” ถามด้วยน้ำเสียงหม่น

    “แน่นอน! ทำไมฉันต้องรังเกียจนายด้วยหล่ะฮิมชาน นายเป็นเพื่อนฉันนะ”

    “เพื่อนที่เพิ่งรู้กันเนี่ยเหรอ”

    “อื้ม” ^^

    “ว่าแต่ทำไมนายไม่ใส่รองเท้าลงมาหล่ะ ไม่กลัวถุงเท้าเปื้อนเหรอ”เสียงใสเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นเท้าของร่างสูงมีเพียงถุงเท้าแต่ไม่ได้รองเท้ามา

    “ขี้เกียจใส่อ่ะ เดินมาแค่นี้เอง” ร่างสูงตอบพร้อมเลื่อนมือหนาขึ้นไปรองบนหัว

    “แสดงว่าตึกที่นายเรียนอยู่แถวนี้หล่ะสิ” คนตัวเล็กค่อยๆเอนตัวลงไปนอนข้างๆฮิมชาน

    “อย่างงั้นหล่ะมั้ง”

              ยองแจเผลอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ยกนาฬิกาออกมาดูก็พบว่าตอนนี้สี่โมงเย็นเป็นเวลาที่นักเรียนคนอื่นทยอยกันกลับบ้านไปค่อนข้างเยอะแล้ว เมื่อลุกขึ้นมาก็ไม่พบร่างของฮิมชานนอนข้างๆ ลุกขึ้นมามองหาจนทั่วก็เห็นคนที่ต้องการเจอยืนอยู่ริมสระน้ำและเหม่อมองออกไปโดยไม่รู้ว่ากำลังมีคนเดินเข้ามาหา
     

    “ฮิมชาน” เสียงใสเอ่ยเรียกอย่างแผ่วเบาจากด้านหลัง ทำให้คนตัวสูงหันหลังมามอง

    “อ่าวตื่นแล้วเหรอ เมื่อกี้เห็นหลับอยู่เลยไม่อยากเรียก” คนตัวเล็กเดินมาหยุดยืนด้านข้างของฮิมชาน

    “วันนี้จะกลับ อ้ะ เอ่อ….ไปกินข้าวเย็นด้วยกันมั้ย?” ว่าพลางเกาหัวแก้เขิน

    “ห้ะ ไปกินข้าว?” ร่างสูงถามด้วยความประหลาดใจ

    “อืม ฉันมีร้านอร่อย ๆ เยอะแยะเลยนะ”

    “ฮะฮะ อย่าเพิ่งดีกว่า” ร่างสูงยิ้มกลับอย่างอ่อนโยน

    “ไม่ใช่ว่ารังเกียจนายแต่เราเพิ่งรู้จักกันฉันอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่นายคิดก็ได้ นายรีบกลับบ้านเถอะอย่าอยู่ค่ำ ๆ เลยนะ”

    “ทำไมชอบไล่ให้ฉันกลับบ้านเร็ว ๆ ตลอดเลยหล่ะ” ว่าแล้วก็ทำหน้าบู้เหมือนเด็กน้อย

    “นายนี่ก็แปลกไม่มีใครในโรงเรียนอยากกลับบ้านค่ำเลยนะ มีแต่นายนี่แหละ” คนตัวสูงพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่เห็นจะแปลกเลยโถ่ วันนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนายเองฮิมชานนายกลับเมื่อไหร่แล้วฉันจะกลับ” ถึงจะดูเหมือนคำพูดของเด็กเอาแต่ใจนิดๆ แต่ก็แอบทำให้ฮิมชานดีใจ

    “อย่าเลยหน่าเสียเวลาเปล่า ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็เจอกัน” ฮิมชานส่งยิ้มที่สดใสให้ยองแจ

    “แล้วฉันจะเจอนายได้ที่ไหนบ้างหล่ะ”

    “ที่ไหนก็ได้เพียงแค่นายอยากเจอฉัน รีบกลับได้แล้ว” ว่าพลางดึงแขนคนตัวเล็กให้เดินตามออกไปที่หน้าโรงเรียน เดินออกไปทั้งที่ไม่ใส่รองเท้า

    “กลับบ้านดี ๆ นะ”

    “นายก็เหมือนกันนะฮิมชาน” มือเล็กโบกไปมาให้พร้อมรอยยิ้มน่ารักที่ใครเห็นอาจละลายได้

    ตึก….ตึก….ตึก มันจะกลับมาเต้นอีกครั้งแล้วสินะ ภาพตรงหน้าทำให้ที่ริมฝีปากบางของร่างสูงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบoใบหน้าคม ใบหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มมานานแล้วจนได้เจอกับเด็กคนนี้ ยู ยองแจ 

    __________________

    มาต่อให้แล้วกลัวรอนาน 5555
    เค้าจะบอกว่าความจริงเรื่องแต่งจบนานแล้วแหละ
    จะทยอยอัพให้นะถ้าเม้นเยอะจะอัพเร็ว ๆ เลยค้าบ -w-
    ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยนะ <3

     

     

      

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×