ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไขหัวใจยัยรุ่นพี่ +^+

    ลำดับตอนที่ #2 : ++ตอนที่2++

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 52


    ตอนที่ 2

     

            ไง เมื่อคืนไปไหนกันมาบ้างล่ะ ผมถามไอ้ฮีชอลเมื่อเห็นมันเดินมาอยู่ที่หน้าโรงเรียน

                ไปกินข้าวเฉยๆ  ทิฟเขามีธุระต่อน่ะ ไอ้ฮีชอลพูดพลางเอาหนังสือที่ถือมาพัดหน้าไปมา

                หรอ  งั้นไปเข้าเรียนเฮอะ  ระหว่างที่ผมกับฮีชอลกำลังจะเดินไปเข้าเรียน 

            พลั่ก!!!

            ไอ้ฮีชอลเดินชนกับผู้หญิงคนหนึ่ง  ผู้หญิงคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น  ไอ้ฮีชอลจึงไปช่วยพยุงผู้หญิงคนนั้น

                เป็นอะไรมากมั้ยคับ ไอ้ฮีชอลพูดอย่างตกใจ 

                ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคับ ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงอ่อนหวานพลางเหงยหน้าจากการปัดฝุ่น  และยิ้มให้กับไอ้ฮีชอลอย่างน่ารัก 

                ผู้หญิงคนนี้น่ารักมาก  ดูเธอร่าเริง  อ่อนหวานตามสเป็คของไอ้ฮีชอลเลยนี่หน่า  ตายล่ะ! และไอ้ฮีชอลจะเผลอใจให้เธอไปหรือป่าวเนี่ย 

                ขอโทษนะคับ  ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ไอ้ฮีชอลพูดอย่างตกใจและเอามือไปช่วยพยุงผู้หญิงคนนั้นอยู่

                ฉันต่างหากล่ะค่ะที่ผิด  ฉันชื่อโซฮีนะค่ะ  ฉันต้องขอโทษด้วยนะค่ะ  ขอเลี้ยงข้าวซักมื้อเพื่อขอโทษหน่อยได้มั้ยค่ะ เธอพูดอย่างน่ารักและมองไปที่ฮีชอล

                ผม ฮีชอล  คิมฮีเชลนะคับ  แต่วันนี้คงไปไม่น่ะคับ ไอ้ฮีชอลปฏิเสธอย่างเรียบร้อยแตกต่างจากตัวมันโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ

                หรอค่ะ  แค่วันนี้วันเดียวไม่ได้หรอค่ะ เธอทำหน้าผิดหวังและเปลี่ยนเป็นออดอ้อนอย่างน่ารัก

                เออ..คือ.. ” ไอ้ฮีชอลพูดอย่างติดๆขัดๆ

                งั้นไม่เป็นไรค่ะ  ฉันขอเบอร์คุณหน่อยได้มั้ยค่ะ  เอาไว้ติดต่อเรื่องนี้น่ะค่ะ เธอขอเบอร์ของไอ้ฮีชอลและพูดเหตุผลอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นผมกับไอ้ฮีชอลมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ

                อ๋อ! ได้คับ แปปนึงนะคับ เฮ้ย! ไอ้แจจุง ขอปากกากับกระดาษหน่อย ไอ้ฮีชอลพูดกับเธอและหันมายืมปากกากับกระดาษที่ผม  แล้วเขียนเบอร์ลงกระดาษแล้วยื่นให้เธออย่างตื่นเต้น

                งั้นผมไปก่อนนะคับ  บายคับ ไอ้ฮีชอลพูดพลางเอามือขึ้นมาโบก  ผมจึงดึงมันออกมา 

                และเมื่อกี้จะตื่นเต้นทำไมวะ ผมถามอย่างเคืองๆเล็กน้อย

                ก็โซฮีเขาน่ารักตรงสเป็คฉันเลยนี่หว่า ^-^ ”

                ถึงจะตรงสเป็คนายแต่นายก็มีแฟนแล้วนะ  พี่ทิฟไง ทิฟฟานี่น่ะ

            เออน่า  นิดๆหน่อยๆ  ฉันไม่ได้คิดอะไรกับน้องเขานี่หน่า   เธอคนนั้นเป็นรุ่นน้องของผมเอง เธออยู่ ม.ปลาย ปี 1 พวกผมอยู่ ม.ปลาย ปี3 น่ะคับ

            ฉันขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆเถอะ

               

     

                ทางฝากของโซฮีเมื่อทั้งสองคนเดินออกไปจากเธอแล้ว  เธอหยิบกระดาษที่จดเบอร์ของฮีชอลออกมาดูและยิ้มอย่างเหยียดๆ  เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาและส่งข้อความไปหาฮีชอล

                ว่างวันไหนก็โทรมาบอกฉันนะค่ะ   จาก โซฮี

     

     

            นี่ทิฟ  ไปร้านกันเฮอะ ยูริเรียกฉันเมื่อเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้เสร็จ

                ฉันนัดกับฮีชอลไว้น่ะ  วันนี้นัดกันตอนบ่ายโมง  ตอนนี้เที่ยงใช่มั้ยยูริฉันพูดพลางหันไปถามยูริ

                อืม  งั้นฉันไปก่อนเลยนะทิฟ  เจอกันที่ร้านนะ ฉันหันไปยิ้มให้ยูริเมื่อยูริพูดเสร็จและยูริก็ยิ้มให้ฉันตอบด้วยแววตาเศร้าๆ แต่แปปเดียวแววตาเช่นนั้นก็หายไปเป็นปกติ

                ฉันเดินออกจามหาลัยไปช้าๆ ก็นัดตอนบ่ายโมงนิ  จะรีบขึ้นรถเมล์ไปทำไม  เดินไปดีกว่า  ยิ่งไม่มีตังค์อยู่ด้วย 

            อ๊ะ! ถึงซะที  บ่ายโมงพอดีด้วย  เข้าไปนั่งรอในร้านดีกว่า   ฉันเดินเข้าไปในร้านพลางมองหาฮีชอล  แต่ฮีชอลยังไม่มาเลย  เดี๋ยวรอก่อนแปปนึงก็ได้  โรงเรียนอาจยังไม่เลิกก็ได้

                เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน  ฮีชอลก็ยังไม่มา  นี่มันชั่วโมงกว่าแล้วนะ  ทำไมฮีชอลยังไม่มา  ลองโทรหาเขาดีกว่า

                ~ เธอทำให้ฉันรักเธอก่อน  ไม่อาจถอน ~ เสียงรอสายฮีชอลเพราะจังเลย

            คับ ฮีชอลพูดอย่างเบาๆ

                วันนี้เจอกันที่ร้านครีมสตอเบอร์รี่ใช่มั้ยฮีชอล ฉันพูดพลางหาของในกระเป๋า

                เออ..วันนี้เราเราเลื่อนนัดไปก่อนได้มั้ย  ทิฟอยู่ร้านหรือยังล่ะ

                อ๋อ!ไม่เป็นไร  ฉันยังไม่มาที่ร้านนั้นหรอก  เราจะโทรมายกเลิกพอดี  พอดีต้องไปธุระน่ะ  ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ

            หรอ งั้นยกเลิกนัดและกันนะ  ค่อยเจอกันวันอื่นนะ

            จ๊ะๆ บายนะ ฉันรีบปิดโทรศัพท์อย่างหน้าเศร้า  และเดินออกจากร้านอย่างเซื่องซึม  จะยกเลิกทำไมไม่โทรมาหาฉันก่อนล่ะฮีชอล  ฉันรอเธอมานานนะ …..

     

     

            เอ๊ะ!เธอมานั่งรอใครที่นี้ล่ะ  เอ! หรือว่าจะมานั่งรอไอ้ฮีชอลมัน  แต่วันนี้มันไปกินข้าวกับน้องโซฮีนี่หน่า  ไม่น่าจะเป็นไปได้  งั้นผมนั่งดูเธอไปก่อนดีกว่า

                ผมนั่งดูเธออยู่ที่เคาเตอร์อยู่ประมาณชั่วโมงกว่าได้แล้วนะคับ  แต่เธอก็ยังนั่งรอคนบางคนต่อไป….  ไม่แม้แต่ที่จะสั่งอาหาร  สั่งน้ำ  เธอนั่งรอไปพลางดูนาฬิกาไป  ซักพักนึงเธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมากดโทรไปหาใครคนนึง  เธอยิ้มไปรอไป และเธอก็พูดไปยิ้มไปต่อ  และซักพักเธอก็เซื่องซึม แล้วเธอก็เดินออกจากร้านไปอย่างเงียบๆ…….

            ผมเห็นอย่างนั้นจึงรีบโทรไปหาไอ้ฮีชอล  มันรู้หรือเปล่าว่าพี่ทิฟมานั่งรอใครเป็นชั่วโมงอย่างนี้

                ~ เธอทำให้ฉันรักเธอก่อน  ไม่อาจถอน ~

            ไง ไอ้แจ ไอ้ฮีชอลพูดอย่างเบาๆ มันจะเบาทำไม ธรรมดาพูดเสียงดังจะตายไป

                เออนี่  นายได้นัดกับพี่ทิฟไว้หรือเปล่าน่ะ

                นัด  แต่ยกเลิกไปแล้ว  ทิฟเขาพึ่งโทรมาเลยยกเลิกไปเลย  ลืมเลยวะ  แต่ดีที่เขายังไม่ได้มาเหมือนกัน  เขามีธุระเหมือนกันเลยแล้วไป

                นายนัดพี่ทิฟเขาที่ไหน ผมถามไอ้ฮีชอลอย่างเริ่มหงุดหงิด เอ๊ะ! และผมจะหงุดหงิดทำไมเนี่ย

                ก็ร้านครีมสตอเบอร์รี่  อ๊ะ! นั้นร้านที่นายทำงานพิเศษอยู่นี่หน่า ฮีชอลพูดอย่างพึ่งนึกได้

                อืม  แต่ฉันเห็นพี่ทิฟเขามานั่งรอเป็นชั่วโมงแล้วนะ

                เฮ้ย! จริงดิ  ตายห่าแล้วไอ้ฮีชอล  เดี๋ยวค่อยโทรไปง้อก็ได้  เดี๋ยวทิฟก็หายงอน เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะไอ้แจ  น้องเขานั่งอยู่ด้วยวะ เกรงใจน้องเขา บายวะ ผมปิดโทรศัพท์ลงเมื่อฮีชอลพูดเสร็จ   นายแคร์คนอื่น   แต่นายไม่แคร์แฟนนายเลยหรอ ฮีชอล   เอ๊ะ! แต่ทำไมผมต้องมานั่งแคร์ความรู้สึกพี่ทิฟด้วยเนี่ย  พี่ทิฟก็แค่แฟนของเพื่อนสนิท  ทำไมเราต้องแคร์ด้วย  ท่องไว้สิไอ้แจ! แฟนของฮีชอล แฟนของฮีชอล  แฟนของเพื่อนสนิท

     

     

                กริ๊งงง~  

                อ้าว! มาแล้วหรอทิฟ  ยูริถามฉันขณะที่เธอกำลังเช็ดโต๊ะที่ลูกค้าพึ่งเดินออกไปสวนกับฉันทางประตูทางเข้าร้าน

                จ๊ะ  มาแล้ว  เข้าเวรนานหรือยังน่ะ ฉันถามพลางเดินไปหลังร้านเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

                เพิ่งเข้าเมื่อกี้นี้เอง  ก็เปลี่ยนชุดแล้วมาเช็ดโต๊ะเนี่ย  อืม! ฉันลืมบอกไปใช่มั้ยค่ะว่ายูนิฟอร์มของที่นี่เป็นอย่างไง  ก็น่ารักนะค่ะ  ชุดเป็นกระโปรงบานๆเหมือนชุดแม่บ้านอังกฤษสีชมพู  มีผ้ากันเปื้อนสั้นๆลายลูกไม้ผูกติดกับกระโปรง  ถุงเท้าสีขาวยาวๆ  และรองเท้าหนังสีชมพู  แถมผูกโบว์ที่ผมด้วย  และแต่งหน้าเข้มด้วยล่ะ  ก็ที่นี่แหล่งรวมวัยรุ่นเลยล่ะ  เงินดีมาก  และที่สำคัญที่ฉันเลือกมาทำงานที่นี่คือ….ก็ได้ไม่มีใครจำหน้าฉันได้ไงล่ะ  ทำไมน่ะหรอ  ก็ฉันเป็นพวกไม่ชอบแต่งหน้า  แต่ที่นี่ต้องแต่งหน้าเยอะจนเพื่อนในห้องบางคนจำฉันไม่ได้เลยล่ะ  ^-^

            ทิฟ  เปลี่ยนเสร็จยังอะ  คนเยอะมาก  มาช่วยดูลูกค้าหน่อย เสียงยูริเรียก  คงคนเยอะมากล่ะนะ  เสียงดังเชียวข้างนอกน่ะ

                จ้าๆ  ออกไปเดี๋ยวนี้แหละ

    ………………………….

    จบไปอีกตอนแล้วนะค่ะ

    นี่แค่เริ่มต้นจริงๆนะค่ะ

    เพราะมันยังมีเรื่องราวและปมต่างๆอีกมากมายที่ผู้อ่านยังไม่รู้

    คอยติดตามต่อใน

    ไขหัวใจยัยรุ่นพี่ ตอนที่ 3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×