คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 13 : พี่ชายที่แสนดี
Chapter : 13
พี่ชายที่แสนดี
การประชุมวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แกงส้มยอมเซ็นอนุมัติให้บริษัทของเขา เข้าร่วมสานสัมพันธ์กับบริษัทของจิราวิทย์ตามโปรเจคที่โสรญานำเสนอในที่ประชุม
“ทีนี้ก็เหลือแต่ทางเอสทีเอช เดี๋ยวสมายจะจัดการเองนะค่ะ” สมายพูดออกมาในที่ประชุมหลังจากที่ท่านประทานยอมเซ็นอนุมัติโปรเจคให้กับเธอ
“น้องสมายไปทำอะไรมาจ้ะ” แคนถามสาวน้อยหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม เขาเห็นเท้าของเธอมีผ้าพันแผลอยู่ และเธอเองก็ยังเดินกระเผลกอีกด้วย
“อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะพี่แคน” สมายตอบกลับก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้กับเขา
“มึงไม่มีงานทำหรือไง” แกงส้มพูดขัดแคนขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้
“กูว่างว่ะ” แคนเองก็ตอบกลับอย่างหน้าตาย
“ไปกันเถอะสมาย” แกงส้มเบื่อจะเถียงกับเพื่อนสนิท เขาจึงรีบช่วยประคองร่างน้องสาวออกจากห้องประชุมทันที
“เอ๊อ ใช่สิ๊!! กูอยู่นอกสายตาตลอด” แคนแกล้งตัดพ้อ ทำเป็นน้อยใจเพื่อนสนิท
“โธ่ พี่แคนทำงอนเป็นเด็กๆไปได้ ฮ่าฮา” สมายขำกับท่าทีของพี่ชายอีกคนของเธอ ก่อนแกงส้มจะพาเธอออกมาจากห้อง และเดินมายังห้องทำงานของเขา แต่ชายหนุ่มอีกคนก็ยังคงเดินตามมา
“มึงยังจะตามกูมาอีก” แกงส้มหันไปพูดแหยแคน
“ก็กูว่างจริงๆนี่หว่า” แคนกล่าว
ติ่ง ติ่ง !!!
“ค่ะพี่ฮัท” สมายกดรับสายโทรศัพท์ ก่อนจะพูดกับปลายสาย
“ค่า เรียบร้อยแล้วค่า…แล้วเจอกันนะคะ…คิดถึงเหมือนกันค่ะ” แกงส้มมองการสนทาโทรศัพท์ของน้องสาวอย่างไม่พอใจ หลังจากสมายวางสาย สมายก็ต้องหันมาเผชิญกับใบหน้าไม่สบอารมณ์ของผู้เป็นพี่
“พี่แกงขา…พี่แคนด้วย เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันน้า” สมายคว้าแขนของพี่ชายทั้งสองขึ้นมาคล้องคนละข้าง ก่อนจะส่งเสียงออดอ้อนให้แกงส้ม เพื่อหวังว่าเขาจะอารมณ์ดีขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แกงส้มอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม หนำซ้ำยังแย่ลงด้วยซ้ำ เพราะเขารู้ว่าการทานข้าวเย็นมื้อนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่เขาและแคนเท่านั้น แต่รวมไปถึงบุคคลปลายสายที่เธอเพิ่งสนทนาด้วยเมื่อครู่
“แกงงงงงงงงงงง แกรนด์ได้ยินแว่วๆ ว่าจะไปไหนกันเหรอคะ” และแล้วแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏกายขึ้น สมายถอนใจอย่างไม่สบอารมณ์
“แกรนด์/แคน” แกรนด์ชะงักเมื่อเห็นบุคคลที่เธอเคยควงด้วยเมื่อก่อนอยู่ด้วย
“ว่าแต่..แกงจะไปไหนเหรอคะ” แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจชายหนุ่มคนนั้นเท่ากับแกงส้ม เพราะเวลานี้แคนตกกระป๋องไปแล้วสำหรับเธอ หญิงสาวเดินเขาไปควงแขนที่ว่างอยู่อีกข้างของแกงส้ม
สมายมองพี่ชายของเธอที่อยู่นิ่งเฉย ไม่ขัดขืนยัยเจ้นี่ ด้วยแววตาที่ไม่พอใจ แต่สาวน้อยก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนพี่ชาย เธอแอบหันไปขอความช่วยเหลือจากแคน
“อ่อ แกรนด์มาหาแคนเหรอ ไปสิป่ะ” แคนมองดูสถานการณ์ที่ดูท่าไม่ค่อยจะดี เขาเลยจำต้องแสดงละครออกมา ชายหนุ่มคว้าร่างบางของแกรนด์ให้เดินออกจากห้องไปกับเขาทันทีที่พูดจบ
“ไม่นะ ! แกรนด์มาหาแก๊งงงงง แคนปล่อยแกรนด์สิ แกรนด์จะอยู่กับแกงงงงงงง” แกรนด์ทำได้เพียงแค่โวยวายเท่านั้น เพราะร่างบางไม่สามารถสู้แรงของชายหนุ่มที่พาร่างเธอออกมาได้เลยแม้แต่น้อย
แคนหอบเอาร่างบางของแกรนด์ออกมาจากห้องทำงานของแกงส้ม ด้วยท่าทีที่แทบจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันออกมา จนถึงหน้าบริษัทอย่างทุลักทุเล ท่ามกลางสายตาของผู้คนเกือบทั้งบริษัท แม้หญิงสาวคนนี้จะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ก็เล่นเอาเขาเหนื่อยหอบกับแรงของเธอได้เหมือนกัน
“แคน” สต๊อปร้องทักแคน ก่อนจะเหลือบไปเห็นมือของชายหนุ่มที่โอบกอดร่างของผู้หญิงคนนี้อยู่
“ทะ เธอมาทำอะไรที่นี่” แคนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เขาไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่ และมาเห็นเขาในสถานการณ์เช่นนี้ ชายหนุ่มจึงรีบปล่อยร่างแกรนด์ให้เป็นอิสระทันที
“ฉัน..ฉันเอานี่มาคืนนาย เมื่อวานนายลืมไว้ที่ร้านกาแฟ…ขอตัวนะ” สต๊อปชูกระเป๋าสตางค์ของแคนขึ้นก่อนจะจับมันยัดใส่มือชายหนุ่ม แล้วหันหลังเดินหนีเขาทันที
“เดี๋ยว!!!” เสียงแกรนด์ร้องเรียกสต๊อปไว้เสียก่อน
“เธอเป็นใคร” แกรนด์ถามสต๊อปด้วยความสงสัย เธอนึกอะไรสนุกๆออกซะแล้วสิ
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ…ขอโทดนะ” สต๊อปตอบ
“งั้นเธอก็จำเป็นต้องรู้ ว่านี่คือผู้ชายของฉัน เธอห้ามยุ่ง” แกรนด์คว้าแขนของแคนมากอด แสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“เฮ้ย!!” ชายหนุ่มที่ถูกกอดถึงกับตกใจ เมื่อจู่ๆผู้หญิงคนนี้พูดออกไปเช่นนั้น
“ฉันไม่สนใจคนแบบนี้หรอก” สต๊อปพูดกับแกรนด์ แต่กลับส่งสายตาดุไปที่แคน ก่อนที่เธอจะเดินหนีออกไป
“ฮึ่ย เธอนี่มัน…ต๊อปเดี๋ยวก่อน ฟังแคนก่อน” แคนสะบัดแขนของแกรนด์ออกอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะวิ่งตามสต๊อปออกไป แกรนด์มองตามชายหนุ่งที่วิ่งตามร่างของหญิงสาวไปด้วยความสะใจ ‘ฮึ เล่นกับใครไม่เล่น’
“ต๊อปๆ” แคนวิ่งตามสต๊อปมาจนทัน ก่อนจะคว้าแขนของเธอเอาไว้
“ปล่อยฉัน” สต๊อปหันหน้ามาพูดกับแคน
“ฟังแคนอธิบายก่อนสิ” แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาต้องอธิบายให้เธอฟัง
“ปล่อย!!” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น
“ถ้านายไม่ปล่อย นายไม่ต้องมาเจอหน้าฉันอีก!!” สิ้นเสียงสต๊อป แคนจำต้องยอมปล่อยเธอไป หวังให้เธอใจเย็นขึ้น แล้วเขาจะไปอธิบายให้เธอฟังอีกที ชายหนุ่มได้เพียงแค่ยืนมองเธอขับรถออกไป
“ช่วยไม่ได้นายอยากมาขัดความสุขฉันกับแกงทำไมกันเล่า” แกรนด์ที่แอบตามมาดูเหตุการณ์โพล่งขึ้นมา หลังจากที่สต๊อปขับรถออกไป
“ความสุขของเธอ แต่ความเดือดร้อนคนอื่นมากกว่าล่ะสิ” แคนพูดจาเหน็บแนมหญิงสาวก่อนจะเดินหนีเธอไป
เขารู้ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้หญิงอย่างแกรนด์ดี ใช่!! เมื่อก่อนเขาอาจจะเคยหลงผิดไปบ้างที่ไปข้องเกี่ยวกับเธอ แกรนด์เป็นผู้หญิงที่สวยและมีสเน่ห์มากคนหนึ่ง เขาเคยเผลอไผลคบกับแกรนด์อยู่ช่วงหนึ่งหลังจากกลับจากออสเตรเลีย แต่นั่นก็เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ใช่ความรัก และเขารู้ดีว่าเธอเองก็ไม่เคยรักใครเลย ผู้ชายทุกคนคือของเล่นสำหรับเธอ
“นิ แคน!!!” แกรนด์โวยวายตามหลังชายหนุ่มอย่างไม่อายผู้คนที่เดินผ่านไปมา ก่อนจะขับรถออกจากบริษัทอย่างหัวเสีย “กง แกงอะไรฉันไม่สนใจแล๊ว” เธอสบถออกมา
“พี่นึกว่าตัวเล็กจะมาคนเดียวซะอีก” ฮัททักสมายเมื่อเห็นเธอเข้ามาในร้านพร้อมพี่ชายของเธอ
“เราไปทำอะไรมา ทำไมถึงเป็นแบบนี้” ฮัทถามเมื่อเห็นท่าเดินที่ไม่เป็นปกติของหญิงสาว โดยต้องมีพี่ชายของเธอคอยประคองไว้
“อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะพี่ฮัท” สมายตอบไป ก่อนจะนั่งลง หญิงสาวกวาดตามองรอบๆร้าน บรรยากาศของร้านค่อนข้างที่จะเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะร้านนี้จัดแต่งเป็นแบบห้องอาหารส่วนตัว ห้องใครห้องมัน มีห้องน้ำเป็นส่วนตัว ที่อยู่ทางด้านหลังของห้องอาหารแต่ละห้อง
“รีบสั่ง รีบกิน จะได้รีบกลับ” ทันทีที่แกงส้มนั่งลงข้างเธอ เขาก็โพล่งขึ้นมาทันที สมายและฮัทจำต้องรีบสั่งอาหารทันที
“ขอบคุณนะครับ ที่ยอมเซ็นอนุมัติ” ฮัทพูดขอบคุณแกงส้มในขณะที่กำลังรับประทานอาหาร
“ฉันทำเพื่อบริษัทฉัน” แกงส้มตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ
“มายขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” หญิงสาวจำต้องหาเรื่องสงบศึกขึ้นมา ทันทีที่สิ้นเสียงสมายฮัทรีบลุกขึ้นประคองร่างหญิงสาวทันที
“เดี๋ยวพี่พาไปเอง” แกงส้มเห็นดังนั้น เขาจึงรีบคว้าร่างเธอออกห่างจากชายหนุ่มอีกคนทันที ก่อนจะพาเธอเดินออกมาเข้าห้องน้ำตามความต้องการของเธอ
สมายประคองร่างตัวเองออกจากห้องน้ำหญิง เพื่อออกมาพบพี่ชายของเธอข้างนอก “ว๊ายย!!!” ด้วยความทันระวัง เธอจึงหกล้มลง แต่โชคดีที่แกงส้มคว้าร่างบางนั้นไว้ได้ทัน หญิงสาวจึงตกอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม แต่ราวกับว่าทั้งคู่ถูกต้องมนต์ ให้ตกอยู่ในห้วงภวังค์ ด้วยสายตาหวานเยิ้มที่จ้องมองกันไปมา นั้นทำให้ต่างคนต่างหลงใหลกันได้ไม่น้อย
“เอ่อ เออพี่แกงคะ” เมื่อได้สติ หญิงสาวจึงร้องเรียกชายหนุ่มให้เขาปล่อยเธอ ก่อนที่เธอจะหลบตาเขาอีกครั้งด้วยความเขิน แกงส้มจึงปล่อยให้หญิงสาวยืนปกติ ก่อนจะประคองพาเธอเขาไปในห้องอาหารอีกครั้ง
“อ้าว?? พี่ฮัทไปไหน” ทันทีที่กลับเข้ามาห้องอาหาร ก็พบเพียงความว่างเปล่า ชายหนุ่มอีกคนหายไปไหนเสียแล้ว
“เขาคงกลับไปแล้วล่ะ สงสัยจะรอไม่ไหว” แกงส้มว่าไปตามที่เขาคิด แต่สมายกลับไม่ได้คิดเช่นชายหนุ่มว่า เธอคว้าโทรศัพท์ที่วางไว้กดโทรออกไปยังเลขหมายปลายทางทันที แต่ปรากฏว่าเขา ไม่รับโทรศัพท์เธอ
“ไม่ต้องโทรหรอก กลับบ้านเถอะ” แกงส้มนิ่งมองน้องสาวอยู่นาน ก่อนจะชวนเธอกลับบ้าน สมายเพียงแต่พยักหน้า และให้พี่ชายเธอช่วยประคองพาเธอออกไป
เช้าวันต่อมา
“นี่พี่ยังไม่ยุติการตามหาคนที่ไม่มีวันจะหาเจออีกเหรอคะ” สต๊อปพูดกับพี่ชายของเธอ เมื่อครู่เธอเดินสวนเข้ามาในบ้านกับทนายส่วนตัวของพี่ชายเธอ และทุกครั้งที่คุณทนายมาที่บ้าน ก็มีเพียงเรื่องดีที่เขาเข้ามาคุยกับพี่ชายของเธอ
“คนที่น้องพูดถึง นั่นพ่อของพี่นะ” ฮัทเอ็ดน้องสาวเสียงดัง
“ต๊อป..ต๊อปขอโทษ” หญิงสาวรู้สึกผิดขึ้นมา ก็จริงนั่นคือบิดาของพี่ชายเธอ เธอไม่สมควรจะพูดจาเช่นนั้น
“แต่ต๊อปคิดว่า เราอยู่กันสองคนพี่น้องก็ได้ไม่ใช่เหรอคะ พี่จะตามหาใครอีกทำไม พี่ฮัท ฮึก พี่อยู่กับน้องไม่มีความสุขเหรอคะ ฮึก” สต๊อปพูดเสียงสั่น เธอพยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองร้องไห้
“มีความสุขสิ พี่รักเรานะต๊อป แต่พี่อยากจะทำตามความต้องการของแม่ พี่ต้องหาเขาให้พบ” ฮัทเดินเข้าไปโอบกอดน้องสาวของตัวเอง และอธิบายให้เธอเข้าใจในทุกสิ่ง
วริษฐาแยกจากพี่ชายของเธอขึ้นมาคลุกอยู่ในห้องนอนของตัวเองได้สักพัก แม้ฮัทจะอธิบายให้เธอเขาใจเพียงใด หญิงสาวก็ยังไม่อดไม่ได้ที่จะคิดมาก เธอกลัวว่าถ้าวันหนึ่งพี่ชายของเธอเจอพ่อแท้ๆของเขา เขาจะยังรักเธออยู่ไหม
“แม่!! แม่จะมีต๊อปทำไม แม่จะให้ต๊อปเกิดมาทำไม ฮึก แม่ไม่เคยรักพ่อ แม่ไม่เคยลืมสามีเก่าของคุณแม่เลย ฮืออ แม่ไม่เคยรักต๊อปเลยด้วยซ้ำ แม่รักแต่พี่ฮัท แม่ไม่เคยรักต๊อปเลย ฮึก”
“ตั้งแต่เกิดมา มีแต่คุณพ่อกับพี่ฮัทที่รักและดูแลต๊อป เรา 3 คนกำลังมีความสุข สุดท้ายแม่ก็พรากพ่อไปจากต๊อป แม่ทำให้พ่อตาย ฮือออ”
“ต๊อปกับพี่ฮัทเรามีกันแค่ 2 คน แค่ 2 คนต๊อปก็มีความสุขดี แต่แม่ก็ทำลายมัน ทั้งๆที่ต๊อปก็ขอร้องแม่แล้ว ฮึก ฮืออ” สต๊อปเพ่งสายตาไปที่กรอบรูปใบใหญ่ในห้องของเธอ ในรูปมีผู้หญิงคนที่เธอเรียกว่าแม่ เธอระบายอารมณ์ทุกอย่างออกมาพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรู เธอเก็บความรู้สึกนี้มานาน นานเหลือเกินแล้ว
7 ปีก่อน
.
.
.
“คุณยังไม่ลืมมันอีกเหรอคุณจิรานันท์” วรุธกล่าวถามภรรยาของเขาหลังจากที่เห็นนางนั่งร้องไห้ให้กับสร้อยที่สามีเก่าของนางมอบให้เป็นที่ระลึก
“ฉันไม่เคยลืมเขาเลยแม้สักครั้ง เขาอยู่ในใจของฉันตลอดมาและตลอดไป คุณไม่มีวันแทนที่เขาได้!! พ่อของตาฮัทเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันรัก!!!”
“เรื่องนี้คุณอย่าบอกตาฮัทเชียวนะ” วรุธกล่าวกับภรรยา
“ลูกมีสิทธิที่จะรู้ว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของเขา” จิรานันท์ว่า
“แต่ผมเลี้ยงเขามา ผมจะไม่ยอมให้คุณพูดเด็ดขาด เขามีผมก็พอแล้ว” วรุธกล่าว เขารักฮัทเสมือนเป็นลูกแท้ๆของเขา
“สักวันเขาก็จะต้องรู้” จิรานันท์พูดอย่างไม่ยอมแพ้
“คุณรักผมกับลูกต๊อปบ้างหรือเปล่าจิรานันท์” วรุธถามเสียงเบาหวิว แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่เขาก็กลับยังหวังว่าสักวันคำตอบจะเปลี่ยนไปจากเดิม
“ฉันไม่เคยรักคุณเลยคุณวรุธ…และไม่มีวัน” จิรานันท์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมสบตาผู้เป็นสามี
“คุณ !!!!” วรุธยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างซ้าย ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความเจ็บปวดหัวใจ
“คุณพ่อ !!!!!” สต๊อปที่แอบยืนมองเหตุการณ์อยู่นาน ตกใจกับอาการของบิดาของเธอ หญิงสาวรีบวิ่งมาประคองร่างบิดาทันพลัน
“พี่ฮัท!! พี่ฮัทช่วยคุณพ่อด้วย ฮึก คุณพ่อขา ทำใจดีๆนะคะ ฮือ” สต๊อปร้องไห้ตะโกนเรียกพี่ชายลั่นบ้าน พร้อมกอดบิดาที่สลบไป
วรุธถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วหมอไม่สามารถช่วยชีวิตของเขาไว้ได้ วรุธเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย ทั้งสต๊อปและฮัทเสียใจเป็นอย่างมากกับการสูญเสียบิดาไป เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เด็กทั้งสองต้องจัดงานศพให้ผู้ใหญ่ เด็กทั้งสองมีอายุไล่เลี่ยกันเพียงแค่ 16 และ 17 ตามลำดับ งาศพแรกคืองานของคุณยาย ครั้งนี้คืองานของบิดา
“ซะใจคุณแม่แล้วใช่มั้ยคะ ที่สามารถกำจัดคุณพ่อออกไปจากชีวิตได้” สต๊อปโวยวายใส่มารดาของเธอหลังเสร็จสิ้นงานศพ
“อะไรกันสต๊อป” ฮัทเดินเข้ามาห้ามปรามน้องสาว
“คุณแม่ฆ่าคุณพ่อ แม่ฆ่าพ่อ” สต๊อปตะโกนใส่หน้ามารดา ต่อหน้าพี่ชายและคนใช้ในบ้านอย่างไม่เกรงกลัว
จิรานันท์แม้นางเองจะไม่ได้รักวรุธเลยก็ตาม แต่นางก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่นางเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องเสียชีวิต การที่นางถูกลูกสาวซ้ำเติมยิ่งเป็นการสร้างความเจ็บปวดให้กับนางเป็นอย่างมาก
“ยัยต๊อป!!” จิรานันท์สบถชื่อลูกสาวออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะสติของนางจะวูบดับไป สต๊อปมองมารดาของตนด้วยความตกใจ แต่เธอก็กลับไม่สนใจที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เธอเลือกที่จะเดินหนีขึ้นมาร้องไห้คนเดียว
วันเวลาผ่านไปร่วม 1 ปี จิรานันท์มีอาการป่วยหนักมากด้วยโรคเครียดและความดัน นางรู้ตัวนางดีว่านางคงอยู่ได้อีกไม่นาน และสิ่งสุดท้ายที่นางต้องการคือการบอกความจริงให้ลูกชายของนางรู้ ว่าแท้จริงแล้วพ่อของเขาคือใคร
“แม่ห้ามบอกพี่ฮัทเด็ดขาดนะ” สต๊อปโพล่งเข้ามาขอร้องมารดาของเธอที่กำลังนอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล
“เธอมีสิทธิอะไรมาห้ามฉัน” จิรานันท์ถามออกมาอย่างเหลืออด
“สิทธิของความเป็นลูกน่ะสิคะ หนูขอร้องนะคะแม่” สต๊อปตอบ พร้อมกับอ้อนวอนอีกครั้ง
“ลูกที่ฉันไม่ต้องการน่ะเหรอ” นับครั้งไม่ถ้วนแล้วที่วริษฐาได้ยินประโยคนี้จากปากของมารดาของเธอเอง
“คุณแม่!!!” และทุกครั้งเธอก็จะอุทานออกมาเช่นนี้ พร้อมน้ำตาทุกครั้งไป
“ออกไปจากห้องฉัน แล้วตามตาฮัทเข้ามา” จิรานันท์ทนที่จะเห็นน้ำตาของเด็กสาวไม่ได้ นางจึงไล่เธอออกไป สต๊อปจำต้องเดินออกมาอย่างไม่พอใจ
“ต๊อป” ฮัทที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าห้อง อุทานทันทีที่เห็นใบหน้าสลด กับตาแดงกร่ำของน้องสาว เขาคงไม่ต้องเดาว่าเกิดเรื่องอะไร
“ต๊อปไม่เป็นไรค่ะพี่ฮัท” สต๊อปพูดกับพี่ชายทันที
“แม่อยากเจอพี่น่ะค่ะ” สต๊อปบอกพี่ชาย ฮัทเอามือลูบศรีษะน้อยๆของน้องสาว ก่อนจะเดินเข้าไปหามารดาของเขา สต๊อปเลือกที่จะแอบมองการสนทนาของมารดาและพี่ชายอยู่นอกห้อง เธอคงห้ามมารดาของเธอไม่ได้สินะ
“ตาฮัท” จิรานันท์ร้องเรียกลูกชายของนางทันทีที่เห็นหน้า เธอกวักมือเรียกให้เขาเข้ามาหาเธอใกล้ๆ ก่อนจะส่งสร้อยคอพร้อมด้วยจี้ให้กับลูกชาย
“นี่มันอะไรกันครับแม่” ฮัทรับสร้อยมา ก่อนจะถามมารดาอย่างสงสัย
“นี่คือพ่อของลูก เขาคือพ่อของลูก ตามหาเขานะลูก บอกกับเขาว่าแม่รักเขาเสมอ ตามหาเขานะตาฮัท”
“ผมไม่เข้าใจ”
“ผู้ชายที่อยู่ในจี้ เขาเป็นพ่อของลูก” ฮัทเปิดจี้ออกตามคำของมารดา สิ่งที่เขาพบคือ ภาพสองหนุ่มสาวที่ถ่ายคู่กัน ซึ่งผู้หญิงคนนั้นคือมารดาของเขา
“แม่กำลังจะหมายความว่า…” ยังไม่ทันที่ฮัทจะถามจบคำถาม มารดาของเขาก็พยักหน้ารับโดยไม่รีรอให้ลูกชายถามให้เสียเวลา
“ทำให้แม่ได้มั้ยลูก ตามหาพ่อ ตามหาเขาให้เจอนะลูก” จิรานันท์กล่าวของบุตรชายทั้งน้ำตา
“ครับแม่ ผมสัญญา” ฮัทรวบมือมารดาก่อนจะบีบแน่นเพื่อให้นางมั่นใจ ว่าเขาจะทำตามนางขอ
“แม่รักลูกนะ” และนี่คือการสนทนาประโยคสุดท้ายของฮัทและมารดา ก่อนที่นางจะสิ้นลม
ฮัทแอบมองน้องสาวของเขาระบายอารมณ์ใส่กับรูปภาพของมารดาที่ข้างผนังห้อง เขานึกสงสารเธอขึ้นมาจับใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาพยายามจะเติมเต็มในสิ่งที่เธอขาดหาย นั่นคือความรักและความอบอุ่นจากมารดา ซึ่งเธอไม่เคยได้รับสิ่งนั้นจากมารดาเลย เขาและบิดาจะคอยปลอบใจเธอเสมอทุกครั้งที่ถูกมารดาดุ หรือถูกลงโทษ สต๊อปเคยเป็นเด็กน่ารักและร่าเริง จนกระทั่งวันที่เธอเสียบิดาของเธอไป ความร่าเริงและความสดใสในตัวเธอก็หายไป แต่ถึงแม้ความร่าเริงจะหายไปมากเพียงใด พี่ชายอย่างเขากลับไม่เคยเห็นน้ำตาจากเธอเลยจากครั้งสุดท้ายที่งานศพของบิดา จนกระทั่งครั้งนี้ !!!
“สต๊อป!” ฮัทดันประตูห้องของน้องสาวให้กว้างขึ้น ก่อนจะกางแขนอ้ารับ ร้องเรียกน้องสาวให้เข้ามาหาเขา น้องสาวหันมองหน้าพี่ชาย ก่อนหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้ง เธอโผเข้ากอดผู้เป็นพี่ชายทันพลัน หญิงสาวไม่พูดอะไร มีเพียงแค่เสียงสะอื้นเท่านั้นที่ดังอยู่ในอ้อมกอดพี่ชาย
“พี่รักต๊อปนะ อย่าคิดมากรู้มั้ย ถึงพี่จะหาพ่อเจอหรือไม่เจอ ยังไงซะคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพี่ก็คือเรานะ” ฮัทพูดกับน้องสาว เขาอยากจะทำให้เธอมั่นใจว่า สุดท้ายแล้วเธอคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ชายหนุ่มตาแดงกร่ำยกมือลูบศรีษะของน้องสาวพร้อมกระชับกอดให้แน่นขึ้น และถ่ายทอดความรักความอบอุ่นที่เขามีให้แก่เธอ
>>>>> ไรท์ขอขยายความ ฮ่าฮา กลัวรีดงง กลัวรีดลืม <<<<<
ลำดับของอายุ จากน้อย-มาก สมาย สต๊อป ฮัท แกง : 22 / 23 / 24 / 25
สต๊อปและฮัทมีแม่คนเดียวกันแต่คนละพ่อ
พี่แกงกับน้องสมายไม่ใช่พี่น้องแท้ๆกัน แต่ความจริงแล้วสโรชาเก็บพี่แกงมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
แม่ของพี่ฮัทและพี่สต๊อป ----> จิรานันท์
พ่อของพี่สต๊อป ----> วรุธ
แม่ของน้องสมาย ----> สโรชา
พ่อของน้องสมาย ----> ธานิน (ระบุชื่อไว้ใน Ch6)
Question? : พ่อพี่ฮัท พ่อแม่พี่แกง คือ ใคร WHO?
และยังมีปริศนาอีกเรื่องที่ไรท์ยังไม่อยากขยายความ จริงๆปริศนานี้มันเกิดขึ้นแล้วในตอนที่ผ่านมา ถ้าใครสังเกต อ่านอย่างตั้งใจ ก็จะรู้สึกว่าตรงนี้แน่ๆ ที่มีปริศนา อิอิ รอไขกันนะทุกคน
ปล.ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดก็ได้นะคะ ^^ ไขปริศนามาเซอร์ไพร์แน่ๆ 55
ความคิดเห็น