Fic eco My hearth is change
นี่เป็นฟิคที่ี่ดองเค็มตั้งแต่กุมภา เลยเอามาลง (เพิ่งนึกได้)=w=
ผู้เข้าชมรวม
706
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แสงแดนที่แสนจะร้อนระอุของทะเลทรายมรณะหรือในชื่อว่า steep destert ไม่ค่อยทำให้นักเดินสองคนสะทกสะท้านแม้แต่น้อย หนึ่งคือเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลพร้อมกับทรงผมที่ยุ้งเยิงกับนัยน์ตาสีเดียวกันในชุดสีดำ พร้อมกับดาบใหญ่ในมือของตนซึ่งคงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาเป็นเบรดมาสเตอร์ อีกหนึ่งคือพระหนุ่มเผ่าโดมิเนียนที่ถือพิณขนาดใหญ่ที่ไม่กลัวว่าจะหนักมือเลยแม้แต่น้อย ผมสีส้มทรงแหลมเสยไปด้านหลังที่จะสะท้อนแสงแดดเฉกเช่นนันย์ตาสีเดียวกันนั้น กำลังวิ่งตามในชุดสีขาวที่ดูลุ่มล่าม
“นี่ฉันว่ามันไม่ปรากฏตัวออกมาหรอก”พระหนุ่มนามคาโอรุเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยกับอากาศร้อน
“ไม่มันมาแน่”อีกฝ่ายซึ่งเป็นนักดาบนามทิออสโต้กลับ
“ไร้สาระจะตาย เอเยนท์เทรดสั่งไรงี้เง่านิ ไอ้หุ่นเซงกระบ่วยมันไม่มาหรอก เสียเวลา กลับกันเถอะ”พระหนุ่มยังคงบ่นต่อไป โดยนักดาบหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ “นี้นายจะไม่ฟังเลยใช้ไหม”พระหนุ่มเผ่าโดมิเนียนเริ่มหมดความอดทน ในใจนึกอยากจะเอาพิณหวดใส่หัวคนตรงหน้า
ปิ๊ป ๆ เสียงหุ่นดังมาแต่ไกลทำให้ผู้สนทนาทั้งคู่หยุดลง
หุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่ทำจากเหล็กกำลังลอยมาทางพวกเขา
“รีบเก็บเจ้านี้แล้วรีบกลับโอเคไหม”ทิออสยื่นขอเสนอให้พระหนุ่ม
“โอเคได้เลย รีบๆเข้าล่ะ อย่างกลับไปหาอะไรเย็นๆกิน”คาโอะเอ่ย ก่อนจะตั้งท้าเตรียมพร้อม
“ได้”นักดาบหนุ่มนามทิออสเหยียดยิ้มตอบกลับ ก่อนจะสั่งอีกฝ่าย ”บัฟ”
“Holy Feather Rouse Body Rouse Mental”พระหนุ่มจัดแจงทำตามคำสั่ง ในขณะที่ทิออสพุ่งตัวเข้าฟันหุ่นยักษ์ที่ปรากฏตัวขึ้นมา
ฉับ ฉึก เสียงของดาบและหอกดังขึ้นพร้อมกัน
ทิออสเบิกตากว้างอย่างไม่คิดเลยว่าจะมีคนมายุ่งเรื่องของเขา ซึ่งเมื่องเขาสังเกตดีๆ ปรากฎว่าเป็นเด็กสาวมัดแกะสองข้างสีฟ้าน้ำแข็ง นัยน์ตาสีดำในชุดเสื้อสีขาวและกางเกงสีเดียวกัน ในมือมีหอกอยู่กำลังพยายามจะทะลวงหุ่นยนต์ตัวนี้อยู่ เช่นเดียวกับเขาที่กำลังจะฟันมันให้เป็นชิ้นๆ
“นี่นายมาแย้งฉันทำไม ไม่เห็นหรือไงฉันมาก่อน”เด็กสาวตะโกนขึ้น ซึ่งเธอมีชื่อว่าเอลวิน เด็กสาวกำลังหัวเสียที่มีคนมายุ่งกับงานของเธอ
“เธอต่างหาก ฉันมาก่อนนะ อีกอย่างงานนี้มีคนให้มาทำ ไม่ใช่มาตีเล่นอย่างเธอ”ทิออสตะโกนกลับไป พร้อมยังฟันหุ่นไม่เลิก
“นายนี้...!ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย”เด็กสาวกรีดร้องลั่น ก่อนจะพลังใช้หอกทะลวงหุ่นจนแหลกเป็นชิ้นๆ
“นี่เธอ!”ทิออสร้องขึ้นอย่างไม่พอใจก่อนจะมองหน้าอีกฝ่าย
“ทำไมคนไร้มารยาท”เอลวินสวนกลับทันทีโดยไม่ปล่อยช่องว่าง โดยมีพระหนุ่มที่ไม่กล้าเข้าไปขัดจังวะ
“เธอนั้นแหละ คนเขามาก่อนนะ”ทิออสยังคงว่าต่อไป
“เออ....”คาโอรุพยายามจะพูดขึ้นแต่ถูกทั้งสองคนสวนเข้าให้จนสะดุ้ง
“นายหัดสอนมารยาทให้เพื่อนนายด้วยนะ ว่าควรทำไงกับสุภาพสตรี ไปละล่ะขออย่าให้ได้เจอกันอีด”เด็กสาวเอ่ยก่อนจะหันหลังกลับ ทิ้งให้ทิออสตัวสั่นที่ถูกปั่นหัว
“เธอนั้นละ อย่าได้เจอกันเลย”
หลังจากเหตุการณ์ประทะกันจบลง เด็กหนุ่มทั้งคู่ก็ได้เดินทางกลับทันทีโดยไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ทั้งคู่ต่างมุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งเวทมนต์ เมืองNorthprommard เพื่อไปพบเอเยนท์เทรด ผู้ใช้ให้พวกเขาไปจัดการกับหุ่นไร้สาระตัวนั้น
พายุหิมะพัดมาแบบไม่เกรงใจใคร พื้นดินที่มีหิมะท่วมสูงหลายเมตร กับอากาศที่ติดลบ ช่างทรมาณผู้เดินทางท่ามกลางพายุหิมะทั้งสองคนเสียนี้กระไร ทั้งคู่ต่างพยายามไปให้ถึงเมืองโดยเร็ว โดยหวังว่าไปถึงคงมีอะรอุ่นๆให้ดื่มให้กิน ทันที่เดินทางก้าวผ่านประตูเมืองเข้าไป ชายหนุ่มผมสีแดงเชอร์รี่ทรงโดมิเนียนแฮร์แคตตาล๊อกในชุดที่ดูราวกับนักพนัน สวมแว่นตาสีดำ ที่มือขวาถือกระเป๋าเอกสารสีเงิน
“ไง สำเร็จแล้วสินะ คงจะเหนื่อยละสิ ไปหาอะไรอุ่นๆทานก่อนสิ”ชายคนนั้นบอกซึ่งคงเป็นใครไม่ได้ นอกจากเอเยนท์เทรด สีหน้าของพระหนุ่มบอกบุญไม่รับ กับใบหน้าเรียบเฉยของนักดาบหนุ่มรับฟังอย่างนิ่งๆ ก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในผับ
“เอาโกโก้สองแก้ว”เอเยนท์หนุ่มสั่งก่อนจะรับของจากมาสเตอร์ของผับแห่งเมืองเหนือมาแล้วส่งให้ทั้งคู่
“ขอบคุณครับ”ทิออสตอบสั้นๆก่อนจะดื่ม ในขณะที่พระหนุ่มขอตัวออกไปเดินข้างนอก
“เอาละฉันจะมีคนให้เข้าร่วมภารกิจครั้งต่อๆไปด้วยหนึ่งคน”เอเยนท์เทรดเอ่ยขึ้น ก่อนที่คนๆหนึ่งจะปรากฏตัว คนๆนั้นที่ทำให้นักดาบหนุ่มอยากจะอ้าปากค้าง
“นี่เอลวินนะทิออส ต่อไปพวกเธอจะต้องทำงานรวมกันนะ”คำเอ่ยอย่างสบายๆของเอเยนท์คนนี้ ทำให้เด็กสาวอ้าปากก่อนจะร้องขึ้นว่า
“นายคนไร้มารยาท”
“เธอต่างหากละ” สงครามได้เกินขึ้นทำให้เอเยนท์เทรดตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งรู้สึกได้ถึงรังสีความอาฆาตของทั้งคู่
“เออ....เอาเป็นว่าดีกันไว้ก่อนนะ เอาเป็นว่ามีงานด่วนนะ พวกเธอไปเก็บกองโจรแบนดิทที่กำลังอาละวาทแถบฟูจิกินะ”เอ่ยจบก็ยัดใบอะไรสักอย่างใส่มือทั้งคู่ แล้วรีบดันทั้งคู่ออกจากผับไปทั้งๆที่ยังไม่ทันได้เปิดสงครามกันอย่างเต็มที่เลย
“อ้าวจะไปละ ยังไม่ทันได้พักเลยนิ”คาโอะรุเอ่ยอย่างงๆ
“ใช้ไปกันเถอะเดี่ยวจะเสียเวลา เธออย่างถ่วงแข้งถ่วงขาละ”ทิออสเอ่ยทำให้เอลวินอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่ก็ต้องทนเดินตามไป
นั้นคือช่วงแรกๆที่ฉันได้ผมเขา เฮ้อ...ช่างไม่ได้เรื่องจริงๆ เอาแต่ใจ ปากแข็งจริง แม้แต่เรื่องนี้ก็ทำไม่ได้...
“นี่พวกนาย! มีแต่อาหารกระป๋องหรือไง”เด็กสาวเพียงคนเดียวโวยลั่น กลางป่าของอโครเนียนในยามค่ำคืน
“ก็ใช้ทำไมเหรอ”ทิออสหันไปถามอย่างไม่สบอารมณ์ พลางคิดในใจ ผู้หญิงนี่เรื่องมากอย่างนี้ทุกคนหรือไง
“พวกนายทำอาหารกันไม่เป็นหรือไง”คำถามของไนท์สาวผมแกะเอ่ยซึ่งได้รับคำตอบที่อยากจะกรี๊ดลั่น ก่อนจะคุ้ยเป้ของตนแล้วเอาเครื่องครัว และวัตถุดิบออกมา
“แล้วเธอจะทำอะไรนะ”คำถามที่แม้แต่เด็กห้าขวบก็ตอบได้ส่งไปให้
“ทำอาหารสิย่ะ คาโอรุไปเก็บฝืนซะ แล้วนายทิออสช่วยปอกเปือกมันฝรั่งให้หน่อย”คำสั่งของไนท์สาวทำให้หนุ่มๆทำตามอย่างงๆ
ทิออสซึ่งไม่ รู้ว่าทำอย่างรับมันฝรั่งพร้อมมีดมาแล้วเริ่มปอก... เอลวินซึ่งเหลือบไปเห็นทิออสพอ ก่อนจะร้องออกมา “ปอกเปลือกมันฝรั่งไม่เป็นหรือไงนิ!” ซึ่งเมื่อเอ่ยจบก็ได้รับคำตอบที่พอจะดำได้ เด็กสาวถอนหายใจ “มาส่งมา ไม่ไหวเลยผู้ ชายนิ” เด็กสาวบ่นไปแต่มือก็คงแก้ส่วนที่เสีย “ดูซะ ปอกอย่านี้”
“อืม...”ทิออสรับคำสั้นๆก่อนจะดูวิธีการปอกอย่างหน่ายๆ
“ทีนี้ทำได้แล้วนะ งั้นเอาที่เหลือไป”เด็กสาวหันไปถามคนที่อยู่ข้างเคียงซึ่งพยักหน้าตอบรับ พร้อมทั้งส่งมันฝรั่งอีกหลายลูกไปให้
เหตุผลที่...ฉันชอบเขานะหรือ เฮ้อ...ไม่รู้นะทำไม ต้องมาชอบไอ้คนไม่ได้เรื่อง นอกจากการต่อสู้แล้ว อย่างอื่นนี้ทำไม่เป็นจริงๆ ทั้งการตั้งแคมป์ ทำอาหาร ชอบทำหน้าบอกนิ่งตายด้าน งี้เง่าจริงๆ... แต่ลึกๆเขาก็มีส่วนดีเหมือนกัน อย่างเช่นตอนนั้น...
“ย้าก~....”ทิออสร้องลั่น ก่อนจะเอาดาบฟันใส่โจรอย่างบ้าคลั่ง คนแล้วคนเล่า เหล่าแบนดิทมีมาเรื่อยๆเสียนี้กระไร ในขณะที่พระหนุ่มก็โหดเช่นกัน ซึ่งยิงพลังเวทสีขาวใส่เหล่าแบนดิท ซึ่งสองสามทีก็ล้มลงไป และเด็กสาวกำลังแทงหอกใส่ พร้อมคอยหลบดาบใหญ่ของโจรสีขาว
“อ๊ะ”เด็กสาวผาดเผลอสะดุดหิน ร่างของเด็กสาวค่อยๆล้มลง พร้อมกับดาบใหญ่ที่กำลังจะปลิดชีวิตเธอ เอลวินหลับตาสนิทพร้อมนึกในใจว่าตนต้องมาจบชีวิตซึ่งยังไม่เคยซักครั้งเป็นแน่ เคร้ง! ดาบของทิออสคอยรับดาบของโจรขาวไว้ได้ ก่อนจะฟันใส่โจรล้มตึงลงไป
“นี่อย่ามัวแต่นอนสิ รีบลุกดิ”ทิออสเอ่ยเสียงดุขึ้น
“ย่ะ...”เอลิวตอบกลับสั้นๆและกระซิบให้อีกฝ่ายได้ยินคนเดียว ‘ใจนะ’ ซึ่งได้ยินเสียงตอบกลับมาว่าไม่เป็นไร
หลังจากนั้นไม่นานเหล่ากองโจรแบนดิทก็สิ้นท่า ทั้งสามต่างเหนื่อยล้ากับการกำจัดกลุ่มโจร ต่าง เดินทางเข้าไปพักในฟาร์อีสเพื่อรายงานผล (เอเยนท์เทรดมารอแล้ว)
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้รับภารกิจอีกมากมาย ทั้งขนเฟอร์ ส่งอาหาร ซึ่งแต่ละวันมีเรื่องวุ่นๆ หนักหัว และเรื่องให้ตีกันมากมาย ความสันพัน์ของเราก็ค่อยๆเปลี่ยนไป พูดแล้วก็เหนื่อย... ฉันต้องคอยตามจิก สอนนู้นสอนนี้ จนดูเหมือนระยะเวลาที่เรารู้จักกันมันผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน ถึงแม้ตอนพบกันครั้งแรกจะไม่ดีเท่าไหร ซึ่งตอนนี้เขาก็ทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วละ แต่...ฉันก็ยังไม่ได้บอกเขาอยู่ดีเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเขาที่ค่อยๆเปลื่ยนไป...
เหมันต์ที่หนาวเหน็บได้มาเยือน หิมะค่อยๆตกลงมา แสงออโรล่าดูงดงามเกิดบรรยาย หนุ่มสาวสองคนต่างยื่นมองแสงออโร่ล่าที่หน้าผาริมทะเล ทั้งคู่อยู่ในเสื้อโค้ดสีน้ำตาลคนละตัว
“เออ...ทะ...ทิออส”เอลวินเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่นเบา ไอเย็นลอยออกมาจากปากเล็กน้อยบ่งบอกถึงความหนามได้ดิบได้ดี
“อะไรเหรอ”ทิออสหันไปถามอย่างสงสัย ซึ่งอีกฝ่ายกระตุกกะตักเกินกว่าที่จะพูดออกมา ใบหน้าแดงระรื่อเล็กน้อย
“คือว่า...ฉะ...ฉันชอบนายนะ”เด็กสาวตะโกนออกไปอย่างสุดเสีย ใบหน้าแดงขึ้นด้วยความอาย ซึ่งอีกฝ่ายก็พะงะไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มรับ “นายจะคบกับฉันได้ไหม”
คำเอ่ยของเด็กหนุ่มที่กระซิบที่หูแผ่วเบายิ่งนักว่า “ได้สิ” ใบหน้าของเด็กสาวแดงหนักกว่าเดิม ก่อนที่ทิออสจะโอบบ่าเด็กสาวให้มาแนบชิดตน ซึ่งเด็กสาวก็ไม่ปฏิเสธการกระทำนั้น
วิกวิ๊ด เสียงผิวปากดังมาแต่ไกล ทำให้คนทั้งคู่ผละออกจากกัน ก่อนจะหันไปมองผู้มาใหม่ ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากคาโอรุ ไอ้พระหน้าบูด
“เห็นแล้วสินะ”เสียงเย็นๆของทิออสเอ่ยขึ้นก่อนที่อีกเสียงจะดังขึ้น
“อยากไปที่ชอบๆไหมละคาโอะ”เสียงหวานที่เย็นจับจิตเอ่ยสมทบ พระหนุ่มผู้รู้ชะตาของตัวเองที่ไม่สมควรทำเรื่องแบบนั้นลงไป เริ่มถอยหลังไปอย่างช้าๆ
“ตาย!”สองหนุ่มสาวประสานเสียง ก่อนจะไล่กวดพระหนุ่มที่วิ่งหนีไป
และนั้นคือการสาระภาพความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขา ถึงแม้..เออ...มันจะไม่ดีเท่าที่ควรก็ตามนะ แต่นั้นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริง นึกอยากขอบคุณเอเยนท์เทรดจริงๆ ไปเที่ยว วอเตอร์เลเยอร์จะเป็นไงมั้งน่า... และแล้วความคิดก็ถูกขัดขึ้นพร้อมเสียง เคาะประตูห้องที่หญิงสาวนั่งอยู่
“เอลวิน ได้เวลาแล้ว”เสียงสาวผมยาวประบ่าสีน้ำตาลในชุดเดรสสีแดง นัยน์ตาสีดำ เอ่ยขึ้นกับอีกฝ่ายซึ่งอยู่ในชุดราตรีสีขาว
“จ๊ะ”
“ไปกันเถอะ”เธอคนนั้นเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินนำลงจากสวนลอยฟ้าที่ดูงดงาม สู่โบสถ์สีขาวในอัพทาวน์
และแล้ว....ประตูก็เปิดออก พร้อมเสียงตบมือและบทเพลงเพลงๆหนึ่ง...
ความรู้สึกและอาทรค่อยแปรเปลี่ยน ค่อยเคลื่อนย้ายเข้ามาสู่ใจของเขา
มอบให้ทั้งกายและจิตเรา ขอให้เขารับรู้ใจของเรา
อยากจะบอกแต่ไม่กล้าเสียสักที ทำไงดีจะสื่อให้ถึงเขา
อยากจะกล้ากล้าบอกจริงเลยเรา เพื่อจะเนาความรู้สึกประสานกัน
วันคือกาลเวลาเปลี่ยนพลัน จากวันหนึ่งสู้อีกวันนี้สุกสันต์
ในตอนนี้ได้บอกเสียทีพันธ์ รักเกิดสุกสันต์ปรีดีงานวิวาร์
ผลงานอื่นๆ ของ axis•justrine ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ axis•justrine
ความคิดเห็น