ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Captivate (KYUMIN)

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 58



    CHAPTER 1

     

    “ซองมิน กาแฟแก้วนึง”

    “ส่วนฉันขอเบียร์”

    “ได้ครับ รุ่นพี่” ผมยิ้มรับคำสั่งของรุ่นพี่ในบริษัท ก่อนจะแอบถอนหายใจเบาๆ แล้ววางมือจากไม้ถูพื้น  เปลี่ยนจากงานทำความสะอาดเป็นงานเสิร์ฟ

     

              ‘
    ชีวิตคนเรามักพังพินาศจากความอยากรู้อยากเห็น

    นั่นคือปรัชญาชีวิตประจำตัวของผม อี ซองมิน ผมเป็นเด็กหนุ่มวัย 20 ที่ตอนนี้เป็นเบ๊จิปาถะอยู่ที่บริษัทสินเชื่อแซฮัน อ่า อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดนะ ถึงผมจะทำงานในออฟฟิศที่โคตรลึกลับแบบนี้ แต่ผมก็ไม่ใช่มาเฟียนะครับ

    “เบียร์แกล้มปลาหมึกหรอ หัวไวดีนี่ซองมิน”

    “กาแฟนี่ก็รสชาติใช้ได้นะ” ผมได้แต่ยิ้มรับคำชม

                   

                     
    แกร๊ก

    เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้น ทำเอาผมเสียวสันหลังแปลกๆ ผมและพวกรุ่นพี่พร้อมใจกันหันไปมองที่ประตู ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นบุคคลที่ก้าวเข้ามา

    “สวัสดีครับ บอส!

     นั่นไงล่ะ มากันละ 2 ตัวมารที่ทำลายชีวิตผม ลางสังหรณ์สุดยอดจริงๆ

    “พวกแกเล่นดวลเบียร์แต่หัววันกันเลยนะ” เสียงเข้มๆของบอสมาพร้อมกับสายตาเฉียบคมที่มองมา ทำเอาพวกผมสะดุ้งกันเป็นแถบๆ

    “ขอโทษครับบอส!

    โค้งพร้อมกันอย่างสวยงามครับ ส่วนใหญ่ก็โค้งทักทายบอสตามมารยาท ต่างจากพวกรุ่นพี่ข้างตัวผมที่รีบโค้งด้วยความเร็วพอๆกับคำขอโทษเมื่อกี้ ผมว่ามันก็ตลกดีนะครับ ทั้งๆที่พวกรุ่นพี่อายุมากกว่าบอสด้วยซ้ำ


    “นี่ ไปเอาที่ฉันกินเมื่อวานมาทีสี”

                โอเคครับ ตาผมแล้ว เสียงเข้มๆกับสายตาเฉียบคมของบอสมันส่งมาที่ผมแทนแล้วล่ะ

    “ฉันเอากาแฟเย็น”

    ตามมาด้วยเสียงหวานแหลมของฮยอกแจ  ผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานที่มากับบอส

                ผมได้แต่เดินไปที่เคาท์เตอร์ด้วยความเซงสุดขีด ตอนนี้ผมกำลังไว้อาลัยให้กับความซวยของตัวเองครับ


     

                ความซวยของผมมาแบบไม่ได้ตั้งตัว มันเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมกับเพื่อนๆไปดื่มกัน

                    บอกแล้วใช่มั๊ยว่าอย่านอกใจฉัน

     เสียงหวานแหลมที่ตะโกนใส่หน้าผม มีออพชั่นเสริมเป็นน้ำใสๆที่เอ่อคลออยู่ในดวงตากลมโตของฮยอกแจ

                อ่า ใช่ครับ เมื่อหลายเดือนก่อน ผมกับอี ฮยอกแจ เรายังรักกันดีอยู่

              ‘ถ้านายยังไม่เลิกเจ้าชู้ เราเลิกกัน ฮยอกแจพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก็จะหันหลังเดินจากผมไป

                ตอนนั้นผมได้แต่นิ่ง ผมยอมรับว่าผมผิด แต่นิสัยผมก็เป็นแบบนี้ ผมเฮฮาได้กับทุกคน อาจจะมีเกินเลยไปบ้างนิดหน่อย แต่ผมก็มีเขาแค่คนเดียว ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำไงดีเหมือนกัน จริงๆต้นตอของปัญหาคือเราทะเลาะกันหนักขึ้น ในขณะที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย

                ในระหว่างที่ผมคิดหนักว่าจะง้อฮยอกแจยังไงดี ผมก็เกิดสงสัยว่า เราจะมีเซ็กซ์กับคนที่ไม่ได้รักได้มั๊ย แถมมีคนเข้ามาพอดี เขาเลยกลายมาเป็นตัวช่วยในการไขข้อข้องใจของผม และก็สรุปว่าได้

                แต่ก็นั่นแหละครับ ขึ้นชื่อว่าซวย มันก็ซวยจริงๆ เพราะฮยอกแจดันเข้ามาเห็นตอนที่ผมอยู่กับคนๆนั้นในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่

                เพราะความสงสัยของผมเป็นต้นเหตุ ผมผิดเองที่อยากรู้อยากลอง ผมโทรหาฮยอกแจเป็นสิบๆสาย แต่เขาก็ไม่รับ จนผมถอดใจ ผมไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือน้ำตาของฮยอกแจ เราขาดการติดต่อกับไปพักใหญ่ จนกระทั่ง 1 เดือนต่อมา

           ตอนที่ผมกำลังจะเดินออกมาจากมหาลัย มีรถพอร์ชคันนึง มาจอดเทียบอยู่ที่ทางเข้าตึก แล้วผมก็ได้พบฮยอกแจอีกครั้ง พร้อมกับผู้ชายร่างสูง ที่หน้าตาดี แถมหล่อขั้นเทพ  โจว คยูฮยอน

                และนั่นเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตที่ผมได้เจอคนที่หล่อโดนใจ ผมมองเขาอย่างตะลึงในความหล่ออยู่พักนึง จนกระทั่งเขาหันมา และเดินมาทางผม หลังจากตั้งสติได้ ผมตั้งใจจะเดินไปหาฮยอกแจเพื่อขอโทษเขา และปรับความเข้าใจกัน แต่ผู้ชายคนนั้นก็เดินมาขวางทางผมไว้

                    นายเองหรอ ที่ฮยอกแจไม่ชอบ แล้วยังหน้าด้านตื๊ออยู่ได้

                ผมงงครับ ยอมรับว่าสับสนมาก แต่ความสับสนอยู่กับผมไม่นานหรอก เพราะหลังจากนั้นเขาก็ซัดหมัดหนักๆเข้าที่ข้างแก้มผมอย่างจัง แล้วก็เป็นครั้งที่ 2 ของผมอีกเหมือนกันครับ ที่โดนชกหน้าหงายแบบนั้น

              ‘อย่าให้ฉันเห็นหน้านายอีก ไม่งั้นนายตายแน่ คำพูดนั้นมาพร้อมกับสายตาข่มขู่ ก่อนที่มันจะหยิบแว่นดำมาสวมด้วยท่าทางที่โคตรหล่อ

                เออครับ มันหล่อ แต่ผมเจ็บ หมัดมันหนักเป็นบ้า

              ‘พี่ฮะ พอเถอะฮะ ผมว่าเอามาใช้งานที่ออฟฟิศเราดีกว่า อืม เสียงของฮยอกแจ

              ‘ให้ผู้หญิงมาทำแปปเดียวก็ลาออกแล้ว หมอนี่ทั้งชงกาแฟเป็น ทำความสะอาดก็เก่ง แถมถึกอย่างกับอะไร ฮยอกแจยังคงพูดถึงความดีความชอบในตัวผมต่อไปครับ แต่ผมว่ามันเริ่มไม่ดีแล้วล่ะ

                     พอไหวมั๊ยซองมิน
                เมื่อคู่สนทนาไม่พูดอะไร ฮยอกแจเลยหันมาถามผมแทน จริงๆผมว่ามันไม่ใช่ประโยคคำถามหรอก สายตาของฮยอกแจบอกผมแบบนั้น

                ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนา ให้คนที่ต่อยผมคว่ำเมื่อกี้ปฏิเสธคำพูดของฮยอกแจไป แต่เหมือนเวรกรรมของผมจะมีเยอะไป คำภาวนาของผมเลยไม่ประสบผลสำเร็จ

              ‘ตามใจ

                คำสั้นๆ มาพร้อมกับใบหน้าเย็นชาภายใต้แว่นกันแดด มันดูดีมากเลยผมยอมรับ แต่หลังจากวันนั้น ชีวิตของผมก็ตกอยู่ในวังวนมาเฟีย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

                ถ้าผมรู้จักขอโทษ ตอนเราทะเลาะกัน อดกลั้นความสงสัย และง้อขอคืนดี! ทุกอย่างมันคงดีกว่านี้ ผมได้แต่คร่ำครวญกับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ ถ้าหากย้อนเวลาได้ ผมจะรีบง้อฮยอกแจอย่างเร็วเลย ผมสาบาน!

     

     

                Rrrrr

              เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของผมดังขึ้น ดึงความคิดของผมให้กลับสู่ความจริงที่ว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ในออฟฟิศของมาเฟีย

                “รุ่นพี่ทุกคนครับ ผมกลับก่อนนะครับ”

                “จะไปไหน วันนี้วันเสาร์ นายไม่มีเรียนซะหน่อย” ฮยอกแจที่นั่งอยู่กับบอส หันมาถามผมด้วยสายตาอาฆาตร

    อ่า สงสัยจะยังไม่หายแค้น

                “คงไปเดทมั้ง ธรรมดาของวัยรุ่น”

    ผมกำลังจะปฏิเสธรุ่นพี่ แต่ไม่ทันแล้ว สายตาฮยอกแจตอนนี้ไฟลุกพรึ่บเลยครับ จัดว่า...น่ากลัว

                “ปะ..เปล่านะ” ต้องรีบปฏิเสธครับ ไม่งั้นผมอาจจะตายได้

                “มีรายงานต้องส่งวันจันทร์” แต่เหมือนฮยอกแจจะไม่เชื่อ ผมเลยต้องรีบชี้แจงเพิ่มเติม

                “ทำที่นี่”

                “ทำไม รึว่าทำไมได้” พอเห็นผมเงียบไป เสียงหวานแหลมของฮยอกแจเลยถามซ้ำ ดีหน่อยตรงที่ว่าตอนนี้ตาของฮยอกแจไฟไม่ลุกแล้วครับ

                ผมนิ่งไปสักพัก ก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงโต๊ะที่ว่างอยู่ แล้วลงมือทำรายงาน

    ผมไม่มีปัญหาเรื่องสถานที่อยู่แล้วครับ ผมเป็นคนง่ายๆ กินง่าย อยู่ง่าย

    แต่หลังจากที่ผมทำไปได้ไม่นาน ผมก็ว่ามันเริ่มไม่ง่ายแล้วล่ะ สภาพการทำรายงานโดยมีผู้ชายคู่นึงที่กำลังดูดปากกันอย่างดูดดื่มเป็นแบล็กกราวนี่มันไม่ง่ายจริงๆ

                แบบนี้ใครจะไปมีสมาธิทำเล่า!! ผมโวยในใจ ยังดีที่ผมนั่งหันหลังให้บอสกับฮยอกแจ จริงๆผมจะไม่อะไรเลยถามมันไม่มีเสียงจ๊วบ จ๊วบลอยมาเข้าหูผมตลอดเวลา

    แหน่ะ ยัง ยังไม่หยุดอีก

                ไม่ได้ยิน ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ผมบอกตัวเองแบบนั้น

    เฮ่อ แล้วสุดท้ายก็หยุดครับ ผมเนี่ยต้องหยุดทำรายงานแล้วหันมาอุดหูแทนแล้ว นอกจากรายงานผมจะไม่คืบหน้าแล้วผมยังต้องสะกดจิตตัวเองอีกอย่างด้วย แต่ไงผมก็ยังได้ยินอยู่ดี

    สุดท้ายความอดทนของผมก็หมดลงครับ ผมเลยจะหลบไปอยู่ในห้องน้ำสักสองสามชั่วโมง รอให้พวกเขาเสร็จกิจแล้วผมค่อยออกมา เพราะยังไงตอนนี้ทั้งออฟฟิศก็เหลือแค่ผม ฮยอกแจแล้วก็บอสเท่านั้นเอง

    อ่า เราสองสามคน

    “มีอะไร”

    แต่ทันทีที่ผมลุกขึ้นยืน ผมก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเข้มๆที่บอสส่งมา ชะตาผมจะขาดมั๊ย

    ผมค่อยๆหันกลับไปมองที่โต๊ะทำงานของบอส และสภาพที่ผมเห็นก็คือฮยอกแจนั่งคร่อมอยู่บนตักบอส แถมเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก็หลุดลุ่ย กระดุมหายกันไปแล้วคนละสามสี่เม็ด อืม ไปเปิดห้องมั๊ยครับ ผมได้แต่ถามในใจ เกิดเป็นอี ซองมินนี่รันทดแท้ๆเลย

    “เอ่ออ..” เอ่ออะไรดีวะ

    “ผมทำเสร็จแล้วครับ” คิดอะไรไม่ออกแล้วครับ

    “ป่ะ...ไปได้รึยัง” ผมถามย้ำอีกครั้ง เผื่อจะรอด ผมไม่อยากอยู่เป็นพยานรักให้ใครหรอกนะ

    “แล้วจะยืนเซ่ออยู่ทำไม” แม่งเอ๊ย! ได้แต่สบถด้วยความขัดใจ

    ผมรีบเก็บของลงกระเป๋า แล้วเผ่นออกจากออฟฟิศทันที                                       

     

    สำหรับผม ชีวิตระหว่างมหาลัยกับออฟฟิศมาเฟียเป็นอะไรที่ค่อนข้างวุ่นวาย ผมต้องแสร้งทำให้ตัวเองดูยุ่งที่สุด เพราะฮยอกแจกำลังแก้แค้นผม โดยการทำให้ผมไม่มีเวลาไปแอบพบใครๆ และก็แน่นอนครับ ฮยอกแจทำสำเร็จ ถึงแม้ผมจะบอกว่าแสร้ง แต่แค่งานที่ออฟฟิศนั้นผมก็แทบไม่มีเวลาไปแวะที่ไหนแล้วจริงๆ

    ผมเดินคิดอะไรไปเรื่อย จนกระทั่งสะดุดตากับผู้ชายคนนึงที่เดินผ่านมา อ่า น่ารักแฮะ เราสบตากันโดยบังเอิญ ผมถูกใจเขา ถ้าได้ก็คงดี ผมขยิบตาให้เขา เหมือนเป็นสัญญาณ ผมมั่นใจว่าผมทำท่านี้แล้วหล่อนะ แต่แล้วเขาก็เมินผม

    เฮ่อ สุดท้ายผมก็เดินคนเดียวเหมือนเดิม เหงาชะมัด

     

    ==

     

    ขณะเดียวกันภายในออฟฟิศของสินเชื่อแซฮัน ที่ตอนนี้ความเงียบเข้าครอบงำแทนที่ฉากรักดูดดื่มเมื่อสักครู่ ฮยอกแจกำลังเหม่อมองไปที่กระจกใส สายตากำลังจ้องมองซองมินกำลังเดินห่างออกไป

    “เป็นอะไรไป” ร่างสูงที่ถูกขัดจังหวะ เพราะอีกฝ่ายนิ่งไปถามขึ้นด้วยความสงสัย

    ร่างบางที่ท่อนบนเปลือยเปล่าผละลุก จากตักแกร่งของอีกฝ่าย แล้วเดินไปที่ริมกระจก สายตายังคงเหม่อมองออกไปที่ริมถนน ถึงแม้ร่างของซองมินจะเดินออกไปไกลแล้วก็ตาม

    “ผมแค่...รู้สึก...” ฮยอกแจพูดเพียงเท่านั้นก็จะนิ่งไป ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง

    “อยากทำก็ทำ ไม่มีอารมณ์ก็บอก” เสียงเข้มที่ดังแทรกความเงียบนั้น ไม่ได้เข้าหูร่างบางแม้แต่น้อย

    เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบ ร่างสูงก็เลยปล่อยให้ความเงียบปกคลุมเช่นเดิม จะมีก็เพียงเสียงไฟแช็คที่ถูกจุดขึ้น เพื่อสูบบุหรี่ สายตาคมมองแผ่นหลังบาง พลางคิดอะไรบางอย่าง

     

    ==

     

                “หา?!

    พอมาถึงออฟฟิศ ผมก็เจอแจคพ็อตเลยครับ

                “ตั้งแต่นายเข้ามาแก๊งค์เรา ถึงจะไม่กี่เดือน แต่ก็ทำแต่งานในออฟฟิศ ต่อไปฉันจะให้นายทวงหนี้”

                “แต่ผมไม่ใช่คนในแก๊งค์นี้ซะหน่อย...”

                “ถ้าทวงหนี้ได้ ต่อไปจะให้เงินเดือน”

    อะไรเงินๆนะครับ ผมนี่ตาลุกวาวเลย

    “ครับ บอสจะใช้อะไรผมว่ามาเลยครับ” อ๊า เงินเดือนของผม

                “แต่ถ้าไม่สำเร็จ นายต้องไปจากโซล”

                เจอประโยคนี้เข้าไปเหมือนมีใครมาเจาะมโนภาพผมให้แตกดังโผล๊ะ แล้วอย่างนี้ชีวิตน้อยๆของผม ยังจะอยู่รอดปลอดภัยมั๊ยครับ

     

                     

    Talk...
    หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
    เรื่องนี้เราเขียนเพื่อสนองนี้ดตัวเอง
    เนื้อเรื่องทั้งหมดนั้นแแปลงมาจากการ์ตูน
    ToTally Captivated รักร้ายนายจอมโหด
    ของสำนักพิมพ์ Elfy
    ซึ่งเป็นการ์ตูนที่เราชอบมากเรื่องนึง
    ลองไปหาอ่านกันได้นะคะ สนุกจริงๆ

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×