คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : memory-8-
ความเงียบที่เข้ามาปกคลุมคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งแต่เช้าเพราะเจ้านายทั้งสองของบ้านไม่อยู่ถูกทำลายลงทันทีเมื่อรถราคาแพงแล่นมาจอดที่ประตูทางเข้า
“พี่ต้องการคำอธิบาย
เรื่องนั้น”คังซึงยูนเอ่ยขัดขึ้นเมื่อเห็นทีท่าของน้องชายว่ากำลังจะขึ้นห้อง
“ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ ไว้วันหลังนะ ผมเหนื่อย”
“น้องนัม ไม่ได้กำลังปิดบังอะไรพี่ใช่ไหม”
ทันทีที่ได้ยินพี่ชายของตัวเอ่ย รถเข็นอัตโนมัติหยุดเลื่อนโดยทันที สีหน้าของใบหน้าหวานนั้นเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ
และถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“พี่กำลังสงสัยผมหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เพียงแค่พี่แค่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอยากที่มันขาดหายไป เหมือนพี่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นไม่หมด”
“พี่ไม่เชื่อใจผมแล้วสินะ”
“ไม่…”
“ทำไม คิมจินอูเป่าอะไรใส่หูพี่ มันเล่าอะไรหรอ ห้ะ!!!”
คำพูดแต่ละคำถูกตะคอกและตะโกนออกมา จนสาวรับใช้แต่ละคนเริ่มเดินออกไปจากสถานการณ์ตรงนั้นที่ละคน ที่ละคน
และนั่นมันยิ่งทำให้ความสงสัยของซึงยูนเพิ่มขึ้น
ทำไมแทฮยอนต้องโกรธขนาดนี้
แล้ว
จินอูจะเล่าอะไรให้เขาฟัง
“พี่กำลังคิดอะไรอยู่ อย่าบอกนะ ที่พี่กำลังสงสัยผมเพราะพี่เริ่มรักมันอีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ นัมกำลังเข้าใจพี่ผิด”
“….”
“โอเคๆ พี่จะไม่ถามเรื่องนั้นอีก น้องนัมไปพักผ่อนเถอะ”เมื่อคาดคั้นน้องชายสุดที่รักให้พูดความจริงไม่ได้
ซึงยูนจึงตัดสินใจเก็บความสงสัยนี้ไว้เพียงผู้เดียว
คืนนี้ซึงยูนนั่งทำงานในห้องทำงานเพียงคนเดียวเสียจนดึกดื่น
จนดวงตาเริ่มล้า จึงใช้นิ้วนวดเบาๆที่หัวตา จริงๆเขาเองก็รู้สึกง่วงมาสักพักแล้ว
เพียงแต่แค่ยังรู้สึก นอนไม่หลับ เลยเลือกที่จะลุกขึ้นมาทำงานต่อ
ละนี่ก็เกือบจะตีหนึ่งแล้ว
ซึงยูนเก็บของงทุกอย่างเข้าที่เพื่อความเป็นระเบียบ
ปิดไฟในห้อง ก่อนที่จะเดินออกมา
แต่ต้องแปลกใจที่เพิ่งเห็นแม่บ้านคนสำคัญประจำคฤหาสน์แห่งนี้เพิ่งเดินออกมาจากห้องของน้องชายตัวเอง
พร้อมกับแก้วนมที่ยังบรรจุนมอยู่เต็มแก้ว
“นี่ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว
ป้ายังไม่นอนอีกหรอครับ“ ซึงยูนเดินเข้ามาหาและทักทายด้วยคำสุภาพ
ป้านมตกใจเล็กน้อย
ก่อนจะยิ้มด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ
“คะ คือป้า ป้ามาเก็บแก้วนมที่ให้เด็กรับใช้เอามาให้คุณหนูนัมตอนหัวค้ำน่ะค่ะ”
“อ่า จริงๆป้ามาเก็บตอนเช้าก็ได้นะครับนี่มันดึกมากแล้วด้วย”
“ป้ายังไม่ค่อยง่วงน่ะค่ะ”
“แล้วน้องนัมหลับหรือยังครับ”
“หลับไปแล้วค่ะ”
“งั้น
รบกวนป้าเข้าไปคุยกับผมในห้องแปปนึงนะครับ ผมขอเวลาไม่นาน” คำพูดของซึงยูนไม่ใช่คำสั่งแต่มันก็ไม่ใช่คำที่ใครๆจะปฏิเสธได้
ป้านมจึงเดินตามซึงยูนไปอย่างขัดไม่ได้
คำพูดคุยของคนทั้งสองคนถูกแอบฟังโดยคนที่แอบฟังผ่านประตูห้อง
คนที่ถูกเข้าใจว่าหลับไปแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น
และดูเหมือนจะสดใสเป็นพิเศษเพราะเจ้าของบ้านคนเล็กนั่งรถเข็นมาด้วยรอยยิ้ม
ทำให้คนที่นั่งรออยู่บนโต๊ะรับประทานอาหารแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“มอนิ่งครับพี่ชาย”
ชายหนุ่มเอ่ยทักพี่ชายของตนก่อนซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในครอบครัวนี้นัก
“ทักทายคนอื่นก่อนเป็นด้วยหรอเรา”
ซึงยูนแซว
“พี่ก็..”
“ล้อเล่นน่า วันนี้อารมณ์ดีมาจากไหนเนี่ย หืม?”
“นัมแค่ รู้สึกผิดน่ะครับ”
“รู้สึกผิด??”
“ก็เมื่อวานที่นัมตะคอกใส่พี่
ว่าพี่ นัมขอโทษนะ อย่าโกรธนัมนะ นัมแค่รู้สึกเครียด กลัว ระแวง ว่าเหตุการณ์เดิมๆมันจะกลับมาทำร้ายครอบครัวของเราอีก
พี่ก็รู้ว่าเรามีกันอยู่แค่สองคน
นัมแค่ไม่อยากให้พี่โดนมันหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก พี่ต้องเชื่อใจนัมนะ
เชื่อใจน้องนะ “ น้ำตาหยดเล็กๆถูกบีบออกมาด้วยความตั้งใจ
ซึงยูนเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของน้องชายตัวเองที่ไหลออกมา แล้วลูบหัวเล็กเบาๆเชิงเอ็นดู
“ไม่ต้องร้องนะ
พี่เข้าใจ และพี่ก็จะเชื่อใจน้องของพี่ด้วย”
แทฮยอนส่งยิ้มบางๆด้วยแววตาเศร้าตามที่ตั้งใจไว้
และแน่นอนคนขี้สงสารและใจอ่อนอย่างซึงยูนก็ติดกับเขาอย่างง่ายดาย
“คุณชายใหญ่ครับ
รถพร้อมแล้วนะครับ”คนขับรถคนสนิทของซึงยูนเข้ามาบอกเจ้านายของตนเอง
“อื้ม พี่ไปทำงานก่อนนะน้องนัม อย่าลืมทานข้าวให้หมดนะ พี่บอกหมอฮุนแล้วว่าให้มาที่บ้านเรา”
“ครับ พี่ก็ตั้งใจทำงานนะครับ”
เพียงแค่เห็นรถของพี่ชายเคลื่อนออกไป
นัมที่แสนร้ายกาจคนเดิมก็กลับมา
ดวงตาที่เศร้าเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นมองสาวใช้ด้วยความเกลียดชัง
“เอาอาหารเช้าไปให้ฉันข้างบน แล้วเรียกป้านมขึ้นไปพบฉันด้วย”
“เมื่อคืน..”
เพียงแค่ได้ยินเสียงเปิดประตูจากคนที่ตัวเองต้องการพบ
แทฮยอนก็เอ่ยถามโดยทันทีไม่รอให้ประตูปิดลง
“พี่ชายเรียกป้านมไปทำอะไรหรอครับ”
“คือ…”
“บอกผมมาให้หมด ถ้าป้านมยังอยากให้ครอบครัวอยู่อย่างมีความสุข”
คำขู่นี้ดูเหมือนได้ผลตลอดเมื่อนำมาใช้
เพราะแทฮยอนแอบไปรู้มาว่าทางบ้านของป้านมมีปัญหาด้านการเงิน มากพอสมควร
เขายื่นมือเข้าไปช่วย และแน่นอนว่ามันต้องมีเงื่อนไข
“ค่ะ เมื่อคืนคุณชายใหญ่เรียกไปถามเกี่ยวกับเรื่องเด็กผู้ชายคนนั้นแหละค่ะ”
“แล้วป้าบอกพี่ชายไปว่าอะไรหรอครับ” ถึงคำพูดจะดูสุภาพแต่แววตานั้นก็ยังคงความน่ากลัว
“ป้าก็บอกตามที่คุณหนูบอกป้าเมื่อคืนแหละค่ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ”
“ขอบคุณครับ “
“แต่คุณหนูคะ ทำแบบนี้มันจะดีหรอคะ ถ้าคุณชายรู้..”
“ป้าไม่มีสิทธิ์เสนอความคิด แค่ทำตามที่ผมบอกก็พอ ถ้าป้าไม่บอก พี่ชายจะไม่รู้”
“…”
“ผมหมดธุระแล้ว ป้าไปทำธุระของป้าต่อเถอะ”
เด็กน้อยดวงตากลมวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์หรูเพื่อหาคนบางคนที่เขานั้นรู้จัก
แต่ก็ต้องเสียหลักล้มลง
พร้อมเด็กชายอีกคนที่เขาชนทำให้ของที่ทั้งสองหลนกระจัดกระจายไปทั่ว
“อ้ะ!ขอโทษฮะ “ ไม่ว่าคนผิดจะเป็นใครแต่เด็กตาแป๋วก็เป็นคนเอ่ยคำขอโทษนั้นออกมาก่อน
“ไม่เป็นไรๆ
นายเจ็บตรงไหนไหม”เด็กชายอีกคนถามพร้อมลุกขึ้นก่อนจะยื่นมือมาเพื่อจะช่วยเด็กชายอีกคนให้ลุกขึ้น
“ไม่ฮะ”มือเล็กยกขึ้นมาจับมือที่ใหญ่กว่าตรงหน้าเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“นายเป็นใคร
ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลยล่ะ” เด็กชายตัวสูงกว่าถามพร้อมหรี่ตามองประกอบคำถามนั้น
“เราชื่อคิมจินอู
เราเป็นเพื่อนกับอีซึงฮุน ว่าแต่นายเป็นใครหรอ”
“ฉันชื่อคังซึงยูน เป็นลูกของเจ้าของบ้านหลังนี้”เพียงแค่ได้ยินคำตอบจากคังซึงยูน
ดวงตากลมของเด็กน้อยจินอูก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“เราขอโทษๆๆๆ
ขอโทษจริงๆเราไม่ได้ตั้งใจจะชนนายนะ เราซุ่มซ่ามเอง”จินอูก้มศรีษะเพื่อเป็นการขอโทษอยู่หลายรอบ
ด้วยความรู้สึกผิด
ต่างกับเด็กชายเจ้าของบ้านที่มองแล้วยิ้มกับการกระทำอันน่ารักของคนตัวเล็ก มือหนาเอื้อมไปจับหัวที่ก้มลงไปมาให้หยุด
“ถ้านายไม่หยุดก้มหัวให้ฉัน
ฉันจะโกรธนาย”
เอามือออกจากหัวเล็กเปลี่ยนเป็นกอดอกหลวมๆ
“ก็ได้ อย่าโกรธเราเลยนะ”
“อื้ม ไม่โกรธ แล้วนายมาที่นี่ทำไมล่ะ”
“เรามาหาซึงฮุนน่ะ อยู่ที่นี่ใช่ไหม”
“ไม่!!!!”
เสียงใสอีกเสียงดังขึ้นมาอีกทาง
เสียงที่สามที่เข้ามาในวงสนทนา
“น้องนัม”
“พี่ฮุนไม่ได้อยู่ที่นี่
กลับไปได้แล้ว ไปป!!” เสียงเล็กตวาดจนเสียงแหลม
“พูดดีดีหน่อยสิน้องนัม
ดูสิ เพื่อนกลัวหมดแล้ว”ซึงยูนเอ็ดน้องชายตัวเองที่กำลังทำตัวไม่ดีกับเพื่อนใหม่
“เขาไม่ใช่เพื่อนนัม นัมไม่ชอบเขา“
“ทำไมล่ะ
ทำไมนายไม่ชอบเรา เราอยากเป็นเพื่อนกับนายนะ”เด็กตาแป๋วเดินเข้าไปจับที่มือเล็กของเด็กดื้อเอาแต่ใจ
“แต่ฉันไม่อยาก!!!”เสียงตวาดดังขึ้นอีกครั้งพร้อมมือที่ถูกสะบัดออกอย่างแรง
“ถ้าเขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย
ก็ไม่ต้องไปเป็นเพื่อนกับเขา จินอู”เสียงอีกเสียงดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนวงสนทนาทั้งหมด
“ซึงฮุน”
“กลับบ้านเรากันเถอะ”ซึงฮุนเดินเข้ามาจับข้อมือเล็กให้เดินไปกับเขา
จินอูเดินตามแรงดึงไปด้วยความเงียบ
“เดี๋ยวก่อน!!”
เท้าทั้งสองคู่หยุดชะงักตามคำที่ถูกตะโกนไล่หลังมา
เจ้าของบ้านตัวน้อยเดินเข้ามาหาเด็กน้อยตาแป๋วพร้อมกระซิบกระซาบบางอย่าง
ซึ่งซึงฮุนเองก็ไม่ได้ยินและเมื่อเห็นรอยยิ้มของเพื่อนตัวเองก็พอจะรู้ว่า
ซึงยูนคงไม่ได้มาว่าเพื่อนของเขาเป็นแน่ แต่ก็น่าสงสัยอยู่ดี ว่าคุยอะไรกัน
คนถูกกระซิบยังคงยิ้มและนึกถึงคำที่เด็กชายคนนั้นบอกกับตัวเอง ว่า
โครม!!!!!
แฟ้มเอกสารจำนวนมากถูกโยนมาตรงโต๊ะทำงานของพนักงานใหม่
เรียกสติที่ล่องลอยของจินอูกลับมาโดยทันที
“มั่วแต่นั่งเหม่ออยู่นั่น บริษัทจ้างมาเหม่อหรอห้ะ!!”
พนักงานหญิงที่ดูหนิ่งยโสมองด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ขะ ขอโทษจริงๆครับ”
“อย่างที่คุณแทฮยอนบอกไว้ไม่มีผิด
เด็กเส้นก็ยังคงเป็นเด็กเส้นอยู่วันยังค่ำ”เด็กเส้นงั้นหรอ แทฮยอนบอกอย่างงั้นหรอ ทำไมล่ะ
เขาเองก็สอบสัมภาษณ์เหมือนพนักงานคนอื่นๆนี่นา
“ฮ่าๆ
นี่บอกเคล็ดลับนายหน่อยสิ อ่อยยังไงหรอให้เขารับเข้าทำงานอ่ะ” พนักงานคนนั้นยังคงเหน็บแนมจินอูเสียๆหายๆ
“ผมป่าว…”
“โทษนะ ฉันไม่ว่างที่จะมายืนฟังเรื่องที่นายแต่งขึ้นหรอก เอ้อ งานนี้ฉันขอวันนี้นะ หวังว่างานคงจะเสร็จทันนะจ้ะ”
บ้าไปแล้ว
บ้าที่สุด งานตั้งมากมายขนาดนี้ ให้เสร็จวันนี้
นี่เขาต้องทำงานล่วงเวลาตั้งแต่วันแรกเลยหรอเนี่ย
ก้อกๆๆ
“เข้ามา”
“ขออนุญาตครับ
ท่านประธาน” ชายชุดสูทคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
ก่อนจะยื่นเอกสารบางอย่างให้เจ้านายของตนเอง
“นี่คือเอกสารประวัติของคุณคิมจินอูครับ ตอนนี้ได้เข้ามาทำงานในแผนกการเงินของบริษัทเราแล้วครับ”
“การเงิน? ทำไมนัมต้องให้จินอูไปอยู่แผนกการเงิน ทั้งๆที่บริษัทเรามีกฎว่าต้องผ่านการเทรนก่อนถึงเข้าแผนกนั้นได้นี่”
“เรื่องนั้นกระผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ”
“งั้นหรอ
ขอบใจมากสำหรับข้อมูล ไปทำงานต่อเถอะ” เมื่อพนักงานคนสนิทเดินออกไปไม่นาน ซึงยูนที่ในตอนแรกทำเหมือนไม่สนใจข้อมูลที่ตนเองเพิ่งได้รับมา
ก็เปิดแฟ้มเอกสารดูด้วยความตั้งใจ
แต่ก็ไม่พบข้อมูลอะไรที่จะทำให้เขาพอนึกอะไรๆที่เกี่ยวกับตัวเขาและจินอูออกเลย
แต่จะว่าไปใบหน้าของจินอู
ทำไมยิ่งมองหลายๆครั้ง มองจากหลายรูปหลายมุมแล้วมันคุ้นอย่างนี้นะ
เหมือนกับใครสักคน
“กลับบ้านเรากันเถอะ”เด็กน้อยตาตี่
เดินเข้ามาจูงมือเด็กตาแป๋วที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อครู่ให้เดินตามออกไป
พวกเขาดูสนิทกันจัง
และเด็กน้อยคนนั้นก็น่าปกป้องเหลือเกิน
ซึงยูนในวัยเด็กยืนมองสองคนเพื่อนรักเดินออกไปจากบ้านของตนก่อนจะตัดสินใจวิ่งตามออกไป
“เดี๋ยวก่อน!!”
เด็กทั้งสองหยุดเดิน
ก่อนที่ซึงยูนน้อยจะเดินเข้าไปหาเด็กตาแป๋วแล้วกระซิบว่า
“ยินดีที่ได้รู้จัก มาเล่นกันอีกนะ ตัวเล็ก”
เมื่อได้ฟังเด็กน้อยตัวเล็กคนนั้นก็ยิ้มตอบอย่างไร้เดียงสา
ก่อนจะถูกมืออีกมือให้เดินตามไป
*ฮืออออออออออออ สงสารรร ทั้งพี่จินอูและตัวเองงงง
55555 อัพช้าจริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะดองนะ เพิ่งย้ายเข้าหอวุ่นมากกก
จริงๆมันคือข้ออ้างอะแหล่ะ ข้าน้อยผิดไปแล้วววว ตอนนี้ งงๆกันไหมเอ่ยยย
เม้นกันด้วยเด้อ จะพยายามมาต่อเรื่องนี้ให้ไวที่สุดนะคะ
ตอนนี้ฉากยูนวูยังไม่หวือหวารออีกนิด เน้อ ฝากๆ #ความทรงจำของซึงยูน
ความคิดเห็น