คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : memory-6-
“เที่ยงแล้วอะ ไปกินข้าวกัน”
แทฮยอนพูดพร้อมกดปุ่มเลื่อนรถเข็นอัตโนมัติของตนเอง ไปยังโต๊ะที่ซึงฮุนกำลังนั่งหาข้อมูลบางอย่างอยู่ ดวงตาเล็กละจากการอ่านข้อมูลในหนังสือ เหลือบมองนาฬิกาสีดำเรือนสวยที่ข้อมือตัวเอง ก่อนจะลากสายตากลับมาตัวหนังสือที่อยู่บนหนังสือ
“ครึ่งวันมานี้นายรู้สึกปวดขาบ้างไหม”ถามออกไปโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองบุคคลที่ถูกถาม
“ไม่ฮะ ย้าห์ พี่หมอฮุนได้ยินผมพูดหรือเปล่า ได้เวลากินข้าวเที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวกัน”เด็กคิ้วตกเริ่มหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้มากอะไร เพราะกลัวคนตรงหน้าจะรำคาญ
ถึงแม้เสียงของแทฮยอนจะดังเข้ามาในโสตประสาทของซึงฮุนแล้วแต่เจ้าตัวกลับทำเป็นไม่ได้ยิน และยังคงทำงาน
ของตัวเองต่อไป
ก่อนที่หนังสือจะถูกปิดลงเพราะเสียงข้อความจากโทรศัพท์
ติ้งงงงง
ฮุนนี่ กินข้าวเที่ยงกัน ^_^
รอยยิ้มถูกเผยอีกครั้งเมื่อซึงฮุนอ่านข้อความที่ถูกส่งมาแล้ว
“นำอาหารกลางวันมาให้คุณแทฮยอนด้วย”นิ้วยาวกดปุ่มบางอย่างเพื่อออกคำสั่งกับเลขาหน้าห้อง
ซึงฮุนลุกขึ้นยืนพร้อมจัดเสื้อผ้า และสวมสูทที่ถอดไว้ตั้งแต่เข้ามาในห้องรับรองตอนเช้า แล้วหยิบโทรศัพท์ติดตัว
“พี่หมอฮุนจะไปไหน”นัมแทฮยอนเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตัวสูงกำลังจะก้าวออกจากห้อง
“ไปกินข้าว”
“เดี๋ยวก็มีคนยกมาให้ พี่จะออกไปไหนล่ะ”
“ห้องอาหารข้างล่าง”
ซึงฮุนไม่รอฟังคำพูดที่กำลังจะออกมาจากปากของแทฮยอน รีบเดินออกมาจากห้องด้วยความรวดเร็วเพราะไม่อยาก
ปล่อยให้คนอีกคนรอนาน
“รอนานไหม”ด้วยขาที่ยาวบวกกับความเร็วที่เร่งทำให้มาถึงที่หมายในไม่ช้า
“ไม่หรอก เรารอแค่สามชั่วโมงเอง”จินอูพูดแกล้ง
“เว่อร์ไปละ”ซึงฮุนยีผมคนกวนเมื่อครู่ ก่อนจะเอามือพาดไหล่เล็กเดินไปตามทางเดินที่จะเดินไปห้องอาหาร
“ทำไมคนเยอะจัง”ซึงฮุนบ่นเมื่อลงมาถึงห้องอาหาร ก็ปกติเขากินอาหารที่โรงพยาบาลหมอละพยาบาลลงมากินอาหารไม่พร้อมกันเท่าไหร่นักหรอกคนเลยไม่ค่อยเยอะขนาดนี้ แต่นี้มันบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมาก .
“อย่าเด๋อดิ นี่บริษัทนะครับไม่ใช่โรงพยาบาลของนายคนถึงได้น้อย”
“ก็แค่แปลกใจ นายจะกินอะไรอ่ะ”
“ทำไมจะซื้อให้อ่อ ไม่ต้องหรอก”
“หวาย หลงตัวเองใครจะซื้อให้ จะฝากซื้อหรอก”
“ชิ แล้วฮุนนี่จะกินอะไรอ่ะ”
“นายซื้ออะไรมาเราก็กินได้หมดแหละ”
“อ่ะๆก็ได้ งั้นเราสั่งแกงกะหรี่นะ”
“อืมๆ เดี๋ยวเราไปจองโต๊ะให้ละกัน”ซึงฮุนบอกจินอูก่อนจะพยายามใช้ดวงตาเล็กมองหาที่นั่งภายในห้องอาหาร แล้วเดินไปยังโต๊ะที่ว่างก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรอคนตัวเล็ก
ทางด้านจินอูที่ต่อแถวรออาหารที่สั่งไม่นาน มือเล็กทั้งสองถือจานข้าวด้วยความไม่ถนัด และอาจเพราะจำนวนคนที่
มาก และความรีบ ทำให้จินอูมองไม่เห็นคนอีกคนที่เดินมา
ตุ้บ!
โอ้ย!
ร่างเล็กเดินชนเข้ากับร่างสูงกว่าอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนที่จานข้าวทั้งสองจะตกลงพื้น โชคดีหน่อยที่จานไม่ได้เป็นจาน
แก้วหรือกระเบื้องแต่อย่างใด แต่โชคร้ายที่ว่ามันดันไปเลอะเสื้อสูทของคนตรงหน้า จินอูก้มขอโทษหลายครั้งทั้งๆที่ยัง
ไม่มองหน้า และก็ต้องถึงกับตาเบิกกว้างทันทีที่เห็นใบหน้าของคนในชุดสูทคนนั้น
“นาย!”
“ซะ ซึงยูน”
“นายมาทำอะไรที่บริษัทของฉัน”ซึงยูนพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง พร้อมใช้มือหน้าบีบเข้าที่ต้นแขนเล็
“โอ้ย ฉะ ฉัน คือ ฉันเจ็บ”
“สำออย”เสียงบุคคลมาใหม่ถึงกับทำให้คนที่แอบมองสถานการณ์ต่างพากันถอยออกห่างมากขึ้นโดยปริยาย
“มิโน นายพาแทฮยอนลงมาทำไม”
“ก็น้องนัมอยากลงมาดูการบริหารจัดการในส่วนของห้องอาหารพนักงาน ฉันเห็นว่า ไม่น่าจะมีใครเดือดร้อนอะไรเลยพาลงมา”
“ใช่ นัมอยากลงมาเอง ไง คิมจินอู ไม่เจอกันนานเลยนะ”
แทฮยอนยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ จินอูยิ้มตอบอย่างกลัวๆ แล้วพยายามใช้มือเล็กแกะมือหนาของซึงยูนที่ยังคงบีบที่ต้น
แขนของตัวเอง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แรงบีบนั้นลดลง
“ปล่อยมือของนายออกจากแขนจินอู” ซึงฮุนที่เห็นเหตุการณ์มาสักพักพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงด้วยความโกรธ
“อ้าว หมอฮุน อยู่นี่เองหรอ ผมให้คุณมาเป็นหมอประจำตัวของแทฮยอนทำไมคุณไม่ดูแลน้องชายผมล่ะ”
“ขอโทษนะครับเวลานี้เป็นเวลาพักของผม ผมมีสิทธิที่จะพักที่ไหนก็ได้ กับใครก็ได้ไม่ใช่หรอครับ”
“แปลกนะครับ ทั้งๆที่ผมได้เตรียมอาหารราคาแพงไว้ให้คุณที่ห้องแล้วแท้ๆแต่คุณก็เลือกที่ลงมากินอาหารพวกนี้กับ คุณคิมจินอู”
“ไม่แปลกหรอกครับ แต่ตอนนี้ผมขอให้คุณปล่อยแขนเพื่อนผมได้แล้ว” ซึงฮุนหันไปมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดวงตากำลังสั่นเครือพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเอง
เขารู้ว่าจินอูไม่ได้รู้สึกเจ็บที่ต้นแขนเพียงอย่างเดียวแต่ตอนนี้หัวใจของจินอูคงเจ็บไม่น้อย
มือหนาปล่อยต้นแขนให้เป็นอิสระก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีเทาของตัวเองขึ้นมาเช็ดมือที่เพิ่งจับจินอูไป ไม่เท่านั้นยัง
โยนผ้าเช็ดหน้าที่เพิ่งใช้ไปลงถังขยะอย่างไม่มีความรู้สึกเสียดาย
จินอูมองดูการกระทำทั้งหมดของซึงยูน ในใจได้แต่ตั้งคำถามว่า
นี่เขาน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ
“นายยังไม่ตอบฉัน นายมาทำอะไรที่บริษัทของฉัน”จินอูคาดครั้นเพื่อให้ได้คำตอบ
“คือ ฉัน”จินอูยังคงไม่กล้าที่จะบอกออกไปเพราะกลัวว่าถ้าซึงยูนรู้คงต้องไล่เขาออกแน่ๆ
“นายก็บอกไปสิ หรือกลัวอะไร”แทฮยอนยิ้มเยาะเพราะรู้ในสิ่งที่จินอูกลัว
“คือ…”
“แล้วทำไมเขาจะมาที่บริษัทคุณไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อจินอูเป็นพนักงานของที่นี่”
“ซึงฮุน!”คิมจินอูรีบหันไปเอ็ดเพื่อนทันทีที่ซึงฮุนเป็นคนตอบแทน เพราะถ้ารอคำตอบจากปากจินอูเองคงจะนานกว่านี้ ในความคิดของซึงฮุน ถ้าหากซึงยูนจะไล่จินอูออกคงเป็นการดี เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากให้จินอูมาทำงานกับคนคนนี้เท่าไหร่
“หมายความว่าไง” ซึงยูนรีบหันไปถามแทฮยอนและมิโนทันทีด้วยความแปลกใจ
“ก็อย่างที่พี่ได้ยินแหละครับ คิมจินอูเป็นพนักงานใหม่ของที่นี่”
“แต่ น้องนัมเคยบอกพี่ว่า…”
“ไว้ผมจะอธิบายให้พี่ฟังที่บ้านละกัน ผมมีเหตุผลของผม”
“หมดเรื่องแล้วใช่ไหมครับ งั้นผมและจินอูขอตัว”ซึงฮุนเอื้อมมือไปจับจับมือเล็กไว้ ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเดินก็ต้องหยุดลงเมื่อมืออีกมือนึงของคนตัวเล็กถูกกระชากด้วยแรงของซึงยูน
“ยังไม่หมดครับ”ซึงยูนกระตุกยิ้มมุมปาก ก้มมองที่เสื้อสูทที่เลอะของตัวเองเพื่อบอกถึงเหตุผลที่ทั้งสองยังไปไม่ได้
“คุณจินอูตามผมขึ้นไปบนห้องด้วยครับ ส่วนคุณหมอรบกวนทานข้าวคนเดียวไปก่อนนะครับ ”ซึงยูนหันไปสั่งคนตัวเล็กที่ยังทำหน้ารู้สึกผิด แล้วเดินออกไปเพื่อขึ้นไปรอจินอูบนห้องของตัวเอง
จินอูส่งยิ้มบางๆให้ซึงฮุน เพื่อให้คลายกังวลได้บ้าง ก่อนจะเดินตามซึงยูนไป
ฮะๆมาแบ้ววววว
มีแต่คนชอบโมเม้นที่จินอูอยู่กับซึงฮุน ฮ่าๆๆๆ
บอกเลยบางครั้งไรท์ก็ลืมว่าซึงยูนเป็นพระเอก ไม่หรอกๆ ซึงยูนยังจำอะไรไม่ได้ไง
ต้องเข้าใจ ซึงฮุนจะเริ่มหายไปอยู่กับน้องนัม รอเราก่อนนน
#ความทรงจำของซึงยูน ฝากแท็กค้าฟฟฟ
ความคิดเห็น