คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : memory-1-(100%)
“หมอฮุนคะ ขออนุญาตนะคะ”ซึงฮุนพยักหน้าอนุญาตพยาบาลสาวเดินเข้ามาให้ห้อง เขาวางปากกาที่กำลังใช้เขียนงานลง
“ท่านประธานชเว ให้เอาเอกสารนี่มาให้ค่ะ และก็เรียกให้หมอไปพบเย็นนี้ด้วยค่ะ”พยาบาลสาวสวยถือแฟ้มเอกสารมาวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกไป ซึงฮุนมองแฟ้มด้วยความสงสัย ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดเพื่อดูข้อมูลข้างใน
ประวัติคนไข้ นัมแทฮยอน
เฮ้อ แฟ้มถูกปิดลงพร้อมลมหายใจที่ถูกถอนออกมา ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าท่านประธานชเวที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ส่งแฟ้มประวัติของคนไข้รายใหม่ให้เขาทำไม แม้แต่คิดจะเข้าไปใกล้ซึงฮุนยังไม่อยากเข้าไป
“นัมไม่กินยา ไม่ชอบกิน ทำไมคุณอาหมอต้องบังคับ”
“คุณหนูนัมต้องกินนะครับ ไม่งั้นไม่หายนะ”
“นัมไม่อยากกินเอาออกไปปป”เด็กหนุ่มปัดยาทิ้งทำให้ยานั้นหกเลอะ อาหมอวัย40กว่า
“นัมทำอะไรหน่ะ เห็นไหมพ่อพี่เลอะหมดแล้ว “ซึงฮุนวัย10ขวบ ตะคอกใส่นัมแทฮยอนวัน7ขวบ จนเด็กน้อยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ไม่เอาหน่าซึงฮุนไม่ว่าน้องนะ กินหน่อยนะครับ ถ้าคุณหนูกินยาอาหมอจะให้ออกไปเล่นกับพี่ฮุน”
“แต่ผมไม่อยากเล่นกับน้องนัม น้องนัมชอบดื้อกับพ่อ”
“ฮุน อย่าพูดแบบนี้อีกนะ”ซึงฮุนทำหน้าหงุดหงิดทันทีที่โดนดุ
“ก็ได้ นัมจะยอมกินยาแต่พี่ฮุนต้องไปเล่นเป็นเพื่อนนัม”ซึงฮุนมองค้อนใส่เด็กหน้าหวาน เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนรับใช้ก็รีบเทยาลงในช้อน
“พี่ฮุนต้องป้อนยานัมด้วย”เด็กหนุ่มนั่งนิ่งก่อนจะรู้สึกถึงสายตาของพ่อที่กำลังจะโมโห เลยลุกขึ้นไปถือช้อนป้อนยาใส่ปากให้นัมแทฮยอน เด็กหน้าหวานยิ้มแป้น แต่ซึงฮุนกลับเบื่อหน่ายอย่างบอกไม่ถูก
ซึงฮุนเดินขึ้นมายังชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นของท่านประธานชเวตามเวลานัด ท่านประธานชเวเป็นเพื่อนกับพ่อของซึงฮุนที่เสียไปแล้ว เขาเอ็นดูซึงฮุนเหมือนลูก แต่ซึงฮุนก็ไม่เคยจะใช้โอกาสนี้เพื่อไต่ขึ้นระดับสูง เขายินดีที่จะเป็นหมอธรรมดาแบบนี้ เลขาสาวโค้งให้ซึงฮุนก่อนจะเปิดประตูห้องให้ซึงฮุนเข้าไป
“สวัสดีครับ”ซึงฮุนเอ่ยพร้อมโค้งตัวเพื่อแสดงความเคารพ
“นั่งลงก่อนสิ”
“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราเข้าเรื่องเลยดีกว่า เอาแฟ้มที่ฉันฝากให้ไปหรือเปล่า ซึงฮุนหยิบแฟ้มที่ถือขึ้นมาไว้บนโต๊ะ ชายหนุ่มวัยกลางคนพยักหน้ารับ
“คนไข้ คนนี้เป็นคนไข้ประจำของพ่อเธอ ฉันคิดว่าเธอคงจะทำต่อจากเขาได้ดีกว่า หมอคนอื่น “
“แต่”
“ฉันไม่ได้เรียกมาเพื่อจะขออนุญาตหรอกนะ หมอลีหน่ะเขาไม่เคยเลือกคนไข้นะ เธอเป็นลูกเขาเธอน่าจะรู้ดี”
“ครับ”
“เธอคือตัวแทนของหมอลี อย่าทำให้เขาผิดหวังหล่ะ”ประธานชเวเดินมาแตะที่บ่าของซึงฮุนแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ซึงฮุนนั่งกุมขมับอยู่คนเดียวในห้องสักพัก ก่อนจะลุกเดินออกมา
ครืดดดดดดด ครืดดดดด
จินูน้อย
เมื่อซึงฮุนเห็นชื่อของบุคคลที่โทรเข้ามาเขายิ้มแล้วรีบกดรับทันที
“ว่าไง”
(ฮุนนี่อยู่ไหน)
“กำลังจะกลับ มีอะไรหรอ”
(รีบกลับมานะ)
“อืม”
ปลายสายถูกตัดไปแล้ว ชายหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าเพื่อจะได้รีบกลับไปหาคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลา แล้วนั้นก็เพิ่งโทรมา บอกให้เขารีบกลับ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า
ก้อกๆ
ไม่นานเพื่อนหน้าสวยก็เดินมาเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่รู้ไปอารมณ์ดีมาจากไหน แต่แค่เห็นรอยยิ้มสวยๆนั้นซึงฮุนก็เผลอยิ้มตามได้อย่างง่ายดาย
“มีอะไรหรือเปล่าให้เรารีบกลับ”ซึงฮุนเดินไปในห้องครัวก็เห็นอาหารมากมายวางอยู่บนโต๊ะอาหาร
“โหวว ลงมือทำอาหารเองด้วย อารมณ์ดีมาจากไหนเนี่ยจินู”
“มีสิ ดีมากๆเลยด้วย”ซึงฮุนหันหน้ามาฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ เรื่องอะไรทำให้นายมีความสุขขนาดนี้นะจินอู
“วันนี้มีบริษัทโทรมานัดฉันสัมภาษณ์งานด้วย รู้ไหมบริษัทอะไร”ซึงฮุนส่ายหน้าไปมา
“KN group บริษัท KN groupเรียกเราไปสัมภาษณ์แหละ”
“อืม ดีใจด้วยนะ” ถึงแม้ซึงฮุนจะพูดว่าดีใจด้วย แต่น้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้ดีใจตามคำพูดเลยสักนิด เพราะเขาเองรู้ว่านั่นคือบริษัทของซึงยูน เลยทำให้เพื่อนสนิทตัวเล็กดีใจขนาดนี้
“วันไหนไปสัมภาษณ์หล่ะเราจะได้ไปด้วย”ซึงฮุนนั่งลงบนเก้าก่อนหยิบช้อนตักกับข้าว ทำทุกอย่างให้ปกติที่สุด แม้ในใจของเขาจะรู้สึกเจ็บก็ตาม
“พรุ่งนี้”คนตัวเล็กเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามซึงฮุน
“กี่โมงอ่ะ”
“บ่ายๆอ่ะ ฮุนนี่เข้าเวรพอดี”
“งั้นเราก็ไม่ได้ไปด้วยอ่ะดิ แล้วนี่เตรียมเอกสารยังอ่ะ”
“เตรียมแล้ว เรียบร้อย”
“ดีแล้ว”ซึงฮุนก้มหน้าก้มตากินข้าว
“วันนี้ที่ทำงานมีอะไรหรือเปล่า”ไม่แปลกที่จินอูจะถามอย่างนี้เพราะพวกเขาเป็นสนิทชนิดที่ว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าซึงฮุนจะเจอเรื่องแย่ขนาดไหนเขาก็จะมาเล่าให้จินอูฟังเสมอ จินอูก็เช่นเดียวกัน
“วันนี้อาจารย์หมอให้เคสคนไข้ฉันมาคนนึง เป็นคนที่พ่อฉันเคยรักษาให้”
“ก็ดีสิ ได้คนไข้ประจำดีจะตาย อีกอย่างพ่อนายเคยดูแลด้วย ”
“หรอ ก็คงงั้น เฮ้อ”
“แล้วทำต้องเครียดด้วยหล่ะ”
“นั่นสิ…ช่างมันเถอะเนอะอาจจะดีอย่างที่จินูบอกก็ได้ แต่ฝีมืออร่อยเหมือนเดิมเลยนะ”ซึงฮุนรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าจะบอกยังไงดี รอให้รู้รายละเอียดกว่านี้ก่อนดีกว่า
“ออกไป ออกไปให้พ้น ฉันไม่กินอะไรทั้งนั้นแหละ”แทฮยอนที่นั่งอยู่บนรถเข็นตะคอกคนใช้ ก่อนจะหยิบชามข้าวต้มราดไปบนตัวของคนใช้คนหนึ่ง ทำให้คนใช้คนอื่นๆถึงกับอึ้งนิ่งไปตามๆกัน
“เสียงดังโวยวายอะไรแต่เช้าเลยครับ น้องนัม”ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาใหม่ มองไปที่สาวใช้แล้วส่งสายตาให้คนเหล่านั้นออกไปข้างนอก ก่อนจะนั่งลงยองๆที่หน้ารถเข็นของน้องชายหน้าหวาน
“พี่ยูนน ก็สาวใช้พวกนั้นอยู่ๆก็สะดุดทำข้าวต้มหกใส่ตัวเอง”ซึงยูนพยักหน้ารับรู้
“แล้วน้องนัมก็ยังทานข้าวหน่ะสิ งั้นพี่ให้ป้านมเอาขึ้นมาให้ใหม่นะ”
“นัมไม่อยากกิน”
“แต่ถ้าหมอฮุนมาเห็นน้องนัมผอมกะหร่องแบบนี้ เขาจะคิดยังไงนะ”
“หมอฮุน พี่ยูนติดต่อพี่หมอฮุนให้นัมแล้วใช่ไหม”หนุ่มน้อยหน้าหวานยิ้มแล้วเขย่าแขนพี่ชาย ซึงยูนยิ้มแล้วพยักหน้า
“พี่ทำตามที่นัมบอกแล้ว นัมต้องกินข้าวกินยาตามที่หมอบอกนะครับ”แทฮยอนยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างดีใจ ทำไมหน่ะหรอ เพราะเขาชอบซึงฮุนมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เนื่องจากพ่อของซึงฮุนเป็นหมอประจำตัวเขามาก่อนซึงฮุนก็มักจะติดตามพ่อของเขามาโดยตลอด แล้วตอนนั้นนอกจากมินโฮแล้วเขาก็มีเพื่อนเล่นเป็นซึงฮุนนี่แหละ เด็กขี้โรคอย่างเขาจะออกไปเล่นที่ไกลๆเหมือนเด็กคนอื่นไม่ได้หรอก แล้วยิ่งนิสัยที่เอาแต่ใจยิ่งทำให้ไม่ค่อยอยากมีคนยุ่งด้วย
“ฮะ นัมจะกินข้าวกินยาตามที่พี่ชายบอก “
“ดีมากครับคนเก่ง”
“พี่ยูน”
“ครับ?”
“นัมอยากออกไปข้างนอก นัมอยากไปบริษัท แต่นัมคงไปไม่ได้ใช่ไหมฮะ เพราะนัม…”
“ไม่หรอก น้องนัมอยากไปจริงๆหรอ”แทฮยอนรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“งั้นเดี๋ยววันนี้พี่ให้มินโฮมารับนะ วันนี้พี่มีประชุมแต่เช้า ไว้เจอกันที่บริษัทนะครับ อย่าลืมกินข้าวให้หมดล่ะ”ซึงยูนลุกขึ้นยืนลูบหัวน้องก่อนจะเดินออกมาจากห้อง แล้วสั่งสาวใช้ให้เอาข้าวต้มขึ้นไปให้แทฮยอนใหม่
“เอามาให้แล้วก็ออกไปสิ ยืนมองอะไรกัน ไร้มารยาท”
“คุณหนูนัม ทานเองได้ใช่ไหมคะ”
“อย่าโง่ ฉันพิการขา ไม่ได้พิการมือ หัวมีไว้กั้นหูอย่างเดียวหรอไง ห้ะ”เสียงตะคอกของแทฮยอนทำให้สาวใช้รีบเดินออกจากห้องกันอย่างพัลวัน ไม่แปลกคนใช้ของที่นี่ถูกเปลี่ยนบ่อยเป็นว่าเล่นแต่ถ้าใครที่ยอมอยู่นั่นก็คงเพราะเงินเดือนที่ให้สูงริบกว่าที่อื่น ซึงยูนที่ได้ยินส่ายหัวอย่างหน่ายๆแต่จะทำอย่างไรได้ แม้แต่ดุซึงยูนยังไม่กล้า เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของน้องชายตัวเองว่ามันน่าเบื่อขนาดไหนที่ออกไปไหนไม่ได้ ได้แค่นั่งอยู่แต่บนรถเข็น ยิ่งปกติแทฮยอนก็ป่วยง่ายอยู่แล้ว และเขาเองก็มีส่วนผิดในอุบัติเหตุครั้งนั้น เขาเองยิ่งรู้สึกผิด ถึงแม้เขาจะจำอะไรไม่ได้แต่เขารู้แค่ว่า ถ้าเขาขับรถดีกว่านี้ แทฮยอนจะไม่เป็นแบบนี้ และความทรงจำของเขาจะไม่หายไป ตลอด1ปีที่หายไปเขาต้องไปพักรักษาตัวเองและเรียนรู้ด้านธุรกิจเพิ่มเติมที่อเมริกา และเพราะแทฮยอนคอนเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นให้ฟังเขาถึงพอจำได้บ้าง ซึงยูนไม่รู้หรอกว่าเรื่องไหนเรื่องจริงแต่เขารู้แค่ว่าแทฮยอนคือน้องชายคนเดียวของเขา เป็นคนที่เขาควรไว้ใจมากที่สุด และเขาควรจะทำให้น้องชายของเขามีความสุขที่สุด
“ฮัลโหล มินโฮ นายช่วยมารับแทฮยอนไปบริษัทด้วยนะ”
(นัมอยากเข้าบริษัทหรอ?)
“อืม ฉันฝากด้วยหล่ะ”
(อ่าๆโอเค)
นอกจากนัมแทอยอนแล้วก็ยังมีซงมินโฮที่ซึงยูนรู้สึกไว้ใจ เพราะตลอดเวลาที่ซึงยูนอยู่อเมริกาก็มีมินโฮนี่แหละที่คอยเป็นเพื่อน คอยดูแลบริษัท คอยดูแลน้องชายของเขา คอยให้คำปรึกษา เรียกได้ว่าซงมินโฮคือเพื่อนเบอร์หนึ่งของซึงยูนก็ว่าได้
“ทำไมป่านนี้พี่ชายฉันยังไม่กลับเข้ามาอีกเนี่ย”แทฮยอนที่นั่งรออยู่ในห้องทำงานของซึงยูนบ่นขึ้น เพราะเขาเองก็รอซึงยูนมานานแล้ว
“ใจเย็นหน่อยสิ เวลาประชุมเขาก็ต้องใช้เวลาแบบนี้แหละ”
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยพี่มิโน รีบพามาไมก็ไม่รู้ น่าเบื่อจะตาย”
“เอ้า พามาเร็วก็โดนบ่นอีก อีกอย่างที่ทำงานไม่มีอะไรสนุกๆทำหรอก อยากไปรอบๆบริษัทหน่อยไหมล่ะ”แทฮยอนคลี่ยิ้มทันทีที่มินโฮพูดขึ้น เพราะเขาเองก็เบื่อที่จะต้องนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมถึงแม้มันจะมีโทรทัศน์ไว้แก้เบื่อได้บ้างนิดหน่อยก็ตาม
มินโฮจัดการเข็นรถเข็นของแทฮยอนไปรอบๆบริษัท ไม่ว่าพนักงานคนไหนเห็นแทฮยอนก็จะหยุดโค้งให้เพราะใครๆต่างรู้ว่าแทอยอนคือน้องชายของเจ้านาย แถมเมื่อก่อนแทฮยอนเองก็เคยมาแผลงฤทธิ์ที่นี่บ่อยๆ มีหรือที่พนักงานที่นี่จะจำไม่ได้
“น่าเบื่อมีแต่พนักงานคนเดิมๆ”
“จะให้เขาเปลี่ยนพนักงานอะไรบ่อยๆหล่ะ เอ้อ แทฮยอนพี่ชายนายส่งข้อความมาบอกว่า วันนี้มีพบลูกค้าด่วนอ่ะ คงไม่ได้เจอ อยากกลับเลยไหม”มินโฮหยุดเข็นรถ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้แทฮยอนดูข้อความที่ซึงยูนส่งมา แทฮยอนกำโทรศัพท์ไว้แน่น ตอนนี้เขาหงุดหงิด เบื่อที่พี่ชายผิดสัญญา ก่อนทำท่าจะปาโทรศัพท์ยังดีที่มินโฮจับมือนั้นไว้ได้ทัน
“นี่นายเลิกทำลายข้าวของของพี่ได้แล้ว โทรศัพท์พี่ต้องเปลี่ยนมากี่เครื่องแล้วเนี่ย”
“ไม่พอใจหรอ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับผมสิ”เวลาโมโหแทฮยอนจะชอบไล่เขาแบบนี้อยู่เป็นประจำ เขาชินแล้วหล่ะ
“นายก็รู้ว่าพี่ทำไม่ได้ เอางี้อยากไปเดินห้างไหมเดี๋ยวพี่พาไป”
“อืม”เรื่องความรู้สึกของมินโฮที่มีต่อแทฮยอน ใช่ว่าเขาเองจะไม่รู้ แทฮยอนเองก็รู้ดีมาโดยตลอด แต่ก็นะคนมันไม่รู้สึกอะไรนี่นา เขาคิดกับมินโฮแค่พี่ชายที่เป็นได้ทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาและที่รองรับอารมณ์เท่านั้น
“งั้นแวะร้านกาแฟตรงหน้าตึกแปปนะ”
“ขอบคุณครับ”จินอูกล่าวขอบคุณคณะกรรมการที่สัมภาษณ์งานเขาทุกคนก่อนจะเดินออกมาจากห้อง หน้าสวยมองซ้ายมองขวา ห้องซึงยูนอยู่ไหนนะ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้มาที่บริษัทแห่งนี้ จริงๆเขาเองเคยมาแค่ครั้งเดียวนั่นแหละ แถมเจอแทฮยอนที่เล่นงาน ซึงยูนเลยไม่อยากให้เขามาที่นี่อีก อยากจะลองถามพนักงานแต่เขาเองก็ไม่มีความกล้าพอ
จินอูเดินไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างกล้าๆกลัวๆ
“คือผมจะมาหาคุณคังซึงยูนอ่ะครับ”
“นัดไว้หรือเปล่าคะ”ประชาสัมพันธ์สาวถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่ได้นัดไว้ครับ”
“งั้นต้องขอโทษด้วยนะคะ ท่านประธานเพิ่งออกไปข้างนอกค่ะ เห็นว่ามีงานด่วน”
“ขอบคุณครับ”จินอูกล่าวขอบคุณก่อนจะวิ่งไปหน้าตึก ซึงยูนเองก็เพิ่งขึ้นรถไป ร่างเล็กรีบวิ่งตามรถไปอย่างรวดเร็ว จินอูตัดสินใจวิ่งไปตัดหน้ารถ
ปริ้นนนนนนนนนนน
เสียงแตรดังสนั่น ยังดีที่เบรกรถของซึงยูนยังใช้การได้ดีเยี่ยม ซึงยูนเปิดประตูรถออกมาด้วยความโมโห
“ทำบ้าอะไรของนาย อยากตายหรือไง”ร่างเล็กที่หลับตาปี๋ ลืมตาขึ้นแล้วโผลเข้ากอดซึงยูนทันที
“ซึงยูน ฮึกๆ”จินอูร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตรงแผงอกซึงยูน ตอนนี้ซึงยูนเองกำลังงงและสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยไม่ได้ผลักไสคนตัวเล็กออกไป
แต่เมื่อได้สติ เขาก็ผลักคนตัวเล็กออกไปอย่างแรงจน จินอูล้มลงไปบนพื้น
“นายเป็นใคร ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร”ซึงยูนทำหน้าสมเพชคนตรงหน้า แล้วจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่
“ซึงยูน ฮึกๆ ฉันคิมจินอูไง คิมจินอูคนที่นายบอกจะดูแลด้วยชีวิต นายจำไม่ได้หรอ”ซึงยูนหลับตาลงก่อนจะขมวดคิ้วเพื่อนึกถึงเหตุการณ์บางอย่าง
“ส่วนคนนี้ ชื่อคิมจินอู เป็นคนที่พี่เกลียดที่สุด เห็นหน้าสวยๆแบบนี้เขาเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ เขาหลอกเกาะผู้ชายที่รวยไปทั่ว แล้วพอเห็นพี่เริ่มมีชื่อเสียงเริ่มมีฐานะ มันก็เลยเปลี่ยนมาเกาะพี่แทน พอพี่รู้ความจริงพี่ก็ทั้งเกลียดทั้งขยะแขยง เวลาพี่เจอมัน ไม่ว่ามันจะพูดอะไรอย่าไปเชื่อนะฮะ อย่าโง่โดนมันหลอกอีกนะฮะ”
“หึ นี่สินะ คิมจินอู” ซึงยูนมองหน้าคนตัวเล็กที่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้น ก่อนจะออกแรงดึงที่แขนอย่างแรง
“น่าสมเพช”เมื่อพูดเสร็จซึงยูนก็ผลักร่างเล็กให้ลงไปที่พื้นอีกครั้ง แล้วเดินขึ้นรถไป ทิ้งให้คิมจินอูนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นคนเดียว เหตุการณ์ทั้งหมดถูกสายตาของคนสองคนจ้องมองมาโดยตลอด แทฮยอนยกยิ้มอย่างผู้ชนะ นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดสำหรับเขาในวันนี้ แล้วหันไปมองมินโฮที่มองเหตุการณ์ด้วยท่าทีที่นิ่งเฉย
“คิมจินอูมาทำอะไรที่นี่”มินโฮถอนหายใจ แล้วยกกาแฟในแก้วขึ้นดื่มก่อนจะวางแก้วลง
“เห็นว่าวันนี้มีสัมภาษณ์งาน”
“งั้นหรอ พี่มิโนพานัมไปฝ่ายบุคคลหน่อยสิ”
“ถ้านายจะทำให้จินอูไม่ได้งานนี้ก็แค่โทรไปบอกให้เอาใบสมัครออกยากตรงไหน .”
“ก็เพราะมันง่ายเกินไป ถ้าจะแค่ทำให้มันไม่ได้งาน ในเมื่อมันอยากทำงานที่นี่นักก็ให้เขาได้งานที่นี่ไปสิ น่าสนุกจริงๆ ไปกันเถอะพี่มิโน”
สิ่งที่แทฮยอนพูดทำให้มิโนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ แทฮยอนต้องการจะทำอะไรเขาเองก็ไม่รู้ แต่เชื่อเถอะไม่นานต้องมีเรื่องมาถึงเขาแน่ แทฮยอนต้องให้เขาช่วยอะไรแน่ๆ
*หนึ่งตอนเต็มแล้วววว เป็นเรื่องออกแนวดราม่าจริงๆนั่นแหละ
จะมีคนอ่านไหมนะ 5555 อัพช้าอย่าแปลกใจ แต่จะพยายามอัพให้ไวที่สุดนะฮะ
อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้เค้านะ
แท็กยังไม่คิดอ่ะ ใจนึงก็คิดว่าไม่ต้องมีก็ได้เนอะ แต่ก็อยากให้มีเอ้ะยังไง
ไว้เจอกันตอนหน้า บับบัย
ความคิดเห็น