PART VII : hesitate
ใครบอกว่ามาเที่ยวทะเลแล้วจะรู้สึกดีขึ้น .....คังดาเนียลขอเถียงหัวชนฝา
ร่างสูงนั่งอยู่เงียบๆในห้องนอนมาเป็นชั่วโมงแล้ว หลังจากบรรยากาศแสนอึดอัดระหว่างมื้อเย็นกับผู้เป็นพี่จบลง ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าไปอยู่ในห้องของตัวเอง ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับอากาศและความเงียบที่ก่อตัวขึ้น ราวกับทั้งสองมีอะไรให้ต้องคิดทบทวนอีกมาก ดาเนียลเชื่ออย่างนั้นและคิดว่าซองอูคงมีอาการไม่ต่างกันกับเขา
เขาเองไม่รู้ว่าจะอธิบายอะไร ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วและไม่สามารถกลับไปแก้ไขมันได้
หากซองอูยังยึดติดอยู่กับเรื่องในอดีต งั้นก็คงเป็นเรื่องของเจ้าตัวที่ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ด้วยตนเอง
" ฮัลโหล "
" ควานลิน มึงสะดวกคุยไหมวะ ? "
" คือ ... "
" กูมีเรื่องรบกวนนิดหน่อย "
.
.
|| | HATE | ||
" เก็บของมาเรียบร้อย ไม่ลืมอะไรใช่ไหม? "
" อืม "
เสียงทุ้มเอ่ยถามคนป่วยที่ยังไม่หายดีพลางดึงประตูฝั่งคนขับเข้าหาตัว มาเซราติคันสีเทาหม่นเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นให้เป็นปกติ ในที่สุดก็วันอาทิตย์ ..วันสุดท้ายของทริปทะเลที่ต่างฝ่ายต่างก็อยากให้มันผ่านพ้นไปเร็วๆ
...อึดอัดจนทำตัวไม่ถูก
การเดินทางถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นจากตอนแรกที่ซองอูวางแผนไว้ว่าจะกลับช่วงค่ำ คิดจะไปเดินเล่นแถวๆชายหาดให้พอใจเสียก่อนแล้วค่อยกลับ แต่ความคิดทั้งหมดก็หยุดลงไปตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ที่ทำให้เขาต้องมานั่งซึมอยู่ในรถแบบนี้
คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้เขากล้าพูดความในใจออกไป
และรู้ดีว่าคำพูดเหล่านั้นได้ทำร้ายความรู้สึกของคนฟังอย่างแสนสาหัส
แต่ก็นั่นแหละ เขาจะไม่ขอโทษหรือแก้ตัวใดๆ... ทำได้เพียงยอมรับในผลของการกระทำที่เกิดขึ้นแล้ว
" ถึงแล้ว "
เสียงแหบพร่ากับแรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขนปลุกให้ร่างบางรู้สึกตัว ดวงตาคมลืมขึ้นอย่างช้าๆปรับสายตามองไปยังรอบกายก็พบว่ารถยนต์ได้มาจอดอยู่ในที่จอดรถส่วนตัวของเพนท์เฮ้าส์แล้ว แผ่นหลังบางเอนขึ้นก่อนจัดแจงหยิบสัมภาระในรถ ง่วนอยู่กับการเก็บของจนไม่ทันได้สังเกตว่าร่างสูงของอีกคนได้เดินเข้าไปในอาคารก่อนแล้ว ทั้งๆที่ปกติดาเนียลจะคอยอยู่ช่วยถือของหรือไม่ก็รอเขาเสมอ ริมฝีปากหยักแค่นหัวเราะกับตัวเอง
สงสัยคงจะโกรธมากจริงๆ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารในช่วงเย็นนี้ไม่ได้ต่างไปจากเมื่อวานสักเท่าไร มีเพียงสายตาของคนทั้งสองที่เผลอสบกันเป็นระยะแล้วหลบสายตาซึ่งกันและกันอยู่เรื่อยๆ ปราศจากบทสนทนาถึงแม้พวกเขาจะมีเรื่องราวที่อยากเล่าให้ใครสักคนฟังมากมาย
เพราะคนตรงหน้าไม่ใช่คนเขายินดีจะเล่าอะไรให้ฟังเท่าไรนัก
" ออกมายัง "
ข้อความที่โชว์บนหน้าจอโทรศัพท์เร่งให้ร่างสูงรีบทานอาหารตรงหน้าให้หมดภายในเวลาไม่กี่นาที มือหนาจัดแจงหยิบจานไปล้างให้เรียบร้อยโดยไม่สนใจผู้เป็นพี่ที่ยังคงใช้ส้อมจิ้มเส้นพาสต้าวนอยู่อย่างนั้น เรียวขายาวก้าวเข้าไปในห้องนอน และเพียงไม่นานกระเป๋าอีกสองใบก็ถูกยกออกมาวางตรงทางเดินระหว่างห้องนั่งเล่น ดวงตาคมตวัดมองด้วยความสงสัยแต่ทำได้แค่มองอยู่อย่างนั้น คนปากหนักแบบเขาไม่มีวันเอ่ยถามหากอีกฝ่ายไม่คิดจะปริปากพูดออกมาเอง
ซองอูยอมรับว่าตัวเองนั้นเย็นชา แต่เขาก็เป็นของเขาแบบนี้
แวบนึงที่ดวงตาเรียวรีหันไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามของอีกฝ่าย ในใจลึกๆหวังให้ร่างบางเอ่ยถามสิ่งที่เขาคิดอยู่เหมือนกัน
แต่ดาเนียลก็ต้องผิดหวังเพราะมีแค่ความเงียบที่โรยตัวขึ้นในเวลานี้
เท่านั้นก็ทำให้เขามั่นใจแล้วว่าเขาคิดไม่ผิด
เห็นทีจะต้องรบกวนอาศัยอยู่ที่บ้านควานลินสักพัก
.
.
" นี่คือมึงทะเลาะกับพี่ ? "
เจ้าของบ้านเอ่ยถามแขกผู้มาเยือนในทันทีที่พาเจ้าตัวไปเก็บของในห้องนอนเสร็จสรรพ คิ้วหนาขมวดกันเป็นปมพอๆกับใบหน้าเรียวที่ตึงเครียด ไม่ต่างกับริมฝีปากหนาของเจ้าตัวที่เม้มเข้าหากันแน่นเหมือนมีเรื่องที่ต้องเก็บไว้ในใจเสียมากมาย และอาการเหล่านี้ก็ทำให้บรรยากาศสดใสที่ดาเนียลมักจะมีอยู่เสมอๆได้หายไปอย่างชัดเจน
" อืม.. ก็นิดหน่อยว่ะ "
เสียงทุ้มที่ติดจะแหบพร่าเอ่ยตอบอย่างแผ่วเบา
" กูก็ไม่อยากจะเซ้าซี้มึงหรอกนะ แต่กูก็เป็นห่วงมึงเหมือนกัน "
" ... "
" ถ้ามึงอยากจะเล่าอะไรให้ใครฟัง มึงก็ช่วยนึกถึงกูบ้างก็แล้วกัน "
" .... "
" ไม่ต้องเป็นคนแรกแต่มีกูอยู่ในหัวไว้บ้างก็ได้ "
" ...อืม "
" กูไม่กวนมึงละ ทำตัวตามสบายไม่ต้องเกรงใจ "
ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มจางๆแทนคำตอบ เมื่อเห็นแววตาคู่นั้นของควานลินแฝงไปด้วยความห่วงใย ทำไมจะไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้าออกไปยังไงบ้าง ไม่ว่าสนิทกันแค่ไหนก็คงต้องตกใจบ้างหละที่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ คนที่มีแต่รอยยิ้มและความสดใสร่าเริงได้หายไป มีแต่ความหม่นมองที่ก่อตัวขึ้นรอบๆ
ซองอูช่างใจร้าย
....แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็เป็นห่วงคนใจร้ายไม่ต่างกันกับที่ควานลินเป็นห่วงเขา
25% is loading
.
.
คนเราทำผิดพลาดกันได้ ....แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะได้รับโอกาสแก้ไข
" มึงเป็นอะไรป่าววะช่วงนี้ "
" นั่งเหม่อมาจะชั่วโมงแล้ว "
" มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้กูฟังได้นะเว่ย "
เสียงทุ้มที่ฟังแล้วนุ่มหูของมินฮยอนเอ่ยถามเพื่อนรักซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่งห้อง ร่างบางนอนเล่นอยู่บนโซฟาทว่าสายตากลับมองออกไปข้างนอกอย่างเลื่อนลอย อันที่จริงซองอูเป็นแบบนี้มาสามสี่วันแล้ว ตั้งแต่ที่เจ้าตัวป่วยแล้วเขาไม่ได้ไปเที่ยวทะเลด้วยพอกลับมาอารมณ์อีกฝ่ายก็ดูจะติดลบเสียจนน่าตกใจ ทั้งที่ปกติจะเป็นคนไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้าสักเท่าไร
" มึงเรียกกูหรอ ? "
เมื่อหลุดจากภวังค์ได้ใบหน้าคมก็หันไปมองเจ้าของห้องที่กำลังมองจ้องกลับมาเช่นกัน
" มึงเป็นอะไรวะเนี่ย บอกตรงๆกูไม่เคยเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยนะเว่ยซองอู "
" .... "
" ครั้งล่าสุดก็ตอนที่ทะเลาะกับแม่ แล้วนั่นมันก็หลายปีมาแล้วด้วย "
" .... "
" ไม่ได้อยากจะละลาบละล้วงนะ แต่มึงมีปัญหากับครอบครัวหรือเปล่า ? "
" เปล่า... "
" แล้ว ? "
" มึงว่ากูเป็นคนปากร้ายไหมวะ "
แววตาคู่โตจ้องมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง สีหน้าท่าทางที่คาดคั้นจะเอาคำตอบทำให้มินฮยอนงุนงงอยู่ไม่น้อย
" อืมม "
" .... "
" ทำไมวะ "
" แล้วมึงเคยโกรธกูเรื่องคำพูดบ้างไหม "
" เคยดิ อยู่กันมาตั้งนานมันก็ต้องมีบ้างแหละน่า แต่กูรู้ว่ามึงไม่ได้ตั้งใจไง "
" แล้วถ้ากูพูดเพราะต้องการทำให้มึงรู้สึกแย่ล่ะ "
" เดี๋ยวๆ นี่มึงไปทำอะไรใครเขาไว้วะ "
" เออน่า ตอบกูมาก่อน "
" มึงก็เคยนะ ....เอาจริงตอนเด็กๆที่เราทะเลาะกันแล้วมึงจงใจพูดให้กูรู้สึกแย่ "
" ..... "
" แล้วสุดท้ายก็เป็นมึงนั่นแหละที่เดินมาขอโทษกู "
" ..... "
" มึงเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกคนอื่นมากกว่าที่มึงคิดนะ ไม่งั้นคงไม่เดินมาขอโทษกูหรอก "
" ..... "
" ถ้ามึงทำอะไรที่มันผิดพลาดไปแล้ว ..ลองคิดดูดีๆแล้วกันว่ายังมีโอกาสแก้ไขอยู่ไหม "
" ..... "
" เพราะสุดท้ายมึงนั่นแหละที่จะเสียใจกับการกระทำของตัวเอง กูเชื่อว่ามึงเข้าใจที่กูจะสื่อนะ "
" อ่า "
.
.
.
.
ในช่วงเวลาของการสอบมิดเทอมไม่ได้ทำให้ซองอูกังวลเท่าใดนัก เนื่องจากเขาวางแผนการอ่านหนังสือและช่วยงานที่บ้านมาเป็นอย่างดีแล้ว ในเวลานี้ก็เหลือแค่เคลียร์งานในช่วงอ่านหนังสือสอบให้เสร็จจะได้มีเวลาพักผ่อนเต็มที่ หากป่วยในช่วงสอบคงไม่ดีสักเท่าไร
แต่สิ่งที่ทำให้เขากังวลใจกลับเป็นเรื่องของใครบางคนเสียมากกว่า
ตลอดสามสี่วันที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการใช้ชีวิตเงียบๆคนเดียวภานในเพนท์เฮ้าส์เหมือนเดิมมันทำให้เขาสบายใจเป็นอย่างมาก
ไม่ต้องคอยกังวลว่าอีกคนจะกลับมาเมื่อไร แล้วจะยังนั่งอยู่ในโถงไหม หรือจะต้องนั่งอยู่ในห้องอีกนานเท่าไรถึงจะไม่ต้องออกไปเจอ
" ได้ยินแม่บอกว่าอาทิตย์นี้ลูกจะไม่กลับบ้าน "
" อ่านหนังสือสอบก็อย่าหักโหมมากนะ "
" เห็นน้องบอกว่าจะไม่กลับบ้านเหมือนกัน อยู่ด้วยกันก็อย่าทะเลาะกันล่ะ "
ถ้าเกิดพ่อรู้ว่าดาเนียลไม่ได้อยู่ที่นี่คงโกรธมากแน่ๆ
และสาเหตุก็ไม่ใช่เพราะใคร แต่เป็นเพราะเขาเองทั้งนั้น
.....รู้สึกผิด ใช่ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกผิดต่อดาเนียล
" พ่อครับ... "
" ผมขอเบอร์โทรศัพท์ของดาเนียลหน่อยได้ไหมครับ... "
" พอดีจะฝากซื้อของแต่ลืมไปว่าไม่มีเบอร์ "
|| | HATE | ||
...สบายใจชะมัด
ความรู้สึกแรกเมื่อขนของออกมาจากเพนท์เฮ้าส์หลังใหญ่ใจกลางเมือง การได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านควานลินก็เหมือนเป็นการเพิ่มพลังให้กับเขา นอกจากจะมีเพื่อนคุย เล่นเกมส์และอ่านหนังสือแล้ว บรรยากาศที่บ้านหลังนี้ก็ยังอบอุ่นกว่าที่ที่เขาจากมาไม่น้อย บางวันเพื่อนๆก็มาหาพวกเขาที่บ้าน นั่งดื่มนั่งคุยกันไปจนถึงเช้า ไม่ต้องแบกรับอะไรให้ปวดหัวเปล่าๆ
" มึงว่าอันนี้ดูดีปะวะ "
ควานลินหยิบสูทจากในตู้ออกมาให้เพื่อนดู ร่างโปร่งเลือกออกมา 3-4 ชุดก่อนให้อีกฝ่ายช่วยตัดสินใจ
" กูชอบชุดนี้นะ ว่าแต่มึงจะไปไหนหรอวะ ทำไมต้องใส่สูทจริงจังขนาดนั้น"
" พรุ่งนี้กูมีประชุมที่บริษัทของพ่อว่ะ แต่พ่อกับแม่ไม่อยู่กูเลยต้องเข้าไปแทน "
" เช้ดดดด เพื่อนกูนี่นอกจากหล่อแล้วยังรวยอีกด้วยนะครับ "
" มึงไม่ดูตัวเองเลยนะ แล้วนี่ได้คุยกับพี่บ้างหรือยัง "
แวบนึงที่ควานลินเห็นแววตานั้นสั่นไหว ร่างสูงคลี่ยิ้มจางๆพร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
" ยังว่ะ จะติดต่อยังไงยังไม่รู้เลยเพราะกูไม่มีแม้กระทั่งเบอร์พี่กูด้วยซ้ำ "
" เดี๋ยวก่อน นี่มึงเป็นพี่น้องกันจริงปะเนี่ย "
" ไม่จริงว่ะ "
" ห้ะ เดี๋ยวๆ กูแค่... "
" ไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆแหละ "
เสียงทุ้มเอ่ยอย่างแผ่วเบา ราวกับไม่ได้ตอบคำถามอีกฝ่ายแต่เป็นการย้ำเตือนกับตัวเองเสียมากกว่า ใบหน้าเรียวก้มลงมองปลายเท้าตัวเองเหมือนไม่มีที่วางสายตา ไม่รู้ว่าทำไมพูดถึงคนๆนี้ทีไรก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปทุกที
" ดาเนียล คือเอ่อ ... กูขอโทษ กูแค่พูดเล่นไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริงๆ "
" ไม่เป็นไรกูไม่ถือ อันที่จริงกูเล่าให้มึงฟังก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร "
" มึงอยากเล่าไหมล่ะ "
" มึงเนี่ยแหละคนแรกที่กูอยากจะเล่าให้ฟังอะ "
" อ่ะว่ามา กูพร้อมแล้ว "
.
" คือจริงๆแล้ว พี่ซองอูเนี่ย เป็นลูกของพ่อ คนที่อยู่อาศัยอยู่ในบ้านเขาตอนนี้ "
" ... "
" พี่กูเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนี้ ซึ่งแม่กูรู้จักกับครอบครัวนี้เพราะว่าทำงานที่บริษัทเดียวกัน "
" ... "
" กูก็สนิทกับพี่ซองอูมาตั้งแต่เล็กๆแล้วแหละ เห็นหน้ากันทุกปิดเทอม ว่างๆก็ไปเล่นกับพี่เขาที่บริษัทแม่ "
" ... "
" ตอนเด็กๆพวกกูสนิทกันมาก เพราะอายุห่างกันแค่ไม่กี่ปี แล้วพี่ซองอูก็ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร เป็นคนที่ถือตัวสัสๆ แต่เสือกสนิทกับกูซะงั้นอะ "
" แล้วจู่ๆวันนึงแม่ก็บอกกูว่าจะย้ายบ้านใหม่ กูก็คิดว่าคงแค่ย้ายที่อยู่อะไรทำนองนี้ "
" ปรากฏว่าแม่งไม่ใช่ บ้านที่กูย้ายไปคือบ้านของพี่ซองอู "
" แม่กูย้ายเข้าไปอยู่ในฐานะภรรยาอีกคนของพ่อ ... ซึ่งมันก็นะ กูยังจำแววตาพี่ได้อยู่เลยถึงมันจะนานมาแล้วก็เหอะ "
" กูไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายคนนึงแม่งร้องไห้ได้ฟูมฟายขนาดไหนจนกูเห็นเขาวันนั้นอะ "
" หลังจากที่กูย้ายเข้าไปอยู่กูก็ไม่เคยคุยกับพี่เขาอีกเลย เหมือนคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แม้กระทั่งชื่อกูเขายังไม่อยากจะเรียก "
" เรียกกูว่าน้อง พี่เขาก็ไม่เคยทำ กูก็เข้าใจเขานะแต่กูก็ไม่ได้ผิดอะไรปะวะ "
" จนกูไปแคนาดา กูก็คิดว่าป่านนั้นเราคงโตพอที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องของเราอะ มันเป็นเรื่องของพ่อแม่ "
" แต่พอกูกลับมา แล้วมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์แม่งยิ่งแย่ไปกว่าเดิมอีก "
" กูก็ไม่รู้ว่าต้องหลบหน้าไปอีกนานแค่ไหน กูอยากย้ายออกแล้วไปหาที่อยู่ใหม่แต่พ่อแม่รู้ท่านก็คงไม่สบายใจ "
" จริงๆมึงมาอยู่กับกูก็ได้นะเว่ย "
" ...กูเกรงใจ "
" มึงก็รู้ว่ากูโอเค เรื่องแค่นี้เอง "
" ไม่เป... "
กริ๊งๆๆ
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะเรียกความสนใจให้คนทั้งสองหันไปมอง โทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลจากตัวดาเนียลสั่นและส่งเสียงให้รู้ว่ากำลังมีสายเขา แต่เบอร์ที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอกลับเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
" ไม่รับวะ "
" เบอร์แปลกกูไม่ค่อยอยากรับว่ะ ช่างมันเหอะ "
" เอ้า "
" ต่อๆ ก็นั่นแหละ กูเกรงใจมึง แค่นี้ก็รบกว.."
กริ๊งๆๆ
เสียงจากเครื่องมือสื่อสารอันเดิมดังขึ้นอีกครั้ง และแน่นอนว่ายังคงเป็นเบอร์เดิมที่โทรเข้ามา ควานลินพยักเพยิดเป็นเชิงบังคับให้อีกฝ่ายกดรับสายอย่างเสียไม่ได้ ร่างโปร่งเดินไปยังห้องครัวเพื่อความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่าไรนัก
" สวัสดีครับ "
เสียงทุ้มกรอกลงไปตามสาย
" ... "
" สวัสดีครับ "
ร่างสูงเอ่ยซ้ำอีกครั้งเมื่อได้ยินแค่ความเงียบจากคู่สนทนา นิ้วเรียวจรดลงบนหน้าจอแต่ยังไม่ทันได้กดวางสายก็มีเสียงพูดจากอีกฝั่ง
" นี่เบอร์ดาเนียลใช่ไหม "
" ใช่ครับ "
" ..... "
" คุณ? "
" .... "
" ได้ยินมั้ยครับ "
" เอ่อ "
" นี่คุณเป็นใครเนี่ย ถ้าโทรมากวนแล้วไม่พูดอะไรแบบนี้ผมจะวางสายแล้วนะ! "
ยอมรับว่าดาเนียลเริ่มหงุดหงิดกับปฏิกิริยาตอบรับของอีกฝ่าย บทจะพูดก็พูดแล้วก็ขาดหายไปเสียดื้อๆ
" ฉันเอง.. "
" .... "
" องซองอูไง "
" พ พี่ หรอ ? "
น้ำเสียงนั้นฟังดูแปลกใจเพราะไม่เชื่อว่าปลายสายจะเป็นคนที่เขากำลังเอ่ยถึงอยู่เมื่อกี้
" อืม ฉันเอง "
" อืม แล้วพี่มีอะไรหรือเปล่า "
ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ อันที่จริงก็ดีใจอยู่ไม่น้อยที่อีกฝ่ายมีความคิดที่จะโทรมาหาเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหายโกรธอีกฝ่ายเลยตั้งแต่วันที่พี่ชายของตัวเองเอ่ยปากขอร้องให้เขาย้ายออกมา และเขาก็คิดว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ควรจะเริ่มพูดจาดีๆกับเขาก่อนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ใจเหมือนอย่างเคย
" คือฉันจะโทรมาบอกว่า "
" ... "
" ขอบใจมากที่วันนั้นช่วยฉัน "
" หือ ....วันไหน? "
" ก็วันที่ไม่สบาย ...เอ่อ "
" ... "
" ...แล้วก็ขอบใจมากที่ช่วยดูแล "
" หึ "
ร่างสูงส่งเสียงในลำคอ ทั้งๆที่ริมฝีปากยิ้มกว้างจนจะถึงใบหู
" หึอะไร "
" ไม่ขอบคุณช้าไปหน่อยหรือไง "
เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนปากหนักไม่ใช่น้อย ไม่แปลกใจเลยที่จะพูดจาติดๆขัดๆ
" .... "
" แล้วที่โทรมาไม่ใช่ว่าอยากให้ผมกลับไปอะไรแบบนี้หรอกเหรอ "
" นี่นายคิดเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า! "
อันที่จริงซองอูพยายามใจเย็นเป็นอย่างมากในการโทรหาอีกฝ่าย แต่เหมือนว่าดาเนียลจงใจจะพูดจากวนประสาท และมันก็ได้ผลเมื่อตอนนี้เจ้าตัวเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว
" ... "
" ฉันก็แค่โทรมาเช็คว่านายยังไม่ตายใช่ไหม เวลาพ่อโทรมาจะได้บอกถูก "
ปากคอเราะร้ายเหมือนเดิมจริงๆ
" อ๋อ ผมยังไม่ตายหรอก คืนนี้ก็ว่าจะกลับแล้วหละ "
" กลับมาทำไม "
" ก็กลัวคนบางคนไม่มีใครให้คอยทะเลาะแล้วจะเหงาตายไง "
" เหอะ! "
" ผมไม่ได้หมายถึงพี่สักหน่อย "
" แล้วนายกลับยังไง รถก็ไม่ได้เอาไปนี่ "
" คงให้ควานลินไปส่งละมั้ง "
" ไม่ต้อง! "
" .... "
" คนอย่างนายน่ะไม่มีมารยาท ไปอาศัยอยู่บ้านเขาสามสี่วันยังรบกวนให้เขาขับมาส่งนายอีก "
" .... "
" ไม่คิดเลยสินะว่าคนอื่นเขาจะเดือดร้อนไหม "
" .... "
" เดี๋ยวฉันออกไปรับเอง "
tbc.
อาทิตย์หน้าจะไม่ว่างแล้วค่าาา ไม่ว่างแบบจริงจัง เจอกันอีกทีหลังวันที่ 12 ตุลาเลยน้าา
เพราะไรท์ติดสัมนาช่วงนั้นงับบ มีอะไรก็ไปเม้าท์ใน #เกลียดเนียลอง ได้นะคะ ดีใจมากๆเลยที่มีคนคอมเมนต์
ทั้งในเว็บแล้วก็ทวิตเตอร์เลย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ตอนนี้อาจจะมีแต่บทพูดเพราะอยากให้เรื่องดำเนินไปอีกหน่อยแล้วก็ได้รู้ความคิดของคุณแดนมากขึ้นด้วย สุดท้ายนี้ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ♥
#เกลียดเนียลอง
Thank you for your attention
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ประโยคทื่อๆ แต่ทำไมพออ่านแล้วต้องยิ้มตามด้วยเนี่ย บ้าจริง..