PART IV : treat
เรียวขายาวก้าวเข้าไปในบริษัทของตระกูลองซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปรายใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งปกติแล้วนับเป็นวันหยุด แต่เพราะการประชุมถึงแผนการผลิตเร่งด่วนของลูกค้ารายใหญ่ทำให้ซองอูและดาเนียลต้องเข้ารับฟังในครั้งนี้ด้วย
องซองอุคเล็งเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะสอนงานให้กับเด็กๆทั้งสอง รวมไปถึงซึมซับประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการนำไปใช้บริหารงานในอนาคต
ในเวลาที่เขาอาจจะไม่มีสิทธิ์ได้ดูแลอย่างเต็มความสามารถเท่าตอนนี้
ร่างสูงของคนทั้งสองในชุดสูทสีดำซึ่งตัดเย็บอย่างประณีตนั้นเรียกให้สายตาทั้งหลายจับจ้องมาที่พวกเขา
ซองอูเข้ามาที่บริษัทนี้อยู่บ่อยครั้ง หรืออาจเป็นเพราะชื่อของเขาประดับไว้ด้วยคำว่า 'ลูกชายเจ้าของบริษัท' เสียล่ะมั้ง พนักงานที่นี่จึงให้ความเคารพและนอบน้อมเป็นอย่างดี ต่างจากคนที่พึ่งกลับมาจากเรียนแลกเปลี่ยนที่แคนาดาเลยได้รับสายตาแปลกๆไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ตาม
" วันนี้แค่ให้พวกเราเข้าไปฟัง แต่ครั้งหน้าต้องจดรายงานการประชุมมาให้พ่ออ่านด้วยนะ "
ผู้เป็นพ่อกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย มองใบหน้าทั้งสองที่พยักลงเป็นเชิงรับทราบก่อนจะเดินเข้าไปในห้องประชุมเมื่อถึงเวลานัดหมาย
เป็นเวลาเกือบสามชั่วโมงกว่าจะสิ้นสุดการประชุม ดาเนียลจำแทบไม่ได้ว่ารายละเอียดที่เขาได้ยินมากว่าร้อยแปดสิบนาทีนั้นเป็นอย่างไรบ้าง อันที่จริงเขาไม่เข้าใจถึงระบบการทำงานเลยด้วยซ้ำ ต่างจากซองอูที่นั่งอยู่ข้างๆซึ่งตั้งใจฟังและจดรายละเอียดไว้อย่างครบถ้วนไม่มีขาดตกบกพร่อง เพราะเขารู้สึกสนุกและยินดีทุกครั้งที่ได้ช่วยแบ่งเบาภาระงานของพ่อ ธุรกิจหลักของครอบครัวที่ทำให้เขาเป็นอยู่อย่างสุขสบายจนถึงทุกวันนี้
ใบหน้าเรียวมองผู้เป็นพี่ด้วยสายตาชื่นชม ถึงแม้เขากับซองอูจะทะเลาะกันบ่อยครั้งแต่ต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่มีความพยายามและมุ่นมั่นมากๆจนเขานึกเอาเป็นแบบอย่าง แม้ตอนนี้ดาเนียลยังคงขาดทักษะอีกมาก แต่เขาจะพยายามให้ถึงที่สุด อย่างน้อยให้ได้สักครึ่งนึงของคนข้างๆก็คงจะดีอยู่ไม่น้อย
เขาไม่มีวันลืมว่าตัวเองเป็นใคร ...และควรทำอย่างไร
"มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับพ่อ ? " ซองอูเอ่ยถามเมื่อเปิดเข้าไปเจองานเอกสารกองใหญ่บนโต๊ะทำงานของผู้เป็นพ่อที่ต้องตรวจสอบและเซ็นรับรองให้เรียบร้อยก่อนวันอาทิตย์หน้า แววตาเหนื่อยล้าแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นนั้นจ้องมองมาที่เขาก่อนส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ แม้ท่านจะเหนื่อยแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่นอะไรสักคำ
" ตอนนี้ยังไม่มีหรอก แต่อีกหน่อยพ่อจะให้เราเข้ามาช่วยงาน "
" ครับ "
" แล้ววันนี้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะ เมื่อวันศุกร์ยังไม่ได้ไปฉลองเลยเพราะรอลูกกลับมา "
.
.
.
.
" มาหอมแม่แบบนี้จะอ้อนอะไรอีกหืม? "
ร่างเล็กที่กำลังจัดเตรียมของอยู่ในครัวหันไปมองลูกชายที่สวมกอดจากด้านหลังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แขนเรียวโอบเธอไว้อย่างหลวมๆพร้อมกับสันจมูกโด่งที่กดลงมาบนแก้มขวาย้ำๆสองสามที
" ก็ผมคิดถึงแม่นี่นา อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์เหงาจะแย่ "
" แล้วทำไมไม่คุยกับดาเนียลล่ะลูก "
สายตาอ่อนโยนส่งผ่านไปยังคนฟัง มินอามองหน้าลูกชายก่อนคลี่ยิ้มให้บางๆ ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าซองอูนั้นรู้สึกอย่างไร
" ก็ผมไม่อยากยุ่งให้ขุ่นเคืองใจเปล่าๆ "
ร่างบางเอ่ยเสียงค่อย ใบหน้าคมหลุบต่ำเพื่อหลบสายตาจากผู้เป็นแม่
" ซองอู... "
" ... "
" นอกจากพ่อกับแม่ ไม่มีใครที่ลูกจะเชื่อใจได้แล้วถ้าไม่ใช่ดาเนียล
ครอบครัวเราก็มีกันอยู่แค่นี้ อย่าคิดแบบนั้นเลยนะ "
" ... "
" ถ้าเกิดวันนึงพ่อกับแม่เป็นอะไรขึ้นมา อย่างน้อยลูกก็ยังมีพี่น้องคอยช่วยเหลือกัน ถึงจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆก็เถอะ "
" แต่ผมอยู่เองได้ ผมไม่ได้ต้องการน้องชายเลยสักนิด "
ดวงตาคู่โตฉายแววหนักแน่นและจริงจังกับทุกคำที่เอ่ยออกไป ซองอูหมายความตามที่ว่าจริงๆ
เขาไม่ได้ต้องการให้ใครมาคอยดูแลเอาใจใส่ ตรงกันข้ามยังชอบที่จะอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองอีกด้วย
" ซองอูอ่า ... อย่าดื้อแบบนี้สิ " ฝ่ามือเล็กยกขึ้นลูบศีรษะอีกคนเบาๆ
" ช่างมันเถอะครับ ผมว่าเราไปทานข้าวกันดีกว่า หิวจะแย่อยู่แล้ว "
และส่วนลึกในใจก็สั่งการให้เขาเปลี่ยนเรื่องคุยในทันทีเมื่อพบว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกไว้ได้
.
.
.
.
" ไม่ลืมอะไรใช่ไหม "
บนสนทนาเริ่มขึ้นเมื่อคนทั้งสองจัดแจงหยิบสัมภาระของตัวเองใส่เข้าไปในรถก่อนกลับไปเพนท์เฮ้าส์ วันหยุดดูน้อยลงไปถนัดตาเมื่อต้องเจอวิชาเรียนและงานอีกมากมายที่รอพวกเขาอยู่ในวันพรุ่งนี้
" อืม "
ซองอูพึมพำเบาๆแทนคำตอบ เขาไม่อยากจะเสียเวลาคุยกับอีกฝ่ายเท่าไร
รู้สึกหงุดหงิดใจทุกครั้งที่ต้องได้ยินเสียงทุ้มของคนข้างๆ
น่ารำคาญ
เสมือนอีกฝ่ายอ่านใจเขาออก เพราะหลังจากที่ซองอูพูดตัดบทก็ไม่มีการสนทนาใดๆระหว่างพวกเขา มีเพียงความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้นจนนิ้วเรียวต้องเอื้อมไปกดเปิดเพลงเพื่อทำลายความเงียบ
" พรุ่งนี้พี่มีเรียนกี่โมง "
ดาเนียลครุ่นคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจเอ่ยถาม ถ้าไม่ติดว่าคุณน้ากำชับให้เขาคอยดูแลซองอูจนกว่าแผลจะหายดีล่ะก็ ไม่มีทางที่เขาจะขับรถไปส่งอีกฝ่ายแน่ๆ
" ไปเองได้ "
ดวงตาคมเสมองออกไปนอกหน้าต่าง อันที่จริงเขาก็ไม่ได้เจ็บแผลอะไรมากมาย ไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา
ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร ...โดยเฉพาะกับดาเนียล
" ถามว่าไปกี่โมง "
" แปดโมงเช้า "
" .... "
" ตื่นไม่ไหวก็ไม่ต้องยุ่ง "
" เออน่า พรุ่งนี้เจ็ดโมงครึ่งพี่ถึงมอแน่ๆ "
Monday 7.30 AM
" บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่ง.. "
ใบหน้าคมก้มลงมองนาฬิกาบนข้อมืออย่างไม่สบอารมณ์
เวลาบนหน้าปัดดำเนินไปอย่างรวดเร็วตรงกันข้ามกับการจราจรบนท้องถนนในเช้าวันจันทร์นี้
ร่างบางถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความกังวลว่าจะเข้าเรียนเลท
คนที่ตรงต่อเวลาและรักกฏระเบียบอย่างซองอูไม่มีวันจะเข้าเรียนเลท
โดยเฉพาะเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นอย่างคังดาเนียลตื่นสาย
" ผมไม่ได้ตั้งใจนะ "
เป็นความผิดพลาดของเขาเองที่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ จริงๆวันนี้ดาเนียลมีเรียนแค่ช่วงบ่าย
แต่เพราะคนป่วยที่นั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่ข้างๆเขาเลยต้องตื่นเช้าเพื่อขับรถไปส่ง
" ไม่มีใครเขาสนหรอกว่าอะไรคือเหตุผล ทุกคนตัดสินที่ผลลัพธ์เท่านั้นแหละ "
" ก็เพราะพี่ไม่เคยเปิดใจรับฟังคนอื่นไง โลกมันถึงได้แคบแบบนี้ "
" นี่! "
ใบหน้าคมหันไปมองด้วยความขุ่นเคือง ซองอูไม่ชอบเลยเวลาที่คนอายุน้อยกว่าเถียงเขา
โดยเฉพาะกับคนข้างๆแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งดูแย่ลงไปอีก
" ผมพูดจริงๆนะ บางทีพี่ก็ต้องเปิดใจบ้าง... "
เสียงทุ้มเอ่ยเป็นครั้งที่สองแต่กลับแผ่วเบาราวกับพูดเพื่อให้ตัวเองได้ยิน
ลาเวนเต้สีแชมเปญหยุดลงที่หน้าตึกคณะของซองอูอย่างช้าๆ และนั่นทำให้ดาเนียลมีโอกาสหันไปมองใบหน้าของอีกฝ่าย
ดวงตาเรียวเล็กมองไปในแววตาเย็นชาของอีกคนเหมือนจะสื่อให้เข้าใจถึงประโยคก่อนหน้า
และนัยน์ตาเป็นประกายนั้นก็จ้องกลับมาอย่างไม่ลดละ
ด้วยความรู้สึกที่แม้แต่ดาเนียลเองก็บอกไม่ถูก
มันดูว่างเปล่า ...และสับสน
" ไม่... "
" .... "
" ถ้ากับนายน่ะไม่มีวัน "
|| HATE ||
" ไอเนียล เย็นนี้ไปดื่มด้วยกันป่าววะ "
ควานลินเอ่ยถามเพื่อนคนอื่นๆเมื่อหมดเวลาเรียน ปกติแล้วพวกเขาไม่ค่อยชอบไปดื่มสังสรรค์กันสักเท่าไร
แต่วันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนอีกคนในคลาส ร่างโปร่งจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆในสาขา
" เอาดิ ที่ไหนวะ " ฮยอนบินขานรับในทันที
" กูว่าคงร้านแถวหน้ามอแหละ ต้องไปถามไอเจ้าของวันเกิดนู่น "
สายตาทั้งหมดจับจ้องไปยังบุคคลที่สามซึ่งยืนอยู่อีกฝั่งห้อง ซามูเอลยิ้มรับก่อนจะเดินเข้ามาในวงสนทนา
" กูก็อยากนะมึง แต่วันนี้ไม่ว่างว่ะ "
เสียงทุ้มเอ่ยปฏิเสธหลังจากนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ
" อ้าว มึงไปไหนวะ " คราวนี้เป็นฮยอนบินที่เอ่ยถามเพื่อนอย่างสงสัย
" กูต้องไปรับพี่อะ พี่ป่วยอยู่ "
ใบหน้าเนียนนึกไปถึงคนป่วยที่ตอนนี้คงกำลังนั่งรอเขาอยู่ที่ใต้ตึกขณะด้วยความขุ่นมัว
ซองอูบอกว่าวันนี้เขาเลิกเรียนเร็วกว่าปกติเพราะอาจารย์ที่สอนมีประชุมกับคณะบดีต่อในช่วงเย็น
ซึ่งเวลานั้นก็เร็วกว่าดาเนียลเลิกคลาสไปเกือบๆชั่วโมง
สงสัยวันนี้เขาคงจะได้ฟังอีกคนบ่นจนหูชาแน่ๆ
" เออๆ แต่ถ้ามึงตามมาได้ก็ดีนะ นานๆที "
เสียงของซามูเอลดังขึ้นพร้อมๆกับมือที่วางลงบนบ่าคนฟัง อันที่จริงดาเนียลก็อยากไปดื่มกับเพื่อนๆอยู่หรอก
แต่มันติดตรงเขาจะต้องขับรถกลับเพนท์เฮ้าส์หลังจากการดื่ม ทั้งๆที่พึ่งกลับมาขับรถอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้
มันคงไม่ดีเท่าไร เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาอาจทำให้เดือดร้อนไปถึงคนที่้บ้านได้
" กูขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ "
.
ไม่นานนักรถของแดเนียลก็มาจอดที่หน้าคณะบริหาร ลาเวนเต้สีแชมเปญคันนี้ดูโดดเด่นเสียจนคนที่เดินสัญจรผ่านไปมาหันกลับมามอง
เขากวาดสายตามองคนที่น่าจะนั่งอยู่ใต้ตึกคณะมาร่วมๆชั่วโมงแต่กลับไม่พบใบหน้าคมนั้นเลยแม้แต่น้อย
เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี
อย่างอื่นหรอ ... อย่าหวังเลย ซองอูไม่เคยบอกข้อมูลอะไรไว้ให้เขาทั้งนั้น
ปรื๊นๆ
เสียงแตรจากรถคันหลังส่งสัญญาณเป็นเชิงไล่ให้รถของดาเนียลขับออกไปจากหน้าตึกคณะ
ร่างสูงลืมไปเสียสนิทว่าลาเวนเต้คันนี้มาจอดเทียบท่าอยู่เป็นเวลาเกือบสิบนาทีแล้ว
ทำยังไงดี
หรือจะอารมณ์เสียหนีกลับไปก่อนแล้ว
" เฮ้! "
เป็นช่วงพอดีที่เสียงคุ้นหูตะโกนผ่านกระจกรถเข้ามา ซองอูยกมือขึ้นชี้เพื่อให้อีกฝ่ายลดกระจกลง
" อ้าวพี่ " ใบหน้าระบายยิ้มกว้างเมื่อเจอคนที่มองหาอยู่นานสองนาน ดวงตาคู่โตมองมาที่เขาก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
" บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ต้องมารับ! "
แต่รอยยิ้มนั้นก็กลืนหายไปพร้อมคำต่อว่าของอีกคน ร่างบางกระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิด ทั้งๆที่บอกไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าว่าเขากลับเองได้ไม่ต้องมายุ่ง แต่ดาเนียลก็ยังเซ้าซี้ถามเวลาเลิกเรียนเขาจนทนรำคาญไม่ได้ต้องบอกไป นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมารับที่หน้าคณะอย่างที่ว่าจริงๆ
" แล้วพี่จะกลับไง รีบขึ้นมาดีกว่า เดี๋ยวคันหลังได้ด่าผมตายพอดี "
มือหนากวักเรียกให้ร่างบางขึ้นมาบนรถเมื่อนึกขึ้นได้ว่ารถคันหลังกำลังจอดรอเขาอยู่
" ฉันจะกลับกับมินฮยอน "
" ... "
" ปอร์เช่คันข้างหลังนายน่ะ "
แววตาเรียวหันกลับไปมองด้วยความงุนงง เขาเดาอารมณ์อีกฝ่ายไม่ถูก บทซองอูจะดื้อก็ดื้อเสียจนไม่มีเหตุผล ทั้งที่เมื่อเช้าบอกแล้วว่าจะเป็นคนไปรับไปส่งตามที่คุณน้ามินอาบอก อยู่ดีๆก็โดนปฏิเสธแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย กลายเป็นว่าดาเนียลต้องเสียเวลาขับรถมารับอีกฝ่ายแทนที่จะไปดื่มกับเพื่อน ร่างสูงเลื่อนกระจกขึ้นก่อนเหยียบคันเร่งออกไปจากบริเวณนั้นทันที
.
.
.
.
" นี่มึงเป็นบ้าหรือไงวะ "
" ไม่เต็มใจไปส่งก็บอกกูจะได้ลง "
มือเรียวเอื้อมไปเปิดประตูข้างกายแต่เหมือนจะช้ากว่าคนขับที่กดล็อกประตูทุกบานอย่างทันท่วงที
มินฮยอนไม่ได้คิดว่าซองอูรบกวนเขาแต่อย่างใด แค่ไม่เข้าใจการกระทำของเพื่อนรักเอาซะมากกว่า
" กูแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมมึงไม่กลับกับน้อง "
" มึงก็รู้ว่ากูอึดอัด "
มือทั้งสองข้างยกขึ้นกอดอก ใบหน้าบึ้งตึงนั้นช่วยอธิบายความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
หากมีโอกาสซองอูก็พร้อมที่จะเลี่ยงการเจอหน้ากับดาเนียล เขาไม่อยากทนอยู่ในบรรยากาศที่ชวนให้ตัวเองรู้สึกแย่
แค่ลำพังต้องอยู่ในเพนท์เฮ้าส์ด้วยกันก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
" เฮ้อ เพื่อนกู "
" ทำไม เพื่อนมึงแล้วมันทำไมวะ ?! "
ฝ่ามือเรียวผลักศีรษะคนข้างๆด้วยความหมั่นไส้ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของคนทั้งสองดังขึ้นประสานกัน
โชคดีที่มีเพื่อนดีๆแบบมินฮยอน
อย่างน้อยก็เป็นอีกความสบายใจขององซองอูคนนี้
.
.
.
.
สวิตซ์ไฟถูกเปิดขึ้นโดยคนที่เข้ามาใหม่ คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะคาดว่าอีกฝ่ายน่าจะกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์ก่อนแน่ๆ
แต่กลายเป็นว่าเข้าใจผิดไปเสียสนิท สายตาคมหันไปมองห้องนอนชั้นล่างแต่ก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากความเงียบงัน ประตูบานใหญ่ปิดสนิทเหมือนกับดวงไฟในห้องที่ไม่ได้เปิดไว้เลยสักดวง มีเพียงความมืดที่ช่วยตอบคำถามทั้งหมดในหัว
ดีแล้วแหละที่ไม่ต้องเห็นหน้า
ร่างบางเดินขึ้นไปยังห้องนอนชั้นสองของตนเองเพื่อเริ่มทำงานที่ค้างไว้ แม้ตอนนี้ควรจะทานมื้อเย็นแต่เขายังไม่รู้สึกหิว
มือเรียวกดเปิดคอมพิวเตอร์ก่อนเพ่งความสนใจทั้งหมดไปบนหน้าจอ นานจนกระทั่งรู้ตัวอีกทีก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
เรียวขายาวก้าวไปตามทางเดินแล้วหยุดลงตรงหน้าประตูตู้เย็น ลืมไปเสียสนิทว่าไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือเข้ามา
ทั้งยังเหนื่อยเกินกว่าจะทำอาหารในเวลาดึกดื่นแบบนี้
.
.
.
.
" มึงเป็นไรวะ กูเห็นเงียบมานานละ "
แสงจากหลอดไฟในยามค่ำคืนส่องกระทบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนของร่างสูงซึ่งนั่งดื่มอยู่ด้านในร้านกับเพื่อนๆอีกเจ็ดแปดคน ดาเนียลส่ายหน้าเบาๆก่อนยกแก้วเบียร์ตรงหน้าขึ้นดื่ม เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังเท่าไรนัก ด้วยความเกรงใจไม่อยากให้คนอื่นต้องมาพลอยวิตกไปกับเขา
เพียงแค่หงุดหงิดและไม่เข้าใจการกระทำของผู้เป็นพี่เมื่อตอนเย็นเท่าไรนัก
เหมือนว่าเขาทำอะไรก็ดูจะผิดไปเสียทั้งหมด
" กี่โมงแล้ววะ "
" ห้าทุ่มละมึง "
" กูขอตัวก่อนนะ ต้องกลับไปทำงาน "
ดาเนียลลุกขึ้นยืนโดยไม่รอให้ใครห้าม ขาเรียวก้าวออกมาจากร้านพลางกระชับเสื้อคลุมให้เข้าที่ ลมหายใจพ่นออกมาเบาๆเมื่อนึกถึงคนที่เขาจะต้องกลับไปเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อยากเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้น แต่ก็ไม่อยากเป็นภาระให้ใครต่อใคร
.
กลิ่นรามยอนคละคลุ้งไปทั่วห้องนั่งเล่นเมื่อมันเป็นอาหารมือเย็นของซองอู อย่างน้อยการออกมานั่งกินอะไรก็ถือว่าเขาได้พักสายตาลงบ้าง คืนนี้มีงานให้เขาต้องเคลียร์อีกมากมาย ไม่รู้ว่าจะได้นอนถึงสี่ชั่วโมงหรือเปล่า
แต่กลิ่นของรามยอนบนโต๊ะกาแฟนั้นดูจางลงถนัดตาเมื่อสายตาคมเหลือบไปเห็นอีกคนที่พึ่งกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์ ถ้าให้เดาเจ้าตัวคงดื่มมาหนักพอสมควรเพราะกลิ่นเบียร์ลอยมาเตะจมูกเขาถึงตรงนี้
ใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จ้องมองเสียจนซองอูรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา และตัวเขาก็ยังไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับใครทั้งนั้น
มือเรียวจัดแจงเก็บชามอาหารบนโต๊ะไปกองไว้ในครัวก่อนจะรีบเดินกลับไปยังห้องนอน โดยที่เขาคงไม่ทันได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
ดวงตาเรียวเล็กมองตามร่างบางที่เดินเข้าห้องไปจนสุดสายตาด้วยความรู้สึกที่เกินจะอธิบาย ต่อให้เขาเป็นคนไม่คิดมากแต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ นอกจากซองอูจะไม่ยอมพูดกับเขาแล้วยังไม่เคยแสดงท่าทีเหมือนว่าเขามีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ
ข้าวเช้าทุกวันนี้ก็แยกกันทาน
มื้อเย็นก็ต่างคนต่างซื้อ
มาถึงเพนท์เฮ้าส์ก็แยกย้ายกันเข้าไปอยู่ในห้อง
ไม่เคยออกมานั่งดูหนังหรือพูดคุยปรึกษาอะไรกันเลยสักคำ
เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี
หากมีคนมาถามว่าซองอูชอบอะไรไม่ชอบอะไร หรือเป็นคนแบบไหนดาเนียลคงตอบไม่ได้ แม้พวกเขาจะอายุไล่เลี่ยกันแต่ทำไมถึงรู้สึกห่างเหินซะจนเข้าหน้าไม่ติด ...ไม่เหมือนพี่น้องคู่อื่นเลยสักนิด
คนที่เขานับถือและเคารพเหมือนเป็นพี่ชายแท้ๆมาโดยตลอดแสดงท่าทางรังเกียจเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า
... บางทีมันคงเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการย้ายเข้ามาอยู่เพนท์เฮ้าส์แห่งนี้
tbc.
ตอนนี้ไม่มีอะไรมาก อยากให้เข้าใจมุมของคุณแดนเหมือนกัน
จริงๆทั้งคู่ก็อึดอัดกันและกันอะเนอะ :(
#เกลียดเนียลอง
Thank you for your attention
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย