PART XII : if...
-บ้านตระกูลอง -
" ว่าไงบ้างคะคุณ ดาเนียลจะกลับมากี่โมง "
ฮันเยบินเอ่ยถามคนที่พึ่งวางสายโทรศัพท์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนบอกกับเขาว่าวันนี้จะกลับมาที่บ้านหลังเสร็จค่ายอาสา ด้วยความเป็นห่วงจึงฝากให้ซองอุคโทรถามให้ ขณะที่ตนเองกำลังเลือกเมนูอาหารสำหรับมื้อเย็นนี้
" ลูกบอกว่าตอนนี้ใกล้ถึงมหาวิทยาลัยแล้ว "
" ดีเลยค่ะ ฉันจะได้ไปเตรียมมื้อเย็นรอ ซองอูคงหิวแย่แล้วมั้งป่านนี้ "
สายตาทอดมองไปยังห้องนอนชั้นสองที่อยู่ติดราวบันได ประตูไม้บานใหญ่นั้นกั้นระหว่างเด็กหนุ่มกับสมาชิกคนอื่นในบ้านไว้ตั้งแต่เช้า เจ้าตัวไม่แม้แต่จะลงมานั่งเล่นหรือหาอะไรกิน เท่าที่เขาพอสังเกตเห็น ถึงแม้ซองอูจะเป็นคนชอบเก็บตัวแต่นี่ไม่ใช่พฤติกรรมปกติของเจ้าตัวเลยด้วยซ้ำ จนอดที่จะห่วงเหมือนลูกแท้ๆอีกคนหนึ่งไม่ได้
คนตรงหน้าเขาก็เช่นกัน ทำไมเยบินจะดูไม่ออกว่ามีอะไรปิดบังอยู่ในใจ
" รายนั้นยังไม่ได้กินเลยล่ะมั้ง เดี๋ยวผมออกไปรับลูกก่อนนะ กลับมาเหนื่อยๆไม่อยากให้ขับรถเอง "
ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงเรียบ ไม่นานนักก็เดินออกจากบ้านไปพร้อมกับกุญแจรถในมือ แต่ฝีเท้ากลับหยุดชะงักเมื่อคู่สนทนายังคงคำถามต่อ
" แล้วนี่มินอาหายไปไหนคะ ไม่เห็นหน้าตั้งแต่เช้า.. "
" เห็นว่ามีคุยงานกับลูกค้าข้างนอกคงทานอะไรกลับมาเลย คุณก็เตรียมแค่สี่ที่พอนะ "
คนถูกถามหันหน้ามามองเขาเพียงเสี้ยววิก่อนตอบคำถามแบบขอไปที น้ำเสียงนั้นฟังดูไม่ยี่หระต่อชื่อของคนในบทสนาก่อนก้าวเท้าออกจากตัวบ้านไปอย่างรวดเร็ว
" อ๋อ ได้ค่ะ ขับรถดีๆนะคุณ "
แปลก
ซองอุคไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
.
" คิดถึงแม่จังเลย มาให้ผมหอมเดี๋ยวนี้ ! "
ส่วนสูง 180 เซนติเมตร ไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าดูโตขึ้นสักเท่าไร ตรงกันข้ามยังคงดูเป็นเด็กน้อยสำหรับเขาเสมอ เรียวขายาววิ่งตรงเข้ามายังห้องครัวอย่างรวดเร็วทันทีที่บานประตูเเปิดออก วงแขนแกร่งโอบเอวผอมๆของผู้เป็นแม่เข้าไปกอดจนจมอก ก่อนสันจมูกโด่งจะกดลงบนแก้มซ้าย สูดลมหายใจเข้าฟอดใหญ่เสียจนคนในอ้อมกอดอุทานออกมาเบาๆ
" โอ๊ย ! แม่เจ็บนะ ตัวก็ใหญ่ยังเล่นเป็นเด็กไปได้ "
ฝ่ามือเล็กทุบไปที่ต้นแขนเบาๆเมื่อเจ้าลูกชายตัวแสบอุ้มเขาให้ลอยจากพื้น ฝ่ามือเรียวเล็กยกขึ้นสัมผัสใบหน้าเนียนของอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มที่แสนจะอบอุ่น
ดาเนียลมองเห็นบ้าน
บ้านที่ไม่ใช่สถานที่สำหรับอยู่อาศัย
แต่เป็นที่ที่คอยโอบอุ้มหัวใจดวงนี้เอาไว้ต่างหาก
" ฮ่าๆ โอเคๆ ปล่อยก็ได้ มีอะไรให้กินบ้างครับ "
เขาปล่อยให้ร่างเล็กหลุดจากการกอบกุม แต่มือทั้งสองก็ยังไม่วายวนเวียนอยู่แถวๆเอวของคนข้างๆ ใบหน้าเรียวเข้าไปคลอเคลียกับผู้เป็นแม่ราวกับจะออดอ้อนอะไรสักอย่าง
แหงล่ะ ก็เขาคิดถึงแม่มากๆนี่
" แม่อบพิซซ่าถาดใหญ่ไว้รอเราเลย แต่ไม่ใช่ให้กินคนเดียวนะ แบ่งพี่ซองอูเขาด้วย พี่ยังไมได้กินอะไรตั้งแต่เช้า "
" อ้าว ทำไมอะครับ "
" แม่ก็ไม่รู้ เห็นเงียบๆไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แกคงมีอะไรไม่สบายใจล่ะมั้ง "
" พี่ซองอูก็เป็นแบบนี้แหละ อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ก็เงียบจะตาย ผมนะอยากกลับมาอยู่กับแม่จะแย่แล้ว "
" ขี้อ้อนจริงๆนะเราเนี่ย ไปอารมณ์ดีมาจากไหนกันหืม "
ใบหน้าหวานหันไปหอมขมับทั้งสองของคนข้างๆก่อนจ้องมองดวงตาคู่เรียวที่เป็นประกาย ริมฝีปากหนายกยิ้มกว้างที่เขามองเมื่อไรก็รู้ได้เลย
ว่าเจ้าลูกชายกำลังมีความรัก
" มีอะไรจะเล่าให้แม่ฟังมั้ยน้า "
ร่างเล็กเอ่ยกลั้วหัวเราะเมื่อมองใบหน้าลูกชายซึ่งกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ มือเรียวเล็กสัมผัสกับพวงแก้มของลูกชายเบาๆแล้วบีบด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะยกขึ้นกุมมือเรียวเล็กทั้งสองข้างไว้ ไม่แปลกใจที่แม่จะพูดออกมาแบบนั้น เพราะตั้งแต่เกิดมาก็มีแต่แม่คนนี้เท่านั้นที่คอยดูแลเขา
" รู้ทันผมตลอดเลยนะ "
" แล้วว่าไงล่ะครับ บอกแม่ได้มั้ย "
" มีคนเข้าหาผม "
ร่างสูงพูดด้วยท่าทีสบายๆทว่าจริงจัง เขาเป็นคนที่ไม่ปิดบังเรื่องส่วนตัวกับแม่อยู่แล้ว เวลามีอะไรก็บอกกันตลอดแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยก็ยินดีจะเล่าให้อีกฝ่ายฟัง เหมือนได้รับรู้เรื่องราวที่เจอในแต่ละวันของกันและกัน โดยที่แม่นั้นเข้าอกเข้าใจอยู่เสมอ
เพียงแต่ครั้งนี้มันออกจะต่างไปสักหน่อย ซึ่งเขาเองไม่รู้ว่าแม่จะเข้าใจหรือไม่
" อื้ม "
" แต่แม่คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย เพราะเขาเป็นผู้ชาย "
แววตาสับสนนั้นหายไปเมื่อมือที่ถูกกอบกุมไว้เอื้อมขึ้นมาลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างแผ่วเบา เยบินคลี่ยิ้มจางๆ และมันก็อบอุ่นพอที่จะทำให้คนตรงหน้าคลายความกังวลไปได้
" เห็นแม่เป็นคนหัวโบราณหรือไง แม่ไม่ว่าหรอกถ้าลูกจะรักใครสักคน ขอแค่ลูกตัดสินใจให้ดีก็พอแล้วแหละ "
" โล่งไปที ผมนอนคิดมาทั้งคืนเลยนะว่าจะเล่าให้แม่ฟังยังไงให้ตกใจน้อยที่สุด "
" ไม่มีอะไรที่ต้องคิดมากเลย แต่ที่แม่อยากรู้คือเราคิดยังไงกับเขามากกว่า "
" อื้ม "
" .... "
" เฉยๆ ผมว่าเขาเป็นเพื่อนที่น่ารักดี แต่ผมก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะ แค่รู้สึกว่าตอนนี้ไม่ได้ชอบใครเลย "
" พูดอย่างนี้แม่ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิ "
" เอาไว้ถ้ามีโอกาสแม่คงได้เจอนะครับ แม่อาจจะชมว่าหล่อกว่าผมก็ได้ ฮ่าๆ "
" จ้า ลูกว่ายังไงแม่ก็ว่ายังงั้นเนอะ "
" เขาชื่อพัคจีฮุ.. "
" อ้าว! ซองอูหิวไหมจ๊ะ น้าเตรียมอาหารไว้เยอะแยะเลย "
ก่อนดาเนียลจะพูดจบ ผู้เป็นแม่ก็หันไปเห็นร่างบางที่หยุดอยู่ตรงหน้าประตู ผู้มาใหม่ยืนจ้องสองแม่ลูกที่คุยกันอย่างสนุกสนานด้วยสายตาเรียบนิ่ง ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ดาเนียลเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซองอูเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร รู้เพียงแค่แววตาคู่คมนั้นดูอ่อนโรยและหดหู่เหลือเกิน
เหมือนเจ้าตัวจะรู้ถึงความผิดปกติบนใบหน้าของตัวเอง เมื่อริมฝีปากหยักส่งยิ้มให้จางๆก่อนส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ เท้าเรียวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หวังจะเดินออกไป ไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของครอบครัวใครเขา แต่ก็ช้าไปเสียแล้วเมื่อข้อมือเล็กถูกดึงไว้จากใครอีกคน
" ...มากินข้าวด้วยกันก่อนดิ "
ทั้งๆที่ในใจของเขาตอนนี้แทบจะทนไม่ไหวแล้ว
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดำเนินไปอย่างเงียบสงัด ต่างคนก็ต่างสนใจอาหารในจานของตนเองไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองคนอื่นๆที่นั่งร่วมโต๊ะ ทั้งๆที่ปกติเวลาทานอาหารมักจะมีเสียงพูดคุยปะปนเสียงหัวเราะของพ่อแม่ของเขาทั้งสอง แต่บรรยากาศนั้นกลับตึงเครียดกว่าเดิมเมื่อมินอานั่งลงบนเก้าอี้ตัวประจำ
" โห วันนี้อาหารน่าทานมากเลย "
ริมฝีปากสีแดงเข้มยกยิ้มให้ก่อนชวนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามพูดคุย เยบินส่งยิ้มให้เช่นเคย บทสนทนาเรื่องทั่วไปเกิดขึ้นอย่างปกติ และมันก็ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่อยๆดีขึ้น
จนกระทั่งแม่ของซองอูพูดคุยกับสามีตนเอง
" เป็นอะไรคะคุณ ทำหน้าเครียดเชียว อาหารก็อร่อยออก "
ฝ่ามือเรียวยกขึ้นแตะแขนคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่สบอารมณ์เท่าไรจึงได้ออกแรงสะบัดเสียจนช้อนในมือภรรยานั้นกระเด็นลงไปอยู่กับพื้น
ซองอูมองภาพตรงหน้าอย่างคนที่เข้าใจสถานการณ์ดี แววตาสั่นระริกเมื่อเสียงของพ่อยังคงกึกก้องอยู่ในโสตประสาท ภาพที่เขาเห็นต่อจากนั้นคือแม่ของตัวเองลุกขึ้นยืน เถียงอะไรกับพ่อของเขาสักอย่าง ถึงแม้จะไม่รุนแรงนักแต่เดาได้เลยว่าแม่คงเสียใจมาก ร่างเพรียวถึงได้เดินขึ้นไปยังห้องนอนก่อนจะปิดประตูลงในทันที ใบหน้าคมหันมามองผู้เป็นพ่อที่ยกมือขึ้นกุมขมับ ดวงตานั้นดูเหนื่อยล้าและอ่อนแรงเหลือเกิน
แน่นอนว่าเขาไม่คิดแม้แต่จะเข้าข้างแม่ตัวเองเลยสักนิด
พ่อก็คงเสียใจไม่ต่างจากแม่หรอก
ส่วนเขากลับเสียใจซะยิ่งกว่าเมื่อเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน โดยที่ลูกอย่างเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
" เอ่อ "
เป็นเยบินที่พึมพำออกมาหลังจากเห็นภาพตรงหน้า เธอเอื้อมมือไปจับแขนซองอุคเอาไว้ก่อนออกแรงบีบเบาๆที่ฝ่ามือกร้าน และมันได้ผลเมื่อเจ้าตัวมีท่าทีอ่อนลง ดวงตาคู่เรียวกวาดมองจานอาหารบนโต๊ะตัวยาวก่อนจะหยุดสายตาลงที่จานตรงหน้าตัวเอง
" ผมอิ่มแล้วแหละคุณ พ่อขอตัวก่อนนะ "
ประโยคแรกหันไปบอกเจ้าของฝ่ามือเล็กตามด้วยลูกชายทั้งสองที่มีท่าทีตกใจไม่ต่างกันเท่าไร เจ้าตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินหายไปในห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ชั้นล่าง
ซองอูมั่นใจว่าคืนนี้พ่อของเขาจะเก็บตัวอยู่ในห้องนั้นทั้งคืน
เขาควรทำยังไงดี
" มันต้องมีอะไรแน่ๆเลยครับแม่ "
เสียงทุ้มกระซิบกระซาบแต่กลับถูกผู้เป็นแม่ห้ามปรามไว้เมื่อสังเกตสีหน้าของอีกซองอูในยามนี้
ใบหน้าคมยังคงเรียบเฉยไม่แสดงท่าทีใดๆ ทว่าในใจของเขากลับแตกสลายราวกับมีอะไรมาทุบให้มันพังเป็นเสี่ยงๆ และเยบินเข้าใจดีว่าเด็กคนนี้มีอะไรที่เก็บไว้ในใจมากมายเหลือเกิน
ซองอูเป็นเด็กฉลาด ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่แสดงความรู้สึกออกมาให้ใครเห็นง่ายๆ
จนบางทีเขาอาจจะลืมไปว่า ทุกๆคนก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากกันทั้งนั้น
" พาพี่ออกไปข้างนอกก่อนไป เดี๋ยวแม่จัดการเอง "
เอี้ยวบอกลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยเสียงที่เบาที่สุด โชคดีเหลือเกินเมื่อเวลานี้แม่บ้านทุกคนกลับไปพักผ่อนกันหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องราวให้พูดกันปากต่อปากไปอีกพักใหญ่ แขนเล็กกระทุ้งเอวคนข้างๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเมินเฉยต่อคำพูดของเขา จนกระทั่งเจ้าตัวหันมาบ่นอุบอิบก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่ง ตรงที่ๆซองอูนั่งก้มหน้าอยู่
" พี่ๆ "
ร่างสูงโน้มลงไปเรียกอีกฝ่ายที่เอาแต่จ้องจานเปล่าบนโต๊ะทั้งๆที่ตัวเองกินเสร็จแล้ว
" .... "
" พี่ซองอู "
เขาเปล่งเสียให้ดังกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่รู้สึกตัว
" .... "
แต่ก็เงียบ ...เหมือนเดิม
" พี่ซองอูครับ "
ฝ่ามือหนาเอื้อมไปแตะไหล่ผอมนั้นเบาๆ
" หะ หืม "
ร่างบางสะดุ้งโหยง ทั้งๆที่ดาเนียลเรียกเป็นรอบที่สามแต่เหมือนเขาจะไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น มันอาจเป็นเพราะเขากำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง
ความคิดที่มีแต่พ่อกับแม่ พ่อกับแม่ที่รักและเข้าใจกัน
มันช่างต่างกับภาพที่เห็นเมื่อครู่นี้เสียเหลือเกิน
" ไปเดินเล่นกันมั้ย ? "
" ไม่ "
ซองอูตอบอย่างไม่ลังเล
" งั้น ..ช่วยสอนงานผมหน่อยดิ งงมาก แฟ้มตั้งอยู่ในห้องเป็นกองเลย "
น้ำเสียงหยอกเย้าที่คนฟังก็รู้ดีว่ามันเป็นเรื่องโกหก
ซึ่งเขาเองก็เกลียดการโกหก
" นี่! ฉันไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับนายหรอกนะ "
ดวงตาคู่คมตวัดมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ดาเนียลก็เห็นว่าก่อนหน้านี้พ่อกับแม่ของเขาทะเลาะกัน แต่เจ้าตัวก็ยังคงตอแยเขาไม่หยุดหย่อน
" ก็เรื่องของพี่ดิ ผมจะชวน ตกลงจะไปไม่ไป "
ท่าทีกวนประสาทถูกส่งมาให้คนฟัง และนั่นก็ทำให้เขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีเข้าแล้ว
ร่างบางสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ เขายังไม่อยากหงุดหงิดในตอนนี้ ไม่ใช่ตอนที่เขาพึ่งหัวเสียกับเรื่องของแม่ แถมยังต้องมาเจอหน้าคนที่เขาเกลียดในระยะใกล้ๆแบบนี้อีกด้วย
" ฉันไม่ตลกด้วย... "
" แล้วพี่คิดว่าผมขำหรือไง "
" .... "
" ไม่มีใครเค้าอยากเห็นพี่เศร้าปะวะ ทุกคนเค้าก็เป็นห่วงกันหมด "
น้ำเสียงนั่นไม่ได้กระแทกกระทั้นอย่างที่เขาคิด ตรงกันข้ามมันกลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาดเสียจนเขารู้สึกเหมือนตัวเองหูฝาดไป ซองอูลอบมองเสี้ยวหน้าของอีกคนที่เบือนหนีไปฝั่งตรงข้าม ก่อนแววตาคู่นั้นจะหันกลับมาสบตากับคู่สนทนา ร่างบางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
มันทำให้เขาเห็นภาพของเด็กน้อยคนหนึ่ง
น้ำเสียงร่าเริงกับท่าทีซุ่มซ่ามของเจ้าตัว
เสียงหัวเราะที่สดใสกับรอยยิ้มกว้างที่เขาชอบมองมันหนักหนา
เจ้าเด็กตัวเล็กคนนั้นคือคังดาเนียลที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาในตอนนี้
เขาจะยังไว้ใจเจ้าเด็กคนนี้ได้เหมือนเดิมหรือเปล่านะ ?
" นายไม่เข้าใจหรอก... จริงๆนะ "
เขาแค่นหัวเราะกับตัวเอง ก่อนส่งรอยยิ้มเหยียดหยันนั้นให้ฝังรากลึกลงในจิตใจ ไม่มีใครรู้หรอกว่าการที่ต้องเผชิญเรื่องราวแบบนี้มันเจ็บปวดแค่ไหน ต่อให้ใครเอามีดมากรีดซองอูก็มั่นใจว่ามันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เขารู้สึกในตอนนี้
เขาไม่รู้ว่าตัวเองลุกขึ้นยืนเมื่อไร และยังคงยืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน จนกระทั่งเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนาเรียกเขาให้กลับมาจากภวังค์อีกครั้ง
" ถ้าพี่อยากให้ผมเข้าใจ ก็เล่าให้ฟังดิ "
ใช่... ดาเนียลหมายความตามที่พูดจริงๆ เขาอยากรู้ว่าพี่ตัวเองคิดอะไรหรือรู้สึกอะไรมาตั้งนานแล้ว เหมือนเจ้าตัวเป็นคนที่ชอบเก็บอะไรมาคิดทั้งๆที่ไม่จำเป็น ดวงตาที่แข็งกร้าวทำไมเข้าจะไม่รู้ว่ามันปิดบังความรู้สึกที่มากมายเอาไว้ ความสดใสร่าเริงที่เขาเคยเห็นเมื่อยังเด็กหายไปหมดสิ้น รอยยิ้มกว้างของผู้เป็นพี่ ท่าทีโอนอ่อนกับน้ำเสียงเป็นมิตรที่เขาไม่ได้รับมันมาเกือบสิบปีแล้ว
แต่จะโทษใครไม่ได้ เพราะมันหมดไปตั้งแต่วันที่เขากับแม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
ดังนั้นเขาควรทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ไม่พี่ซองอูต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านั้นเพียงลำพัง
40% is loading
" ทำไมถึงเดินมาโรงรถล่ะ "
ใบหน้าคมหันกลับไปมองคนที่เดินตามหลังมาติดๆด้วยสีหน้างุนงง ถ้าเขาจำไม่ผิดดาเนียลเป็นคนพูดเองว่าจะออกมาเดินเล่น แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มจางๆกับกุญแจรถในฝ่ามือหนาซองอูก็พอเข้าใจได้
โดนโกหกอีกแล้วสินะ
" เปลี่ยนใจแล้ว อยากดูหนังรอบดึกอะ "
“ แต่ฉันไม่อยากดู ”
ร่างบางเอ่ยเสียงเรียบ รู้ตัวดีว่าไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้นนอกจากอยู่เงียบๆ เขาเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน แต่ประโยคถัดมาก็ทำให้เจ้าตัวเริ่มลังเล
“ แน่ใจนะว่าจะกลับเข้าบ้านไปจริงๆ พี่คงไม่อยากเห็นอะไรที่มันแย่ๆหรอกใช่มั้ย ”
ก็จริง
“ แต่ฉันไม่อยากดูหนัง “
“ งั้น … “
“…..”
“ขับรถเล่นกัน/เราไปขับรถเล่นกันมั้ย “
สองเสียงประสานกันด้วยความบังเอิญ ก่อนผู้เป็นพี่จะเดิมตามอีกฝ่ายไปยังลาเวนเต้คันงามที่รอเจ้าของมันพาออกไปโลดแล่นในค่ำคืนนี้
“ พี่อยากไปไหน “
ทันทีที่ล้อทั้งสี่เพิ่มความเร็วขึ้น ร่างสูงที่นั่งในส่วนของคนขับก็เอ่ยถามอีกฝ่ายซึ่งนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ใบหน้าคมหันมองบรรยากาศด้านนอกตัวรถผ่านกระจกด้านข้างที่เป็นสีเทาเข้ม สายตาคมยังคงเลื่อนลอยไร้ซึ่งจุดหมาย เขาเพียงแค่อยากให้ตัวเองไม่ต้องจมกับอะไรแย่ๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้หนักสมองและปล่อยให้ความรู้สึกมันเป็นไปอย่างนั้น
“ ไม่มี “
“ งั้นผมขับไปเรื่อยๆนะ ถ้าอยากกลับเมื่อไรก็บอก“
“ อื้อ “
เสียงนุ่มดังอยู่ในลำคอเป็นเชิงตอบรับ ความเงียบโรยตัวขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองโดยไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆต่อกัน
“ นี่ “
กลายเป็นเสียงของซองอูที่เริ่มบทสนานั้นอย่างแผ่วเบา
“ ครับ “
“ …. “
“ มีอะไรหรือเปล่า “
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปดาเนียลจึงตัดสินใจแวะจอดรถใกล้ๆสถานีรถประจำทาง หันไปมองผู้เป็นพี่ที่ดูเหมือนมีอะไรมากมายอยู่ในใจ
“ สนิทกับแม่ตัวเองมากเลยหรอ “
เจ้าของเสียงนุ่มเอ่ยถามด้วยแววตาสงสัย อันที่จริงซองอูไม่ค่อยสนิทกับแม่ของตัวเองเท่าไรนักเมื่อเทียบกับพ่อ ด้วยความที่เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวและมีบุคลิกที่คล้ายๆกันเลยทำให้เขาชอบที่จะอยู่กับพ่อของตัวเองมากกว่า ซึ่งเขาเองก็แปลกใจอยู่นิดหน่อยที่เห็นดาเนียลสนิทกับแม่ของตัวเองมาก
มากเสียจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าครอบครัวของเขากำลังห่างเหินกันอยู่หรือเปล่า
ยิ่งมาเจอเหตุการณ์แบบนี้เขาจึงรู้สึกอึดอัดเหลือเกินที่จะเข้าหน้ากับแม่ตัวเอง
“ อื้อ ผมกับแม่คุยกันเหมือนเพื่อนนั่นแหละ มีอะไรก็บอกกันตลอด “
คนน้องตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ ซองอูอ่านแววตาเรียวนั้นได้ชัดเจนยามที่อีกฝ่ายพูดถึงแม่ ดวงตาเรียวเล็กนั้นยกขึ้นไปพร้อมๆกับริมฝีปากหนาที่คลี่ยิ้มกว้าง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวคงมีความสุขและผูกพันกับแม่ของตัวเองมากจริงๆ
ต่างจากเขาลิบลับ
“ ดีจัง “
ริมฝีปากหยักแค่นยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเย็น ไม่สิ อันที่จริงพ่อกับแม่ของเขาก็มักจะมีปากเสียงกันอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับบ่อย ยกเว้นช่วงหลังๆมานี้ที่พ่อของเขาบังเอิญไปรู้เรื่องนั้นมา และมันก็ทำให้สถานการณ์ภายในครอบครัวนั้นแย่ลง
“ อื้อ ดีจัง “
ร่างสูงจ้องมองใบหน้าคมที่มองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ ….”
“ แต่คงดีกว่านี้ถ้าผมได้อยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ผมเองก็อยากสนิทกับพ่อเหมือนกัน คงจะดีถ้าเราได้เจอกันบ่อยๆ “
เป็นฝ่ายของดาเนียลบ้างที่แค่นหัวเราะกับตัวเอง พลางนึกไปถึงชีวิตตัวเองในวัยเด็กที่อยู่ด้วยกันกับพ่อและแม่ ชีวิตที่มีความสุข เขามีทุกอย่างที่ต้องการ อยากได้อะไรก็ได้ ใครๆก็บอกว่าครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
และเวลาก็พรากมันไปจากเขาเช่นกัน
ความเงียบโรยตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับดูดีกว่าเก่าถึงแม้บทสนทนาจะเป็นไปอย่างเคร่งเครียด
คงเป็นเพราะคนทั้งสองกล้าที่จะพูดเรื่องที่ปิดไว้ในส่วนลึกของจิตใจตัวเอง
หรืออาจจะเป็นเพราะพวกเขารู้ดีกว่าตรงนี้ยังมีคนที่รับฟังอยู่
“ แล้วพ่อของนาย อยู่ที่ไหนล่ะ “
ตัดสินใจเอ่ยถามออกไปแม้รู้ดีว่าไม่ควร ดาเนียลเองก็คงเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยที่ต้องเล่าเรื่องราวในอดีต
“ พ่ออยู่อเมริกาล่ะมั้ง ผมเองก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องของท่านสักเท่าไรหรอก นานๆจะติดต่อมาที “
“ รู้ปะ บางทีผมก็เสียใจเหมือนกันนะที่ตัวเองไม่ได้อยู่กับพ่อ แต่มาคิดดูอีกทีเป็นแบบนี้มันอาจจะดีกว่าก็ได้”
“ ขอโทษนะที่ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลย ทั้งๆที่พี่เศร้าอยู่แบบนี้แต่ก็ยังเอาเรื่องของตัวเองมาพูดให้กวนใจเปล่าๆ “
“ แต่ผมอยากบอกจริงๆนะว่า ผมไม่เคยดีใจเลยที่ต้องเห็นพี่เป็นแบบนี้ “
ดาเนียลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมที่สบกันอยู่ในขณะนี้
ความสับสน ความกังวล ....เป็นสองสิ่งที่ร่างสูงสัมผัสได้
“ มันอาจจะเป็นเพราะแม่ เพราะพ่อ หรือเพราะผม “
เขาจงใจเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ เน้นทุกคำอย่างหนักแน่นราวกับต้องการยืนยันว่าตัวเองนั้นไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆ
“ แต่ผมก็ทำได้ดีที่สุดเท่านี้แหละ มันเป็นเรื่องที่พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้ว “
“แต่ผมไม่อยากเห็นพี่เศร้าจริงๆ นะเว่ย เชื่อดิ “
“ พี่เป็นเพื่อนนอกโรงเรียนคนแรกของผมเลยนะ “
“ เดี๋ยว พี่ซองอู “
“ ร้องไห้ทำไม “
ไหล่บางสั่นระริกเสียจนเรียกความสนใจให้กับคนที่พูดอยู่ได้เป็นอย่างดี ใบหน้าคมก้มลงแต่มิอาจปกปิดหยาดน้ำตาที่หยดกระทบลงบนกางเกงของเจ้าตัวได้ ปลายจมูกโด่งรั้นขึ้นสีแดงเฉกเช่นเดียวกับขอบตาที่ร้อนผะผ่าว ก่อนที่เจ้าตัวจะช้อนสายตาขึ้นมองร่างสูงซึ่งอยู่ห่างกันเล็กน้อย
ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายอนุญาต วงแขนกว้างก็โอบไหล่ของคนตรงหน้าให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ฝ่ามือหนาลูบศีรษะอย่างแผ่วเบาคล้ายจะปลอบโยนให้อีกฝ่ายสงบลง และมันก็ได้ผลเมื่อเขารู้สึกถึงลมหายใจที่อ่อนลงของคนในอ้อมกอด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอบอุ่นจากฝ่ามือและอ้อมกอดนี้หรือเพราะจิตใจของเขากำลังสั่นไหวเสียจนต้องการที่พักพิง องซองอูจึงไม่ขัดขืนต่อกิริยาของคนตรงหน้ายามที่คางเรียวจรดลงบนไหล่ขวา กลายเป็นว่าใบหน้าคมซุกเข้าหาอกแกร่งแน่นขึ้นเมื่อดาเนียลกระชับอ้อมกอดนั้น ปล่อยให้เสื้อเชิ้ตสีขาวของอีกฝ่ายเปียกชื้นเป็นวงกว้างด้วยความจำนน
ก่อนที่ซองอูจะรู้ถึงถึงสัมผัสแผ่วเบาจากปลายจมูกโด่งที่กดลงเหนือศีรษะ
และทำอยู่อย่างนั้นซ้ำๆสามรอบ
“ ฉะ ฉัน หนะ เหนื่อย “
ร่างบางผละจากอ้อมกอดเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัด เปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากเมื่อก้อนสะอื้นยังอยู่ในลำคอจนผู้เป็นน้องส่ายหน้าว่าตัวเขาไม่จำเป็นต้องรีบพูดก็ได้
มือหนาเอื้อมไปหยิบทิชชู่ให้คนตรงหน้าเช็ดคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้าเนียน ซองอูคลี่ยิ้มจางๆก่อนรับมันมาซับน้ำตาให้ตัวเองอย่างลวกๆ
“ มันหนักมากใช่มั้ย “
“ .... “
“ เรื่องที่พี่กำลังเผชิญอยู่ “
“ .... “
“ เป็นผมได้ไหม “
“ ที่จะช่วยพี่ออกมาจากเรื่องร้ายๆ “
“ ไว้ใจผมไหม พี่ซองอู “
.
Tbc.
วี้ดดดดดดดดดด คุณแดนคนอบอุ่น ขอโทษที่มาอัพช้านะคะ ยุ่งๆเรื่องงานเรื่องเรียนจนไม่ค่อยมีเวลาเลย
ขอบคุณและขอให้มีความสุขกับการอ่านนะคะ ☺
กด 1 เชื่อใจแดน
กด 2 น้องมันร้าย
ปล.อีกสักพักอาจจะมี18บวกให้อ่าน อิอิ
#เกลียดเนียลอง
Thank you for your attention
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ยิ่งเห็นคำว่า18บวก ยิ่งคิด โอย ไรท์มีความสปอย
นี่อ่านจากหวังให้เขารักกัน นึกว่าจะ18บวกกันตั้งแต่ย้ายไปอยู่เพนเฮ้าส์ด้วยกันแต่แรก แต่แบบเท่าที่อ่านมา มีแต่น้ำตา ทะเลาะกันวนไป จนเลิกหวังละ แค่แบบเขาเข้าใจกันฉันก็ฟิน ไรท์จะมาสปอย18บวก แบบนี้ ตายยยย (สรุป 18บวกคือแอคชั่นยิงกันตาย หรือ18บวกคู่อื่น ผิดคาด ไม่เอานะไรท์ 555)
เป็นกำลังใจ รอรอรอและรอค่า