-ห้องนอนซองอู -
' พัคจีฮุน ' นักศึกษาชั้นปีที่ 1คณะบริหารธุรกิจ ผู้ครองตำแหน่งเดือนคณะไปพร้อมๆกับผลการเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมด้วยคะแนนท็อปเซคเกือบทุกวิชา ทั้งยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง หลานรหัสสายตรงของฮวังมินฮยอน เพื่อนสนิทขององซองอู
คนที่กำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟใต้ตึกคณะพร้อมกับลุงรหัสที่มีสีหน้างุนงงเมื่อถูกอีกฝ่ายโทรชวนให้มาพบกันทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะมีเวลาว่างเลยด้วยซ้ำ
" พี่มินๆ ผมอยู่นี่ ! " มือเล็กกวักเรียกคนที่เข้ามาใหม่ให้เดินตรงมายังโต๊ะกลางร้าน ร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษามาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆแบบที่เจ้าตัวชอบ ที่ใครเห็นก็คงต้องบอกว่าเพอร์เฟ็คเดินเข้ามาหาก่อนนั่งลงฝั่งตรงข้าม
" มีอะไรล่ะเรา อยู่ดีๆก็เรียกพี่มา "
" คิดถึงไม่ได้ไง ต้องมีธุระด้วยหรอ ฮ่าๆ "
เสียงหวานเอ่ยหยอกล้อเจ้าของใบหน้าเรียบเฉยที่คลี่ยิ้มจางๆ อันที่จริงพี่มินฮยอนเป็นคนใจดีแต่ด้วยใบหน้านิ่งๆจึงทำให้คนอื่นมองว่าหยิ่งและเข้าหายาก
ถ้าได้รู้จักจริงๆรับรองว่าร้อยทั้งร้อยต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่
" ดื่มอะไรหน่อยไหม ? "
" สั่งให้พี่เลย อะไรก็ได้ "
" เบื่อคำว่าอะไรก็ได้ของพี่จัง ไม่เลือกอะไรหน่อยหรอ "
" เอาเถอะ "
" ไอซ์คาราเมล มัคคิอาโตแก้วนึงครับ "
ใช่
เพราะพัคจีฮุนรู้อยู่แล้วว่าเขาชอบดื่มเมนูอะไร
ในความเป็นจริงทั้งคู่อาจจะไม่ได้สนิทกันขนาดนี้ถ้า 'จูฮักนยอน' น้องรหัสของเขาไม่ซิ่วไปเรียนแพทย์จนทำให้สายรหัสเหลือกันอยู่แค่ไม่กี่คน ส่วนพี่ปีสี่ไม่ต้องพูดถึง กลัวหลุดจากเกียรตินิยมอันดับสองเลยหายหน้าหายตาไปจนคิดว่าสายเขาเหลือกันแค่สองคนเสียแล้วล่ะ
" แล้วตกลงเรามีอะไร พี่ลืมให้ชีทอันไหนไปอ่านหรอ ก็ว่าให้ครบแล้วนะ "
" ป่าว ชีทสรุปของพี่ผมได้หมดแล้ว มีแต่คนบอกว่าพี่จดโคตรสวยเลย ลายมือเป็นระเบียบอ่านง่ายมาก "
" .... "
" คือที่มาวันนี้อะ อยากจะรบกวนพี่เรื่องพี่ซองอูนิดนึง "
" หือ ไอ้ซองอูอะนะ ? "
" ใช่ คือวันนั้นผมไปกินเหล้ากับพี่ๆค่ายคณะวิทย์มา ละเมามากเลยว่ะพี่ เมาจนไม่รู้ตัวอะว่ากลับมาได้ยังไง จนตื่นเช้ามาเห็นตัวเองนอนอยู่ในห้องใครก็ไม่รู้ "
" อาฮะ "
" มารู้ทีหลังว่าเป็นห้องของดาเนียล แล้วผมก็พึ่งรู้ว่าเป็นน้องพี่ซองอูอีกที โคตรจะตกใจเลย "
" .... "
" ก็เลยรู้สึกผิดที่ไปรบกวนทั้งคู่เลยอะ ผมเลยอยากฝากพี่ไปขอโทษพี่ซองอูอีกที วันนั้นผมไม่รู้เรื่องไรเลย เปิดวาร์ปโคตร "
" แล้วทำไมไม่ไปบอกเองล่ะ มันอยู่ห้องสมุดเดี๋ยวโทรเรียกมาให้ก็ได้เนี่ย "
มือเรียวทำท่ายกโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะกดโทรหาคนที่ถูกกล่าวถึงแต่ก็ถูกมือเล็กปัดออกได้อย่างทันท่วงที ใบหน้าหวานแสดงความกังวลออกมาจนเขาอดหัวเราะไม่ได้
" ไม่เอา วันนั้นผมพูดไปทีละแต่กลัวว่าพี่ซองอูจะโกรธดาเนียลไง วันนั้นเห็นพี่ซองอูหน้าโคตรยุ่งเลยอะ "
" อ่าๆ มันไม่โกรธเราหรอกเรื่องแค่นี้ หน้ามันก็นิ่งๆยังงั้นแหละ "
" หน้านิ่งจริง เหมือนพี่แหละ แต่ยิ้มทีสาวๆคงใจละลายไปค่อนคณะเลยอะ "
พูดพลางใช้นิ้วชี้ทั้งสองข้างจิ้มลงที่มุมปากของตนแล้วยกขึ้นคล้ายจะล้อเลียนคนตรงข้าม มินฮยอนได้แต่ยิ้มกับการกระทำที่เหมือนเด็กๆของอีกฝ่าย
จะรู้บ้างไหมว่าตัวเองน่ารักขนาดไหน
" เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ไปบอกมันให้ มันคงตกใจนะที่เราคิดมากขนาดนี้ "
" จริงๆผมก็ไม่ได้อยากคิดมากหรอกพี่ ถ้าไม่ติดว่า.. "
" หืม "
คิ้วเรียวขยับขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเรียวรีสบกับดวงตาคู่โตที่มองมายังเขา แววตานั้นดูตื่นเต้นเป็นประกายและเปี่ยมไปด้วยความสุข
และใช่ เขาชอบตัวเองเวลาที่ได้จ้องมองดวงตาคู่นั้น
ไม่สิ เรียกได้ว่าทั้งหมดที่เป็นจีฮุนเสียมากกว่า
" คือ ผม... "
" .... "
มินฮยอนจ้องมองใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อ พวงแก้มทั้งสองข้างยกยิ้มกว้างจนอดคิดไม่ได้ว่าบรรยากาศของร้านกับรอยยิ้มตรงหน้านี้อะไรจะสดใสไปกว่ากัน
" ผมว่าผมชอบดาเนียลอะพี่ และอยากทำความรู้จักดาเนียลให้มากกว่านี้ "
แวบนึงที่ฝ่ามือนั้นชะงักไปเล็กน้อย แต่มันก็ไม่มากพอที่จะทำให้อีกคนสังเกตเห็นได้ ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นอย่างที่เจ้าตัวชอบทำไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ใดก็ตาม รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมักจะเอ่ยปากชมเสมอๆว่าดูดี
" ได้สิ เดี๋ยวพี่จะช่วยเราแล้วกัน "
เพราะบางที... โอกาสก็ไม่ได้เลือกเรา
|| | HATE | ||
" สุดท้ายแล้ว "
เหงื่อเม็ดพรายผุดขึ้นบนใบหน้าเรียว เจ้าตัวยกมือขึ้นปาดออกอย่างลวกๆก่อนหยิบลังกระดาษที่บรรจุอุปกรณ์สื่อสารมากมายขึ้นมาแบกไว้แล้วย้ายมันไปอีกห้องหนึ่ง
" แดนมึงกลับไปได้ละ ที่เหลือเดี๋ยวกูดูเอง " เป็นพี่ฮีชอลคนเดิมที่อนุญาตให้เขากลับบ้านได้เมื่อเห็นว่างานที่เหลือมีไม่มากนัก ร่างสูงเดินออกจากตึกกิจกรรมพร้อมกับเพื่อนๆ แยกย้ายกันกลับไปที่รถของตัวเองก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเพนท์เฮ้าส์
เหนื่อยมาทั้งวัน
อยากพักผ่อนหย่อนใจก่อนอาทิตย์หน้าต้องไปค่ายอาสายาวๆ
แต่กลับมาก็ต้องพบกับเอกสารกองโตบนโต๊ะกาแฟในห้องโถง แน่นอนว่าพี่ซองอูเป็นคนวางไว้ให้เขา มือหนาหยิบแฟ้มทั้งหมดขึ้นมาเปิดดูอย่างลวกๆ โพสอิทที่แปะอยู่บนปกเขียนกำชับไว้ว่าเขาต้องทำให้เสร็จภายในพรุ่งนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหาอะไรเว้นเสียแต่ว่าดาเนียลไม่เข้าใจกับรายละเอียดบนแผ่นกระดาษนั่น
10.55 PM
ก๊อกๆๆ
ร่างบางที่กำลังเอนกายอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนลุกขึ้นไปเปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะเบาๆ เจ้าของใบหน้าเรียวซึ่งกำลังรบกวนเวลาส่วนตัวเขาอยู่ในตอนนี้ส่งยิ้มให้จางๆก่อนก้าวเข้ามาในห้อง .... แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเขายังคงยืนขวางทางประตูอยู่อย่างนั้น
" คือผมสงสัยเรื่องงานนิดหน่อย " แขนทั้งสองยื่นเอกสารปึกใหญ่ให้ผู้เป็นพี่ดูเมื่อเจ้าตัวมีท่าทีหงุดหงิดกับการมารบกวนในยามวิกาลเช่นนี้ ตวงตาคมกวาดมองสำรวจก่อนพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้อีกคนเดินตามเข้ามา ซองอูนั่งลงบนโซฟาในห้องตามด้วยอีกฝ่ายที่เว้นระยะห่างออกไปอีกเล็กน้อย
" สงสัยอะไร "
เอ่ยเสียงเรียบโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองคู่สนทนา
" ผมสงสัยว่าในส่วนของโรงงานใหม่ที่เราจะแปรรูปผลไม้เนี่ย ตอนที่เรารับวัตถุดิบจาก supplier เราได้ตรวจสอบคุณภาพก่อนเข้าไลน์ผลิตไหม แล้วถ้ามันไม่ได้ตามมาตรฐานของเราจะมีวิธีการยังไง หรือว่า reject ไปเลย " ร่างสูงเผลอขยับเข้ามาใกล้อีกคนโดยไม่รู้ตัว ชี้นิ้วไปตรงรายละเอียดที่สงสัยพลางจ้องมองใบหน้าคมที่จดจออยู่กับแผ่นกระดาษซึ่งอธิบายรายละเอียดการรับเข้าวัตถุดิบอย่างตั้งใจ
มองมุมนี้พี่ซองอูดูดีชะมัด
เขาชอบเวลาที่พี่ซองอูจดจ่อกับงานมากๆ เหมือนเป็นสิ่งที่เจ้าตัวทำแล้วมีความสุข ใบหน้าเรียวลอบยิ้มไปพร้อมๆกับแววตาที่เป็นประกายเมื่อมองอีกคนซึ่งไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเท่าไรนัก
มันทำให้เขานึกถึงพ่อ เรียกได้ว่าถอดแบบกันออกมาไม่มีผิด
" คืองี้ ...เอ่อ "
เสียงนุ่มกลืนหายไปในลำคอเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอใบหน้าของดาเนียลห่างออกไปไม่กี่คืบ
มองใบหน้าเรียวที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มกวนประสาท
จุดเล็กๆที่ใต้ตาขวาซึ่งกลืนหายไปพร้อมกับดวงตาเรียวรีที่ยกขึ้น
แถมด้วยเสียงหัวเราะทุ้มต่ำของอีกฝ่ายยามที่เห็นว่าเขาชะงักไปชั่วครู่
เห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด
แต่เขาไม่ได้อะไรอยู่แล้วนี่ จะสนใจไปทำไมกัน
" คือเราจะมีการแจ้งเกณฑ์ของบริษัทให้กับทาง supplier ได้รับทราบอยู่แล้วว่าเราต้องการวัตถุดิบแบบไหน เช่น น้ำหนักของผลไม้ที่รับถ้าไม่ถึงเกณฑ์แต่คุณภาพปกติก็อาจจะเอามาแปรรูปทำเป็นสินค้าไลน์อื่น อย่างถ้านายสุ่มตรวจส้มแต่พบว่า 1 กก. มีเกิน 8 ผล นายก็ไปดูคุณภาพอีกทีว่ามีตำหนิตรงไหนบ้าง ถ้าเกิดว่าไม่มีอะไรผิดปกติก็อาจจะเอาไปทำน้ำส้มแทนที่จะใช้แปรรูปทั้งผล " เอ่ยต่ออย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะยังขำไม่หยุด มองใบหน้าเรียวที่พยักหน้าหงึกหงักตามยามที่เขาอธิบาย แวบนึงที่ดวงตาของทั้งสองสบกันอย่างบังเอิญจนเขาต้องหลบสายตาออกไปเสียก่อน
เกลียดจริงๆเวลาที่ดาเนียลทำให้เขาเสียสมาธิ
" แล้วรสชาติล่ะครับ เราจะรู้ได้ไงว่าทุกล็อตที่รับมามีรสชาติเหมือนกันหมด "
" อันนี้จะต้องอ้างอิงจาก Brix degree ของโรงงานที่ระบุไว้ อย่างแรกคือนายจะต้องวัด pH ก่อนแล้วเอาน้ำผลไม้ที่ได้มาปรุงรสอีกที "
" อ๋อ "
" ถ้าเกิดว่ารสชาติยังไม่ได้ก็อาจจะต้องปรับกรดอีกนิดหน่อย แต่ในส่วนนี้จะมีคนที่ดูแลอยู่ นายลองไปคุยกับเขาดูได้เพราะฉันเองก็ไม่ได้รู้ละเอียดมากเหมือนกัน "
" แล้วอย่างกระป๋องที่บรรจุล่ะครับ เราจะรู้ได้ยังไงว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่โลหะหนัก มีเศษชิ้นส่วนหลุดเข้าไปปะปนกับเนื้อผลไม้หรือเปล่า "
" ก่อนปิดผนึกก็จะส่งเข้าเครื่องตรวจจับโลหะอยู่แล้ว ในขณะที่ก่อนบรรจุก็จะทำการสุ่มตรวจกระป๋องที่ใช้และทำความสะอาดทั้งหมด ถ้าเกิดพบกระป๋องที่มีปัญหาก็จะ hold ทั้งล็อตการผลิตนั้นไว้ก่อน แล้วทำการตรวจสอบซ้ำอีกที ผ่านไม่ผ่านก็เอามา reprocess ใหม่ได้ "
" ....อือ "
" ส่วนการบรรจุนายเข้าไปดูที่โรงงานได้เลย เครื่องก็คล้ายๆกับที่โรงงานเดิมแต่ว่าจำนวนอาจจะน้อยลงเพราะพวกผลไม้ pH ต่ำอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ความร้อนสูงเหมือนอาหารสำเร็จรูปเดิมๆของเรา "
" .... "
" เพราะถ้าให้ความร้อนมาก กลิ่นรส รสชาติ เนื้อสัมผัสของผลไม้ก็จะเสีย นายเรียนมาก็น่าจะรู้ดี "
" .... "
" มีตรงไหนที่ยังไม่เข้าใจอีกไหม "
ซองอูเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปในขณะที่ยังจ้องเอกสารตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ก่อนความสงสัยจะคลายลงเนื่องจากสัมผัสหนักๆที่กดลงบนไหล่ลาด
สรุปที่เขาพูดไปนี่ไม่ได้ฟังเลยสินะ
หลับซะขนาดนี้
40% is loading
หลังจากช่วงสอบกลางภาคได้สิ้นสุดลง เผลอแปปเดียวก็เข้าสู่กลางเดือนพฤษภาคมแล้ว แน่นอนว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนครึ่งชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ต้องเข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคต่อ ถึงแม้จะยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่กระชั้นชิดสักทีเดียวแต่ซองอูก็ดูเหมือนจะรีบร้อนกับการอ่านหนังสือสอบปลายภาคมาก เขาคิดอยู่เสมอว่ามีเวลาเตรียมตัวมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น โดยเฉพาะกับคนที่มีอะไรให้ทำในหลายบทบาทเฉกเช่นเขาในตอนนี้
" พวกมึง กูไปก่อนนะ "
ร่างบางเอ่ยลาเพื่อนๆทันทีที่จบคลาสพลางเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ ยกมือขึ้นมองนาฬิกาก่อนตัดสินใจได้ว่าจะทำอะไรต่อ
พึ่งหกโมงเย็น
กลับเพนท์เฮ้าส์ไปตอนนี้ก็ไม่รู้จะทำไร
" มึงรีบไปไหนอีกวะ "
มินฮยอนถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ปกติซองอูไม่ใช่คนที่จะใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านเท่าไร แต่พักหลังมานี้เจ้าตัวดูท่าจะชอบใช้เวลาไปกับการนั่งอ่านหนังสือเงียบๆในห้องสมุดมหาลัยเสียเหลือเกิน
" ไปหาหนังสืออ่าน มึงมีไรเปล่า ? "
ใบหน้าคมหันไปมองเจ้าของคำถามแต่พบเพียงดวงตาเรียวรีที่หรี่ลงและมองมาอย่างรู้ทัน
" ไปหาหนังสืออ่านหรือมึงไม่อยากกลับบ้านกันแน่ "
" เรื่องของกูไหม กวนตีน ! "
ขายาวรีบก้าวออกไปจากห้องพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินตามมาติดๆ หลังจากตกลงได้ว่าจะไปนั่งอ่านหนังสือด้วยกัน เพราะตอนเย็นก็ไม่ได้มีธุระอะไรอยู่แล้ว
พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะตรงกลางชั้นสองซึ่งในเวลานี้ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก เนื่องจากยังไม่ถึงช่วงที่นักศึกษาจะเริ่มอ่านไฟนอล และเป็นเพราะส่วนใหญ่ชอบไปนั่งอ่านตามมุมสงบเสียมากกว่า
" กูไปดูหนังสือตรงนู้นก่อนนะ "
แจฮวานพูดก่อนเดินไปยังชั้นหนังสือประวัติศาสตร์ ซองอูเองก็เดินตรงไปยังชั้นหนังสือเกี่ยวกับการตลาด ปล่อยให้มินฮยอนนั่งเฝ้าสัมภาระกองโตแล้วค่อยผลัดกันเดินไปหาหนังสือที่ตนต้องการ
เขาเดินสำรวจทั่วชั้นหนังสือเพราะเล่มที่มาดูไว้เมื่อวันก่อนหายไป นึกบ่นกับตัวเองในใจว่าน่าจะยืมไปอ่านตั้งแต่เมื่อวาน แต่แล้วฝีเท้าก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อช่องว่างที่เขากำลังจะเดินเข้าไปมีคนยืนอยู่ก่อนหน้าแล้ว
คุ้นๆ
แวบนึงที่ซองอูได้มองเสี้ยวหน้าของคนๆนั้น
เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนที่รับกับใบหน้าเรียว
สันจมูกโด่งกับริมฝีปากหนาที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
ร่างสูงที่ไม่ได้ผอมจนเกินไปใส่เสื้อกันหนาวโอเวอร์ไซส์สีดำซึ่งพาดอยู่บนโซฟาในโถงเมื่อเช้า
" มาอ่านหนังสือการตลาดเนี่ยนะ ...แปลกดี "
เสียงนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองโดยไม่ได้ทักทายกับคนที่อยู่อาศัยในบ้านเดียวกัน เดินพ้นระยะมายังอีกช่องหนังสือก่อนเดินเข้าไปหาเล่มที่เขายังไม่เคยอ่านและคาดว่าจะนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาบริษัทของตัวเองได้ หมดเวลาไปพอสมควรกับการไล่หาหนังสือจนเจอเข้ากับเล่มที่น่าสนใจ มือเรียวจัดแจงหยิบออกมาสองสามเล่มแล้วเดินกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง
ร่างบางหย่อนกายลงบนเก้าอี้ไม้ที่ดูแล้วน่าจะผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก ดวงตาคมไล่มองตัวอักษรเล็กๆบนแผ่นกระดาษซึ่งอธิบายเนื้อหาคร่าวๆในเล่ม เปิดอ่านอย่างไม่เร่งรีบ เจ้าตัวทำความเข้าใจทีละบรรทัดและจดจ่อจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของคนฝั่งตรงข้าม
" มึงๆ "
แจฮวานที่นั่งอยู่ก่อนสะกิดให้เพื่อนรักเงยหน้าขึ้นมามองตน
" ให้ทายกูเจอใคร "
เอ่ยคำถามที่ต่อให้เขาคาดเดาก็คงตอบไม่ถูก หันมองซ้ายขวาก็ไม่พบใครที่น่าจะรู้จักจึงถามกลับไป
" ใครวะ "
" กูว่ายังไม่พูดดีกว่า "
เหลือบมองร่างโปร่งที่กำลังเดินเข้ามาไม่ไกลด้วยสีหน้าเรียบเฉย มินฮยอนเลือกนั่งลงข้างๆแจฮวานก่อนก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่เจ้าตัวหยิบมาโดยไม่สนใจใคร ความเงียบก่อตัวขึ้นรอบๆโต๊ะอย่างผิดปกติ
ไม่ได้เงียบแบบบรรยากาศที่ห้องสมุดที่ดีพึงมี
แต่เงียบเสียจนพวกเขารับรู้ได้ถึงความอึดอัด
ดวงตาสองคู่สบกันอย่างมีพิรุธ
' มึงว่ามันแปลกๆปะ '
ข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ทำให้ซองอูหยิบขึ้นมาพิมตอบในทันที อย่างน้อยการแอบคุยในนี้ก็น่าจะดีกว่าแอบกระซิบจนมินฮยอนสังเกตได้แล้วกัน
' เออ '
' ไปโกรธใครมาวะ '
' หรือมันไปเจอแฟนเก่าแม่งวะ '
ซองอูยิ้มขำเมื่อชำเลืองมองใบหน้ามนของเพื่อนรักที่ติดจะยุ่งๆหน่อย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันและเดาว่าเจ้าตัวคงไม่รู้แน่ๆว่าสีหน้าตัวเองในตอนนี้แสดงออกถึงความขุ่นเคืองมากเพียงใด
' ทำไมมึงคิดงั้นวะ '
' มึงมอง 4 นาฬิกามึงอะ '
ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นแจฮวานหันไปมองตามทิศที่เขาบอก ก่อนหลุบสายตาลงต่ำเพราะกลัวต้นเหตุจะรู้ว่าพวกเขาแอบนินทาอยู่
' แต่กูว่าไม่ใช่นะ '
' ไมวะ '
' กูเห็นจีฮุนนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงมุมนู้น ตรงที่ไอ้มินฮยอนมันเดินไปเอาหนังสือ '
' แถมนั่งอ่านอยู่กับใครก็ไม่รู้ หัวสีน้ำตาลๆ น่าจะสูงอยู่แหละ '
' ...อืม '
' ใส่เสื้อกันหนาวสีดำตัวใหญ่ๆอะ แต่กูมองเห็นหน้าไม่ชัด '
' มึง หิวยัง ? '
' พาไอ้มินออกไปหาไรกินมั้ย ไม่อยากให้แม่งรู้สึกแย่ว่ะ '
พิมจบก็เก็บหนังสือบนโต๊ะไปวางในที่ที่ห้องสมุดจัดเตรียมไว้ให้โดยไม่รอคำตอบจากเพื่อน กึ่งจูงกึ่งลากมินฮยอนที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยให้เดินตามกันไปอย่างรวดเร็วโดยมีแจฮวานที่เดินตามกันมาไม่ห่าง
เขารู้ว่าเพื่อนตัวเองคงไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นมา
เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักรู้สึกกับจีฮุนในรูปแบบใด
และเขาคงรู้มากเกิน ....จนลืมไปว่าหัวใจตัวเองก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างไม่ต่างกัน
องซองอูเป็นคนฉลาด
และคนฉลาดมักไม่รู้ว่าตนโง่เขลาเพียงใด ...... โดยเฉพาะเรื่องของตัวเอง
.
.
.
.
.... ' พ่ออยากให้เราศึกษาเรื่องการตลาดไว้บ้าง '
' รู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ถึงลูกไม่ได้เรียนมาแต่มันก็เอามาใช้ประโยชน์ได้ไม่น้อยเลยนะ ' .......
" ไปห้องสมุดกับกูมั้ย ? "
" ไม่ว่างว่ะ ต้องไปซื้อของเข้าคอนโดอะมึง "
" พ่อแม่กูบินวันนี้ คงไปกับมึงไม่ได้ "
" กูก็ด้วย "
" เออๆ ไม่เป็นไร งั้นกูแยกละนะ "
ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับการหาหนังสือตามหมวดหมู่ เพราะตอนอยู่แคนาดาเขามักจะออกไปทำกิจกรรมมากกว่าหมกตัวอยู่กับทฤษฎีบนหน้ากระดาษ ร่างสูงจึงเดินวกไปวนมาอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยกว่าสิบนาทีแล้ว
" อ่า "
เดินเลาะไปตามชั้นหนังสือจนกระทั่งพบหมวดหมู่ที่ต้องการ ขายาวก้าวเข้าไปดูหนังสือที่เรียงบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ หยิบออกมาดูหน้าปกทีละเล่มจึงค่อยๆตัดสินใจเลือกเล่มที่ตัวเองสนใจ
แต่สายตาของเขากลับมองผ่านช่องว่างระหว่างหนังสือสองเล่มบนชั้นที่อยู่ตรงระดับสายตาพอดี
เพื่อพบกับอีกคนซึ่งหาหนังสืออยู่ในชั้นถัดไป
.. เรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่รับกับใบหน้าคม
จมูกโด่งรั้นกับริมฝีปากหยักที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
ร่างบางที่ติดจะผอมจนเกินไปใส่ชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า ...
มีอยู่ไม่กี่คนหรอกที่จะเคร่งครัดกับกฏระเบียบขนาดนี้
มิน่าล่ะ เขาถึงได้เห็นควอทโทรปอร์เต้สีเทาหม่นจอดอยู่หน้าตึก
ดาเนียลลอบมองใบหน้านั้นอยู่พักใหญ่ บางทีก็หลุดขำเพราะดูท่าเจ้าตัวจะหงุดหงิดกับการหาหนังสือที่ถูกใจไม่เจอสักทีถึงได้ทำหน้างองุ้มแบบนั้น หรือบางทีก็เผลอยิ้มไปกับการกระทำเล็กๆน้อยๆของคนที่เขาคิดว่าเย็นชา
ภาพของพี่ซองอูในตอนเด็กกับตอนนี้เหมือนกันไม่มีผิด ราวกับเป็นภาพทับซ้อนในอดีตเมื่อรอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าของเจ้าตัวเพียงเพราะเจอหนังสือที่อยากอ่าน
บางทีคนเราก็ไม่ได้มีแต่มุมใจร้ายหรอกใช่ไหม
" อ อ้าว "
ขณะเดินตามหวังจะเข้าไปทักผู้เป็นพี่ ใบหน้าเรียวก็หันกลับมามองต้นเหตุของแรงสะกิดที่แผ่นหลัง
" มาคนเดียวหรอ "
เสียงหวานเอ่ยถามโดยไม่ลังเล
" อ่า ใช่ "
หันไปมองคนที่เขาเดินตามอยู่แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่าเมื่อร่างบางเดินหายไปสุดสายตา ก่อนจะหันกลับมาเจอรอยยิ้มกว้างของคนตรงหน้า ที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนว่าไปอารมณ์ดีมาจากไหน
" ไปนั่งด้วยกันไหม ? "
ร่างเล็กเอียงคอมองอีกฝ่าย และมันก็ทำให้เขาปฏิเสธไม่ลงเมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่โตซึ่งมองมาด้วยความคาดหวัง
" ไปสิ "
ดาเนียลเลือกนั่งฝั่งเดียวกับจีฮุนทว่าถัดออกไปสองที่นั่ง ก่อนอ่านกลไกการตลาดเล่มหนาในมือ บรรยากาศปกคลุมไปด้วยความเงียบที่โรยตัวขึ้น ปราศจากคำพูดใดๆ แม้ว่าเขาจะพยายามชวนคุยแต่ก็ได้รับเพียงคำตอบสั้นๆกลับมา
ดูท่าระยะห่างระหว่างเขากับดาเนียลจะไกลกว่าที่คิด
ขนาดพยายามเข้าหา พยายามทำความรู้จักแต่กลับรู้สึกถึงกำแพงที่กั้นระหว่างเขาทั้งสองไว้
แต่พัคจีฮุนจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เขาเชื่อว่าความพยายามจะเลือกอยู่ฝ่ายเขา
อย่างน้อยค่ายอาสาครั้งนี้ก็คงทำให้เขาสนิทกับเจ้าตัวมากขึ้น
tbc.
ยังไม่จบค่ะ อ่านสเปเชี่ยลก่อนเนอะ ↓
special scene *
( ต่อจากที่คนน้องเผลอหลับไปนะคะ ♥ )
11.15 PM
" อื้ออ " เสียงครางเบาๆในลำคอเป็นคำตอบที่ดีว่าดาเนียลยังคงหลับสบายจนซองอูนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อศีรษะทุยยังคงเอนซบอยู่ไม่ขยับไปไหน
และไม่คิดจะตื่นถึงแม้ว่าเขาจะปลุกไปสามรอบแล้วก็ตาม
" เฮ้อออ " ร่างบางถอนหายใจเมื่อมือของคนข้างๆยกขึ้นตวัดไปรอบๆจนเกือบโดนหน้าเขาก่อนจะหยุดลงที่พนักพิงโซฟา ใบหน้าเนียนฝังลงที่ลำคอระหงของผู้เป็นพี่ราวกับได้ท่านอนและองศาที่ต้องการ สันจมูกกดลงกับผิวเนียนจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่ลดรินลงบนซอกคอขาว นั่นยิ่งทำให้ซองอูลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิม
ดูท่าจะหลับสนิทเมื่อสังเกตจากสีหน้าอ่อนเพลียของคนอายุน้อยกว่า
.... เขารู้ดีว่าไม่ควรปลุก
แต่จะให้นั่งรออยู่อย่างนี้ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน
11.20 PM
" ดาเนียล "
สะกิดแขนอีกฝ่ายที่วางอยู่บนตักเขาเบาๆจนกระทั่งรู้สึกตัว ร่างสูงขยับใบหน้าเล็กน้อยพร้อมพึมพำอะไรสักอย่างที่ซองอูเองก็ฟังไม่ถนัด
และหลับไปอีกครั้ง
เฮ้อ .... เขาชักจะหงุดหงิดแล้วนะ
11.30 PM
" ดาเนียล !!! "
เสียงตะโกนดังลั่นห้องพร้อมกับแรงจากฝ่ามือทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
ดาเนียลพึ่งนึกออกว่าเขาได้ใช้ไหล่ผอมๆของพี่ชายเป็นหมอนหนุนมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
แย่แน่ๆ
เจ้าของความสูง 180 เซนติเมตรลุกขึ้นยืนแล้วก้มโค้งขอโทษอีกฝ่ายก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆไปให้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงแค่สีหน้าเรียบเฉยกับแววตาเย็นชาที่เขามักจะเห็นอยู่เป็นประจำ
" ไปได้แล้ว "
" ครับ "
" นี่ ! "
" ค ครับ ? "
" นายลืมเอาเอกสารกลับไป " มือเล็กยัดมันใส่ฝ่ามือหนาของอีกฝ่ายแล้วดันหลังให้พ้นประตูห้องไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศในห้องยังคงทำงานปกติ
แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกร้อนผะผ่าวแบบนี้ล่ะ
แค่อยากให้เตรียมตัวกันไว้ก่อน แต่รับรองว่าพี่องจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ :)
คงต้องให้มีอะไรบางอย่างมาจุดประกายความคิดก่อน (ซึ่งอาจมาพร้อมกับการจุดระเบิดชนวนด้วยเช่นกัน)
ส่วนสองศรีพี่น้อง น้องลูกมองพี่จนเคลิ้มหลับเลย ไหวไหมมมม