คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : รักใสใสหัวใจคยองซู 3
“สวยแล้วฮะ ไม่ต้องส่องกระจกแล้ว” ผมเดินเข้าไปสวมกอดพลางหอมลงที่แก้มนิ่มของหญิงร่างท้วมนิดๆที่ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจกบานใหญ่
“แหมได้ที่ไหนกันจ้ะ นี่แม่เป็นถึงช่างทำผมชื่อดังระดับโลกเลยนะ” ว่าแล้วก็จับๆเซตๆที่ผมของตัวเองอีกรอบ “ต้องสวยเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าตลอดเวลาสิ่ถึงจะถูก”
ผมยิ้มขำให้กับท่าทีตลกๆของคุณนายช่างเสริมสวยโดที่ชอบมโนบ่อยๆว่าตัวเองเป็นช่างผมระดับโลก แต่ที่จริงแล้วบ้านเราเป็นเพียงแค่ร้านเสริมสวยเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตมากมายนัก แต่ก็พอมีรายได้มาจุนเจือครอบครัวได้สบายๆพอตัว
“แล้วเย็นนี้แม่อยากกินอะไรฮะหนูจะได้ทำให้ นี่ท้องร้องตั้งแต่เที่ยงแล้วเนี่ย” กระเป๋าเป้ใบเล็กถูกวางบนเก้าอี้ประจำก่อนผมจะเดินหายเข้าไปในครัว คว้าผ้ากันเปื้อนสีเหลืองสดลายหมีคุมะมาสวมทับชุดนักเรียน
“อะไรก็ได้จ้า ขอให้กินได้ก็พอแล้ว”
“คร้าบบบบบ”
ตอบรับเสียงใสก่อนมือเล็กจะหยิบจับเครื่องครัวอย่างคล่องแคล่ว เครื่องปรุงและส่วนประกอบอาหารถูกนำมาวางจัดเรียงตามเมนูที่คิดขึ้นในหัวจนเต็มโต๊ะเตรียมอาหาร ผมเป็นคนชอบทำอาหารและมีความสุขที่ได้คิดค้นเมนูใหม่ๆอยู่เสมอ เรื่องรสชาติก็ไม่ได้อร่อยเลิศเลออะไรนักเท่าที่จำได้คุณนายช่างโดก็กินหมดแทบไม่เหลือทิ้งก็เป็นอันพอใจแล้วสำหรับผม
เราอยู่กันสองแม่ลูก ส่วนพ่อผมเป็นเชฟอยู่อเมริกาคอยส่งเงินมาให้พวกเราใช้อยู่ไม่ขาด นานๆทีถึงจะกลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาตามเทศกาล แต่ส่วนมากผมกับแม่ก็มักจะคอลสไกป์หาพ่ออยู่บ่อยๆถ้ามีเวลาว่าง การที่ผมได้เห็นพ่อใส่ชุดขาวที่ดูภูมิฐานรวมทั้งหมวกทรงสูงนั้น มันเหมือนเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากจะเดินรอยตามของพ่ออยู่ไม่น้อย แค่คิดว่าคนกินอร่อยและตื่นเต้นกับอาหารที่เราทำขนาดไหน มันคงจะมีความสุขอยู่ไม่น้อยเลย
หลังจากที่ศรีโด้ลูกรักผู้แสนดีในสายตาของช่างโดคนสวยจัดการมื้อเย็นพร้อมล้างจานตามหน้าที่ อาบน้ำอาบท่าทาโลชั่นกลิ่นน้ำนมอย่างทุกวันจนหอมฟุ้งเสร็จเรียบร้อย สองขาเล็กก็รีบจ้ำขึ้นห้องนอนชั้นสองอย่างระริกระรี้
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะถูกเปิดขึ้นทันทีที่ประตูห้องปิดฉับ นิ้วเล็กคลิกอยู่สองสามทีเฟสบุ้คของใครบางคนก็โชว์หราเต็มหน้าจอ แทบไม่ต้องเดา แน่นอนว่ามันเป็นเฟสของใครไม่ได้นอกจากเฟสชื่อเท่บาดใจอย่าง กูไม่ได้ดำ กูผิวสีแทน ของพ่อเทพบุตรผิวแทนนั่นเอง
ศรีโด้จำได้ว่าก่อนกลับบ้าน เพื่อนแบคผู้แสนดีได้ให้วิชาลับฉบับมัดใจชายมาหนึ่งจบ ซึ่งแค่นึกถึงบทแรกของวิชานี้ รอยยิ้มกว้างก็คลี่บานออกมาเต็มหน้าใส
บทแรกที่มีชื่อว่า กดไลค์เรียกร้องความสนใจ
ไม่ต้องรอให้เสียเวลานาน เสียงคลิกเมาส์ก็ดังขึ้นทั่วห้องนอนขนาดเล็ก ศรีโด้ผู้ใสซื่อและเรียบร้อยของเพื่อนๆกำลังรัวเมาส์อย่างเมามันส์ไปที่อัลบั้มรูปโปรไฟล์ของไคจนเมาส์แทบพัง สกิลการเล่นดอทเอที่สั่งสมมานานในที่สุดวันนี้มันก็มีประโยชน์ขึ้นมาทันตา
รูปนี่ก็หล่อ รูปนี้ก็เท่ เอียงมุมข้างทีนี่ใจละลาย แอร้ยยยยย
กดไปกดมาเพลินๆแค่นาทีเดียวรัวไลค์ไปกว่าสิบรูปอย่างไม่รู้ตัว แต่น่าเสียดายที่นอกจากอัลบั้มนี้แล้วก็แทบไม่มีอะไรให้กดอีก รูปแท็กส่วนมากก็เป็นพวกรถเบนซ์กับแบงค์สีเทาๆเป็นสิบใบวางเรียงอยู่หน้ากระโปรงรถพร้อมกับภาพแคปชั่นที่เห็นจนเมื่อยตา
ขอโทษนะคะพอจะรู้จักคนเล่นอินเตอร์เน็ตวันละ 3-4 ชั่วโมงมั้ยคะ
อยากจะตอกกลับไปเหลือเกินว่าไม่รู้จักหรอกฮะวันละ 3-4 ชั่วโมงน่ะ มีแต่พวกที่เล่นทั้งวันทั้งคืน เล่นไม่หยุดไม่หย่อนเล่นจนแม่ด่าอะไรประมาณนี้น้องคยองบอกเลยนะฮะว่าเพียบ ถ้ามันรวยจริงทำไมไม่ทำเองจะมาหาคนทำอีกทำไมไม่ทราบ
เห็นแล้วน้องคยองเพลีย
สู้คิมไคของน้องคยองไม่ได้ เป็นพ่อพระผู้แสนดีให้อาหารสัตว์แทบทุกจะสเตตัส มีความเมตตา กรุณา ปราณีตามที่ครูจริยธรรมสอนไว้ทุกระเบียดนิ้ว ทั้งสัตว์ ทั้งเหี้ย ควายบ้างล่ะ ห่าบ้างล่ะ อ๊ะๆ นี่ยังอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยด้วยนะฮะ น่ายกย่องเป็นคนดีศรีพ่อขุนรามจริงๆเลย พ่องเพิ่งไม่เอานะฮะมันวิบัติ พ่อมึง แม่มึง เต็มๆนี่ล่ะ น่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งมาก ถูกใจอย่างนี้ก็จัดไปเลยฮะสเตตัสละหนึ่งไลค์
นี่ก็ดีนี่ก็งามฮะ เพิ่งจะรู้ว่าคิมไคก็เก่งโฟโต้ชอปไม่เบาถึงขนาดต้องโพสต์ลงวอลล์ให้เพื่อนๆได้ชื่นมชมกัน แถมยังรักเพื่อนโย่งชานยอลออกนอกหน้าทำแฟนองแฟนอาร์ตให้เท่ๆเต็มไปหมดจนคนไลค์เป็นร้อย ดูไปก็ขำไปมือก็ลั่นไปกดไลค์อีกซะทุกรูป รู้ตัวอีกทีแทบจะทุกรูปทุกสเตตัสของเฟสบุ้คพ่อเทพบุตรผิวแทนสุดเซ็กซี่ก็ต้องมีชื่อ ศรีโด้ ห้องเก้า ไปซะทุกอัน
ตึ๊ง!
อยู่ๆช่องแชทเฟสบุ้คของศรีโด้ก็เด้งขึ้นมาไม่ทันตั้งตัวจนร่างน้อยสะดุ้งโหยง
กูไม่ได้ดำ กูผิวสีแทน
ไลค์เยอะนะครับ ^ ^
อุ้ย! สงสัยปฐมบทแรกของเพื่อนแบคจะได้ผลดีชะงัดนะฮะ นี่คยองบอกก่อนเลยนะว่าคยองไม่ได้ทักไม่ได้อ่อยเลย เขามาเองงงงงง
ว่าแล้วก็มือไม้สั่นพิมพ์กลับไปอย่างรวดเร็ว
ศรีโด้ ห้องเก้า
กิจวัตรก่อนนอนน่ะฮะ ^ ^
กูไม่ได้ดำ กูผิวสีแทน
555555555555555
วันนี้เรื่องในห้องน้ำ ขอโทษอีกรอบนึงนะ
ศรีโด้ ห้องเก้า
เอ้ยเราไม่ได้โกรธ ไม่เป็นไรๆ
อ่านเมื่อ 20:15
ระหว่างที่รอเขาตอบก็พยายามกดหาสติกเกอร์แบ้วๆน่ารักๆหวังจะส่งไปให้ แต่จนแล้วจนรอดนอกจากคำว่า อ่านเมื่อ 20:15 นี่ก็เกือบจะสองทุ่มครึ่งแล้ว ก็ไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะพิมพ์โต้กลับมาเลยสักนิด
คยองซูนั่งหน้านิ่งคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันเป็มปม เคาะนิ้วตามจังหวะเพลงที่เปิดจากยูทูปแล้วก็คิดหนัก นี่คือจะไม่ตอบกลับแล้วใช่ป่ะฮะ แค่บอกว่าไม่เป็นไรก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันใช่มั้ย คือเริ่มเครียดแล้วนะ ไม่รู้ว่าจะสานต่อตัวหนังสือสีเทาเล็กๆนี่ยังไงดี เหลือบไปมองที่หัวช่องแชทปุ่มเขียวๆก็ยังโชว์หราอยู่ แสดงว่าพ่อเทพบุตรยังออนไลน์อยู่แน่นอน แต่ทำไมไม่ตอบนี่สิ่ปัญหา
ไม่ได้การล่ะ บทที่สองจะต้องมา!
ถ้าเขาอ่านแล้วไม่ตอบแสดงว่าไม่มีอะไรจะคุยต่อ ขั้นแรกให้ส่งสติกเกอร์ไปท้วงก่อนเนียนๆ
สายตาเริ่มสอดส่องหาสติ้กเกอร์แชทเฟสที่เคยโหลดๆไว้แล้วก็กุมขมับ ธรรมดาส่งแต่สติ้กเกอร์กวนๆไปให้แบคฮยอนกับเซฮุน เลยไม่ค่อยมีสติกเกอร์ที่แบ้วๆใสๆอะไรทำนองนั้นกับเขาซักเท่าไหร่ การโหลดสติกเกอร์เซ็ตแบ้วใสเรียกร้องความสนใจจึงเริ่มขึ้น
กำลังโหลด pusheen แมวน้อยสีเทาตัวอ้วน
กำลังโหลด mobile girl เด็กหญิงหน้าม้ามุ้งมิ้ง
สรรหาอยู่นานสุดท้ายก็กลั้นใจส่งสติ้กเกอร์เด็กหญิงเสื้อเหลืองหน้ามุ้งมิ้งไปให้ในท่ากอดอกแล้วมีประกายสีทองฟุ้งรอบตัว
นี่ก็ไม่ได้ลุ้นไม่ได้เลิ้นอะไรหรอกนะฮะ ทำเป็นกดนั่นเปิดนี่ไปเรื่อย ดูรูปบ้าง ฟังเพลงบ้างแต่ก็ยังไม่ออกจากหน้าวอลล์ของเจ้าของห้องแชทอยู่ดี ไอ้รูปที่ดูก็รูปเขาตอนเตะบอลเมื่อปีที่แล้วตอนงานกีฬาสี เพลงที่ฟังนี่ก็เพลงจากหน้าวอลล์เขาทั้งนั้น ฟังออกบ้างไม่ออกบอกเพราะพ่อคุณเล่นฟังแต่เพลงฮิปฮอปโย่วแรปกระจาย ไม่ก็เพลงเมทัลร็อคโหดๆแหกปากกันทั้งเพลง ถึงขั้นเปิดมาวิเดียวก็ต้องรีบปิดกลัวแม่ที่อยู่ห้องข้างๆจะได้ยินเข้าแล้วหัวใจวายไปซะก่อน
จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีทีท่าว่าพ่อเทพบุตรจะตอบกลับมาเลยสักนิดจนน้องคยองเริ่มถอดใจ กะว่าจะปิดคอมนอนคุมโปงฝันเอาเองก็ได้ แต่ระหว่างที่กำลังจะกดรีเฟรชหน้าฟีดอีกครั้งก็ต้องชะงัก
ตึ๊ง!
กูไม่ได้ดำ กูผิวสีแทน
โทษที พอดีเมื่อกี้น้องใช้คอมน่ะ
อะไรนะน้องใช้คอม?
คือไม่ได้เมิน ไม่ได้ไม่สนใจ ไม่ใช่ว่าไม่แคร์
แต่แค่น้องใช้คอมเลยตอบไม่ได้ใช่ป่ะฮะ
โอ้ยยยยยยยยยย อยากจะกรี้ดไปสามบ้านแปดบ้าน เอามือทาบอกที่มีใจเต้นหนักๆหนึ่งทีแล้วก็ตั้งสติพิมพ์ตอบกลับเนิบๆ จะให้เขารู้ไม่ได้ว่าเรารอเขาตอบอยู่ ต้องนิ่งเข้าไว้ วางตัวเข้าไว้ อย่าให้เขาจับได้
ศรีโด้ ห้องเก้า
อ่าวเหรอ 555555
เรากำลังจะไปนอนพอดีเลย
กูไม่ได้ดำ กูผิวสีแทน
กำลังพิมพ์ข้อความ...
หน้าใสใสจ้องลึกเข้าไปที่หน้าจอรอลุ้นว่าพ่อเทพบุตรจะตอบอะไรกลับมาแล้วก็ใจเต้น มือไม้ชื้นเหงื่อเย็นไปหมดทั้งที่ห้องก็ไม่ได้เปิดแอร์เพราะว่าเป็นคนขี้หนาว พลางกดหาสติกเกอร์เตรียมตบท้ายชวนคุยเรื่องต่อไปเนียนๆ แล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลง น้องคยองเบิกตาที่โตอยู่แล้วให้โตขึ้นอีกจนแทบถลน ข้อศอกที่เท้ากับโต๊ะผงะร่วงเกือบตกเก้าอี้ทันทีที่อ่านข้อความ
กูไม่ได้ดำ กูผิวสีแทน
งั้นฝันดีนะ บาย ^ ^
อะไรคืองั้นฝันดี?
อะไรคือบาย?
นี่คือไล่ใช่ป่ะฮะ?
นี่คือไม่คุยต่อแล้ว?
แล้วสติกเกอร์มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งที่กำลังจะกดส่งไปให้ล่ะคืออะไร?
ไหนจะชวนคุยว่าพรุ่งนี้จะเลือกชมรมไหนล่ะคืออะไร?
อยากจะตีมือตัวเองให้หักคาคีย์บอร์ด ทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้นะศรีโด้ ไปบอกเขาว่ากำลังจะนอนเป็นใครเขาจะชวนคุยต่อล่ะโอยยยยย นึกแล้วก็ทึ้งหัวตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมด เสยผมเปิดเหม่งจนจะเถิกข้อความนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
แต่เดี๋ยวก่อนนะจ้ะ
ถ้าโลกสวยหน่อยก็คิดซะว่าเขาบอกฝันดีละกันนะ ฮริ้งงงงงงง
อยู่ๆก็มีผู้ชายมาบอกฝันดี คิดอีกทีก็เผลอยิ้มจนตาปิด ตลอดสิบเจ็ดปีที่ผ่านมาไม่เคยจะมีใครเข้ามาในชีวิต วันๆก็มีแต่เพื่อนกับเรียนแล้วก็ช่วยแม่บ้างเวลาลูกค้าเยอะ หน้าตาก็ไม่ได้ดีถึงขั้นจะมีคนตามจีบเป็นพรวนเหมือนแบคฮยอน
นี่เป็นครั้งแรกเลยนะฮะที่ริอยากจะมีคนคุยด้วยนอกจากเพื่อนร่วมห้อง แถมยังไปจีบเขาก่อนอีก น่าภูมิใจจริงๆศรีโด้ ถือว่าสกิลพัฒนาไปอีกหนึ่งเสต็ป
ถ้างั้นน้องคยองก็ควรจะวางตัวไว้ก่อนสินะ ให้ดูเหมือนเราไม่ได้กะริกกะรี้ไปกับเขา จากตอนแรกที่ว่าจะตื้อชวนคุยต่อ ก็เป็นอันว่าจบสวยๆแกล้งไปนอนให้เขาเสียดายเล่นดีกว่า ดูดีมีมารยาทรักนวลสงวนตัวอีกด้วย ฉลาดจริงๆ
จากมือที่ว่าจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า จ้า ฝันดีเหมือนกัน ก็ต้องรีบลบข้อความออกอย่างไว ไม่ได้หรอกนะฮะถ้าเราเป็นฝ่ายจบบทสนทนาเนี่ย พรุ่งนี้เราก็ต้องเป็นฝ่ายเริ่มทักเขาก่อนอีก ทำเป็นว่าเราเผลอหลับแล้วลืมตอบไปดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยทำเป็นตอบจะได้เริ่มคุยกันใหม่ ไม่ต้องเสียฟอร์มหาเรื่องไปทักเขาก่อนอีกต่างหาก
คิดแล้วก็เป็นปลื้ม หน้าตาค่อนไปทางแม่ ทำอาหารเก่งเหมือนพ่อ แต่เรื่องมันสมองจริตจก้านเนี่ยขุนด้วยตัวเองทั้งนั้นเลยนะฮะ เพื่อนแบคฮยอนที่ว่าแสบสันซ่าถึงทรวงถ้าใครมาเจอน้องคยองเวอร์ชันอวาตาร์เต็มสกิลมีอันต้องหงายเงิบกันไปข้างนึงบ้างล่ะบอกเลย
สองคาบสุดท้ายของวันพฤหัสเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักเรียนโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัดเลยก็ว่าได้ คาบชมรมที่เด็กมอปลายจะทยอยลงมารวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมชมรมที่ตั้งขึ้นของโรงเรียน มีทั้งกีฬา ดนตรี วิชาการและคหกรรม
แต่สำหรับเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างเพื่อนแบคและน้องคยองนั้นคงจะไม่มีชมรมไหนเหมาะสมไปกว่าชมรมร้องเพลงอีกแล้ว แม้ว่าตัวศรีโด้เองจะรักในการทำอาหารขนาดไหนแต่พอหันมามองคนข้างตัวอย่างแบคฮยอนผู้ที่แม้แต่ต้มมาม่ายังไม่เป็นก็ต้องส่ายหน้าดิก มีหวังไปพังห้องคหกรรมซะมากกว่า
“ศรีโด้ลงชื่อเสร็จแล้วแกไปนั่งริมสนามบอลเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ่”
ใบหน้าใสเงยขึ้นเมื่อวางปากกาลงบนฟอร์มกรอกสมาชิกชมรม “ไม่เอาอ่ะร้อน ชวนไอ้ติ๋มเผือกไปดิ่”
“มันซ้อมเต้น ไม่ไปหรอก” พูดแล้วก็ชำเลืองมองไปห้องข้างๆที่มีประจกใสกั้น เซฮุนตัวสูงกำลังยืดกล้ามเนื้ออย่างขะมักเขม้น “ได้ข่าวว่าปีนี้เขาจะจัดแบทเทิลกับชมรมของโรงเรียนแพลเน็ตอ่ะ ท่าทางเอาจริงเอาจังน่าดู”
“แล้วอย่างนี้ชมรมเราต้องไปแข่งร้องเพลงด้วยป่ะ”
“น่าจะใช่นะ เหมือนว่าอาจารย์เขาจะคัดคนอาทิตย์หน้าเนี่ยล่ะ โด้จะลงมั้ยอ่ะ”
ตอนแรกก็กะจะตอบว่าไม่ แต่พอคิดๆดูแล้วนี่อาจเป็นอีกทางนึงที่ทำให้พ่อเทพบุตรหันมาสนใจน้องคยองก็ได้ อย่างน้อยๆเวลาขึ้นเวทีไปร้องเพลงซึ้งๆส่งสายตาหวานๆเคลิ้มกันไปเคลิ้มกันมา พ่อเทพบุตรอาจจะมาขอน้องคยองเป็นแฟนไม่ทันรู้ตัว ใครจะไปรู้
เหลือบตามองฟ้าก็พลางวาดภาพมโนตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอหน้า เผลอแอบบอกรักเขาข้างเดียวคอยเฝ้าฝันทั้งหลับตาลืมตา ฝันไปไกลถึงวันแต่งงานที่มีพ่อเทพบุตรจูงมือน้องคยอง นั่งดูหนังข้างกันผลัดกันป้อนป๊อปคอร์นแบ้วๆ ตอนเย็นก็ไปปั่นจักรยานเหมือนเรื่องฟูลเฮ้าส์ที่สวนสาธารณะ น้องคยองทำฟักแม้วตีนไก่ให้พ่อเทพบุตรกิน
แอร้ยยยย คิดแล้วฟิน
นี่ยังไม่ทันได้รู้จักมักจี่อะไรกันมากมายเลยนะฮะ แต่น้องคยองรู้สึกว่าแค่คุยกันวันแรกก็เหมือนเป็นชะตาฟ้าลิขิต พอได้กดไลค์จนเขาทักมาแสดงว่าเขาต้องสนใจ แล้วนี่ถ้ามีโอกาสได้ไปกินข้าวด้วยกันสักมื้อนี่จะถือว่าได้กันเรียบร้อยแล้วทันที
อ๊ะ แล้วอย่างนี้ชมรมของพ่อเทพบุตรก็ต้องไปดวลแข้งกับต่างโรงเรียนด้วยน่ะสิ่ จะว่าไปไอ้ดีมันก็ดีอยู่หรอกนะฮะ แต่แค่คิดว่าต้องแบ่งภาพแผ่นหลังชื้นเหงื่อสุดเซ็กซี่ขยี้ใจน้องคยองให้พวกค่างบ่างชะนีต่างโรงเรียนดูแล้วก็ต้องทำหน้าเหี่ยว ไม่มีทางแน่นอน!
อย่างนี้ต้องสะกัดดาวรุ่งอย่างเร่งด่วน!
“งั้นชมรมอื่นก็ด้วยใช่ป่ะแบค” แกล้งเนียนๆถาม เพราะยังไงชานยอลคนโง่แฟนเพื่อนแบคก็ต้องอยู่ชมรมเดียวกับคิมไคแน่ๆ
ใครๆก็รู้ว่ารายนั้นน่ะซุ่มตีสนิทกับคิมไคเพราะอะไร น้องคยองไม่ได้โง่หรอกนะฮะ ข่าวล่ามาไวว่าคิมไคของน้องคยองที่นอกจากจะผิวสีแทนสะท้อนแดดเป็นประกาย ดีกรีการเล่นบอลก็พอไปวัดไปวาได้ แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือคิมไคคนนี้เนี่ยล่ะเจ้าพ่อร้านบุฟเฟ่ต์หมูกระทะรายใหญ่ของเด็กมอห้า ไม่น่าล่ะใครๆก็ทำสนิทด้วย หลอกแดกกันดีๆนี่เอง
แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะฮะ น้องคยองก็เก่งเลขใช่ย่อยบวกกันไวฟึ้บฟั้บ 99 129 169 เนี่ยคิดได้หมด ไม่เกี่ยงเลยนะฮะถ้าพ่อเทพบุตรจะมาทาบทามเป็นโต๊ะบัญชงบัญชีอะไรอย่างนี้ หรือว่าตำแหน่งคนช่วยใช้เงินเนี่ยน้องคยองยินดีและเต็มใจเสมอจ้า
“ก็เห็นไอ้โย่งบอกอยู่ว่าต้องอยู่ซ้อมตอนเย็นทุกวันเลยอ่ะ กีฬาสีก็เดือนหน้า แข่งกับโรงเรียนอื่นก็อีกไม่นาน สงสารมันเหมือนกันนะ” เพื่อนแบคว่าหน้าเศร้า
ที่เศร้าเนี่ยคงไม่ใช่อะไรหรอกฮะ มันต้องอยู่เฝ้าแฟนตัวโย่งของมันด้วยน่ะสิ่ จะกลับไปชิทไปแชทกับใครที่บ้านไวๆก็คงไม่ได้
“แล้วชมรมบอลเขาจะคัดคนกันเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็เนี่ยว่าจะไปถามอยู่ ไม่รู้ว่าเริ่มซ้อมวันนี้เลยรึเปล่าเราจะได้ไปเซเว่นหาเสบียงมาตุนไว้”
“แล้วอย่างนี้คนอื่นๆก็ต้องอยู่ซ้อมเหมือนกันหมดเลยป่ะ”
“ที่ถามเนี่ยหมายถึงใครก็บอกมาตรงๆเลยได้ป่ะ ฟังแล้วหงุดหงิด อ้อมไปอ้อมมาอยู่นั่นแหละศรีโด้”
“ก็..เปล๊า ถามไปเรื่อยเปื่อยน่ะ แฮ่ๆ” แกล้งเกาท้ายทอยแก้เก้อ หลบสายตาจับผิดของเพื่อนขวับ “งั้นเดินไปซื้อน้ำก่อนได้ป่ะเค้าหิว”
“อื้อ”
ริมสนามบอลยามเย็นตอนนี้คราคร่ำไปด้วยเหล่าเด็กมอปลายที่มาจับจองกันเต็มพื้นที่ โชคดีที่สองเพื่อนซี้ไซส์มินิได้ที่นั่งใต้ร่มไม้ หน้าใสๆชื้นเหงื่อแก้มแดงระเรื่อดูดน้ำกันซู้ดซ้าดดับอากาศร้อน สายตาก็จับจ้องไปที่กลางสนามที่มีชานยอลคนโย่ง หนุ่มแข้งทองหน้าหวานที่น้องคยองจำได้ว่าเป็นแฟนคลับลิเวอร์พูล แล้วก็ใครอีกคนที่เห็นแค่ขนจมูกก็จำได้แม่นกำลังเตะบอลกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
พ่อเทพบุตรผิวแทนของน้องคยองไงฮะ แอร้ยยย
นั่งได้สักพักเพื่อนเผือกตัวสูงก็วิ่งมาสมทบทัพอีกคนด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย
“หิวน้ำว่ะ กินมั่งดิ่” ไม่ต้องรอให้ใครอนุญาตมือหนาก็คว้าฉับเข้าที่แก้วเพื่อนแบคคนใกล้ตัว
แต่ก็แพ้เพื่อนแบคที่คว้ากลับคืนมาก่อนหลอดจะแตะโดนปากเซฮุนซะอีก “เฮ้ยย เอามาเลยนะไอ้เผือกใครอนุญาตไม่ทราบ”
“ทำเป็นขี้งกไปได้ ขอกินนิดกินหน่อยก็ไม่ให้”
“ก็ขอศรีโด้ดิ่ เห็นซื้อน้ำเปล่ามาอีกขวดอ่ะไม่แกะซักที” เพื่อนแบคบุ้ยปากไปทางขวดน้ำข้างน้องคยองที่นั่งบังอยู่
“อ่าวเหรอๆ โด้กินน้ำหน่อยดิ่วะ” ทำท่าจะเข้าไปคว้าขวดน้ำอย่างที่ทำกับเพื่อนแบค
เพี้ยะ!
แต่ไม่ทันไรก็โดนมือนิ่มตีกลับมาเสียงดังจนเพื่อนทั้งสองต้องจ้องหน้าน้องคยองนิ่ง
“ศรีโด้ตีมือไอ้เผือกทำไมวะ ซื้อน้ำมาอีกขวดก็แบ่งๆมันหน่อยดิ่ เนี่ยหิวจนลิ้นห้อยแล้วน่าสงสารออก”
“มันไม่มีหลอด” น้องคยองพูดเนิบๆเสียงนิ่มๆ สายตาเลิ่กลั่กจับจุดไม่อยู่
“ไม่เป็นไรๆ กูไม่ถือ” ว่าแล้วก็พรวดพราดจะเข้าไปคว้าขวดไว้อีกครั้ง
เพี้ยะ!
“เฮ้ย! อะไรของมึงวะไอ้โด้”
“ก็เราไม่สบาย เดี๋ยวติดหวัด” แถข้างๆคูๆแล้วก็นั่งนิ่ง ทำเป็นเสมองออกไปที่กลางสนามก็เห็นว่าอีกไม่กี่นาทีเกมดวลแข้งก็จะจบลง
“งั้นเดี๋ยวกูกรอกแบบไม่โดนปากโอเคป่ะ” ทำท่าจะยื่นมือไปหยิบอีกครั้ง
เพี้ยะ!
แต่คราวนี้เซฮุนรู้ทัน เอามือหลบน้องคยองแล้วพลิกกลับไปตีมือนิ่มอย่างไวจนเพื่อนแบคหลุดขำ
“คราวนี้จะอ้างอะไรอีกไม่ทราบ น้ำขวดเดียวนี่มึงหวงกูขนาดนี้เลยเหรอวะไอ้โด้” จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินน้ำสักที ยังต้องมานั่งบ่นให้เปลืองน้ำลายอีกเนี่ยบอกตรงๆว่ามันหงุดหงิดนะเว้ย
ปรี้ดดดดด
เสียงเป่านกหวีดหมดเวลากลางสนามเรียกร้องความสนใจจากทั้งสามคนให้กลับไปที่หน้าอาบเหงื่อของนักบอล และทันทีที่โค้ชปล่อยตัวเหล่านักเตะแข้งทองที่นำทีมโดยชานยอลคนโย่งก็วิ่งปรี่ตรงมาที่แฟนตัวเองทันทีแถมยังพ่วงสหายรักอีกสองหน่อมาเป็นแพ็คเกจ
“หิวน้ำอ่ะ ตัวเองเค้ากินน้ำหน่อยดิ่” เจ้าของหูกางนั่งยองลงตรงหน้าเพื่อนแบคดูน่ารัก แบมือขอแก้วนมชมพูที่เพื่อนแบคซื้อมาแล้วก็ดูดซู้ดอย่างกระหาย
“อ่ะแฮ่ม เกรงใจคนโสดอย่างพวกกูบ้างครับเพื่อน” เป็นเซฮุนที่พูดท้วงขึ้นมาจนคนที่เหลือมองแล้วก็ยิ้มขำ
“เมียจ๋าได้ยินเสียงไก่เสียงกาแถวนี้มั้ยจ้ะ ดูสิ่ๆครางหงิงๆใหญ่เลยเนอะ” ทำเป็นไม่สนใจเพื่อน ยืดแขนยืดขาให้เพื่อนแบคบีบนวดอย่างออเซาะ
“ไอ้บ้าหูกางพูดอะไรห้ะ คนเยอะแยะเดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย” ถึงจะพูดไปอย่างนั้นแต่มือไม้ก็บีบๆนวดๆให้แฟนไม่หยุด
“อู้ยส์ เมียจ๋าไม่เล่นกับผัวจ๋าเลยอ่ะ งอนดีป่ะ”
“เชิญจ้ะ ดีเหมือนกันจะได้หาแฟนใหม่เอาที่หูไม่กางแบบนี้” ไม่พูดเปล่าเพื่อนแบคยังบิดหูกางๆของชานยอลจนคนตัวโย่งร้องโอดโอยเรียกเสียงหัวเราะได้จากเพื่อนทั้งกลุ่มได้เป็นอย่างดี
“แล้วนี่ใครวะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย” พ่อเทพบุตรของน้องคยองเอ่ยถามชานยอลพลางชี้โบ้ยไปที่โอเซฮุน
จะว่าไปถึงแม้ว่าโรงเรียนจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่การเรียนที่แตกต่างกันของสายวิทย์และสายศิลป์นั้นทำให้ทั้งสองสายไม่ค่อยได้สนิทกันสักเท่าไหร่ ยิ่งตอนมอสี่ที่ห้องเรียนของตึกวิทย์และตึกศิลป์อยู่แยกกันคนละฝากของโรงเรียนด้วยแล้ว ยังดีที่ปีนี้อยู่ตึกเดียวกันและโชคดีที่ห้องเก้าของน้องคยองอยู่ชั้นเดียวกับสายวิทย์เป็นห้องสุดท้ายของชั้นพอดี ทำให้เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากันมากขึ้น
“กูชื่อเซฮุนห้องเดียวกับผัวหูกางของแบคฮยอนนี่ล่ะ” พูดจบปรายตาไปมองสองเพื่อนใหม่อย่างเป็นมิตร
“เออ กูไค ส่วนนี่ก็ลู่หาน พวกกูอยู่ห้องหก” ทั้งไคและลู่หานยิ้มให้เซฮุนเป็นอันว่าทั้งหมดรู้จักกันเป็นที่เรียบร้อย
“หิวน้ำว่ะ อาลู่ไปซื้อน้ำกัน” ไคสะกิดลู่หานที่นั่งท้าวแขนไปด้านหลัง
“ไม่หิวว่ะกูเหนื่อย ขี้เกียจเดิน” เสียงหวานใสผิดกับท่าทางแมนๆตอบมาเสียงเนือยๆ
“งั้นมึงไปซื้อกับกูก็ได้ไค กำลังหิวเหมือนกัน” เมื่อเห็นว่าไคไม่มีเพื่อนไปเซฮุนจึงอาสาเพราะตัวเองก็หิวน้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“เอ่อ.. เดี๋ยวก่อน” ในระหว่างที่ทั้งสองหนุ่มกำลังลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินไปซื้อน้ำที่มินิมาร์ทในโรงเรียน อยู่ๆน้องคยองก็เอ่ยขึ้นอึกอักหลังจากที่นั่งนิ่งอยู่นานจนสองเพื่อนคู่ใหม่ต้องเอี้ยวหน้ากลับมามอง
“พอดีว่าเราซื้อน้ำมาเกินขวดนึงอ่ะ” ช้อนตาขึ้นมองพ่อเทพบุตรพอเป็นพิธี ทำหน้าซื่อๆใส่แล้วส่งยิ้มให้ตามแบบฉบับ “นายจะเอาไปกินก่อนมั้ย”
คิมไคทำท่าลำบากใจแล้วหันไปมองเพื่อนใหม่ข้างตัวที่ขมวดคิ้วยุ่ง “อ่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเราไปซื้อกับเซฮุนก็ได้ ขอบคุณนะ”
“ไคกินของโด้ไปเถอะ” เป็นแบคฮยอนที่ดูว่าจะเข้าใจอะไรได้ไวที่สุดยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปตบบ่าเซฮุนปุๆเป็นเชิงปลอบใจ “เซฮุนมันไม่หิวน้ำแล้วล่ะ เนอะ”
เซฮุนที่เหมือนจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็ได้แต่ทำหน้าเหวอมองหน้าเพื่อนแบคทีน้องคยองทีแล้วก็ทำท่าจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่เพื่อนแบคก็กระซิบเบาๆตัดหน้าไปซะก่อน
“ทีนี้ก็รู้แล้วนะว่าทำไมศรีโด้ถึงไม่ให้มึงกินน้ำอ่ะเพื่อนเผือก”
เดินทางมาถึงตอนที่สามแล้วจ้า เรื่อยๆใสใสไร้สาระไปเนอะ
รอดูกันต่อไปว่าศรีโด้จะเผยด้านมืดมามัดใจพ่อเทพบุตรด้วยวิธีไหนอีก
เป็นกำลังใจให้ไรท์เคอร์เต่าด้วยเด้อ
#ฟิครักใสใส
ความคิดเห็น