คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 6
Dark Rose…..กุหลาบดำ MARKBAM
บทที่ 6
The real beginning
จุดเริ่มต้นที่แท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
ชีวิตของแบมแบมกำลังจะเปลี่ยนไปตลอดเมื่อต้องมาแต่งงานกับมาร์ค
มาร์คต้วนกำลังเป็นผู้คุมเกมส์นี้อยู่
แบมแบมคือผู้เคราะห์ร้ายที่ไม่รู้อะไรแต่กับต้องเอาความสุขทั้งชีวิตมาแลก
มาร์คผู้หวังที่จะมาแก้แค้น
แต่เขาอาจจะลืมอะไรไปว่า “ กฎแห่งการแก้แค้นของกุหลาบดำ ”
มี 3 ข้อ ถ้าทำพลาดไปแม้แต่ข้อเดียว เขาเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ
1. ห้ามใจอ่อน
2. ห้ามประมาท
ข้อสุดท้ายสำคัญที่สุดของการแก้แค้น
3. ห้ามหลงรักศัตรูโดยเด็ดขาด
ถ้ามาร์คพลาดพลั้ง แบมแบมจะคือผู้ชนะ
แต่คนอย่างมาร์คต้วนไม่เคยพลาด
การแต่งงาน คือ บทสรุปของความรัก
แต่สำหรับมาร์คและแบมแบม
การแต่งงาน คือ จุดเริ่มต้นของการล้างแค้น
ใครก็ตามที่เป็นผู้แพ้จะต้องเสียใจ
D-A-R-K ----------- R-O-S-E
โบสถ์สถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ความสวยงามแต่กลับทำให้ความรู้สึกของผู้คนแตกต่างกันออกไป หลายคนมาที่นี้เพื่อจะสารภาพบาป และหลายคนก็มาที่นี้เพราะการแต่งงาน เช่นเดียวกับผมที่กำลังก้าวเข้าสู่โบสถ์พร้อมกับผู้เป็นพ่อของผม
พอก้าวเข้ามาด้านในสายตาของผู้ร่วมงานกำลังจดจ้องมาที่ผม มันทำให้ผมรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ถึงงานแต่งงานวันนี้จะไม่ได้เกิดจากความรักซะทีเดียว แต่ผมก็หวังว่าหลังจากแต่งงานไปทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ผมจะรักเขาในฐานะคู่สมรสที่ดี และผมก็จะทำให้เขารักผมเช่นกัน
“ขอบคุณที่แกยอมทำเพื่อชั้น” ผมได้ยินเสียงพ่อพูดขึ้นในขณะที่เรากำลังจะเดินมาถึงแท่นทำพิธี
“อะไรที่แบมทำเพื่อพ่อได้ แบมก็จะทำครับ” ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้าพ่อ เพราะตอนนี้พวกเราหยุดอยู่ที่แท่นพิธีแล้ว
ผมมองขึ้นไปก็เห็น เจ้าบ่าวของผมวันนี้เขาดูหล่อมากเลยนะ ชุดเราก็คล้ายๆกันแต่สีดำกลับทำให้เขาดูหล่อมากขึ้นไปอีก
“เมื่อทุกคนพร้อมแล้วเราก็มาทำพิธีกันเถอะ” ท่านบาทหลวงกล่าวขึ้น
“ต้วนอี้เอิน ลูกจะยอมรับกันต์พิมุกเป็นภรรยา คอยดูแล ปกป้องและให้เกียรติเขา มอบความรักและความเชื่อใจให้เขาหรือไม่”
“รับครับ” ผมเห็นพี่มาร์คส่งสายตามาที่ผม พี่เขาเหมือนพระเอกละครเลย นอกจากหล่อแล้วยังมีการแสดงออกทางสายตาที่ทำให้ผมประหม่าได้ด้วย
“กันต์พิมุก ลูกจะยอมรับต้วนอี้เอิน เป็นสามี คอยดูและปรนนิบัติ และมอบความรักและความเชื่อใจหรือไม่”
“รับครับ”
หลังจากนั้นพี่มาร์คก็หยิบแหวนออกมาจากกล่อง ค่อยๆจับที่ปลายนิ้วมือของผม แล้วบรรจงสวมมันลงมาบนนิ้วนางข้างซ้าย เมื่อพี่เขาสวมเสร็จผมก็เงยหน้าขึ้นมามอง
สายตานี้อีกแล้ว สายตาที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ได้มองจ้องลึกเข้าไปถึงนัยน์ตาของเขา มันก็สะกดผมไม่ให้หันไปมองสิ่งใดได้อีก
“อ๊ะ” ผมครางเบาเมื่อรู้สึกถึงบางอย่าง
“น้องแบมครับ สวมแหวนให้พี่สิครับ” ผมได้ยินพี่มาร์คกระซิบแล้วก็ขบเข้าที่หูของผม
หลังจากนั้นผมก็สวมแหวนให้กับเขา แหวนนี้ผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่าพี่มาร์คเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด มันสวยมากเรียบๆแต่กลับทำให้รู้สึกถึงความหรูหรา
เมื่อผมสวมเสร็จเสียงปรบมือจากคนในงานก็ดังขึ้น
“เรามาดื่มไวน์แดงเพื่อเป็นการฉลองความรักและเป็นพยานให้กับคู่บ่าวสาว” พิธีกรพูดขึ้น
“ขอให้ความรักของทั้งคู่จงมีแต่ความสุข” แล้วทุกคนก็กระดกไวน์แดงในมือ
“น้องแบมครับ ไวน์เลอะปากนะ” พี่มาร์คพูดขึ้นหลังจากที่ผมดื่มไวน์จนหมด
“ตรงไหนอะครับ” ผมรีบถามแล้วก็เอามือปัดป่ายไปทั่วบริเวณปากของตัวเอง
“มาครับเดี๋ยวพี่ช่วยเช็ด”
D-A-R-K ----------- R-O-S-E
ผมก็เอาหน้าเข้าใกล้เขาอย่างรวดเร็ว เอาจมูกของผมถูไปบนจมูกของเขา ก่อนที่กลีบปากของผมจะจรดลงไปบนกลีบปากของเขา จูบอย่างช้าๆที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลและอ่อนโยน ค่อยๆเร่งจังหวะเป็นหนักหน่วงและรุนแรง
ทำไมกันนะปากของเขาทำไมช่างหอมหวานไม่เหมือนกับปากของผู้หญิงที่ผมเคยควงมา
แต่อย่าคิดว่าผมจะหลงรักเขา รู้จักกันไม่นาน
ความเชื่อใจเขาก็ให้ผมมา
แม้กระทั่งตอนนี้ที่เราจูบกัน ในใจผมมีแต่คำถามเกี่ยวกับเขา
ทำไมกันนะ?
ทำไมแบมแบมผู้น่ารักใจง่ายจัง?
อีกอย่างงานวันนี้ผมเป็นคนจัดเองทั้งหมด ผมใช้สีขาวเป็นสีหลักของงาน เพราะแบมแบมเขาบอกว่าอยากจัดงานแต่งสีนี้ ดอกกุหลาบทุกดอกเป็นสีขาว
ทุกคนอาจสงสัยทำไมผมไม่ใช่ดอกกุหลาบสีดำตามความตั้งใจแรกของผม
คุณเคยได้ยินมั้ยครับ?
ความหอมหวาน เป็นกับดักชั้นเยี่ยม การซื้อใจใครสักคนต้องลงทุน
ก่อนที่จะได้ใจนั้นมาบีบจนแหลกละเอียด
ส่วนแหวนผมใช้เวลาออกแบบค่อนข้างนาน ผมใช้ความรู้สึกที่มีทั้งหมดในการออกแบบแหวนให้กับเราทั้งสองคน ดูสิว่าผมใส่ใจและรักเขาขนาดไหนฮ่าๆ
เพราะอย่างน้อยมันก็คือจุดเริ่มต้นของเราทั้งสองคน
แหวน คือ สิ่งที่แสดงถึงพันธะทางใจ
แต่นั่นมันสำหรับคนอื่น
ส่วนผม แหวน คือ บ่วงดีๆ ที่จะใช้กระตุกแบมแบมให้ลงเหวไปพร้อมๆกับผม
จุดเริ่มต้นที่แท้จริงได้เกิดขึ้นแล้ว หลังจากการแต่งงานของเราทั้งสองในวันนี้จบลงไป ผมก็จะปฏิบัติการใช้ความอ่อนโยนซื้อใจ แล้วใช้เท้าบดขยี้ใจจนไม่เหลืออะไรอีกต่อไป
อาจจะดูเหมือนผมเลวเกินไปที่ใช้การแต่งงานบีบบังคับให้ใครสักคนต้องมาสัมผัสกับนรกบนดินที่ผมสร้างเอาไว้
ผมอาจจะดูบาปชั่วช้ามากที่ไปโกหกพระเจ้า
แต่……………..
ขอโทษนะครับ ผมมันคนไม่มีศาสนา
อย่างนี้ผมก็ไม่บาปหน่ะสิ
D-A-R-K ----------- R-O-S-E
หลังจากจบงานแต่งงาน พี่มาร์คก็พาผมตรงไปที่รถของพี่เขาเพื่อกลับคอนโดที่คุณพ่อของพี่มาร์คซื้อให้เป็นของขวัญแต่งงาน
ผมจำได้ว่าก่อนที่จะออกมาพ่อและแม่ของผม ท่านพูดเพียงแค่ว่า ”ขอโทษที่ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้”
ผมรู้ว่าพ่อแม่คงลำบากใจไม่น้อยที่ต้องทำแบบนี้ แต่เพื่อความสุขของพวกท่านผมก็ยอม ถึงแม้จะต้องแลกกับความสุขของตัวเองก็ตาม
“พี่มาร์คครับ แบมหิวอ่า” ขณะที่นั่งอยู่บนรถอยู่ๆผมก็หิวขึ้นมา
“ไปเปลี่ยนชุดก่อนครับ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาอะไรกินนะ” เขาตอบพร้อมส่งยิ้มให้ผม
ผมหวังว่าพี่มาร์คเขาจะเป็นแบบนี้กับผมตลอดนะครับ เขาเอาใจใส่ดูแลผมดีมากๆเลย ผมมีความสุขนะที่ได้อยู่ใกล้ๆกับเขา มันทำให้ผมคิดถึงใครคนหนึ่ง
“โอเคครับ ถึงแล้วปลุกนะ” ผมบอกก่อนจะหลับตาลง วันนี้เพลียมากๆเลยครับถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเนี่ย น้องแบมง่วงงง
เด็กน้อยก็ยังคงเป็นเด็กน้อยอยู่วันยังค่ำ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคนที่ฆ่าพ่อผม ตอนนี้ผมจะกำลังรู้สึกอะไรอยู่
ผมไม่แน่ใจว่าวิธีที่ผมกำลังใช้กับเขามันถูกต้องแล้วหรือยัง
วิธีนี้พ่อของผมจะพอใจมั้ยหรือเขาต้องการให้ผมแก้แค้นยังไงดี
เด็กคนนึงที่ถูกบีบบังคับให้ต้องโตขึ้นโดยปราศจากพ่อแม่ ความรักความห่วงใยจากคนอื่นๆไม่สามารถเทียบได้กับพ่อแม่ของตัวเอง
หลายครั้งที่ผมแอบร้องไห้ น้ำตาของผมไหลลงมาอย่างช้าๆนึกถึงวันเก่าๆที่ผมยังมีพวกท่าน ได้ไปเที่ยวทะเล ก่อกองทรายกับพวกเขา รอยยิ้มของผมสดใสเหมือนดั่งพระอาทิตย์ที่ถอแสงจ้า
แต่วันนึงภาพทุกอย่างกลับค่อยๆหายไป
จนเหลือแต่ภาพที่กระสุนตัดขั้วหัวใจของพ่อแม่ผม และมันยังสร้างรอยแผลเป็นบาดลึกบนจิตใจและใบหน้าผม
ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งไหนที่เยียวยาความรู้สึกและแผลของผมได้
ผมไม่ได้อยากทำร้ายเขา ความเจ็บปวดมันฝังกินจิตใจของผมมากเกินไป
เกินกว่าที่จะให้อภัยเขาได้จริงๆ
ฉันขอโทษนะแบมแบม ที่ต้องทำร้ายนาย
ถ้านายไม่ใช่ลูกของเขามันคงจะดีกว่านี้
D-A-R-K ----------- R-O-S-E
เมื่อถึงคอนโดผมก็ถูกปลุกขึ้นมาโดยพี่มาร์ค ผมเพิ่งรู้ว่าพี่แกขี้รำคาญครับ ส่วนผมก็ขี้เซาครับฮ่าๆ
พี่แกปลุกผมฮาร์คคอมาก อยู่ๆผมก็รู้สึกว่ามีอะไรมาชนเขากับหัวผมแรงๆแล้วผลักหัวผมไปไกลๆอะไรแบบนี้อะครับ พอตื่นมาสิ่งๆนั้นคือมือพี่มาร์คเองอ่ะ ตอนแรกผมกะจะงอน แต่พี่แกก็รีบอธิบายว่าแกตะโกนใส่หูผมดังๆแล้ว แต่ยังไม่ตื่น
ผมผิดเองก็ได้ครับ
พวกเราไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดธรรมดา แต่ไปๆมาๆมีแต่ผมนี่แหละครับชุดธรรมดา ซื้อคอวีสีขาว กางเกงขาสั้นประมาณถึงเข่าได้ กับรองเท้าผ้าใบ ส่วนพี่มาร์คก็ธรรมดาม๊ากกกกกกกกกกสีเชิ้ตสีดำ กางเกงสเลคสีดำ พร้อมกับรองเท้าหนังสีน้ำตาล มีแว่นกันแดดเป็นอุปกรณ์เสริม
เดินข้างๆพี่แกนี่เหมือนผมเป็นเด็กรับใช้ เดินตามคุณชายไฮโซ
ไม่ก็ผมเป็นเด็กเดินสายไฟในกองถ่าย กับพระเอกดาวรุ่งเดินอยู่ข้างกันอะครับ
พอถึงห้างผมพบว่าสายตาคนที่มองมาที่พี่มาร์คเยอะมาก ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าพี่แกหล่อจริงอะไรจริงมาก เสื้อคอวียังหล่อ แล้วนับประสาอะไรกับชุดเต็มยศขนาดนี้ สุดๆครับจริง
“พี่มาร์คไอติมมมมมมมมมมมม” ผมเห็นร้านไอติม ก็เลยลืมตัวครับเกาะแขนคุณชายข้างๆทันทีพร้อมทำหน้างอนสุดฤทธิ์ ก็ผมอยากกินอ่ะ
คุณชายสุดหล่อบริการผมเต็มที่ ตอนนี้เดินไปเอาไอศกรีมให้ผมแหละ ผมก็ได้แต่นั่งมองไปรอบร้านไอติม นี่เขาแต่งร้านสวยจริงๆนะแต่ส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้หญิงมากินนะ แล้วก็มองพี่มาร์คของผมกันหมดเลยอ่ะ
“หน้าบูดอะไรครับ หิวขนาดนั้นเลยหรอ”
“มั่วอ่ะ เขาเบื่อต่างหาก ไหนเอาไอติมมากินแก้เบื่อหน่อย” แล้วผมก็คว้าถ้วยไอติมจากมือพี่มาร์คมาตักกินโดยไม่สนใจสายตาผู้หญิงที่ยังมองอยู่
“ไหนเบื่ออะไร บอกพี่สิครับ”
“พี่มาร์คมองรอบตัวเองดิ” ผมตอบเหวี่ยงนิดหน่อย พี่แกทนได้ยังไงอ่ะแบบคนมองแทบตลอดทางที่พี่แกทำอะไรหรือเดินไปไหนเลยอ่ะ
“ก็ไม่เห็นมีอะไรหนิครับ”
ผมตอบไปแบบนั้น แต่ผมรู้แล้วหล่ะ
ว่าเด็กน้อยหน่ะ “หึง”
Talk
โอ้ยเราอ่านคอมเม้นแล้ว 555555555555 จะจบดีๆให้มันเบาลงจากที่เราคิดไว้นะ แล้วก็มาร์คยังไม่รักแบมง่ายๆมั้ยอ่ะ แล้วก็สปอยสุดๆคือเรื่องนี้ไม่มีคนแพ้ค่ะ 555555555555 เดาเอานะว่าจะจบยังไง แต่แบบอีกนานอ่ะกว่าจะจบ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเลย ไม่รู้ว่ายังมีคนรออ่านมั้ย แบบเราเรียนหนักอ่ะ
เอาเป็นว่ายังไงก็ตามเรื่องนี้เราจะแต่งให้จบจะไม่มีคนแพ้ ไม่มีใครตาย แต่จะจบยังไงไม่บอก 5555555
#ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและเม้นค่ะ
ความคิดเห็น