คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2
Dark Rose…..กุหลาบดำ MARKBAM
บทที่ 2
กรุงโรม,อิตาลี
กลางใจมหานครแห่งความสวยงาม สถาปัตยกรรมมากมายโอบล้อมผู้คนมากมายในเมืองนี้ และเป็นสิ่งเชื้อเชิญให้ทุกคนจากทั่วทุกมุมโลกมาสัมผัสความสวยงามที่ไม่อาจละสายตาไปได้ ความสวยงามของสิ่งก่อสร้าง ความงดงามของอารยธรรมโรมันที่ยังคงเหลือไว้ให้ได้เห็น
เดินอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่กลับไม่รู้สึกอบอุ่นใจ ความคิดถึงกำลังเล่นงานผมอย่างช้าๆ
เหมือนกับใครหลายคนที่มาที่นี้
เพื่อจะใช้ความงดงาม
ลบรอยแห่งบาดแผลในใจ
‘แบม มึงจะเดินอีกนานป่ะกูเมื่อย’ เตนล์เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมในประเทศนี้พูดขึ้น
‘มึงขี้บ่นว่ะ ไปหาไรกินกัน’ ผมตอบกลับมันอย่างสบายๆ ถ้าจะนับรวมเวลาที่ผมมาอยู่ที่นี้ก็คงจะประมาณสามปีได้แล้ว เหตุผลที่ผมต้องหนีบ้านที่เกาหลีมาไกลขนาดนี้ เขาเรียกว่าอะไรหล่ะ
หนีรักมาพักใจ?
จะเรียกยังไงก็ตาม ตรงๆก็คือ รักษาแผลใจ
แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่จะมอบทุกอย่างให้ความรักจนต้องทำลายชีวิตตัวเอง ผมเลยได้มีเรียนที่นี้ ตอนนี้ผมอยู่ไฮสคูลปีสุดท้ายแล้ว ปีหน้าผมกะว่าจะเข้ามหาลัยที่อิตาลีเลย แต่ผมจะไปเข้ามหาลัยวิเซนซ่า พวกคุณรู้จักมั้ยเมืองหนึ่งของอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่ๆสร้างสถาปนิกมากมายให้กับโลกใบนี้ ผมไม่มีแพลนที่จะกลับบ้านเลยนะ ไม่ใช่ว่ายังลืมรักเก่าไม่ได้ แต่อิตาลีทำให้ผมหลงใหลจนไม่คิดจะหนีไปไหน
ผมกับเตนล์แวะร้านประจำของเรา เตนล์เป็นเด็กทุกรัฐบาลเลยนะถ้ามันเรียนดี อยู่ในเกณฑ์ที่กองทุนกำหนดมันก็จะได้ทุนต่อไปเรื่อยๆ มันเป็นคนเรียนเก่งมากๆเลยนะ ตอนแม่มันมาเยี่ยมผมโคตรตกใจอ่ะ บ้านมันรวยมากเลยนะ ผมเลยถามว่าเป็นเด็กทุนทำไมคุณรู้มั้ยมันตอบผมมาว่า
‘กูฉลาดว่ะช่วยไม่ได้ ก็ดีเอาเงินที่แม่ให้มาเที่ยวแทน ฮ่าๆ’ โอ้ยผมละหมั่นไส้ ครอบครัวมันต่างจากครอบครัวผมนะ พ่อมันเป็นตำรวจ ในขณะที่ครอบครัวผมเป็นมาเฟีย ตลกดีชีวิตครอบครัวต่างกัน แต่กลับมาเป็นเพื่อนสนิทกัน
‘แบม มึงจะเรียนต่อที่ไหนคิดไว้ยัง’ ในระหว่างที่กินข้าวอยู่มันก็ถามผม
‘สถาปัตย์ กูจะไปต่อที่วิเซนซ่า มึงอ่ะ’ ผมถามมันกลับ
‘กูว่าถ้าไม่กลับไทย กูจะไปต่อที่ฝรั่งเศสกูอยากเรียนแฟชั่นดีไซน์’ คำตอบมันทำผมตกใจนะ ผมคิดว่ามันอยากเข้าแนวๆวิศวะอะไรแบบนี้ซะอีก
‘มึงไปชอบแฟชั่นตั้งแต่เมื่อไหร่’ ที่ผมถามเพราะสงสัยจริงๆ เวลาอยู่ที่คอนโดไม่เคยเห็นมันสนใจ
‘แม่กูอยากให้เรียนด้วยว่ะ เดี๋ยวกูเรียนให้แม่สักปีสองปี รีบๆจบแล้วไปเรียนวิศวะแล้ว’
‘มึงคิดอะไรอยู่ เออเอาเถอะเรียนหลายๆด้านก็ดี’ มันเป็นคนหัวดีนี่ครับจะเรียนอะไรก็ไม่ได้จะลำบากเท่าไหร่ จะว่าไปอีกไม่กี่เดือนผมกับมันก็จะเรียนจบแล้ว เราต้องจากการแล้วหรอ
‘เป็นอะไร ทำหน้าแย่มากนะหรือว่าไม่ได้ทำแต่หน้าแย่อยู่แล้ววะมึง’ หลังจากนั้นมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้สนใจโต๊ะอื่นในร้านเลย
‘ตั้งแต่เกิดมามีแต่คนบอกว่ากูน่ารักเถอะ มึงเราจะต้องแจกกันแล้วมึงทิ้งกูหรอเตนล์’ ผมแสร้งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ในใจผมก็คงคิดถึงมันจริงๆ
‘อย่ามาเว่อร์มึง เดี๋ยวบินไปหากันก็ได้’ มันตอบอย่างไม่คิดอะไรมากแต่กับผม ผมมีความรู้สึกแปลกๆเขาเรียกว่า ลางสังหรณ์รึเปล่านะ มันเป็นไปในทางที่ไม่ดีอ่ะ
หลังจากนั้นเราสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ ก้มหน้ากินข้าวในจานของตัวเองต่อไป กินเสร็จแล้วก็เตรียมเดินกลับคอนโดกันได้
‘มึงกูอยากแวะเทรวี่’ ผมบอกเตนล์ที่กำลังเหล่สาวไปทั่ว
‘ก็เอาดิ แถวนั้นผู้หญิงสวยๆเยอะดี’ หลังจากนั้นผมกับเตนล์ก็มุ่งหน้าไปเทรวี่ แล้วเราก็ตกลงกันว่าจะแยกกันเดินแล้วก็กลับคอนโดเอง ผมก็คิดว่ามันดีเหมือนกัน ถึงจะเหงาไปหน่อยก็ตาม
@ น้ำพุเทรวี่
ผมคิดว่าที่นี้คงทำให้ใครหลายๆคนหลงใหลได้ไม่ยาก คุณจำฉากใน ภาพยนตร์เรื่อง “Three Coins in the Fountain” ได้มั้ยจากหนังเรื่องนี้ทำให้ที่นี้เป็นที่ๆมีผู้คนต่างแวะเวียนมาชมความงามของมัน ผมบอกว่าโรมหน่ะคือความงดงามแห่งสถาปัตยกรรมจริงๆ
‘แจ็คสัน กูรอตรงนี้นะรีบๆกลับมา’ ผมกำลังมองความสวยงามของเทรวี่อยู่ เสียงของใครคนนึงก็เข้ากระทบโสตประสาทของผม ชื่อแจ็คสันนี่มันคุ้นๆมั้ย แต่ก็คงไม่ใช่แจ็คสันไม่ได้มีคนเดียวในโลก เห้ยแต่เมื่อกี๊พูดภาษาเกาหลีนะ
‘ใช่แบมแบมรึป่าวครับ’ ในระหว่างที่ผมกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองก็มีคนมาสะกิดไหล่ผม
‘ใช่ครับ พะ พี่แจ็คสัน’ ผมตอบออกไปแต่พอเงยหน้ามองแล้วถึงกับตกใจ หนีมาตั้งไกล หนีมาตั้งหลายปีทำไมถึงต้องมาเจอกันอีกด้วย
‘น้องแบมจริงๆด้วย ไหนกอดหน่อยไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ’ พี่แกก็กระโดดกอดผมทันที แล้วก็โวกเวกโวยวายทำให้คนรอบข้างหันมามองที่พวกผม ผมได้แต่ก้มหัวขอโทษคนรอบๆ
‘พี่แจ็คสันเป็นไงบ้าง’
‘ก็สบายดีอ่ะ แล้วแบมละโอเคมั้ย’
‘ตอนแรกอ่ะไม่โอเค แต่ตอนนี้โอเคทุกอย่างเลย’ ผมตอบแล้วยิ้มบางๆกลับไปให้เขา
‘พี่ขอโทษนะที่ทิ้งเราเอาไว้แบบนั้น’
‘เรื่องมันผ่านมานานแล้วช่างเถอะครับ ว่าแต่พี่มาทำอะไรที่นี้’ ผมว่าเวลากับความสวยงามของโรมคงรักษาผมได้จริงๆ ผมรู้สึกได้เลยนะว่า ตอนนี้ผมมองเขาเป็นแค่พี่ชายคนนึงแล้ว
‘พี่มาเที่ยวกับเพื่อนอ่ะ แล้วแบมมาทำอะไรที่นี้’ ชัดแล้วว่าหลังจากที่เขาทิ้งผมไปเขาไม่เคยคิดที่จะติดต่อหรือยุ่งอะไรกับผมอีกแล้ว ต่างจากผมนะช่วงปีแรกๆ ผมพยายามตามหาเขา ล่าสุดผมรู้แค่ว่าเขาอยู่ฮ่องกง
‘แบมมาเรียนต่ออะ แล้วไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง’
‘เพิ่งมาเป็นวันที่สองเองอ่ะ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน’
‘งั้นแบมพาทัวร์เอาป่ะ มาอยู่นี้หลายปีแล้วนะ’
‘พูดจริงนะ’ หลังจากนั้นพี่เขาก็ตะโกนเรียกเพื่อนๆเขา ในขณะที่ผมก็โทรบอกเตนล์เหมือนกัน แก๊งค์เพื่อนพี่เขาหล่อนะ มีผู้หญิงมาด้วยสองคน หลังจากนนั้นผมก็พาเที่ยวไปตามที่ต่างๆของอิตาลี
จากนั้นผมก็บอกลาพวกพี่ๆ พวกเขาน่ารักมากๆเลยเที่ยวไปคุยไป มันทำให้ผมยิ้ม ผมไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานมาก มันทำให้ผมคิดถึงครอบครัวนะ พี่แจ็คสันชวนให้ผมเป็นไกด์พาเที่ยวต่อในระหว่างที่พวกพี่เขาอยู่อิตาลี แต่ผมติดเรียนก็เลยต้องปฏิเสธไป
สามเดือนต่อมา
วันนี้เป็นวันที่ผมกำลังจะจบจากไฮสคูลแห่งนี้แล้ว ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี้มาหลายปี จะเรียกว่าผูกพันก็ได้ เพื่อนๆที่นี้น่ารักนะแต่ด้วยความที่ผมเป็นชาวต่างชาติ มันก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีการเหยียดกัน
แต่ผมยังโชคดีมากที่มีเพื่อนอย่างเตนล์จะจากกับมันแล้วก็ใจหายเหมือนกันนะ
‘แบม ทำไมพ่อแม่มึงไม่มา’ เตนล์ถามผมหลังจากที่เรารับใบประกาศจบการศึกษา
‘พวกเขาติดธุระว่ะ’ ผมตอบเนือยๆ ผมก็อยากจะน้อยใจนะ ครอบครัวผมหน่ะมีครบทุกอย่าง เงินทอง อำนาจ ชื่อเสียง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ ทุกคนหยิบยื่นในสิ่งที่ไม่เคยถามผมว่าต้องการรึเปล่า
มีใครเคยถามผมมั้ยว่าผมอยากไปเที่ยวกับครอบครัว
หรือว่าอยากให้พ่อแม่ขยายธุรกิจ
ในสิ่งที่ผมต้องการกลับไม่มีใครให้ผมเลย
ความรัก ความอบอุ่นของครอบครัว ผมไม่เคยได้สัมผัสมันเลย
‘ไม่เป็นนะเว่ย มึงยังมีกูนะครับแบมแบม ’ มันพูดกับผมก่อนจะยิ้มจนตาปิด
‘เดี๋ยวเราก็ต้องจากกันแล้วนี้ไง’
‘ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวบินมาหาบ่อยๆ’
‘มึงพูดแล้วนะ’
‘กูสัญญาเลย’
หลังจากนั้นผมกับเตนล์ก็ไปหาที่ฉลองเรียนจบกัน เอาดีๆผมก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตมันจะเกิดอะรขึ้นบ้าง มันมีสิ่งที่กวนใจผมอยู่ แต่ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ามันคืออะไร
ดังนั้นตอนนี้ผมควรจะใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้
‘มึงๆถ่ายรูปกัน’ ผมเอ่ยชวนเตนล์ขณะที่กำลังเดินลงบันไดสเปนกันอยู่ ที่นี้ก็สวยนะ แถวนี้จะรายล้อมไปด้วยสินค้าแบรนด์ดังมากมาย แล้วก็จะมีน้ำพุที่มีคนมานั่งอยู่รอบๆเยอะเลย
ผมเคยสงสัยว่าพวกเขามานั่งกันทำไม ดูอะไรกันหรอ มีแต่คนเดินขึ้นลงบันไดตลอดทั้งวัน
ผมก็เลยมานั่งดูสักวัน ผมก็พบคำตอบว่า
แค่การเดินผ่านบันไดนี้ก็ทำให้เราสนุกได้ ผมเจอคนมากมายที่เดินผ่านบันไดไป บางคนที่ฉลาดก็จะเก็บความสวยงามรอบตัวแล้วเดินไปอย่างช้าๆ
แต่บางคนกลับรีบเดินเพื่อจะไปช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดัง
ความสุขของแต่ละคนมันแตกต่างกันจริงๆนะ
แล้วอีกอย่างการมานั่งมองผู้คนใช้บันไดเหล่านี้ ก็ทำให้ผมหายเหงาได้เหมือนกัน
ผมกับเตนล์ตัดสินใจมานั่งกินอาหารเย็นกันก่อนที่จะซื้อเบียร์ไปฉลองกันที่คอนโด ความจริงอายุเท่าพวกผม ประเทศนี้เขาก็ให้เข้าผับกันได้แล้วนะ แต่เตนล์มันบอกว่าผมคออ่อนอย่าไปเถอะ เดี๋ยวถูกลากไปไหน ผมกับมันถึงต้องซื้อไปกินที่คอนโดไง แต่ว่าตอนนี้มาลงมือกับอาหารข้างหน้าก่อนดีกว่า
หลังจากที่กินเสร็จแล้วผมกับมันก็แวะร้านสะดวกซื้อ หยิบทุกอย่างที่ต้องการ โดยเฉพาะแอลกอฮอล์มันขาดไม่ได้จริงๆนะ
นั่งจิบเบียร์กับมันไปเรื่อยๆก็มีเพื่อนข้างห้องอีกสามคนมาร่วมแจมด้วย ทั้งวงเหล้านี้อยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่พวกเขาอีกสามคนเป็นรุ่นน้องของผม แต่ว่าก็นะธรรมเนียมตะวันตก อายุไม่ค่อยห่างมากก็เพื่อนๆกันไป
เราคุยกันทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเรียนยันเรื่องเซ็กซ์ อันนี้น้องเขาเป็นคนถามมาก่อนนะครับ อย่ามองว่าผมเป็นคนแบบนั้น
ครืด ครืด
ผมรู้สึกได้ถึงแรงสั่นในกระเป๋ากางเกง พอหยิบขึ้นมาดูก็ทำให้ผมยิ้มออกในทันที
สายโทรเข้าจากต่างแดน
‘พวกมึงแปปนะ กูไปคุยโทรศัพท์’ หลังจากนั้นผมก็ลุกออกไปคุยกับแม่ พวกมันก็สนุกกันต่อโดยไม่ได้สนใจผมเท่าไหร่
แต่ใครจไปรู้ว่าลางสังหรณ์ตั้งแต่สามเดือนก่อนของผมจะเกิดขึ้น
การรับสายโทรศัพท์จากแดนไกลครั้งนี้
อาจจะเปลี่ยนชีวิตผม
ไปจากเดิม
.
.
.
.
.
.
.
ตลอดชีวิต
Dark Rose…..กุหลาบดำ MARKBAM
Taik
มาๆ คุยกับไรท์กันหน่อยดีกว่า บอกก่อนว่าความจริงเราเป็นชิปมาร์คแบมที่ชอบอ่านแนวมุ้งมิ้งน่ารัก อ่านแล้วเขินๆ ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้แต่งแนวนี้ ถ้าจำไม่ผิดเราเล่นทวิตเราเจอแท็ก #คนแมนชอบดาร์กคนชื่อมาร์คชอบแบมแบม เว้ยแล้วแบบต้องให้พี่มาร์คดาร์กแล้วไรงี้เลยแต่ง
ขอบคุณทุกคนมากๆที่เข้ามาอ่านแล้วก็ขอบคุณคนที่เม้นมากๆมันทำให้เรายิ้มได้แล้วก็อยากแต่งต่อ ^_____^
ชอบไม่ชอบยังไงก็เม้นบอกกันได้นะ
แล้วก็ความจริงพี่มาร์คอ่ะตอนแรกดูมีความแค้นเยอะมากๆ แต่เจอแบมแล้วอาจเปลี่ยนไม่เปลี่ยนก็ได้ แล้วก็คนที่มาร์คจะไปแก้แค้นก็ไม่ใกล้ไม่ไกลค่ะ
ความคิดเห็น