ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] SUGAR

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 08

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 58


                    





                    ายฝนเทกระหน่ำตอนกลางวันแสกๆ ร่างสูงลอบยิ้มเอ่ยลาให้คนในโทรศัพท์ก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างเรียนที่อยู่ๆฝนก็ตกลงมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทั้งๆที่ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดู

                ยูคยอมรีบปิดหน้าต่างเรียนขณะที่ฝนกำลังเริ่มตกหนัก เพราะเขาอยู่คนเดียวในห้องก็เลยต้องร้อนรนรีบปิดกลัวพื้นเปียก

                ส่วนยองแจกับแบมแบมก็อยู่ร้านถ่ายเอกสารที่อาจารย์มอบหมายให้โลชีทชีวะแจกจ่ายเพื่อนๆในห้อง ยูคยอมเห็นช่องว่างที่จะได้โทรไปคุยกับพี่มาร์ค หลังกินข้าวเสร็จเลยขอตัวเข้าห้องเรียนไปก่อน

                                                                                                                         

                “แค่นายโทรมาหาพี่ก็หายแล้ว”

     

              เสียงหวานๆของปลายสายเมื่อครู่ ยิ่งนึกถึงทีไร ก็อดยิ้มไม่ได้ทุกที ยูคยอมยิ้มร่าแล้วมองไปนอกหน้าต่าง ภาพกิจกรรมช่วงกีฬาเทอมที่แล้วก็ลอยมา

               

              ตอนนั้นเขายังเป็นแค่ตัวสำรองของทีม เด็กใหม่ของชมรมบาส เลยไม่ได้ซ้อมจริงจังเหมือนทุกๆวันนี้ ร่างสูงในวันนั้นเดินเล่นถือขวดน้ำอัดลมไปทางอัฒจันทร์เชียร์พร้อมกับเพื่อนๆในชมรม 5-6 คน

                บรรยากาศตอนใกล้ๆแข่งเชียร์นี้มันอึกทึกดีจริงๆ ยูคยอมมองผู้นำเชียร์หรือที่หลายๆคนเรียกเชียร์ลีดเดอร์ที่ออกมายืนหน้าแสตนอย่างสง่าผ่าเผย เพื่อนในกลุ่มส่งเสียงแซวสาวสวยที่กำลังยืนซ้อมท่าตามประสาผู้ชาย ในขณะที่ยูคยอมได้แต่ขำกับทีท่าของพวกเขา

              เดินถัดมาเจอคณะสีแดงที่ส่งตัวแทนเชียร์ลีดเดอร์ชื่อดังฝ่ายชายออกมาก่อน

     

                “เชี้ยยูคมึงๆๆดูพี่คนนั้น ตั้ลล้ากโคตรรรรรรร” ยูชอนเพื่อนตัวแสบขาแซวประจำกลุ่มชี้นิ้วไปทางรุ่นพี่ที่กำลังตั้งมือเซ็ตท่าเตรียม

     

                “หือ?” ร่างสูงดูดน้ำพลางมองไปตามมือของเพื่อนสนิท

     

                “ตึงตึงเฮ้ สามสี่!” เสียงตวาดบาดคอแหบๆที่ได้ยินแล้วรู้เลยว่าซ้อมมาหนักแค่ไหน เชียร์ลีดเดอร์คณะสีแดงยกมือขึ้นไปด้านหน้าก่อนจะตั้งการ์ดอย่างสวยงาม

     

                ใบหน้าหล่อปนน่ารัก กำลังฮอบหายใจหน่วงๆ หยาดเหงื่อที่ผุดออกเต็มใบหน้าหวานทำให้รู้ว่าซ้อมมาตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเย็นตอนนี้ แต่เขาก็ยังมีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา เพราะมีสถานะเป็นถึงหน้าตาของแสตนเชียร์จะให้ทำหน้าไม่รับแขกก็กระไรอยู่

     

                แขน ขา ทุกส่วนของร่างกายขยับเป็นจังหวะเชียร์ เด็กม.4ที่อยู่บนแสตนก็แหกปากดังลั่นสนาม เสียงตบมือตบตักดังสนั่นถึงขั้นสะท้อนกลับมาจากตึกเรียนจากอีกด้านก็ว่าได้ ผู้นำเชียร์ที่เต้นกันอย่างขึงขังจำนวนหกคน แปรแถวไปมาเพิ่มความน่าสนใจ คณะสีแดงใช้เพลงเชียร์ที่ประธานกิจกรรมแต่งขึ้น โดยเอาท่าหลีดบังคับมาประยุกต์กับ Hip-Hop ไหนจะมีรุ่นพี่หน้าตาดีที่ถูกทาบทามให้เป็นเดือนโรงเรียนมาสองปีซ้อน ทำให้คณะสีนี้น่าสนใจมาเป็นอันดับต้นๆของโรงเรียน

     

                ผู้นำเชียร์เต้นกันอย่างขึงขัง ฝ่ายชายก็เต้นรุกผู้หญิงอย่างดุดันกันเป็นคู่ๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการที่พี่คนเมื่อกี้ ตีลังกากลับหลังสามตลบก่อนจะตั้งการ์ดเหมือนเดิม

     

                แม่งนั้นคนรึเดอะแมทริคซ์

     

                “รัว!!!!” สิ้นเสียงแหบๆของพี่เขาที่ไอ้เด็กชมรมนักกีฬาตัวสำรองที่หนีซ้อมมาก็ตบมือตามแสตนเชียร์ ความอลังการงานสร้างของโค้ดบนแสตนกับท่าเต้นสุดโหดเมื่อครู่เล่นเอายูคยอมอ้าปากค้าง

     

                “พี่คนนั้นแม่งเท่สัด” ร่างสูงพูดพร้อมกับตบมือตามจังหวะท่าเต้นของเชียร์ลีดเดอร์

     

                “น่ารักด้วยคะมึง ฮือออออออออ กูจาาอ่าววววววว ~” มิคาเอล เพื่อนในกลุ่มอีกคนออกอาการดี๊ด๊าดีดดิ้นไปมาไม่ดูสภาพตัวเอง

                ลูกครึ่งเกาหลี-อังกฤษ สูงยาวเข่าดีตั้งร้อยเก้าสิบ ตัวใหญ่ กล้ามแน่นร่างกายกำยำ มีซิคแพ็ค แต่เป็นตุ๊ด

     

                ลืมบอกไปว่าเรียกมัน มิคาเอลไม่ได้ครับ ต้องเรียก น้องชิเอล ครับ ชื่อที่มันตั้งเองหลังจากที่ค้นพบว่าตัวเองเป็นตุ๊ดตั้งแต่ป.2

     

                “อีน้องชิเอลครับ คือมึงต้องใจเย็นๆนะครับ นั้นคนไม่ใช่ไก่สดที่มึงแดกเป็นอาหาร”  ยูคยอมกระตุกยิ้มเจือนๆก่อนจะมองมาที่พี่คนเมื่อกี้ที่บังเอิญหันมาสบตากันพอดี

                อีกฝ่ายที่ถูกมองก็รีบก้มหน้าก่อนจะเลี่ยงไปมองทางอื่น

               

                “กรี๊ด หยาบคายค่าอีหมียูค! พี่เขาต้องเขินกูแน่เลยคะมึง อร๊าย ความสวยทะลุตาพี่มัค นี่นะถ้ากูยังไม่มีผัวอย่าหวังว่าต้วนอี๋เอินจะรอดนะคะพูดเลย!” กระเทยควายของกลุ่มหน้านิ่วก่อนจะกัดนิ้วตัวเองอย่างเสียดาย สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนในกลุ่มเป็นอย่างมาก

     

                “ฮ่าๆๆ ว่าไปนั้น ว่าแต่พี่เขาชื่อไรนะ อะไรเอินๆ?” ร่างสูงชำเลืองไปถาม แต่สายตายังไม่ละจากช่วงแขนที่กำลังตั้งการ์ดอีกครั้งและอีกครั้งของรุ่นพี่หน้าหวาน

                                           

                “พี่เขาชื่อ มาร์ค คะอีดอก ดังจะตายไม่มีใครไม่รู้จัก มึงนะมึง วันๆซ้อมแต่บาสคนหล่อคนดังไม่รู้จักสนใจ กูเข้าบาสเป็นเพื่อนมึงเพราะผู้ชายเยอะนะคะรู้ไว้! อีหลังเขาเลากา นี่ถ้าไม่ชวนโดดเพราะกัปตันไม่อยู่ก็ไม่ยอมมาอีกสินะอีหมี” น่านถามแค่ชื่อพี่เขาแถมชุดด่าครบเซ็ต

     

                “เถอะน่าๆ กูไม่ใช่ตุ๊ดนะที่จะได้มาสนใจคนหล่อแบบมึงเนี้ย แต่พี่คนนี้กูว่าไม่หล่ออะสู้กูไม่ได้ น่ารักซะมากกว่าเออ ชื่อพี่มาร์คเหรอ มีเฟสมั้ยมึง” ยูคยอมรู้สึกประทับใจคนพี่ตั้งแต่แรกเห็นจนต้องขอเฟสจากเพื่อนขี้เสือก บุคคลที่อ้างว่าตนเองรู้ทุกเรื่องของหนุ่มฮ๊อทของโรงเรียน

     

                “ต๊ายยยยย อียูค อีพระเอกหลังข่าว จ๊ะ จ๊ะ หล่อจ๊ะ มึงหล่อ แต่ไม่ใช่สเป๊คกู เพราะฉะนั้นมึงไม่ผ่านนะโอเค๊ย์?~ แล้วนี่คิดว่ากำลังถามใครอยู่ยะ เอามือถือมาจะหาให้” มือหนากระดิกเรียกขอโทรศัพท์อีกคน ถึงปากจะหมาแต่ก็พึงพาได้ ยูคยอมยื่นให้อย่างว่าง่ายแต่ก็ยังมองพี่เขาไม่วางตา

     

                “อ่าว มึงกับพี่เขาก็เป็นเพื่อนกันแล้วหนิ? จะขอกูเพื่อ??!” ร่างยักษ์ส่งโทรศัพท์คืนอย่างหมดอารมณ์หลังจากที่ง่วนกับการพิมพ์ชื่อเฟสอยู่นานสองนาน ยูคยอมพยักหน้าตอบงึกงักไม่ได้สนใจอะไร

     

                อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มที่เป็นมิตรของพี่มาร์คอะไรนั้นกำลังทำให้เขารู้สึกเขินแปลกๆจนละสายตาไม่ได้ละมั้ง

     

                .

                .

     

                “ทำไมผมถึงไม่ทักพี่ไปตั้งแต่วันนั้นนะ” ยูคยอมซุกหน้ากับแขนแกร่งของตัวเองแล้วเผลอยิ้มอีกครั้ง

     




     

     

     

                “ฟังนะ!! จะรับลูกรีบาวด์ได้รึไม่ได้ มันตัดสินที่แย่งตำแหน่งใต้แป้นว่าได้ยืนอยู่ที่ดีๆมั้ย แล้วตำแหน่งของนายมันยังใช้ไม่ได้ !!!” เสียงของกัปตันตวาดลั่นทันทีที่ผมวิ่งฝ่าฝนมาที่โรงยิม

     

            “โว้วๆๆ ใจเย็นแจบอม ใจเย็น” พี่แจ็คสันยกมือห้ามปราม หลังจากที่จู่ๆวันนี้พี่เขาก็ดูโมโหผิดปกติ แจบอมมองหน้ารุ่นน้องในชมรมคนเมื่อกี้ที่รับลูกไม่ได้ก่อนจะโยนลูกบาสในมือไปที่ห่วงโดยไม่หันไปมองแป้นแม้แต่น้อย

     

                สวบ

     

                ความเทพของรุ่นพี่ทำให้ใจรุ่นน้องเจื่อนกันไปเป็นแถว นี่เพิ่งโดนด่าด้วยนะครับเมื่อกี้

               

                “เกิดไรขึ้นวะพี่” ยูคยอมที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่วางข้าวของเสร็จสรรพก็รีบเดินจ้ำอาวๆไปหาพี่แจ็คสันเพื่อสอบถามเหตุการณ์เมื่อครู่

     

                “อื้อ..กูก็ไม่รู้วะ คือ ไอ้เด็กสำรองก็ซ้อมกันอยู่ดีๆ มึงก็รู้ใช่มั้ยว่าไอ้ตัวสำรองฝีมือยังไม่แน่น แล้วผีบ้าอะไรไม่รู้เข้าสิงอีกัปตันมัน เดินมาตะคอกใส่น้องเขาใหญ่เลย หน้าเสียใจแป๋วกันเป็นแถว”  พูดจบก็เกาหัวแกรกๆก่อนจะมองเด็กๆที่เพิ่งถูกด่าด้วยแววตาสงสาร

     

                “เฮ้อ..แล้วทีนี้จะเอายังไง อาทิตย์หน้าก็จะแข่งแล้ว ขืนพูดงี้พวกนั้นคงมีกำลังใจเล่น” ร่างสูงเสยผมตัวเองที่เปียกโชกเพราะข้างนอกฝนตกหนักไม่หยุดตั้งแต่เที่ยง ก่อนจะหันไปมองพื้นที่ตัวเองเป็นคนทำเปียกตั้งแต่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าตกใจ

     

                “ชิบหายแล้วพี่ ตัวผมแม่งเปียก สนามแม่งมีรอยน้ำตลอดทางเลยวะพี่แจ็ค!” ยูคยอมเด้งตัวออกจากสนามก่อนจะมองทางที่ตัวเองเพิ่งเดินเข้ามา

     

                “อีเหี้ย ! มึงนี่สร้างงานไม่รู้จักเวล่ำเวลา ดีนะไอ้แจบอมมันเดินไปไหนไม่รู้มึงไปด้านหลังเลยไป ไปทำให้ตัวเองแห้งก่อนมาเล่น ตรงนี้กูจะถูให้ก่อน”

     

                “โอเคๆฮยอง คัมซาครับ”

               

                ผมพูดรัวๆก่อนจะรีบวิ่งมาด้านหลังโรงยิมที่เป็นล็อคเกอร์เก็บของของชมรมกีฬา ให้ตายเถอะ นี่กลับไปต้องโดปพาราก่อนนอน ไม่งั้นไข้กินก่อนวาเลนไทน์ไม่โรแมนติกแน่ๆ

                ย๊า คิดอะไรอยู่วะเนี้ย ฮ่าๆๆๆๆ

                (ลูบท้ายทอยแก้เขิน)

     

                “อะ..” หลังจากที่ผมเดินมาคิดไรเพลินๆก็ดันมาปะกับพี่แจบอมที่ยืนพิงล็อคเกอร์ลูบคางเหมือนกำลังใช้ความคิด

                เมื่อได้ยินเสียงคนที่เข้ามาใหม่ จึงเอ่ยทักรุ่นน้อง “ว่าไงคยอม”

     

                ถ้าเมื่อกี้พี่เขาไม่ด่าพวกนั้นตอนที่ผมเขามา ผมจะไม่รู้สึกกลัวพี่เขาเลยนะตอนนี้

     

                “ครับ เอ่อ คะคือ ฮะ..ฮยองทำไรอยู่รึป่าว คือ ผมผมออกไปนั่งที่อื่นก็ได้นะครับ ไม่อยากรบกวนครับ แหะๆ” ผมพูดตะกุกตะกัก ก่อนจะชี้นิ้วไปมั่วๆ

                โอ้ยมายก็อด พี่เขาไม่ตอบครับ แต่พี่เขากำลังเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ช้าๆ ก่อนจะหยุด เมื่อเรายืนห่างกันประมาณหนึ่งช่วงศอก

                เหงื่อเริ่มตกแล้วครับ พี่เขาจะด่าอะไรผมมั้ย คือสภาพผมตัวเปียกๆเดินมาห้องล็อคเกอร์หลังโรงยิมนี่หมายความว่าผมต้องเดินผ่านสนามเข้ามาก่อนเพราะมีประตูเข้า-ออกทางเดียว และหมายความว่า พี่เขาต้องรู้แน่ๆว่าสนามเปียกเพราะผม

               

                พี่แจบอมนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ได้แต่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดมองหน้าผมหยั่งกับจับผิดอะไรผมอยู่ ส่วนคิมยูคนนี้ก็ได้แต่ส่งรอยยิ้มเจื่อนๆที่มีแต่ความจริงใจ(เพราะกลัวโดนด่า)ไปให้เท่านั้น ฮึก

     

                เราเงียบกันนานมาก นานซะจนผมคิดว่าเสื้อนักเรียนที่เปียกโชกแนบตัวผมเมื่อครู่จะแห้งได้อยู่แล้ว

               

                จนในที่สุดพี่เขาก็เอ่ยปาก

     

     

                “เช็ดผมกินยา แล้วกลับบ้านไปพักผ่อนซะ”

     

                ฮะ ?

               

                “คะ..ครับ?” ผมรู้สึกเหมือนหายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น แต่ก็ยังแอบงงกับประโยคเมื่อกี้หน่อยๆ

     

                “อย่าป่วยก่อนวันแข่งจริง”

     

                “อ่า..คะ ครับ” อะไรของเฮียละครับเนี้ย

     

                “และที่สำคัญ”

     

                “ครับ?”

      

                “อย่าป่วยวันวาเลนไทน์ นายต้องมาโรงเรียน” พี่แจบอมมองหน้าผมนิ่งๆ พี่เขาเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับผม ...ตอนนี้ผมรู้สึกจุกไปหมดแล้ว 

                “ฮะ ฮะ..?

     

                “มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำวันนั้น”

     

                “

     

                “ไม่ใช่เหรอ” พี่แจบอมมองผมด้วยแววตาแปลกๆ ถ้าผมมองไม่ผิด เซนส์ผมบอกว่ามันเหมือนแววตาของคนที่หมดแรง แววตาของคนที่กำลังเหนื่อยกับปัญหา แววตาของคนที่กำลังจะร้องไห้..

               

     

    ยูคยอม…”

     

    คะ ..ครับ

     

    ถ้าน้องยูคยังไม่เปลี่ยนใจ วันวาเลนไทน์มาบอกพี่ใหม่ได้มั้ยครับ

     

     

    ผมเบิกตากว้างทันที หลังจากที่เพิ่งระลึกชาติได้เมื่อครู่

     

     

    “ฮยอง..!?” ตอนนี้มันมีความรู้สึกมากมายที่ผมไม่สามารถพูดได้ มีแต่คำถามเต็มหัวไปหมด ฮยองรู้ได้ยังไง ฮยองรู้จริงเหรอ หรือแค่สุ่มพูดแล้วมันดันไปโยงกับประเด็นของผม “ฮยองรู้อะ

     

                “พอ ไม่ต้องพูดอะไร” ผมยังพูดไม่จบประโยค พี่เจบีก็ก้มหน้าพูดตัดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ

     

                “” ใจของผมเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ใช่เพราะเขินไม่ใช่เพราะกลัว แต่มันเหมือนอาการของคนที่ถูกล้วงความลับออกมาตีซึ่งๆหน้าต่างหาก

                ผมอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก คิ้วของผมขมวดติดกันเหมือนกับพี่แจบอมเมื่อกี้ไม่มีผิด

     

                “ขอให้นายโชคดี” ว่าจบก็ตบไหล่ผมสองสามทีก่อนจะเดินจากไปแถมทิ้งทายสั่งลาด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วคาดเดาอารมณ์ได้ไม่ยาก

     

                พี่แจบอมกำลังร้องไห้

     


     

    - To Be Continued -

     

    #ฟชก
     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×