คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 05
วันต่อมา
ร่างบางมาโรงเรียนด้วยสภาพร่าเริงกว่าทุกๆวัน มาร์คเดินขึ้นมาเอาของไว้บนห้องเรียนคาบแรก ก่อนจะเดินไปโรงอาหารเพื่อหาข้าวเช้า หลังจากที่หาซื้ออาหารได้แล้ว เขาก็เดินกลับมานั่งโต๊ะประจำตัวเดิมที่นั่งทุกๆเช้า แต่ก็ต้องตกใจเมื่อวันนี้เขาไม่ได้นั่งคนเดียวซะนี่
มาร์คมองแผ่นหลังนั้นอย่างคาดโทษ นี่ไม่รู้จักที่ประจำของพี่ ม.6 ผู้นำเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนรึไงวะ?
เด็กผู้ชายผมสีดำสนิทเซ็ททรงตั้งๆมาดกวนๆ แผ่นหลังกว้าง ที่ดูแข็งแรงสามารถปกป้องใครๆได้ รูปร่างสูงใหญ่เหมือนนักกีฬาบาสเก็ตบอลของโรงเรียน…
เฮ้ย นี่มัน คิม ยูคยอม !?
แต่ทันทีที่จะได้ก้าวขาหนีไปไหน แผ่นหลังนั้นก็หันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ที่สามารารถละลายหัวใจของคนที่ยืนมองดูอยู่ “อันยองครับ พี่มาร์คคึ ^[+++]^~”
คนตัวเล็กที่เพิ่งถูกทักรู้สึกทำตัวไม่ถูก…นี่นายเพิ่งบอกชอบฉันเมื่อวาน เก่งจังนะที่กล้ามองหน้ากันตรงๆ เป็นพี่ พี่ทำไม่ได้จริงๆนะเจ้าหมียักษ์…
“ฮาย..” ตอบกลับเสียงแผ่ว ก่อนจะรีบหาที่อยู่ใหม่หลังจากเจ้าเด็กนี่มานั่งจองที่ไปเสียแล้ว
“พี่จะเดินไปไหนละครับ?” ร่างสูงลุกขึ้นเดินตาม
“กะ..ก็นายมานั่งตรงนี้แล้วไม่ใช่รึไง” หันกลับมาพูดกับคิมยูคยอม
“มานั่งรอพี่นั้นแหละ” คนอายุอ่อนกว่าตอบกลับตาหยี เล่นเอามาร์คต้องหน้าแดงอัตโนมัติ
“นั่งรอทำไม??” มาร์คต้วนขมวดคิ้วพร้อมกับหน้าที่แดงขึ้นเรื่อยๆ
“เอาเงินทอนมาคืน” ว่าแล้วก็หยิบเงินในกระเป๋ายัดใส่มือรุ่นพี่ “มาการองเมื่อวานอร่อยมั้ยครับ?” สายตาเจ้าเล่ห์ปนความสงสัยของร่างสูงปรากฏให้คนร่างบางจับสังเกตได้ง่ายๆ
“ไม่รู้ครับ ยังไม่ได้ทาน” มาร์คตอบโกหก เล่นเอาอีกคนหน้าเหวอไปเล็กน้อยแต่ก็ดึงอาการกลับมาได้ มาร์คเห็นอย่างนั้นเลยเผลอหัวเราะออกมา ยูคยอมรีบเอ่ย “พี่พูดจริงเหรอ?”
“อื้อ..ทำไมอะ ในมาการองมีอะไรเหรอ??” มาร์คมองตายูคยอมอย่างจับผิดแต่หน้าตัวเองกลับแดงก่ำซะงั้น
“โอเค งั้นถ้าพี่ยังไม่กิน..” ร่างสูงหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะมองตากลมโตของอีกคน “ผมชอบพี่นะ”
……………
……..
…..
..
“เชี้ย...” ชายหนุ่มตาตี๋อุทานเบาๆ ก่อนจะเขย่าไหล่บางของเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ ในขณะที่พวกเขากำลังแอบดูนักกีฬาตัวสูงกับผู้นำเชียร์ของโรงเรียนคุยกันอยู่เงียบๆ
ใบหน้าน่ารักที่เดิมมีรอยยิ้มสดใสร่าเริง ทว่าตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยหยาดน้ำใสกำลังไหลอาบข้างแก้มขาว แบมแบม ตะลึงกับคำพูดและท่าทีของคนร่างสูงเมื่อกี้ ก่อนที่ยองแจ เพื่อนสนิทจะโบกมือไปมาเพื่อเรียกสติเค้า
“เห้ยๆๆ พอๆ เลิกร้องดิไอ้เหี้ยแบม โอ้ย มึงตามเขามาแล้วมึงจะมาร้องไห้งี้เนี้ยนะ??” มือขาวของยองแจยังคงทำหน้าที่โบกไปโบกมาอยู่หน้าดวงตากลมโต
“ใครร้อง..” เด็กหนุ่มยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างนั้นโดยไม่รู้ตัว
“ก็มึงไง ไอ้เหี้ยยยยยยยย กูบอกแล้วใช่มั้ยว่า เขาไม่ได้ชอบมึง ไม่ได้ชอบมึง แล้วมึงจะตามยูคยอมมาทำไม” ยองแจจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจังปนตะคอกน้อยๆ แต่ถึงกระนั้น ร่างบางก็ยังมองร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่กับรุ่นพี่ของเขา
“ไม่จริง .. เขาชอบกู” ริมฝีปากบางสั่นระริกเมื่อเห็นยูคยอมหัวเราะร่า แถมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่มาร์คอะไรนั้นอีก
“เขาไม่ได้ชอบมึง!” ยองแจยังคงพยายามดึงสติเพื่อนตัวเองกลับมา
“ยูคยอม..ชอบกู”
“เขา-ไม่-ได้-ชอบ-มึง มึงก็เห็น! มึงก็ได้ยิน! ชัดรึยัง!!!” ตะคอกหนักกว่าเดิม
“เขาอาจจะพูดเล่นๆกับพี่มาร์คก็ได้”
“เชี้ยแบม ได้โปรด มึงตาสว่างซะทีเถอะ! ไอ้คำพูดผ่านตัวอักษรมันจะไปสำคัญเท่าคุยตัวต่อตัวอย่างนี้เหรอวะ!!” ยองแจผ่ายมือออกไปทางยูคยอมและมาร์คยืนที่ยืนมองหน้ากันอยู่ พร้อมกับใส่น้ำเสียงและท่าทางที่จริงจัง
....ก็จริง
ยูคยอมยิ้มตลอดเลยเวลาอยู่กับพี่มาร์ค..
พี่มาร์คแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ร่างสูงนั้นก็เข้าไปหา ... ผิดกับเขาที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆคิมยูคยอม พยายามเอาชนะใจเขา พยายามเข้าหา พยายามทำตัวน่ารักๆ ทำตัวไม่น่ารำคาญ พยายามทำตัวตลกเพื่อให้ยูคยอมหัวเราะและยิ้มกว้างๆให้เขา ... ตีสนิทเพื่อให้ยูคยอมไว้ใจสามารถพูดคุยเรื่องส่วนตัวโดยไม่ต้องลำบากใจ และเพื่อให้ยูคยอม รัก เขา..
แต่ไม่เลย
เขากลับเป็นได้แค่เพียง ‘เพื่อนร่วมห้อง’
แบมแบมยืนแน่นิ่งไปสักพัก ดวงตาอาบน้ำใสมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินถือจานข้าวไปกับรุ่นพี่จนลับตา ... ยองแจที่ยืนอยู่ข้างๆได้แต่บ่นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ร่างบางตอนนี้ไม่พร้อมจะรับฟังใครทั้งนั้น
ทุกการกระทำ ทุกรอยยิ้ม ทุกสัมผัส ... ที่เขาเคยได้รับ ตอนนี้คิมยูคยอมกลับมอบให้ผู้ชายที่ชื่อ ‘มาร์ค’
งั้นเหรอ ?
“แบม-มึง-รัก-เขา-ข้าง-เดียว” หลังจากที่สติกลับมาเพราะร่างสูงนั้นเดินจากไป คำพูดของยองแจที่อยู่ข้างๆก็ดันมาเข้าหูในจังหวะที่พอดิบพอดี
“..ฮ่ะ?”
“สิ่งที่ยูคยอมทำกับมึงมันเป็นเรื่องปกติโว้ย ก็เหมือนกูทำกับมึงนั้นแหละ!”
“...”
“วันนั้นที่เขาตอบแชทมึง เพราะมึงถามเขาเรื่องการบ้าน และที่มึงไม่ถามกู เพราะกูลืมสมุดจดการบ้านไว้โรงเรียน!”
“...”
“เขาสอนมึงเล่นบาส เพราะไม่อยากให้มึงติด ร. วิชาพละคนเดียวในห้องเพราะมันรู้สึกแย่ และที่มึงไม่ให้กูสอนเพราะกูไม่ใช่นักกีฬา!”
“...”
“เขาติวเลขให้มึง เพราะมึงทำอังกฤษให้เขา และที่มึงไม่ถามกู เพราะกูไม่ถนัดเลขแต่กูถนัดวิทย์!”
“...”
“เขาคุยกับมึง เขาเล่นกับมึง เพราะมึงกับเขา เป็นเพื่อนกัน! เป็นเพื่อนกัน เหมือนกู-กับ-มึง!” ยองแจตะคอกด้วยความโมโห และถ้าสังเกตให้ดี ที่ดวงตาเล็กๆนั้นเริ่มมีน้ำใสๆคลอๆ พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ
“...”
“และไอ้เรื่องคู่จิ้นมึงกับเขาในห้อง ก็มีกูไม่ใช่เหรอที่สร้างกระแสให้!” ใบหน้าแดงก่ำ ร่างสูงกว่าบังคับตัวเองไม่ให้อีกฝ่ายเห็นน้ำตา
“...”
“ในชีวิตจริง มึงกับเขาไม่ได้เป็นเหี้ยอะไรกันเลย!”
“พอสักที!!!!” ร่างบางตวาดลั่น เล่นเอานักเรียนที่เดินผ่านไปมาต้องมองตามด้วยความตกใจเช่นเดียวกับยองแจ ร่างสูงกว่าเม้มปากแน่นก่อนจะก้มมองพื้นอย่างยอมแพ้ ... หลังจากที่ยองแจปล่อยให้แบมแบมยืนร้องไห้คนเดียวไปสองสามนาที เขาก็ค่อยๆเอื้อมจับไหล่บางที่สั่นกระเพื่อมไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่แบมแบมจะปล่อยโฮออกมาเฮือกใหญ่อีกรอบ
“แบม.. กูขอโทษ ขอโทษนะ... มึงร้องเลย มึงร้องให้พอ” มือขาวๆของยองแจโอบแผ่นหลังเล็กแล้วปลอบประโลม แบมแบมร้องไห้หนักก่อนจะกอดตอบอีกคน “ฮือ...ยะ..ยองแจ ฮึก ฮือ...”
“กูรู้ กูเข้าใจความรู้สึกมึงนะ.. ว่า...” ยองแจหยุดพูดไปชั่ววินาที เขายกยิ้มบางๆที่มุมปาก แต่ในสายตากลับมีแต่ความว่างเปล่าก่อนที่หยาดน้ำตาใสที่อักอันเอาไว้เมื่อครู่จะพลั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ร่างสูงเอ่ยต่อเสียงกระสั่น
“การ แอบรักเพื่อน มันรู้สึกยังไง” ร่างสูงกว่าเล็กน้อยเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น...
เขาเจ็บปวดที่ เห็น ‘เพื่อน’ ตัวเองเจ็บปวด…
แต่แย่หน่อยตรงที่เขา ... คิดเกินเลยไปมากกว่าคำว่า ‘เพื่อน’
โรงยิม
“ไอ้หมี ไมเพิ่งมาโรงเรียนวะ ตื่นสายอีกแล้วใช่มั้ย” พี่ชายส่วนสูงน้อยปากดีกำลังยิงลูกบาสในมืออกไปบนห่วง หลังจากที่เห็นผมเดินยิ้มเข้ามาในโรงยิม
“อืม…ป่าวครับ ~ แต่ว่าช่วงนี้ผมอาจจะเข้ามาโรงยิมช้าหน่อยนะฮยอง” ผมยิ้มกว้างแล้วก้มหัวน้อยๆทักทายรุ่นพี่ในทีมที่กำลังเช็ดลูกบาส ทำความสะอาดพื้น
“ทำไมละ” ท่านกัปตันเจบีละใบหน้าหล่อออกจากสมุดโน้ตเล่มประจำของตัวเองก่อนจะเหลือบตามองผมด้วยสีหน้าสงสัย
“คือ…ผมไปกินข้าวเช้าเป็นเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งนะครับ” ยูคยอมตอบกลับตรงๆก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าบนสแตน
“เห่ย ไปกินข้าวกับนูนาคนไหนบอกกูมาเลยนะไอ้หมี จะได้ไปบอกให้ไอ้มัคคึมันตัดใจซะ” พี่แจ็คสันเลี้ยงลูกบาสมาหาก่อนจะเด้งบาสใส่หลังผมอย่างหาเรื่อง
ปกติผมควรจะโกรธ แต่ดูเหมือนวันนี้ไม่มีอะไรทำให้ผมอารมณ์เสียได้เลย ~
“เชิญตามสบายเลยครับคุณพี่หวัง” ผมก้มลงหยิบลูกบาสที่กระแทกหลังผมเมื่อครู่ไปถูทำความสะอาดกับพี่นิชคุณ
อิม แจบอม ยืนนิ่งหลังจากได้ยินคำพูดของแจ็คสัน เขาหันไปมอง คิม ยูคยอม ด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม สายตาที่เดิมไม่แข็งกระด้าง สายตาที่เดิมไม่มีความอ่อนแอ และสายตาที่มีแต่ความเป็นผู้นำ ตอนนี้กลับกันไปหมด จนดูเหมือนคนละคน และถ้าสังเกตุให้ดีๆ จะมีไฟลุกโชนในดวงตาเล็กๆเสมือนเขากำลังลงแข่งในสนามใหญ่ แต่ผิดกัน...สายตานี้มันดันเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังมองรุ่นน้องร่างสูงโปร่ง แจบอมกำสมุดโน้ตแน่น
หลังจากตั้งสติได้ไม่กี่วินาที เขาก็ส่ายหัวไปมากับความคิดเมื่อครู่
ไม่เอาน่า แจบอม..
กัปตันของทีมก้าวขายาวๆไปกลางสนามก่อนจะเก็บสมุดโน้ตม้วนใส่กระเป๋ากางเกง แล้วหยิบลูกบาสเลี้ยงไปมากลบอาการผิดปกติเพื่อไม่ให้ใครจับได้ เขาชู้ตลงห่วงเพื่อซ้อมต่อก่อนจะไปเข้าแถว ทำเหมือนตัวเองไม่ได้ยินอะไร ไม่ได้คิดอะไร ทั้งๆที่ในใจกำลัง ร้องไห้...
“อรุณสวัสดิ์..ยูคยอม” เพื่อนแก้มป่อง ตาโต ตัวบางอ้อนแอ้นเอ่ยทักผมขณะที่ผมสะพายเป้เข้าห้องเรียน
“ดีคร้าบบบ คุณแบมแบม” ผมยิ้มกว้างให้แบมอย่างอารมณ์ดีก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเรียนเยื้องๆมัน ว่าแต่ทำไมวันนี้ยองแจดูเงียบๆแปลกๆนะ ดูๆ ดูมันมองจิกผมอีกด้วย นี่ผมไปเหยียบเล็บขบพ่อมันเหรอ เฮอะ..เอาเถอะ ผมก็ไม่ค่อยอยากรู้สักเท่าไหร่ว่ามันเป็นห่าอะไร
อ้อ ผมกับยองแจไม่ค่อยถูกกัน แต่ก็อยู่กลุ่มเดียวกันตลอดเวลาทำงาน อาจจะเป็นเพราะมันเป็นเพื่อนสนิทแบม แล้วผมเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนในห้องซะด้วยสิ
ไม่ๆ ต้องพูดว่า มีแต่คนแย่งผมเข้ากลุ่ม แต่คงมีแบมคนเดียวที่ผมไว้ใจที่สุดในห้องละมั้ง
“นายกินข้าวเช้ามายัง” แบมถามผม ก่อนจะยืนแซนด์วิชมาให้ เหมือนทุกๆวัน
ทุกวันครับ ทุกวันเลยจริงๆ แบมแบมมันจะมีข้าวมาให้ผม คือผมเกรงใจมันนะ กลัวไม่รับไว้จะเสียน้ำใจ และปกติผมก็ตื่นสายกินข้าวเช้าไม่ทัน . ..แต่วันนี้ผมกินกับพี่มาร์คไปแล้วน่ะสิ
“เอ่อ…” ผมยิ้มแห้งๆให้มัน มันคงรู้แหละว่าผมกินมาแล้ว แซนด์วิชในมือถูกหยิบไปโดยยองแจที่นั่งหน้าเป็นตูดตั้งแต่เมื่อกี้
“กูยังไม่กินวะ ไอ้ยูคคงกินมาแล้วละ ขอนะ” ยองแจยักคิ้วให้ผมเพื่อขอแซนด์วิชชิ้นนั้น แม่งกวนตีนแต่เช้าเลยนะมึง
“อืม” ผมขึ้นเสียงอย่างเซ็งๆ ยองแจมันยักไหล่ใส่ผม แบมมองหน้าผมสลับยองแจไปมา ก่อนจะยกอาหารเช้านั้นให้ยองแจแต่โดยดี “อ้อ ลืมไป…วันนี้ฉันเห็นนายไปโรงอาหารแต่เช้ากับพี่มาร์ค”
“อือ ใช่ ทำไมเหรอ” ผมตอบปัดๆ ก่อนจะหยิบสมุดการบ้านขึ้นมาทำต่อ เพราะเมื่อวานมีแขกมาร้านเยอะ เลยมัวแต่ช่วยแม่เก็บร้านจนดึกดื่น และเมื่อวานมีคนสวยมานั่งที่ร้าน เล่นเอาผมเอากลับไปนอนฝันทั้งคืนเลยครับ~
“พวกนายดูเหมือนไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้องกันธรรมดา…” ไอ้ตัวเล็กพูดเสียงสั่น ทำเอาผมต้องหยุดเขียนอัตโนมัติ
…ความจริงผมเพิ่งรู้ว่ามันชอบผมได้ไม่กี่วัน แต่ผมไม่รู้จะตอบมันยังไง
ผมไม่อยากเสียเพื่อน และผมก็ไม่อยากปิดพวกมัน เรื่องผมกับพี่มาร์ค
“คือ…” ผมกำลังคิดหาข้ออ้างล้านแปด ยองแจมันมองจิกผมอีกแล้ว ส่วนแบมแบมก็ตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ ...ทำไงดี
“อ้าวๆมัวแต่คุยกันอยู่นั้นแหละ เอาหนังสือขึ้นมาได้แล้ว” คุณครูโผล่หน้าเข้ามาในชั้นเรียนตรงจังหวะ และช่วยชีวิตผมไว้ได้ เด็กทุกคนในห้องต้องหันไปเตรียมหนังสือขึ้นมาเรียน ผมเลยตีเนียนหันหน้ากลับมาแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาทันที
กูขอโทษวะแบม…
ห้อง ม.6/4 พักเที่ยง
“เดี๋ยวๆ! มึงว่าไงนะ” แจ็คสันโวยวายหลังจากที่มาร์คเพิ่งบอกเรื่องที่คุยกับรุ่นน้องร่างสูงตอนเช้า
“ฮึ้ยๆ เงียบๆหน่อยดิแจ็ค” ร่างบางเอานิ้วชี้ทาบริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองเพื่อนในห้องที่กินข้าวกล่องอย่างสนุกสนาน
“เออ กูขอโทษๆ สรุปคือ ไอ้หมีมันบอกชอบมึง”
“อื้อ”
“แล้วมึงก็ชอบมัน”
“อื้อ” หน้าหวานเริ่มขึ้นสี
“แล้วนูนาที่มันจะไปกินข้าวเช้าด้วยทุกวันก็คือมึง??”
“อื้อ นูนาไรละ น้องยูคต้องเรียกเค้าว่า ‘ฮยอง’ ต่างหาก~” มาร์คยิ้มแก้เขินเผยให้เห็นเขี้ยวขาวๆที่มีเสน่ห์
“มึงรู้ป่ะ ว่า มึงเป็นใคร แล้วมึงรู้ป่ะ ว่า ไอ้หมีเป็นใคร” แจ็คสันยังคงไม่หยุดโวยวายแถมยังลุกขึ้นมองหน้ามาร์คอย่างไม่เชื่อสายตา
“รู้อะไร เค้าเป็นใคร เค้าก็คือมาร์คไง ส่วนน้องยูค ก็คือน้องยูค~~ ❤❤” มาร์คต้วนยังคงไม่หยุดเขินเวลาพูดถึงรุ่นน้องหน้าหล่อสูงยาวเข่าดีแถมยังมีดีกรีเป็นนักกีฬา
“พวกมึงทั้งคู่คือบุคคลที่ฮ็อทที่สุดในโรงเรียนเลยนะเว้ยยยย วู้ววววว!!!” เพื่อนตัวเตี้ยแหกปากลั่น
“บ้า ไม่ขนาดนั้น..” หน้าหวานขึ้นสีจัด พูดถ่อมตัวก่อนจะกินข้าวต่อไม่สนใจเพื่อน ที่ดีใจแทนตัวเองเป็นบ้าเป็นหลัง
“มึง ! ประเด็นนี่พาดหัวข่าว Top Secret หนังสือพิมพ์โรงเรียนชัวร์! มึงเตรียมรับมือสาววายด้วย มึงอยู่ไม่เป็นสุขแล้วละเพื่อนเอ๋ย” แจ็คสันหัวเราะเสียงดังเป็นจังหวะเดียวกับที่จินยองเดินเข้ามาในห้อง
“คุยไรกันอยู่วะ” หนุ่มตาตี๋หน้าหวานสายเคะนั่งลงข้างๆมาร์คที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เป็นอันกิน แจ็คสันเห็นจินยองหน้าเครียดๆเลยสะกิดมาร์คให้ตื่นจากภวังค์ “ฮ่ะๆๆ?”
“กูถามว่า พวก-มึง-คุย-ไร-กัน-อยู่” จินยองพูดเน้นเสียงเน้นคำด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ทำเอาอีกสองคนต้องมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย มาร์คใช้เท้าเขี้ยต้นขาแจ็คสันที่ยืนอยู่ ให้พูดอะไรสักอย่าง
“ละ…แล้วนี่มึงไปโกรธใครมาวะสัด” แจ็คพูดติดขัดเพราะกลัวรังสีอำมหิตของออมม่าประจำกลุ่ม จินยองมองหน้าอีกคนด้วยสายตาคับแค้น ก่อนจะกัดฟันพูด “รุ่นน้องมึงเลยไอ้เหี้ย ตัวดี!”
“ใครวะ..รุ่นน้องกูคนไหน ทำไม??” มาร์คมองหน้าเพื่อนสองคนสลับไปมา เขากลัวเหลือเกินว่าไอ้สองตัวนี้มันจะตีกันอีก จินยองชำเลืองมองมาร์คเหมือนกำลังคิดว่าควรจะพูดออกไปมั้ย
“...มาร์ค กูขอไรอย่าง ถ้ามึงจะมีแฟน รึใครสักคนที่มึงอยากฝากหัวใจไว้อะ”
“…หื้อ?”
“ยกเว้นคิมยูคยอมได้มั้ยวะ!?”
- To Be Continued -
ความคิดเห็น