ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] SUGAR

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 05

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 58


    © themy  butter






     

    วันต่อมา

     

    ร่างบางมาโรงเรียนด้วยสภาพร่าเริงกว่าทุกๆวัน มาร์คเดินขึ้นมาเอาของไว้บนห้องเรียนคาบแรก ก่อนจะเดินไปโรงอาหารเพื่อหาข้าวเช้า หลังจากที่หาซื้ออาหารได้แล้ว เขาก็เดินกลับมานั่งโต๊ะประจำตัวเดิมที่นั่งทุกๆเช้า แต่ก็ต้องตกใจเมื่อวันนี้เขาไม่ได้นั่งคนเดียวซะนี่

    มาร์คมองแผ่นหลังนั้นอย่างคาดโทษ นี่ไม่รู้จักที่ประจำของพี่ ม.6 ผู้นำเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนรึไงวะ?

    เด็กผู้ชายผมสีดำสนิทเซ็ททรงตั้งๆมาดกวนๆ แผ่นหลังกว้าง ที่ดูแข็งแรงสามารถปกป้องใครๆได้ รูปร่างสูงใหญ่เหมือนนักกีฬาบาสเก็ตบอลของโรงเรียน

     

     

    เฮ้ย นี่มัน คิม ยูคยอม !?

    แต่ทันทีที่จะได้ก้าวขาหนีไปไหน แผ่นหลังนั้นก็หันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ที่สามารารถละลายหัวใจของคนที่ยืนมองดูอยู่ “อันยองครับ พี่มาร์คคึ ^[+++]^~

     

    คนตัวเล็กที่เพิ่งถูกทักรู้สึกทำตัวไม่ถูกนี่นายเพิ่งบอกชอบฉันเมื่อวาน เก่งจังนะที่กล้ามองหน้ากันตรงๆ เป็นพี่ พี่ทำไม่ได้จริงๆนะเจ้าหมียักษ์

     

    “ฮาย..” ตอบกลับเสียงแผ่ว ก่อนจะรีบหาที่อยู่ใหม่หลังจากเจ้าเด็กนี่มานั่งจองที่ไปเสียแล้ว

     

    “พี่จะเดินไปไหนละครับ?” ร่างสูงลุกขึ้นเดินตาม

     

    “กะ..ก็นายมานั่งตรงนี้แล้วไม่ใช่รึไง” หันกลับมาพูดกับคิมยูคยอม

     

    “มานั่งรอพี่นั้นแหละ” คนอายุอ่อนกว่าตอบกลับตาหยี เล่นเอามาร์คต้องหน้าแดงอัตโนมัติ

     

    “นั่งรอทำไม??” มาร์คต้วนขมวดคิ้วพร้อมกับหน้าที่แดงขึ้นเรื่อยๆ

     

    “เอาเงินทอนมาคืน” ว่าแล้วก็หยิบเงินในกระเป๋ายัดใส่มือรุ่นพี่ “มาการองเมื่อวานอร่อยมั้ยครับ?” สายตาเจ้าเล่ห์ปนความสงสัยของร่างสูงปรากฏให้คนร่างบางจับสังเกตได้ง่ายๆ

     

    “ไม่รู้ครับ ยังไม่ได้ทาน” มาร์คตอบโกหก เล่นเอาอีกคนหน้าเหวอไปเล็กน้อยแต่ก็ดึงอาการกลับมาได้ มาร์คเห็นอย่างนั้นเลยเผลอหัวเราะออกมา ยูคยอมรีบเอ่ย “พี่พูดจริงเหรอ?”

     

    “อื้อ..ทำไมอะ ในมาการองมีอะไรเหรอ??” มาร์คมองตายูคยอมอย่างจับผิดแต่หน้าตัวเองกลับแดงก่ำซะงั้น

     

    “โอเค งั้นถ้าพี่ยังไม่กิน..” ร่างสูงหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะมองตากลมโตของอีกคน “ผมชอบพี่นะ”

     

    ……………

     

     

    ……..

     

     

    …..

     

     

    ..

     

     

    “เชี้ย...” ชายหนุ่มตาตี๋อุทานเบาๆ ก่อนจะเขย่าไหล่บางของเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ ในขณะที่พวกเขากำลังแอบดูนักกีฬาตัวสูงกับผู้นำเชียร์ของโรงเรียนคุยกันอยู่เงียบๆ

     

    ใบหน้าน่ารักที่เดิมมีรอยยิ้มสดใสร่าเริง ทว่าตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยหยาดน้ำใสกำลังไหลอาบข้างแก้มขาว แบมแบม ตะลึงกับคำพูดและท่าทีของคนร่างสูงเมื่อกี้ ก่อนที่ยองแจ เพื่อนสนิทจะโบกมือไปมาเพื่อเรียกสติเค้า

     

    “เห้ยๆๆ พอๆ เลิกร้องดิไอ้เหี้ยแบม โอ้ย มึงตามเขามาแล้วมึงจะมาร้องไห้งี้เนี้ยนะ??” มือขาวของยองแจยังคงทำหน้าที่โบกไปโบกมาอยู่หน้าดวงตากลมโต

     

    “ใครร้อง..” เด็กหนุ่มยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างนั้นโดยไม่รู้ตัว

     

    “ก็มึงไง ไอ้เหี้ยยยยยยยย กูบอกแล้วใช่มั้ยว่า เขาไม่ได้ชอบมึง ไม่ได้ชอบมึง แล้วมึงจะตามยูคยอมมาทำไม” ยองแจจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจังปนตะคอกน้อยๆ แต่ถึงกระนั้น ร่างบางก็ยังมองร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่กับรุ่นพี่ของเขา

     

    “ไม่จริง .. เขาชอบกู” ริมฝีปากบางสั่นระริกเมื่อเห็นยูคยอมหัวเราะร่า แถมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่มาร์คอะไรนั้นอีก

     

    “เขาไม่ได้ชอบมึง!” ยองแจยังคงพยายามดึงสติเพื่อนตัวเองกลับมา

     

    “ยูคยอม..ชอบกู”

     

    “เขา-ไม่-ได้-ชอบ-มึง มึงก็เห็น! มึงก็ได้ยิน! ชัดรึยัง!!!” ตะคอกหนักกว่าเดิม

     

    “เขาอาจจะพูดเล่นๆกับพี่มาร์คก็ได้”

     

    “เชี้ยแบม ได้โปรด มึงตาสว่างซะทีเถอะ! ไอ้คำพูดผ่านตัวอักษรมันจะไปสำคัญเท่าคุยตัวต่อตัวอย่างนี้เหรอวะ!!” ยองแจผ่ายมือออกไปทางยูคยอมและมาร์คยืนที่ยืนมองหน้ากันอยู่ พร้อมกับใส่น้ำเสียงและท่าทางที่จริงจัง

     

     

    ....ก็จริง

    ยูคยอมยิ้มตลอดเลยเวลาอยู่กับพี่มาร์ค..

    พี่มาร์คแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ร่างสูงนั้นก็เข้าไปหา ... ผิดกับเขาที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ๆคิมยูคยอม พยายามเอาชนะใจเขา พยายามเข้าหา พยายามทำตัวน่ารักๆ ทำตัวไม่น่ารำคาญ พยายามทำตัวตลกเพื่อให้ยูคยอมหัวเราะและยิ้มกว้างๆให้เขา ... ตีสนิทเพื่อให้ยูคยอมไว้ใจสามารถพูดคุยเรื่องส่วนตัวโดยไม่ต้องลำบากใจ และเพื่อให้ยูคยอม รัก เขา..

     

    แต่ไม่เลย

     

    เขากลับเป็นได้แค่เพียง เพื่อนร่วมห้อง

     

    แบมแบมยืนแน่นิ่งไปสักพัก ดวงตาอาบน้ำใสมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินถือจานข้าวไปกับรุ่นพี่จนลับตา ... ยองแจที่ยืนอยู่ข้างๆได้แต่บ่นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ร่างบางตอนนี้ไม่พร้อมจะรับฟังใครทั้งนั้น

     

    ทุกการกระทำ ทุกรอยยิ้ม ทุกสัมผัส ... ที่เขาเคยได้รับ ตอนนี้คิมยูคยอมกลับมอบให้ผู้ชายที่ชื่อ มาร์ค

    งั้นเหรอ ?

     

    “แบม-มึง-รัก-เขา-ข้าง-เดียว” หลังจากที่สติกลับมาเพราะร่างสูงนั้นเดินจากไป คำพูดของยองแจที่อยู่ข้างๆก็ดันมาเข้าหูในจังหวะที่พอดิบพอดี

     

    “..ฮ่ะ?”

     

    “สิ่งที่ยูคยอมทำกับมึงมันเป็นเรื่องปกติโว้ย ก็เหมือนกูทำกับมึงนั้นแหละ!

     

    “...”

     

    “วันนั้นที่เขาตอบแชทมึง เพราะมึงถามเขาเรื่องการบ้าน และที่มึงไม่ถามกู เพราะกูลืมสมุดจดการบ้านไว้โรงเรียน!

     

    “...”

     

     “เขาสอนมึงเล่นบาส เพราะไม่อยากให้มึงติด ร. วิชาพละคนเดียวในห้องเพราะมันรู้สึกแย่ และที่มึงไม่ให้กูสอนเพราะกูไม่ใช่นักกีฬา!

     

    “...”

     

    “เขาติวเลขให้มึง เพราะมึงทำอังกฤษให้เขา และที่มึงไม่ถามกู เพราะกูไม่ถนัดเลขแต่กูถนัดวิทย์!

     

    “...”

     

    “เขาคุยกับมึง เขาเล่นกับมึง เพราะมึงกับเขา เป็นเพื่อนกัน! เป็นเพื่อนกัน เหมือนกู-กับ-มึง!” ยองแจตะคอกด้วยความโมโห และถ้าสังเกตให้ดี ที่ดวงตาเล็กๆนั้นเริ่มมีน้ำใสๆคลอๆ พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ

     

    “...”

     

    “และไอ้เรื่องคู่จิ้นมึงกับเขาในห้อง ก็มีกูไม่ใช่เหรอที่สร้างกระแสให้!” ใบหน้าแดงก่ำ ร่างสูงกว่าบังคับตัวเองไม่ให้อีกฝ่ายเห็นน้ำตา

     

    “...”

     

     

     

    “ในชีวิตจริง มึงกับเขาไม่ได้เป็นเหี้ยอะไรกันเลย!

     

     

     

    “พอสักที!!!!” ร่างบางตวาดลั่น เล่นเอานักเรียนที่เดินผ่านไปมาต้องมองตามด้วยความตกใจเช่นเดียวกับยองแจ ร่างสูงกว่าเม้มปากแน่นก่อนจะก้มมองพื้นอย่างยอมแพ้ ... หลังจากที่ยองแจปล่อยให้แบมแบมยืนร้องไห้คนเดียวไปสองสามนาที เขาก็ค่อยๆเอื้อมจับไหล่บางที่สั่นกระเพื่อมไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่แบมแบมจะปล่อยโฮออกมาเฮือกใหญ่อีกรอบ

     

    “แบม.. กูขอโทษ ขอโทษนะ... มึงร้องเลย มึงร้องให้พอ” มือขาวๆของยองแจโอบแผ่นหลังเล็กแล้วปลอบประโลม แบมแบมร้องไห้หนักก่อนจะกอดตอบอีกคน “ฮือ...ยะ..ยองแจ ฮึก ฮือ...”

     

    “กูรู้ กูเข้าใจความรู้สึกมึงนะ.. ว่า...” ยองแจหยุดพูดไปชั่ววินาที เขายกยิ้มบางๆที่มุมปาก แต่ในสายตากลับมีแต่ความว่างเปล่าก่อนที่หยาดน้ำตาใสที่อักอันเอาไว้เมื่อครู่จะพลั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ร่างสูงเอ่ยต่อเสียงกระสั่น

     

     

    “การ แอบรักเพื่อน มันรู้สึกยังไง” ร่างสูงกว่าเล็กน้อยเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น...

     

     

    เขาเจ็บปวดที่ เห็น เพื่อนตัวเองเจ็บปวด

    แต่แย่หน่อยตรงที่เขา ... คิดเกินเลยไปมากกว่าคำว่า เพื่อน

     
     

     

                โรงยิม

                “ไอ้หมี ไมเพิ่งมาโรงเรียนวะ ตื่นสายอีกแล้วใช่มั้ย” พี่ชายส่วนสูงน้อยปากดีกำลังยิงลูกบาสในมืออกไปบนห่วง หลังจากที่เห็นผมเดินยิ้มเข้ามาในโรงยิม

     

                “อืมป่าวครับ ~ แต่ว่าช่วงนี้ผมอาจจะเข้ามาโรงยิมช้าหน่อยนะฮยอง” ผมยิ้มกว้างแล้วก้มหัวน้อยๆทักทายรุ่นพี่ในทีมที่กำลังเช็ดลูกบาส ทำความสะอาดพื้น

               

    “ทำไมละ” ท่านกัปตันเจบีละใบหน้าหล่อออกจากสมุดโน้ตเล่มประจำของตัวเองก่อนจะเหลือบตามองผมด้วยสีหน้าสงสัย

               

    “คือผมไปกินข้าวเช้าเป็นเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งนะครับ” ยูคยอมตอบกลับตรงๆก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าบนสแตน

               

    “เห่ย ไปกินข้าวกับนูนาคนไหนบอกกูมาเลยนะไอ้หมี จะได้ไปบอกให้ไอ้มัคคึมันตัดใจซะ” พี่แจ็คสันเลี้ยงลูกบาสมาหาก่อนจะเด้งบาสใส่หลังผมอย่างหาเรื่อง

               

    ปกติผมควรจะโกรธ แต่ดูเหมือนวันนี้ไม่มีอะไรทำให้ผมอารมณ์เสียได้เลย ~

               

    “เชิญตามสบายเลยครับคุณพี่หวัง” ผมก้มลงหยิบลูกบาสที่กระแทกหลังผมเมื่อครู่ไปถูทำความสะอาดกับพี่นิชคุณ

               

                อิม แจบอม ยืนนิ่งหลังจากได้ยินคำพูดของแจ็คสัน เขาหันไปมอง คิม ยูคยอม ด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม สายตาที่เดิมไม่แข็งกระด้าง สายตาที่เดิมไม่มีความอ่อนแอ และสายตาที่มีแต่ความเป็นผู้นำ ตอนนี้กลับกันไปหมด จนดูเหมือนคนละคน และถ้าสังเกตุให้ดีๆ จะมีไฟลุกโชนในดวงตาเล็กๆเสมือนเขากำลังลงแข่งในสนามใหญ่ แต่ผิดกัน...สายตานี้มันดันเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังมองรุ่นน้องร่างสูงโปร่ง แจบอมกำสมุดโน้ตแน่น

    หลังจากตั้งสติได้ไม่กี่วินาที เขาก็ส่ายหัวไปมากับความคิดเมื่อครู่

    ไม่เอาน่า แจบอม..

               

                กัปตันของทีมก้าวขายาวๆไปกลางสนามก่อนจะเก็บสมุดโน้ตม้วนใส่กระเป๋ากางเกง แล้วหยิบลูกบาสเลี้ยงไปมากลบอาการผิดปกติเพื่อไม่ให้ใครจับได้  เขาชู้ตลงห่วงเพื่อซ้อมต่อก่อนจะไปเข้าแถว ทำเหมือนตัวเองไม่ได้ยินอะไร ไม่ได้คิดอะไร ทั้งๆที่ในใจกำลัง ร้องไห้...


     

     

                “อรุณสวัสดิ์..ยูคยอม” เพื่อนแก้มป่อง ตาโต ตัวบางอ้อนแอ้นเอ่ยทักผมขณะที่ผมสะพายเป้เข้าห้องเรียน

     

                “ดีคร้าบบบ คุณแบมแบม” ผมยิ้มกว้างให้แบมอย่างอารมณ์ดีก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเรียนเยื้องๆมัน ว่าแต่ทำไมวันนี้ยองแจดูเงียบๆแปลกๆนะ ดูๆ ดูมันมองจิกผมอีกด้วย นี่ผมไปเหยียบเล็บขบพ่อมันเหรอ เฮอะ..เอาเถอะ ผมก็ไม่ค่อยอยากรู้สักเท่าไหร่ว่ามันเป็นห่าอะไร

     

                อ้อ ผมกับยองแจไม่ค่อยถูกกัน แต่ก็อยู่กลุ่มเดียวกันตลอดเวลาทำงาน อาจจะเป็นเพราะมันเป็นเพื่อนสนิทแบม แล้วผมเองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนในห้องซะด้วยสิ

                ไม่ๆ ต้องพูดว่า มีแต่คนแย่งผมเข้ากลุ่ม แต่คงมีแบมคนเดียวที่ผมไว้ใจที่สุดในห้องละมั้ง

     

                “นายกินข้าวเช้ามายัง” แบมถามผม ก่อนจะยืนแซนด์วิชมาให้ เหมือนทุกๆวัน

                ทุกวันครับ ทุกวันเลยจริงๆ แบมแบมมันจะมีข้าวมาให้ผม คือผมเกรงใจมันนะ กลัวไม่รับไว้จะเสียน้ำใจ และปกติผมก็ตื่นสายกินข้าวเช้าไม่ทัน . ..แต่วันนี้ผมกินกับพี่มาร์คไปแล้วน่ะสิ

     

                “เอ่อ” ผมยิ้มแห้งๆให้มัน มันคงรู้แหละว่าผมกินมาแล้ว แซนด์วิชในมือถูกหยิบไปโดยยองแจที่นั่งหน้าเป็นตูดตั้งแต่เมื่อกี้

     

    “กูยังไม่กินวะ ไอ้ยูคคงกินมาแล้วละ ขอนะ” ยองแจยักคิ้วให้ผมเพื่อขอแซนด์วิชชิ้นนั้น แม่งกวนตีนแต่เช้าเลยนะมึง

     

    “อืม” ผมขึ้นเสียงอย่างเซ็งๆ ยองแจมันยักไหล่ใส่ผม แบมมองหน้าผมสลับยองแจไปมา ก่อนจะยกอาหารเช้านั้นให้ยองแจแต่โดยดี “อ้อ ลืมไปวันนี้ฉันเห็นนายไปโรงอาหารแต่เช้ากับพี่มาร์ค”

               

                “อือ ใช่ ทำไมเหรอ” ผมตอบปัดๆ ก่อนจะหยิบสมุดการบ้านขึ้นมาทำต่อ เพราะเมื่อวานมีแขกมาร้านเยอะ เลยมัวแต่ช่วยแม่เก็บร้านจนดึกดื่น และเมื่อวานมีคนสวยมานั่งที่ร้าน เล่นเอาผมเอากลับไปนอนฝันทั้งคืนเลยครับ~

     

                “พวกนายดูเหมือนไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้องกันธรรมดา” ไอ้ตัวเล็กพูดเสียงสั่น ทำเอาผมต้องหยุดเขียนอัตโนมัติ

     

    ความจริงผมเพิ่งรู้ว่ามันชอบผมได้ไม่กี่วัน แต่ผมไม่รู้จะตอบมันยังไง

    ผมไม่อยากเสียเพื่อน และผมก็ไม่อยากปิดพวกมัน เรื่องผมกับพี่มาร์ค

     

                “คือ” ผมกำลังคิดหาข้ออ้างล้านแปด ยองแจมันมองจิกผมอีกแล้ว ส่วนแบมแบมก็ตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ ...ทำไงดี

     

              “อ้าวๆมัวแต่คุยกันอยู่นั้นแหละ เอาหนังสือขึ้นมาได้แล้ว” คุณครูโผล่หน้าเข้ามาในชั้นเรียนตรงจังหวะ และช่วยชีวิตผมไว้ได้ เด็กทุกคนในห้องต้องหันไปเตรียมหนังสือขึ้นมาเรียน ผมเลยตีเนียนหันหน้ากลับมาแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาทันที

                กูขอโทษวะแบม


     

     
     

                ห้อง ม.6/4 พักเที่ยง

                “เดี๋ยวๆ! มึงว่าไงนะ” แจ็คสันโวยวายหลังจากที่มาร์คเพิ่งบอกเรื่องที่คุยกับรุ่นน้องร่างสูงตอนเช้า

     

                “ฮึ้ยๆ เงียบๆหน่อยดิแจ็ค” ร่างบางเอานิ้วชี้ทาบริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองเพื่อนในห้องที่กินข้าวกล่องอย่างสนุกสนาน

     

                “เออ กูขอโทษๆ สรุปคือ ไอ้หมีมันบอกชอบมึง”

     

                “อื้อ”

     

                “แล้วมึงก็ชอบมัน”

     

                “อื้อ” หน้าหวานเริ่มขึ้นสี

     

                “แล้วนูนาที่มันจะไปกินข้าวเช้าด้วยทุกวันก็คือมึง??”

     

                “อื้อ นูนาไรละ น้องยูคต้องเรียกเค้าว่า ฮยองต่างหาก~” มาร์คยิ้มแก้เขินเผยให้เห็นเขี้ยวขาวๆที่มีเสน่ห์

     

                “มึงรู้ป่ะ ว่า มึงเป็นใคร แล้วมึงรู้ป่ะ ว่า ไอ้หมีเป็นใคร” แจ็คสันยังคงไม่หยุดโวยวายแถมยังลุกขึ้นมองหน้ามาร์คอย่างไม่เชื่อสายตา

               

                “รู้อะไร เค้าเป็นใคร เค้าก็คือมาร์คไง ส่วนน้องยูค ก็คือน้องยูค~~ ❤❤” มาร์คต้วนยังคงไม่หยุดเขินเวลาพูดถึงรุ่นน้องหน้าหล่อสูงยาวเข่าดีแถมยังมีดีกรีเป็นนักกีฬา

     

                “พวกมึงทั้งคู่คือบุคคลที่ฮ็อทที่สุดในโรงเรียนเลยนะเว้ยยยย วู้ววววว!!!” เพื่อนตัวเตี้ยแหกปากลั่น

     

                “บ้า ไม่ขนาดนั้น..” หน้าหวานขึ้นสีจัด พูดถ่อมตัวก่อนจะกินข้าวต่อไม่สนใจเพื่อน ที่ดีใจแทนตัวเองเป็นบ้าเป็นหลัง

     

                “มึง ! ประเด็นนี่พาดหัวข่าว Top Secret หนังสือพิมพ์โรงเรียนชัวร์! มึงเตรียมรับมือสาววายด้วย มึงอยู่ไม่เป็นสุขแล้วละเพื่อนเอ๋ย” แจ็คสันหัวเราะเสียงดังเป็นจังหวะเดียวกับที่จินยองเดินเข้ามาในห้อง

     

                “คุยไรกันอยู่วะ” หนุ่มตาตี๋หน้าหวานสายเคะนั่งลงข้างๆมาร์คที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เป็นอันกิน แจ็คสันเห็นจินยองหน้าเครียดๆเลยสะกิดมาร์คให้ตื่นจากภวังค์ “ฮ่ะๆๆ?”

     

                “กูถามว่า พวก-มึง-คุย-ไร-กัน-อยู่” จินยองพูดเน้นเสียงเน้นคำด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง ทำเอาอีกสองคนต้องมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย มาร์คใช้เท้าเขี้ยต้นขาแจ็คสันที่ยืนอยู่ ให้พูดอะไรสักอย่าง

     

                “ละแล้วนี่มึงไปโกรธใครมาวะสัด” แจ็คพูดติดขัดเพราะกลัวรังสีอำมหิตของออมม่าประจำกลุ่ม จินยองมองหน้าอีกคนด้วยสายตาคับแค้น ก่อนจะกัดฟันพูด “รุ่นน้องมึงเลยไอ้เหี้ย ตัวดี!

     

                “ใครวะ..รุ่นน้องกูคนไหน ทำไม??” มาร์คมองหน้าเพื่อนสองคนสลับไปมา เขากลัวเหลือเกินว่าไอ้สองตัวนี้มันจะตีกันอีก จินยองชำเลืองมองมาร์คเหมือนกำลังคิดว่าควรจะพูดออกไปมั้ย

     

                “...มาร์ค กูขอไรอย่าง ถ้ามึงจะมีแฟน รึใครสักคนที่มึงอยากฝากหัวใจไว้อะ”

     

                “หื้อ?”

     

                “ยกเว้นคิมยูคยอมได้มั้ยวะ!?

     
     

    - To Be Continued -





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×