ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] SUGAR

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 04

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 58


     
     
     
     
     
     
     

                ร้านกาแฟสไตล์วินเทจเล็กๆ แต่มีพลังดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวบริเวณย่านนั้นเป็นอย่างดี รูปหมีสีน้ำตาลกอดก้อนน้ำตาลใต้ LOGO ร้าน ฟรอนต์น่ารักๆ ‘ SUGAR CAFÉ ’ กำลังเปิดให้บริการสำหรับผู้ทีต้องการ กาแฟสักแก้ว เค้กสักชิ้น หรือจะพาสต้าอิตาเลี่ยนสักจาน ร้านนี้ถือได้ว่ายกจากอิตาลี่มาตั้งที่เกาหลีเลยก็ว่าได้

     

                “ถึงแล้วครับ ^ ^” ยูคยอมปล่อยมืออีกคนก่อนจะเปิดประตูร้านและผายมือให้คนตัวเล็ก “เชิญครับคุณหนู” มาร์คได้ฟังงี้หูก็แดงผึงน่ะสิ เจ้าหมีบ้านี้ชอบทำอะไรแผลงๆให้เค้าคิดไปเองคนเดียวอยู่เสมอเลย

                “นายจะทำแบบนี้ทำไมฮะ ยูคยอม” คนตัวเล็กหันไปกระซิบร่างสูงเพราะในร้านก็มีลูกค้าบางส่วนที่หันมาให้ความสนใจกับเขาทั้งสองคน ยูคยอมลักยิ้มก่อนจะตอบกลับ

                “ถ้าลูกเจ้าของร้านนี้น่ารัก อย่าลืมขอแต่งงานละ” ว่าแล้วก็แลบลิ้นให้อย่างหยอกๆ

                “ก็พูดเล่นป่ะ” ร่างบางยังพูดไม่จบประโยค น้องหมีตัวโตก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้มาร์คต้วนต้องอึ้งไปหลายวินาที

     

                “แม่ ครับ ผมกลับมาแล้ว~

     

                ….

     

                ……

     

                ……..

     

     

                “อ้าวนึกว่าใคร บอกแล้วใช่มั้ยไม่ให้ไปเรียน ดูซิ ขาเขอนี้บวมขึ้นใช่มั้ย ไอ้ดื้อนี่” ผู้เป็นแม่เดินออกมาจากเคาท์เตอร์ก่อนจะตีแขนแกร่งของลูกชายเบาๆ

     

                ตอนนี้มาร์ค เงิบแดก ใบ้แดก เงียบแดก สตั๊นแดก เอฟวรี่ติงแดกไปหมดแล้วครับ

                “ถ้าลูกเจ้าของร้านนี้น่ารัก อย่าลืมขอแต่งงานละ”

                นี่นายเองเหรอ ยูคยอม !!?

     

    “แม่อ่า ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนี่ครับ เอ่อ นี่..รุ่นพี่ผม พี่มาร์คครับ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้างให้แม่ รอยยิ้มที่แม่ยิ้มให้มาร์คนั้นก็ดูอบอุ่นเหมือนยูคยอมยิ้มให้เขาจริงๆ

                “สะสวัสดีครับ คุณแม่!” คนตัวเล็กดูตื่นเต้นกับแม่ของรุ่นน้องที่ตนแอบปลื้มมานานนม จนต้องลุกขึ้นโค้งคำนับ แล้วดันเผลอเรียกแม่อีกคนมาอย่างเต็มปากเต็มคำว่า คุณแม่

                กะฝากตัวเลยรึเนี้ย คุณต้วน ??

     

                “ไม่ต้องโค้งขนาดนี้ก็ได้ลูกๆ นั่งก่อนๆ จะทานอะไรเดี๋ยวแม่ไปเอามาให้เสิร์ฟนะจ๊ะ”

                “ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมดูแลเอง แม่ไปรับออเดอร์ลูกค้าฝั่งนู้นดีกว่า พวกเขาพึ่งตามหลังผมเข้ามาได้ไม่นานแหน่ะ” เด็กหนุ่มชี้ไปที่โต๊ะข้างๆที่กำลังดูเมนูอยู่

                “โอ๊ะ ตายจริง งั้นแม่ฝากเพื่อนหนูด้วยนะยูค” หญิงวัยทำงานเอ่ยก่อนจะเดินไปรับออเดอร์ลูกค้า

                ยูคยอมมองแม่ก่อนจะหันกลับมามองคนตัวเล็กที่ทำตัวไม่ถูก ก็ไอ้ที่พูดตอนเดินมาด้วยกันเมื้อกี้นี่มันเข้ายูคยอมจังๆเลยนี่หว่า

                “พี่มาร์คครับ พี่มาร์ค เฮ้” มือเรียวจิ้มแขนร่างบางแล้วยิ้มให้ ร่างสูงยักคิ้วก่อนจะเอ่ย “ชีสเค้กแบบอเมริกัน กับ มาการองไส้คาราเมลนะครับ?

                ทำไมเด็กนี้ถึงจำเมนูโปรดของผมได้

                “อะ อื้อ..” ร่างบางนั่งลงพร้อมกับเบือนหน้าหนี .. ตอนนี้หน้าเค้าคงแดงก่ำไม่แพ้แย้มสตอเบอรี่ที่อยู่บนโต๊ะนี้แน่ๆ

                “งั้นรอแปปนึงนะครับ ฮยอง” คนตัวสูงอดหมั้นเขี้ยวไม่ได้ มือหนาๆเอื้อมหยิกแก้มคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะวิ่งมาในครัว

                ยูคยอมเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์  นี่นายคิดยังไงกับพี่กันแน่นะ

               

                ร่างบางนั่งอยู่โต๊ะคนเดียวได้แต่ทบทวนเรื่องราววนไปวนมาที่เขาและน้องหมีตัวแสบได้คุยกันระหว่างทาง

               

    .

     

               

    “อ่าได้ครับ งั้น เอาเป็นร้านที่พี่กินเมื่อวานเป็นไง?

              “อื้อๆๆ ไปๆๆ ฉันชอบมากเลย เค้กอร่อย มาการองก็ไม่หวานจนเกินไป อยากเห็นหน้าคนทำจริงๆ ว่าจะสวยขนาดไหน นี่ถ้ามีลูกสาวว่าจะขอแต่งงานเลยแหละ อยากได้กุ๊กส่วนตัว~ ทำของอร่อยๆให้กินทั้งวัน ฮ่ะๆๆๆ”

              “หือขอแต่งงานเลยอ่อ ?”

     

    .

     

     

              ยูคยอมบ้า!! บ้าๆๆๆ บ้าที่สุดเลย งื้อออออออ T//////////////////T !!

                คนตัวเล็กส่ายหัวไปมากับห้วงความคิด คำพูดของตัวเอง หน้านิ่วคิ้วขมวด เขาไม่เคยกระวนกระวายใจขนาดนี้มาก่อน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อไปต้องทำตัวยังไง เขาไม่อยากรู้เลยว่ายูคยอมกำลังคิดอะไรอยู่

                มันปั่นป่วนไปหมดเลย ให้ตายสิ!

     
     

                “คิดไรอยู่อะป่าวครับพี่ หน้าดูเครียดๆนะ” ร่างสูงที่ยืนคร่อมหัวอยู่มาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เล่นเอาคนตัวเล็กสะดุ้งออกจากภวังค์ “ปะเปล่า”

                “ฮ่ะๆๆขอโทษที่ทำให้รอครับ อเมริกันชีสเค้ก มาการองไส้คาราเมล และฮ็อทช็อคโกแล็ต” มือเรียววางเสิร์ฟอย่างชำนาญ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามอีกคน

                ร่างบางมองขนมตาค้างก่อนจะมองหน้ายูคยอมสลับไปมา

               

    “เป็นไรอะพี่”

                “ปะเปล่านี่”

     

                “เลือกไม่ถูกอ่อ??”

                “หือ?”

     

                “เลือกไม่ถูกเหรอครับ ว่าจะกินขนม หรือ ผม :P” ได้โอกาสก็แกล้งไม่หยุดเลยเจ้าหมีตัวนี่นี้

                “พะพูดอะไรของนาย!” มือเล็กหยิบแก้วสีฟ้าลายน่ารักขึ้นมาดื่มแก้เขิน ร่างสูงอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มกับท่าทีของคนน่ารักตรงหน้าเขา

               

    “อร่อยมั้ยครับ? ” ยูคยอมมองริมฝีปากบางของมาร์คไม่กระพริบ ฟองนมติดรอบขอบริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงเชอร์รี่นั้น น่าหลงใหลเสียจริง

                “อะ….อร่อยดิ” คนตัวเล็กตอบกลับหน้าแดง

                “ J

     

                เมื่อความเงียบเข้าครอบงำทั้งคู่ ไม่มีใครเอ่ยปาก มีแต่สายตาที่ส่งให้กันกลับไปกลับมาเท่านั้น มาร์คเริ่มรู้สึกอึดอัดจึงหาเรื่องพูด

     

    แม่นายชงอร่อยดีนะ” หาเรื่องพูดได้ก็จริงแต่ก็ยังไม่กล้ามองหน้าร่างสูงอยู่ดี ยูคยอมยิ้มตาหยีก่อนจะแค่นหัวเราะเบาๆ

     

                “แก้วนั้นอะ ผมชงให้พี่เอง”

               

    …!?

     

                “บ้านเนี้ย ไม่มีลูกสาว มีแต่ลูกชาย น่ารักไม่ค่อยมาก แต่ทำอาหารเป็น เล่นกีฬาก็เก่ง..

                “

     

                ยังอยากแต่งงานด้วยอยู่รึเปล่าครับ ? J          

               

                แค่ก!!!!

                มาร์คถึงกับสำลักคำพูดของคนตัวสูงออกมา

     

    “นะ….นี้เล่นอะไรของนายฮะ เจ้าหมียักษ์!!” ตอบปัดหน้าแดงๆก่อนจะรีบหยิบทิชชู่มาปิดใบหน้าโดยทำทีว่าเช็ดปาก

               

    ร้อนร้อนเกินไปแล้ว

                ไม่ใช่ฮ็อทช็อคโกแลตนะครับหน้าผมนี่แหละ T////////////////////T

     

                “อะไรครับ? ผมก็ถามพี่เฉยๆ ก็พี่พูดก่อนมาถึงร้านไม่ใช่อ่อ??” ยูคยอมหัวเราะอย่างขี้เล่น ก่อนจะจ้องหน้าอีกคนที่ดูเหมือนจะไม่เล่นด้วยเลยสักนิด

                ร่างบางเผยสีหน้าเจ็บปวด ที่แท้ยูคยอมก็ไม่ได้รู้สึกแบบเขาเลยสักนิดเดียว เรื่องวันนี้คงเป็นเพราะนิสัยขี้เล่น ขี้อ่อน มนุษยสัมพันธ์ดีจนทำให้มาร์คเป็นฝ่ายคิดไปเองสินะ ?

                “พี่แค่พูดเล่น” มาร์ควางกระดาษทิชชู่ไว้บนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วหยิบเงินจำนวนหนึ่งวางไว้ “พี่ลืมไปว่าวันนี้มีธุระต่อ ไปก่อนนะ”

                “ฮะ...จะไปเลยเหรอครับ พี่ยังไม่ได้ชิมชีสเค้กกับมาการองเลยนะ” ร่างสูงลุกขึ้นจับแขนอีกคน

                นายอย่าทำให้พี่รู้สึกไปมากกว่านี้ได้มั้ยยูคยอม

     

                “งั้นก็ไปห่อให้พี่สิ พี่จะกลับแล้วครับ” ร่างบางตอบกลับไม่มองหน้าอีกฝ่าย ยูคยอมพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือแล้วถือชีสเค้กกับมาการองไปใส่ถุงที่เคาท์เตอร์

                มาร์คยืนก้มหน้า พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เขาค่อยๆมองออกไปนอกหน้าต่างร้านที่มีคู่รักมานั่งอยู่ ต่างคนต่างป้อนเค้กให้กันและกัน ช่างเป็นภาพที่น่าอิจฉาเหลือเกิน

                แค่เขาไม่ชอบเราก็เจ็บมากแล้ว ... จะไปคิดเพ้อฝันแบบนั้นให้มันได้อะไรละ ว่ามั้ย ?   

     

              “นี่ครับฮยอง” หลังจากยืนนิ่งได้สักครู่ ร่างสูงก็โผล่มาพร้อมถุงกระดาษน่ารักๆโลโก้ร้านที่เขียนเอง ยูคยอมยื่นให้อีกฝ่ายก่อนจะเอ่ย “พี่ต้องทานให้หมดนะครับ J

                ร่างบางไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะเดินออกมาจากร้าน โดยมีคิมยูคยอมเดินมาส่ง


              เพื่ออะไร ?

     

     

              “พี่ต้องกลับมาร้านนี้อีกนะครับ!” ร่างสูงตะโกนเมื่อมาร์คเดินมาไกลได้ระยะหนึ่ง ร่างบางหันหน้าไปหา แล้วก็หันกลับมา เขายิ้มให้ตัวเอง ก่อนหยดน้ำตาจะไหลอาบข้างแก้มใส

                พี่เจ็บวะ คิมยูคยอม..

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

    .

     

    .

    .

     

                ผมกลับมาถึงบ้านด้วยสภาพตาเปียกตาแฉะ โชคดีที่พ่อยังไม่กลับ ผมไขกุญแจประตูบ้านบานใหญ่ ก่อนจะล็อคไว้อย่างเดิม ขาที่ไร้เรี่ยวแรงของผมค่อยๆพยุงตัวเองมาที่ห้องรับแขก โซฟาสีแดงหนานุ่มที่นั่งประจำของผม ผมวางถุงกระดาษนั้น ก่อนจะจ้องมันสักพัก แล้วน้ำตาก็ไหลมาอีกระรอบ

                “เฮ้อ ผมพยายามไม่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับยูคยอม ทั้งแชทไลน์ ทั้งเรื่องที่ห้องพยาบาล เรื่องซ้อมบาสให้ และก็เรื่องที่ร้านกาแฟ

                อยากจะบ้าตาย..



     

                ผมเสียเวลาอยู่กับคนเดียวไปนานสองนาน ในที่สุดผมก็ตั้งสติได้ ต่อให้ผมมานั่งคิดบ้าคิดบออยู่อย่างนี้ น้องยูคก็คงไม่ชอบผมอยู่ดี

                เขาคนนั้นเป็นถึงนักกีฬาประจำโรงเรียน แทบไม่มีใครไม่รู้จัก นิสัยที่เฟรนด์ลี่ ดูเข้าได้กับทุกคน ไหนจะพรสวรรค์ด้านกีฬาที่แสนโดดเด่นนั้นอีกละ ภายนอกของเขาช่างเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบจริงๆ...แต่ภายในของเขาไม่มีใครได้รู้เลย รวมถึงผมเอง ผมไม่รู้ว่าผมไปชอบเขาได้ยังไงนะ ไม่รู้จริงๆรู้อีกทีก็อยากคุยด้วยทุกวัน ผมต้องเป็นฝ่ายทักไปตลอด ลองไม่ทักไปก่อน เขาก็ไม่ทักก่อนอยู่ดี

                นี่แหละข้อเสียของคนแอบชอบคนอื่น ต้องมารอ ต้องมางอน ต้องมานอยด์ โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจอะไรเลย

               

                จ๊อก..จ๊อก

                เสียงปริศนาที่ดังมาจากท้องของผม นี่มันจะสองทุ่มละ ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หน่า พลันสายตาก็ดันไปมองถุงขนมที่วางอยู่บนโต๊ะนั้น

                เออ ผมซื้อมาเอง ผมจ่ายตังค์เอง ผมกินเองมันจะเป็นอะไร..

                ผมแกะถุงนั้นออกก่อนจะหยิบชีสเค้กขึ้นมากินด้วยความหิว ฮือ..ทำไมอร่อยอย่างนี้

     

                ยูคยอมทำเองรึเปล่านะ?

     

              ไม่!  ไม่ๆ ผมจะไปนึกถึงเขาไม่ได้! ไอ้เด็กนิสัยไม่ดี ไอ้หมีใจร้าย

     

                หลังจากที่ผมยัดเค้กลงกระเพาะ มาการองชิ้นใหญ่ที่นอนแผ่ออกอยู่ในกล่องพร้อมให้ผมได้ลิ้มรส ผมคว้ามันออกมาจากกล่องก่อนจะกัดลงไปเต็มคำและเคี้ยวด้วยความรู้สึกน้อยอกน้อยใจกับลูกชายเจ้าของร้าน

                แต่ผมว่ามารองชิ้นนี้รสชาติแปลกๆ เหมือนมันมีบางอย่างปะปนอยูในไส้

                ผมค่อยๆเปิดฝามาการองที่เหลืออยู่

               

                เฮ้ย

     

                มันมีกระดาษแผ่นเล็กๆสอดอยู่ใต้แผ่นฝามาการองด้านบน รอยขาดเล็กๆ คงเป็นเพราะคำเมื่อกี้แน่เลย ตาย ผมกลืนมันลงกระเพาะไปแล้ว โอ้ย นี่ผมกินกระดาษเข้าไปได้อย่างไร นี่มันวันซวยเหรอฮะ สอบบาสไม่ผ่าน ไหนจะความรู้สึกดีๆที่เสียไปกับไอ้เด็กหมียักษ์ แล้วดันมากินกระดาษนี่อีก เออเอาเข้าไปชีวิต เอาเข้าไป!
     

                ช่างมันเถอะ นั้นไม่ใช่ประเด็น -__-

                ผมรีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาก่อนจะเหลือกตากว้าง ลายมือน่ารักๆ และคำที่เขียนอยู่บนกระดาษมันทำให้ผมอึ้งไปหลายนาที หยาดน้ำตาใสไหลอาบแก้มผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เพราะผมฉีกยิ้มจนจะถึงหูพร้อมกับใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

     

     

     

     










     

     


     

     

     

     

                ผมชอบพี่นะ J  ’                      

     


     

                                                                          - To Be Continued -       

           
     

    Talk

    ยิ้มอยู่รึเปล่าค่ะ (?) 5555

    ติดตามกันต่อไปงับ  ^ ^

    คอมเม้นได้ไม่ว่ากัน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะเตง


     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×