ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] SUGAR

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 03

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 58






     
     
     
     

                “ฮยอง ถามไรหน่อยดิ๊” เช้าวันต่อมา ผมก็เดินขาลากมาโรงเรียน นี่ดื้อด้านกับแม่มากเลยนะครับกว่าจะขอออกมาโรงเรียนได้ เฮ้อ...

                “ไรว่ะ” พี่เตี้ยยังคงยัดข้าวเช้าที่เพิ่งสั่งมาจากโรงอาหารลงกระเพาะโดยไม่มองหน้าผมแม้แต่น้อย นั้นไง แถมยังกระดกน้ำขวดแบบไม่เก่งใจผมเลย มูมมามชิบหาย

                “พี่มาร์ค..เคยพูดอะไรเกี่ยวกับผมมั้งป่ะ” ทันทีที่สิ้นประโยคของผม น้ำใสๆก็พุ่งออกมาจากปากของ แจ็คสัน หวัง

               

                พรู้ดดดดด!!!

     

                “เฮ้ยยยยยยย! ใจเย็นดิพี่” ผมพูดพร้อมดันไหล่แกร่งนั้นออกไปอัตโนมัติ

                “แค่กๆๆๆ แกว่าไงนะ” พี่แจ็คปิดฝาขวดน้ำก่อนจะมองมาทางผมแล้วระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น

                “คือ ผมพูดว่า พี่มาร์ค..เคยพูดอะไรเกี่ยวกับผมมั้งป่ะแค่เนี้ย ถึงขนาดอ้วกแตกเลยเหรอว่ะครับ” ผมพูดอย่างหัวเสีย ก่อนจะขยับหนีอีพี่โสโครกนี่ 2 คืบ

                “นี่มึงโง่ หรือมึงโง่เนี้ยยยยยยย กร๊ากกก ฮ่ะๆๆๆ” อีพี่แจ็คมันยังขำไม่หยุด

                “ผมมีตัวเลือกระหว่าง โง่ กับ โง่ ด้วยเหรอ - -”

                “ไอ้เชี้ยเอ๊ยย ไอ้หมีกินน้ำผึ้ง ไอ้หมีสแลมดังค์ ไอ้น้องยูคใสซื่อบื้อ กูจะบอกอะไรให้นะครับ คนเราที่ชอบกันอะ มันไม่มีทางไม่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบแน่นอน” พี่แจ็คหยิบทิชชู่ในกระเป๋าเช็ดโต๊ะไปพลางๆ

                “ยังไงวะ พี่ก็บอกดิ พี่มาร์คเขาเคยพูดว่าไรมั้ง” ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัย

                “ก็ อืม...คิดแปป อ้อ! เออ! มึงจำวันที่แข่งกับ YG ได้ป่ะ วันที่มึงโชว์เทพดั๊งค์แป้นอะ”

                “อ่าฮะ แล้ว??”

                “วันนั้นมึงคุยไรกับเชี้ยมาร์คไปมั้งวะ กูจะได้เล่าถูก”

                “หืม...มันนานแล้วอะ จำไม่ค่อยได้วะพี่ ตั้งเดือนนึง พี่เอาไปอ่านเลยป่ะ” ผมล้วงหยิบไอโฟนในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยื่นให้พี่แจ็ค มือหนาเลื่อนดูประวัติสนทนาช้าๆก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ประโยคหนึ่ง

                “หืม... น้องยูคเล่นบาสเก่งจัง...วันหลังสอนพี่มั้งสิ พี่มีสอบบาส แต่สกิลกีฬาพี่ห่วยแตกมากเลยได้สิครับพี่ พี่ว่างวันไหนอะ~’ ถุ้ยยยยยยย มึงก็ไปให้ท่าเขาตั้งแต่วันแรกที่เพิ่งคุยกันเนี้ยนะ!? ” พี่เตี้ยเหลือกตาใส่ผม แถมทำหน้าไม่พอใจอย่างกับผมไปเหยียบเล็บขบพ่อตาตัวเอง

                “เห้ยๆๆ ให้ทงให้ท่าอะไรวะพี่ ผมก็ตอบสไตล์ผม” ผมตอบอย่างงงๆ

                “มึงนี่มัน Play Boy ซ่อนลึกดั่งจุดซ่อนเร้น ...” มุกห่าอะไรของพี่ว่ะครับ ..

                “ว่ากันงี้ได้ไงอะ ไหนจะบอกผม พี่มาร์คพูดว่าไงมั้งๆๆ” ผมมองหน้าพี่แจ็คอย่างออดอ้อน คนตัวโตถอนหายใจก่อนจะเล่า

                “ก็วันนั้น มันมาเพ้อให้กูฟัง ว่า แจ็ค~ น้องยูคจะสอนเค้าเล่นบาสด้วยอ่าาาาาาาา ตื่นเต้นจังเลยบลาๆๆๆ ” พี่เตี้ยเลียนเสียงพี่มาร์คเหมือนจนผมขนลุก

                “แค่นั้นเหรอฮะ?” 
     

                “มีเยอะตาแป๊ะขายขวดเลยเว้ย จะบอกความลับสุดยอดของมันให้ มันอะ แอบชอบมึงตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าละสัด”

     

                เหยด...

     

                “วันไหนวะพี่ แล้วพี่รู้เรื่องป่ะ แล้วไมพี่ไม่บอกผม แล้ว..”

                “เห้ยๆ ใจเย็น ลิ้นมึงจะพันกันแล้วไอ้หมี นี่ไงจะเล่าให้ฟัง คืองี้เว้ย มึงจำวันแรกที่มึงเข้าชมรมบาสได้ป่ะ ไอ้คนหัวแดงๆที่ยืนข้างกูตอนเลือกนักกีฬา ม.4 นั้นแหละมัน มันลืมย้อมผมกลับตอนปิดเทอมเลยเจอฝ่ายเรียกไปก็เลยจำใจย้อมกลับ เนียนซะเป็นสีน้ำตาลละบอกครูว่าสีผมธรรมชาติ เหมือนตอนนี้อะ สีน้ำตาลเข้มตอนนี้เลย กูว่าละไมมึงจำมันไม่ได้ เพราะมันเปลี่ยนทั้งสีผมทรงผม แถมแม่งดูแลตัวเองรักษาสิวฝ้าหน้ากระซะเนี๊ยบ เทอมสองมางี้กูนี่สตั๊นเลย ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ตั้งแต่ประถม นี่กูจีบจริงอะบอกเลย” มือหนาเขี้ยผักในจานเล่นไปมา

                “อ่อ...แล้วๆๆ นิสัยของพี่มาร์คอะพี่ เขาเป็นคนยังไงอะ” แจ็คสันเงียบไปสักพัก ก่อนจะมองซ้ายขวาดูต้นทางอะไรทำนองนั้นแล้วกระซิบข้างหูผม

                “มึง... มันเป็นผู้ชาย โลกสวย เอฟวรี่ติงจิงเกอเบลคือสิ่งสวยงามเสมอสำหรับต้วนอี้เอิน คือกูแม่งก็ไม่ค่อยเข้ากับมันได้หรอก อะไรแย่ๆแม่งก็ดีหมด แม่งดีเกินไป เทียบได้ก็พ่อพระเลยละมั้ง เออใช่! ไอ้ห่ามาร์คนี้ พูด-คำ-หยาบ-ไม่-เป็น นะครับ” ใบหน้าคมละออกจากใบหูขาว

                “พูดจริงดิ แบบ แม่ง เชี้ย วะ ไรงี้ไม่พูดเลยเหรอ 0_0” ผมเหลือกตาขึ้นอย่างไม่เชื่อ

                “เออ คือ มันก็พูดได้อะ แต่มันไม่พูดเว้ย..เอาจริงๆนะ มันเป็นคนที่เรียบร้อยมาก ตั้งแต่ที่รู้จักกับมันมา พี่เคยได้ยินมันด่าคนที่ว่ามันว่า อีตุ๊ดว่า ไอ้เหี้ย กูตุ๊ดพ่อมึงก็ตุ๊ดอะตอน ม.ต้น คือมันแม่งหน้าหวานอะมึง เก็ทป่ะ แล้วเสือกตัวบางอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง แต่อย่าไปหาเรื่องชกต่อยละกัน หมัดหนักยิ่งกว่ากูอีก..แม่งไม่รู้ชาร์จพลังงานไว้ส่วนไหนของร่างกาย เคยโดนต่อยทีนึง จำไม่ได้ละว่าตีกันเรื่องอะไร แต่ตอนนั้นมันโมโหจัดเลยเว้ย เลือดนี่กบปาก กูแม่งนอนไปกองกับพื้นเลยมึงคิดดู ”

                ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก...นี่บนโลกนี้ยังมีคนแรงเยอะกว่าแจ็คสัน หวังอีกเหรอ

                หลังจากที่พี่เขาเห็นสีหน้าผม พี่เขาก็รีบพูดขึ้นทันที

                “เออใช่ ...มึงอะ มึงอย่าทำให้มันโกรธเชียวละ แล้วก็ ห้าม-พูด-เรื่อง-แม่ กับมัน เด็ดขาด” แจ็คสันกดเสียงต่ำ

                “ทำไมวะพี่..”

                “คือ...แม่มันเสียตั้งแต่เล็กๆ... นั้นแหละ เหตุผลที่มันไม่ชอบพูดคำหยาบ เพราะแม่มันเป็นคนเรียบร้อยมากๆ มันเลยเก็บและทำตามคำสอนของแม่ที่สั่งเสียไว้ตอนสุดท้ายอะ เห็นพ่อมันเล่า อะไรทำนองนั้น” พี่แจ็คยักคิ้วให้ผม ก่อนจะเก็บจานให้เรียบร้อย

                “พี่นี่รู้เยอะเหมือนเป็นพยาธิในตัวพี่มาร์คเลยวะ” ผมพูดอึ้งๆ แถมยังทำหน้าตาเลือนลอยใส่ไอ้พี่หวังอีก

                “เอ้า ไอ้ห่า กูเล่าให้ฟังก็ด่ากูอีก ทีหลังกูไม่พูดละสัด งอน!”  

                “เห้ยยยย พี่แจ็คคค ผมล้อเล่น โอ๋เอ๋ๆๆๆ ดีกันนะ ดีกัน~” ผมยกนิ้วก้อยขอพี่เตี้ยขี้งอนนี่คืนดี อ้าวชะนีไม่ต้องมองครับ ไม่ใช่ผัวเมียกัน

                “ตอนเที่ยงมึงเลี้ยงข้าวกู”

                ไอ้ห่าเห็นแก่กิน ไอ้รุ่นพี่ขาสั้น...

     

                “ครับๆๆ คร้าบบบ ขอโต้ดคร้าบบ พี่หวังต้องเล่าให้น้องฟังบ่อยๆนะครับ ไม่กวนตีนแล้ววว” ผมยกมือไถ่โทษ ก่อนที่แจ็คสันหวังจะยิ้มอย่างมีชัย

     

                เออ ให้มันได้งี้ดิ - -




     





     

                Mark Part

                “คุณต้วน ทำไมถึงชู๊ตบาสอย่างนั้นละครับ! เลย์อัพคุณก็ทำไม่ได้ นี่มันท่าพื้นฐานเลยนะครับ!!” ครูสอนพละสำเนียงเกาหลีแปล่งๆ (เหมือนผม) ตำหนิกับท่าชู๊ตบาสที่แสนห่วยแตกของผม เป็นไงละคนทั้งยิมมองผมเลย แจ็คสันอยู่ไหนเนี้ย โดดอีกแล้วใช่มั้ย บอกให้สอนๆก็ไม่เคยแสดงตัว ...ไอ้เพื่อนบ้านี่

                “ขอโทษครับ ผมกำลังพยายาม!” ผมโค้งขอโทษอาจารย์แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ..

                “ถ้าคุณเลย์อัพไม่ได้ภายในอาทิตย์นี้ วิชาพละ คุณเอา 0 ไปได้เลย!!

                โอ้ยยยยย ไม่นะ ...

     

                ผมไม่มีคำพูดใดๆมาเถียงได้แต่ยื่นนิ่ง...ให้ผมเต้นโชว์แทนได้ป่ะ ตีลังกากลับหลังยังทำง่ายกว่าชู๊ตบาสบ้าๆนี่อีก! มาร์ค ต้วนจะร้องไห้ T__________T

                “เอาหน่า เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อน” ปาร์ค จินยอง หรือที่เพื่อนคนอื่นๆเรียก จูเนียร์ เพื่อนสนิทของผมตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะชู๊ตลูกบาสที่อยู่ในมือไปอย่างง่ายๆ

     

                สวบ!!

     

                “ทำไมแกทำได้อะ...ทำไมเราทำไม่ได้..” เสียงตาข่ายเมื่อกี้เล่นเอาขนผมลุก เข้าไปง่ายๆ ไม่โดนห่วงด้วย ฟลุ๊คใช่มั้ยฮะจินยอง

              “ฝึกบ่อยๆน่า คนเราไม่เหมือนกัน จะให้กูไปเต้นตีลังกาแบบมึงกูก็ทำไม่ได้ ถูกป่ะ” ว่าแล้วก็วิ่งไปเอาลูกบาสมายัดมือผม ...ผมรักมันก็วันนี้แหละ คำพูดซึ้งกระแทกใจ

                “เก่งแบบนี้ ไมไม่ลงชมรมบาสอะจินยอง”

                “เฮอะ ไม่เอา กลัวสาวกรี๊ดเยอะ” ว่าแล้วก็ดึงลูกบาสจากมือผมไปหน้าตาเฉยก่อนจะชู๊ตจากจุด 3 แต้ม เสียงดัง สวบ!

                จ้า พ่อหนุ่มหลงตัวเอง..

               

    “พอแล้ว ไม่เล่นแล้ว เบื่ออะ ไปดีกว่า” ผมถอนหายใจก่อนจะเดินออกมา

                “เดี๋ยวดิ แล้วใครจะสอนแกเลย์อัพว่ะ ตอนเย็นกูไม่ว่างนะเว้ย” จินยองวิ่งมาขว้างผม

                “แจ็คสันก็ได้ เดี๋ยวไปหามันตอนเย็น” ผมพูดเฉไฉไป จริงๆแทบไม่อยากแตะเลยด้วยซ้ำ ไอ้ลูกบาสเฮงซวยนี่

                “นักกีฬาประจำโรงเรียนจะมีเวลาให้แกขนาดนั้นเชียว? เอ๋...ไปหาตอนเย็นนี่ ไปหาแจ็คสัน หรือ ไปส่องใครน้า” จินยองหรี่ตาแขวะผม

                ผมเกลียดคนรู้ทัน

                “สะ..ส่องอะไร! อย่ามั่วดิ ก็ไปเล่นบาสนั้นแหละ ไหนบอกให้ฝึกบ่อยๆไง โถ่”

                “งั้นก็ฝึกตั้งแต่ตอนนี้นี่แหละ ม่ะ” จินยองลากผมไปใต้แป้น

                “ไม่เอา เค้าเบื่อ เค้าไม่เล่นแล้ว เหนื่อยอะ พักก่อน นี่ๆจะหมดคาบละอีก 10 นาที ไปเปลี่ยนกางเกงก่อนละ พอ” ผมสะบัดมือเพื่อนสนิทอย่างไม่ไยดี ก่อนจะเดินไปล็อคเกอร์เพื่อเปลี่ยนกางเกง

                “เออ ไปเลยไป สอบตกไม่รู้แล้วนะโว้ยยยยยยยย” น่าน มันยังฝากเสียงกวนประสาทมาอีก

                เฮ้อ...

     

    .

     

     

    .

     

     

     

    .

                เลิกเรียน

                ผมบ้ายบายไอ้แสบจินยองก่อนจะรีบจ่ำอ่าวไปที่โรงยิม ...นี่ยังไม่เห็นคุณหวังตั้งแต่คาบพละละนะ นี่โดดทั้งคาบบ่ายแน่ๆ ไอ้เพื่อนไม่รักเรียน -____-

    ตอนนี้ผมเดินอะโลนมาหน้ายิม และถูกสายตาเล้าโลมมาตลอดทาง อะไรนักหนาครับคุณ มองงี้กะทำผมท้องเลยมั้ยครับ ชะนีเก้งกวางทั้งหลาย

    วันนี้น้องเขาน่าจะไม่มาโรงเรียนหรอก (มั้ง) ขากระเผลกขนาดนั้น ป่านี้น่าจะนอนซม เล่นเกมอยู่บ้านไรงี้แน่เลย

     

                ตึก...ตึก

     

                ผมว่าผมคิดผิดแล้วละ

     

                ร่างสูงในชุดนักเรียนที่ใส่รองเท้าแตะนั่งอยู่บนแสตน ขาวออร่าโดดเด่นน่าจะหนีไม่พ้น คิม ยูคยอม พลันสายตาประดุจเหยี่ยวนั้นก็หันขวับมาจับจ้องคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในโรงยิม

     

                อ๊าาาาาาา น้องเขาเห็นผมแล้วๆๆ น้องเขาเห็นผมแล้ว ทำไงดี ทำไงดี เฮ้ยยย อย่ามองมาทางนี้แล้วยิ้มแบบนั้นเจ้าเด็กบ้า!

                “พี่มาร์ค!! อันยองครับ!!!!” หึ้ย ใครใช้ให้พูดเสียงดังแบบนั้นฮ่ะ .. คนมองทั้งยิมแล้วนะ !

                “กรี๊ดดดดดดดด พี่มาร์คๆๆ นั้นพี่มาร์คนี้ ตัวจริงด้วย โอ้ยได้เจอแบบนี้ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ จะเอาไปอวดแม่ว่าเจอเนื้อคู่ >/////<” สาวน้อย สาวใหญ่มาจากไหนกันครับเนี้ย ดูคำพูดคำจาเข้า ...อย่าบอกนะว่ามาส่องน้องยูคของผม เอ๊ย! ส่องนักกีฬาน่ะ

                “อ่าๆ..ครับ” ผมยื่นหน้าเข้ากล้องก่อนจะชูสองนิ้ว แล้วแจกรอยยิ้มสดใส

     

                เอาไปหนึ่งดอก! ยูคยอมมองผมตาค้างอ้าปากด้วย เยสสส ~

     

                “ขอบคุณมากนะคะ ขอกอดพี่ได้มั้ย แบบว่า พี่หล่อมากเลยอะค่ะ O/////o” ผมก็ดันพยักหน้าอย่างงงๆ ครับตอนนี้ผมถูกรุมกอดจนไม่สามารถมองเห็นน้องคยอมได้ น่าน...มีจับตูดจับก้น...แต๊ะอั๊งงี้กันได้ไง ผู้หญิงพวกนี้น่ากลัวจริงๆนะ ... ผมร้องไห้อีกครั้งได้ม่ะ T T

                “พอได้แล้วมั้ง...” น้ำเสียงเข้มๆที่ดังเหนือหัวเอ่ยช่วยชีวิตไว้

                นี่มัน ยูคยอมนี่!? อย่าบอกนะว่าวิ่งลงมาจากแสตนอะ

               

                “คือ พี่เขาจะหายใจไม่ออกน่ะครับ ^[+++]^” เด็กโย่งยิ้มตาตี๋ให้สาวๆ เอาหละเปลี่ยนเป้าหมายแล้วสินะ...เอ๋ ซะที่ไหน ...

                “กรี๊ด นี่มันน้องยูคนี่ๆๆๆ น้องยูคคะ มานี้เลย มายืนคู่พี่มาร์คยืนชิดๆกันหน่อยได้มั้ยค่ะ คืออยากได้รูปคู่อะค่าาาาา > <” อู้ยยยยย ฟ้าฝนชะนีช่างเป็นใจ เห้ย ไม่ใช่ละ

                “อะ คือ...” ขณะที่ผมกำลังจะแย้ง

                “อ่อ ได้ครับไม่มีปัญหา อ่าแล้วก็ ถ้าวันนี้ลงรูป รบกวน...แท็คมาให้หน่อยนะครับ ผมอยากได้ รูปคู่J ” รุ่นน้องร่างสูงข้างๆผมหันหน้ามายิ้มหวานตาเยิ้มให้..

    ฮึ้ยๆๆๆๆ เจ้าหมียักษ์นี่!! >//////<

                “กรี๊ดดดดดดดดดดด แน่นอนค่าาา ยิ้มนะคะ ยิ้ม กรี๊ดดด น้องยูคโอบไหล่พี่มาร์คหน่อย อย่างนั้นแหละค่า~~~” ว่านอนสอนง่าย...เชื่อคนง่ายผมยกให้ คิม ยูคยอมเขาเลย T//////////T นี่หน้าผมคงแดงไปถึงรูหูแล้วมั้งเนี้ยย โอ้ยยยยยย มือหนาของคนข้างๆนี่...อบอุ่นจริงๆ ถ้าได้มาจับแทนโทรศัพท์คงจะ..

                เห้ย พอ!!

               

    “ขอบคุณนะค่ะ อร๊ายยยยยย” ว่าแล้วก็สลายฝูงชน ผมนี่ได้แต่ยืนค้างเป็นรูปปั้นกรีกเลยครับ ไม่อยากจะหันไปมองไอ้โย่งนี่เลย

                “ฮัลโหลๆ กลับมายังครับ~” มือเรียวโบกผ่านใบหน้าผมไปมา นี่อย่าเอาหน้ามาใกล้ได้มั้ยเจ้าเด็กยักษ์

                “อะ...ฮายยย อันยองครับน้องยูค” ผมตอบกลับก่อนจะมองแป้นบาสกลบเกลื่อน

                “พี่ มาโรงยิม? มาหาพี่แจ็คสันเหรอครับ?”

                ป่าว..มาหานายนั้นแหละ..  

                “อะ ใช่ครับ... มันอยู่มั้ยอะ พอดีมีเรื่องให้มันช่วยนิดหน่อย”

                “อ่อ ฮยองไม่อยู่อะครับ ออกไปซื้อผ้าเย็นมาเพิ่ม ช่วงนี้ทีมเรากำลังฟิต ใกล้แข่งแล้วครับ” ยูคยอมยิ้มกว้างให้ผม... ตอนนี้ผมเริ่มหายใจไม่ค่อยออกแล้วสิ

                “อ่า ๆ ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรครับ..งั้นพี่ไปละ บาย” ผมรีบหันกลับมาจับหน้าอกข้างซ้ายที่มันกระเพื่อมออกมาเหมือนจะหลุดให้ได้ แต่มือที่โอบไหล่ผมเมื้อกี้กลับดึงแขนผมให้หันกลับไป

                “ผมรู้ว่าพี่ตกพละ”

                “” ผมค่อยๆหันหน้าไปยิ้มเจือนๆให้คนตัวสูง ยูคยอมยิ้มตาหยีให้ผมก่อนจะเอ่ย

                “ที่พี่เคยพูดขอให้ผมสอนเมื่อเดือนที่แล้ว วันนี้สอนเลยนะครับ ^[+++]^

               

    หืมมม

              หืมมมมมม

             หืมมมมมมมมมมมม

     

                บอกผมทีว่าอะไรทำให้น้องจำได้ !

              ตอนนี้ผมเขินจนตัวแทบระเบิด ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ป่ะ ว่าตอนนี้น้องเขากำลังสนใจผมอยู่

                ไม่มากก็น้อยละวะ..

     

                “แต่ว่า ขาน้องยูคเจ็บอยู่นะครับ” ผมพูดพร้อมกับชี้ต้นขาที่ถูกทับไว้ด้วยกางเกงนักเรียนชายขายาวสีเทายาวมาถึงข้อเท้าแดงๆช้ำๆของร่างสูง

                “ผมสอนพี่ชู๊ต ผมใช้แค่แขน แต่ต้องเป็นพี่เองนะครับ ที่ต้องช่วยผมวิ่ง” ผมเกลียดรอยยิ้มพิฆาตกับความน่ารักของเด็กคนนี้จริงๆ
     

                ..โอเคๆ เอาไงเอากันครับ” ผมพูดเบาๆก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าบริเวณแสตนข้างสนาม โดยมียูคยอมเดินตามไปเอาลูกบาสมาให้

                เราเดินมากลางสนาม ใต้แป้น เห็นยูคยอมบอกว่าตรงนี้เรียกว่า หัวกะโหลกอะไรของเขานี่แหละ ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องกีฬาเท่าไหร่

     

                “พี่ยืนตรงจุดยิงลูกโทษนะ เดี๋ยวผมจะยืนใต้แป้น ผมจะลองดูว่าพี่ชู๊ตยังไง โอเคมั้ยครับ?”

                “ตรงไหนคือที่ยิงลูกโทษอะยูค คือพี่” ยังไม่ทันจบประโยค ผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆคนข้างหน้าผมก็จับชายเสื้อผมแล้วลากให้เดินตามมาช้าๆ เขินนะไอ้บ้า...

                “ตรงนี้ครับ โอเคยัง” ร่างสูงยิ้มให้ผมก่อนจะเดินเร็วไปใต้แป้น

                “เอาละ ที่นี่พี่ลองชู๊ตให้ผมดูหน่อยได้มั้ย?”

                “อื้อ..” ผมเดาะลูกบาสสองสามครั้งก่อนจะถือมันไว้บริเวณหน้าอก กระโดดขาคู่แล้วชู๊ต

     

                “ย๊าาาาาาาาาา!!

     

    .

     

     

    .

     

     

    .

                ตึก ตึก

                ไม่ต้องงงครับเสียงลูกบาสกระแทกพื้น ลูกบาสที่ผมยิงออกไปยังไม่ถึงห่วงด้วยซ้ำ

     

                “ฮ่ะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของยูคยอมดังลั่นเอาซะผมหน้าเสีย

                “พี่ว่าพี่ไม่เหมาะกับบาสหรอก พี่ยอมตกดีกว่ามาถูกนายหัวเราะเยาะ” ผมเดินฮึดฮัดออกมา แต่ยูคยอมก็วิ่งมาคว้ามือผมไว้ เขาพูดขอโทษเบาๆ ก่อนจะยิ้มตาหยีให้ผมอีกรอบ

                แม่ครับผมควรระเบิดตัวตายแล้วใช่มั้ยครับ T////////T

     

                “ผมจะสอนพี่นะ โอเคๆ ผมจะไม่หัวเราะพี่แล้ว สัญญา” นิ้วก้อยของผู้ชายข้างหน้ายื่นมาให้ตรงหน้าผม

                มันจะน่ารักไปถึงเมื่อไหร่กัน!!

     

                “นายพูดแล้วนะ ถ้านายหัวเราะพี่อีก พี่จะไม่คุยกับนายแล้ว..” ผมหันกลับมาหยิบลูกบาส แต่ไม่ยอมยกนิ้วก้อยขึ้นเกี่ยว แหม ก็มันเขินนี่หน่ามันอดไม่ได้ที่จะยิ้มจริงๆนะครับ

                “ค้าบบบ นางฟ้า :P

                “เห้ย พูดไรอะ” 
     

                “เปล่าๆๆ ~

                “แล้วไป อะ แล้วพี่ต้องทำไง” ผมพูดพร้อมกับเดาะลูกบาสเด้งไปมา

                “พี่มายืนที่เดิมตรงนี้นะ เคๆ เดี๋ยวผมจะอยู่ด้านหลังพี่แบบนี้” พูดไปพร้อมกับทำท่าประกอบ ตอนนี้คนตัวสูงกว่าผมยืนประกบหลัง ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมาจับมือผมให้อยู่ในท่าเตรียมอย่างถูกวิธี

                มือของหมีเนี้ยมันนุ่มขนาดนี้เลยเหรอ

     

                หน้าหล่อที่อยู่ใกล้ผมเพียงคืบ ยูคยอมลดใบหน้ามาอยู่ข้างใบหูผมและถ้ามองจากด้านหลัง ผมก็คงเหมือนถูกเจ้าเด็กยักษ์กอดอยู่แน่ๆ โอ้ยไม่นะ

     

                “นี่ๆ แล้วพี่ก็ทำแบบนี้ ปิ๊วๆ กระโดด ฮึ้บ แล้วมันก็จะเข้า เคม่ะ?” เขาจับมือผมให้ส่งลูกไปที่ห่วง แต่ดูเหมือนเข่าของผมจะอ่อนปวกเปียกไปหมด

                “อะอื้อๆ”

                “ไหนลองทำดิ”

                ยูคยอมถอยออกจากผมแล้วจับตาดูผม เอาละครับ ซวยละ เมื่อกี้ไม่ได้ฟังเลย มัวแต่เขิน .. โอ้ย พระเจ้า ขอให้ลูกนี้ลูกยิงลงเถอะ

                ผมเดาะบาส สามรอบก่อนจะตั้งสติ รวมแรงไว้ที่มือและข้อเท้า เอาละ มันคงไม่ยากไปกว่ากระโดดกลับหลังเท่าไหร่หรอกน่า !

                ผมให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะกระโดดชู๊ต เมื่อเท้าผมถึงพื้น ผมหลับตาปี๊เพราะไม่อยากรับรู้ความอายของตัวเอง

     

                สวบ !!!

     

                “วู้ว!!!

                “…!?

                “พีมาร์คเก่งมากครับ เข้าดังสวบเลยยย ตบมือๆๆ เยเย้~” ร่างสูงตบมือให้ผม เดี๋ยวนะเมื้อกี้ผมชู๊ตเข้างั้นเหรอ !? OH MY GOD !!!

                “จริงอ้ะ!!!” ผมกระโดดดีใจได้ไม่นาน  คนตัวสูงก็เอาบาสมายัดมือผมอีกรอบ

                “อาจจะฟลุ๊ค เพราะฉะนั้นพี่ต้องฝึกเรื่อยๆนะรู้ป่าว” ไม่พอ..มือเรียวนั้นก็ถือวิสาสะหยิกแก้มผมไปมา

                อ๊ากกกกกกกกกก สตั๊นครับ สตั๊น!!

     

                “อ้าวพี่ เร็วดิๆ เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านค่ำหรอก” ยูคยอมตะโกนบอกผม นี่มันเดินไปใต้แป้นเร็วขนาดนั้นเลย??

                “อ่าๆๆ ครับๆ โอเค” ผมตื่นจากภวังค์แล้วค่อยๆตั้งสมาธิ

     

     

    .

     

     

     
     

    .



    .


    .

    .
    .

     

                “ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ ไว้ว่างๆพี่จะเลี้ยงตอบแทนนะ” ผมพูดพร้อมปาดเหงื่อ

                “ไม่ต้องลำบากหรอกครับ~ ว่าแต่ วันนี้พี่ว่างป่ะ” ยูคยอมพูดพร้อมกับยื่นทิชชู่ให้ผมซับเหงื่อ.. น่ารักเนาะ

                “ว่างครับ ไม่งั้นจะไปให้น้องยูคสอนบาสให้เหรอ~ อืมมม น้องยูคละ ถ้าวันนี้ว่าง ก็เลี้ยงวันนี้เลยนะ อย่าปฏิเสธด้วย” ผมหันมองหน้าร่างสูงที่แอบอมยิ้ม

                ยูคยอมอมยิ้มอะไรกัน?

                “อ่าได้ครับ งั้น เอาเป็นร้านที่พี่กินเมื่อวานเป็นไง?” ร่างสูงพูดพร้อมยักคิ้วอย่างมีเลศนัย

                “อื้อๆๆ ไปๆๆ พี่ชอบมากเลย เค้กอร่อย มาการองก็ไม่หวานจนเกินไป อยากเห็นหน้าคนทำจริงๆ ว่าจะสวยขนาดไหน นี่ถ้ามีลูกสาวว่าจะขอแต่งงานเลยแหละ อยากได้กุ๊กส่วนตัว~ ทำของอร่อยๆให้กินทั้งวัน ฮ่ะๆๆๆ” นี่ผมพูดติดตลกตั้งแต่เมื่อไหร่นะ แต่ช่างเหอะ

                “หือขอแต่งงานเลยอ่อ ?” ยูคยอมชำเลืองมองผม

                “ไม่รู้สิ คิดดูก่อน ถ้าน่ารักก็คงขอ…. ไมอะ หึงหราาาาา~” นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี้ย ไม่อายปากเลย งื้อๆๆๆ ตบปากตัวเองสิบที T//////T

     

                “หึงทำไมอะ ไม่ได้เป็นอะไรกัน”

               

               

    “ฮ่าๆๆ ไปๆ ร้าน SUGAR ใช่ป่ะ ผมรู้จัก เนี้ยเลยแยกนี้ไปก็ถึงละ” ร่างสูงจับมือผมก่อนจะพาข้ามถนน

               



    ทำไมตอนนี้ผมกำลังรู้สึกแย่นะ
     

    หึงทำไมอะ ไม่ได้เป็นอะไรกัน

     

               จับมือทำไมอะไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

              ทำไมนายต้องทำอย่างนี้กับพี่ด้วยยูค ถ้านายไม่ได้คิดอะไร

     

     

     

    - To Be Continued -

     

    Talk

    รีดเดอร์อยู่ป่าวขอเสียงหน่อยยยยย~

    //ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...

    หายไปไหนหมด คิดถึงจังเลย ยังมีคนอ่านอยู่ป่าวเนี้ย 55555

    ไม่มีคนอ่านก็จะอัพนะ...เราตั้งใจจะแต่งเรื่องนี้ให้จบ T___T...

    ยังไงก็...ขอบคุณกำลังใจคนที่คอยตามอ่านนะคะ #โปรยจูบ

    เจอกันใหม่ตอนหน้านะเตง J


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×