คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1
chapter 1
เสียงพูดคุยกันของนักศึกษาในวันเปิดภาคเรียน ทำให้ใครบางคนรู้สึกโดดเดี่ยว มองไปทางไหนก็ไม่มีคนรู้จักเลย จนรู้สึกอยากจะร้องไห้ เพราะการมาเรียนที่นี่ของเขาถือว่าเป็นความโชคดี ที่สามารถสอบชิงทุนมาเรียนได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยแค่รักษาระดับการเรียนให้ดีเท่านั้น และต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบ
“สวัสดี เราชื่อซีดีนะ นายชื่ออะไร?”มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายผม
“อืม! เราชื่อออออ ตั้ม”ผมตอบผู้ชายคนนั้นไปแบบงงๆนิดหน่อย
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ตั้ม เราไปเรียนกันเถอะ”ผู้ชายที่ชื่อซีดีเข้าดึงแขนผมให้ลุกขึ้น
“เห้ย!นายมาจับมือเราทำไม”ผมร้องอย่างตกใจพร้อมสะบัดแขนออกอย่างแรง
“เอ้า ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วทำไมจะจับไม้จับมือไม่ได้ และเรามีชื่อนะ ซีดี เรียกสั้นว่าซีก็ได้”
“เราไปตอบตกลงเป็นเพื่อนกับนายตอนไหนไม่ทราบฮ่ะ ขี้ตู่ชัดๆ”ผมบอกกับผู้ชายตรงหน้า
“ไม่รู้ล่ะ เราเป็นเพื่อนกันแล้ว แล้วเราชื่อซีดี จำไว้สิ”ผู้ชายทำหน้าเหมือนผิดหวังเล็กๆที่ผมปฏิเสธ
“ฮ่าๆๆๆๆ ล้อเล่นน้า ทำไมทำหน้าเหมือนแมวเหงาแบบนั้นล่ะ ซีดี”ผมพูดพร้อมกับจับหน้าซีดีหันไปหันมา
“นี่ตั้มแกล้งซีเหรอออออออ”
“แกล้งอะไร ไปเรียนได้แล้ว เออจริงสิเราเรียนห้องเดียวกันเหรอซี”ผมพึ่งนึกออกว่าเราสองคนได้เรียนห้องเดียวกันหรือเปล่า
“เรียนสิ ซี ไปดูมาแล้ว และเห็นตั้มนั่งดูตรงนี้คนเดียวเลยเดินเข้ามาทักไง”ซีดีบอกสิ่งที่ผมสงสัยให้กระจ่าง
“อ่อ โอเคเราไปเรียนกันเถอะเดี๋ยวจะสายตั้งแต่วันแรกที่เรียนเลย”ผมบอกก่อนจะเดินจูงมือซีดีไปที่ห้องเรียน
สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการระหว่างเดินไปห้องเรียนนะ ผมชื่อตั้ม วราวุธ สาเหตุที่ผมมาเรียนที่นี่เนื่องจากมหาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงรับเฉพาะคนที่เก่งๆแต่ถ้าไม่เก่งจริงต้องเป็นลูกผู้ดีมีเงินเท่านั้นแต่จากที่ผมเห็นส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกคนรวยมากกว่าที่จะเป็นคนเก่ง และที่แปลกมากๆคือมหาลัยนี้เป็นมหาลัยเดียวเลยก็ว่าได้ที่รับเฉพาะผู้ชาย ผมจึงได้ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเพื่อสอบชิงทุนให้ได้มาเรียนที่นี่แต่การสอบมันไม่ง่ายอย่างที่ผมคิดมีคนเก่งๆมากมายจึงมีการสอบสัมภาษณ์เพิ่มเติม จนสุดท้ายผมก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้โชคดีในการเรียนที่นี่ พอก่อนเดี๋ยวผมมาเล่าเรื่องของผมให้ฟังใหม่ตอนนี้ผมต้องเข้าเรียนแล้ว
“เป็นไงบ้าง ตั้ม ซีเรียนไม่รู้เรื่องเลย ตั้ม รู้เรื่องมั้ย”ซีดีถามผมหลังจากเรียนเสร็จ
“รู้เรื่องสิ ซีไม่เข้าใจตรงไหนเหรอ เดี๋ยว ตั้ม ติวเพิ่มเติมให้ วันนี้มีเรียนแค่นี้ ไม่มีเรียนต่อแล้ว”ผมบอกซีดีก่อนจะลุกออกจากห้องเรียน
“ขอบคุณตั้มมากนะ แต่ตอนนี้ ซี ว่าเราไปหาอะไรกินกันเถอะ ซี หิวแล้วล่ะ”ซีดีพูดพร้อมเอามือลูบท้องเพื่อแสดงท่าทางว่าหิวแล้วจริงๆ
“โอเค ไปก็ไป แล้ว ซี จะกินอะไรดี ตั้ม อยากกินก๋วยเตี๋ยว ซี กินมั้ย”ผมเสนอความคิด
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นเราไปกันเถอะ”พูดเสร็จซีดีก็เดินมาจับมือแล้วเดินไปด้วยกัน
ทุกคนไปต้องแปลกใจนะว่าทำไมผู้ชายด้วยกันถึงจับมือกันเหมือนเป็นเรื่องปกติ ใช่แล้ว ที่นี่เขามองว่ามันคือเรื่องปกติ ไม่ได้น่ารังเกียจหรือแปลกอะไร ผมถึงไม่รู้สึกเคอะเขินยังไงล่ะครับ
“ตั้ม ทำไมถึงมาเรียนที่นี่ล่ะ”ซีดีหยุดความคิดของผมไว้เท่านั้น
“ก็ใครที่มาเรียนที่นี่ต้องเรียนเก่งหรือรวยมากๆไงแต่ ตั้ม ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดที่จะยอมมาเรียนที่นี่หรอก ถ้าไม่โชคดีสอบชิงทุนมาเรียนได้”ผมอธิบายสิ่งที่ ซีดีอยากรู้
“โฮ้ งั้นแสดงว่าตั้ม ต้องเก่งมากๆแน่เลย ถึงได้สอบมาเรียนที่นี่ได้”ซีดีทำหน้าตกใจ ที่รู้ว่าผมมาเรียนที่นี่ได้เพราะทุนไม่ใช่เงินของตัวเอง
“ทำไมเหรอ แสดงว่า ซี มาเรียนที่นี่เพราะรวยใช่มั้ย?”ผมถาม ซีดีออกไป ซีดีทำแค่พยักหน้าบอกว่าใช่ “อ้าวว แล้วแบบนี้ ซี ยังจะเป็นเพื่อนกับเราอยู่มั้ย เราไม่ได้รวยเหมือน ซี นะ”ผมบอกซีดีอย่างเศร้าๆ
“ทำไม ตั้ม ถามแบบนั้นล่ะ เพื่อนกันเขาไม่ได้วัดกันที่รวยจนหรอกนะ พูดแบบนี้ดูถูกจิตใจ ซี มากไปเปล่า”ซีดีบอกอย่างเสียใจที่ผมประเมินค่าจิตใจของเขาต่ำเกินไป
“เอ้ย! ซี ตั้ม ขอโทษ ตั้ม ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ ไม่งอนนะ ดีกันนะ”ผมง้อซีดีด้วยการยื่นนิ้วก้อยไปขอคืนดีกับเขา
“ฮ่าๆๆๆ ตั้ม นี่น่ารักจัง ซี ไม่โกรธ ตั้ม หรอก”ซีดีพูดพร้อมยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับผมเป็นการยืนยันว่าเราสองคนดีกันแล้ว
“ขอบคุณนะที่ยอมเป็นเพื่อนกับเรา ตั้ม คิดว่ามาอยู่ที่นี่จะไม่มีเพื่อนแล้ว คนที่นี่มีแต่คนรวยๆทั้งนั้น”
“ที่ ซี ยอมเป็นเพื่อนกับ ตั้ม เพราะ ตั้ม เป็นคนดีและดูไม่เฟ็คเหมือนคนรวยๆพวกนั้น”
“ฮ่าๆๆๆ ยังไงก็ขอบคุณนะ เรากลับกันเถอะ ตั้มจะไปพักผ่อน สักหน่อย ซี จะกลับบ้านหรือยัง”
“เดี๋ยวสักพักคนรถก็คงมารับ เดี๋ยว ซี เดินไปส่งที่ห้องพักนะ”
“โอเค ได้สิ ซี ก็ให้คนรถไปรับที่นั้นเลยสิ”
“ก็ดีเหมือนกัน ถ้าคนรถมาช้าก็จะได้รอที่ห้อง ตั้ม เลย ว่าแต่เขาใครคนอื่นเขาเปล่านะ”
“เข้าได้สิ ถ้าเป็นนักศึกษาในมหาลัยนี้”พูดจบเราสองคนก็เดินมาที่บ้านพักของผมที่ทางมหาลัยจัดเตรียมไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุน จะเป็นบ้านเดี่ยวหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ มีทุกอย่างพร้อม
“เป็นยังไงบ้าง ซี บ้านพักนักศึกษาทุน โอเคมั้ย”ผมถามความคิดเห็นซีดี เพราะสำหรับผมแล้ว ผมว่าโอเคเลยล่ะ
“โอเคมากเลยนะ ตั้ม ซี ไม่คิดว่าที่พักสำหรับเด็กทุนจะดีเท่านี้”
“โฮ้! ซี ระดับมหาลัยชื่อดัง ก็ต้องแบบนี้ล่ะ ไม่งั้น เสียชื่อมหาลัยหมดจริงมั้ย”
“อืม ก็จริง แต่ว่าเด็กทุนที่นี่ ได้อะไรมั้ง นอกจากที่พัก”
“คือได้ทุกอย่างเลย ไม่ต้องใช้เงินตัวเองสักบาทเดียว อยากได้อะไรให้ทำเรื่องเบิกเงินได้เลย แม้แต่เสื้อผ้าก็ต้องใช้เฉพาะที่ทางมหาลัยจัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น แค่ให้รักษาระดับผลการเรียนให้ได้เสมอต้นเสมอปลาย”ผมอธิบายสิ่งที่ผมได้จากการสอบชิงทุนมาเรียนที่นี่
“ดีจัง ยากก็ตรงที่ต้องรักษาระดับผลการเรียนนี่แหละ แต่ ซี ว่า ตั้ม เก่งอยู่แล้วถ้าเป็น ซี นะ ฮ่าๆๆ ไม่ต้องคิดเลย”ซีดีพูดพร้อมหัวเราะเมื่อนึกถึงว่าเป็นตัวเอง
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ซี ตั้ม ยังกลัวๆอยู่เลย ว่าจะได้เรียนแค่เทอมเดียวหรือเปล่าก็ไม่รู้”ผมบอกอย่างกังวล
“ไม่หรอก ตั้ม ซี เชื่อว่า ตั้ม ทำได้ ซี ไปก่อนนะคนรถมารับแล้ว บ๊ายบาย”ซีดีโบกมือลาก่อนจะนั่งรถกลับไป
ก็ใช่ผมเรียนหนังสือเก่งก็จริงแต่ที่กังวลเนี่ย ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องรักษาระดับการเรียนของตัวเองให้อยู่ในระดับถึงจะไม่ลำบากต่อตัวเองมากไป โอ๊ยยยย แค่คิดก็เครียดแล้ว นี่ผมโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ยต้องอยู่ที่นี่โดยที่ไม่สามารถติดต่อพ่อแม่ญาติพี่น้องได้เลยนอกจากได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่สามารถติดต่อกับเพื่อนๆในมหาลัยได้ตลอดเวลา
“วราวุธเอ้ย แกต้องอดทนนะเพื่ออนาคตที่ดีของแกและครอบครัว เซ็งๆๆๆๆๆ ไปอาบน้ำมาอ่านหนังสือดีกว่าจะนอนเร็วๆพรุ่งนี่มีเรียนแต่เช้าอีก”ผมบอกกับตัวเองก่อนจะไปทำภารกิจส่วนตัวให้เสร็จแล้วออกมาทำตามที่ตัวเองวางไว้ ระหว่างที่กำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น ผมรู้สึกแปลกๆเหมือนมีคนค่อยแอบมองผมอยู่ แต่พอผมหันไปดูก็พบแต่ความว่างเปล่าไม่มีอะไร นอกจากแสงไฟที่สาดส่องเข้ามาในห้อง ผมก็ไม่อยากจะคิดอะไรมากอาจจะเป็นคนดูแลความปลอดภัยก็ได้ที่มาดูความเรียบร้อยเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับนักศึกษาทุกคน ผมเลิกสนใจและตั้งใจอ่านหนังสือต่อจนจบก่อนจะพบว่าเป็นเวลาที่ควรจะเข้านอนได้แล้ว ผมจึงเก็บหนังสือและเขานอนในที่สุด
ตลอดเวลาทั้งวันของวันนี้ มีใครคนหนึ่งคอยแอบมองดูทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มคนนี้ด้วย จนเวลาตอนนี้ที่เด็กคนนี้ไดหลับไปแล้ว ใครคนนั้นไม่ได้หลับด้วย ยังคอยเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา เพื่อสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า เมื่อเวลาผ่านไปนานพอสมควรไม่พบอะไรที่ผิดปกติจึงออกมาจากที่นั่น
เช้าวันต่อมา
“ตั้ม ตั้ม ตั้ม”ใครคนหนึ่งเรียกชื่อผมพร้อมกับสะกิดที่ไหลผม
“อ้าว ซี เองเหรอ นึกว่าใครทำไมมาเช้าจังล่ะ”ไม่ใช่ใครที่ไหน ซีดีนั่นเอง
“พอดีตื่นเช้านะ และกลัวคนแถวนี้จะเหงาและร้องไห้ขี้มูกโปร่ง เลยรีบมาหานะ”
“เหรอออ ใครกันนะ”ผมตอบซีดีออกไปพร้อมทำท่าทางคิดว่าเป็นใคร
“โธ่! ตั้ม อ่ะ คนอุตส่าห์รีบตื่นแต่เช้ามาหากลัวจะเหงา ไม่คิดจะขอบคุณแต่กลับมากวนประสาท ไม่น่าเลยเรา ไม่น่าเป็นห่วงคนแบบนี้นี้เลย”ซีดีบอกอย่างเสียใจพร้อมทำท่าทางเหมือนจะงอนผม
“งอน ตั้ม อีกแล้วเหรอ ซี ไม่เอาน้า ไม่งอนนะ ดีกัน ดีกัน”ผมรีบง้อซีดีทันที
“เชอะ!”ซีดีกอดอกพร้อมสะบัดหน้าหนีผมทันที
“โอ๋ๆๆ ตั้ม ขอโทษนะ ซี ตั้มแค่จะแกล้ง ซี เฉยๆ ไม่งอน ตั้ม นะเราดีกันเถอะ ตั้ม จะร้องไห้แล้วนะ ถ้า ซี ไม่หายโกรธ ตั้ม”ผมบอกพร้อมทำท่าจะร้องไห้
“เห้ย!ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ แทนที่จะมาง้อ ซี กลับเป็น ซี ที่ต้องมาปลอบ ตั้ม แล้วแบบนี้ ซี จะโกรธ ตั้ม ลงได้ยังไง"ซีดีพูดพร้อมเดินเข้ามากอดผมทำให้ตอนนี้หน้าของผมอยู่ตรงอกซีดีพอดีเลย
“ซี ปล่อย ตั้ม ก่อนมั้ย ตั้ม หายใจไม่ออก กอดนานไปล่ะ”ผมรีบบอกซีดีเมื่อรู้สึกว่าซีดีจะกอดผมนานไปแล้ว และคงไม่ดีนะถ้าผู้ชายสองคนจะมายืนกอดกันแบบนี้ ถึงที่นี่จะมองว่าเป็นเรื่องปกติก็เถอะ
“ฮ่าๆๆ โทษที ไม่ร้องแล้วนะ เด็กน้อยของ ซีดี ไหนยิ้มให้เค้าดูหน่อยสิ”ซีดีบอกพร้อมเอามือหยิกแก้มของผมให้ยิ้ม
“โอเค ยิ้มแล้ว คราวนี้เอามือออกจากแก้มเค้าได้หรือยัง เจ็บไปหมดแล้วเนี่ย”ผมบอกก่อนจะเอามือลูบที่แก้มเป็นการยืนยันว่าเจ็บจริงๆ
“น่ารักจัง”
“อะไรนะ ซี ว่ายังไง”ผมถามเหมือนได้ยินซีดีพูดอะไรสักอย่างแต่ฟังไม่ถนัด
“เปล่าาาาาาา ไม่มีอะไร”ซีดีปฏิเสธเสียงสูง
“ไม่มีอะไรก็ไม่มีสิ จะเสียงดังทำไม ไปเรียนได้แล้ว เดี๋ยวจะสายเข้า”เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผมเลยชวนซีดีไปเรียนเห็นว่าเป็นเวลาที่สมควรที่จะเข้าเรียนได้แล้ว
เวลาผ่านไปเหมือนโกหก นี่ก็ปาเข้าไปหนึ่งเดือนเต็มๆแล้วที่ผมมาอยู่ที่มหาลัยแห่งนี้ แต่ผมยังรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับที่นี่สักเท่าไร ยังนอนคิดถึงบ้านทุกวัน ยิ่งวันเสาร์ อาทิตย์ทีไร เหงาทุกทีเลย ต้องอยู่แต่ในมหาลัย ออกไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ ไม่รู้จะไปยังไง ไม่รู้ว่ามีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง โอ๊ยยยยยย วราวุธ เซ็ง
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง (เสียงโทรศัพท์เข้า)
“ฮัลโหล สวัสดีครับ”ผมกรอกเสียงตอบรับคนที่โทรเข้ามา
(ฮัลโหล ตั้ม นี่ ซี นะ)
“อ้าว ซี เองเหรอ แล้วเอาเบอร์เรามาจากไหน”ผมถามอย่างสงสัยปนงงๆ
(อ่อ!พอดีวันที่เราไปส่ง ตั้ม ที่ห้องนะมันมีเบอร์โทรติดไว้)ซีดีอธิบายข้อสงสัย
“อืม ตั้ม เห็นล่ะ นี้ถ้า ซี ไม่บอกนี้ ตั้ม ไม่เห็นนะเนี่ย สังเกตจังนะ”ก็จริงอย่างที่ผมบอกติดแอบไว้สะ ถ้าไม่สังเกตไม่เห็นจริงๆ “ว่าแต่ ซี โทรหา ตั้ม มีอะไรหรือเปล่า”
(ฮ่าๆๆๆๆ ก็จริง เออ คือว่า ซี ว่าจะชวน ตั้ม ออกมาเที่ยวด้วยกันนะ เห็นมาอยู่ตั้งเดือนหนึ่งล่ะ ไม่เห็นออกมาเที่ยวเลย)
“จริงเหรอ ซี วันนี้ยิ่ง เซ็งๆอยู่ด้วย ว่าแต่ ซี จะพา ตั้ม ไปที่ไหนเหรอ”
(ตั้ม อยากไปที่ไหนล่ะเดี๋ยว ซี พาไป ซี รู้จักหมดทุกที่เลยนะ)ซีดีขอความคิดเห็นจากผม
“โทษทีนะ ซี คือ ตั้ม ไม่รู้จักสักที่เลย ตั้ม เพิ่งเคยมาแถวนี้ครั้งแรก”ผมบอกความจริงซีดีไป
(จริงเปล่าเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนที่ไม่เคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก)เสียงซีดีดูตกใจมากกับการรู้ว่าผมมาที่นี่ครั้งแรก มันแปลกตรงไหนทำไมคนต้องมาที่นี่กันทุกคนด้วยเหรอ
“มันแปลกตรงไหน ซี ทุกคนจำเป็นต้องมาที่นี่กันก่อนเหรอ”ผมถามอย่างสงสัยและไม่เข้าใจ
(มันก็ไม่แปลกหรอก ที่คนที่เป็นมนุษย์ธรรมดาจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นต้องมาที่นี่กันก่อนที่จะเข้ามหาลัย)
“มนุษย์ธรรมดา เป็นอย่างอื่น อะไร ยังไง ตั้ม งงไปหมดแล้ว ซี พูดเหมือน ซี ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างนั้นแหละ”
(ฮ่าๆๆๆ อะไรกัน ตั้ม ซี ก็เป็นคนธรรมดาเนี่ยแหละ ไม่มีอะไรหรอก อย่าไม่สนใจเลย เดี๋ยววันนี้ ซี พา ตั้ม เที่ยวดีกว่า อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่หน้ามหาลัย เดี๋ยว ซี ขับรถไปรับ)
“โอเค ได้ๆๆ เดี๋ยว ตั้ม รอที่หน้ามหาลัย บ๊ายบาย”
(บ๊ายบาย)ตู๊ดดดดดดดดดดดดดด แล้วซีดีก็วางสายไป ผมจึงเข้าไปเตรียมตัวเพิ่มนิดๆหน่อยๆ
ใครจะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างของเด็กผู้ชายคนนี้อยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาเก็บรายละเอียดไว้หมดทุกอย่าง
“หึๆๆๆ เด็กน้อย เจ้าชั่งไม่รู้อะไรเลย ว่าที่ที่เจ้าอาศัยอยู่ตอนนี้มันแต่ต่างจากที่เจ้าเคยอยู่มาก่อนและคนที่นี่ก็ใช้ชีวิตต่างจากเจ้ามากนัก เราจะปล่อยให้เจ้ามีความสุขไปก่อนเมื่อถึงเวลา เจ้าอาจจะไม่ได้มีความสุขและรอยยิ้มแบบนี้อีก”
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
“สวัสดี ซี มาตรงเวลาพอดีเลย อ้าว แล้ววันนี้ทำไมขับรถมาเองล่ะ”ผมถามเพราะปกติซีดีจะมีคนขับรถให้ตลอดเวลา
“ก็วันนี้ ซี อยากพา ตั้ม ไปเที่ยวเองมากกว่าเลยขอพ่อกับแม่ขับมาเองนะ”
“อ่อ แล้วพ่อกับแม่ ซี ไม่เป็นห่วงมั่งเหรอปกติ ซี ไม่เคยไปไหนมาไหนคนเดียวนี้”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม ปกติห่วงจะได้ แต่พอบอกว่าจะพา ตั้ม มาเที่ยวก็ปล่อยให้มาเฉยเลย ซี ยังงงอยู่เลย”
“จริงเหรอเนี่ย สงสัยพ่อแม่ ซี คงคิดว่า ตั้ม น่าจะไม่พา ซี ไปทำเรื่องที่ไม่ดีหรอก เลยยอมให้มา”
“จะเป็นไปได้ไง ในเมื่อพ่อกับแม่ยังไม่เคยเจอกับ ตั้ม เลย จริงมั้ย”
“เออก็จริง แต่ทำไมถึงปล่อย ซี มาได้เนี่ย”
“เออว่าแต่จะไปเที่ยวมั้ยเนี่ย สงสัยอยู่ได้เดี๋ยวก็ไม่พาไปดีมั่ง”
“เห้ยยยยย ไม่ได้ ไปสิ ตั้ม อยากไปเที่ยว อยู่แต่ห้องเบื่อจะได้ ว่าแต่มีที่ไหนแนะนำบาง”
“ที่นี่นะเหรอ มีที่เที่ยวสวยๆเยอะเลย วันเดียวเที่ยวไม่หมดหรอก แต่วันนี้จะพาไปที่ที่หนึ่ง บรรยากาศดีมาก”
“ได้ๆ ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านพักกับมหาลัย เบื่อมากกกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
“อ่าๆๆๆๆๆ โอเค งั้นเราไปกันเลย”เมื่อซีดีพูดจบ เราสองคนก็ขับรถพากันไป ยังที่นั้น ใช้เวลาไม่นานซีดีก็พาผมมาถึงที่ที่หนึ่ง
“โฮ้!!! ซี มีที่แบบนี้ในโลกด้วยเหรอเนี่ย”เมื่อมาถึงสถานที่ที่ซีดีขับรถพามา ผมถึงกับต้องตกใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่บนโลกด้วย มันสวยมาก ผมไม่เคยเห็นสวนกุหลาบที่มีแต่ดอกกุหลาบสีขาวอย่างเดียว เพราที่เคยเห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีรวมๆกัน แต่ที่นี่มีแต่สีขาวล้วน มันดูบริสุทธิ์มาก และผมชอบดอกกุหลาบสีขาวเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว
“ชอบมั้ย ตั้ม”
“ชอบสิ ชอบมากเลย ซี ขอบคุณมากๆที่พามาเที่ยวที่นี่ ซี รู้อะไรมั้ยว่า ตั้ม ชอบดอกกุหลาบสีขาวมากๆเลย”
“เห็นมั้ย ซี ว่าแล้ว ตั้ม ต้องชอบแน่ๆเลย เออ ตั้ม รู้อะไรมั้ย ที่นี่เขาให้เราตัดดอกกุหลาบเองได้นะ ถ้าเราต้องการซื้อ”
“จริงเหรอ ซี งั้นเราไปเอาอุปกรณ์ที่ใช้ตัดดอกกุหลาบกัน ตั้ม จะซื้อไปไว้ที่ห้องจะได้รู้สึกเหมือนว่าอยู่ที่บ้าน”เมื่อผมพูดจบก็จับมือซีดีเดินไปหาเจ้าของสวน
“โอเคๆ ไม่ต้องรีบก็ได้มั้ง ตั้ม เดี๋ยวหกล้ม”ซีดีเตือนเมื่อผมตอนนี้ได้วิ่งพร้อมลากซีดีตามมาด้วย
“ฮ่ะ ฮ่าๆๆ โทษทีลืมตัวนะ”เมื่อรู้ตัวผมก็หยุดวิ่งและเดินปกติ
“สวัสดีครับ ยินดีตอนรับ สู่ WHITE ROSE GARDEN ครับ”เจ้าของสวนกล่าวต้อนรับเราสองคนเดินมาถึง
“อ่อ สวัสดีครับ คุณเป็นเจ้าของสวนเหรอครับ”ผมกล่าวทักทายเขาบ้าง
“ใช่ครับ ไม่ทราบคุณต้องการให้เราช่วยอะไรมั้ยครับ หรือแค่ต้องการมาชมสวนเฉยๆ”เจ้าของสวนถามความต้องการของเราสองคน
“อืม คือว่าผมอยากจะซื้อดอกกุหลาบนะครับ ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร”
“พอดีทางสวนของเราจะมีทางเลือกให้คุณลูกค้าว่าต้องการเลือกตัดเองหรือให้ทางสวนของเราบริการตัดให้”เจ้าของสวนเสนอทางเลือกให้เรา
“คือ พวกเราอยากจะตัดดอกกุหลาบเองนะครับ เราต้องทำยังไงบ้าง”
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมจะบอกให้ลูกน้องของผมเตรียมอุปกรณ์สำหรับตัดเก็บดอกกุหลาบให้คุณและพาไปที่แปลงที่สามารถเก็บดอกกุหลาบได้นะครับ”เจ้าของสวนกล่าวก่อนจะเรียกลูกน้องให้ไปเตรียมอุปกรณ์ให้ผมกับซีดี
“อ้าว แล้วตรงนี้ตัดไม่ได้เหรอครับ”ผมพูดพร้อมชี้ไปที่แปลงดอกกุหลาบเหล่านั้นที่ผมกับซีดีเดินผ่านมา
“อ่อ ดอกกุหลาบต้องนี้มันยังไม่สามารถเก็บได้ครับ เพราะดอกมันยังเล็กเกินไป มันจะดูไม่สวยถ้าอยู่แค่ดอกเดียว”เจ้าของร้านอธิบาย
“อ่อ แสดงว่าแปลงที่คุณจะให้สามารถตัดเก็บได้ต้องดอกใหญ่กว่านี้ ใช่มั้ยครับ”
“ใช่ครับ แต่ดอกกุหลาบเหล่านั้นก็มาจากแปลงที่นี่ทั้งนั้นเมื่อมันโตเต็มที่ เราก็จะย้ายมันไปไว้ที่นั้นและเพาะมันขึ้นมาใหม่”เจ้าของพูดต่อ
“ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้ครับ ว่าแต่คุณจะถามอะไรล่ะ”
“ผมอยากจะทราบว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะปลูกดอกกุหลาบสีขาวทั้งหมดแทนที่จะปลูกหลายๆสีมันไม่ได้เงินมากว่าเหรอครับ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบดอกกุหลาบสีขาวทุกคน”ผมถามสิ่งที่ผมสงสัยออกไป
“มันก็จริงอย่างที่คุณว่านะครับ การที่เราจะทำอะไรเราทุกคนก็ล้วนหวังที่จะได้ผมกำไรมากกว่าสิ่งอื่นใด”เจ้าของร้านบอกผม
“ที่คุณพูดแสดงว่าที่คุณทำสวนนี้ขึ้นมา คุณไม่ได้ผลกำไร แล้วคุณทำมันไปทำไมล่ะ”ผมล่ะงง ถ้าไม่ทำเพื่อให้ได้เงินแล้วจะทำไปเพื่ออะไร
“ใช่ครับ ที่ผมทำสวนนี้ขึ้นมา เพราะผมทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคนที่ผมรัก เธอเป็นคนที่ชอบดอกกุหลาบสีขาวมาก เธอมักจะบอกกับผมเสมอว่าดอกกุหลาบก็เปรียบเสมือนความรักที่บริสุทธิ์เหมือนกับความรักของผมกับเขา แต่วันนี้เธอได้จากผมไปไกลแสนไกลแล้ว ผมจึงทำได้เพียงที่จะดูแลดอกกุหลาบนี้ทุกดอกเพื่อเป็นการยืนยันว่าผมจะดูแลและรักเธอคนเดียวเท่านั้น”เจ้าของสวนเล่าถึงจุดประสงค์ที่ทำสวนนี้ขึ้นมา
“น่าอิจฉาแฟนคุณจังครับ ผมล่ะอยากจะเจอแบบนี้มั้งจัง”
“ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกคุณ ว่าแต่คุณเถอะก็ชอบดอกกุหลาบสีขาวเหมือนกันเหรอ”
“ใช่ครับ ก็อย่างที่คุณบอกไงดอกกุหลาบสีขาวเปรียบเสมือนรักที่บริสุทธิ์”
“อ่อ แบบนี้นี่เอง อุปกรณ์มาแล้วครับ ขอโทษทีนะครับ นานไปหน่อย”เจ้าของสวนเอ่ยขอโทษที่อุปกรณ์ที่ไปเอามาช้ามาก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไปเถอะ ซี อุปกรณ์พร้อมแล้ว”ผมบอกกับเจ้าของสวน ก่อนจะหันมาชวนซีดีให้ไปตัดดอกกุหลาบกัน
“เชิญครับ เดี๋ยวช่วยพาทั้งสองท่านนี้ไปที่แปลงตัดดอกกุหลาบขายด้วยนะ”เจ้าของสวนเชิญเราสองคนก่อนจะหันไปบอกกับลูกน้องให้พาเราสองคนไปที่แปลงตัดเก็บ
“ขอบคุณครับ”ผมกล่าวผมก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพ และหันไปเรียกซีดี “ไป ซี เราไปเก็บดอกกุหลาบกันเถอะ”
“ซี เอาดอกนั้น ซี เอาดอกนี้ ดอกนั้นด้วย นั้นอีก”ผมชี้บอกซีดีให้ตัดดอกกุหลาบมาให้เพราะผมตัดเต็มตะกร้าแล้ว ดีนะที่ดอกกุหลาบเป็นพันธุ์ไร้หนามเลยตัดได้สะดวก
“โห้!!! ตั้ม จะเอาดอกนั้น จะเอาดอกนี้ มันเยอะไปมั้ย ที่ ตั้ม ก็เต็มตะกร้าแล้ว ที่ ซี ก็จะเต็มแล้วนะ นี่จะเอาไปถมห้องนอนเหรอครับ”ซีดีพูดเสียงติดโมโหนิดๆ
“อ่ะ อ่ะ พอแล้วก็ได้ก็ ตั้ม ชอบอ่ะมันสวยไปหมดเลยอยากได้ทั้งสวนเลยด้วยซ้ำไป”ผมบอกซีดี
“ไม่ไว้มั้งครับ ถ้าจะเอาทั้งสวน ซี ว่า ตั้ม ต้องไปขอซื้อสวนเขาเลยถ้าจะให้ตัดหมดนี้มีหวังเป็นลมได้”
“ถ้าเขาขายให้ก็ดีดิ แต่ว่าเขาคงไม่ยอมหรอก สวนนี้มีความหมายกับเขามากเลยนะ”
“ก็จริงนะ”
“ผู้หญิงคนนั้นชั่งโชคดีอะไรแบบนี้ มีคนที่รักและซื่อตรงกับเขาคนเดียว อยากโชคดีแบบนั้นมั้งจัง”ผมพูดอย่างเพ้อฝัน
“เพ้อเจ้อจริงๆเลยนะเรานะ”
“ก็จริงอ่ะ ถ้าเรามีคนที่รักจะซื่อตรงกับเรานะ เราก็คงไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
“พอๆเลย ไปได้แล้ว เย็นแล้วเนี่ย จะได้ไปหาอะไรกินด้วย หิวยัง”ซีดีเสนอความคิดเพื่อหยุดความเพ้อฝันของผม
“ดีเหมือนกัน หิวแล้วว่าแต่แถวนี้มีอะไรอร่อยๆมั้ง”
“เยอะแยะ ไปจ่ายเงินค่าดอกกุหลาบก่อนเถอะ”
“โอเคครับคุณซีดี ไปกันเถอะ”ผมพูดแค่นั้นก่อนที่เราสองคนจะเดินออกมาเพื่อจ่ายเงินค่าดอกกุหลาบ
“เท่าไรครับ”ผมถามคนคิดเงิน
“ทั้งหมดเลยใช่มั้ยครับ”
“ใช่ครับ”
“ฟรีครับ”ไม่ใช่เสียงของคนที่คิดเงินผมอยู่แต่เป็นเสียงเจ้าของร้าน
“อะไรกันครับ ผมตัดมาต้องเยอะ คุณจะมาให้ผมฟรีๆได้ไงครับ ไม่เอา ไม่เอา”ผมประท้วง
“ใช่ครับ ทั้งหมดนี้น่าจะหลายบาทอยู่นะครับ”ซีดีเสริม
“ผมให้ครับ ถือว่าเป็นการต้อนรับลูกค้าคนใหม่ที่มีใจรักในดอกกุหลาบสีขาวเหมือนกัน”เจ้าของสวนอธิบายเหตุผล
“แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รัยไว้ไม่ได้อยู่ดี”ผมแย้งต่อ
“คุณรู้อะไรมั้ยครับว่าคุณเหมือนกับคนรักของผมมากไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาหรือนิสัยเหมือนกันทุกอย่าง”
“แต่นี้ก็คงไม่จำเป็นที่คุณจะต้องมาให้ดอกกุหลาบผมนี้ครับ”
“คุณช่วยรับมันไว้เถอะนะครับอย่าปฏิเสธผมเลย”เจ้าของสวนบอกด้วยสายตาอ้อนวอน
“คุณช่วยบอกเหตุผลผมหน่อยว่าทำไม ผมถึงไม่ควรปฏิเสธดอกกุหลาบจากคุณ”
“อย่างที่ผมบอก ดอกกุหลาบคือตัวแทนคนรักของผม แล้วที่เธอจากผมไปเป็นวันที่ผมเอาดอกกุหลาบสีขาวช่อแรกไปให้เธอ แต่เธอก็ไม่ได้อยู่รอที่จะรับจากผมเธอจากไปเสียก่อน”เจ้าของร้านบอกพร้อมน้ำตาที่มาคลออยู่ในดวงตาทั้งสองข้าง
“งั้นแสดงว่าเธอไม่เคยได้รับดอกกุหลาบสีขาวจากคุณเลย”
“ใช่ครับ ตอนนั้นดอกกุหลาบสีขาวเป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงมากและผมก็ไม่มีเงินจะซื้อมันมาให้เธอ จนวันหนึ่งเหมือนผมได้รับโชค มีครับอุปการะเลี้ยงดูผมจนผมมีทุกวันนี้ได้ ผมจึงตัดสินใจนัดเธอไปพบและนำสิ่งนี้ไปให้เธอ แต่มารู้ว่าเธอไม่อยู่ที่จะรับมันแล้ว ผมจึงอย่างให้คุณช่วยรับมันไว้ที เพื่อเป็นการบอกว่าผมได้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอแล้ว”
“ถ้ามันจะทำให้คุณสบายใจขึ้น ผมก็ยินดีครับ ขอบคุณมากนะครับ ไว้วันหลังผมจะกลับมาใหม่”
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยรับมันไว้ ผมจะได้สบายใจและจากไปอย่างสงบ”
“ครับ ไม่เป็นไร ไว้เจอกันใหม่นะครับ ผมไปก่อน บ๊ายบาย”ผมกล่าวลา
“งั้น ผมก็ขอตัวกลับก่อนนะครับ”ซีดีก้มหัวให้ก่อนจะหันหลังเดินออกมา ซึ่งผมเดินมาก่อนนานแล้ว
“เดี๋ยวก่อน”เจ้าของสวนเรียกซีดีไว้ก่อน
“เรียกผมเหรอครับ”ซีดีหันมาพร้อมชี้ที่ตัวเอง
“ใช่ รู้ใช่มั้ย เขามานี้เพื่ออะไร แล้วนายต้องทำอย่างไร”
“รู้ครับ ผมถึงต้องกับเขาตลอดเวลา ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลเขาให้ดีที่สุด”
“ดีมาก ช่วงนี้ยังไม่ต้องกังวลอะไร แต่อีกไม่นาน เขาจะมาล้างแค้น”เจ้าของสวนพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินจากไป จึงทำซีดีต้องเดินกลับมาที่รถ
อีกไม่นานชีวิตนายจะไม่ได้สงบสุขแบบนี้แล้วนะ ตั้ม เขาจะกลับมาแล้ว กลับทำลายนายเพื่อล้างแค้นในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ฉันจะพยายามปกป้องชีวิตนายให้ถึงที่สุดแม้จะต้องแรกด้วยชีวิตก็ตาม ในเมื่อฉันถูกส่งให้มาดูแลนาย ฉันก็จะดูแลนายให้ดีที่สุด
สวนกุหลาบจะคล้ายๆแบบนี้แต่ให้นึกว่าดอกทิลิปเป็นดอกกุหลาบขาวนะ
.................................................................................................................................................................................................................................
มาอัพฟิคแล้วนะ ไม่รู้ว่าจะมีคนติดตามป่าวนะ เป็นกำลังใจให้ด้วยน้าาาาา
อีกเรื่องหนึ่งจะขอเปลี่ยนเนื้อเรื่องน้า อันเก่าบอกตรงๆตัน และเดี๋ยวมันจะมาม่ามากไป
ฝากติดตามฟิคเรื่องนี้ด้วยน้าาา ถ้ามีคำผิดบอกด้วยนะเดี๋ยวมาแก้ให้นะ จุ้บบบ
ความคิดเห็น