ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตีตราพรหมจรรย์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ตรวนรัก 50%

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 59


    1

    ตรวนรัก

    แอนนี่ พอมีงานง่ายที่ได้เงินเร็วให้ฉันทำบ้างไหม เธอจนหนทางแล้วจริงๆ หมดหวังกับบริษัทที่ยื่นใบสมัครไปจนเริ่มท้อ น้องชายก็นอนรอความหวัง ทำให้หญิงสาวแบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน

    อารยา หรือที่ดาวิกาเรียกแอนนี่ เป็นเพื่อนต่างสาขาที่

    เธอพอจะสนิทและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้

    แกร้อนเงินเหรอวิกา ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า

    อือ ตอนนี้ฉันร้อนเงินมาก ฉันอยากหางานทำอะไรก็ได้ที่ได้เงินเร็วและเยอะๆ เธอพอจะมีงานให้ทำบ้างไหม

    ก็พอมีนะ อารยาทำท่าครุ่นคิดสักพักก่อนจะพูดขึ้น ทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหารสิ เพื่อนๆ ฉันเขาทำกันได้เงินดีอยู่นะ

    มันยังได้เงินช้าอยู่ดี ช้ามากกับเวลาของใหม่นทีและโรคร้ายนั้น

    หรือแกจะขายตัวดีล่ะ ฮาๆ

    เสียงหวานแนะนำพูดติดตลกเพราะคิดว่ายังไงซะดาวิกาคงไม่คิดจะทำอะไรโง่ๆ ขายตัวจริงๆ ตามที่หล่อนบอกไป

    จะบ้าเหรอ ฉันซีเรียสนะแก น้องชายฉันกำลังป่วยหนักต้องใช้เงินรักษามหาศาลแล้วฉันก็จนปัญญาแล้วจริงๆ

    ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมนเธอไม่รู้จะทำยังไงเพื่อหาเงินมารักษาน้องชายให้หายจากโรคบ้าๆ นี้ได้ เลยต้องมาขอคำปรึกษาจากเพื่อน

    ฉันพูดเล่นน่ะ อารยาพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลางสไลด์หน้าจอโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของตัวเองเล่นอย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะเจอข่าวในอินเตอร์เน็ตเรื่องการประมูลพรหมจรรย์เข้าจึงสะกิดให้เพื่อนดูด้วย

    วิกาดูข่าวนี่สิ

    อะไรเหรอ ดาวิกาถาม อารยาจึงอ่านข่าวนั้นให้เธอฟัง

    นักศึกษาแพทย์อเมริกาเปิดประมูลพรหมจรรย์ โกยเงินว่าสิบเจ็ดล้านบาท! โอ้โห โลกมันไปไกลถึงขนาดประกาศขายพรหมจรรย์กันแล้วหรือเนี่ย เหอะๆ อยากจะลองบ้างไหมวิกาเผื่อจะหาเงินมารักษานทีได้เร็วๆ ไง คนพูดยังคงอารมณ์ดีเช่นเดิม

    จะบ้าเหรอแอนนี่!”

    อารยาพูดยังไม่ทันจะจบเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นทำให้ต้องเดินออกไปคุยตามลำพัง ทิ้งดาวิกาให้จมอยู่กับความทุกข์เรื่องเงินที่จะหามารักษาน้องชาย

    ดาวิกาลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปเงียบๆ ในสมองคิดวนเวียนแต่หนทางที่จะหาเงินมาใช้เป็นค่ารักษาน้องชายจนเกือบจะเป็นบ้าเป็นหลัง เมื่อถึงกลับมาถึงบ้านเห็นมารดากำลังทุบกระปุกออมสินใบสุดท้ายที่มีในบ้านน้ำตาของเธอก็แทบร่วงหล่น มองไปอีกมุมก็เจอน้องชายที่กำลังเผชิญกับโรคร้ายโดยไม่รู้ตัวส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มนั้นสดใสที่สุดจนเธอไม่อาจจะทำใจได้ถ้าหากว่ารอยยิ้มนั้นจะหายไปจากเธอ จากแม่ และยากโลกนี้ตลอด

    กาล

    พี่วิกากลับมาแล้วเหรอฮะ นทีรอตั้งนาน ร่างเล็กของเด็กชายใหม่นทีวัยห้าปีเดินเข้ามาจับมือพี่สาวตัวเองแสดงออกชัดเจนว่าดีใจมากแค่ไหนกับการมาของดาวิกา

    ร่างบางรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาทิ้งก่อนที่น้องชายจะเห็นความอ่อนแอของตัวเอง

    กลับมาแล้วค่ะ รอพี่วิกาอยู่เหรอถึงว่าทำไมยังไม่นอน

    ฮะ นทีรอเข้านอนพร้อมพี่วิกา คืนนี้เล่านิทานให้ผมฟังอีกนะฮะ พี่วิกาเล่าสนุกนทีอยากฟัง

    ได้เลยครับ พี่วิกาขอโทษที่กลับมาบ้านช้า งั้นนทีเข้าไปรอพี่วิกาในห้องนะครับพี่วิกาขออาบน้ำแป๊บ

    ฮะ ใหม่นทีก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนพร้อมหนังสือนิทานเล่มโปรด ดาวิกาค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ มองตามน้องชายไปจนลับตาก่อนจะหันไปมองมารดาที่กำลังนั่งนับเหรียญด้วยความสงสาร พอเดินไปเปิดดูข้าวในหม้อก็ไม่มีเหลือให้กรอกหม้อเลย เธอจุกจนพูดไม่ออก นี่ครอบครัวของเธอกำลังตกที่นั่งลำบากไม่มีแม้แต่ข้างสารจะกรอกหม้อเลยหรือ ดวงตากลมโตไหวระริกเออคลอไปด้วยน้ำตาต้องทุกข์ระทมไปอีกนานแค่ไหนกัน

    หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เข้าไปเล่านิทานให้น้องชายฟังจนหลับสนิท

    เช้าวันรุ่งขึ้นอาหารที่มีให้กินกันเช้านี้ก็คือเมนูไข่ทุกชนิด ตอนสายเธอก็เดินทางออกจากบ้านเพื่อหางานทำสุดท้ายก็ได้งานที่ร้านอาหารกับเจ๊แหม๋มค่าแรงก็ได้แค่วันละสามร้อยบาทเท่านั้น เงินที่ได้มาก็พอแค่ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่พอจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องชายของเธอได้เลย ดาวิกาทำงานเป็นเด็ก

    เสริฟได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องออกจากงานเพราะโดนแขกลวนลาม เจ้านายก็ไม่เข้าข้าง เธอจึงกลับบ้านมานอนร้องไห้เพียงลำพังเหมือนเดิม

    พี่วิกา ร้องไห้ทำไมฮะ ใหม่นทีถามเสียงจ้อ ยืนเกาะประตูห้องพี่สาวมองดูเพราะเห็นพี่ร้องไห้จึงไม่กล้าเดินเข้าไปข้างใน

    ดาวิกาเห็นน้องชายก็รีบหันหน้าหลบเพื่อเช็ดน้ำตาให้แห้ง ก่อนจะหันกลับมาฝืนยิ้มให้น้องชายตัวน้อยที่กำลังเดินเข้ามา

    เปล่าครับ ฝุ่นมันเข้าตาพี่วิกาน่ะครับน้ำตามันเลยไหล เธอดึงใหม่นทีเข้ามากอดแนบอกลูบผมน้องชายด้วยความรักสุดหัวใจ เห็นใหม่นทีในตอนนี้หัวตาก็ร้อนผ่าวน้ำตาจะไหลออกมาอีกรอบ เสียใจที่ไม่มีความสามารถมากพอจะหาเงินมารักษาเด็กชายในอ้อมแขนนี้ได้ ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่มีน้องชายตัวน้อยคนนี้ให้กอดอีกแล้วชีวิตของเธอคงจมอยู่กับความทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต

    นทีตัวรุมๆ ไปนอนดีกว่าเนอะเดี๋ยวจะไม่สบาย เธอดันร่างเล็กออกจากอกไล่ปลายนิ้วลงบนแก้มน้องชายด้วยความเสียใจ

    ฮะ

    ดาวิกาไปส่งน้องชายที่ห้องแล้วกล่อมให้นอนจนหลับสนิท กลับมาที่ห้องของตัวเองก็ทรุดตัวลงกับฟูกที่นอนเก่าๆ ซบหน้าลงกับแขนสะอื้นไห้อย่างฟูมฟาย

    พี่จะทำยังไงดี ฮึกฮือ พี่จะหาเงินมาจากที่ไหน ทุกข์เหลือเกิน เจ็บเหลือเกิน ที่ต้องทนเห็นคนที่รักจากไปโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ วิธีหาเงินให้ได้เยอะๆ จะมีทางไหนบ้างล่ะ

    นักศึกษาแพทย์อเมริกาเปิดประมูลพรหมจรรย์ โกยเงินว่าสิบเจ็ดล้านบาท! โอ้โห โลกมันไปไกลถึงขนาดประกาศขายพรหมจรรย์กันแล้วหรือเนี่ย เหอะๆ อยากจะลองบ้างไหมวิกาเผื่อจะหาเงินมารักษานทีได้เร็วๆ ไง แล้วจู่ๆคำพูดของอารยาก็แวบเข้ามาในหัว ถ้าเธอลองเปิดประมูลพรหมจรรย์ตัวเองบ้างละ จะมีหนทางช่วยครอบครัวเธอได้บ้างไหม แล้วผู้ชายที่จะประมูลชนะก็จะได้ตัวเธอไปเชยชม เธอไม่รู้ว่าผู้ชายประมูลจะมีหน้าตาเป็นยังไง จะอ้วนหรือสูง ดำหรือขาวเธอไม่มีทางรู้ได้ เลยไม่คิดที่จะเสี่ยงทำแบบนั้น แล้วถ้าไปขอยืมเงินแฟนเก่าของเธอคนนี้ล่ะ ภาคิม พิริยะ เขายังยินดีจะช่วยเธออยู่ไหม

     

    ภาคิมที่หญิงสาวเอ่ยถึงคือลูกชายมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันทางภาคใต้ รู้จักกันเพราะภาคิมย้ายมาเรียนมหาลัยในกรุงเทพฯ ส่วนเธอสอบชิงทุนได้เข้าเรียนโรงเรียนระดับไฮโซและเคยคบกันพักหนึ่ง พอเธอรู้ว่าฐานะของเขาและเธอต่างกันมาก ไม่อาจเอื้อมถึงจึงขอเลิกกับชายหนุ่มทั้งที่ยังรัก ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนต่อที่อื่นและไม่ได้เจอกันอีกเลย

    ส่วนด้านคนที่ดาวิกากำลังคิดถึง เพิ่งอกหักจากคนรักเก่าไปหมาดๆ เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ พอเขาตกที่นั่งลำบากหล่อนก็ทิ้งเขาไปทำเหมือนไม่เคยรักกัน ภาคิมฝังใจเรื่องความรักจนเป็นแรงผลักดันให้เขากอบกู้ธุรกิจกลับมายืนได้ใหม่อีกครั้งในเวลาอันรวดเร็ว

    ฉันสาบานจะเอาคืนพวกผู้หญิงเห็นแก่เงินให้สาสม

    ภาคิมกลายเป็นคนไร้หัวใจไปในทันที

    พายุ เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เขากำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพ

    ครับเจ้านาย บอดี้การ์ดมาดเข้มโค้งศีรษะคำนับเพื่อรอรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย

    เตรียมเอกสารที่ฉันให้ไปทำเรียบร้อยหรือยัง ชายหนุ่มถามย้ำ

    เรียบร้อยแล้วครับ เครื่องบินจะพร้อมเดินทางอีกครึ่งชั่วโมง

    ดี งั้นไปกันเลย ร่างสูงหมุนตัวซ้ายขวาจับกลับเสื้อที่รีดจนเรียบกริบให้เข้าที่ ร่างสูงหกฟุตนัยน์ตาสีดำคิวหนา ผิวเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ผมหยักศก ประกอบกันอย่างลงตัว หุ่นดูแน่นเต่งตึงบ่งบอกถึงการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี 

    ภาคิมเดินทางออกจากห้องทำงานผู้บริหารออกไปทิ้งกลิ่นหอมฟรุ้งเอาไว้ภายในห้องนั้นแทน

    …………………………………………

     

    มาต่อแล้วจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×