คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ตรวนรัก 50%
1
ตรวนรัก
“แอนนี่ พอมีงานง่ายที่ได้เงินเร็วให้ฉันทำบ้างไหม” เธอจนหนทางแล้วจริงๆ หมดหวังกับบริษัทที่ยื่นใบสมัครไปจนเริ่มท้อ น้องชายก็นอนรอความหวัง ทำให้หญิงสาวแบกหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน
อารยา หรือที่ดาวิกาเรียกแอนนี่ เป็นเพื่อนต่างสาขาที่
เธอพอจะสนิทและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
“แกร้อนเงินเหรอวิกา” ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า
“อือ ตอนนี้ฉันร้อนเงินมาก ฉันอยากหางานทำอะไรก็ได้ที่ได้เงินเร็วและเยอะๆ เธอพอจะมีงานให้ทำบ้างไหม”
“ก็พอมีนะ” อารยาทำท่าครุ่นคิดสักพักก่อนจะพูดขึ้น “ทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหารสิ เพื่อนๆ ฉันเขาทำกันได้เงินดีอยู่นะ”
“มันยังได้เงินช้าอยู่ดี” ช้ามากกับเวลาของใหม่นทีและโรคร้ายนั้น
“หรือแกจะขายตัวดีล่ะ ฮาๆ”
เสียงหวานแนะนำพูดติดตลกเพราะคิดว่ายังไงซะดาวิกาคงไม่คิดจะทำอะไรโง่ๆ ขายตัวจริงๆ ตามที่หล่อนบอกไป
“จะบ้าเหรอ ฉันซีเรียสนะแก น้องชายฉันกำลังป่วยหนักต้องใช้เงินรักษามหาศาลแล้วฉันก็จนปัญญาแล้วจริงๆ”
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ความมืดมนเธอไม่รู้จะทำยังไงเพื่อหาเงินมารักษาน้องชายให้หายจากโรคบ้าๆ นี้ได้ เลยต้องมาขอคำปรึกษาจากเพื่อน
“ฉันพูดเล่นน่ะ” อารยาพูดแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลางสไลด์หน้าจอโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของตัวเองเล่นอย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะเจอข่าวในอินเตอร์เน็ตเรื่องการประมูลพรหมจรรย์เข้าจึงสะกิดให้เพื่อนดูด้วย
“วิกาดูข่าวนี่สิ”
“อะไรเหรอ” ดาวิกาถาม อารยาจึงอ่านข่าวนั้นให้เธอฟัง
“นักศึกษาแพทย์อเมริกาเปิดประมูลพรหมจรรย์ โกยเงินว่าสิบเจ็ดล้านบาท! โอ้โห โลกมันไปไกลถึงขนาดประกาศขายพรหมจรรย์กันแล้วหรือเนี่ย เหอะๆ อยากจะลองบ้างไหมวิกาเผื่อจะหาเงินมารักษานทีได้เร็วๆ ไง” คนพูดยังคงอารมณ์ดีเช่นเดิม
“จะบ้าเหรอแอนนี่!”
อารยาพูดยังไม่ทันจะจบเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นทำให้ต้องเดินออกไปคุยตามลำพัง ทิ้งดาวิกาให้จมอยู่กับความทุกข์เรื่องเงินที่จะหามารักษาน้องชาย
ดาวิกาลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปเงียบๆ ในสมองคิดวนเวียนแต่หนทางที่จะหาเงินมาใช้เป็นค่ารักษาน้องชายจนเกือบจะเป็นบ้าเป็นหลัง เมื่อถึงกลับมาถึงบ้านเห็นมารดากำลังทุบกระปุกออมสินใบสุดท้ายที่มีในบ้านน้ำตาของเธอก็แทบร่วงหล่น มองไปอีกมุมก็เจอน้องชายที่กำลังเผชิญกับโรคร้ายโดยไม่รู้ตัวส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มนั้นสดใสที่สุดจนเธอไม่อาจจะทำใจได้ถ้าหากว่ารอยยิ้มนั้นจะหายไปจากเธอ จากแม่ และยากโลกนี้ตลอด
กาล
“พี่วิกากลับมาแล้วเหรอฮะ นทีรอตั้งนาน” ร่างเล็กของเด็กชายใหม่นทีวัยห้าปีเดินเข้ามาจับมือพี่สาวตัวเองแสดงออกชัดเจนว่าดีใจมากแค่ไหนกับการมาของดาวิกา
ร่างบางรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ร่วงหล่นลงมาทิ้งก่อนที่น้องชายจะเห็นความอ่อนแอของตัวเอง
“กลับมาแล้วค่ะ รอพี่วิกาอยู่เหรอถึงว่าทำไมยังไม่นอน”
“ฮะ นทีรอเข้านอนพร้อมพี่วิกา คืนนี้เล่านิทานให้ผมฟังอีกนะฮะ พี่วิกาเล่าสนุกนทีอยากฟัง”
“ได้เลยครับ พี่วิกาขอโทษที่กลับมาบ้านช้า งั้นนทีเข้าไปรอพี่วิกาในห้องนะครับพี่วิกาขออาบน้ำแป๊บ”
“ฮะ” ใหม่นทีก็เดินหายเข้าไปในห้องนอนพร้อมหนังสือนิทานเล่มโปรด ดาวิกาค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ มองตามน้องชายไปจนลับตาก่อนจะหันไปมองมารดาที่กำลังนั่งนับเหรียญด้วยความสงสาร พอเดินไปเปิดดูข้าวในหม้อก็ไม่มีเหลือให้กรอกหม้อเลย เธอจุกจนพูดไม่ออก นี่ครอบครัวของเธอกำลังตกที่นั่งลำบากไม่มีแม้แต่ข้างสารจะกรอกหม้อเลยหรือ ดวงตากลมโตไหวระริกเออคลอไปด้วยน้ำตาต้องทุกข์ระทมไปอีกนานแค่ไหนกัน
หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เข้าไปเล่านิทานให้น้องชายฟังจนหลับสนิท
เช้าวันรุ่งขึ้นอาหารที่มีให้กินกันเช้านี้ก็คือเมนูไข่ทุกชนิด ตอนสายเธอก็เดินทางออกจากบ้านเพื่อหางานทำสุดท้ายก็ได้งานที่ร้านอาหารกับเจ๊แหม๋มค่าแรงก็ได้แค่วันละสามร้อยบาทเท่านั้น เงินที่ได้มาก็พอแค่ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่พอจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องชายของเธอได้เลย ดาวิกาทำงานเป็นเด็ก
เสริฟได้ไม่ถึงเดือนก็ต้องออกจากงานเพราะโดนแขกลวนลาม เจ้านายก็ไม่เข้าข้าง เธอจึงกลับบ้านมานอนร้องไห้เพียงลำพังเหมือนเดิม
“พี่วิกา ร้องไห้ทำไมฮะ” ใหม่นทีถามเสียงจ้อ ยืนเกาะประตูห้องพี่สาวมองดูเพราะเห็นพี่ร้องไห้จึงไม่กล้าเดินเข้าไปข้างใน
ดาวิกาเห็นน้องชายก็รีบหันหน้าหลบเพื่อเช็ดน้ำตาให้แห้ง ก่อนจะหันกลับมาฝืนยิ้มให้น้องชายตัวน้อยที่กำลังเดินเข้ามา
“เปล่าครับ ฝุ่นมันเข้าตาพี่วิกาน่ะครับน้ำตามันเลยไหล” เธอดึงใหม่นทีเข้ามากอดแนบอกลูบผมน้องชายด้วยความรักสุดหัวใจ เห็นใหม่นทีในตอนนี้หัวตาก็ร้อนผ่าวน้ำตาจะไหลออกมาอีกรอบ เสียใจที่ไม่มีความสามารถมากพอจะหาเงินมารักษาเด็กชายในอ้อมแขนนี้ได้ ถ้าเกิดวันหนึ่งไม่มีน้องชายตัวน้อยคนนี้ให้กอดอีกแล้วชีวิตของเธอคงจมอยู่กับความทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต
“นทีตัวรุมๆ ไปนอนดีกว่าเนอะเดี๋ยวจะไม่สบาย” เธอดันร่างเล็กออกจากอกไล่ปลายนิ้วลงบนแก้มน้องชายด้วยความเสียใจ
“ฮะ”
ดาวิกาไปส่งน้องชายที่ห้องแล้วกล่อมให้นอนจนหลับสนิท กลับมาที่ห้องของตัวเองก็ทรุดตัวลงกับฟูกที่นอนเก่าๆ ซบหน้าลงกับแขนสะอื้นไห้อย่างฟูมฟาย
“พี่จะทำยังไงดี ฮึกฮือ พี่จะหาเงินมาจากที่ไหน” ทุกข์เหลือเกิน เจ็บเหลือเกิน ที่ต้องทนเห็นคนที่รักจากไปโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ วิธีหาเงินให้ได้เยอะๆ จะมีทางไหนบ้างล่ะ
‘นักศึกษาแพทย์อเมริกาเปิดประมูลพรหมจรรย์ โกยเงินว่าสิบเจ็ดล้านบาท! โอ้โห โลกมันไปไกลถึงขนาดประกาศขายพรหมจรรย์กันแล้วหรือเนี่ย เหอะๆ อยากจะลองบ้างไหมวิกาเผื่อจะหาเงินมารักษานทีได้เร็วๆ ไง’ แล้วจู่ๆคำพูดของอารยาก็แวบเข้ามาในหัว ถ้าเธอลองเปิดประมูลพรหมจรรย์ตัวเองบ้างละ จะมีหนทางช่วยครอบครัวเธอได้บ้างไหม แล้วผู้ชายที่จะประมูลชนะก็จะได้ตัวเธอไปเชยชม เธอไม่รู้ว่าผู้ชายประมูลจะมีหน้าตาเป็นยังไง จะอ้วนหรือสูง ดำหรือขาวเธอไม่มีทางรู้ได้ เลยไม่คิดที่จะเสี่ยงทำแบบนั้น แล้วถ้าไปขอยืมเงินแฟนเก่าของเธอคนนี้ล่ะ ‘ภาคิม พิริยะ’ เขายังยินดีจะช่วยเธออยู่ไหม
ภาคิมที่หญิงสาวเอ่ยถึงคือลูกชายมหาเศรษฐีบ่อน้ำมันทางภาคใต้ รู้จักกันเพราะภาคิมย้ายมาเรียนมหาลัยในกรุงเทพฯ ส่วนเธอสอบชิงทุนได้เข้าเรียนโรงเรียนระดับไฮโซและเคยคบกันพักหนึ่ง พอเธอรู้ว่าฐานะของเขาและเธอต่างกันมาก ไม่อาจเอื้อมถึงจึงขอเลิกกับชายหนุ่มทั้งที่ยังรัก ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนต่อที่อื่นและไม่ได้เจอกันอีกเลย
ส่วนด้านคนที่ดาวิกากำลังคิดถึง เพิ่งอกหักจากคนรักเก่าไปหมาดๆ เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ พอเขาตกที่นั่งลำบากหล่อนก็ทิ้งเขาไปทำเหมือนไม่เคยรักกัน ภาคิมฝังใจเรื่องความรักจนเป็นแรงผลักดันให้เขากอบกู้ธุรกิจกลับมายืนได้ใหม่อีกครั้งในเวลาอันรวดเร็ว
‘ฉันสาบานจะเอาคืนพวกผู้หญิงเห็นแก่เงินให้สาสม’
ภาคิมกลายเป็นคนไร้หัวใจไปในทันที
“พายุ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เขากำลังเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพ
“ครับเจ้านาย” บอดี้การ์ดมาดเข้มโค้งศีรษะคำนับเพื่อรอรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย
“เตรียมเอกสารที่ฉันให้ไปทำเรียบร้อยหรือยัง” ชายหนุ่มถามย้ำ
“เรียบร้อยแล้วครับ เครื่องบินจะพร้อมเดินทางอีกครึ่งชั่วโมง”
“ดี งั้นไปกันเลย” ร่างสูงหมุนตัวซ้ายขวาจับกลับเสื้อที่รีดจนเรียบกริบให้เข้าที่ ร่างสูงหกฟุตนัยน์ตาสีดำคิวหนา ผิวเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ผมหยักศก ประกอบกันอย่างลงตัว หุ่นดูแน่นเต่งตึงบ่งบอกถึงการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
ภาคิมเดินทางออกจากห้องทำงานผู้บริหารออกไปทิ้งกลิ่นหอมฟรุ้งเอาไว้ภายในห้องนั้นแทน
…………………………………………
มาต่อแล้วจ้า
ความคิดเห็น