คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ช่วยด้วย
<Chapter 3> ช่วยด้วย
ใบหน้าหวานกำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนอนนุ่มภายในห้องแห่งหนึ่งซึ่งถูกตกแต่งด้วย
ผ้าม่านสีสันสดใส ห้องนอนที่กว้างขวาง และเครื่องเรือนต่างๆที่บ่งบอกถึงฐานะของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดีว่าร่ำรวยมหาศาลเพียงใด
ร่างสูงกำลังนั่งอยู่บนเตียงนอนนั้นข้างๆร่างบาง ดวงตาคมจ้องมองร่างบางแบบนั้นนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจรู้ได้ รู้แต่ว่าเขาไม่อาจละสายตาจากร่างบางนี้ได้เลย ใบหน้าที่หลับใหลนั้นช่างน่ารักและดูสวยยิ่งกว่าหญิงที่เขาเคยพบมายิ่งนัก มือหนาเอื้อมไปเอาเส้นผมที่บดบังใบหน้าเล็กน้อยออกไป ก่อนจะเห็นใบหน้าหวานชัดๆ ยิ่งดูเท่าไหร่ก็ยิ่งหลงใหล มือหนาลูบไล้เบาๆบนใบหน้านั้น ก่อนที่ร่างบางจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“ตื่นแล้วเหรอ ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ตื่นอีกซะแล้วล่ะ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ที่นี่ที่ไหนกันเหรอ” ร่างบางถามขึ้นเมื่อมองไปรอบๆพบว่าห้องนอนนี้ไม่ใช่ของตนและน่าจะเป็นห้องของร่างสูงนี้ แม้ว่าร่างบางจะรู้อยู่แล้วว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่ก็แค่แกล้งถามออกไปเท่านั้นแหล่ะ และตัวเองก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร ยกเว้นข้อเท้าที่นอนนี้มันปวดขึ้นมาจนถึงหัวเข่าแล้ว และก็ที่หลับนานเป็นเพราะว่าแกล้งหลับจนเผลอนอนหลับไปซะเองด้วยความอ่อนเพลียเท่านั้นแหล่ะ เมื่อเห็นร่างสูงดูอ่อนโยนกับตนเช่นนั้น ร่างบางจึงรู้สึกใจเต้นแรง และไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ จนต้องรีบหลบสายตาคมนั้น
“โอ้ย!” ทันทีที่ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงนอนก็เจ็บข้อเท้าแปลบขึ้นมาทันที จนเกือบจะล้มลงไป แต่โชคดีที่ร่างสูงนั้นพยุงร่างบางเอาไว้ได้ ทั้งคู่จ้องตากันชั่วครู่ ก่อนที่ร่างสูงจะพาร่างบางไปนั่งยังเตียงนอนเหมือนเดิม
“ไหนข้าขอดูข้อเท้าให้เจ้าหน่อยนะ” ร่างสูงว่าแล้วก็ยกเท้าร่างเล็กขึ้นมาดูและก็พบว่ามันบวมและแดงมาก ก่อนจะใช้มือนั้นนวดให้ร่างบางเบาๆ ซึ่งร่างบางนั้นไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย ผู้ชายอะไรฝีมือการนวดช่างเบามือและนุ่มนวลยิ่งนัก
“ท่านเป็นใครทำไมถึงใจดีกับข้าขนาดนี้” แม้จะรู้อยู่แล้วว่าร่างสูงนั้นคือองค์ชายมินโฮ รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งแคว้นกูรยอและคือเป้าหมายของงานตน แต่ก็ถามออกไปเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย
“ข้าชื่อมินโฮ เป็นองค์ชายของที่นี่”
“อะองค์ชายหม่อมฉันขอประทานอภัยด้วยพะยะค่ะ” ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดก่อนจะก้มหัวลงคำนับ
“ไม่เป็นไรหรอกข้าไม่ถือ”
“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”
“เจ้าไม่ต้องพูดแบบนั้นกับข้าก็ได้” ร่างสูงพูดก่อนจะจับใบหน้าให้ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมา
“หามิได้พะยะค่ะ”
“ว่าแต่เจ้า ชื่ออะไร และเป็นใครมาจากไหน และทำไมถึงได้วิ่งมาตัดหน้าขบวนข้าอย่างนั้นได้”
“หม่อมฉันชื่อคิมคิบอมพะยะค่ะ มาจากหมู่บ้านเล็กๆชื่อนัมจาอยู่ทางตอนใต้ของแคว้น ” ร่างบางหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะเริ่มพูดอีกครั้ง
“ข้ากำลังหนีพวกโจรที่ตามล่ามาเพื่อปล้นระหว่างที่กำลังเดินทางมาที่เมืองหลวงนี้เพื่อมาหางานทำ”
“ถ้างั้นเจ้าก็มาทำงานอยู่ในวังกับข้านี่แหล่ะ เดี๋ยวข้าจะฝากเจ้าเข้าทำงานเอง”
“ขอบพระทัยองค์ชาย”
“อยู่กับข้าสองต่อสองพูดกับข้าธรรมดาก็ได้ถือซะว่าเราเป็นเพื่อนกัน นับจากนี้ไปเจ้าก็เป็นเพื่อนข้านะ เข้าใจมั๊ย?”
“ข้าเข้าใจ”
“ใช่แล้วพูดอย่างนั้นแหล่ะ เราจะได้ไม่ดูห่างเหินกันคิมคิบอม”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ณ ตำหนักของสนมคัง ภายในวังกูรยอ
“ได้ข่าวว่าไอ้องค์ชายนั่นมันช่วยคนคนหนึ่งมาใช่รึไม่”
“พะยะค่ะ” ทหารรับใช้ตอบ
“มันเป็นใครทำไมองค์ชายนั่นถึงได้แต่งตั้งให้มันเป็นพระสหายอีกทั้งให้ทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามอีก”
“เป็นเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านทางตอนใต้ของแคว้นพะยะค่ะ”
“แสดงว่ามันต้องมีดีอะไรแน่ๆ ไม่งั้นมันอาจจะรวมหัวกันคิดอะไรบางอย่างเป็นแน่” สนมคังพูดด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าเคียดแค้นองค์ชายมินโฮมากเพียงใด
“คอยจับตาดูมันทั้งคู่ไว้ รวมถึงลูกชายของท่านขุนนางคิมและขุนนางลีนั่นด้วยเข้าใจไหม”
“รับทราบพะยะค่ะ”
“เจ้าออกไปทำงานได้แล้วข้าจะพักผ่อน และเรียกองค์ชายชานซองมาพบข้าด้วยนะ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่จินกิเดินทางมาถึงเมืองหลวงก็รีบไปสมัครในการเข้าประลองเป็นองครักษ์คนใหม่ทันทีซึ่งวันนี้เป็นวันรับสมัครวันสุดท้ายพอดีและอีก 3 วันข้างหน้าการประลองจึงจะเริ่มขึ้น
เขามีเงินไม่มากนักจึงหาห้องพักได้ไม่ดีเท่าไหร่แต่ก็พออยู่ได้สำหรับเขา หลังจากนั้นเขาก็ได้ออกมาเดินเที่ยวชมตลาดในเมืองหลวงซึ่งมีสินค้าหลากหลายมากมายเต็มไปหมด
อีกด้านนึงของตลาด
“ท่านพี่จงฮยอนข้าอยากได้อันนี้น่ะ ซื้อให้ข้าหน่อยสิ” ร่างเล็ของแทมินว่าแล้วก็เดินไปกอดแขนออดอ้อนพี่ จนผู้ถูกอ้อนต้องใจอ่อนอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เพราะว่าเขาจะพาแทมินมาเที่ยวตลาดข้างนอกแบบนี้ทุกอาทิตย์และอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น
“ได้สิ ไหนพาพี่ไปดูหน่อยสิว่าเจ้าจะเอาอันไหน” ร่างสูงว่าแล้ว ร่างบางจึงคว้ามือพี่ชายไปซื้อของที่อยากได้ทันที
เมื่อได้ของที่ถูกใจแล้วร่างเล็กก็เดินชมตลาดไปร้านนั้นร้านนี้ไปมา จนร่างสูงเกือบเดินตามไม่ทัน จนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อจู่ๆ ทั้งคู่ก็เกิดพลัดหลงกันเพราะว่ามีผู้คนเดินสวนไปมาเป็นจำนวนมาก จงฮยอนนั้นร้อนใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นห่วงแทมินที่ไม่รู้จักเส้นทางดีสักเท่าไหร่ อีกทั้งฝีมือการต่อสู้ที่ไม่คอยได้จึงเดินหาไปมาให้ทั่ว
ทางด้านแทมินเมื่อรู้ตัวว่าพลัดหลงกับจงฮยอนก็พยายามเดินหาผู้เป็นพี่เช่นเดียวกัน แต่ด้วยความที่ไม่รู้จักเส้นทางเขาจึงเดินไปข้างหน้าโดยไร้จุดหมายท่ามกลางผู้คนมากมายที่เริ่มจะมากขึ้นเรื่อยที่ออกมาจับจ่ายของ แทมินเดินมาเรื่อยๆ จนถึงแยกแห่งหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีคนนิยมมานักเพราะว่าแถวนี้มีโจรคอยปล้นอยู่เสมอ
ทันทีที่พวกโจรที่แอบซุ่มดูอยู่เห็นแทมินเดินหลงเข้ามาและการแต่งตัวที่ดูเหมือนเป็นลูกของขุนนางผู้ร่ำรวย จึงรีบออกมาล้อมรอบตัวแทมินไว้ทันที
“พะพวกท่านเป็นใครน่ะ” แทมินพูดด้วยความกลัวเมื่อพบชายหลายคนล้อมรอบตัวไว้และหน้าตาที่ดูน่ากลัวนั่นอีก
“เฮ้หนุ่มน้อย เจ้าคงรู้นะว่าข้าต้องการอะไรนะ” หัวหน้าโจรนั้นพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาชิดตัวแทมิน
“มีอะไรก็เอามาให้พวกข้าให้หมดเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า ถ้าขืนชักช้าข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
ร่างบางสั่นด้วยความกลัว เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองมาก่อนเลย เพราะจะมีจงฮยอนอยู่เคียงข้างกายคอยคุ้มครองแทมินอยู่เสมอ
“ท่านพี่จงฮยอนท่านอยู่ที่ไหนนะ ช่วยแทมินด้วย”
“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย”
“บอกแล้วไม่ฟังใช่มั๊ย เฮ้ย!จัดการ”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ” จู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นเมื่อทุกคนรวมทั้งแทมินซึ่งหันไปมองเพราะคิดว่าเป็นจงฮยอน เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ดูหล่อเหลาทีเดียว
สำหรับตอนนี้ก็จบไปแล้วนะคะ ขอโทษแฟนฟิคทุกคนด้วยนะคะที่เอามาลงช้าไปหน่อย ตอนนี้ก็เลยแถมให้ยาวเป็นพิเศษค่ะ ยังไงก็ช่วยโหวตและเม้นให้เยอะๆด้วยนะคะ คนเขียนจะได้มีกำลังใจในการแต่งต่อค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
ความคิดเห็น