ตอนที่ 2 : แล้วแผนการร้ายกาจจึงเริ่มขึ้น
แล้วแผนการร้ายกาจจึงเริ่มขึ้น
อัยลิบคือประเทศเล็กๆ ในเอเชียที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเรื่องการท่องเที่ยวที่อนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศได้เป็นอย่างดี พระราชินีแห่งอัยลิบคือนิรัญญา หญิงสาวชาวไทยที่ถือว่าโชคดีคนหนึ่งในโลกก็ว่าได้ เพราะเธอเป็นพระชายาของสมเด็จพระราชาธิบดีอัลล์ ฟารินแห่งอัยลิบ เมื่อตอนที่พบรักกันพระราชินีนิรัญญา ซึ่งเป็นเพียงนักเขียนสารคดีท่องเที่ยว ในขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีอัลล์ เป็นเพียงเจ้าชายรัชทายาทของอัยลิบ เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ได้รับความสนใจจากชาวไทย และชาวอัยลิบ รวมทั้งสาวๆ ทั่วโลก เพราะเป็นความรักต่างฐานันดร พูดง่ายๆ นิรัญญาก็คือซินเดอเรลล่าคนหนึ่งที่สาวๆ หลายคนยังฝันอยากที่จะเป็นนั่นเอง
และยังเป็นหญิงสาวที่หนุ่มๆ หลายคนชื่นชม นอกจากจะสวยถึงขั้นเคยเป็นนางเอกภาพยนตร์มาก่อนเมื่อครั้นยังเป็นวัยรุ่น เธอยังเป็นหญิงสาวที่มีความงามแบบธรรมชาติ รวมทั้งนิสัยใจคอที่เรียบง่าย สมถะ และชอบทำงานช่วยเหลือสังคม
“มิน่า นายภูรินถึงชอบ” อารภาวางบทความเกี่ยวกับพระราชินีแห่งอัยลิบลงบนโต๊ะข้างตัว
ตั้งแต่วันที่เธอได้ยินถ้อยคำสนทนาของวัชระกับพี่ชายปากร้ายของเขาในห้องนั่งเล่นที่เกล็ดดาวรีสอร์ต อารภาก็พุ่งความสนใจไปยังหญิงสาวที่วัชระเอ่ยเย้าพี่ชายของเขาทันที
ถึงแม้ว่าการที่จะทำให้ใครสักคนเปลี่ยนสเปกผู้หญิงในฝันนั้น มันเป็นเรื่องยาก แต่เธอก็จะลองทำดู เพราะนอกจากจะเป็นหนทางเดียวที่คิดออกว่าจะเล่นงานภูรินได้ แต่ยอมรับว่างานนี้มันท้าทายความสามารถ พอๆ กับการแอ็กติ้งในบทที่ยากๆ หรือต้องแสดงในสิ่งที่ห่างไกลตัวตน เพราะถ้าชนะก็คือได้แก้แค้นผู้ชายปากร้ายและใจแคบคนนั้นได้สำเร็จ
ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักที่เธอต้องทำให้ได้ อารภามั่นใจว่าไม่มีพลาดอยู่แล้ว ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็ตายด้วยความสวย เซ็กซี่ร้อนแรงของผู้หญิงทั้งนั้น ถ้านายนั่นไม่เป็นเกย์หรือหันหน้าเข้าสู่ธรรมะจนใกล้บรรลุ ก็ต้องตกหลุมพรางเสน่ห์ของเธออยู่แล้ว
หลังกลับจากการถ่ายแบบที่เกล็ดดาวรีสอร์ตได้สามเดือน อารภาก็สามารถเคลียร์งานละคร รวมทั้งงานอื่นๆ ได้หมด จากนั้นก็งดรับงานหนึ่งเดือนเต็มๆ เพื่อพักผ่อนเหมือนเช่นทุกปี ปกติเธอจะเลือกเวลาพักยาวช่วงฤดูหนาวมากกว่า ทว่าปีนี้เธอเลือกกลางฤดูร้อนพอดี สถานที่เหมาะสำหรับพักผ่อนจะเป็นที่ไหนไม่ได้ นอกจากทะเล และต้องเป็นทะเลที่เกล็ดดาวรีสอร์ตเท่านั้น
หญิงสาวได้จองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางความงุนงงของพี่อั๋น หรืออมร ผู้จัดการส่วนตัว เพราะรู้ดีว่าเธอไม่ได้ชื่นชอบที่นั่นเท่าไรนัก เคยบ่นว่ามันเป็นเกาะที่เล็กเกินไป แต่อารภาก็ยืนยันที่จะไปพักที่นั่น และกำชับอมรว่าห้ามบอกนักข่าวหรือใครทั้งนั้น แต่เธอเองก็บอกเพียงครอบครัวที่อยู่เชียงใหม่ และเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
ดาริกา นางร้ายคนดังของวงการบันเทิง ที่รับรู้แผนการของเธอทั้งหมด แม้อีกฝ่ายจะคัดค้าน เพราะมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่เธอจะเอาคืนภูริน ด้วยการพาตัวไปใกล้ชิดสนิทสนมเพื่อทำให้เขาตกหลุมรัก แล้วสลัดทิ้งอย่างไม่ไยดีว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหลและน้ำเน่าเกินไป แต่อารภาก็ยังดื้อรั้นจะทำตามแผนให้ได้
“แกอยากเล่นงานเขาจริงๆ หรือว่าแกอยากอยู่ใกล้เขากันแน่หือแอ้ม” อีกฝ่ายเคยถามไถ่เธออย่างแคลงใจ
“ฉันจะเล่นงานเขาเท่านั้น ไม่เคยอยากอยู่ใกล้เขาจริงๆ หรอก แกไม่รู้หรอกดาวว่าตอนที่ฉันได้ยินเขาพูดจาดูถูกเหยียดหยามราวกับฉันเป็นพวกโสเภณี ขายเนื้อหนังมังสา โห จุกจนน้ำตาจะเล็ด ถ้าไม่ได้เอาคืน ฉันนอนตายตาไม่หลับแน่ๆ”
“เวร ต้องระงับด้วยการไม่จองเวรนะแอ้ม”
“ย่ะ แม่นางร้ายที่แสนดี” ใครๆ ก็รู้ว่าดาริกานั้นเป็นนางร้ายแค่อยู่ในจอ นอกจอนอกจากเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้แล้ว ยังศึกษาเรื่องธรรมะ ยามว่างเว้นจากงานแสดงเธอก็เข้าวัดปฏิบัติธรรมทันที
“รู้แล้วจะทำไมล่ะแอ้ม มันจะเป็นการผูกกรรมต่อกันเปล่าๆ”
“แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันเป็นนางเอกที่ร้าย
กว่านางร้ายร้อยเท่า!”
“คอยดูเถอะ สิ่งที่แกโยนใส่คนอื่นนั้น มันก็เหมือนเราขว้างบูมเมอแรงออกไป สุดท้ายมันก็ย้อนกลับมาที่ตัวเราเอง”
“ถึงแกจะเทศนายังไง ฉันก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก เรื่องอื่นพอหยวนได้ แต่เรื่องนายภูริน ฉันปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้จริงๆ ยังไงผู้ชายคนนั้นต้องได้รับบทเรียนที่อาจหาญมาดูถูกฉัน” เมื่ออารภาเอ่ยอย่างหนักแน่นแบบนั้น ดาริกาก็เลยได้แต่ยิ้มบางๆ เอื้อมไปบีบมือเพื่อนสาว
“งั้นก็ดูแลตัวเองนะ แล้วฉันออกจากวัดเมื่อไหร่จะโทร. ไปหา”
“จะคอยแล้วกัน”
สองสาวนัดแนะกันเรียบร้อยดาริกาก็เข้าวัดปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดเมื่อสองวันก่อน ในขณะที่อารภากำลังจะเดินทางไปยังเกล็ดดาวรีสอร์ตในอีกสองวันข้างหน้า แต่คืนนี้เธอจะทิ้งทวนงานชิ้นสุดท้ายก่อนเดินทางไปเกาะเกล็ดดาวคืองานเดินแบบเครื่องเพชรยี่ห้อดัง
ปกติอารภาจะรับงานเดินแบบน้อยมาก เพราะเธอไม่ใช่นางแบบโดยอาชีพ แต่จะมีรับเฉพาะร้านเสื้อหรือเครื่องประดับของคนรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมากกว่า ร้านเพชรที่เธอจะต้องเดินแบบให้ในค่ำคืนนี้เป็นของพี่สุเมธ เพื่อนสนิทของผู้จัดการส่วนตัวของเธอนั่นเอง
หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะให้ทันไปซ้อมเดินในตอนบ่ายที่โรงแรมชื่อดังย่านสุขุมวิท ขณะกำลังจะเดินออกจากห้อง โทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น
“พี่แอ้มคะ มีช่อดอกไม้สวยๆ ส่งมาให้ค่ะ จะลงมารับเองหรือว่าให้นิดส่งขึ้นไปให้คะ” นิดหรือนิภาลัย คือพนักงานต้อนรับของทางคอนโดมิเนียม ที่อารภาให้ความสนิทสนมมากกว่าคนอื่นๆ เพราะนางเอกสาวชื่นชอบความน่ารักช่างพูดและดูแลข้าวของต่างๆ ที่ทางแฟนคลับส่งมาให้เธอเป็นอย่างดี หญิงสาวก็มีสิ่งตอบแทนให้กับความน่ารักของนิภาลัยอย่างสม่ำเสมอ
“จากใครล่ะ”
“เจ้าเดิมค่ะ”
“โยนทิ้งไปเลยจ้ะนิด ขอบใจนะที่โทร. บอก” อารภาวางหูโทรศัพท์ลง ก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋าถือเดินตรงออกจากห้องพักสุดหรูของคอนโดมิเนียมใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
แม้สาวๆ ในวงการ ร่วมทั้งเศรษฐีรุ่นใหม่ชื่นชอบอยู่คอนโดมิเนียมหรูกลางเมือง ที่มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน หรือใกล้ห้างสรรพสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวกกับชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง แต่อารภาที่มีภาพลักษณ์นางเอกสาวเซ็กซี่ ร้อนแรงและชอบปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนสนิทอยู่บ่อยครั้ง แต่เวลาส่วนตัวเธอก็ชอบที่จะอยู่ในสถานที่เงียบๆ ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลายอย่างแท้จริง และคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ทดแทนบ้านที่อยู่เชียงใหม่ที่แม่ริม บ้านหลังใหญ่ที่แสนอบอุ่น
ครอบครัวของเธอเป็นเจ้าของรีสอร์ตใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม ฐานะทางบ้านอยู่ในระดับดีมาก เธอกับพี่ชายเรียนด้านการบริหารมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งคู่ เวลานี้พี่ชายเธอดูแลรีสอร์ต ส่วนพ่อกับแม่ก็อยู่ในวัยพักผ่อนสบายๆ กับชีวิตบั้นปลาย
ส่วนอารภารักงานในวงการบันเทิง เพราะมันเหมาะกับเธอ นอกจากอารภาจะเป็นคนหน้าตาดีมาตั้งแต่เกิด ด้วยเป็นคนผิวขาวอมชมพู มีหน้าเรียวรูปไข่ เครื่องหน้าเหมาะเจาะลงตัว จะมีเพียงดวงตาที่เคยหลบในตั้งแต่ยังเป็นเด็กเท่านั้นที่เป็นจุดด้อยที่สุด ซึ่งตอนนี้เธอก็ทำให้มันสวยครบสูตร แต่ไม่วายถูกพวกที่เห็นใครสวยและดีกว่าไม่ได้ซุบซิบว่าเธอไม่ได้ทำแค่กรีดตา แต่ทำทั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นจมูก ปาก คางและหน้าอก
อันหลังนี่เป็นสิ่งที่รับไม่ได้อย่างแรง เพราะแม่ให้มาทั้งนั้น! และมันก็ทำให้เธอกลายเป็นนางเอกสาวเซ็กซี่เบอร์หนึ่งของเมืองไทยมาตลอดหลายปี
แต่อย่างว่าถ้าจะพิสูจน์จมูกว่าธรรมชาติแท้ๆ หรือไม่ ก็ได้ด้วยการบิดจมูกเป็นรูปจมูกหมู ส่วนปากก็เอารูปสมัยเด็กๆ มาเปรียบเทียบได้ แต่หน้าอกนี่สิ จะพิสูจน์ด้วยการให้ใครมาจับหรือคลำก็ใช่ที่ จึงเป็นสิ่งที่ยังทำให้พวกช่างเม้าท์ โดยเฉพาะคนหน้าอกไข่ดาว กับคนที่หน้าอกกลมบ๊อกเป็นลูกมะพร้าว แม้นอนหงายก็ไม่เสียทรง ก็ยังคงเม้าท์กันอย่างไม่เลิก แต่ช่างเถอะคนอย่างอารภาไม่แคร์ขี้ปากพวกขี้อิจฉา ยกเว้นปากของผู้ชายที่ชื่อภูริน เพราะเขาเหยียดหยามเธอไปถึงงานที่เธอรักด้วย
‘หน๋อย หาว่าเอะอะจะแก้ผ้าท่าเดียว ไร้ความสามารถด้านอื่น’ ถ้าเธอนิ่งเฉยโดยไม่ทำอะไรโต้ตอบ ก็ไม่ใช่แอ้ม อารภาอย่างแน่นอน!
พอมาถึงโรงแรมที่นัดหมาย โดยมีผู้จัดการของอารภารออยู่ก่อนแล้ว ก่อนเข้าไปในห้องซ้อมเดิน ทั้งสองเลือกอาหารญี่ปุ่นเป็นมื้อกลางวัน
“จะทำยังไงกับคุณดุสิตดี นี่ก็ส่งดอกไม้มาให้แอ้มอีกแล้ว” อารภาเปรยขึ้นด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“ก็รับไว้ตามมารยาทเถอะ เพราะเขาก็ไม่ได้ทำมากกว่านั้นไม่ใช่เหรอ”
“ให้นิดรับไว้ตามมารยาทแล้วค่ะ” อารภาพูดติดประชด
“พี่เองก็ลำบากใจเหมือนกัน แต่ถ้าเขายังไม่รุกมากไปกว่านี้เราก็เฉยๆ ไว้ก่อน”
“ก็แอ้มกลัวข่าวมันจะเล็ดลอดไปสิคะ ทุกวันนี้นักข่าวหูตาเป็นสับปะรด”
“ที่นั่นไว้ใจได้ไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ สำหรับนิดนั้นแอ้มไว้ใจว่าคงไม่เอาไปพูดต่อที่ไหน แต่ถ้าบังเอิญคนอื่นมารับดอกไม้ตอนที่นิดไม่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วแอบพลิกดูชื่อคนส่งมาให้ แล้วพูดต่อไป มันจะไม่ดีสิคะ”
อมรทำหน้าเครียดกับคำพูดของนางเอกสาวในสังกัด ซึ่งเขาดูแลเรื่องงาน และรวมไปถึงเรื่องส่วนตัวที่มันจะมีผลต่องานที่เขารับผิดชอบ
คงไม่ต้องมานั่งวิตกแบบนี้ หากว่าดุสิตจะไม่ใช่คนที่มีครอบครัวแล้ว และภรรยาของเขาก็คือเพลินตา อดีตนางเอกไฮโซฯ ชื่อดัง ที่มีภาพพจน์เรียบร้อยอ่อนหวาน กิริยามารยาทสมกับมีเชื้อมีสายผู้ดีเก่า แล้วยังเป็นถึงลูกสาวของรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ แม้ตอนนี้เพลินตาจะไม่ได้รับงานแสดง แต่ก็มีงานโฆษณาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เด็กๆ ทั้งอาหารและของใช้ออกมาเรื่อยๆ ตามบทบาทของคุณแม่คนเก่ง
ในวงการบันเทิงไทยนั้น แม้ดาราหรือคนในวงการบันเทิงคนไหนจะคบหาและเลิกรา เปลี่ยนแฟนกันเดือนละคน คบหาวนเวียนกันในกลุ่มเพื่อนนักแสดงด้วยกัน ก็ไม่มีใครต่อว่า แต่หากเมื่อใดที่มีข่าวว่าไปเป็นมือที่สามของครอบครัวคนอื่น ยิ่งคนอื่นที่ว่านั้นเป็นคนมีชื่อเสียงที่สามารถเล่นงานอีกฝ่ายกลับได้ด้วยแล้ว ข่าวจะยิ่งครึกโครม และถูกประณามหยามเหยียดจากผู้คนราวกับเป็นเชื้อโรคร้ายแรง รวมทั้งถูกแบนจากผู้ใหญ่ในวงการจนงานหดหาย หรือไม่ก็ต้องโกอินเตอร์ไปหางานที่ประเทศอื่นทำ อารภายังอยากจะทำงานอยู่ในเมืองไทยอย่างมีความสุขเช่นที่เคยเป็น เพราะฉะนั้นดุสิตคือตัวอันตรายที่เธอควรจะหนีห่างให้มากที่สุด
อมรเป็นผู้จัดการดาราที่เด็กในสังกัดที่ล้วนเป็นนักแสดงระดับต้นๆ ของเมืองไทยทั้งนั้น เขาร่ำรวยและโด่งดังจากอาชีพนี้ แล้วคนที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จในงานตัวเองก็คืออารภา เพราะฉะนั้นเธอไม่เพียงเป็นขุมทรัพย์ของเขาเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือนคนในครอบครัวที่จะต้องดูแลอย่างดีที่สุด
“พี่ว่าที่แอ้มหลบไปพักผ่อนที่เกาะเกล็ดดาวก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้เหมือนกัน” อย่างน้อยก็เพื่อให้กระแสข่าวมันซาไปก่อน เพราะการปฏิเสธอยู่ฝ่ายเดียว โดยที่ดุสิตยังตื๊อไม่เลิก มันก็ไม่ได้ผลอยู่ดี
“แอ้มก็ว่ายังงั้น” อารภาเออออ ทั้งที่จริงๆ แล้วที่เธอหลบไปพักผ่อนถึงเกาะเกล็ดดาวด้วยมีเป้าหมายอื่นเป็นหลัก แต่เรื่องนี้อมรไม่ควรรับรู้ ไม่อย่างนั้นคงยื่นคำขาดให้เธอล้มเลิกความตั้งใจอย่างแน่นอน
“แต่ยังไงคืนนี้แอ้มคงต้องทนไปก่อนนะ เพราะคุณดุสิตคงมาในงานคืนนี้อยู่แล้ว”
“เลิกงานแล้วแอ้มจะชิ่งกลับบ้านเลยค่ะ ไม่ไปปาร์ตี้กับทีมงานหรอกค่ะ ยังไงพี่อั๋นก็ต้องบอกพี่สุเมธให้เข้าใจแอ้มด้วยนะคะ กลัวเข้าใจผิดว่าแอ้มเลี่ยงปาร์ตี้ของเขา”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก พี่คุยกับพี่สุเมธแล้ว เขาเข้าใจว่าพรุ่งนี้แอ้มต้องเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน”
“งั้นก็โล่งใจค่ะ”
ทั้งสองพูดคุยกันกระทั่งกินมื้อเที่ยงอิ่ม จึงเดินเข้าไปในห้องเพื่อซ้อมเดินแบบ ซึ่งมีนางแบบและนายแบบทยอยกันมาบ้างแล้ว นางเอกสาวส่งยิ้มทักทายพร้อมรับไหว้เพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่า รวมทั้งยกมือไหว้คนที่มีอายุมากกว่าเธออยู่หลายคน จากนั้นก็เข้าไปทักทายเจ้าของงานที่กำลังพูดคุยอยู่กับออแกไนซ์
“แอ้มทานอะไรมาหรือยัง” สุเมธถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นเรามาคุยเรื่องงานกันเลยนะแอ้ม”
“ได้เลยค่ะพี่”
งานนี้อารภาได้เป็นคนใส่เครื่องเพชรราคาสูงที่สุดในงาน ที่ออกแบบโดยจิวเวลรี่ดีไซเนอร์ชื่อดังของอังกฤษ ซึ่งสุเมธเชื้อเชิญให้มาออกแบบเพื่องานแฟชั่นในค่ำคืนนี้โดยเฉพาะ
ชายหนุ่มโยนหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งอ่านเสร็จลงบนโต๊ะตรงหน้า หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่เขารับประจำ ดันมีข่าวของนางเอกเซ็กซี่คนดังกับดุสิต ในภาพข่าวนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกเขยนักการเมืองชื่อดังกำลังยื่นช่อดอกไม้ให้หลังงานแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรในโรงแรมที่ดุสิตเป็นเจ้าของ ขณะนางเอกสาวยิ้มรับจนดวงตาเป็นประกาย เนื้อข่าวยังแซวว่าทั้งสองออกไปจากโรงแรมด้วยกัน ข่าวนี้คงสร้างความฮือฮา
ให้กับคนอ่านไม่น้อย เพราะผู้ชายที่นางเอกสาวเป็นข่าวด้วยเป็นคนมีครอบครัวแล้ว
จริงๆ ภูรินไม่เคยสนใจข่าวดาราหรือไฮโซฯ ที่ไหน โดยเฉพาะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของใคร หากว่าอารภาไม่ใช่คนที่จองบ้านพักใน
เกล็ดดาวรีสอร์ตเป็นเวลาหนึ่งเดือน ซึ่งกำลังจะเดินทางมาถึงที่นี่ในวันพรุ่งนี้
ตอนแรกเขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดอารภาถึงได้จองห้องบ้านพักเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เพราะเกล็ดดาวรีสอร์ตก็เป็นเพียงเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรศิวิไลซ์ให้นางเอกสาวมาเดินเฉิดฉาย จะว่าเจ้าหล่อนชอบความสงบเงียบของที่นี่ก็ดูไม่เข้ากับสาวปาร์ตี้เกิร์ลของเธอนัก
และนั่นทำให้เขาครุ่นคิดอยู่หลายวัน กระทั่งจู่ๆ ดวงตาพร่างพรายของเธอผุดขึ้นในห้วงคิด ชายหนุ่มมั่นใจว่านางเอกสาวไม่ได้จะต้องการมาพักผ่อนที่เกล็ดดาวเพียงย่างเดียวแน่นอน อารภามีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง และเขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร หากไม่ทำความวุ่นวายให้รีสอร์ต เขาก็ไม่สนใจนักหรอก แต่ถ้าตั้งใจมาป่วนที่นี่หรือมีจุดประสงค์ไม่ดี เขาจะตะเพิดเธอกลับก่อนกำหนด
ภูรินสลัดเรื่องที่ครุ่นคิดออกจากหัว ก่อนจะหันไปสนใจเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะกองใหญ่กระทั่งเที่ยงเขาจึงเดินออกจากห้องทำงาน
หลังมื้อเที่ยงภูรินอดไม่ได้ที่จะเข้าไปตรวจตราความเรียบร้อยที่กระท่อมปีกไม้ที่มีชื่อว่ากระท่อมพลิ้วไหว ซึ่งนางเอกสาวจองไว้
เกล็ดดาวรีสอร์ตมีที่พักแบบเป็นตึกอยู่สองหลัง และมีกระท่อมปีกไม้หลังเล็กกระจัดการจายอยู่สิบกว่าหลัง
ภูรินไม่เข้าใจว่าหญิงสาวท่าทางเปรี้ยวจัดอย่างอารภาชอบกระท่อมหลังเล็กๆ นี้ นั่นทำให้ภูรินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงใครอีกคนขึ้นมาไม่ได้ ทั้งที่เขาควรจะลืมเธอไปแล้ว แต่แปลกที่ไม่ได้คิดถึงด้วยความรู้สึกอันเจ็บปวดแต่อย่างใด มีความหม่นหมองบางอย่างเคล้าอยู่ในความรู้สึกอยู่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าการรับรู้ว่าหญิงสาวมีความสุขดีกับการใช้ชีวิตที่ประเทศอัยลิบกับผู้ชายที่เธอรัก แถมยังทำงานตามความฝันได้อยู่ เขาก็พลอยมีความสุขไปกับหญิงสาวด้วย
นิรัญญา หญิงสาวที่เป็นน้องสาวของน่าน เพื่อนสนิทของเขา ซึ่งเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของเกล็ดดาวรีสอร์ต เธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่ภูรินคุ้นเคย ผูกพันด้วยมากที่สุด เพราะเขารู้จักเธอมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น นิรัญญาเป็นผู้หญิงที่สวยอย่างธรรมชาติ มีนิสัยใจคอเรียบง่าย ชอบเดินทาง อาชีพนักเขียนเรื่องท่องเที่ยวในต่างแดนจึงเหมาะกับนิรัญญามากที่สุด กระทั่งปีกแห่งอิสระนั้นได้พาเธอโบยบินไปพบกับใครบางคน และคนคนนั้นก็ทำให้ปีกของเธอกลายเป็นพันธนาการรัก
บัดนี้นิรัญญากลายเป็นราชินีเคียงคู่สมเด็จพระราชาธิบดีอัลล์แห่ง
อัยลิบ หญิงสาวที่ภูรินเก็บซ่อนไว้ในใจด้วยความคิดถึงและชื่นชม ภูรินฝันไว้ว่าหากมีใครพอที่จะทำให้เขารักได้ ผู้หญิงคนนั้นก็ควรมีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกับเธอบ้างไม่มากก็น้อย
หลังตรวจตราความเรียบร้อยภายในกระท่อม ภูรินก็เดินออกมานั่งที่เฉลียง ทอดสายตาไปยังท้องทะเล เหม่อมองออกไปไกลลิบเห็นเรือที่พาเหล่านักท่องเที่ยวออกไปดูปะการังน้ำตื้น บนชายหาดมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศพากันเดินเล่นด้วยทีท่าสบายๆ
ชายหนุ่มยิ้มบางเมื่อเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งยืนอยู่บนชายหาด ฝ่ายชายคุกเข่าลงกับผืนทราย แล้วพูดอะไรบางอย่างพร้อมกับยื่นบางสิ่งให้หญิงสาว ไม่นานเธอคนนั้นก็ยกมือปิดปาก จากนั้นก็รับของจากชายหนุ่ม ก่อนจะโผเข้ากอดคนรักไว้ แล้วฝ่ายชายก็อุ้มร่างบางหมุนไปรอบๆ ตัว ครั้นทั้งสองแลกจุมพิตอย่างดูดดื่ม
ภูรินแทบไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าเกล็ดดาวรีสอร์ตจะเป็นสถานที่โรแมนติคพอที่คู่รักจะมาขอแต่งงานกัน โดยเฉพาะกลางวันแบบนี้ เพราะถ้าเป็นตอนกลางคืนที่ดาวเต็มฟ้า มองเพียงแสงไฟจากเรือประมง รวมทั้งคลื่นสีขาวฟูฟองในความมืดก็ว่าไปอย่าง แต่ภาพที่เห็นก็เป็นคำตอบที่ดี ชายหนุ่มยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนเดินไปยังอาคารต้อนรับ พนักงานของรีสอร์ตกำลังวุ่นกับการต้อนรับแขกที่ทยอยเข้ามาเช็คอิน รวมทั้งที่กำลังจะเช็คเอ้าท์ออกไป ภูรินเดินไปนั่งที่ล็อบบีเพียงครู่เดียว วาลินี หัวหน้าฝ่ายต้อนรับของเกล็ดดาวรีสอร์ตก็เดินเข้ามาหา
“คุณภูจะรับกาแฟไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวสักพักจะกลับห้องทำงานแล้ว ว่าแต่วันนี้ทุกอย่างโอเคนะ”
“งานทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะคุณภู แต่ว่าทุกคนตื่นเต้นกันยกใหญ่ โดยเฉพาะหนุ่มๆ เพราะพรุ่งนี้คุณแอ้มจะเดินทางมาแล้ว”
“ยังไงก็อย่าตื่นเต้นจนลืมหน้าที่ของตัวเองล่ะ ที่สำคัญอย่าไปรบกวนขอถ่ายรูปนะ บางทีเขาอาจอยากมาพักผ่อนเงียบๆ”
“ค่ะ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง คุณดนัยบอกเรื่องนี้กับพวกเราแล้วค่ะ” หัวหน้าพนักงานต้อนรับสาวเอ่ยพาดพิงถึงคือผู้ช่วยของภูริน
ชายหนุ่มพูดคุยเรื่องงานในรีสอร์ตอยู่ชั่วครู่วาลินีก็ขอตัวไปทำงานต่อ ขณะที่ภูรินกำลังเดินกลับห้องทำงานโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น กดรับสายทันทีที่เห็นหน้าของคนที่ปรากฏบนจอเครื่อง
“เฮ้ยภู รีสอร์ตเราดีขนาดที่เซ็กซี่สตาร์จะไปพักอยู่เป็นเดือนๆ เลยเหรอวะเพื่อน” เสียงพูดกลั้วเสียงหัวเราะของน่านดังขึ้น ภูรินก็เลยได้แต่ขมวดคิ้ว
“รู้ข่าวเร็วนี่แก”
“ก็ โทร. ไปห้องทำงาน แกไม่อยู่ฉันก็เลยได้คุยกับดนัยน่ะ”
“แล้วไง แกจะมาต้อนรับเซ็กซี่สตาร์เมืองไทยเองไหมล่ะ”
“อยากไปเองเหมือนกันแหละ แต่ไม่ว่างว่ะต้องไปดูงานที่ภูเก็ต ยังไงแกก็ต้อนรับให้ดีล่ะกัน เผื่อเขาติดใจจะมาเที่ยวอีก”
“ก็เต็มที่นั่นแหละ”
“แกขอถ่ายรูปเขาไว้เยอะๆ สิ จะได้เอาภาพไปโชว์หน้าอาคารต้อนรับ”
“ไม่เอาหรอก”
“อะไรวะภู ดาราดังมาพักทั้งที ก็น่าจะถือโอกาสถ่ายรูปโปรโมทรีสอร์ต”
“รีสอร์ตเราดีอยู่แล้ว ห้องพักก็เต็มตลอด ยกเว้นช่วงหน้าฝนเท่านั้น เรื่องอะไรจะต้องโปรโมทอีก” พนักงานในรีสอร์ตต่างพากันตื่นเต้นที่ดาราดังจะมาพักที่นี่ ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนสนิทของเขา แต่ภูรินสังหรณ์ใจว่านางเอกสาวจะมาพร้อมกับความวุ่นวายมากกว่า เพราะแค่มาถ่ายแบบเพียงแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เขาปวดหัวแล้ว
“งั้นก็ตามใจแกก็แล้วกัน ว่าแต่เขาพักห้องไหน”
“กระท่อมพลิ้วไหว”
“ที่นั่นไม่เล็กไปเหรอวะ”
“ไม่รู้สิ เขาเลือกเองนี่หว่า”
“ท่าทางจะชอบกระท่อมเล็กๆ เหมือนรัญว่ะ” คนพูดเอ่ยพร้อมหัวเราะก่อนขอตัววางสายไป ขณะที่คนฟังนิ่งงันกับประโยคสุดท้ายของเพื่อนสนิท
ไม่มีทางที่ดาราสาวคนนั้นจะเหมือนนิรัญญา แม้อีกฝ่ายจะชอบกระท่อมพลิ้วไหวเหมือนกันก็ตาม!
:::::::::::::::::::::::::
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

266 ความคิดเห็น
-
#48 จิรารัตน์ (จากตอนที่ 2)วันที่ 29 ธันวาคม 2554 / 14:31ดุสิตน่าจะเป็นตัวปัญหานะเนี้ย#480
-
#47 วนัน (จากตอนที่ 2)วันที่ 8 ธันวาคม 2554 / 10:42น่าสนใจคะ#470
-
#46 จันทร์กะพ้อ (จากตอนที่ 2)วันที่ 5 ธันวาคม 2554 / 06:41พระเอกเกลียดนงเอกเข้าไส้ขนาดนั้นเลยหรือนี่#460