ตอนที่ 19 : ละลาย 3
เตชิดพลิกอ่านหนังสือพิมพ์ในมืออย่างสนใจ สิ่งที่นางเอกสาวคนดังบอกเขาดูเหมือนจะเป็นจริงทุกอย่าง นภันต์กำลังตกหลุมรักผู้หญิงชื่อพลอย กระทั่งตกลงจะร่วมหอลงโรง แถมผู้หญิงคนนี้ยังมีเรื่องรักพัวพันกับตรัย สามีของชญานันท์ บุตรสาวคนเดียวของหุ้นส่วนคนใหม่ของดีอาร์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์อีกด้วย ดูท่าว่างานนี้มันคงสนุกน่าดู และเขาก็เห็นหนทางที่จะเล่นงานนภันต์ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร
พอพลิกมายังหน้าข่าวการเมือง เตชิดทำหน้าเครียด ถอนหายใจเสียงดังอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อเจอข่าวของบิดาที่ทำท่าว่าจะลุกลามใหญ่โตเรื่องบ้านพักในจังหวัดทางภาคใต้ที่ถูกกล่าวหาว่ารุกล้ำเข้าไปใน
เขตอุทยาน รวมทั้งข่าวการถูกส.ส. อาทรอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าบิดาของเขารับเงินจากข้าราชการหลายรายเพื่อแลกกับตำแหน่ง แม้จะไม่มีใบเสร็จ แต่ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วของอนุภรรยาบิดา อีกทั้งเงินในบัญชีที่สูงลิ่วนับตั้งแต่บิดารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเพียงแค่ปีเดียว กลายเป็นที่จับตามองของฝ่ายค้านรวมทั้ง ป.ป.ช. ด้วย
“ตาฉันคงไมได้ฝาดไปแน่ๆ แกอยู่กับบ้านได้” เสียงทักทายดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงผอมของบิดาเดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามชายหนุ่ม
“ดูพ่อไม่ทุกข์ร้อนกับชีวิตเลยนะครับ”
“ทุกข์ไปก็เท่านั้น ว่าแต่แกเถอะ อ่านข่าวแล้วคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้
ให้มันเรียบร้อยได้ไหมล่ะ”
“ผมจะทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อส.ส. อาทรแฉซะละเอียดขนาดนั้น ทำไมพ่อไม่บอกให้เมียน้อยของพ่อใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายบ้าง นี่อะไร ขยายร้านเสริมสวยครบวงจรตั้งหลายสาขา แถมยังปล่อยเงินกู้ไปทั่ว ไม่ดูตาม้าตาเรือ” ชายหนุ่มเกลียดอนุภรรยาของบิดา ไม่มีวันยอมรับ
ผู้หญิงที่ทำตัวเหมือนปลิงที่คอยดูดเลือดคนอื่นอย่างไร้ยางอาย ยังดี หลังมารดาเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน บิดาของเขาไม่ได้เลื่อนขั้นผู้หญิงคนนั้นให้เป็นภรรยาเอก ไม่เช่นนั้นเขาคงลำบากใจมากกว่านี้ แต่เตชิดรู้เหตุผลของบิดาว่าต้องการเก็บเงินที่ฉ้อฉลจากการใช้ตำแหน่งเข้าไปในบัญชีของภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบตามขั้นตอนของผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลนั่นเอง
“อย่ากลัวไปเลยเรื่องนั้น มันไม่สามารถเล่นงานฉันได้ง่ายๆ หรอก ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานชี้ชัด ฉันก็สามารถบอกได้ว่าเงินที่อยู่ในบัญชีของคุณเอื้องมันเป็นเงินจากการทำธุรกิจร้านเสริมสวยของเขาเท่านั้น”
มันเป็นคำพูดที่เขาบอกใครต่อใครเสมอ รวมทั้งในรัฐสภาด้วย
“แล้วพ่อจะทำยังไงต่อไปล่ะ หากปล่อยให้เขาขุดคุ้ยต่อไปผมเกรงว่าเรื่องทุกอย่างคงจะแดงขึ้นสักวันนั่นแหละ คำโกหกน่ะมันใช้ไม่ได้ผลตลอดไปหรอกนะ” ชายหนุ่มแดกดันบิดาอย่างคนที่ระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่
“ก็อย่าปล่อยให้มันขุดคุ้ยต่อสิ เล่นงานมันก่อนที่เราจะพลาดท่า!” ผู้เป็นบิดาตวาดกลับแทบจะทันที
“ส.ส. อาทรเป็นคนซื่อมือสะอาด มันยากที่เราจะเล่นงานเขาได้ง่ายๆ”
“คนเราย่อมมีจุดอ่อนทั้งนั้น แกก็รู้นี่นาว่าไอ้อาทรมันมีจุดอ่อนตรงไหน” วิธีนี้เขาเคยใช้มาแล้ว และมันก็ได้ผลเกินคาด
“พ่อคงอ่านข่าวของไอ้นภันต์แล้วสินะ” เตชิดเปรยเบาๆ
“อ่านแล้ว ดูท่ามันจะรักผู้หญิงคนนี้จริงๆ ถึงขั้นจะแต่งงานด้วย ที่ผ่านมาก็ได้ข่าวว่าคั่วผู้หญิงตั้งหลายคน ไม่เห็นว่ามันจะจริงจังกับใครเลย” ทศพรสนใจทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับศัตรูตัวฉกาจของเขา
“ก็คงเป็นคราวซวยของมันแล้วละ” เตชิดนึกกระหยิ่มใจที่มองเห็นหนทางเล่นงานนภันต์ได้
“แกไปจัดการเรื่องนี้ซะ ทำยังไงก็ได้ให้ไอ้อาทรมันเลิกยุ่งกับเรื่องของฉัน” พูดแล้วแสยะยิ้มอย่างเหี้ยมโหด
“แต่อย่าบ้าส่งคนไปเก็บมันล่ะ ถ้าทำยังงั้นฉันจะกลายเป็นจุด
เพ่งเล็งขึ้นมาทันที เพราะตอนนี้ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่ไอ้อาทรมันกำลังเล่นงานอยู่” การที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลตามหน้าที่นั้นมันเป็นข้ออ้างสำหรับส.ส. อาทร ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอีกฝ่ายต้องการเล่นงานเขาเพื่อแก้แค้นเรื่องราวในอดีตมากกว่า
“ผมรู้น่าพ่อว่าควรทำอะไรบ้าง” เตชิดไม่โง่ที่จะทำอย่างโจ่งแจ้งให้ตำรวจพุ่งเป้ามาที่เขา เว้นแต่เรื่องนั้นจะทำให้เขาแค้นจนระงับใจไว้ไม่ไหว
“รู้ก็ดีแล้ว จัดการให้เรียบร้อยล่ะ เออ...ว่าแต่แกยังไปผับของ
ไอ้ภันต์อยู่หรือเปล่า”
“ไอ้ภันต์สั่งเด็กมันไว้ไม่ให้ผมเข้าไปแล้วครับ”
“แกก็พาพวกเข้าไปป่วนที่นั่นไม่ได้แล้วสิ” ในเมื่อเล่นงานพ่อไม่ได้ตรงๆ ทศพรจึงเบนเข็มไปทางลูกชายของมันแทน
“ผมมีวิธีจัดการมันได้ดีกว่านั้นแล้วกัน”
”ทำให้กระอักเลือด แต่อย่าให้ถึงตาย และจำไว้นะ ทำอะไรก็อย่าทิ้งหลักฐานไว้เด็ดขาด แม้น้อยนิดก็ไม่ได้” ทุกอย่างในโลกนี้ไม่ว่าดี
หรือเลว ถูกหรือผิดกฎหมาย ตราบใดที่ไม่ทิ้งหลักฐานไว้ก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ทั้งนั้น
“ผมไม่โง่ทิ้งหลักฐานไว้หรอกน่าพ่อ”
“ถ้าแกกลบเกลื่อนหลักฐานทุกอย่างได้ วันหนึ่งแกก็จะกลายเป็นนักการเมืองที่เก่งได้” ทศพรได้บ่มเพาะความนึกคิดเกี่ยวกับอาชีพนักการเมืองให้บุตรชายได้รับรู้อยู่เนืองๆ เพื่อวันหนึ่งเตชิดจะก้าวเดินตามรอยเขามาอย่างไม่มีอุปสรรค สามารถเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่บนถนนสายการเมืองได้อย่างคนมีเขี้ยวเล็บ ไม่ใช่หมูรอให้ฝ่ายตรงข้ามเชือด
“ผมไม่อยากเล่นการเมือง พ่อก็รู้” เตชิดเอ่ยประโยคที่เคยบอกบิดามาหลายครั้งหลายครา จนเขาเองก็รู้สึกเบื่อที่จะพูดแล้ว แต่ดูเหมือนบิดายังไม่เลิกล้มความตั้งใจเดิม
“ไม่มีอาชีพไหนที่จะดีเท่าอาชีพนักการเมืองหรอกนะเต มีเกียรติมีเงิน และมีอำนาจ ถ้าแกไม่ใช่ลูกของฉัน ใครหน้าไหนมันจะกลัวแกเหมือนเช่นทุกวันนี้ล่ะ” ทุกวันนี้เขาอยู่อย่างสุขสบายด้วยเงิน อำนาจ และบารมีก็เพราะอาชีพนักการเมือง ทศพรได้ปูเส้นทางนี้ไว้สำหรับลูกชายคนเดียวแล้ว
“ผมอยากทำธุรกิจส่วนตัวมากกว่า” เขาบอกเหมือนเช่นทุกครั้งที่บิดาพูดถึงเรื่องนี้
“เป็นเจ้าของบ่อนผิดกฎหมายน่ะเหรอ” เขารู้ว่าบุตรชายมัวเมากับการพนัน ไม่สนใจงานที่มีเกียรติอย่างเช่นอาชีพนักการเมือง
“ช่างเถอะ...พ่ออย่ามาสนใจเรื่องของผมเลย” ชายหนุ่มพูดอย่างเบื่อๆ เพราะสุดท้ายเขาก็โดนบิดาตำหนิอยู่ดี
“ถ้าวันใดแกทำชื่อเสียงฉันป่นปี้ละก็ ฉันเล่นงานแกแน่ไอ้เต”
ผู้เป็นบิดาเอ่ยอย่างคาดโทษ
“พ่อห่วงเรื่องตัวเองดีกว่า ผมเกรงว่ามันจะป่นปี้หนักกว่านี้ถ้าพ่อไม่หัดดูแลการใช้จ่ายของเมียน้อยพ่อ”
อนุภรรยาของบิดาชอบทำตัวฟุ้งเฟ้อโอ้อวด ตอนมารดาของเขายังมีชีวิตอยู่ก็ชอบมาปั่นป่วนวุ่นวายในบ้าน ทำให้มารดาของชายหนุ่มเสียใจอยู่บ่อยๆ นั่นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เตชิดเกลียดผู้หญิงคนนี้
คำพูดของลูกชายทำให้ทศพรรู้สึกหงุดหงิด สองพ่อลูกจึงมองหน้ากันอย่างขัดเคืองใจก่อนแยกย้ายกันออกจากบ้าน
::::::::::::::::::::
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
