ตอนที่ 14 : ไม่อาจตัดใจ 3
“เออจูน พี่แจนอยู่หรือเปล่า” เมื่อเคลื่อนรถมาจอดหน้าประตูบ้านป้านวล แพทก็ถามขึ้น
“ไม่อยู่หรอก ไปสอนพิเศษน่ะ พี่แพทมีอะไรกับพี่แจนเหรอ เข้ามารอก่อนก็ได้นะ”
“ไม่ดีกว่า แล้ววันจันทร์เจอกันนะ”
“ค่ะ ขับรถดีๆ นะพี่แพท” จูนโบกมือให้กับชายหนุ่มที่เธอรักเหมือนพี่ชาย แล้วเดินไปกดกริ่ง เพียงครู่เดียวเท่านั้น เด็กรับใช้ในบ้านของป้านวลก็วิ่งมาเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ดีใจจังเลยที่คุณจูนมา”
“จูนจะมาอยู่ที่นี่นานเลยล่ะพี่ต้อย”
“จริงๆ นะคะ” ต้อยทำท่าดีใจจนออกนอกหน้า เพราะจูนเป็นคนช่างคุย สดใส ยามว่างก็ร้องเพลงเล่นกีตาร์กับเด็กรับใช้ในบ้านอย่างเป็นกันเอง ซึ่งไม่เหมือนแจนที่เข้มงวดจู้จี้กับทุกเรื่องในบ้าน และไม่ชอบสุงสิงพูดคุยกับเด็กรับใช้เกินความจำเป็น
จูนเข้ามาในห้องพักเพียงครู่เดียวเท่านั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอนิ่งงันไปทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเดย์ที่โทร. เข้า สงสัยคงรู้จากพี่แพทแล้วว่าจูนอยู่กรุงเทพฯ
จูนไม่รู้ว่าจะทนบังคับจิตใจตัวเองได้นานแค่ไหน ดูเหมือนพี่เดย์ไม่ยอมที่จะปล่อยให้เธอได้มีเวลาทำใจเลย จูนรู้ว่าเพราะอะไร เดย์คิดว่าเขากำลังสูญเสียคนในครอบครัว เดย์รักเธอเหมือนน้องสาวมาตลอด ซึ่งจริงๆ จูนก็ไม่ได้คิดที่จะจากเขาไปไหนเลย เพียงแค่ขอเวลาทำใจที่จะรักเขาให้เหมือนพี่ชาย เหมือนอย่างที่เธอรักแพท รักต้า แต่การไม่พบหรือพูดคุยกับเดย์ก็ทำให้จูนปวดร้าวเหมือนกัน แต่ยังไงจะต้องอดทน หากเธอไม่อยากเจ็บปวดตลอดชีวิต เพราะจูนรู้ว่าเขาคงไม่มีวันเปลี่ยนใจมารักเธอเหมือนคนรักได้ ก็เธอพยายามที่จะให้เขารักแบบนั้นมาตั้งแต่อายุ 14 จนถึงตอนนี้ก็อายุสิบแปดเข้าไปแล้ว เขาก็ยังไม่มีทีท่า
...เอ หรือว่าเธอจะพยายามต่อไปอีกนิด เพราะพี่เดย์ก็ยังไม่ได้แต่งงานนี่นา โอ๊ย ไม่ดีกว่า ขี้เกียจเจ็บใจไปตลอดชีวิต หากพี่เดย์ไม่คิดเปลี่ยนใจมารักเราแบบคู่รัก
จูนฟุ้งซ่านอยู่เพียงไม่นาน ก็เดินไปยังห้องครัว ทิ้งให้โทรศัพท์ดังอยู่ในห้องนอนแบบนั้น คิดว่าไม่นานเดย์ก็คงเบื่อที่จะโทร. เอง แต่จูนก็คิดผิด ชั่วโมงต่อมา ขณะที่จูนกำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ในห้องนั่งเล่นโดยมีพี่ต้อยนั่งร้องเพลงคลอไปพร้อมกับเธอ เดย์ก็ขับรถมาจอดหน้าบ้าน แล้วลงจากรถไปกดกริ่ง
พี่ต้อยวิ่งไปเปิดประตู เพียงครู่เดียวจูนก็เห็นเดย์มายืนอยู่ตรงหน้า เขามองเธอด้วยแววตาขึงโกรธ
“พี่เดย์!” จูนวางกีตาร์ลงข้างๆ ตัว แล้วผุดลุกจากโซฟา
“ทำไมต้องทำแบบนี้นะจูน” เดย์เดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเล็กข้างเธอ และดึงแขนจูนให้นั่งลงที่เดิม
“เราคุยกันแล้วนะพี่เดย์” จูนมองหน้าชายหนุ่มอย่างวิงวอน
“คุยกันแล้วไง พี่ไม่เห็นด้วยนี่นา ทำตัวเหมือนเดิมไม่ได้เหรอจูน” ท้ายประโยคเขาแผ่วลงจนจูนใจอ่อน
“พี่เดย์ไม่เข้าใจ” จูนถอนหายใจเสียงดัง แต่พอมองใบหน้าหม่นเศร้าของเขาแล้ว ก็รู้ดีว่างานนี้เธอทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้อีกเช่นเคย
“ก็มันเป็นเหตุผลบ้าๆ ไงไม่รู้” เดย์รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เขาไม่คิดหรอกว่าคนเราไม่เจอกันแล้วจะเลิกรักกันได้ง่ายๆ เดย์มั่นใจว่าหากสิ่งที่จูนรู้สึกกับเขาเป็นความรักจริงๆ จูนก็ไม่มีวันลืมเขาได้ แต่ถ้ามันไม่ใช่ ไม่ว่าจูนจะพบเขาหรือห่างหายกันไป จูนไม่จำเป็นต้องลืมเขา และก็สามารถรักคนอื่นได้เช่นกัน
“พี่เดย์น่าจะชอบนะ จูนจะได้ไม่กวนใจให้รำคาญไง พี่เดย์จะได้สวีทกับแฟนได้อย่างสบายใจ” คิดแล้วก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ ตาใสๆ มีรอยชื้นขึ้นมาทันที
“แฟนก็ส่วนแฟนมันไม่เห็นเกี่ยวกันเลย และไม่ว่าพี่จะรักใครก็ตาม แต่จูนก็ยังเป็นคนที่พี่รักเสมอนะ” เดย์ขยับมานั่งข้างๆ จูน เขาดึงศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมหยักยาวมาพิงไหล่ลูบเบาๆ อย่างปลอบโยน
“จูนเข้าใจค่ะพี่เดย์” จูนพูดพร้อมกับน้ำตาหยาดรินมาตามร่องแก้ม ความรักของเขาที่มีต่อเธอมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง จูนรู้ดี และต่อไปนี้สิ่งที่เธอทำได้ก็คือ...ยอมรับมันให้ได้เท่านั้นเอง
“งั้นก็เวลาที่พี่โทร. หารับโทรศัพท์พี่นะอย่าพยายามหลบหน้าด้วย ทำได้ไหม” เขาถามเสียงนุ่ม จูนพยักหน้า เดย์เอื้อมมือเกลี่ยน้ำตาบนแก้มเธอเบาๆ
“อยากให้รู้นะ ว่าในโลกนี้ความรักของพี่ที่มีต่อใครอื่น อาจเปลี่ยนแปลงและหดหายได้ในวันหนึ่ง แต่ความรักของพี่ที่มีให้กับจูน มันจะเป็นความรักที่ไม่มีจุดจบ”
“จูนรู้น่า” ใช่ จริงๆ ก็น่าจะภูมิใจอยู่หรอก ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเป็นความรักที่เป็นนิรันดร์ของเขา แต่นั่นมันเป็นความรักที่มีให้กับคนที่ถือว่าเป็นคนในครอบครัว เขารักเธอเหมือนน้องคนหนึ่งนั่นเอง แต่จูนยังโหยหาความรักแบบหนุ่มสาว ความรักที่สามารถถ่ายทอดความอบอุ่นลึกซึ้งบางอย่างที่เธอเคยฝันถึง และพาลอิจฉาผู้หญิงทุกคนที่ได้รับความรู้สึกนั้นจากเดย์ แม้จะรู้ว่าความรักแบบนั้นอาจจบลงในวันหนึ่งก็ตาม
“ร้องเพลงให้พี่ฟังหน่อยสิ” เดย์หยิบกีตาร์ยื่นให้จูน
“พี่เดย์อยากฟังเพลงอะไรคะ” จูนย้อนถามเสียงใส ความเศร้าค่อยๆ เลือนหาย เธอวางกีตาร์ที่ตักของตัวเอง
“อยากฟังเพลงริมขอบฟ้า” จูนยิ้มจนแก้มปริ ความเศร้าโบยบินไปจากหัวใจเธอแล้ว เพราะเพลงริมขอบฟ้า เป็นเพลงที่จูนแต่งขึ้นเพื่อเขานั่นเอง
ริมขอบฟ้าอยู่ไกลลิบ
ดาวกะพริบแสงอยู่ไกลห่าง
จันทราสาดส่องเลือนลาง
แต่หัวใจไม่อ้างว้างเพราะมีเธอ
เดย์มองนิ้วยาวเรียวที่ขยับเปลี่ยนคอร์ดไปมาอย่างคล่องแคล่วตามจังหวะเพลง เขายิ้มออกมาอย่างผ่อนคลาย เดย์คิดว่าจูนเล่นกีตาร์ได้เก่งกว่าเดิมมาก มั่นใจว่าจูนจะก้าวไปบนถนนสายดนตรีได้อย่างสวยงาม นอกจากเป็นเด็กสาวที่หน้าตาสวย รูปร่างสูงบางดูประเปรียวแล้ว จูนยังแต่งเพลงเป็นและเล่นกีตาร์ได้ ซึ่งจะทำให้โดดเด่นขึ้นมาได้จากนักร้องวัยรุ่นคนอื่นๆ
“พี่เดย์หิวไหม” จูนเอ่ยขึ้นเมื่อเสียงเพลงท่อนสุดท้ายจบลง รู้สึกมีความสุขที่ได้ยินเสียงปรบมือและแววตาที่ชื่นชมของเขา
“หิวเหมือนกันนะ เมื่อเช้าพี่ยังไม่ได้ทานอะไรเลย นอกจากกาแฟแก้วเดียว” ชายหนุ่มบอก แล้วเขาก็เห็นหน้าใสๆ บึ้งตึงขึ้นมาทันที
“พี่เดย์น่ะบอกหลายครั้งแล้วว่าต้องกินข้าวให้ครบสามมื้อ ยิ่งมื้อเช้านี่สำคัญที่สุด”
“บ่นเป็นยายแก่” เดย์ว่าแล้วเอื้อมมือยีผมหยักยาวให้ยุ่งเหยิง
“ก็จูนเป็นห่วงพี่เดย์ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาอีกล่ะ อ๋อ หรือแน่ใจว่า
มีคนดูแล ป่วยก็คงไม่เป็นไร” นึกถึงแฟนของเขาขึ้นมาแล้ว จูนก็รู้สึกแปลบปร่าในใจทุกที สงสัยชาตินี้เธอคงทำใจเรื่องนี้ไม่ได้แน่ๆ ยิ่งเขามานั่งอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ แถมยังมองเธออย่างรักใคร่ เอ็นดู
...เฮ้อสงสัยเราคงเป็นทาสรักพี่เดย์ไปจนวันตายแน่ๆ เลย
“ก็แน่นอน ถ้าพี่ไม่สบาย จูนก็ต้องมาดูแลพี่อยู่แล้ว หรือจะให้พี่นอนป่วยตายอยู่คนเดียว” เดย์พูดเสไปอีกทาง รู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มจะงอแงหาเรื่อง
“เวลาพี่เดย์ป่วยก็คงอยากให้พี่ฟ้าดูแลมากกว่าจูน” น้ำเสียงราบเรียบหากแต่เจือร่องรอยน้อยใจนั้นทำให้เดย์ยิ้มขัน
“ไปเถอะ ไปหาอะไรกินข้างนอกกันดีกว่า อย่ามัวแต่พูดเรื่องไร้สาระอยู่เลย” ชายหนุ่มหยิบกีตาร์จากอ้อมแขนอีกฝ่ายไปวางไว้ที่มุมห้อง แล้วเดินมารั้งแขนจูนเพื่อที่จะออกไปข้างนอกด้วยกัน แต่จูนแสร้งขืนตัวไว้ เพราะอยากให้เขางอนง้อกว่านี้
“ไปเถอะน่า” เดย์ออกแรงฉุดเต็มแรง มีผลทำให้ร่างบางปลิวเข้ามาในอ้อมแขนของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวและตั้งใจ เดย์ก้มหน้าลงเพื่อจะเอ่ยคำขอโทษ หากแต่ใบหน้าสวยใสก็เงยขึ้นเพื่อต่อว่า จังหวะนั้นเองที่ริมแก้มของจูนกระทบเข้ากับเรียวปากอุ่นของเขาพอดิบพอดี
“อุ๊ย!” เธออุทานแก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันที
“พี่ขอโทษ” เดย์เอ่ยเสียงแผ่ว รีบปล่อยร่างเธอให้เป็นอิสระ
“ไม่เป็นไรค่ะ” จูนเดินลิ่วไปยังข้างนอก เดย์นิ่งงันเพียงครู่ ก่อนเดินตามไปอย่างเหม่อลอย
ใช่ว่าเขาจะไม่เคยหอมแก้มหรือจูบแก้มของจูน แต่นั่นมันเมื่อตอนที่จูนยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่แสนออดอ้อนและเขาก็เอ็นดูพวงแก้มใสๆ ของเธอ แต่เมื่อเดย์เริ่มโตเป็นวัยรุ่น เขาก็ไม่เคยทำแบบนั้น อย่างดีก็แค่กอด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยามที่อีกฝ่ายร้องไห้หรือมีเรื่องไม่สบายใจมากกว่า
เดย์รู้ว่าจูนโตเป็นสาวแล้ว เขาจะปฏิบัติกับเธอเหมือนเมื่อครั้งเป็นเด็กหญิงอีกไม่ได้ ถึงแม้จูนจะบอกว่ารักเขามากกว่าความเป็นพี่น้อง แต่เดย์ก็ไม่เคยเชื่อและปักใจยึดถือคำพูดนั้น หรือทำอะไรรุ่มร่ามกับเธอเกินความเป็นพี่น้อง เดย์เชื่อว่าความรักของจูนที่มีต่อเขา มันไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว เดย์คิดว่าจูนสับสน ยังไม่พบใครบางคนที่จะทำให้เธอแยกความรักกับความผูกพันได้มากกว่า
และเมื่อใดที่จูนพบใครคนนั้นแล้ว เขาก็จะเป็นเพียงพี่ชายของเธอจริงๆ
::::::::::::::
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ
ปล. เรื่องนี้มีอีบุ๊คแล้วนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
