คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 การเกิดพายุทำให้เจ้าหญิงและเจ้าชายได้รู้จักกัน
“เอ้าโว้ย พวกเราดึงเสากระโดงเรือเอาไว้เร็วตอนนี้พายุกำลังมา”เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นทำให้เจ้าหญิงเฟลิโอน่าหลุดออกจะภวังค์
“เอ้าดึงนะ 1..2..3 ดึง”เสียงหนึ่งที่ยังสั่งอยู่เพื่อให้ลูกเรือได้ดึงเสาของเรือสำเภา
ที่มีผ้าใบอยู่
ตอนนี้เจ้าหญิงเฟลิโอน่ายังคงทำอะไรไม่ถูกจึงรีบกระโดดลงไปอยู่ในน้ำ แต่ก็แค่โผล่ดวงตาสีน้ำตาลออกมาที่บริเวณผิวน้ำเพื่อยังคงดูเหตุการณ์ต่อไป
“กระโดดลงน้ำเร็วทุกคนเรือจะแตกแล้ว”สุรเสียงที่ดังออกมาจากปากเจ้าชายที่เงียบมานาน
ตอนนี้ทุกคนก็กำลังรีบว่ายน้ำไปตรงฝั่งอย่างโดยเร็ว ยังคงเหลือแต่เจ้าชายที่ยังไม่ลงมา สร้างความเป็นกังวลให้กับเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเป็นอย่างมาก(ตอนนี้เจ้าหญิงยังไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่เธอแอบชอบเป็นเจ้าชายนะ ^0^) ที่ตอนนี้เจ้าชายยังไม่ลงมาก็เพราะยังหาสุนัขของตนเองไม่เจอ คือเจ้าลาบาดอร์ เดอะเกรทที่4ซึ่งเป็นสุนัขที่เจ้าชายองค์นี้รักเป็นอย่างมาก
“เจ้าลาบิ้น เจ้าอยู่ที่ไหน”เสียงตะโกนของเจ้าชายเรียกเจ้าสุนัขลาบาดอร์ เดอะเกรทที่4
“โฮ่งๆๆ” เสียงของเจ้าลาบิ้นขานตอบรับกับเจ้าชาย ราวกับมันรู้ว่าเจ้าชายกำลังหามันอยู่
(อย่างว่าอ่ะนะสุนัขพันธุ์ดีของคาโนวาลก็อย่างนี้แหละ ผสมตั้งหลายสายพันธุ์ถึงได้ฉลาด หุๆๆๆ)
(ขอบอกอีกนิดหน่อย สมมตินะว่าเมืองคาโนวาลอยู่ติดกับริมทะเลนะ แหะๆๆคือว่าเรื่องนี้เมืองของพระเอกจะอยู่ตรงริมชายหาดเลยอ่ะ เลยต้องขอการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยเพื่อจะได้สมจริงของเรื่อง ขอโทษนะคะที่ขัดจังหวะการอ่านหุๆๆๆ)
“ลาบิ้น อยู่เฉยนะเดี๋ยวเราจะไปช่วยเจ้าเอง”เสียงของเจ้าชายบอกกับเจ้าสุนัข
ว่าแล้วเจ้าชายก็ไปช่วยเจ้าลาบาดอร์ให้พ้นจากเรือที่กำลังจะอับปางได้ แต่ด้วยความอ่อนหล้าของร่างกายที่ต้องแบกเจ้าสุนัขลาบิ้นที่ตัวแสนจะใหญ่มากๆในน้ำและก็น้ำหนักก็เยอะด้วยเลยทำให้ร่างของเจ้าชายได้จมลงในน้ำทันที ส่วนสุนัขก็ได้ทหารนายหนึ่งช่วยไว้ได้(อ้าวทำไม่ไม่ช่วยเจ้าชายหล่ะ : เสียงแทรกมาจากไหนก็ไม่รู้ ก็เพราะว่าทหารคนนั้นไม่ทันได้สังเกตุไงล่ะว่าเจ้าชายจมลงน้ำไปแล้ว คงนึกว่าเจ้าชายคงจะขึ้นไปถึงฝั่งแล้วกระมัง)
เมื่อเจ้าหญิงที่แอบดูอยู่ห่างๆเห็นดังนั้นจึงรีบดำน้ำลงไปช่วยชายหนุ่ม(เจ้าชาย)ในทันที
แล้วก็พาร่างของชายหนุ่ม(เจ้าชาย)ขึ้นสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย(หรือเปล่า) เมื่อเจ้าหญิงดูทีท่าว่าจะไม่ฟื้นขึ้นและรู้ว่าคงจะสำลักน้ำ รีบร่ายมนต์ใส่ชายหนุ่มผมสีเงินในทันที
แล้วทันใดนั้นชายหนุ่มจึงได้ฟื้นขึ้นมาอย่างอ่อนแรง นัยน์ตาสีฟ้าลืมขึ้นอย่างช้าๆ
พลันก็เห็นนัยน์ตาโตสีน้ำตาล จึงรีบรุดขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วด้วยอาการตกใจอย่างเป็นที่สุด
“เจ้าเป็นใครกัน”ชายหนุ่มถามอย่างงุนงงเมื่อเห็นสาวน้อยที่ไหนก็ไม่รู้นั่งอยู่ตรงหน้า
“เราคือเฟลิโอน่าเจ้าหญิงแห่งมหาสมุทรนี้”เสียงที่อ่อนหวานดูแล้วน่ารักมากในสายตาของชายหนุ่มผู้นี้
“ยินดีที่ได้รู้จักพะย่ะคะ หม่อมฉันคือเจ้าชายคาโลจากเมืองคาโนวาลที่อยู่ตรงหน้าพระองค์พะย่ะคะ”เจ้าชายคาโลพูดแล้วก็ชี้วังที่อยู่ตรงหน้าของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าให้ดู
ซึ่งก็เป็นทางด้านหลังของเจ้าชายคาโล(นึกภาพเอาเองนะจ๊ะ^0^)
“ขอบพระทัยมากเลยพะย่ะคะที่ช่วยหม่อมฉัน” เจ้าชายยังคงพูดต่อ
“หากมีอะไรให้หม่อมฉันช่วยพระองค์ได้เสมอนะพะย่ะคะ”เจ้าชายก็ยังคงพูดต่อโดยไม่สนใจว่าเจ้าหญิงที่อยู่เบื้องหน้านั้นจะมีสีหน้าเป็นสีแดงแล้ว
กรี้ดสุภาพบุรุษมากๆๆๆ
หล่อแล้วยังนิสัยดีอีก เฮ้อชาตินี้จะได้เจอเจ้าชายรูปงามคนนี้อีกไหมนะ
เสียงที่ดังอยู่ในใจของเจ้าหญิงเฟลิโอน่ากำลังร้องลั่น
“เจ้าชายหม่อมฉันหาพระองค์มาตั้งนาน ทรงหายไปไหนมาพระเจ้าค่ะ”เสียงจากบุรุษที่มีนัยน์ตาสีม่วงและผมสีดำตะโกนเรียก ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่า “คิลมัส ฟิลมัส”พระสหายของเจ้าชายคาโล
“เรากำลังคุยอยู่กับ....”เสียงของเจ้าชายคาโลตั้งชะงักลงเมื่อเจ้าหญิงที่อยู่ตรงหน้านั้นหายไปเสียแล้ว
“ไหนกันเจ้าชาย ไม่เห็นมีใครเลยสงสัยทรงจะละเมอแล้วล่ะ”เสียงแซวเล่นๆจากพระสหายคิล
“เจ้าไม่เชื่อเราเลยงั้นรึ” เจ้าชายคาโลพูดอย่างเย็นชาจนคนฟังสะดุ้งเฮือก
“เชื่อพระเจ้าค่ะ แต่ว่าหม่อมฉันไม่เห็นใครเลยซักคนนี่พระเจ้าค่ะ”เสียงที่ตอบกลับอย่างหวาดเสียวในหัวใจของคิล เมื่อยามที่มองเห็นสายตาอันจะกินเลือดกินเนื้อของเจ้าชายเบื้องหน้า
“................”ไม่มีเสียงที่เล็ดลอดออกจากปากเจ้าชายคาโล มีแต่อากาศที่ค่อยๆเย็นลงเรื่อยๆๆๆ จนหนาวสั่นกันทั้งหมด ยกเว้นเจ้าชายคาโล วาเนบลี
ความคิดเห็น