คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่1 ความลับของมิเชล
ณ โรงอาหารดราก้อน
“พี่สเตฟานวันนี้ฉันสูงเท่าพี่แน่นอน”ตอนเช้าขึ้นมาเรนนี่ก็พูดทักทายพี่ชายตัวเองแบบนี้ทันที
“อะไรยัยเรนนี่ มันจะเป็นไปได้ได้ยังไง บ้าจริงเลยเธอเนี่ย”สเตฟานพูดพลางเขกหัวน้องสาวตัวเองอย่างแรง
“โอ๊ย ไอ้พี่บ้าคอยจับตาดูให้ดีแล้วกัน”เรนนี่พูดพลางหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมา
“อะไรยัยบ๊องส์แล้วใครให้มาล่ะนั้น เดี๋ยวจะฟ้องท่านแม่กับท่านพ่อ”สเตฟานพูดแล้วก็หันไปกินข้าวต่อ
“เอาเลย แหวนวงนี้ท่านตาเป็นคนให้ฉันมา”เสียงจากที่ใสกลายเป็นเสียงทุ้มๆขึ้นมาทันที ทำให้สเตฟานและอันโตนีโอ้หันไปมอง ในที่สุดทั้งสองก็ตกตะลึงจนพ่นข้าวใส่หน้ากัน
“แค่กๆๆ ยัยเรนนี่เธอเล่นบ้าอะไรเนี่ย ทำไมถึงกลายเป็นผู้ชายได้ล่ะ”
“ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรมาก แค่นี้ฉันก็สูงเท่าพี่แล้ว วะฮะ ฮ่าๆๆ”เรนนี่พูดพลางเดินหนีไปทันทีทิ้งไว้แต่พี่ชายทั้งสองที่กำลังงงและตกใจ
“พี่อันโตนีโอ้ อย่าบอกนะว่ายัยเรนนี่เอาแหวนของท่านแม่มาเล่นอ่ะ”
“แต่เธอบอกหนิว่าท่านตาให้มา”อันโตนีโอ้พูดพลางทำสีหน้าสงบแล้วกลับมากินข้าวต่อ
“นี่เดรันโก้ ทำไมวันนี้นายไม่มาช่วยฉันถือของห๊า”เสียงด่าแว้ดๆดังขึ้นที่หลังป้อมอัศวินในยามเช้า
“ชู่ว์....เบาๆสิเดี๋ยวคนอื่นก็รู้เรื่องของพวกเราหรอก”
“เชอะ ไม่สนงอนแล้วด้วย”มิเชลสะบัดหน้าหนี
“ลัลล้า ลัล ลัล ล้า ล้า ฮู้ ฮู~”เรนนี่ในร่างชายที่เดินมาได้ยินบทสนทนาเข้าเลยแอบฟัง
“โถ่ มิเชลอ่ะอย่างอนไปเลยนะ”
(“พี่น้องสองคนนี้หนิทำอะไรกันทำไมต้องง้อขนาดนี้ด้วยทีเรายังไม่เห็นง้อแบบนี้เลย”)เรนนี่คิด
“ก็กระเป๋ามันหนักมาก รู้มั้ยว่ากว่าฉันจะได้มาเรียนที่นี่นะต้องหมดค่าเรียนพิเศษตั้งเท่าไหร่เพื่อที่ได้มาคุมนายโดยเฉพาะเลย แถมยังต้องหลอกคนอื่นอีกว่าเป็นน้องสาวของนายอ่ะ”
(“ห๊า นี่มิเชลไม่ได้เป็นพี่น้องสาวของเดรันโก้หรอเนี่ย”)
“แหม เธอก็รู้ฉันไม่นอกใจเธอหรอก”
(“ไม่นอกใจ รึว่า
”)
“นายน่ะมันตัวเจ้าชู้เลย พ่อกับแม่นายเองก็บอกแบบนั้นฉันไม่น่าแต่งงานกับนายเลย ปวดหัวชะมัด”
(“แต่งงาน มะ หมายความว่า เดรันโก้ ก็คือสามีของมิเชล”)
“ฉันรักเธอคนเดียวจริงๆนะ มิเชลถ้าหากฉันนอกใจเธอขอให้ฟ้าผ่าตายเลย”
(“ไม่อยู่แล้ว......ขอกลับเข้าเรียนดีกว่า”)เรนนี่จึงเดินกลับเข้าป้อมไปโดยร่างที่เป็นชาย
“นี่นายเป็นใครอ่ะ”เสียงดังขึ้นข้างหลังทำให้เรนนี่หันหลังไปตามเสียงที่ดังขึ้น
“โห่ โรมานซ์ฉันตกใจแทบแย่มาโพล่อะไรข้างหลังแบบนี้”
“แล้วนายล่ะเป็นใคร รู้จักชื่อฉันได้ไง”โรมานซ์พูดพลางมองเรนนี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นายตามฉันมานี่”เรนนี่พูดพลางลากโรมานซ์ไปด้วยในที่ที่ไม่มีคน
“เฮ้ย นายจะลากฉันไปไหนเนี่ย”โรมานซ์พยายามที่จะปล่อยมือเรนนี่อยู่ตลอดทางแต่ไม่เป็นผล
“เอาล่ะ นายคอยดูให้ดีนะ”เรนนี่ชูมือขึ้นแล้วก็รูดแหวนออกจากนิ้วมือ จากชายหนุ่มก็กลายเป็นหญิงสาวในทันที ผมที่สั้นก็ยาวขึ้น จากความสูงที่สูงเท่าเขาก็กลายเป็นเตี้ยกว่าเขาเพียงแค่ไหล่
“เป็นไง จำฉันได้รึยัง”จากเสียงทุ้มๆก็กลายเป็นเสียงใสๆตามแบบฉบับเรนนี่
“ทะ ทำไมนายถึงกลายเป็นผู้ชายโดยที่ไม่มีกลิ่นอายเวทมนต์เลยล่ะ”โรมานซ์ถามอย่างตกตะลึง
“ฮ่าๆขนาดคนฉลาดอย่างนายก็ยังไม่รู้เลยหรอเนี่ย”เรนนี่หัวเราะจนลืมความเป็นเจ้าหญิง ก่อนจะกลับมาทำตัวเรียบร้อยเช่นเดิม
“อะ ขอโทษที แหวนวงนี้ท่านตาเอามาให้ฉันตอนฉันครบรอบอายุ 15 พอดีท่านตาบอกว่าวงนี้เป็นของท่านแม่ แต่ท่านแม่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้แล้วก็เลยคืนมาให้กับท่านตา แล้วท่านตาก็เลยให้ฉันต่อแทน”
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง”โรมานซ์พูดก่อนจะเดินออกไปทันที
(“ฉันเห็นว่าเป็นนายนะถึงได้บอกเรื่องนี้ นายจะรู้มั้ยว่าฉันต้องเสียใจแค่ไหนที่นายไม่ยอมไปเยี่ยมฉันบ้างเลย นายคงไม่รู้หรอกว่าฉันคิดยังไงกับนาย”)เรนนี่คิดในใจขณะที่เดินตามหลังของโรมานซ์เข้าไปเรียนคาบแรก
“นี่ๆมิเชลอย่าหาว่าอย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ ขอถามอะไรหน่อยดิ”เรนนี่สะกิดเพื่อนสาวที่อยู่ข้างๆ
“ว่าไงล่ะ”ปากถามแต่มือของเธอก็ยังคงจดส่วนตาของเธอก็จดจ้องอยู่ที่หน้ากระดานอย่างไม่ลดละ
“เอ่อ...เธอกับเดรันโก้เป็นพี่น้องกันจริงๆหรอ”คำพูดของเรนนี่ทำให้มิเชลถึงกับชะงัก
“กะ ก็จริงน่ะสิ เธอก็รู้แล้วนี่นาแล้วจะถามทำไมล่ะ”เธอจดหนังสือต่อ
“แต่ว่าวันนี้ฉันได้ยิน เอ่อ คือฉันได้ยินที่เธอสองคนพูดกันอยู่หลังป้อมอ่ะ”
ปัง!!
“อะไรนะ!!”มิเชลตะโกนลั่นพลางเอามือทุบโต๊ะแล้วก็ลุกขึ้น เพื่อนๆทุกคนจึงหันหน้าไปมองกันเป็นตาเดียวรวมทั้งอาจารย์แม่มดวิ้งกี้ด้วย
“อะไรกันมิเชลถ้าเธอไม่เข้าใจตรงนี้ก็ถามครูดีๆได้นี่ ไม่เห็นต้องเอะอะเสียงดังขนาดนี้”แม่มดวิ้งกี้ถามด้วยความไม่พอใจ
“เอ่อ หนูขอโทษค่ะ คือว่าตรงที่อาจารย์ลบไปเมื่อกี้หนูลอกไม่ทันค่ะ”มิเชลแก้ตัวอย่างน้ำขุ่นๆ ส่วนเรนนี่ก็ได้แต่ก้มหน้างุด ไม่คิดว่ามิเชลจะตกอกตกใจขนาดนี้
“ฉันขออย่าให้เธอบอกใครได้มั้ย ขอร้องล่ะ เรื่องนี้มันเป็นความลับมากๆถ้าความแตกฉันกลัวว่ามันจะวุ่นวายน่ะ ขอร้องนะเรนนี่ นะๆๆ”มิเชลพูดวานเธอ
“ก็ได้ แต่เธอจะต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฉันฟังด้วย รวมทั้งอะควา เพราะเราสามคนจะต้องไม่มีความลับต่อกัน”เรนนี่พูดมิเชลพยักหน้าก่อนจะกลับไปจดตัวหนังสือบนกระดานต่อแต่ใจยังเต้นตุ๊บๆต่อมๆอยู่
“ครอบครัวฉันกับเดรันโก้น่ะเป็นตระกูลใหญ่ที่ไนล์ และพ่อฉันกับพ่อเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนเราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกันมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว ท่านทั้งสองเลยตกลงให้เราสองคนแต่งงานก่อนที่ฉันจะมาเรียนที่นี่ได้ไม่กี่วันเอง เพราะพ่อของฉันบอกว่าถ้าแต่งตอนนี้ถ้าสอบติดสามารถเข้าเอดินเบิร์ก(**ตอนนี้เอดินเบิร์กเปลี่ยนระบบการรับนักเรียนเข้าเรียนใหม่แล้วก็คือให้จัดการสอบเข้าและถ้าสอบติดก็จะให้นักเรียนแต่ละคนจับฉลากเวทมนต์ว่านักเรียนเหมาะสมที่จะได้ป้อมไหนอีกที**)ได้ก็จะได้ให้เดรันโก้คอยดูแลฉัน โดยที่ในขณะก่อนที่ฉันจะแต่งงานนั้นฉันต้องไปเรียนพิเศษเหนื่อยแทบขาดใจ ซึ่งการเรียนพิเศษนี้พ่อของเดรันโก้เป็นคนบังคับ เพราะว่าอย่างน้อยถ้าฉันสอบติดจะได้เข้าไปดูแลและควบคุมพฤติกรรมของเขาได้ ทั้งๆที่ความจริงน่ะเขาต้องเป็นคนมาดูแลฉัน ไม่ใช่ฉันที่จะต้องไปดูแลเขา พูดแล้วน่าโมโหถ้าฉันไม่ได้ต้องแต่งงานกับหมอนั่นนะ ป่านนี้ฉันก็นอนตีพุงอยู่ที่บ้านสบายใจเฉิ่มไม่ต้องมาเรียนให้ปวดหัวหรอก”
“อ้าวทำไมเธอต้องไปควบคุมพฤติกรรมเขาล่ะมิเชล”อะควาถามอย่างสงสัย
“ก็หมอนั่นน่ะ เอาแต่ใจตัวเองเป็นเลิศ เจ้าชู้เป็นรอง เจ้าเล่ห์เป็นหลัก แถมชอบวางแผนการอะไรต่อมินาๆแบบแปลกๆคล้ายกับคนสติไม่ดีนั่นแหละ โอย ฉันอยากจะบ้าตายนี่ฉันแต่งงานกับคนเป็นโรคประสาทรึเปล่าเนี๊ยะ”มิเชลพูดพลางกุมขมับทำให้เรนนี่และอะควาช่วยกันกอดเพื่อปลอบโยน
“ไม่หรอกน่า ถ้าเค้าสติไม่ดีจริงฉันคิดว่ามันน่าจะมีอาการอย่างอื่นนะ เธออย่าคิดมากเลย”เรนนี่พูดปลอบ
“ใช่ๆฉันก็ว่าอย่างนั้นนั่นแหละ”อะความพูดเสริม
“แล้วเธอล่ะเรนนี่-อะควา มาเรียนที่นี่มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่า”มิเชลถามเพื่นอทั้งสองคนบ้าง
“ฉันน่ะหรอ ก็ไม่มีอะไรนี่ แค่ต้องมาเรียนเพื่อที่จะได้นำความรู้กลับไปป้องครองบ้านเมือง”เรนนี่พูดอย่างภาคภูมิใจ
“ตัวฉันน่ะไม่หวังที่จะปกครองบ้านเมืองหรอก เพราะฉันรู้ว่าฉันสู้พี่ชายทั้งสองคนไม่ได้ ฉะนั้นอย่างน้อยฉันก็ขอแค่เป็นผู้ช่วยของพวกเขาก็พอแล้ว ท่านพ่อบอกกับฉันเสมอว่าฉันน่ะโตขึ้นก็ต้องแต่งงานออกไป แต่ฉันก็คงไม่ยอมหรอก ส่วนพี่ชายทั้งสองท่านพ่อบอกว่าพี่อันโตนีโอ้ ท่านพ่อจะให้ปกครองคาโนวาลทันทีหลังจากที่พวกเราเรียนจบ ส่วนพี่สเตฟานจะให้ไปปกครองที่เดมอส ท่านพ่อมักจะบอกว่าฉันน่ะจะต้องเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งอย่างท่านแม่ จะได้ไม่เจ็บช้ำมากมายแต่ทุกวันนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจที่ท่านพ่อพูดอยู่ดี และก็เป็คำพูดที่ท่านพ่อมักจะพูดบอกย้ำฉันเสมอเลยนะ”
“ชีวิตเธอนี่ก็น่าตื่นเต้นดีแฮะ ไม่มีการบังคับแต่อันโตนีโอ้และสเตฟานก็ยังคงต้องถูกบังคับอยู่ดี เธอเนี่ยสบายสุดเลยอ่ะ”มิเชลออกความเห็นเรนนี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“แต่ฉันสงสารอันโตนีโอ้นะ แต่อย่างว่าครอบครัวของเธอสบายตรงที่มีสองแขว้นที่จะต้องปกครอง ฉันเคยอ่านหนังสือมาว่าการที่จะได้ขึ้นปกครองนั้นประเทศคาโนวาลน่ะ จะต้องให้คนจากทั่วประเทศสามารถที่จะแข่งขันกับพี่ชายเธอได้นี่นา และถ้าอันโตนีโอ้ทำไม่ได้ขึ้นมาเขาก็จะต้องออกเร่ร่อนแถมยังถูกปลดจกตำแหน่งเจ้าชายอีกด้วย ส่วนเตฟานก็สบายใจเฉิ่มเพราะเฉยๆก็ได้เดมอสมาอย่างแน่ๆนอนๆ”
“นั่นสินะ”มิเชลพูดเสริม
“ฮ่าๆ พวกเธอไม่ต้องไปสงสารพี่อันโตนีโอ้หรอก รายนั้นน่ะเก่งจะตายไป ท่านพ่อก็คงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว และที่สำคัญนะ ฝีมือของเขาน่ะสามารถสู้กับท่านพ่อได้อย่างสบายๆ แต่ตอนนี้ก็ยังแพ้อยู่ดีเพราะท่านพ่อเหนือกว่า แต่ถ้าถามว่าจะมีคนอื่นมาสู้ได้รึเปล่า อันนี้ฉันก็รับปากไม่ได้หรอกขึ้นอยู่กับชะตากรรมของพี่ชายของฉันคนนี้ก็แล้วกัน”
“แล้วเธอล่ะอะความีเรื่องอะไรรึเปล่า”
“เปล่าหรอก ฉันก็แค่มาเรียนเฉยๆแบบเรนนี่นั่นแหละ ไม่มีอะไร”อะควาพูดจบก่อนจะหันไปอ่านหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้าของตัวเอง ส่วนมิเชลก็ทิ้งตัวลงนอนเตียงของตัวเอง ส่วนเรนนี่ก็นั่งทำการบ้านของตัวเองอย่งขะมักเขม้น
“เฮ้ พี่อันโตนีโอ้เอาการบ้านมาลอกหน่อยดิ”เสียงดังมาจากห้องพักนักเรียนชายห้องที่1(หรือฉายาว่าห้องรวมเจ้าชาย)
“มีปัญญาก็ทำเองดิ”อันโตนีโอ้พูดก่อนที่จะนั่งทำการบ้านของตัวเองไป
“โห ไอพี่บ้าใจร้ายเดี๋ยวไปลอกของยัยเรนนี่ก็ได้ เชอะ”
“นี่ โรมานซ์ขอฉันลอกการบ้านหน่อยดิ”สเตฟานถามชายหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสือยู่ริมหน้าต่าง
“ไหนว่าจะไปลอกของเรนนี่ไง มาลอกของฉันทำไม”โรมานซ์ในขณะที่สายตะยังไม่ละออกจากหนังสือ สเตฟานจึงทำหน้าเหยเกแบบขัดใจก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ก็ได้เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลอกของยัยเรนนี่ก็ได้ ฮ้าว ตอนนี้ขอนอนก่อนดีกว่า คร่อก”อาการหลับง่ายของสเตฟานทำให้อันโตนีโอ้และโรมานซ์มองหน้ากันต่างก็หัวเราะออกมาเบาๆพลางส่ายหัวกันอย่างระอา
ความคิดเห็น