ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Memorable Love : Chapter 6
“คุณว่าแบบนี้ดูเป็นไงครับ?”
“อืมม...มันดูเรียบไปมั้ย ฉันว่ามันน่าจะมีลายหน่อยนะ”
“ลาย? ลายอะไรล่ะครับ”
“ก็องุ่นไง...แยมองุ่นก็ต้องมีลายองุ่นสิ”
“ถูกของคุณ เดี๋ยวผมลองวาดดูละกัน”
...เห็นทำไร่ ตากแดดทั้งวัน นึกไม่ถึงว่าคุณดงเฮนี่ก็มีฝีมือในการวาดรูปเหมือนกัน เราอยู่กันที่ออฟฟิศค่ะ อันที่จริงก็คือร้านเล็ก ๆ ที่เอาไว้ขายของที่ระลึกและก็ผลิตภัณฑ์ของที่ไร่ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาซื้อบ้างประปราย แต่ส่วนมากแล้วจะใช้วิธีส่งของเข้าไปในเมืองหรือไม่ก็ต่างประเทศมากกว่า
“แบบนี้เป็นไงครับ”
“มันใหญ่ไปมั้ยคะ ใหญ่กว่าชื่อสินค้าอีกนะ”
“แล้วต้องเอาแค่ไหนล่ะครับ”
“มานี่ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
...ฉันหยิบสมุดกับดินสอมาจากมือของคุณดงเฮ เขากำลังจะทำผลิตภัณฑ์ตัวใหม่คือ แยมองุ่น เราก็เลยช่วยกันคิดว่าที่กระปุกแยมควรจะเป็นรูปหรือลายอะไรดี...เห็นความจำเสื่อมแบบนี้แต่ฉันก็เก่งศิลปะนะ อาจจะเป็นเพราะการแสดงก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ถึงจะยังจำไม่ได้ว่าเคยเป็นดารา แต่มันก็รู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องศิลปะอยู่นะ
“นี่ไง..แบบนี้สวยมั้ยคะ”
“ไหนครับ?”
“นี่ค่ะ มีรูปองุ่นอยู่ตรงนี้ แล้วก็มีโลโก้ตรงนี้...สวยใช่มั้ยล่ะ” ฉันอธิบายให้เขาฟังถึงรูปที่ฉันวาดออกมา...เก่งจริง ๆ เลยเรา
“สวยครับ...สวยมาก...น่ารักมากด้วย”
...ทำไมมีน่ารักด้วย...ด้วยความสงสัยฉันเลยเงยหน้าขึ้นมอง...>///< เขานั่งจ้องหน้าฉันอยู่ ไม่ได้มองรูปเลยด้วยซ้ำ
“คุณวาดต่อเองเลย! ฉัน..ฉันไปจัดขนมดีกว่า”
ฉันยัดสมุดกับดินสอใส่มือเขาก่อนจะลุกมาจัดขนมที่ชั้นวาง...นับวันเขายิ่งทำฉันเขินเข้าไปทุกทีแล้วนะ
..
“คุณดงเฮ!”
“ครับ”
“น้ำองุ่นในตู้แช่เหลือแค่ไม่กี่ขวดเอง...ขวดใหม่อยู่ไหนคะ ฉันจะได้เอามาเติม”
“ในลังตรงประตูหลังครับ”...มีวางอยู่ประมาณสามสี่ลัง ฉันเปิดลังที่ใกล้ที่สุดและหยิบขึ้นมาขวดหนึ่ง...แต่มันดันมีแขกไม่ได้รับเชิญเกาะมากับขวดด้วยน่ะสิ
“กรี๊ดดดด!!” จิ้งจกตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนขวดพร้อมกับจ้องหน้าฉันตาไม่กระพริบ
เพล้ง!!! ขวดน้ำองุ่นล่วงลงพื้นแล้วแตกกระจายทันที...พื้นกระเบื้องสีขาวสะอาดตาถูกอาบด้วยน้ำองุ่นสีม่วงเข้ม ส่วนจิ้งจกตัวนั้นก็กระโดดหนีความผิดออกไปทางประตูหลังร้าน
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณเจส”...คุณดงเฮวางมือจากงานตรงหน้าแล้วรีบวิ่งมาดูฉัน
“คือว่า...จิ้งจกน่ะค่ะ..ฉันตกใจก็เลยเผลอทำขวดหล่น”
“จิ้งจก?”
“ค่ะ...แต่เดี๋ยวฉันทำความสะอาดให้นะคะ ไม่ต้องห่วง”
“ไม่เป็นไรครับ ให้คนงานมาเก็บก็ได้”
“ไม่ได้ค่ะ ฉันเป็นคนทำก็ต้องรับผิดชอบ” แล้วฉันก็ค่อย ๆ เก็บเศษขวดที่แตกใส่ถังขยะ แต่ทว่า...
“โอ๊ยยย!!” เศาขวดมันบาดนิ้วฉัน TT
“เห็นมั้ยครับ..ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ...มานี่เลยเดี๋ยวผมทำแผลให้” หาเรื่องตลอดเลยฉัน
...คุณดงเฮบอกให้คนงานคนหนึ่งไปหยิบกล่องพยาบาลมาให้แล้วพาเขาก็พาฉันมานั่งที่ม้านั่งข้างหน้าออฟฟิศ
“ได้แล้วค่ะนาย”
“แล้วไปทำความสะอาดในออฟฟิศด้วยนะ”
“ค่ะ”...
“แผลไม่ลึกเท่าไหร่ แต่ฆ่าเชื้อไว้ก่อนก็ดี...แสบหน่อยนะครับ” เขาค่อย ๆ ทาแอลกอฮอล์ลงบนนิ้วฉัน ก่อนจะทายาและติดพลาสเตอร์ให้...มือเบาจัง
“เสร็จแล้วครับ”
“ขอบคุณนะคะ”
“:)))” เวลาเขายิ้มทีนี่โลกสดใสขึ้นเลยแหะ
“พี่ดงเฮ!!”
เสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็ก ๆ ที่เคลื่อนตัวมาหาเราสองคนอย่างรวดเร็ว...คูฮารานั่นเอง
“ไหนบอกว่าไม่มีอะไร แล้วทำไมต้องจับไม้จับมือกันด้วยเนี่ย!!”...อุ้ย...เราสองคนรีบปล่อยมือออกจากกันทันที
“คุณเจสโดนแก้วบาด พี่ก็เลยทำแผลให้”
“สำออยล่ะสิไม่ว่า แผลที่นิ้วเล็กนิดเดียว ทำเองไม่ได้รึไง” เธอพูดพลางมองฉันอย่างหาเรื่อง
“พี่บอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าอย่าก้าวร้าวกับคุณเจส”
“ก็ฮาราไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมาอยู่ใกล้ๆ พี่ดงเฮของฮารานี่!!” พี่ดงเฮของฮารา...แหวะ!
“พี่ไม่ใช่สัตว์หรือสิ่งของนะ เธอไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงหรือทำตัวเป็นเจ้าของพี่” กร๊ากกก..โดนเลย
“พี่ดงเฮ!!”
“ถ้าเธอจะมาโวยวายไม่มีเหตุผลแบบนี้ก็กลับไปเถอะ”
“ปกติพี่ไม่เคยไล่ฮาราแบบนี้ เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ใช่มั้ย...แกคงเป่าหูพี่ดงเฮให้เกลียดฉันล่ะสิ”
“ไปกันใหญ่แล้วค่ะ ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นและก็ไม่คิดจะทำด้วย”
“ฉันไม่เชื่อ!!”
“ว๊ายย!!”...ฮาราผลักฉันอย่างแรง แต่โชคดีที่คุณดงเฮรับไว้ได้ทัน
“กรี๊ดด!! พี่ดงเฮไปกอดมันทำไม”
“พี่พี่ขอสั่งให้เธอกลับบ้านไปเลยนะฮารา พี่ไม่ชอบคนที่ใช้อารมณ์และใช้กำลังแบบนี้...ไปครับเจสสิก้า”
แล้วคุณดงเฮก็ดึงฉันออกมา ปล่อยให้คูฮารายืนโวยวายอยู่คนเดียว...
“นังเจสสิก้า..แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
............................................................................
“นี่!! คุณพูดแรงไปรึเปล่าน่ะ” ฉันถามคุณดงเฮหลังจากที่เรากลับมาถึงบ้านแล้ว
“คุณคิดงั้นหรอ?”
“ก็..นิดนึง”
“งั้นผมตามไปขอโทษฮาราที่บ้านดีมั้ยครับ” เขาทำท่าจะลุกขึ้นจากโซฟา อยากจะไปหาก็บอกมาเถอะ ชิส์!
“ก็ตามใจ”
“คิกๆ นี่คุณงอนผมหรอ?” เขาหัวเราะเบา ๆ พลางมองหน้าฉัน
“ใครงอน?..ฉันหรอ? มั่วแล้วๆ”
“ไม่งอนก็ไม่งอน แต่ผมพูดเล่นครับที่จะไปหาฮาราน่ะ...เธอพูดไม่ดีกับคุณแถมยังทำให้คุณเจ็บอีก ผมดุเธอน่ะถูกแล้วครับ”
....นี่เขาปกป้องฉันหรอ น่ารักจัง...
“เขินหรอครับ หน้าแดงเชียว” เขาพูดพลางจ้องหน้าฉัน
“บ้า! แค่ร้อน ไม่ได้เขินซักหน่อย”...ฉันแก้ตัวพลางลูบหน้าตัวเอง...หน้าร้อนไปหมดแล้ว อย่าจ้องได้มั้ยล่ะ!!
“เจส!!” สวรรค์โปรด มีคนมาแล้ว
“ทำอะไรกันอยู่หรอครับ ทำไมเจสหน้าแดงจัง” นายคยูถามขึ้น...บางทีเห็นอะไรแปลก ๆ ก็ไม่ต้องถามไปซะทุกเรื่องก็ได้นะ
“เปล่านี่....ว่าแต่พวกคุณมีธุระอะไรกับฉันรึเปล่าคะ”
“เธอลืมไปแล้วหรอเจสสิก้าว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อช่วยฟื้นความจำให้เธอนะ...อีกอย่าง เลิกเรียกว่าคุณได้แล้ว เรียกว่าพี่ยุนอา พี่แท น้องซอ แล้วก็ไอ้คยู เหมือนที่เธอเคยเรียกไง” จริงสินะ ฉันลืมไปเลยว่าต้องต้องฟื้นความจำ
“เดี๋ยวพี่จะให้เธอดูรูปที่เราเคยถ่าย ๆ กันไว้ และพวกเราก็จะค่อย ๆ เล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับเธอให้ฟัง...โอเคมั้ย”
“ค่ะ”
“งั้นผมขอตัวไปดูงานในไร่ก่อนละกัน...สู้ ๆ นะครับเจสสิก้า” คุณดงเฮบอกกับฉันก่อนจะลงจากบ้านไป..ดูเขาซึม ๆ ไม่เห็นเหมือนเมื่อกี้เลย ยังกับว่าเขาไม่อยากให้ฉันจำอะไรได้อย่างนั้นแหละ
“เริ่มตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ เลยละกันนะ”
...ทุกคนช่วยกันเปิดรูปจากมือถือให้ฉันดู พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายให้ฉันฟัง ดูจากรูปและฟังเรื่องที่เล่าแล้วฉันคงจะสนิทกับสี่คนนี้มาก ๆ สงสารพวกเขานะ คงจะรู้สึกแย่ที่จู่ ๆ คนที่รักใคร่สนิทสนมกันก็กลับจำความทรงจำดี ๆ ที่เคยทำร่วมกันไม่ได้เลย โดยเฉพาะพี่ยุนอาที่ฉันรู้สึกได้เลยว่าเธอต้องรักฉันมากแน่ ๆ...
ฉันจะพยายามจำทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้เร็ว ๆ นะ แต่ถ้าความทรงจำฉันกลับมา มันก็คงถึงเวลาที่ฉันต้องไปจากที่นี่ ไปอยู่ในที่เดิทของฉันใช่มั้ย...
....................................................................
ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในโซล...
“เป็นไงวะ...ได้ข่าวเรื่องนางเอกคนสวยบ้างยัง” คิมแจจุงถามเพื่อนซี้ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“ยัง...แต่กูให้คนไปสืบแล้ว อีกไม่นานก็น่าจะรู้”
“ถ้ารู้แล้วมึงจะทำไงวะ ตามไปดักฉุดเธอหรอ”
“ถ้ามึงไม่คิดจะพูดอะไรมีสาระก็เงียบ ๆ ไปเลย...กูต้องการใช้ความคิด” จริง ๆ คำพูดของแจจุงก็ไม่ได้ไร้สาระไปทั้งหมด...ยุนโฮเองก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกันว่าถ้าเจอเจสสิก้าแล้วเขาจะทำยังไง
ครืดดด...ครืดดดด....ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกขึ้นมา รอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฎขึ้นหลังจากเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา
“ว่าไง!...อืมมม...ดี”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพระเอกหนุ่มสร้างความสงสัยให้กับเพื่อนซี้อย่างแจจุงอย่างมาก
“ใครวะ?”
“คนที่กูจ้างไป ตอนนี้กูรู้แล้วว่าเจสสิก้าอยู่ที่ไหน”
“แล้วไง?...เธอคงไม่กลับมาเจอมึงง่าย ๆ หรอก”...ในเมื่อยุนโฮเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจสสิก้าต้องหนีไป เธอคงไม่อยากเห็นหน้าเขาเท่าไหร่หรอก
“ใครบอกว่ากูจะรอเค้ากลับมา...กูเนี่ยแหละจะไปพาเค้ากลับมาเอง”
“เค้าคงจะยอมหรอก”
“ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว...อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ”
...ในเมื่อคุณอยากหนีผมไป ผมก็จะตามไปสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ระหว่างเราให้ถึงที่เลย...
....................................................
ครืนนน...ครืนนนน...
วันนี้อากาศไม่ค่อยดีเลย ฝนก็ทำท่าจะตกตั้งแต่เช้านี่ก็เย็นแล้วยังไม่ตกซักที...ตอนนี้ฉันเหงามากเลย พวกพี่ยุนอาก็กลับไปที่เรือนรับรองแล้ว คุณซีวอนกับพี่ลีทึกก็เข้าไปทำธุระในเมือง ส่วนคุณดงเฮ ออกไปตั้งแต่ตอนบ่ายแล้วยังไม่กลับเข้ามาเลย เป็นลมคาเถาองุ่นไปแล้วมั้ง
“คุณเจสสิก้าครับ!” เอ๋! มีคนงานคนหนึ่งตะโกนเรียกฉันอยู่ที่บันไดบ้าน
“มีอะไรหรอคะ?”
“นายให้มาตามคุณไปหาน่ะครับ” นาย? หมายถึงคุณดงเฮสินะ
“ไปทำไมล่ะ?”
“ไม่ทราบครับ แต่นายบอกให้รีบไปตอนนี้เลย..ตามผมมาเลยนะครับ” ว่าแล้วนายคนนั้นก็รีบเดินนำฉันออกไป...แต่ฉันว่าเขาแต่งตัวแปลก ๆ นะ ไม่เห็นเหมือนคนงานที่ไร่นี้เลย
เขาพาฉันมาที่โรงไม้เล็ก ๆ ที่น่าจะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ เก็บของต่าง ๆ ข้างในมีทั้งไม้ ถัง ขวด และอุปกรณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด...ด้านบนของจุดที่ฉันยืนอยู่เป็นชั้นวางของขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บพวกตะกร้าใส่องุ่นที่จะนำไปขายในเมือง...มีบันไดพาดอยู่ด้วย น่าจะเอาไว้ปีนขึ้นไปบนชั้น
“รอที่นี่แหละครับ เดี๋ยวนายก็มา”
“มั่วรึเปล่าเนี่ย คุณดงเฮเขาจะเรียกฉันมาที่นี่ทำไม”
“โชคดีนะครับ” พูดจบนายนั่นก็รีบเดินออกไปเลย ทิ้งฉันให้งงกับคำพูดของเขาที่บอกให้ฉันโชคดี...อะไรกันเนี่ย!
ครืดดดด...ฉันรู้สึกเหมือนใครเข็นหรือลากอะไรซักอย่างบนหัวฉัน...คูฮารา!!!
“โครมมม!! กรี๊ดดดด!!”
ตะกร้าเป็นสิบ ๆ ใบพร้อมใจกันล่วงลงตรงจุดที่ฉันยืนอยู่ แต่ทำไมฉันไม่รู้สึกเจ็บเลยล่ะ หรือว่าจะตายไปแล้ว...
“เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณเจส?” เสียงผู้ชายนี่ แต่ไม่ใช่คนที่ฉันรู้จักแน่นอน...แล้วทำไมเขาถึงเรียกชื่อฉันถูกล่ะ
...ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือตะกร้าหลายสิบใบที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ถึงจะไม่หนักแต่ถ้าโดนทับหลาย ๆ ใบขนาดนี้ก็คงจะเจ็บไม่น้อย พอเงยหน้าขึ้นไปข้างบนก็เห็นผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่อแต่แววตาร้ายกาจยืนมองฉันอยู่อย่างซะใจ...และเมื่อหันกลับมาดูที่ตัวเอง ก็เห็นว่าฉันอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะรู้จักฉันเป็นอย่างดี
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น