ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Memorable Love..ความทรงจำรักครั้งใหม่ของยัยซุปตาร์[sj&snsd]

    ลำดับตอนที่ #5 : Memorable Love : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 55





                   ฮ้า...ที่นี่อากาศสดชื่นจริง ๆ เลย ท้องฟ้าใส ๆ แสงแดดอ่อน ๆ และยิ่งได้อยู่บนเขาแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปอีก...ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าฉันโหยหาช่วงเวลาแบบนี้มานานเหลือเกิน


    “ตื่นแล้วเหรอครับคุณเจส...ทานโจ๊กร้อน ๆ ก่อนสิครับ” ฉันเดินไปถึงโต๊ะกินข้าวก็เจอพี่ลีทึกยกชามโจ๊กมาพอดี


    “ขอบคุณค่ะ แล้วคุณซีวอนกับคุณดงเฮล่ะคะ”


    “โอ่ย..สองคนนั้นเขาตื่นตั้งแต่ก่อนไก่โห่ รีบออกไปลุยงานในไร่ตั้งแต่เช้าแล้วครับ”...พี่ลีทึกคงพูดแบบไม่คิดอะไร แต่ฉันรู้สึกเหมือนโดนด่าเลยที่ตื่นสาย


    “แล้วพี่ทึกไม่ไปด้วยหรอคะ?”


    “ปกติก็ไปนะครับ แต่วันนี้คุณดงเฮบอกให้ผมอยู่ดูแลคุณเจสที่นี่..จริง ๆ แล้วคุณดงเฮจะอยู่เองแต่พอดีมีลูกค้ารายใหญ่มาก็เลยต้องไปพบน่ะครับ”


    “ถ้าเจสจะให้พี่ทึกพาเข้าไปในไร่ได้มั้ยคะ”


    “จะดีหรอครับคุณเจส...ผมกลัวคุณดงเฮจะว่าเอาน่ะสิ”


    “ก็อย่าให้เขารู้สิคะ เจสแค่อยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง อยู่แต่ในบ้านมันอุดอู้น่ะค่ะ” 


    “แต่ว่า...”


    “นะคะพี่ทึก...เจสสัญญาว่าจะไม่สร้างปัญหาแน่นอน ถ้าได้ออกไปข้างนอก เจสอาจจะจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองได้บ้างนะคะ”


    ...ลำพังแค่สร้อยคอที่ใส่อยู่เส้นเดียว ไม่ได้ช่วยให้ฉันจำอะไรได้เลย แค่รู้สึกคุ้น ๆ ว่าเคยใส่มาก่อนแค่นั้นเอง


    “ไปก็ไปครับ”


                   ...หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย พี่ทึกก็พาฉันมาที่ไร่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก พี่ทึกบอกว่ารถที่ฉันขับมาแล้วประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้ตำรวจเขาเก็บไปเป็นหลักฐานแล้ว ทรัพย์สินในรถแทบไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย คงจะเป็นฝีมือของวัยรุ่นแถวนี้ที่ขโมยไป...แต่ทะเบียนรถทำให้รู้ว่าฉันน่ะมาจากโซล แล้วมาทำอะไรล่ะ?


    “ถึงแล้วคร้าบคุณผู้หญิง” 


    “ว้าววว..สวยจังเลยค่ะ” 



                        พื้นที่กว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตาเต็มไปด้วยเถาองุ่นที่ถูกปลูกและจัดแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่น่าดึงดูดกว่านั้น   ก็คือพวงองุ่นลูกโตสีม่วงเข้มตัดกับใบสีเขียวสด...ใครเห็นเป็นต้องอยากลิ้มลองทั้งนั้น


    “คุณดงเฮกับคุณซีวอนช่วยกันสร้างไร่นี้มากับมือเลยนะครับ...ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มหล่อบ้านรวยที่มีดีกรีจบจากต่างประเทศจะมีความหลงใหลในธรรมชาติถึงขนาดยอมตัดขาดจากโลกภายนอกเพื่อมาดูแลไร่องุ่นแห่งนี้”


    “คุณลีทึกครับ!!” ระหว่างที่พี่ทึกพาฉันเดินดูในไร่ก็มีคนงานคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา


    “มีอะไร?”


    “ที่โรงบ่มไวน์มีปัญหานิดหน่อยครับ คุณลีกทึกช่วยไปดูหน่อยได้มั้ย”


    “ไปเถอะค่ะพี่ทึก เดี๋ยวเจสอยู่แถว ๆ นี้แหละค่ะ”


     ...พี่ทึกดูลังเลไม่อยากทิ้งฉันไว้คนเดียว นี่คุณดงเฮเขาสั่งอะไรพี่ทึกไว้เนี่ยถึงไม่ยอมให้ฉันคลาดสายตาเลย


    “ครับ”


               พอพี่ทึกไป ฉันก็เดินดูในไร่ไปเรื่อย ๆ คนงานทั้งชายและหญิงทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง แต่มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งอู้กันอยู่


    “วี้ดวิ้ววว...มาทำอะไรแถวนี้ครับคนสวย” นอกจากจะอู้งานแล้วยังขี้หลีอีก น่าจะไล่ออกซะให้เข็ด


          ฉันหันหลังจะเดินกลับทางเดิม แต่หนึ่งคนในกลุ่มนั้นมาดักหน้าฉันไว้ก่อน


    “แขนเจ็บแบบนี้ให้พี่เดินไปส่งมั้ยจ๊ะ”


    “ไม่ต้อง” ฉันจะเดินหลบมาแต่มันก็คว้าแขนฉันไว้ก่อน


    “จะรีบไปไหนล่ะ อยู่คุยกันก่อนสิ”


    “ปล่อยเธอซะ!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน พร้อม ๆ กับที่ไอ้บ้านั่นกลัวจนแทบจะหมอบลงไปกับพื้น


    “นาย!!” 


    “ผู้หญิงคนนี้เป็นแขกของฉัน กรุณาให้เกียรติเธอด้วย” คุณดงเฮพูดพลางจ้องไอ้พวกนั้นยังกะจะฉีกให้เป็นชิ้น ๆ


    “ขอโทษครับนาย..จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกครับ”...ว่าแล้วก็พากันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ขยันขึ้นมาเชียว


    “คุณมาทำอะไรที่นี่ ผมให้พี่ลีทึกอยู่กับคุณที่บ้านไม่ใช่หรอ”   ฉันก็โดนดุด้วยหรอ


    “ฉันขอให้พี่ลีทึกพามาเองแหละค่ะ”


    “แต่คุณยังไม่หายดี ทำไมถึงไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้าน”


    “ก็ในบ้านมันน่าเบื่อนี่นา ฉันอยากออกมาข้างนอก เผื่อจะช่วยงานคุณได้บ้างไง”


    “แขนก็เข้าเฝือก ขาก็แพลง แค่ไม่ทำเรื่องยุ่งผมก็พอใจแล้ว ไม่ต้องช่วยอะไรหรอก”...ฮึ่ยย! พูดตรงไปนะคะคุณลี


    “ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ฉันรับรองว่าจะไม่สร้างปัญหาแน่นอน...ว๊ายยย!”


                 ไม่ทันขาดคำ ด้วยความที่เดินไปพูดไป เจสสิก้าจึงไม่ทันระวัง เดินชนตะกร้าองุ่นใบใหญ่เข้าอย่างจัง...และก็ได้ดงเฮอีกแล้วที่คว้าตัวเธอไว้ก่อนจะหน้าทิ่มลงไปในตะกร้า แต่โชคไม่ได้เข้าข้างเสมอไป เพราะดงเฮเองก็เสียหลักล้มลงไปเช่นเดียวกัน

                 ถึงจะไม่ได้ล้มลงในตะกร้าองุ่น แต่เจสสิก้าก็ล้มลงไปบนตัวดงเฮเต็ม ๆ หน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งคืบ...ต่างคนต่างได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวของกันและกันอย่างชัดเจน


    “กรี๊ดดดด!” 



        เสียงกรีดร้องดังลั่นปลุกให้ทั้งสองตื่นจากภวังค์...เจสสิก้ารีบดันตัวเองลุกขึ้นโดยมีดงเฮช่วยพยุง 
     
    “แกเป็นใคร กล้าดียังไงมาเข้าใกล้พี่ดงเฮของฉัน!!!”



    ..............................................................


    “ความจำเสื่อม!”
             
           ...หญิงสาวหน้าตาน่ารักตะโกนขึ้นอย่างตกใจ เธอคนนี้แหละที่เป็นเจ้าของเสียงกรี๊ดในไร่เมื่อกี้ เพราะกลัวว่าคนงานในไร่จะไม่เป็นอันทำงาน คุณดงเฮจึงพาฉันและเธอคนนั้นมาที่ออฟฟิศ(นึกภาพประมาณร้านขายของฝากในไร่น่ะค่ะ) ซึ่งมีพี่ลีทึกนั่งรออยู่แล้ว


    “ใช่” คุณดงเฮอธิบายเรื่องฉันให้เธอฟัง แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ญาติดีกับฉันเลยซักนิด


    “แล้วทำไมพี่ไม่พายัย เอ้ย คุณเจสสิก้าไปหาตำรวจ หรือไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านของพี่ล่ะคะ”


    “เธอไม่เห็นหรอว่าคุณเจสบาดเจ็บอยู่”

    “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรมากนี่คะ” เธอพูดพร้อมกับมองหน้าฉัน...

          คูฮารา ลูกสาวเจ้าของโฮมสเตย์รีสอร์ทใกล้ ๆ กับไร่องุ่นแห่งนี้

    “….”  คุณดงเฮคงจะเอือมยัยนี่มาก ก็แหงล่ะ ขนาดฉันเจอครั้งแรกยังไม่ถูกชะตาเลย

    “ยังไงก็ไม่ได้...จะให้ผู้หญิงคนนี้อยู่บ้านพี่ดงเฮไม่ได้”

    “ทำไมล่ะครับคุณฮารา... ทั้งสองคนก็ไม่ได้อยู่กันตามลำพังซักหน่อย ผมกับคุณซีวอนก็อยู่ด้วย” พี่ลีทึกบอก

    “ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ผู้หญิงดี ๆ เค้าไม่อยู่ในบ้านกับผู้ชายหลาย ๆ คนหรอก”

    “คูฮารา!! พี่ว่าเธอกลับบ้านไปเถอะ...ผมฝากด้วยนะครับพี่ทึก”  พูดจบคุณดงเฮก็พาฉันขึ้นรถกลับไปที่บ้าน..ดูเขาจะโมโหเด็กฮารานั่นนะ

    “คุณกับฮาราเป็นอะไรกันหรอคะ?” ในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าถามเขาจนได้ แต่เขากำลังตั้งสมาธิกับการขับรถอยู่จึงไม่ได้สนใจฟังฉัน

    “คุณดงเฮ!”

    “ครับๆ” ฉันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เพราะกลัวเขาจะไม่ได้ยิน...แล้วทำไมเขาต้องหน้าแดงด้วยล่ะ

    “ฮารากับคุณน่ะเป็น..”

    “พี่น้องครับ! เป็นแค่พี่น้องกันครับ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ” ร้อนตัวเชียว...แต่เอ๊ะ! ทำไมเขาต้องทำเหมือนกลัวฉันจะเข้าใจผิดด้วยล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย


    ...................................................


                 คอนโดของยุนอา...สองสาวกำลังคร่ำเคร่งกับการหาเบาะแสของน้องสาวคนสวยอยู่ ณ ตอนนี้จะเรื่องงานหรือเรื่องเงินก็ไม่สำคัญแล้ว ขอแค่ให้ได้ตัวเจสสิก้ากลับมาก็พอ


    “ยัยเจสของพี่ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง ลำบากรึเปล่าก็ไม่รู้ TAT”


    “อย่ามัวแต่ร้องไห้ได้มั้ยยัยเหม่ง มาช่วยกันโทรถามเพื่อนยัยเจสหน่อยสิ”


    “เพราะแกนั่นแหละยัยเตี้ย ถ้าแกไม่รับงานเยอะแยะให้ยัยเจส น้องก็คงไม่หนีไปแบบนี้”


    “อ้าวว ไม่ช่วยแล้วยังจะมาโทษกันอีก...แกก็ไม่ต่างจากฉันหรอก ชอบจับคู่ยัยเจสกับคนนู้นคนนี้ดีนัก น้องมันเบื่อที่จะเป็นข่าวแล้ว”


    “ยังกะแกไม่เคยงั้นแหละ ฉันเห็นแกเชียร์คุณยุนโฮแทบตาย”


    “เพราะแกมากกว่า เดี๋ยวก็ขัดหน้า เดี๋ยวก็นวดตัว ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ดี...เรื่องเยอะตลอด”


    “ไอ้แท!! นี่แกหาว่าฉันจุ้นจ้านหรอ”


    “ฉันเปล่าพูดนะ แกพูดเองเออเองทั้งนั้น”


    “ฮึ่ยยย! ขออัดแกให้หายเครียดหน่อยเหอะ ย๊ากกก!!”


    ครืดดดด   ครืดดดดดด


    “ฮัลโหล!!” มือถือยุนอาดังขึ้นช่วยชีวิตแทยอนไว้ได้พอดี


    “จริงหรอ!!”


    “ได้ ๆ พรุ่งนี้เจอกัน”


    “ใครน่ะยุน แล้วทำไมต้องดีใจขนาดนั้น”


    “คยู...บอกว่าเพื่อนที่เป็นตำรวจน่ะได้ที่อยู่ของยัยเจสแล้ว พรุ่งนี้สายๆนายคยูจะพาเราไปที่นั่น”


    “ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเราแล้ว” 

                  สองสาวดีใจกันยกใหญ่ ลืมเรื่องที่ทะเลาะกันไปเมื่อกี้เสียสนิท...ถ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจสสิก้าบ้าง จะยังยิ้มได้อยู่มั้ยนะ

    .........................................


        ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! ใครมาเคาะประตูแต่เช้าเนี่ย ฮ้าวววว


    “คุณ...นี่คุณเพิ่งตื่นหรอ?” คุณดงเฮชะงักไปกับภาพที่เห็นตรงหน้า...ก็ใช่สิคะ ใครจะไปตื่นเช้าเหมือนคุณล่ะ


    “อาบน้ำแต่งตัวแล้วไปทานข้าวเช้านะครับ วันนี้ผมจะพาคุณเข้าเมือง”


    “เข้าเมือง?”


    “ครับ...คุณหมอนัดให้คุณไปถอดเฝือกที่แขนออก แล้วผมก็จะพาคุณไปซื้อเสื้อผ้าด้วย” เย้! ได้เที่ยวแล้ววันนี้


    “ค่ะ” 


    “เดี๋ยวครับ!” ฉันกำลังจะปิดประตูห้อง แต่คุณดงเฮก็เรียกไว้ก่อน


    “คะ?”


    “นอนน้ำลายยืดบ่อย ๆ ระวังจะเป็นผื่นที่หน้านะครับ คิกๆ” ห๊า!! น้ำลายยืดหรอ ตายๆๆๆ บ้าไปแล้วเจสสิก้า ปล่อยให้เขาเห็นเราในสภาพนี้ได้ไงเนี่ย


    “อ้าว...ไม่เห็นมีน้ำลายซักหยดเลย” ฉันรีบมาส่องกระจกทันทีแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย นี่เขาแกล้งฉันหรอเนี่ย...น่ารักไปแล้วนะผู้ชายคนนี้ >///<


    ...........................................


                     หลังจากถอดเฝือกเสร็จ คุณหมอก็เช็คอาการอื่น ๆ อย่างละเอียด ทุกอย่างปกติดี มีก็แต่ความทรงจำของฉันนี่แหละที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ฉันมีเรื่องไม่สบายใจอยู่เยอะ สมองเลยอยากจะลืมความทรงจำเหล่านั้นไปซะ....แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ?


    “ชอบชุดไหนก็เลือกเลยนะครับ”   ตอนนี้เราอยู่ในร้านเสื้อผ้ากันค่ะ คุณดงเฮนี่ท่าทางจะฮ็อตไม่เบา ไม่ว่าจะเดินไปไหนสาว ๆ ก็คอยส่งตาหวานให้ตลอดเลย หมั่นไส้จริง ๆ ชิส์!


    “คุณมาที่นี่บ่อยมั้ยคะ”


    “ถ้าหมายถึงเข้าเมืองก็นาน ๆ ครั้งครับ แต่ถ้าหมายถึงร้านนี้ ไม่เคยเลยครับ” ก็แหงสิ นี่มันร้านเสื้อผ้าผู้หญิงนี่นา


    “แล้วคุณไม่อยากอยู่ในตัวเมืองหรือเข้าไปอยู่ในกรุงโซลบ้างหรอ”


    “ไร่คือบ้านของผม ผมก็ต้องอยากอยู่ที่บ้านสิครับ...ถามแบบนี้แสดงว่าคุณเบื่อที่จะอยู่บ้านผมแล้วสิ”


    “เปล่าซะหน่อย...ฉันก็แค่สงสัยว่าคนรุ่นใหม่ หล่อๆ รวยๆอย่างคุณน่ะทำไมถึงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนี้” อุ๊ย! นี่ฉันชมเขาซึ่งๆ หน้าอย่างนี้เลยหรอ


    “ความสุขมั้งครับ...ผมอยู่แบบนี้แล้วมีความสุขดี ก็เลยไม่อยากจะไปที่ไหน”


    “แล้วคุณไม่กลัวขึ้นคานหรอ แถวบ้านคุณก็มีแค่ฮาราคนเดียวที่แวะเวียนมาหาคุณบ่อย ๆ แถมคุณยังปฏิเสธเธออีก...แล้วอย่างนี้คุณจะได้เจอกับสาว ๆ ที่ไหนอีกล่ะ”


    “อืมมม...ก็คุณไงครับ” พูดจบคุณดงเฮก็หยิบเสื้อผ้าสามสี่ชุดที่ฉันเลือกไปจ่ายเงิน...ทิ้งให้ฉันยืนอึ้งอยู่คนเดียว


    ...เมื่อกี้เขาพูดเล่นใช่มั้ย รู้บ้างมั้ยว่าหัวใจฉันแทบจะออกมาเต้นข้างนอกอยู่แล้ว


    “ยืนทำอะไรอยู่ครับ เดี๋ยวต้องไปซื้อของที่ซุปเปอร์อีกนะ”


    “ค่ะ ค่ะ” ยังจะมายิ้มอีก...จะฆาตกรรมหัวใจฉันหรือไงยะ!

    .......................................

                 วันนี้ที่ซุปเปอร์คนเยอะเพราะเป็นวันอาทิตย์ เราสองคนเดินเลือกของกันอยู่ซักพักฉันก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีใครจ้องเราอยู่ตลอดเวลา


    “คุณดงเฮคะ”


    “ครับ”


    “ฉันรู้สึกว่าหลาย ๆ คนมองฉันแปลก ๆ ยังกับฉันเป็นตัวประหลาด” คุณดงเฮละสายตาจากของในมือแล้วมองไปรอบ ๆ


    “ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ครับ”


    “แต่...”


    “โอเคครับ ถ้าคุณไม่สบายใจเรากลับกันเลยก็ได้” พอคิดเงินเสร็จเราก็ช่วยกันหิ้วของขึ้นรถ จริงๆแล้วฉันแทบไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะคุณดงเฮเอาไปถือเองหมด แหะๆ


    “เป็นไปได้มั้ยคะว่าพวกเขาจะรู้จักฉัน”...ฉันถามเขาเมื่อเราขึ้นมาบนรถ ฉันสงสัยจริงๆนะ


    “คุณไม่ใช่คนแถวนี้ ถ้าพวกเขารู้จักคุณก็แสดงว่าคุณต้องเป็นคนดังพอสมควรเลยนะครับ”


    “แล้วทำไมพวกเขาถึงมองฉันแบบนั้นล่ะ แถมยังซุบซิบกันอีกด้วย”


    “คงเป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นคุณมาก่อน...หรือไม่คุณอาจจะเป็นดาราดังก็ได้”


    “น่าจะเป็นเหตุผลแรกมากกว่านะคะ”


    ....ใกล้ประตูทางเข้าซุปเปอร์ มีแผงขายหนังสือพิมพ์เล็ก ๆ ตั้งอยู่ พาดหัวข่าววันนี้มีข่าวของเจสสิก้าพร้อมรูปของเธอเสร็จสรรพ แต่ด้วยความรีบทำให้ทั้งดงเฮและเจสสิก้าไม่ทันสังเกตเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น...สวรรค์คงยังไม่อยากให้เธอกลับไปเผชิญโลกแห่งความเป็นจริงอันวุ่นวายล่ะมั้ง

     



    ไรเตอร์กลับมาแล้ว!! แต่เอาแค่นี้ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวเย็นๆมืดๆจะมาต่อที่เหลือให้

    แอบเห็นมีคนถามว่าทำไมพวกดงเฮถึงไม่รู้จักเจสทั้งๆที่เจสเป็นดาราดัง...นั่นสิ ไรเตอร์ก็งงอยู่    ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นค่ะ...

    คือไร่ของดงเฮเนี่ย อยู่ห่างไกลความเจริญมากๆๆๆๆ แทบจะไม่ได้ติดต่อโลกภายนอกเลยนอกจากเรื่องธุรกิจ  และด้วยความที่เป็นผู้ชาย  ทำงานในไร่ตลอด ก็เลยไม่ได้มีเวลามาสนใจพวกเรื่องบันเทิง ทำให้ทั้งสามคนและคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้นไม่รู้จักเจสสิก้า...เหตุผลพอฟังได้มั้ยอ่ะคะ อิอิ ;P


    ............................................................


    มาต่อให้ครบแล้วนะจ๊ะ >< 

    ปล.ตอนนี้ที่เกาหลีเที่ยงคืนแล้ว เข้าสู่วันที่ 18 เมษา...

    วันเกิดของนางเอกคนสวยของเรา  Happy birthday to Jessica!!! 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×