ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Memorable Love..ความทรงจำรักครั้งใหม่ของยัยซุปตาร์[sj&snsd]

    ลำดับตอนที่ #4 : Memorable Love : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 55






             “โอ๊ย!!...ปวดหัวจัง” 

              ฉันพยายามจะลุกจากเตียงที่นอนอยูีแต่มันไม่ไหวจริง ๆ  รู้สึกเหมือนโดนใครทุบหัวเข้าอย่างแรงเลย...ที่หัวฉันมีผ้าพันแผลอยู่ ที่แขนก็เข้าเฝือกไว้ ที่ข้อเท้าก็พันผ้าไว้ รู้สึกว่ามันจะแพลงนะ
           อืมมม....ฉันอยู่ในห้องนอนนี่นา...แล้วมันห้องของใครล่ะ?


               ห้องนี้ทำด้วยไม้ทั้งหมดเลย เพดาน ผนัง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็ทำด้วยไม้อย่างดี แต่ดูจากการตกแต่งแล้ว เหมือนจะเป็นห้องของผู้ชายนะ



              ผู้ชาย!!! ฉันมาอยู่ในห้องผู้ชายได้ยังไง?...เกิดอะไรขึ้นกับฉัน และที่สำคัญ...คนที่ฉันเห็นในกระจกตอนนี้คือ ผู้หญิงผมสีทองยาวสลวย ปลายดัดเป็นลอน...หน้าตาสะสวยขัดกับเสื้อผ้าผู้ชายขนาดใหญ่ที่เธอสวมใส่อยู่


      ...นี่คือฉันหรอ แล้วทำไมฉันถึงไม่คุ้นเลยล่ะ ที่แย่กว่านั้นก็คือ ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน หรือชื่ออะไร...


    “ฟื้นแล้วหรอคุณ”...ผู้ชายคนหนึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ดูเหมือนเขาจะเป็นเจ้าของห้องนี้นะ


    “เกิดอะไรขึ้นกับฉันหรอคะ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ในสภาพแบบนี้”


    “รถของคุณเกิดอุบัติเหตุ ผมกับพี่ชายไปพบเข้าก็เลยพาคุณส่งโรงพยาบาล แล้วก็กลับมาพักรักษาตัวที่นี่”


    “อุบัติเหตุ?”


    “ครับ...คุณจำไม่ได้หรอ”


    “ค่ะ...ฉันจำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ชื่อของตัวเอง”


    “คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่มั้ย?”...ฉันส่ายหัวแทนคำตอบ ใครจะล้อเล้นเรื่องแบบนี้เล่า


    “คุณหมอบอกว่าสมองของคุณได้รับการกระทบกระเทือน...ไม่มีบาดแผลอะไร แต่อาจมีผลกับความทรงจำ...คุณน่าจะความจำเสื่อมชั่วคราว”


    “ความจำเสื่อม!!” OMG! ยังกะนางเอกละครแน่ะ ฉันฝันไปรึเปล่าเนี่ย


    “แค่ชั่วคราวน่ะคุณ ถ้าได้เจอกับสิ่งที่คุ้นเคยก็มีโอกาสที่ความจำจะกลับมา”


    “แต่ฉันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ฉันคุ้นเคยมันคืออะไรบ้าง”


    “ผมว่าตอนนี้เราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่าแล้วค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป...คุณหลับไปเกือบสองวัน ไม่ได้ทานอะไรเลย คงจะหิวแล้ว”


    “ค่ะ”...ก็ดีเหมือนกัน หาอะไรใส่ท้องซักหน่อยอาจจะจำอะไรได้บ้าง


    ....................................................
                  

                คุณหน้าหล่อพยุงฉันมาที่โต๊ะกินข้าวซึ่งตั้งอยู่ด้านนอกชายคาของบ้าน...บ้านหลังนี้สร้างจากไม้ทั้งหลังตามสไตล์บ้านไร่ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ลืมบอกไปว่าที่นี่เป็นไร่องุ่นและถ้าฉันเดาไม่ผิดนะ ผู้ชายคนนี้จะต้องเป็นเจ้าของไร่แน่ ๆ


    “เอ่อ..คุณ...”


    “ดงเฮครับ...ลีดงเฮ”


    “คุณดงเฮ...ทำไมถึงจัดอาหารไว้สามที่ล่ะคะ”...ฉันกับเขานั่งคนละฝั่งกัน แต่ฉันเห็นว่ามีอาหารอีกจานหนึ่งอยู่ที่หัวโต๊ะ แสดงว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวแน่ๆ


    “พี่ชายผมเองครับ เขาออกไปดูงานในไร่ เดี๋ยวก็คงกลับมา”


    “อะแฮ่ม! มีใครพูดถึงผมรึเปล่าเอ่ย”...ไม่ทันขาดคำ ก็มีชายหนุ่มรูปงามอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาร่วมโต๊ะกับเรา


    “ผมชเวซีวอนครับ...อาการดีขึ้นแล้วใช่มั้ยครับคุณ...”


    “เอ่อ..คือ..” ฉันจะบอกคุณยังไงดีล่ะ ขนาดฉันยังไม่รู้ชื่อตัวเองเลย


    “เธอจำชื่อตัวเองไม่ได้ครับพี่...อันที่จริงเธอจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลยซักอย่าง”...ขอบคุณมากค่ะคุณดงเฮที่ตอบคำถามแทนฉัน บรรยากาศเริ่มจะตึงเครียดจนกระทั่งอีกหนึ่งหนุ่ม(?)เข้ามา


    “น้ำองุ่นเย็น ๆ มาแล้วคร้าบบบ!”...ผู้ชายหัวทองหน้าตาขี้เล่นคนหนึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาจากในครัวพร้อมกับน้ำองุ่น
    เหยือกโต


    “พี่ลีกทึก...พ่อบ้านของที่นี่ครับ” คุณซีวอนเห็นฉันทำหน้างง ๆ ก็เลยช่วยแนะนำให้


    “แก้วนี้ของคุณซีวอน แก้วนี้ของคุณดงเฮ ส่วนแก้วนี้ของคนสวยอย่างคุณเจสสิก้าครับ”


    “เมื่อกี้นี้พี่เรียกเธอว่าอะไรนะ?” คุณดงเฮถามขึ้น


    “เจสสิก้าไง...ใช่มั้ยครับคุณผู้หญิง?”


    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ...ฉันจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อของตัวเอง” คุณลีทึกดูท่าทางจะช็อคกับอาการของฉันมากเลยนะ


    “แล้วพี่ทึกไปเอาชื่อเจสสิก้ามาจากไหนครับ?” คุณซีวอนถาม


    “ของ ๆ คุณผู้หญิงที่พยาบาลให้ผมมาน่ะครับ...นอกจากเสื้อผ้าแล้วก็มีสร้อยเส้นหนึ่งที่มีจี้เขียนว่า Jessica”


    “แล้วตอนนี้สร้อยเส้นนั้นอยู่ที่ไหนคะ?”


    “ผมวางไว้กับเสื้อผ้าของคุณที่อยู่ในห้องคุณดงเฮน่ะครับ”...ถ้าได้เห็นสร้อยเส้นนั้น ฉันอาจจะจำอะไรได้บ้าง


    “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ...ตอนนี้คุณเจสทานข้าวก่อนดีกว่า ทานเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ พวกเราสามคนสัญญาว่าจะช่วยหาทางฟื้นความทรงจำให้คุณครับ...ใช่มั้ยไอ้ดงเฮ?”


    “ครับ”...เจส...เจสสิก้า...อย่างน้อยฉันก็รู้แล้วว่าตัวเองชื่ออะไร

    ...................................


              ที่ร้านกาแฟของซอฮยอน...ทั้งยุนอาและแทยอนต่างก็เป็นห่วงเจสสิก้าจนแทบนั่งไม่ติด เดินไปเดินมาจนลูกค้าในร้านรำคาญ หนีหายกันไปหมดแล้ว


    “ใจเย็นสิครับพี่...เจสมันก็บอกแล้วว่าขอเวลาซักสองสามวันเดี๋ยวก็จะกลับมาเอง” คยูฮยอนขาประจำของร้านนี้พูดขึ้น เขามาที่ร้านบ่อยก็จริง แต่สั่งกาแฟนับครั้งได้เลย


    “แต่นี่มันสองวันแล้วนะยังติดต่อยัยเจสไม่ได้เลย โทรไปก็ปิดเครื่องตลอด เป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้” ยุนอาทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว


    “เจสมันเป็นคนนะครับ ต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง เวลาที่ไม่ต้องวุ่นวาย ไม่ต้องตอบคำถาม เวลาพักผ่อนที่แท้จริงน่ะครับ”


    “โจวคยูฮยอน...นายรู้อะไรใช่มั้ยถึงได้พูดแบบนี้?”


    “เปล่านี่ครั้บ...ผมกับเจสเป็นเพื่อนกันมานานก็ต้องรู้ใจกันเป็นธรรมดา”...นายคยูตอบไปแบบไม่ได้คิดอะไร แต่น้องเล็กซอฮยอนที่อยู่ข้าง ๆ น่ะ สะดุดกับคำว่า “รู้ใจ” เต็มๆ


    “อย่าให้รู้นะว่านายมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วย ฉันเอานายตายแน่”


    “คร้าบบบบ”...คำขู่ของคนตัวเล็กไม่ได้มีผลอะไรกับคนอย่างคยูฮยอนเลย


    กริ๊งๆๆ...เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้ามา


    “รับอะไรดีคะคุณ...ยุนโฮ” ซอฮยอนชะงักไปเมื่อเห็นว่าลูกค้าของเธอนั้นคือใคร


    “สวัสดีค่ะคุณยุนโฮ มาทำอะไรแถวนี้คะเนี่ย” แทยอนปรับโหมดอย่างรวดเร็วกลายเป็นสาวใสในทันที


    “ผมจะมาถามเรื่องคุณเจสน่ะครับ...ผมอยากรู้ว่าเธอหายไปไหนกันแน่”


    “เอ่อ...ก็ไปอเมริกาไงคะ พอดีมีธุระด่วน ยัยเจสก็เลยต้องบินไปกะทันหัน” ยืนอ้ำอึ้งกันอยู่นาน สุดท้ายยุนอาก็เลยเป็นคนตอบ


    “นักข่าวอาจจะเชื่อ แต่ผมไม่เชื่อครับ   ผมอยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ผมเป็นห่วงเธอจริง ๆ นะครับ” โธ่พ่อคุณ...ช่างเป็นคนดีอะไรขนาดนี้ คำพูดของยุนโฮทำให้สาว ๆ เคลิ้มไปได้ แต่กับคยูฮยอนนั้นตรงกันข้าม


    “เป็นห่วงเจสหรือเป็นห่วงตัวเองที่งานคู่กับยัยเจสต้องถูกยกเลิกทั้งหมดกันแน่”


    “ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะพี่คยู”


    “ก็มันจริงนี่ครับน้องซอ...และที่จริงกว่านั้นก็คือนายคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เจสต้องหนีหายไปแบบนี้”


    “พูดแบบนี้หมายความว่าไง!!!” ยุนโฮจะคว้าคอเสื้อของคยูฮยอนแต่แทยอนกับยุนอาห้ามเอาไว้ก่อน


    “แทว่าคุณยุนโฮกลับไปก่อนดีกว่านะคะ ตอนนี้พวกเราเองก็ยังไม่รู้ว่ายัยเจสอยู่ที่ไหน...เอาเป็นว่าถ้ายัยเจสติดต่อ
    กลับมาเมื่อไหร่ แทจะบอกคุณทันที โอเคมั้ยคะ”


    “ก็ได้ครับ”...พูดจบชองยุนโฮก็เดินออกจากร้านไป ทิ้งให้อีกสี่คนในร้านนั่งเครียดกันต่อไป

    ...............................................


    “คุณลีทึกทำอาหารอร่อยมากเลยนะคะ”...ตอนนี้พวกเราทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันว่าอยู่ที่นี่ก็สบายดีนะ อากาศดี บรรยากาศก็ดี แถมอาหารอร่อยอีก


    “ขอบคุณครับ...แต่ต่อไปไม่ต้องเรียกผมว่าคุณแล้วนะครับ ฟังแล้วมันขนลุกยังไงก็ไม่รู้...เรียกว่าพี่น่าจะดีกว่านะ
    ครับ”


    “โอเคค่ะ..งั้นเดี๋ยวเจสช่วยเก็บนะคะพี่ลีทึก” มีพ่อบ้านอยู่คนเดียว พี่เขาคงจะเหนื่อยแย่


    “ไม่ต้องเลยครับคุณเจส...คุณยังไม่หายดี รีบไปพักผ่อนดีกว่านะครับ”


    “นั่นสิครับ ผมว่าคุณกลับห้องดีกว่านะ อากาศเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวจะไม่สบาย” คุณซีวอนนี่ทั้งหล่อทั้งเป็นสุภาพบุรุษเลย ใครได้เป็นแฟนนี่คงจะโชคดีสุด ๆ


    “ก็ได้ค่ะ...โอ๊ยย!!” ฉันกลับหลังหันจะเดินไปที่ห้องแต่ขาข้างที่แพลงดันไปชนเก้าอี้เข้าซะได้


    “ระวังหน่อยสิคุณ...เดี๋ยวผมพาไปส่งที่ห้อง” คุณดงเฮมาคว้าตัวฉันไว้ได้ทัน ไม่งั้นฉันคงลงไปกองกับพื้นแหง ๆ


    ...ถึงเขาจะไม่ได้หล่อมากมายแบบคุณซีวอน ไม่ได้พูดจาสุภาพเท่าคุณซีวอน แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเขินจังเวลาที่เขาอยู่ใกล้ ๆ...แบบนี้เขาเรียกว่ารักแรกพบรึเปล่านะ >///<
    ...................................



    “นี่อุปกรณ์ส่วนตัวของคุณ ผมหามาได้ดีที่สุดแค่นี้..เอาไว้อีกสองวันผมจะพาคุณเข้าเมืองไปซื้อของนะครับ”


    “ค่ะ”


    “ห้องน้ำ..ออกจากห้องนี้แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปสุดทางเดินนะครับ”


    “ค่ะ”


    “ไฟที่นี่จะตัดตอน 4 ทุ่ม ยังไงก็ทำธุระให้เสร็จก่อนเวลานั้นละกัน แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นจริง ๆ ก็ใช้ตะเกียงที่แขวนอยู่ตรงนั้นนะครับ”


    “ค่ะ”...ตั้งแต่มาถึงห้อง คุณดงเฮก็พูด ๆ ๆ ๆ อย่างเดียวเลย ฉันก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ ไป


    “มีอะไรก็เรียกได้ตลอดนะครับ ผมไปล่ะ คุณจะได้พักผ่อน”


    “เดี๋ยวค่ะ!”


    “ครับ?”


    “ฉันมาใช้ห้องของคุณ แล้วคุณจะไปนอนที่ไหนล่ะคะ”


    “ผมเป็นผู้ชาย นอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละครับ คุณไม่ต้องห่วงหรอก...ราตรีสวัสดิ์นะครับ”


    “คุณดงเฮคะ!”


    “...”


    “ขอบคุณนะคะ >< ”


    “ครับ >///<”

    ...........................


                         กลับมาที่ร้านซอฮยอน...หลังจากที่เกลี้ยกล่อมให้ยุนอาและแทยอนยอมกลับบ้านได้ คยูฮยอนและซอฮยอนก็ช่วยกันเก็บร้านเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเช่นกัน


    “พี่เก็บโต๊ะเลยนะครับ”


    ...เงียบ...


    “ล้างแก้วหมดแล้วใช่มั้ย?”


    ...เงียบ...


    “พรุ่งนี้จะไปซื้อของหรือเปล่าครับ พี่จะได้ไปรับที่บ้านแต่เช้า”


    ...เงียบ...


    “ซอจูฮยอน..โกรธอะไรพี่ครับ บอกมาซิ” ในที่สุดความอดทนก็ถึงขีดจำกัด คยูฮยอนจึงคว้าตัวซอฮยอนไว้ก่อนที่เธอจะเดินเข้าหลังร้านแล้วพาเธอมานั่งคุยกันให้รู้เรื่อง


    “พี่ก็น่าจะรู้นะคะว่าเรื่องอะไร” ผู้หญิงนะผู้หญิง โกรธอะไรก็ไม่ยอมบอก แล้วจะง้อถูกมั้ยเนี่ย


    “ถ้าเป็นเรื่องนายยุนโฮ พี่ยอมรับว่าปากไวไปหน่อย คราวหน้าจะระวังให้มากกว่านี้...แต่ถ้าเป็นเรื่องเจสสิก้า พี่ขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่มันหายตัวไปจริง ๆ”


    “แต่ถ้าพี่คยูไม่พูดแบบนั้นกับพี่เจส เธอก็คงไม่หนีไปแบบนี้หรอก...เธอกำลังสับสน ใครแนะนำอะไรไปก็คล้อยตามได้ง่าย”


    “พี่แค่บอกให้ถามตัวเองว่าที่ทำอยู่มันใช่จริงๆรึเปล่า ไม่ได้บอกให้มันหนีไปค้นหาตัวเองแบบนี้ซักหน่อย”


    “มันก็แย่พอกันนั่นแหละค่ะ ชิส์!”...ซอฮยอนว่าก่อนจะเดินไปจัดการกับเครื่องคิดเงิน จริงๆก็ไม่ได้โกรธอะไรมากหรอก แค่ยังหมั่นไส้กับคำว่า “รู้ใจ” ก็เท่านั้น


    “เอาน่า...เดี๋ยวมันตัดสินใจได้เมื่อไหร่ ก็กลับมาเองแหละ”


    “ถ้าเป็นแบบที่พี่คยูว่าจริง ๆ ทำไมพี่เจสไม่ติดต่อกลับมาเลยล่ะคะ อย่างน้อยก็น่าจะโทรหาพี่คยูหรือซอบ้าง...เงียบหายไปแบบนี้มันน่าเป็นห่วงนะคะ”


                  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซอฮยอนเป็นคนละเอียดอ่อน หรือเพราะคยูฮยอนเป็นคนไม่รอบคอบ เขาถึงไม่เคยนึกถึงประเด็นนี้เลย...และถ้าข้อสันนิษฐานนี้เป็นจริง ตอนนี้เจสสิก้าอาจจะกำลังมีปัญหาอยู่ก็ได้


    “เดี๋ยวพี่จะขอให้เพื่อนที่เป็นตำรวจช่วยสืบให้ดู...แต่คงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก เจสเป็นคนเก่ง คงเอาตัวรอดได้แหละ”


    “ซอก็หวังว่าอย่างนั้นค่ะ”

    .......................

                  ไนต์คลับแห่งหนึ่งในกรุงโซล  สองหนุ่มกำลังนั่งดื่มกันอยู่ในห้อง V.I.Pของร้าน...อาหาร เครื่องดื่ม และสาว ๆ ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี ก็จะไม่ให้ดีได้ยังไงล่ะ ในเมื่อหนึ่งหนุ่มนั้นคือ คิมแจจุง เจ้าของคลับแห่งนี้


    “ทำไมวันนี้มาได้วะ...ไหนบอกช่วงนี้งานยุ่ง” แจจุงถามเพื่อนซี้ที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ข้าง ๆ


    “ฮึ...โดนยกเลิกไปเกือบทุกงานแล้ว”


    “ทำไมวะ...ระดับชองยุนโฮมีใครกล้าปฏิเสธด้วยหรอ..อ้า..ยกเว้นคุณเจสสิก้าคนสวยไว้คนนึง”...พูดจี้ใจดำขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทคงโดนยุนโฮต่อยหมอบไปแล้ว


    “หุบปากไปเลยไอ้แจ...ที่งานโดนยกเลิกก็เพราะเจสสิก้านี่แหละ”


    “อ๋ออ..ที่คุณเจสเธอต้องกลับอเมริกากะทันหันใช่มั้ย”


    “อือ..แต่กูไม่เชื่อว่ากลับอเมริกา กูว่าเค้าตั้งใจหนีไปและก็น่าจะยังอยู่ในเกาหลีด้วย”


    “ฮ่าๆๆ ถ้าให้เดานะ กูว่าเค้าไม่อยากร่วมงานกับมึงว่ะ”..บางครั้งรักษาน้ำใจเพื่อนบ้างก็ดีนะแจจุง


    “กูไม่เข้าใจเลย ผู้หญิงเกินครึ่งประเทศยอมให้กูอย่างง่าย ๆ แต่กับคนนี้ กูตามจีบมาเกือบปีแล้ว ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”


    “กูก็ไม่เข้าใจมึงเหมือนกันว่าในเมื่อผู้หญิงเค้าไม่เอา ก็ยังจะตื้ออยู่ได้ เสียภาพลักษณ์ชองยุนโฮหมด”


    “มึงก็รู้ว่าคนอย่างกู อยากได้อะไรก็ต้องได้ ยังไงๆกูก็ต้องทำให้เค้าเป็นของกูให้ได้”


    “ด้วยวิธีไหนล่ะ”


    “วิธีไหนก็ได้ แค่ให้กูชนะก็พอ”...ชองยุนโฮ พระเอกหนุ่มที่สาว ๆ ใฝ่ฝันถึง ภายใต้ภาพลักษณ์สุภาพบุรุษของเขา ไม่มีใครคิดหรอกว่าเขาจะเห็นทุกอย่างเป็นเพียงแค่เกมที่ต้องมีผู้ชนะคือตัวของเขาเอง
     



    เจอกันอีกทีหลังสงกรานต์นะคะรีดเดอร์

         ขอให้เล่นน้ำให้สนุกและปลอดภัย  ใครที่จะไปต่างจังหวัดก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพเน้อ  และอย่าเล่นน้ำเพลินจนลืมกลับมาอ่านฟิคไรเตอร์นะจ๊ะ ฮ่าๆๆ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×