ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Memorable Love..ความทรงจำรักครั้งใหม่ของยัยซุปตาร์[sj&snsd]

    ลำดับตอนที่ #17 : Memorable Love : Chapter 15

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 55





    Kyuhyun’s Part



    ������ อันยองคร้าบบบ!!!�ในที่สุดก็ถึงคิวผู้ชายมาดแมนอย่างงผมซักที...บรรยากาศตอนค่ำๆที่ไร่นี้มันโรแมนติกสุดๆเลยนะครับ�ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เรารักก็ยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก



    “มีอะไรรึเปล่าคะพี่คยู?�ทำไมเอาแต่จ้องหน้าซอแบบนั้น”



    “ปะ เปล่าครับ�ไม่มีอะไร...ว่าแต่ซอมายืนตากน้ำค้างที่ระเบียงแบบนี้ เดี๋ยวจะป่วยเอานะครับ”

    �� เฮ้อออ..ผมล่ะเกลียดตัวเองจริงๆ�เวลาอยู่กับเธอทีไรมันต้องเขินจนพูดไม่ออกทุกที



    “พี่คยูเป็นห่วงซอด้วยหรอคะ�นึกว่าจะห่วงแต่พี่เจสซะอีก”


    ��������นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมหนักใจ�ผมกับเจสสิก้าเรารู้จักกันมานานมากจนเหมือนเป็นพี่น้องกัน�ผมก็แค่ห่วงเจสในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง�แต่กับซอฮยอน...ผู้หญิงที่อย่ตรงหน้าผมตอนนี้�ผมทั้งหวงและห่วงเธอ ดูแลเธอ ทำเพื่อเธอสารพัด�แต่เธอก็ยังคงคิดว่าผมแคร์เจสสิก้ามากกว่าเธออยู่ดี



    “ทำไมพี่จะไม่ห่วงซอล่ะ�จำที่พี่บอกเมื่อกลางวันไม่ได้หรอ”�ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆของเธอเอาไว้�เธอดูงงๆแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร



    “จำได้ค่ะ..แต่ว่า...ช่างเถอะค่ะ ซอกลับห้องดีกว่า”

    ���� �เธอตัดบทก่อนจะดึงมือตัวเองกลับไป�ผมรู้ครับว่าเธอต้องการจะบอกอะไร�คำๆนั้น คำสั้นๆแต่พูดยากที่สุดสำหรับผม...เธอคงอยากได้ยินจากปากผมซักครั้งอย่างที่เจสสิก้าเคยบอก



    "ยังไปไม่ได้ครับ!!”�ผมจับแขนเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอเดินหนีไป�แค่ออกแรงดึงนิดเดียว ร่างเล็กๆของเธอก็เซมาซบที่อกนุ่มๆของผมแล้ว...แก้มขาวเนียนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ�อ๊ากกก!!! เธอกำลังทำผมคลั่ง



    “ทำไมล่ะคะ?”



    “ซอยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น�จนกว่าจะได้ฟังสิ่งที่พี่จะพูด”

    ��� เป็นไงเป็นกันครับ�บรรยากาศดีๆ สถานที่เหมาะๆแบบนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ...



    “พี่คยูจะพูดอะไรหรอคะ?”



    “พี่...”�� โอ๊ยยย!!! ยิ่งเธอจ้อง ผมยิ่งเขิน



    “พี่..รัก..เอ่อ..พี่...”



    “ถ้ามันยากมากนักก็ไม่เป็นไรนะคะ�ซอคงไม่สำคัญมากกพอที่จะได้ฟัง”�ซอฮยอนทำหน้าเศร้าก่อนจะกลับหลังหันแล้วเตรียมจะเดินกลับห้อง



    “พี่รักซอ!! รักมานานแล้ว�และก็จะรักตลอดไปครับ”�

    �������� เธอหยุดเดินทันทีแต่ก็ยังไม่ยอมหันมามองผม�หรือเธอจะได้ยินไม่ชัด...นี่ผมต้องพูดอีกรอบหรอเนี่ย�มันเขินนะครับ!!



    “พี่ขอโทษนะครับที่มัวแต่ปอดแหกไม่กล้าพูดตั้งแต่แรก�แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป�พี่จะพูดมันบ่อยๆนะครับ...ซอจะได้รู้ว่าพี่รักซอมากแค่ไหน”�

    ������ เธอค่อยๆหันมามองหน้าผม�ไม่ใช่แค่แก้มครับ�แต่ตอนนี้หน้าของเธอเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั้งหน้าแล้ว�น่ารักเป็นบ้าเลยครับ!!!



    “ซอจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ...หรือว่าอยากให้พี่พูดอีก...พี่รักซ..”



    “พอแล้วค่ะพี่คยู!!!�ซอไปนอนดีกว่า”�

    ����� พูดจบเธอก็วิ่งฉิวกลับเข้าห้องไปเลย�อ้าวว!! ตกลงยังไงกันเนี่ย�สรุปว่าเธออยากให้ผมพูดหรือไม่พูดกันแน่...ผู้หญิงนี่เข้าใจยากชะมัด...แต่จะบอกว่าตอนนี้ผมรู้สึกดีมากเลย�รู้งี้ผมบอกรักเธอทุกวันตั้งแต่รู้จักกันวันแรกแล้ว



    ...........................................................................................



    Leeteuk’s Part

    ���������� หลังจากฟังความในใจของคุณคยูไปแล้ว�ก็ถึงคิวพ่อบ้านอย่างผมพูดบ้าง�เห็นผมทำแต่งาน ขลุกอยู่แต่ในครัว�แต่ผมก็มีความรักกับเค้าเหมือนกันนะครับ�แต่ติดอยู่ที่เธอคนนั้นอาจจะอยู่ไกลเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมถึง



    “คุณแทยอนไปพักผ่อนเถอะครับ�ที่เหลือผมจัดการเอง”

    ��������� ผมบอกคนตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาจัดเรียงจานชามอย่างขะมักเขม้น ��พอทานข้าวเย็นเสร็จเธอก็อาสาเข้ามาช่วยผมในครัว...ล้างจานตั้งเป็นสิบๆใบ�ผมล่ะกลัวว่ามือนุ่มๆของเธอจะเปื่อยเพราะน้ำยาล้างจานซะก่อน



    “อีกนิดเดียวเองค่ะ”



    “แค่นี้คุณก็ช่วยผมตั้งเยอะแล้ว�ไม่รบกวนแล้วดีกว่าครับ”�เธอวางจานตรงหน้าลงก่อนจะหันมาจ้องผมอย่างยิ้มๆ



    “รบกวนอะไรกันคะ�พวกฉันเป็นคนอาศัย ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วยค่ะ�อีกอย่างงานในครัวนี่สนุกจะตาย...ฉันชักจะติดใจแล้วสิ�ไม่ต้องวุ่นวาย ไม่ต้องตากแดด�ไม่ต้องตอบคำถามน่าปวดหัวจากคนอื่นๆ...ดีกว่างานในวงการเยอะเลย”

    ���� ...คำพูดของเธอกำลังจะทำให้ผมตัวลอย...ผมคิดมาตลอดว่าเธอคงไม่ค่อยปลื้มอะไรแบบนี้เท่าไหร่�ที่เธอทำดีกับผมอาจจะเป็นเพราะเธอสงสาร�แต่แววตาและน้ำเสียงของเธอเมื่อกี้ ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจล้วนๆ



    “เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณลีทึก�ทำไมจู่ๆก็หน้าแดงๆเหมือนเป็นไข้เลย”�เธอวางมือเล็กๆลงบนหน้าผากของผมพลางถามอย่างห่วงใย...ใจเย็นไว้นะลีทึกๆๆๆ



    “ไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่รู้สึกร้อนๆ”�

    ����� ผมรีบดึงมือเธอออกก่อนที่ผมจะเป็นลมไปซะก่อน�แต่กลับเป็นเธอที่หน้าแดงแทนเมื่อเราจับมือกัน...หรือเธอจะรู้สึกแบบเดียวกันกับผม�ไม่ใช่หรอก!! แกเพ้อไปแล้วลีทึก�แค่เธอบอกว่าชอบงานที่เราทำ ไม่ได้หมายความว่าเธอจะชอบชีวิตในแบบของเราหรือชอบเราซักหน่อย



    “ปกติคุณแทยอนไม่ค่อยได้เข้าครัวหรอครับ?”�ต้องรีบเปลี่ยนประเด็นก่อน



    “ค่ะ..ไม่ค่อยมีเวลาน่ะค่ะ�นึกๆแล้วก็ตลกตัวเองนะคะ�เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินจนมองข้ามเรื่องดีๆในชีวิตไปหลายอย่างเลย�ไว้ว่างๆต้องให้คุณลีทึกช่วยติดเข้มเรื่องงานในครัวให้ซะแล้ว”



    “จะเตรียมตัวไปเป็นแม่บ้านให้ใครหรอครับ?”�จู่ๆผมก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา�ที่เธอมาตีสนิทกับผมก็เพื่อจะให้ผมช่วยสอนเรื่องงานบ้านงานเรือนเพื่อที่เธอจะได้ไปเป็นแม่บ้านให้คนอื่นซินะ



    “เปล่านะคะ!! ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องพวกนี้ไว้บ้างก็เท่านั้น...แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันไม่รบกวนก็ได้ค่ะ”
    �� ...เธอคงตกใจที่น้ำเสียงและท่าทางของผมเหมือนจะโมโหเธอ�แกมีสิทธิ์อะไรไปโกรธเค้าฮะไอ้ทึก!!!



    “ผมสะดวกครับ...คุณอยากจะให้ช่วยเมื่อไหร่ก็บอกผมได้�แต่ตอนนี้ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ”



    “คุณโกรธฉันหรอ?”�เธอจับมือผมไว้พลางทำหน้ากังวล



    “พ่อบ้านอย่างผมไม่กล้าโกรธแขกของเจ้าของบ้านอย่างคุณหรอกครับ”



    “พูดแบบนี้แสดงว่าโกรธแน่ๆ�ฉันไม่ได้จะเตรียมไปเป็นแม่บ้านของใครจริงๆนะคะ...ฉันก็แค่..ก็แค่อยากใช้เวลากับคุณให้มากๆ ก็เท่านั้น”�

    �� หือออ!!! อยากใช้เวลากับผม...นี่เธอกำลังจะสารภาพรักผมรึเปล่าครับ??�ผมไม่ได้ฝันใช่มั้ย



    “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ�ฉันก็เขินเป็นนะ...ฉันรู้ค่ะว่ามันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่ผู้หญิงจะทำอะไรแบบนี้�แต่ฉันอยากจะบอกว่าฉันชอบ...”



    “คุณแทยอนครับ!! ดึกแล้ว�ผมว่าคุณกลับไปพักเถอะครับ�ผมก็ขอตัวเหมือนกัน...ฝันดีนะครับ!!”


    ����� ผมรีบปลีกตัวออกมาให้ห่างจากเธอทันที�ไม่ใช่เพราะผมไม่ชอบเธอนะครับ...ตรงกันข้าม ผมว่าผมตกหลุมรักเธอเลยแหละ�เพียงแต่ว่าผมอยากให้เธอกลับไปคิดดูให้ถี่ถ้วนอีกที�ถึงผมจะรักเธอ แต่ผมก็ไม่อยากดึงเธอให้ลงมาลำบากกับพ่อบ้านธรรมดาๆอย่างผมหรอกครับ


    ......................................................................



    Siwon’s �Part

    �������� สวัสดีครับตอนดึก(ในเรื่อง)ครับรีดเดอร์ทุกคน....อันที่จริงก็ไม่ดึกมากเท่าไหร่หรอกครับ เพราะถ้าดึกจริงๆผมคงไม่เห็นคุณหนูขี้วีนของผม..เอ้ยย!!..ผมหมายถึงของรีดเดอร์ทุกคน�มาเดินเล่นคนเดียวในไร่แบบนี้หรอกครับ

    ....ไหนๆเธอก็ยังไม่เห็นผม...แกล้งซักหน่อยดีกว่า


    ตุ้บ!! ผมขว้างก้อนหินก้อนหนึ่งไปตกใกล้ๆกับจุดที่เธอยืนอยู่�� มองซ้ายมองขวาใหญ่เลยครับ ฮ่าๆๆๆ


    “ใครน่ะ??�ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”


    ตุ้บ!!! ผมขว้างไปอีกก้อนหนึ่ง�คราวนี้เธอเงียบกริบและยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้าเลยครับ�เธอมองไปรอบๆซักพักก่อนจะออกวิ่งมาทางที่ผมหลบอยู่...โดนแน่ๆคุณหนูยุนอา

    “แบร่!!!”



    “กรี๊ดดดด!!!�ใครก็ได้ช่วยด้วย..กรี๊ดดดด!!!”�เธอทรุดลงนั่งกับพื้นพลางร้องโวยวายอย่างไม่ลืมหูลืมตา�ผมทำเกินไปรึเปล่าเนี่ย�แต่ก็แค่กระโดดออกมาจ๊ะเอ๊เธอเองนะครับ คึคึคึ



    “คุณ!! เป็นอะไรรึเปล่าครับ??”�ผมนั่งยองๆลงดูอาการเธอ�พอเห็นหน้าผมเท่านั้นแหละ เป็นเรื่องเลย



    “นายบ้า!!! นี่นายแกล้งฉันอีกแล้วหรอ...รู้ว่าฉันกลัวก็ยังจะแกล้งอยู่ได้ สนุกมากรึไงยะ!! TAT”


    ������ เธอบ่นผมเป็นชุดพร้อมกับน้ำตาซึม�เฮ้ยย!! ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอร้องไห้นะครับ�ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน ทุกครั้งที่ผมเถียงกับเธอ�ทุกครั้งที่ผมแกล้งเธอ...ผมทำไปเพราะผมอยากอยู่ใกล้ๆเธอ�อยากพูดคุยกับเธอ�แต่ผมไม่เคยคิดจะทำให้เธอร้องไห้เลยนะครับ



    “ผมขอโทษ..ผม..ผมไม่คิดว่าคุณจะกลัวขนาดนี้...ค่อยๆลุกนะครับ”�ผมพยุงเธอให้ลุกขึ้น�แต่เธอก็ยังไม่ยอมมองหน้าผม



    “ก็แค่คำขอโทษ�แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่านายรู้สึกผิดจริงๆ...เดี๋ยวคราวหน้านายก็แกล้งฉันอีก”



    “แล้วต้องให้ผมทำยังไงล่ะครับคุณถึงจะเชื่อ”��

    ������ ถ้าเป็นตอนแรกๆที่รู้จักกัน�ผมคงไม่เสียเวลากับเรื่องแบบนี้หรอกครับ�แต่พอผมได้รู้จักกับเธอมากขึ้น�ผมกลับรู้สึกใจเต้นแปลกๆทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆเธอ...ปากของผมก็แซวเธอ ว่าเธอสารพัด�แต่ในใจของผมกลับไม่เคยรู้สึกแย่กับเธอเลยสักครั้ง...มีแต่จะรู้สึกดีขึ้นทุกวันๆ



    “นายก็ต้องสัญญาว่าจะเลิกแกล้งฉัน เลิกจิกกัดฉัน และก็เลิกขัดคอฉันในทุกๆเรื่อง...ถ้านายผิดสัญญา เราก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก�แค่เนี้ยทำได้มั้ย??”�� ผู้หญิงคนนี้เผด็จการเป็นบ้าเลย�แต่ทำไงได้ล่ะครับ เล่นขู่ว่าจะไม่พูดกับผมอีก ยังไงผมก็ต้องทำแหละครับ



    “ก็ได้ครับ�แต่คุณก็ต้องทำเหมือนกัน”



    “เรื่องอะไรฉันจะทำ�ฉันไม่ใช่คนผิดซักหน่อย”�เธอกอดอกและพูดอย่างเชิดๆตามสไตล์ของเธอ�ท่าทางแบบนี้ของเธอนี่แหละครับที่ทำให้หัวใจของผมอยู่ไม่เป็นสุขทุกทีที่ได้เห็น



    “ถ้ายังงั้นคืนนี้คุณคงต้องคลำทางกลับบ้านเองแล้วแหละครับ...เพราะอีกประมาณสามนาทีก็จะสี่ทุ่ม ไฟที่นี่ก็คงจะตัดแล้วรอบๆตัวคุณก็จะมืด!!!”



    “ว๊ายย!!”�ผมแกล้งเน้นเสียงคำว่า มืด เฉยๆ�แต่เธอดันตกใจแล้วกระโดดมาเกาะแขนผมเฉยเลย...รู้แล้วใช่มั้ยว่าทำไมผมถึงชอบหลอกให้เธอกลัว




    "เหลือสองนาทีแล้วนะครับ...ถ้าคุณตกลง ผมก็จะไปส่ง แต่ถ้าไม่ตกลง ก็แยกกันตรงนี้เลยละกันนะครับ”

    ������ ผมแกะมือเธอออกจากแขนผมแล้วแกล้งเดินออกมา...เอาเข้าจริง ถ้าเธอไม่ยอมทำตามข้อตกลง�ยังไงซะผมก็ไม่ปล่อยให้เธอเดินกลับเองคนเดียวหรอกครับ



    “โอเคๆๆ ทำก็ได้”



    “ถ้างั้นสรุปว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะเลิกทะเลาะกัน เลิกมองกันในแง่ร้าย และก็หันมาคุยกันดีๆ...ใช่มั้ยครับ?”



    “อือ”


    � Yesss!!! ในที่สุดก็ได้เวลาที่ผมต้องเลิกแกล้งเธอแล้วหันมาทำตามหัวใจของตัวเองซักที


    ........................................................................

    Donghae’s Part
    �� กว่าจะถึงผม..รอตั้งนานแน่ะ ฮ่าๆๆๆ�แต่จะให้รออีกนานแค่ไหนก็รอได้ครับ เพราะคนที่รออยู่ข้างๆผมเนี่ยแหละ


    “คุณยังไม่นอนอีกหรอครับ?”�ผมถามคุณเจสที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ�เธอกำลังดูโฟโต้บุ๊คของเธอที่คุณแทยอนกับคุณยุนอาขนมาให้จากโซล...ถ้าแถวนี้มีขายล่ะก็ ผมคงเหมาหมดแผงเลย



    “ฉันยังไม่ง่วงเลยค่ะ คุณไปนอนก่อนก็ได้นะ ฉันโอเค”

    ������ เธอยิ้มหวานให้ผมทีนึงก่อนจะหันไปสนใจหนังสือต่อ�พี่ลีทึกก็กลับห้องไปแล้ว�พี่ซีวอนก็ออกไปที่ไร่�ผมจะทิ้งเธอให้นั่งอยู่คนเดียวได้ยังไงล่ะ�ถ้ามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเธออีกจะทำยังไง



    “นั่งเป็นเพื่อนคุณนี่แหละครับ�ผมก็ไม่ง่วงเหมือนกัน”
    �������� ผมหยิบโฟโต้บุ๊คของเธอมาดูเล่มหนึ่ง�เธออยู่ในชุดสบายๆ แต่งหน้าอ่อนๆ แทบจะไม่ได้แต่งเติมอะไรเลย แต่ก็สามารถสะกดสายตาของผมเอาไว้กับภาพของเธอได้...ครั้งแรกที่ผมเจอเธอก็เหมือนกัน�ผมรู้สึกเหมือนโดนมนต์อะไรซักอย่างที่ทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้...



    “คุณดงเฮคะ!!!”



    “ครับๆๆๆ”�ผมตกใจที่เธอเรียกผมเสียงดัง แถมยังยื่นหน้าสวยๆเข้ามาใกล้ผมอีก...เธอคงไม่รู้สินะว่าทุกครั้งที่เธอทำแบบนี้ มันทำให้ผู้ชายอย่างผมแทบจะละลายแล้ว



    “ฉันเรียกตั้งนานคุณไม่เห็นสนใจซักที�คุณคงอยากดูรูปฉันมากกว่าเห็นตัวจริงฉันใช่มั้ยคะ”�เธอพูดอย่างงอนๆ�คิ้วผูกโบแล้วครับ...น่ารักจัง



    “เปล่านะครับ...ผมแค่กำลังคิดว่ารูปของคุณสวยมาก�แต่ก็ยังสวยสู้ตัวจริงไม่ได้”



    “>///<”�

    ������
    ����� จากที่งอนกลายเป็นหน้าแดงแทนซะแล้ว...เวลาอยู่กันสองคนทีไร ต้องมีเรื่องให้เธอเขินทุกที�ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าคำพูดหวานๆพวกนี้มันออกมาจากปากผมได้ยังไง�รู้แต่ว่าพอเห็นหน้าเธฮแล้ว ความคิดของผมก็มีแต่เรื่องพวกนี้ไปโดยอัตโนมัติ



    “คุณดงเฮคะ...คุณคิดว่าฉันควรจะกลับไปที่โซลมั้ย?”

    ���� จู่ๆเธอก็ถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง...รูปพวกนี้คงทำให้เธอคิดถึงการเป็นดาราขึ้นมามั้ง�ทุกครั้งที่ความจำของเธอเริ่มจะดีขึ้น ผมก็ดีใจนะ�แต่อีกใจก็รู้สึกกลัว...กลัวว่าจะไม่มีเธออยู่ข้างๆอีกต่อไปแล้ว



    “แล้วคุณอยากกลับไปรึเปล่าล่ะครับ”



    “ไม่รู้สิคะ...ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านฉันไปแล้ว�แต่ถ้าความทรงจำกลับมาก็ไม่รู้ว่าจะยังรู้สึกแบบนี้อยู่รึเปล่า”



    “ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง...ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะครับว่าที่นี่พร้อมที่จะต้อนรับคุณเสมอ”



    “คงใจหายน่าดูนะคะถ้าฉันต้องไปจากที่นี่จริงๆ”�เธอพูดพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ผม



    “ครับ...ผมคงใจหายน่าดู ถ้าไม่มีคุณ”



    “หืออ??�คุณว่าไงนะคะ”�หลุดปากอีกแล้วดงเฮ�เก็บอาการหน่อยสิ!!



    “ผมหมายถึงว่าทุกคนที่นี่คงใจหายนะครับถ้าคุณต้องกลับไปจริงๆ”



    “ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า�ฉันจะจำได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย..เผลอๆอาจจะได้อยู่ที่นี่อีกเป็นปีๆเลยก็ได้ ใครจะไปรู้ ฮ่าๆๆ”

    � ...เธอคงจะพูดเล่น แต่เธอจะรู้มั้ยนะว่ามันทำให้หัวใจของผู้ชายคนนี้พองโตขนาดไหน...ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิ



    “ถ้าคุณพยายามและอดทน�อีกไม่นานคุณก็ต้องจำได้ครับ เชื่อผมสิ”



    “แต่บางทีฉันก็แอบคิดนะคะว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีแล้ว..ไม่เห็นจำเป็นต้องรื้อฟื้นอดีตเลย”



    “คุณเจส...”�เธอไม่ได้แกล้งพูดให้ผมดีใจใช่มั้ย!!!



    “ฉันพล่ามอะไรให้คุณฟังเนี่ย น่าอายจัง...ไปนอนดีกว่า�ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อน”


    เธอยิ้มให้ผมอย่างเขินๆก่อนจะเดินเข้าห้องไป...ใครก็ได้ช่วยที...ผมคิดว่าโรคหัวใจผมจะกำเริบแล้วคร้าบบบ!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×