ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Memorable Love : Chapter 15
Kyuhyun’s Part
������ อันยองคร้าบบบ!!!�ในที่สุดก็ถึงคิวผู้ชายมาดแมนอย่างงผมซักที...บรรยากาศตอนค่ำๆที่ไร่นี้มันโรแมนติกสุดๆเลยนะครับ�ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆกับคนที่เรารักก็ยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก
“มีอะไรรึเปล่าคะพี่คยู?�ทำไมเอาแต่จ้องหน้าซอแบบนั้น”
“ปะ เปล่าครับ�ไม่มีอะไร...ว่าแต่ซอมายืนตากน้ำค้างที่ระเบียงแบบนี้ เดี๋ยวจะป่วยเอานะครับ”
�� เฮ้อออ..ผมล่ะเกลียดตัวเองจริงๆ�เวลาอยู่กับเธอทีไรมันต้องเขินจนพูดไม่ออกทุกที
“พี่คยูเป็นห่วงซอด้วยหรอคะ�นึกว่าจะห่วงแต่พี่เจสซะอีก”
��������นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมหนักใจ�ผมกับเจสสิก้าเรารู้จักกันมานานมากจนเหมือนเป็นพี่น้องกัน�ผมก็แค่ห่วงเจสในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง�แต่กับซอฮยอน...ผู้หญิงที่อย่ตรงหน้าผมตอนนี้�ผมทั้งหวงและห่วงเธอ ดูแลเธอ ทำเพื่อเธอสารพัด�แต่เธอก็ยังคงคิดว่าผมแคร์เจสสิก้ามากกว่าเธออยู่ดี
“ทำไมพี่จะไม่ห่วงซอล่ะ�จำที่พี่บอกเมื่อกลางวันไม่ได้หรอ”�ผมค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆของเธอเอาไว้�เธอดูงงๆแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
“จำได้ค่ะ..แต่ว่า...ช่างเถอะค่ะ ซอกลับห้องดีกว่า”
���� �เธอตัดบทก่อนจะดึงมือตัวเองกลับไป�ผมรู้ครับว่าเธอต้องการจะบอกอะไร�คำๆนั้น คำสั้นๆแต่พูดยากที่สุดสำหรับผม...เธอคงอยากได้ยินจากปากผมซักครั้งอย่างที่เจสสิก้าเคยบอก
"ยังไปไม่ได้ครับ!!”�ผมจับแขนเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอเดินหนีไป�แค่ออกแรงดึงนิดเดียว ร่างเล็กๆของเธอก็เซมาซบที่อกนุ่มๆของผมแล้ว...แก้มขาวเนียนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ�อ๊ากกก!!! เธอกำลังทำผมคลั่ง
“ทำไมล่ะคะ?”
“ซอยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น�จนกว่าจะได้ฟังสิ่งที่พี่จะพูด”
��� เป็นไงเป็นกันครับ�บรรยากาศดีๆ สถานที่เหมาะๆแบบนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ...
“พี่คยูจะพูดอะไรหรอคะ?”
“พี่...”�� โอ๊ยยย!!! ยิ่งเธอจ้อง ผมยิ่งเขิน
“พี่..รัก..เอ่อ..พี่...”
“ถ้ามันยากมากนักก็ไม่เป็นไรนะคะ�ซอคงไม่สำคัญมากกพอที่จะได้ฟัง”�ซอฮยอนทำหน้าเศร้าก่อนจะกลับหลังหันแล้วเตรียมจะเดินกลับห้อง
“พี่รักซอ!! รักมานานแล้ว�และก็จะรักตลอดไปครับ”�
�������� เธอหยุดเดินทันทีแต่ก็ยังไม่ยอมหันมามองผม�หรือเธอจะได้ยินไม่ชัด...นี่ผมต้องพูดอีกรอบหรอเนี่ย�มันเขินนะครับ!!
“พี่ขอโทษนะครับที่มัวแต่ปอดแหกไม่กล้าพูดตั้งแต่แรก�แต่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป�พี่จะพูดมันบ่อยๆนะครับ...ซอจะได้รู้ว่าพี่รักซอมากแค่ไหน”�
������ เธอค่อยๆหันมามองหน้าผม�ไม่ใช่แค่แก้มครับ�แต่ตอนนี้หน้าของเธอเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั้งหน้าแล้ว�น่ารักเป็นบ้าเลยครับ!!!
“ซอจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอ...หรือว่าอยากให้พี่พูดอีก...พี่รักซ..”
“พอแล้วค่ะพี่คยู!!!�ซอไปนอนดีกว่า”�
����� พูดจบเธอก็วิ่งฉิวกลับเข้าห้องไปเลย�อ้าวว!! ตกลงยังไงกันเนี่ย�สรุปว่าเธออยากให้ผมพูดหรือไม่พูดกันแน่...ผู้หญิงนี่เข้าใจยากชะมัด...แต่จะบอกว่าตอนนี้ผมรู้สึกดีมากเลย�รู้งี้ผมบอกรักเธอทุกวันตั้งแต่รู้จักกันวันแรกแล้ว
...........................................................................................
Leeteuk’s Part
���������� หลังจากฟังความในใจของคุณคยูไปแล้ว�ก็ถึงคิวพ่อบ้านอย่างผมพูดบ้าง�เห็นผมทำแต่งาน ขลุกอยู่แต่ในครัว�แต่ผมก็มีความรักกับเค้าเหมือนกันนะครับ�แต่ติดอยู่ที่เธอคนนั้นอาจจะอยู่ไกลเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมถึง
“คุณแทยอนไปพักผ่อนเถอะครับ�ที่เหลือผมจัดการเอง”
��������� ผมบอกคนตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาจัดเรียงจานชามอย่างขะมักเขม้น ��พอทานข้าวเย็นเสร็จเธอก็อาสาเข้ามาช่วยผมในครัว...ล้างจานตั้งเป็นสิบๆใบ�ผมล่ะกลัวว่ามือนุ่มๆของเธอจะเปื่อยเพราะน้ำยาล้างจานซะก่อน
“อีกนิดเดียวเองค่ะ”
“แค่นี้คุณก็ช่วยผมตั้งเยอะแล้ว�ไม่รบกวนแล้วดีกว่าครับ”�เธอวางจานตรงหน้าลงก่อนจะหันมาจ้องผมอย่างยิ้มๆ
“รบกวนอะไรกันคะ�พวกฉันเป็นคนอาศัย ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วยค่ะ�อีกอย่างงานในครัวนี่สนุกจะตาย...ฉันชักจะติดใจแล้วสิ�ไม่ต้องวุ่นวาย ไม่ต้องตากแดด�ไม่ต้องตอบคำถามน่าปวดหัวจากคนอื่นๆ...ดีกว่างานในวงการเยอะเลย”
���� ...คำพูดของเธอกำลังจะทำให้ผมตัวลอย...ผมคิดมาตลอดว่าเธอคงไม่ค่อยปลื้มอะไรแบบนี้เท่าไหร่�ที่เธอทำดีกับผมอาจจะเป็นเพราะเธอสงสาร�แต่แววตาและน้ำเสียงของเธอเมื่อกี้ ผมสัมผัสได้ถึงความจริงใจล้วนๆ
“เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณลีทึก�ทำไมจู่ๆก็หน้าแดงๆเหมือนเป็นไข้เลย”�เธอวางมือเล็กๆลงบนหน้าผากของผมพลางถามอย่างห่วงใย...ใจเย็นไว้นะลีทึกๆๆๆ
“ไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่รู้สึกร้อนๆ”�
����� ผมรีบดึงมือเธอออกก่อนที่ผมจะเป็นลมไปซะก่อน�แต่กลับเป็นเธอที่หน้าแดงแทนเมื่อเราจับมือกัน...หรือเธอจะรู้สึกแบบเดียวกันกับผม�ไม่ใช่หรอก!! แกเพ้อไปแล้วลีทึก�แค่เธอบอกว่าชอบงานที่เราทำ ไม่ได้หมายความว่าเธอจะชอบชีวิตในแบบของเราหรือชอบเราซักหน่อย
“ปกติคุณแทยอนไม่ค่อยได้เข้าครัวหรอครับ?”�ต้องรีบเปลี่ยนประเด็นก่อน
“ค่ะ..ไม่ค่อยมีเวลาน่ะค่ะ�นึกๆแล้วก็ตลกตัวเองนะคะ�เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินจนมองข้ามเรื่องดีๆในชีวิตไปหลายอย่างเลย�ไว้ว่างๆต้องให้คุณลีทึกช่วยติดเข้มเรื่องงานในครัวให้ซะแล้ว”
“จะเตรียมตัวไปเป็นแม่บ้านให้ใครหรอครับ?”�จู่ๆผมก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา�ที่เธอมาตีสนิทกับผมก็เพื่อจะให้ผมช่วยสอนเรื่องงานบ้านงานเรือนเพื่อที่เธอจะได้ไปเป็นแม่บ้านให้คนอื่นซินะ
“เปล่านะคะ!! ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องพวกนี้ไว้บ้างก็เท่านั้น...แต่ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันไม่รบกวนก็ได้ค่ะ”
�� ...เธอคงตกใจที่น้ำเสียงและท่าทางของผมเหมือนจะโมโหเธอ�แกมีสิทธิ์อะไรไปโกรธเค้าฮะไอ้ทึก!!!
“ผมสะดวกครับ...คุณอยากจะให้ช่วยเมื่อไหร่ก็บอกผมได้�แต่ตอนนี้ผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ”
“คุณโกรธฉันหรอ?”�เธอจับมือผมไว้พลางทำหน้ากังวล
“พ่อบ้านอย่างผมไม่กล้าโกรธแขกของเจ้าของบ้านอย่างคุณหรอกครับ”
“พูดแบบนี้แสดงว่าโกรธแน่ๆ�ฉันไม่ได้จะเตรียมไปเป็นแม่บ้านของใครจริงๆนะคะ...ฉันก็แค่..ก็แค่อยากใช้เวลากับคุณให้มากๆ ก็เท่านั้น”�
�� หือออ!!! อยากใช้เวลากับผม...นี่เธอกำลังจะสารภาพรักผมรึเปล่าครับ??�ผมไม่ได้ฝันใช่มั้ย
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ�ฉันก็เขินเป็นนะ...ฉันรู้ค่ะว่ามันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่ผู้หญิงจะทำอะไรแบบนี้�แต่ฉันอยากจะบอกว่าฉันชอบ...”
“คุณแทยอนครับ!! ดึกแล้ว�ผมว่าคุณกลับไปพักเถอะครับ�ผมก็ขอตัวเหมือนกัน...ฝันดีนะครับ!!”
����� ผมรีบปลีกตัวออกมาให้ห่างจากเธอทันที�ไม่ใช่เพราะผมไม่ชอบเธอนะครับ...ตรงกันข้าม ผมว่าผมตกหลุมรักเธอเลยแหละ�เพียงแต่ว่าผมอยากให้เธอกลับไปคิดดูให้ถี่ถ้วนอีกที�ถึงผมจะรักเธอ แต่ผมก็ไม่อยากดึงเธอให้ลงมาลำบากกับพ่อบ้านธรรมดาๆอย่างผมหรอกครับ
......................................................................
Siwon’s �Part
�������� สวัสดีครับตอนดึก(ในเรื่อง)ครับรีดเดอร์ทุกคน....อันที่จริงก็ไม่ดึกมากเท่าไหร่หรอกครับ เพราะถ้าดึกจริงๆผมคงไม่เห็นคุณหนูขี้วีนของผม..เอ้ยย!!..ผมหมายถึงของรีดเดอร์ทุกคน�มาเดินเล่นคนเดียวในไร่แบบนี้หรอกครับ
....ไหนๆเธอก็ยังไม่เห็นผม...แกล้งซักหน่อยดีกว่า
ตุ้บ!! ผมขว้างก้อนหินก้อนหนึ่งไปตกใกล้ๆกับจุดที่เธอยืนอยู่�� มองซ้ายมองขวาใหญ่เลยครับ ฮ่าๆๆๆ
“ใครน่ะ??�ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ตุ้บ!!! ผมขว้างไปอีกก้อนหนึ่ง�คราวนี้เธอเงียบกริบและยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้าเลยครับ�เธอมองไปรอบๆซักพักก่อนจะออกวิ่งมาทางที่ผมหลบอยู่...โดนแน่ๆคุณหนูยุนอา
“แบร่!!!”
“กรี๊ดดดด!!!�ใครก็ได้ช่วยด้วย..กรี๊ดดดด!!!”�เธอทรุดลงนั่งกับพื้นพลางร้องโวยวายอย่างไม่ลืมหูลืมตา�ผมทำเกินไปรึเปล่าเนี่ย�แต่ก็แค่กระโดดออกมาจ๊ะเอ๊เธอเองนะครับ คึคึคึ
“คุณ!! เป็นอะไรรึเปล่าครับ??”�ผมนั่งยองๆลงดูอาการเธอ�พอเห็นหน้าผมเท่านั้นแหละ เป็นเรื่องเลย
“นายบ้า!!! นี่นายแกล้งฉันอีกแล้วหรอ...รู้ว่าฉันกลัวก็ยังจะแกล้งอยู่ได้ สนุกมากรึไงยะ!! TAT”
������ เธอบ่นผมเป็นชุดพร้อมกับน้ำตาซึม�เฮ้ยย!! ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอร้องไห้นะครับ�ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน ทุกครั้งที่ผมเถียงกับเธอ�ทุกครั้งที่ผมแกล้งเธอ...ผมทำไปเพราะผมอยากอยู่ใกล้ๆเธอ�อยากพูดคุยกับเธอ�แต่ผมไม่เคยคิดจะทำให้เธอร้องไห้เลยนะครับ
“ผมขอโทษ..ผม..ผมไม่คิดว่าคุณจะกลัวขนาดนี้...ค่อยๆลุกนะครับ”�ผมพยุงเธอให้ลุกขึ้น�แต่เธอก็ยังไม่ยอมมองหน้าผม
“ก็แค่คำขอโทษ�แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่านายรู้สึกผิดจริงๆ...เดี๋ยวคราวหน้านายก็แกล้งฉันอีก”
“แล้วต้องให้ผมทำยังไงล่ะครับคุณถึงจะเชื่อ”��
������ ถ้าเป็นตอนแรกๆที่รู้จักกัน�ผมคงไม่เสียเวลากับเรื่องแบบนี้หรอกครับ�แต่พอผมได้รู้จักกับเธอมากขึ้น�ผมกลับรู้สึกใจเต้นแปลกๆทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆเธอ...ปากของผมก็แซวเธอ ว่าเธอสารพัด�แต่ในใจของผมกลับไม่เคยรู้สึกแย่กับเธอเลยสักครั้ง...มีแต่จะรู้สึกดีขึ้นทุกวันๆ
“นายก็ต้องสัญญาว่าจะเลิกแกล้งฉัน เลิกจิกกัดฉัน และก็เลิกขัดคอฉันในทุกๆเรื่อง...ถ้านายผิดสัญญา เราก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก�แค่เนี้ยทำได้มั้ย??”�� ผู้หญิงคนนี้เผด็จการเป็นบ้าเลย�แต่ทำไงได้ล่ะครับ เล่นขู่ว่าจะไม่พูดกับผมอีก ยังไงผมก็ต้องทำแหละครับ
“ก็ได้ครับ�แต่คุณก็ต้องทำเหมือนกัน”
“เรื่องอะไรฉันจะทำ�ฉันไม่ใช่คนผิดซักหน่อย”�เธอกอดอกและพูดอย่างเชิดๆตามสไตล์ของเธอ�ท่าทางแบบนี้ของเธอนี่แหละครับที่ทำให้หัวใจของผมอยู่ไม่เป็นสุขทุกทีที่ได้เห็น
“ถ้ายังงั้นคืนนี้คุณคงต้องคลำทางกลับบ้านเองแล้วแหละครับ...เพราะอีกประมาณสามนาทีก็จะสี่ทุ่ม ไฟที่นี่ก็คงจะตัดแล้วรอบๆตัวคุณก็จะมืด!!!”
“ว๊ายย!!”�ผมแกล้งเน้นเสียงคำว่า มืด เฉยๆ�แต่เธอดันตกใจแล้วกระโดดมาเกาะแขนผมเฉยเลย...รู้แล้วใช่มั้ยว่าทำไมผมถึงชอบหลอกให้เธอกลัว
"เหลือสองนาทีแล้วนะครับ...ถ้าคุณตกลง ผมก็จะไปส่ง แต่ถ้าไม่ตกลง ก็แยกกันตรงนี้เลยละกันนะครับ”
������ ผมแกะมือเธอออกจากแขนผมแล้วแกล้งเดินออกมา...เอาเข้าจริง ถ้าเธอไม่ยอมทำตามข้อตกลง�ยังไงซะผมก็ไม่ปล่อยให้เธอเดินกลับเองคนเดียวหรอกครับ
“โอเคๆๆ ทำก็ได้”
“ถ้างั้นสรุปว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะเลิกทะเลาะกัน เลิกมองกันในแง่ร้าย และก็หันมาคุยกันดีๆ...ใช่มั้ยครับ?”
“อือ”
� Yesss!!! ในที่สุดก็ได้เวลาที่ผมต้องเลิกแกล้งเธอแล้วหันมาทำตามหัวใจของตัวเองซักที
........................................................................
Donghae’s Part
�� กว่าจะถึงผม..รอตั้งนานแน่ะ ฮ่าๆๆๆ�แต่จะให้รออีกนานแค่ไหนก็รอได้ครับ เพราะคนที่รออยู่ข้างๆผมเนี่ยแหละ
“คุณยังไม่นอนอีกหรอครับ?”�ผมถามคุณเจสที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ�เธอกำลังดูโฟโต้บุ๊คของเธอที่คุณแทยอนกับคุณยุนอาขนมาให้จากโซล...ถ้าแถวนี้มีขายล่ะก็ ผมคงเหมาหมดแผงเลย
“ฉันยังไม่ง่วงเลยค่ะ คุณไปนอนก่อนก็ได้นะ ฉันโอเค”
������ เธอยิ้มหวานให้ผมทีนึงก่อนจะหันไปสนใจหนังสือต่อ�พี่ลีทึกก็กลับห้องไปแล้ว�พี่ซีวอนก็ออกไปที่ไร่�ผมจะทิ้งเธอให้นั่งอยู่คนเดียวได้ยังไงล่ะ�ถ้ามีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเธออีกจะทำยังไง
“นั่งเป็นเพื่อนคุณนี่แหละครับ�ผมก็ไม่ง่วงเหมือนกัน”
�������� ผมหยิบโฟโต้บุ๊คของเธอมาดูเล่มหนึ่ง�เธออยู่ในชุดสบายๆ แต่งหน้าอ่อนๆ แทบจะไม่ได้แต่งเติมอะไรเลย แต่ก็สามารถสะกดสายตาของผมเอาไว้กับภาพของเธอได้...ครั้งแรกที่ผมเจอเธอก็เหมือนกัน�ผมรู้สึกเหมือนโดนมนต์อะไรซักอย่างที่ทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้...
“คุณดงเฮคะ!!!”
“ครับๆๆๆ”�ผมตกใจที่เธอเรียกผมเสียงดัง แถมยังยื่นหน้าสวยๆเข้ามาใกล้ผมอีก...เธอคงไม่รู้สินะว่าทุกครั้งที่เธอทำแบบนี้ มันทำให้ผู้ชายอย่างผมแทบจะละลายแล้ว
“ฉันเรียกตั้งนานคุณไม่เห็นสนใจซักที�คุณคงอยากดูรูปฉันมากกว่าเห็นตัวจริงฉันใช่มั้ยคะ”�เธอพูดอย่างงอนๆ�คิ้วผูกโบแล้วครับ...น่ารักจัง
“เปล่านะครับ...ผมแค่กำลังคิดว่ารูปของคุณสวยมาก�แต่ก็ยังสวยสู้ตัวจริงไม่ได้”
“>///<”�
������
����� จากที่งอนกลายเป็นหน้าแดงแทนซะแล้ว...เวลาอยู่กันสองคนทีไร ต้องมีเรื่องให้เธอเขินทุกที�ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าคำพูดหวานๆพวกนี้มันออกมาจากปากผมได้ยังไง�รู้แต่ว่าพอเห็นหน้าเธฮแล้ว ความคิดของผมก็มีแต่เรื่องพวกนี้ไปโดยอัตโนมัติ
“คุณดงเฮคะ...คุณคิดว่าฉันควรจะกลับไปที่โซลมั้ย?”
���� จู่ๆเธอก็ถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง...รูปพวกนี้คงทำให้เธอคิดถึงการเป็นดาราขึ้นมามั้ง�ทุกครั้งที่ความจำของเธอเริ่มจะดีขึ้น ผมก็ดีใจนะ�แต่อีกใจก็รู้สึกกลัว...กลัวว่าจะไม่มีเธออยู่ข้างๆอีกต่อไปแล้ว
“แล้วคุณอยากกลับไปรึเปล่าล่ะครับ”
“ไม่รู้สิคะ...ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านฉันไปแล้ว�แต่ถ้าความทรงจำกลับมาก็ไม่รู้ว่าจะยังรู้สึกแบบนี้อยู่รึเปล่า”
“ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง...ผมอยากให้คุณรู้ไว้นะครับว่าที่นี่พร้อมที่จะต้อนรับคุณเสมอ”
“คงใจหายน่าดูนะคะถ้าฉันต้องไปจากที่นี่จริงๆ”�เธอพูดพลางมองไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ผม
“ครับ...ผมคงใจหายน่าดู ถ้าไม่มีคุณ”
“หืออ??�คุณว่าไงนะคะ”�หลุดปากอีกแล้วดงเฮ�เก็บอาการหน่อยสิ!!
“ผมหมายถึงว่าทุกคนที่นี่คงใจหายนะครับถ้าคุณต้องกลับไปจริงๆ”
“ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า�ฉันจะจำได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย..เผลอๆอาจจะได้อยู่ที่นี่อีกเป็นปีๆเลยก็ได้ ใครจะไปรู้ ฮ่าๆๆ”
� ...เธอคงจะพูดเล่น แต่เธอจะรู้มั้ยนะว่ามันทำให้หัวใจของผู้ชายคนนี้พองโตขนาดไหน...ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดีสิ
“ถ้าคุณพยายามและอดทน�อีกไม่นานคุณก็ต้องจำได้ครับ เชื่อผมสิ”
“แต่บางทีฉันก็แอบคิดนะคะว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีแล้ว..ไม่เห็นจำเป็นต้องรื้อฟื้นอดีตเลย”
“คุณเจส...”�เธอไม่ได้แกล้งพูดให้ผมดีใจใช่มั้ย!!!
“ฉันพล่ามอะไรให้คุณฟังเนี่ย น่าอายจัง...ไปนอนดีกว่า�ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อน”
เธอยิ้มให้ผมอย่างเขินๆก่อนจะเดินเข้าห้องไป...ใครก็ได้ช่วยที...ผมคิดว่าโรคหัวใจผมจะกำเริบแล้วคร้าบบบ!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น