ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yoosu] Love is

    ลำดับตอนที่ #5 : เฝ้ามอง

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 53


                       “เฮ้ย ยูชอนมองอะไรอยู่ว่ะ จะเข้าเรียนแล้วนะ ชางมินตะโกนเรียกร่างโปร่งที่เอาแต่จ้องลงไปในสนามเบื้องล่างตั้งแต่เมื่อเที่ยงไม่วางตา
                    เออ ชางมินฉันถามนายหน่อย นายสนิทกับครูจุนซูหรือเปล่า” ร่างโปร่งขยับหน้าหันกลับเข้ามาถามอย่างจริงจัง
                    เอ จะว่าไปฉันก็สนิทกับจุนจังมากเหมือนกันแหละ 
                    จุนจัง ยูชอนทวนชื่อเรียกที่ออกมาจากปากเพื่อนรักอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ซึ่งชางมินก็ฉลาดพอที่จะจับน้ำเสียงแปลกๆนั่นได้
                    เออ โทษทีพอดีติดจากพี่แทยอนน่ะ เขาชอบเรียกพี่เขาอย่างนั้น 
                    อืม
                    แล้วนายถามทำไม ฉันสิน่าจะถามนายมากกว่า พี่เขาไปทำอะไรให้ว่ะ ตามจองเวรเขาจัง ฉันเห็นนายจ้องเขาไม่กระพริบเลยในคลาส แล้วไอ้คำพูดจิกจักนั่นอีก ไม่ใช่นิสัยนายเลยนะ ร่างโย่งของชางมินเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หน้าต่างที่ยูชอนนั่งอิงอยู่พร้อมกับลอบมองไปยังสนามแล้วภาพที่เห็นก็ยิ่งตอกย้ำ ความคิดที่อยู่ในใจ เพราะคนที่เห็นก็คือร่างเล็กของคนที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนากับครูแจจุง
                    ถ้าเกิดมีคนลืมนายล่ะ ชางมิน ทั้งๆที่มีความลับร่วมกันแล้วลืม นายจะโกรธรึเปล่า ยูชอนปล่อยสายตาไปที่สนามอีกครั้ง ชางมินไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแค่ต้องไปถามพี่ชายอีกคนว่าไปลืมใครหรือเปล่า (แต่ เอ ถ้าประมวลจากคำพูด และการกระทำ เพื่อนของเขานี่มันเรียกว่าอาการพาลจากความหึงได้เปล่าหว่า ถ้าหึงก็แปลว่าชอบ เฮ้ย! แล้วที่ว่าความลับร่วมกัน กับไอ้ประโยคที่ว่า ฟันแล้วทิ้ง อ่ะ อ่ะ หวังว่าคงเป็นเรื่องอื่นนะครับ)
                    สองคนมองกลับลงไปในสนามอีกครั้ง แต่ในหัวของทั้งสองกลับคิดกันคงล่ะเรื่องอยู่ ตอนนี้ แจจุงโบกมือลาเข้าไปในตัวอาคาร ในขณะที่จุนซูยังคงนั่งมองเด็กเล่นอยู่ในสนาม เนื่องจากยังไม่มีชั่วโมงสอน แล้วไม่รู้นึกอย่างไร ครูตัวจ้อยก็โดดเข้าไปร่วมแจมในเกมส์ฟุตบอลซะแล้ว ชางมินเคลื่อนตัวกลับไปนั่งที่หลังจาก ออดเข้าคาบเรียนบ่ายเริ่มขึ้น ซึ่งเป็นวิชาประวัติศาสตร์ ของครูแจจุงนั่นเอง แต่ดูเหมือนประธานนักเรียนคนเก่งไม่ได้หันกลับมาสนใจคาบเรียนแม้แต่น้อย สายตาเขายังคงจับตามหลังคนตัวเล็กไปไม่ห่าง
                    เอ่อ คุณประธาน ช่วยกลับมาสนใจชั่วโมงครูหน่อยได้ไหมครับ เสียงหวานปนดุของแจจุงเรียกให้ร่างโปร่งหันกลับเข้ามาสู่บรรยากาศการเรียนอีกครั้ง แต่เมื่อครูเผลอ เขาก็มองกลับลงไปในสนามอีกครั้ง รอยยิ้มน้อยๆ ของเขายกยิ้มทุกครั้งที่ร่างเล็กทำประตูได้แต้ม และทำท่าทางดีอกดีใจ มีจะขัดใจก็วิธีแสดงความดีใจของผู้ร่วมทีมที่วิ่งเข้ามากอดร่างเล็กนี่แหละ ที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ  
    อยู่ดีๆ ยูชอนก็ร้องเสียงดัง และรีบลุกออกจากเก้าอี้
                    โอ๊ะ!” 
                    ยูชอนเธอมีอะไรนักหนากับชั่วโมงของครูเนี่ย แจจุงเริ่มหมดความอดทน
                    ผมขอตัวครับ ผมไม่สบาย ยังไม่ทันจะได้ยินเสียงอนุญาติ ร่างของยูชอนก็หายลับไปจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว ทำให้ชางมินที่สังเกตุอยู่ตลอดอดกังวลไม่ได้
                    (อยากตามไปดู แต่กลัวอ่า สายตาครูแจจุงโครตน่ากลัวเลย)
                    .
                    .
                    .
    โอ๊ย! เจ็บชะมัดเลย ร่างเล็กคว่ำครวญอยู่บนเตียงนอนในห้องพยาบาล โดยมีลูกศิษย์ที่เล่นบอลอยู่ด้วยกันเมื่อครู่ประคองมาส่ง จุนซูกระโดดหลบการเสียบของฝ่ายตรงข้าม แต่เสียหลักทำให้เขาล้มกลิ้ง แถมข้อเท้ายังดูเหมือนจะแพลงด้วย
    ลูกศิษย์ที่ประคองมาเห็นข้อเท้าที่บวมเป่งของครูก็หน้าเสีย เขารีบมองหาครูพยาบาล แต่ก็ไม่มี เขาทำได้เพียงประคบข้อเท้าด้วยน้ำแข็งเท่าที่หาได้
    ครูไม่เป็นอะไรหรอก ออกไปเล่นต่อเถอะ   จุนซูที่เห็นสีหน้าที่จ๋อยลงของลูกศิษย์ก็อยากปลอบใจ แล้วทั้งสองก็ต้องตกใจเมื่อประตูห้องพยาบาลเปิดออกอีกครั้ง แต่คนที่เปิดเข้ามากลายเป็นประธานนักเรียนซึ่งควรจะมีคาบเรียนอยู่ปรากฎตัวมา
    นายไปเหอะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันดูเอง เสียงทรงอำนาจของยูชอนได้ถูกเปล่งออกมา เหมือนทั้งขู่ทั้งบังคับกลายๆ จนคนฟังไม่กล้าขัดขืน
                    ครับ เด็กนักเรียนคนนั้นวิ่งออกไปด้วยความเร็ว ไม่มีใครในโรงเรียนกล้าขัดคำสั่งของเขา เพราะไม่กล้าจะมีปัญหากับประธานนักเรียนซึ่งเป็นลูกของ ผอ.โรงเรียน เมื่อเหลือกันเพียงสองคน ยูชอนก็นั่งตรงปลายเท้าของจุนซูแล้วเอาน้ำแข็งมาประคบให้อย่างแผ่วเบา จุนซูมองอาการของคนตรงหน้าอย่างงงๆ เอ ได้ข่าวว่าเกลียดกันไม่ใช่เหรอ ไหงมานั่งพยาบาลกันอย่างนี้ว่ะ หรือเขาเข้าใจผิดไปเอง ขณะที่จุนซูตัดสินใจจะขอบคุณ ยูชอนก็พูดสยบความเงียบอีกครั้ง
                    ซุ่มซ่ามจังนะครับ ทำไมชอบทำให้ตัวเองมีแผลจัง 
                    (อึ๋ย อีกแล้ว ไอ้เด็กเนี่ย ปากไมมันจัดจังว่ะ)
                    ชาติที่แล้วเป็นไก่เหรอ แล้วคำถามก่อกวนก็หลุดออกมาจากร่างเล็กจนได้ เพราะเขาคงไม่ทนให้โดนด่าอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ยูชอนเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจคำถาม
                    อะไรนะครับ 
                    ก็ฉันสงสัยว่าชาติที่แล้วเธอต้องเป็นไก่แน่ ถึงได้จิกเก่งจริงๆ หน้าของยูชอนร้อนวาบ เขาไม่คิดว่าร่างเล็กจะโต้กลับ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงพูดดีๆไม่เป็นกับคนคนนี้ หรืออาจแค่น้อยใจที่ไม่มีวี่แววว่าจะจำเขาได้สักทีก็ได้ แต่ความอยากเอาชนะของคนเราบางทีก็อยู่เหนือเหตุผล
                    จะว่าไปผมก็เลือกจิกนะครับ อย่างพวกข้าวเปลือกขี้เลื่อยอะไรอย่างเนี่ย   หัวเล็กๆ ของจุนซูประมวลผลอย่างรวดเร็ว (ขี้เลื่อย อ๊าก! นี่มันด่าว่าฉันไม่มีสมองเหรอ ไอ้เด็ก) ด้วยความโกรธ ทำให้จุนซูออกอาการ เขาขยับเท้าหนี แต่นั่นก็เรียกความ ปวดร้าวจากบาดแผลได้อีกครั้ง จนเขาต้องร้องออกมา
                    โอ๊ย!” เมื่อยูชอนเห็นอาการเจ็บของคนตรงหน้าเขาก็ตกใจ และพยายาม ประคบอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่เจือไปด้วยความห่วงใยจนคนฟังจับได้
                    อย่าขยับสิครับ เดี๋ยวจะเจ็บมากไปกว่านี้นะ จุนซูเลยหยุดดื้อ เขายอมนั่งนิ่งๆให้ยูชอนรักษา
    พอยูชอนเงยหน้าไปมองก็เห็นจุนซูจ้องมองไม่วางตา เขาก็รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก เขาเลือกที่จะก้มหน้าหลบสายตาที่สดใสอันนั้น เพราะกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้
                    ครูถามจริงเถอะ นายโกรธอะไรครูรึเปล่า หรือว่าครูทำอะไรไม่เหมาะสมก็บอกกันได้นะ จุนซูเลือกที่ถามเรื่องที่คาใจของเขา ยูชอนเงยหน้ามามองด้วยใจที่บอกไม่ถูก ก็ไม่ได้โกรธ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร รู้แต่มันทั้งหวง ทั้งห่วง ทั้งน้อยใจ ทั้งหงุดหงิด ปนกันไปหมด
                    เปล่า ครับ ผม.............. แล้วสายตาของยูชอนก็เหลือบไปเห็นแผลถลอกบริเวณข้อมือของคนตัวเล็ก ที่มีเลือดออกซิบๆ ด้วยความเร็ว เขารีบคว้าข้อมือเล็กมาเลียลงไปบริเวณแผลทันที ลิ้นหยุ่นสัมผัสไปยังบาดแผลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงไปใช้ริมฝีปากซับเลือดออก เขาอดใจไม่ไหว กลิ่นเลือด  และกลิ่นหอมประจำตัวของจุนซูส่งผลต่ออาการของเขาอีกครั้ง ร่างโปร่งเผลอนึกไปถึงค่ำคืนเร่าร้อนนั่น เขากดริมฝีปากให้แน่นกับบาดแผลและใช้ลิ้นเลีย เรื่อยไปยังนิ้วเล็ก มืออีกข้างเผลอกดไปยังข้อเท้าด้านล่างอย่างไม่รู้ตัว เขากำลังเผลอไผลไปกับอารมณ์ที่เก็บไม่มิด
                    อ่ะ อืม ปล่อย ยูชอนครูเจ็บ จุนซูเผลอส่งเสียงที่เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันรู้แต่มันรู้สึกแปลกๆ ทั้งเจ็บทั้งอาย เขาไม่รู้ว่าเด็กนี่ทำไมต้องทำแบบนี้ ยูชอนยังคงไม่ปล่อยร่างเล็กตรงหน้า จนน้ำตาหยดเล็กๆเริ่มปริ่มไหลออกมาจากหางตาเรียวจากความเจ็บที่เท้า ยูชอนเมื่อมองเห็นเขาก็ตกใจ เขารีบปล่อยมือออก 
                    ผม ขอโทษ เจ็บเหรอครับ อย่าร้องนะ   มือหนาถูกเลื่อนมาปาดน้ำตา ของคนตรงหน้า
                    ปัง! เสียงประตูเปิดออกด้วยความแรง ทำให้ยูชอนสะดุ้งและดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว
                    จุนซู นายเป็นอะไรไหม ฉันได้ยินว่านายล้ม เป็นแจจุงนั่นเองเมื่อเขาได้ข่าวหลังเลิกชั่วโมงก็รีบดิ่งมาหาทันที โดยไปนั่งแทรกตรงยูชอน ทำให้ร่างโปร่งต้องลุกออกมายืนข้างเตียงแทน   ชางมินได้แต่แอบชะเง้อชะแง้มองสถาณการณ์อยู่ตรงหน้าประตู
                    ร้องไห้ด้วยสงสัยจะเจ็บมาก ไปโรงพยาบาลดีกว่านะ   แจจุงทำท่าจะพยุงร่างเล็กออกไป แต่จุนซูก็ดึงตัวเองไว้ด้วยกลัวว่าเพื่อนจะห่วงมาก
                    ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ร่างเล็กยิ้มน้อยๆ กลับไปให้เพื่อนหนึ่งครั้ง แจจุงอดหมั่นไส้กับรอยยิ้มนี่ไม่ได้เขาขยี้หัวของจุนซูเบาๆ
                    นายน่ะ ชอบทนอย่างนี้ทุกที โอ.เค. งั้นก็นอนพักเถอะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันไปส่งเอง วันนี้พี่จุนโฮไม่ว่างไม่ใช่เหรอ 
                “ขอบใจนะ จุนซูค่อยๆขยับตัวเองล้มตัวลงนอน แจจุงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ก่อนจะดันหลังยูชอนออกมา
                    นายก็กลับไปเรียนได้แล้ว ฉันไม่เห็นนายจะป่วยตรงไหนเลย อย่ากวนครูเขาเลย 
    ร่างโปร่งที่โดนดันออกพยายามเหลียวกลับมามองร่างเล็กที่นอนหันหลังให้อย่างพะวักพะวน
                    แต่.......... 
                    ไม่ตงไม่แต่แล้วไปเรียน 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×