ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yoosu] Love is

    ลำดับตอนที่ #6 : ก็รู้แต่ไม่เข้าใจ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 53


    จุนซูเจ็บข้อเท้าจนไม่อาจไปสอนได้อาทิตย์หนึ่ง ซึ่งก็ทำให้มีคนที่กระวนกระวายไม่น้อยอยู่หลายคน หนึ่งในนั้นก็คือท่านประธานคนเก่ง ที่ทุกเช้าต้องพยายามยืดคอมองไปที่ประตูโรงเรียนทุกครั้ง จนชางมินอดที่จะแซวไม่ได้
     
    เฮ้ย ! จะเปลี่ยนสายพันธ์รึไงว่ะ ยูชอน          
    อะไรของนายสายพันธ์อะไร เด็กหนุ่มที่สวนกลับเพื่อนโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปยังหน้าโรงเรียนเอ่ยถาม ชางมินรู้สึกหงุดหงิดการไม่เอาใจใส่ เลยใช้มือทั้งสองจับหน้าเพื่อนบิดกลับมา
    ก็จากไก่ กลายเป็นยีราฟไง ถามจริงรอใครอยู่เหรอ เห็นเป็นอย่างนี้มาทั้งอาทิตย์แล้ว   ยูชอนไม่ตอบแต่เบือนสายตาหนีแทน เล่นเอาความอยากรู้เล่นมาจุกอกเพื่อนทันที
    อย่าบอกนะเว้ย ว่านาย............แอบหลงรักจุนจังเข้าแล้ว   เงียบ คำตอบอย่างเดียวที่ได้รับกลับ และหน้าที่เริ่มแดงเรื่อ ทำเอาชางมินที่รู้เรื่องความในใจของจุนซูมาตลอดหลายปี ได้แต่สงสารเพื่อน เขาเอื้อมมือไปแตะบ่าเพื่อนรักอย่างปลอบใจ
    ถ้าใช่ ก็เลิกเถอะ ถือว่าเป็นคำเตือนของเพื่อนแล้วกัน ชางมินเดินเข้าโรงเรียนก่อนโดนทิ้งให้ยูชอนได้ตรึกตรองสิ่งที่เขาบอก
    ก็รู้อยู่แล้วนา  ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเขารักใคร แต่ใครจะรู้ชางมิน รักได้ก็เลิกได้ และสิ่งที่ฉันกำลังเป็นอยู่ก็แค่หวงของตัวเองเท่านั้น ถ้าฉันอยากได้อะไรก็ต้องได้ต่างหาก มันไม่เกี่ยวกับความรักสักนิด ยูชอนได้แต่ยืนถอนหายใจกับตัวเอง จนเมื่อได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าโรงเรียน พร้อมกับร่างของใครบางคนที่พยายามเดินกระโผกกระเผกเข้ามา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง เขารีบเดินเข้าไปหาเพื่อพยุง แต่ก็ผิดหวังเมื่อแจจุงรีบเข้ามาทักทายและประคองจุนซูผ่านเขาไป แถมจุนซูยังไม่ปลายตามองเขาสักนิด อาการเจ็บแปล๊บของคนที่ได้แต่มองตามหลังไปก็เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
     
     
    สองเดือนก่อน
     
    ยูชอนโดนเพื่อนที่เป็นรุ่นน้องกับเจ้าบ่าวลากมาร่วมงานที่เขายอมมาก็เพราะเคยเป็นเด็กในชมรมของรุ่นพี่คนนี้เหมือนกัน และเจ้าสาวก็ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนสนิทอย่างชางมินด้วย เขาเลยไม่ปฏิเสธ ร่างโปร่งยืนมองคู่บ่าวสาวที่ยิ้มแย้มออกมาต้อนรับแขกเหรื่อ แบบเซ็งๆ
    แต่งกันเดี๋ยวเดียวก็เลิก เหมือนพ่อกับแม่ ไม่เคยมีรักใดที่ยั่งยืน ไม่มีความรักที่เรียกว่านิรันดร์ เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็จืดจางไปตามเวลา
    สายตาคมสอดส่ายไปทั่วงาน และแล้วเขาก็ไปสะดุดตากับร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งที่หน้าเริ่มแดงกล่ำจากไวน์ที่เจ้าตัวยืนถืออยู่ ใบหน้าหวานที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแสนเศร้า และดวงตาที่พยายามปกปิดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมายามมองตามไปยังเจ้าสาว  มันดึงดูด เหมือนมีอะไรบางอย่างทำเอาเขาไม่สามารถละสายตาออกจากคนคนนั้นได้ จนเมื่อร่างเล็กในชุดสูทไม่สมตัวและใบหน้ายกแก้วไวน์ขึ้นกระดกที่เหลืออย่างไม่กลัวเมา ก่อนจะเลี่ยงเดินออกจากงานไปด้วยอาการโซเซ เขาจึงตัดสินใจเดินตามออกไป
    จุนซูเดินเอียงไปเอียงมา ด้วยอาการมึนเมาที่เริ่มก่อตัวขึ้น จนกระทั่งไปชนเข้ากับกลุ่มคนที่เหมือนจะเป็นอันธพาล
    เฮ้ย! ไอ้เด็กบ้า ชนแล้วยังไม่ขอโทษอีก ร่างของคนที่สูงที่สุดในกลุ่มกระชากคอเสื้อของคนเมาขึ้นอย่างเอาเรื่อง แต่จุนซูไร้สติไปแล้วจึงเอ่ยท้าทายแทนที่จะขอโทษ
    ไงคิดว่าเจ๋งรึไง ต่อยเลยดิ เผื่อฉันจะได้ลืมๆเรื่องอะไรไปได้บ้าง คนได้ยินคำก่อกวนก็ยกหมัดขึ้นหวังจะทำร้ายแต่เขาก็ต้องกระเด็นไปก่อนจากแรงเหวี่ยงหมัดของคนที่เดินตามมาตลอด
    พลั่ก ...... “วิ่ง   ร่างโปร่งกระชากร่างเล็กที่ยังไม่ได้สติให้วิ่งหนีกลุ่มเมื่อครู่ที่ยังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทั้งสองมาถึงหน้าซุปเปอร์มาร์เก๊ต ยูชอนหวังจะให้ร่างเล็กสร่างเมาสักนิดเขาเลยจับจุนซูนั่งรออยู่ด้านหน้า ส่วนตัวเองก็เข้าไปซื้อน้ำดื่ม แต่เมื่อออกมาก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อร่างเล็กโดนผู้ชายท่าทางดีกำลังจีบอยู่และเหมือนกำลังจะพาไป
    อย่ายุ่งกับคนของฉันถ้าไม่อยากเจ็บตัว ยูชอนส่งสายตาข่มขู่ไปจนคนที่หวังเคลมต้องล่าถอยไปอย่างเจ็บใจ หน้าตาบ๊องแบ๊วหันมามองเขาและยิ้มให้อย่างสดใส ทำเอาหัวใจของร่างโปร่งเต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นคนน่ารักกำลังเลื้อยตัวนอนยาวบนม้านั่ง เขาเลยตัดสินใจพากลับคอนโดตัวเองที่เขาขอพ่อออกมาอยู่คนเดียวโดยแลกกับการเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน
    .
    .
    .
    อืม ยืนก่อนผมเอากุญแจก่อน อ่ะ อย่าเกาะดิ ยูชอนพาคนเมาเข้าห้องอย่างทุลักทุเล เขาโยนจุนซูไว้ที่โซฟา ก่อนจะเข้าไปหาผ้าเพื่อมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ร่างเล็กได้สบาย แล้วก็ต้องตกใจเมื่อร่างเล็กเริ่มดิ้นไปมาภายใต้ผ้าเย็นๆที่กระทบผิว ยิ่งปลดกระดุมออกเม็ดแล้วเม็ดเล่าก็ยิ่งเผยให้เห็นผิวขาวกระจ่างใสเบื้องหน้าที่ออกสีแดงระเรื่อจากแอลกอฮอล์  ผิวนุ่มละเอียดมือทุกครั้งที่สัมผัส ปากบางเผยอเพื่อรับอากาศหายใจ ยั่วยวนโดนไม่ตั้งใจ ยูชอนเผลอไผลไปกับภาพตรงหน้าอย่างไม่อาจห้ามใจได้ มือหนาเลื่อนไปแตะตุ่มไตบริเวณหน้าอกที่เริ่มแข็งชัน
    ขึ้นตามจังหวะมือที่ลูบไล้ เสียงครางเบาๆแต่แสนเซ็กซี่
    อืม อา   ฉุดรั้งให้ยูชอนไม่อาจครองสติของตัวเองได้อีกต่อไป เขาก้มลงลิ้มรสริมฝีปากบางอย่างหิวกระหาย ลิ้นหยุ่นกวาดต้อนลิ้นเล็กที่ไม่ประสาอย่างเผลิดเพลิน และเหมือนร่างที่ถูกชักพาจะตอบสนอง เขายกมือขึ้นโอบรัดรอบคอของคนด้านบนและกดท้ายทอยของร่างโปร่งลงเพื่อให้ตัวเองได้รับรสชาติของความร้อนแรงได้ถนัดขึ้น เสื้อผ้าของทั้งคู่หลุดลุ่ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครสนใจ
    อย่านะถ้าทำอย่างนี้ผมจะหยุดไม่ได้แล้วนะ ยูชอนพยายามดึงตัวเองกลับ โดนการผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดนุ่มและกลิ่นกายชวนลุ่มหลง แต่แล้วความพยายามครั้งสุดท้ายก็หมดลงเมื่อก้มลงมองร่างเปลือยเปล่าเบื้องหน้าและดวงตาเรียวที่มีหยดน้ำใสๆเกาะอยู่ปรือมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปารถนา และยกมือเล็กทั้งสองมาประคองใบหน้าคมคาย ให้สายตาสบกัน ก่อนจะจุมพิตไปยังคางได้รูปเป็นเชิงขอร้อง
    อย่าหยุดฉันขอร้อง ฉันอยากลืม ช่วยด้วย น้ำตาหยดใสไหลออกมากอบกับเสียงแหบพร่าที่ครุ่กกรุ่นไปด้วยความต้องการ ยูชอนปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองก็ไม่อาจคุมความต้องการไว้ได้แล้วเหมือนกัน
    งั้นก็อย่ามาบ่นทีหลังแล้วกัน  
     
    .
    .
    .
     
    ปัจจุบัน
     
             วันนี้ทั้งวัน จุนซูได้แต่หลบสายตาที่เฝ้ามองมาจากประธานนักเรียนที่เหมือนไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหนก็มองตามมาทุกครั้ง จนเขาอดที่จะรู้สึกประหม่าไม่ได้ และเหตุการณ์ที่ห้องพยาบาลดันไปทำให้เขานึกเรื่องเมื่อสองเดือนก่อนได้ และหลังจากได้พักผ่อนอยู่บ้านมีเวลาตรึกตรองเขาก็พบว่าโครงหน้าของชายในคืนนั้น ละหม้ายคล้ายคลึงกับเด็กที่จับจ้องเขาไม่วางตาคนนี้เหลือเกิน ยิ่งบวกกับประโยคและอาการแปลกๆที่ได้รับ ยิ่งทำให้เขาเกือบจะแน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันแน่นอน แต่ไม่กล้าถาม เพราะอาย ยิ่งพอเริ่มนึกออกว่าตัวเองก็เป็นคนชักชวนก็ยิ่งอายหนักกว่าเก่า เพราะถ้าใช่จริงก็แปลว่าเขามีอะไรกับนักเรียน  สิ่งที่ทำได้จึงแค่หลบหน้าและสายตาที่จ้องมองมา
    อาการแปลกๆของจุนซูวันนี้ทำเอายูชอนหงุดหงิดไม่น้อย เขารู้สึกว่าจุนซูหลบหน้าเขา และเมื่อตอนที่จุนซูเดินลงมาจากบันไดคนเดียวด้วยความทุลักทุเล เขาและชางมินที่เห็นก็รีบเข้าไปพยุง แต่สิ่งที่ได้รับกับเป็น
    จุนซูสะบัดตัวหลบมือหนาของยูชอนที่จับแขน และไปกอดแขนของชางมินแทน
    มะ ไม่ต้อง ชางมินคนเดียวก็พอ   ครูน้อยไม่หันมามองหน้าคนที่ตัวเองปฏิเสธสักนิด เพราะหากมองเขาคงเห็นสายตาเจ็บปวดที่แว๊บเข้ามา แต่ตอนนี้มันกำลังแทนที่ด้วยความโกรธ ยูชอนกระชากแขนเล็กออกจากเพื่อนรัก จนชางมินต้องโอบเอวเล็กของจุนซูไว้เพื่อพยุงไม่ให้ล้มและมองหน้าคนทั้งสองด้วยความสงสัย
    ยูชอนปลายตามองมือเพื่อนอย่างหงุดหงิดและไม่อาจปกปิดความไม่ชอบใจไว้ได้ 
    รังเกียจอะไรผมนักหนาคุณครู ทีวันนั้น........ ยังไม่ทันจะพูดอะไรออกไป มือเล็กขาวนุ่มก็ถูกยกขึ้นมาปิดริมฝีปากอิ่มซะก่อน
    เอ่อ ชางมินไปก่อนไป ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับเพื่อนนายสักหน่อย 
    แต่จุนจัง... ด้วยความเป็นห่วง แม้มือจะปล่อยออกจากเอวเล็กแล้ว ชางมินจึงไม่ยอมไปไหน
    ไปเถอะ ฉันดูแลตัวเองได้ จุนซูตอบด้วยเสียงเครียด จนชางมินไม่อาจทัดทานได้ เขายอมเดินเข้าห้องเรียนไปก่อน จุนซูยังคงปิดปากอิ่มไว้ไม่ปล่อยก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของร่างโปร่ง
    ไปห้องเก็บของข้างล่าง เรามีเรื่องต้องคุยกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×