คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (SF) My name is love ♥ ♡ (1)
My name is love ♥ ♡
Q:What your name?
Kris: My name is Kris
Lay: My name is Lay
Hello ,My name is Love
Nice to meet you=)
สนามบิน แวนคูเวอร์
ประเทศแคนาดา
18:30 น.
ท้องฟ้ายามเย็นของเมืองขึ้นชื่อว่าทั้งกว้างใหญ่และสวยงามที่ดึงดูดผู้คนให้มาสำรวจเป็นจำนวนมาก ระบายสีส้มอ่อนๆพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าไปอีกไม่นาน แต่ความวุ่นวายในสนามบินแห่งนี้ยังไม่ลาลับไปพร้อมกับดวงอาทิตย์ ฝูงชนมากมายต่างเดินขวักไขว่ไปมาโดยไม่สนใจคนรอบข้างเพราะทุกคนต่างรีบเร่งเพื่อจะถึงจุดหมายปลายทางของตัวเองเหมือนกัน
แต่อย่าง’คริส’ ผู้ชายหน้าตาดี หุ่นนายแบบด้วยส่วนสูงประมาณ187กว่าๆ กลับไม่ยี่หระต่อสิ่งนั้น เขายืนพิงที่เสาโดยตาเรียวคมที่ถูกป้องกันด้วยแว่นกันแดดสีชากำลังจดจ่ออยู่ที่สมาทร์โฟนรุ่นใหม่ล่าสุดแบบไม่วางมือ มือเรียวค่อยๆล้วงหูฟังออกมาแล้วเสียบเข้ากับโทรศัพท์พร้อมกดฟังเพลงไปโดยไม่สนใจความวุ่นวายเหล่านี้
ใช่ คริสเป็นคนโลกส่วนตัวสูง และเขาไม่ชอบยุ่งกับโลกภายนอกมากนัก…………
แต่ที่เขามายืนอยู่ที่นี่ก็เพราะโดนแม่บังคับให้มารอรับนักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีนทีพ่อแม่ของเขาอาสาเป็นโฮสต์แฟมิลี่ให้
และก็คงไม่อีกกี่นาทีเครื่องบินก็คงมาถึง
ในมือของคริสตอนนี้มีรูปภาพของผู้ชายตัวขาวร่างเล็กที่ยืนยิ้มอยู่ในรูป ทำให้แก้มสีแดงระเรื่อข้างขวาเกิดรอยบุ๋มลงไปเล็กน้อย ผมสีน้ำตาลทองอ่อนๆขับใบหน้าให้คนตัวเล็กที่ขาวแล้วยิ่งขาวกว่าเดิม
“จาง อี้ ชิง อายุ 19 ปี นักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศจีน ” เขาพึมพำอ่านตัวหนังสือที่เขียนลงบนรูปเบาๆ หลังจากนั้นก็เก็บรูปนั้นไว้ในกระเป๋า
ผ่านไป10นาที
หลังจากที่คริสยืนมานานขาก็เริ่มล้า ตาของเขาสาดส่องหาม้าที่นั่งที่ตอนนี้ส่วนมากจะเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่นั่งเบียดเสียดเต็มไปหมด ไม่เอาหรอก ถ้าจะให้ไปนั่งแบบนั้นเขาคงอึดอัดแย่
“เมื่อไหร่นายจะมาซักทีนะนี้ก็เลยเวลานัดมาเกือบ10นาทีแล้วนะ” คริสเอ่ยพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ กับความเบื่อหน่ายจากการรอ เขาเดินไปมาแก้เซ็งไปพลางๆ แต่ยังเดินไปไม่ทันไรก็มีเสียงเหมือนใครซักคนกำลังวิ่งมาข้างหลังแล้วตะโกนโหวกเหวกโวยวายมาแต่ไกล
ตุ้บ
ฟึ่บ
แผละ
!!!!!!!!!!
ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งไปราวพักใหญ่
สิ่งเย็นๆที่มนุษย์เรียกว่า ไอศกรีม แตะเข้ากับแผ่นหลังอย่างจัง ไอเย็นๆของมันแผ่ซ่านไปทั่วอนูบริเวณทั่วทั้งร่างกาย ไม่รอช้า ตาเรียวคมก็หันกลับไปมองคนข้างหลังที่เป็นตัวการทำให้ไอศกรีมเลอะเต็มแผ่นหลังของเขาเมื่อกี้อย่างขุ่นมัว
“แฮกๆ ขะ ขอโทษครับ” สำเนียงอังกฤษแปล่งๆของผู้ชายตัวเล็กกว่าเขาประมาณ10เซนติเมตร สะพายกระเป๋าMCMสีส้ม กำลังก้มหน้างุดไปกับพื้น ทำให้ใบหน้าขาวเรียวสวยโดนปิดบังไปเล็กน้อย มือข้างขวาถือไอศกรีมที่เหลือเพียงโคนเปล่าๆไว้ และมือข้างซ้ายกำพาสปอร์ตไว้จนแน่น
คริสจ้องเขม็งไปยังคนตัวเล็กข้างหน้า ที่ไม่กล้าสบตาเขา
รู้สึกคุ้นๆ
เหมือนเคยเห็น
“เงยหน้าขึ้นมาสิ” เสียงเย็นๆของคริสทำให้คนตัวเล็กที่กลัวแล้วยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่
ร่างเล็กเม้มริมฝีปากเบาๆพร้อมกับเงยใบหน้าเรียวสวยนั้นขึ้นมาช้าๆ ตาสุกใสราวกับกวางน้อยๆแลดูสั่นไหวไปถนัดตา เพราะเขากลัวคนตรงหน้าอย่างสุดใจ
“คะ คือ ผม ขอโทษครับเดี๋ยวเช็ดให้นะ” คนตัวเล็กหยิบพาเช็ดหน้าลายกระต่ายสีชมพูออกมาจากกระเป๋าแล้วค่อยๆบรรจงเช็ดที่เสื้อของร่างสูงอย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้อง” คริสปัดผ้าเช็ดหน้าออกอย่างไม่ไยดีทำให้มันหล่นลงไปกับพื้น ร่างเล็กดูอึ้งๆเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้ต่อว่าอะไรร่างสูงนัก ก็เขาผิดเองแหละที่ดันวิ่งมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือแล้วทำให้ไอศกรีมเลอะไปโดนร่างสูง
“ไหนยิ้มสิ ” ร่างสูงเอ่ยเบาๆกับร่างเล็กตรงหน้า
“หื้มม?” คิ้วของคนตัวเล็กที่ผูกเป็นปมกำลังงงกับสิ่งที่ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้พูดออกมา
“ก็บอกให้ยิ้มไง”
“หะหา ยิ้มเหรอ” ร่างเล็กที่ยังงงอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยิ้มให้ผู้ชายตรงหน้าอย่างว่าง่ายเพราะกลัวสายยตาอำมหิตที่เจ้าตัวส่งมาให้ ทำให้แก้มข้างขวาเกิดเป็นรอยบุ๋มเล็กๆ ที่เรียกว่า ลักยิ้ม
ชัดเจนเปลี่ยน
“จาง อี้ ชิง อายุ19 ปี นักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศจีน โฮสต์ของนาย คือ คุณนาย ฟางซินที่ มีบ้านอยู่แวนคูเวอร์”
คริสอธิบายยาวเหยียดจนทำให้อี้ชิงอ้าปากค้าง
“ส่วนฉัน อู๋ ฟาน ลูกชายคนเดียวของคุณนายฟางซินที่โดนท่านบังคับให้มารับนาย และนายก็เลตไป10ที แถมยังวิ่งมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือทำให้ไอศกรีมโง่ๆเลอะเต็มเสื้อฉัน. มีอะไรจะอธิบายมั้ย อี้ชิง” พูดแล้วยักคิ้วเบาๆ
“ก็ ก็ ก็ มันหลงทางแล้วก็…..เฮ้ยเดี๋ยวสิ อย่าลากฉันไป” ยังไม่ทันที่อี้ชิงจะพูดจบร่างสูงๆของคริสก็ลากร่างเล็กๆให้เดินตามเขาไป
แล้วไหนบอกว่าจะให้อธิบายไง
“เอากระเป๋ามา”
“อะไร”
“กระเป๋าเดินทางนายอยู่ไหน”
“กระเป๋าๆ เอ๋ กระเป๋าอยู่ไหนเนี่ย” อี้ชิงหันไปมองทั้งสิบทิศรอบกายเขาแล้วแต่ก็ยังไม่เจอกระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น
“อยู่ไหน” เสียงเย็นๆของคริสส่งผ่านมายังอี้ชิงจนทำให้ขนลุกไปทั้งตัว
“เอ่อ คือแบบ ลืมไว้ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้!! แหะๆ”
---------------------------------------30%----------------------------------------------
“นายนี่มันมีปัญหาตั้งแต่วันแรกจริงๆเลยนะ.ให้ตาย” คริสส่ายหน้าแบบเอือมๆ แล้วจ้องเขม็งไปยังอี้ชิงที่ยิ้มแห้งๆส่งมาให้เขา
“ก็ ก็ มันแบบ รีบไง คือกลัวว่าจะมาไม่ทัน ก็เลยเอาไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ง่ะ เดี๋ยวลองไปหาที่แถวๆม้านั่งตรงนู้นก็ได้” ร่างเล็กละลำละลักเอ่ยพร้อมกลับหันหลังแล้วเดินกลับไปยังม้านั่งตัวแถวเคาน์เตอร์
หมับ
“เดี๋ยว”
มือเรียวใหญ่รั้งข้อมือเล็กไว้ทำให้เท้าของร่างเล็กหยุดชะงักไปชั่วคราว
“ใครใช้ให้นายไปคนเดียว เดี๋ยวก็หลงทางอีกหรอก” ร่างสูงว่าพลางเดินนำหน้าร่างเล็กไปยังม้านั่งที่ว่า
.”เดินมาสิ”
เมื่อเห็นว่าร่างเล็กยังคนยืนอยู่ที่เดิม คริสจึงหันมาเร่งให้เดินตาม
“อืมๆ” ตอบรับพลางเดินตามหลังร่างสูงที่เดินนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอ่ะ;_________;” เมื่อไปถึงที่หมายกระเป๋าของอี้ชิงกลับไม่อยู่ ทำให้ร่างเล็กแทบทรุดไปกับพื้นของสนามบิน ก็ของเครื่องใช้ส่วนตัวของเขาอยู่ในนั้นหมดเลยอ่ะสิ ทั้งเสื้อผ้า และอุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นT_T
“เฮ้ออ ช่วยไม่ได้ ไปบอกประชาสัมพันธ์แล้วกันเผื่อเค้าจะหาเจอ” ร่างสูงที่จ้อองมองร่างเล็กที่เหมือนหมดอาลัยตายยากอยู่นานก็ตัดสินใจพูดออกมา
“แล้วถ้า……….. หาไม่เจอล่ะ” อี้ชิงพูดพร้อมเบ้ปากน้อยๆ ทำให้คริสแอบขำโดยไม่รู้ตัว
“ก็ ใส่ตัวเดิมไปตลอดนั้นแหละ” ยิ่งคริสพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้คนตรงหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปจริงๆ
“ฮรือออออออออ ไม่เอา” อี้ชิงโวยวายเบาๆทำให้คนหันมามองเล็กน้อย
“ เฮ้ออ นี้ฉันมารับนักเรียนแลกเปลี่ยนอายุ19ปีนะ ไม่ใช่มารับเด็กอายุ3ขวบที่สนามบิน
-*-”
“ทำไงดีอ่ะ ทำไงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ร่างเล็กเดินไปเดินมาๆรอบม้านั่งแถวเคาน์เตอร์ ทำให้คริสเริ่มเวียนหัว
“หยุดซักที ไปกลับบ้าน แม่กับพ่อฉันคงรอนายแย่แล้วล่ะ”
“แล้วเรื่องกระเป๋าเสื้อผ้า?” อี้ชิงหยุดเดินแล้วหันมาให้ความสนใจคนตรงหน้า
“ไปบอกประชาสัมพันธ์ไว้ก่อน ถ้ายังไงหาไม่เจอก็ค่อยไปซื้อใหม่เอา”
“แล้วถ้า…….”
“หุบปากแล้วเดินตามฉันมา” ยังไม่ทันที่ร่างเล็กพูดจบก็โดยขัดโดยร่างสูงที่ทำหน้ารำคาญส่งมาให้เขา
ใจร้ายจริงT__________________________________T
เมื่อไปบอกประชาสัมพันธ์เรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็เดินไปยังลานจอดรถ แต่ด้วยความที่สนามบินแห่งนี้ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ ทำให้ขาเล็กๆของอี้ชิงเดินตามแทบจะไม่ทันกับขายาวๆอู๋ฟาน
=_=
“นี้ รอ ด้วยสิ” ร่างเล็กพยายามเบียดผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมาด้วยความทุลักทุเลเพื่อที่จะเดินตามร่างสูงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ช้าจริง นายเนี่ย” คริสหยุดเดินแล้วรอให้ร่างเล็กเดินตามทันตัวเอง
“แฮกๆ เดี๋ยวสิ เหนื่อยไปหมดแล้ว” เสียงเหนื่อยหอบของร่างเล็กทำให้คริสหงุดหงิดเล็กน้อย แม่นะแม่ทำไมต้องให้เขามารับตัวเจ้าปัญหาคนนี้ด้วยนะ
หมับ
มือของร่างสูงจับข้อมือร่างเล็ก ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อย
“ดะ เดี๋ยวสิ จะทำอะไร”
ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแต่รีบพาร่างเล็กออกจากสนามบินโดยไม่ฟังคำทักท้วงของคนโดนจับมือเลย
ลานจอดรถ
“แฮกๆ โอ้ยเหนื่อยๆ”
“รีบขึ้นรถซะ ฉันจะได้กลับบ้านไปนอนซักที มารับนายเนี่ยโครตเหนื่อยเลย”
“ก็ปล่อยมือสิ” ร่างเล็กหันไปมองมือที่ร่างสูงยังคงจับไว้แน่นทำให้ร่างสูงถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยแล้วปล่อยมือออก
."เชอะ คิดว่าฉันอยากจับมือนายหรือไง " คริสพูดพลางหันหน้าไปอีกทางอย่างอายๆ
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิ" อี้ชิงหัวเราะน้อยๆ พลางขึ้นรถไปด้วยท่าทางร่าเริง
ผ่านไปไม่ถึง15นาที รถที่คริสขับก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
อี้ชิงลงจากรถแล้วมองสำรวจไปรอบบ้านอย่างสนอกสนใจ บ้านนี้เป็นบ้านสองชั้นที่ดูเรียบๆแต่หรูสุดๆ รอบบ้านมีต้นไม้และดอกไม้เต็มไปหมดทำให้บรรยากาศร่มรื่นย์และน่าอยู่เหมือนที่อี้ชิงเคยเห็นในรูปที่โฮสต์ส่งมาตั้งแต่อยู่ที่จีน
“มองอะไร เข้าบ้านสิ” ไม่ทันไรเสียงจากร่างสูงที่โผล่มาข้างๆทำให้อี้ชิงละความสนใจแล้วเดินเข้าไปในบ้านตามร่างสูงไป
“พ่อครับ แม่ครับ กลับมาแล้วครับ”
“อ้าวกลับมาแล้วเหรอ” ฟางซิน แม่ของคริสที่อายุราวๆ40ปี แต่หน้าตายังดูอ่อนกว่าวัยพอสมควร เอ๋ยทักลูกชายเบาๆ
“ฮ้า อี้ชิง มาแล้วเหรอลูก มาๆมากอดหน่อย” แต่เมื่อเธอเห็นบุคคลที่สองที่เดินตามหลังคริสมาก็รีบโผเข้ากอดทันที
“สวัสดีครับ” ร่างเล็กโค้งให้หญิงสูงอายุตรงหน้า
ที่จริงแล้วอี้ชิงสนิทกับคุณนายฟางซินพอสมควรเพราะตอนอยู่ที่จีนเขาเคยเข้าร่วมโครงการของคุณนายฟางซินที่มาร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนของเขา และก็บังเอิญสุดๆที่ทำให้เขากับคุณนายฟางซินได้เป็นโฮสต์เฟมิลี่กัน
“ผมคิดถึงคุณน้ามากเลยครับ” อี้ชิงส่งยิ้มให้น้อยๆ ทำให้เธอยิ้มตอบแล้วลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ
“ไม่ต้องเรียกว่าคุณน้าก็ได้ เรียกว่าแม่แล้วกันเนอะ อ่อ แล้วกินอะไรหรือยังเนี่ย คงหิวสินะ แม่จัดอาหารไว้แล้วไปกินกันเถอะ”
“แล้วพ่อล่ะครับแม่” คริสเอ่ยถามผู้เป็นแม่เบาๆ ที่กำลังเห่อลูกคนใหม่อย่างอี้ชิง
“อ๋อ วันนี้พ่อเขาติดประชุม ก็เลยให้พวกเรากินข้าวกันไปก่อน ไปๆอี้ชิงไปกินข้าวกับแม่”
“ครับ” ร่างเล็กตอบรับเบาๆพร้อมเดินตามไปอย่างนอบน้อม
สถานะคริส: กลายเป็นหมาหัวเน่า
55555555555555555555555
ณ โต๊ะอาหาร
“อี้ชิง กินอันนี้สิลูก อร่อยนะ” แม่พูดพร้อมตักกับข้าวใส่จานให้คนตัวเล็ก
“ขอบคุณครับ”
“อ่อ แม่ครับ ผมลืมบอกไปว่า กระเป๋าเสื้อผ้าของลูกรักแม่หายไปไหนก็ไม่รู้ครับ” คริสพูดพลางส่งสายตาไปหาคนตัวเล็กที่กำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
“ตายแล้ว ลูก ทำไมไม่บอกแม่ห๊ะ อี้ชิง เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้คริสพาไปซื้อแล้วกัน ส่วนคืนนี้ใส่เสื้อของคริสไปก่อนแล้วกัน” ฟางซินพูดพลางหันหน้าไปหาคริส
“เห้ย เดี๋ยวดิแม่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย ทำไมต้องให้ใส่เสื้อผมล่ะ” คริสโวยวาย
“อย่าโวยวายไปน่าลูก ตัวเดียวเท่านั้นแหละ”
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้”
“อี้ชิง เดี๋ยวกินข้าวเสร็จอาบน้ำนะลูก แล้วเดี๋ยวแม่เอาเสื้อคริสให้ใส่” สุดท้ายคำทักท้วงของคริสก็มีผลเป็น0%
“เฮ้อ แม่นะแม่ ผมไปนอนแล้ว” คริสพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยแล้วเดินไปเข้าห้อง
“จะดีเหรอครับแม่ แล้วคริสจะไม่โกรธเหรอ” หลังจากคริสเดินเข้าห้องไป อี้ชิงก็เอ่ยออกมาเบาๆกับแม่
“อย่าไปสนใจ เขาเลยลูก คริสก็เป็นแบบนั้นแหละ คึคึ” แม่หัวเราะเบาๆ พลางกินข้าวต่ออย่างเอร็ดอร่อย
----------------------------------------------------------------------------
To be continue
มั้งนะ
555555555555 โอเคๆ มาลงให้แล้วนะแง้
ช่วงนี้งานไรต์เยอะ ไรต์สอบอาทิตย์หน้า
ไว้จะมาอัพต่อๆแล้วกันTwT
by โคอา่ล่าทะเยินฟ้าสู่ยูคาลิปตัส(?)
ความคิดเห็น